Home / รักโบราณ / สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก / ตอนที่ 8 ความโกรธเคืองที่มิเคยจางหาย

Share

ตอนที่ 8 ความโกรธเคืองที่มิเคยจางหาย

Author: Jiulin
last update Last Updated: 2025-01-30 15:45:36

มู่อิงเถาเข้าครัวทำอาหารง่ายๆ มาสองสามอย่างเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยนางจึงเดินเข้าไปในห้องนอนตั้งใจจะไปดูอาการของเด็กชายอีกสักเล็กน้อย

แต่เมื่อเดินไปถึงหน้าห้องแล้วประตูที่ถูกแง้มออกมาเพียงเล็กน้อยมองเห็นคนด้านในที่กำลังลงมือเช็ดเนื้อตัวให้เด็กชายอย่างเบามือ

ทุกท่วงท่าของเขาช่างดูอ่อนโยนยิ่งนัก นางไม่อยากรบกวนทั้งคู่ตั้งใจจะเดินกลับไปในครัวแต่แล้วเสียงของซ่งอวี่ถงก็ดังแว่วออกมาจากในห้อง

“เจ้าไม่เข้ามาล่ะ” มู่อิงเถาหันกลับไปมองเขาด้วยความรวดเร็ว ยังคงงุนงงไม่น้อยที่คนผู้นั้นรู้ได้อย่างไรว่านางมายืนอยู่ตรงนี้หรือว่าเพราะว่านางเดินเสียงดังจนทำให้อีกฝ่ายรู้ตัวกระนั้นหรือ

‘คงต้องรีบลดน้ำหนักเสียแล้ว’

หญิงสาวค่อยๆ แง้มประตูเปิดออกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนที่มีร่างสูงนั่งอยู่ข้างเตียงยังคงจ้องมองหลานชายของเขาไม่วางตา

“ดูเหมือนหงเอ๋อจะไม่ทรมานมากเท่าใดแล้วนะเจ้าคะ”

“ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น อีกสองวันข้าจะเข้าเมืองไปสำนักบัณฑิตขอลาหยุดสักเจ็ดวันเพื่ออยู่เป็นเพื่อนพวกเจ้า”

“ไม่ต้องหรอกเจ้าคะพวกข้าอยู่ได้”

“แต่หงเอ๋อบาดเจ็บเพียงนี้หากว่าบ้านนั้นมาระรานพวกเจ้าอีกจะทำอย่างไร ไม่ได้หรอกข้าไม่ไว้ใจ”

“ทำมาก็ทำกลับสิ”

แม้ซ่งอวี่ถงจะเห็นวีรกรรมของนางมาแล้วแต่เขาก็ยังไม่วางใจอยู่ดีจะทิ้งพวกนางไว้ที่นี่เพียงลำพังได้อย่างไร แต่ก่อนก็ยังมีพี่รองและพี่สะใภ้รองอยู่ด้วยแต่วันนี้เหลือเพียงเขาคนเดียวแล้วที่เป็นที่พึ่งสำหรับนางและหลานชายคนนี้

“ข้าอยู่ได้น่า” มู่อิงเถายังคงยืนยันคำเดิมแต่ซ่งอวี่ถงก็เอาแต่ส่ายหน้าให้นาง

“หลังกลับจากสำนักบัณฑิตข้าจะลองไปหาบ้านเช่าดูด้วย”

“บ้านเช่า? ในเมืองเป่ยเย่นั่นน่ะหรือเจ้าคะ”

“ใช่แล้ว ข้าตั้งใจจะให้พวกเจ้าไปอยู่ที่นั่นด้วยจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลอีก”

“ไม่เอาน่าท่านพี่จะไปเช่าให้เปลืองเงินทำไมกันเล่า ข้าดูแลหงเอ๋อได้หากว่าพวกนั้นมาระรานพวกข้าอีกข้าจะ…เอ่อจะ” 

‘จะอะไรดีล่ะ’

“จะอะไรงั้นหรือ แม้ข้าจะเห็นว่าเจ้าปกป้องตัวเองได้แต่อีกไม่นานถึงอย่างไรแล้วพวกเราทั้งหมดก็ต้องย้ายเข้าเมืองกันอยู่ดีหาใช่จะอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่”

‘ไม่เอานะชะตาของข้าใกล้ขาดแล้วหรือ’

“เงินในบ้านของเราก็มีเพียงน้อยนิดไม่ใช่หรือหากท่านนำไปเช่าบ้านอีกแล้วพวกเราจะกินจะอยู่อย่างไรต่อไปกันเล่า”

“ไว้ข้าจะจัดการเอง”

“จัดการเอง? ท่านจะจัดการอย่างไรล่ะเจ้าคะ” มู่อิงเถาเริ่มคิดหนักขึ้นทุกที อยู่ๆ ก็รับรู้ได้ว่าสายตาเย็นเยือกนั้นกำลังจับจ้องมองนางอยู่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบเข้ากับดวงตาคมกริบของบุรุษตรงหน้า เขามองนางก่อนจะพูดขึ้นว่า

“ดูเหมือนว่าเจ้าไม่อยากไปจากที่นี่”

“คือว่าข้า”

ซ่งอวี่ถงจ้องมองนางอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันกลับไปจ้องมองหลานชายของเขาอีกครั้งแล้วนิ่งเงียบไป ไม่รู้เลยว่าในใจของเขากำลังคิดการสิ่งใดอยู่กันแน่

‘จะเพราะเหตุใดกันนะที่ทำให้เขากลายเป็นคนร้ายกาจไปได้แล้วนางควรที่จะทำอย่างไรต่อไปเพื่อให้ชีวิตของนางอยู่รอดไปจนกว่าจะได้กลับบ้านกัน’

“พรุ่งนี้ข้าจะขึ้นเขาอีกครั้งฝากเจ้าดูแลเขาด้วย”

“ขึ้นเขา?”

“อืม ไปหาของป่ามาขายเพิ่มอีกสักหน่อยน่ะข้าต้องเก็บเงินเอาไว้มากๆ จะได้พาพวกเจ้าไปอยู่ด้วยกันให้เร็วที่สุด”

ไม่รอให้นางได้ถามสิ่งใดอีกเขาก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหยิบเอาท่อนฟืนที่ตัดไว้มาก่อกองไฟความร้อนจากเปลวไฟทำให้นางเริ่มรู้สึกอบอุ่นขึ้น

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นไปจ้องมองคนตรงหน้าในชั่วเวลาสั้นๆ เสี้ยวหน้าคมคายของชายหนุ่มฉายแววดุดันออกมาแต่แล้วก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเขารับรู้ได้ว่านางกำลังจ้องมองเขาอยู่

“คือว่าข้าง่วงแล้วท่านนอนเป็นเพื่อนหงเอ๋อแล้วกันนะเจ้าคะ”

“อืม”

มู่อิงเถารีบลุกขึ้นก่อนจะเดินไปนอนบนเตียงอีกฝั่งหนึ่งนางหันไปจ้องมองซ่งอวี่ถงอีกครั้งก็เห็นว่าเขาได้ทิ้งกายลงนอนด้านข้างของเด็กชายแล้ว เขาใช้แขนแกร่งก่ายหน้าผากของตนเองดวงตาคู่คมก็ปิดลงความเงียบงันนั้นทำให้นางคิดว่าเขาคงจะหลับไปแล้ว

มู่อิงเถาหันหลังให้คนทั้งคู่ก่อนจะค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงเพราะความเหนื่อยล้าทำให้นางเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

เพียงไม่นานซ่งอวี่ถงก็ลืมตาตื่นขึ้นก่อนจะค่อยๆ ก้าวลงจากเตียงแล้วเดินย่องไปที่เตียงของนางด้วยย่างก้าวที่เบาที่สุด

เขายืนจ้องมองใบหน้าของมู่อิงเถาด้วยแววตาที่แปลกไปจากเดิมความรู้สึกบางอย่างยังคงหลงเหลืออยู่ภายในใจ 'เหตุใดต้องเป็นนาง!'

มู่อิงเถาครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ๆ นางก็รู้สึกหายใจไม่ออกเหมือนมีใครบางคนกำลังบีบคอของนางอย่างไรอย่างนั้น แต่แล้วความรู้สึกที่เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจก็เบาบางลงใบหน้าที่กำลังขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวดนั้นก็คลายลงเรื่อยๆ รู้สึกถึงความอบอุ่นเคลื่อนขึ้นมาจนถึงลำคอ

นางพยายามปรือตาขึ้นมากลับพบเพียงภาพที่เลือนลางเห็นเป็นเพียงร่างสูงของชายหนุ่มที่เดินกลับไปยังเตียงอีกฝั่งแล้ว

‘เมื่อครู่มันอะไรกันความรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจตายนั้นน่ะ อย่าบอกนะว่า!...’

มู่อิงเถาพยายามข่มตาลงแต่ก็ไม่สามารถสลัดความคิดบ้าๆ นั่นออกไปจากหัวของนางได้

‘ลิงฮุย เจ้าอยู่หรือไม่’

มู่อิงเถาพยายามเรียกหลิงฮุยเจ้าของมิติวิเศษเพื่อสอบถามสิ่งที่เกิดขึ้นกับนางในเวลานี้แต่ก็ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเงียบไป

‘นอนหลับอย่างนั้นหรือเจ้าบ้าลิงฮุยเอ้ย! เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้กลับพึ่งพาอะไรไม่ได้เอาเสียเลย ให้ตายสิแล้วข้าจะหลับตาลงไปได้อย่างไรกันนะ’

-เช้าวันต่อมา- 

“อะ อาสะใภ้เหตุใดขอบตาของท่านถึงได้…”

“อะไรหรือ”

“ไม่มีอะไรหรอกขอรับข้าคงตาไม่ดีเอง”

มู่อิงเถาไม่สนใจเขานางหันไปมองซ่งอวี่ถงที่กำลังเก็บของลงตะกร้าก่อนที่เขาจะก้มหน้าก้มตามัดเชือกกับซี่ไม้หลายชิ้นเพื่อทำบางสิ่งบางอย่างๆ ขะมักเขม้น เมื่อรู้สึกถูกจ้องมองเขาก็เงยหน้าขึ้นมาทันใดจนอีกฝ่ายถึงกลับสะดุ้งตกใจอย่างไม่ทันตั้งตัว

“อะ เอ่อ ท่านทำอะไรอยู่งั้นหรือ”

“ทำลอบดักปลา”

“ท่านทำเป็นหรือ”

“ข้าเป็นลูกชาวนานะเครื่องมือพวกนี้ล้วนทำเป็นตั้งแต่เด็กแล้ว”

“น่าทึ่งเสียจริง”

มู่อิงเถาทำใจกล้าเดินเข้าไปนั่งข้างๆ เขาก่อนจะจ้องมองลอบดักปลาที่ซ่งอวี่ถงทำขึ้นมาจากไม้ไผ่ ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ยินของสิ่งนี้เพราะชาติที่แล้วของนางๆ เองก็เคยได้ยินมาบ้างแต่นั่นก็เป็นวิถีชีวิตของคนชนบทไม่ใช่ในเมืองหลวงปักกิ่งที่นางอาศัยอยู่ แน่นอนว่านางย่อมไม่เคยเห็นของจริงมาก่อนนั่นเอง

“ท่านพ่อของข้าเคยสอนให้ใช้นกจับปลา”

“นกจับปลา?”

“ใช่ แต่ว่าพักนี้จับนกว่ายากกว่าจับปลาเสียแล้ว”

“ฮ่าๆๆ จริงหรือนี่”

“เสร็จแล้วล่ะเจ้ารอข้าอยู่ที่บ้านกับหงเอ๋อ ข้าจะขึ้นเขาเสียหน่อยไปไม่นานหรอกเดี๋ยวก็กลับแล้ว”

“ข้าไปด้วย”

“ไม่ได้! แล้วใครจะดูแลหงเอ๋อกันเล่า”

เวลานี้หงเอ๋อก็เจ็บป่วยอยู่หากนางเป็นอะไรขึ้นมาอีกคนมีหวังเขาคงต้องหยุดพักการเรียนต่อไปอีกหลายวันเป็นแน่

“ท่าอาสามข้าอยู่ได้ขอรับท่านปิดประตูให้แน่นหนาก็พอแล้ว น่าแปลกที่วันนี้ข้ากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่าเมื่อวานนี้แล้ว”

“จริงหรือ”

“ใช่ขอรับ”

“หรือจะเป็นเพราะยาที่อาสะใภ้ประคบให้ข้าก็เป็นได้ไหนจะยาที่ท่านอาซื้อมาให้ข้าอีก ดังนั้นข้าอยู่ได้พวกท่านรีบไปเถอะข้าไม่อยากให้ท่านอาขึ้นเขาเพียงลำพังมีอาสะใภ้อยู่ด้วยข้าก็อุ่นใจแล้ว”

ซ่งหงอี้ยิ้มให้เขาเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็คลายใจลงไปอย่างมาก

“ข้าจะรีบไปรีบกลับ”

“ขอรับ”

“ไปกันเถอะ”

“เจ้าค่ะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก   ตอนที่ 48 ชีวิตที่สงบสุข

    เพราะที่ผ่านเซี่ยอิงอิงต้องไปเรียนปักผ้าตามที่มารดาเลี้ยงของนางต้องการจึงไม่มีเวลามาพบปะสนทนากับมู่อิงเถานั่นเอง วันนี้ทั้งวันนางจึงมาอยู่เฝ้าพูดคุยกับมู่อิงเถาจนเวลาล่วงเลยไปถึงยามเย็น เมื่อถึงเวลากลับบ้านดูสาวน้อยผู้นั้นจะอาลัยอาวรณ์นางอยู่ไม่น้อยมู่อิงเถาออกมาส่งนางที่หน้าประตูจวนทั้งยังโบกมือลาให้เด็กสาวเมื่อรถม้าของนางพ้นจากระยะสายตาแล้วก็ได้ยินเสียงของเด็กหนุ่มผู้หนึ่งพูดขึ้นมาว่า“นั่นแม่นางเซี่ยนี่นา นางมาทำไมหรือขอรับอาสะใภ้”“หืม หงเอ๋อเจ้าเองหรอกหรือหายไปไหนมาข้าไม่เจอเจ้าเลยตั้งแต่ที่เข้าเมืองหลวง”“ข้าไปฝึกเรียนวรยุทธ์มาน่ะขอรับอาสะใภ้ ไม่ใช่สิพระชายา”“เรียกข้าว่าอาสะใภ้แบบเดิมน่ะดีแล้ว”“ไม่ได้หรอกขอรับตอนนี้ท่านเป็นถึงพระชายาแล้วจะให้เรียกแบบเดิมได้อย่างไรกัน”“ตามใจเจ้าเถอะ แล้ววันนี้ไม่มีเรียนงั้นหรือ”“ท่านอาจารย์ให้ข้าหยุดได้สิบวันขอรับ ข้าจึงรีบเดินทางมาหาพวกท่าน”“ดีเลยเช่นนั้นช่วงเวลาสิบวันนี้ก็ทำตัวให้ว่างล่ะพวกเราจะไปเที่ยวกัน”“เที่ยว?”“อืม”“ไปไหนขอรับ”หมู่บ้านต้าไห่ เมืองเป่ยเย่-บ้านตระกูลซ่ง-“ท่านแม่ท่านรู้มานานแล้วเช่นนั้นหรือ ที่ท่านไม่อยากให้ข้าไป

  • สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก   ตอนที่ 47 พานพบอีกครั้ง

    -เจ็ดวันผ่านไป-เมื่องานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของพระชายารัชทายาทและองค์ชายน้อยมาถึงในวังหลวงก็ดูจะครึกครื้นกันยิ่งนักบรรดาเหล่าขุนนางและฮูหยินของพวกเขาต่างก็ทยอยเดินเข้ามาในงานกันเรื่อยๆขณะที่มู่อิงเถาเดินอยู่เคียงข้างกับเยี่ยอ๋องอยู่นั้นก็ได้ยินขุนนางที่ยืนจับกลุ่มกันกำลังซุบซิบนินทานางอยู่แม้จะพูดคุยกันด้วยเสียงอันเบาแต่กับคนที่มีวรยุทธ์แล้วนั้นย่อมได้ยินชัดทุกถ้อยคำ“ท่านอ๋องผู้นี้ช่างเก่งกาจและมีบุญบารมีมากเหลือเกินแต่น่าเสียดายที่ชายาของเขานั้นกลับเป็นหน้าเป็นตาให้เขาไม่ได้”“จริงดังที่ใต้เท้ากล่าวสตรีผู้นั้นเป็นเพียงคนธรรมดาไหนเลยจะส่งเสริมท่านอ๋องได้กัน”“บุตรสาวของใต้เท้าซู ‘ซูม่านอวี้’ ผู้นั้นท่านว่าเป็นอย่างไรนางพึ่งผ่านวัยปิ่นปักไปได้ไม่นานทั้งยังไม่มีคู่ครองอีกด้วยดูเหมือนว่า….”เยี่ยอ๋องที่หยุดเดินกะทันหันก็ทำให้มู่อิงเถางุนงงไปไม่น้อย“มีอะไรหรือเจ้าคะ”เยี่ยอ๋องไม่ตอบนาง เขาหันหลังกลับไปจ้องมองขุนนางกลุ่มนั้นก่อนจะชำเลืองมองไปด้วยแววตาที่น่ากลัวยิ่งนักทำเอาใจของคนที่พบเห็นใจสั่นไหวไม่น้อย“ใต้เท้าผู้นี้พูดถึงชายาของข้าอยู่กระนั้นหรือ”“อะ เอ่อกระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะท

  • สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก   ตอนที่ 46 ปรับความเข้าใจ

    มู่อิงเถาไม่มีอารมณ์เดินเที่ยวเล่นต่อแล้วนางเลือกที่จะกลับจวนก่อนจะเดินหนีเขาเพื่อกลับไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว“เจ้าเดินช้าๆ หน่อยสิเดี๋ยวก็หกล้มหรอก”“ข้าไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ”มู่อิงเถาไม่หยุดฟังเขาพูด นางเดินต่อไปด้วยย่างก้าวที่เร็วขึ้นเหมือนไม่ต้องการที่จะเดินอยู่เคียงข้างเขาอย่างไรอย่างนั้น จนซ่งอวี่ถงต้องเร่งฝีเท้าขึ้นไปประชิดจนถึงตัวของนางก่อนจะคว้าแขนเล็กนั้นเอาไว้มั่น“อิงเอ๋อข้าบอกว่าอย่าเดินเร็วอย่างไรเล่า เดี๋ยวก็หกล้มหรอก”“ท่านสนใจด้วยหรือ”“เป็นอะไร”มู่อิงเถาหลับตาลงก่อนจะพยายามสงบจิตใจที่ว้าวุ่นของนาง‘ใช่นางเป็นอะไรไป พักนี้ก็ยังไม่เข้าใจตนเองเท่าใดนักก็แค่สตรีคนนั้นคนเดียวนางจะคิดอะไรมากกัน’“ท่านมีอะไรจะพูดกับข้า”“เข้าไปข้างในกันเถอะ”“พูดตรงนี้ก็ได้”ซ่งอวี่ถงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้านางมืออีกข้างของเขาล้วงเข้าไปในแขนเสื้อหยิบบางอย่างออกมาก่อนจะจับไปมือของนาง มู่อิงเถาคิดอยากจะสะบัดออกแต่ซ่งอวี่ถงกับจับมือของนางเอาไว้แน่น“อยู่นิ่งๆ สิ”“ท่านจะทำอะไร”ซ่งอวี่ถงไม่ตอบเขาชำเลืองมองนางเล็กน้อยก่อนจะหยิบของสิ่งนั้นมาสวมที่นิ้วมือของนาง‘นี่มันแหวนที่ข้าไปจำน

  • สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก   ตอนที่ 45 แยกย้าย

    -ท้องพระโรง-มู่อิงหลันเคยเป็นหนึ่งในกุ้ยเหรินของฮ่องเต้มู่หรงฉีนางเคยร่วมมือกับเสียนเฟยมารดาขององค์ชายใหญ่ลอบทำร้ายอดีตฮองเฮา แต่ถูกเสียนเฟยโยนความผิดให้นางทั้งหมดจึงถูกขับไล่ออกจากวังหลวงนางจึงได้คิดการก่อเรื่องราวใหญ่โตจนนำมาสู่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เสียนเฟยที่ก่อนหน้านี้ถูกลดอำนาจกักขังเพียงในตำหนักของตนแต่เมื่อถูกเยี่ยอ๋องรื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาและปรากฎว่าเป็นนางที่เป็นคนบงการให้สังหารอดีตฮองเฮาจึงได้ถูกฮ่องเต้ตัดสินให้จองจำในตำหนักเย็นจากนั้นเป็นต้นมาซูเฟยพระมารดาของรุ่ยอ๋องเองก็มีความผิดฐานยุยงส่งเสริมและเคยมอบกองกำลังของสกุลซูแก่องค์ชายใหญ่นางจึงถูกเนรเทศให้ไปอยู่ที่เมืองเล่อซีแดนตะวันตกกับรุ่ยอ๋องโอรสของนางที่เดินทางไปก่อนหน้านี้แล้วนั่นเองฮ่องเต้น่าจะระแคะระคายเรื่องนี้มาบ้างแล้วถึงได้ส่งองค์ชายสามรุ่ยอ๋องไปก่อนแล้วจึงส่งซูเฟยให้ตามเขาไปทีหลัง นับว่าเขายังมีคุณธรรมมากพอไม่คิดสังหารลูกเมียไปจนหมดสิ้นเรื่องราวในราชวงศ์ซับซ้อนและน่ากลัวดังที่เยี่ยอ๋องหรือก็คือซ่งอวี่ถงเคยพูดเอาไว้นั่นเอง เขาจึงไม่มีความคิดอยากที่จะมาเหยียบที่แห่งนี้เลยสักเพียงนิดหากไม่ใช่เพราะอยากเรียกร้องที่มารด

  • สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก   ตอนที่ 44 ความกังวลใจ

    การเดินทางกลับเข้าเมืองหลวงนั้นใช้เวลาถึงสิบวันเต็มเมื่อครั้งที่นางหนีจากเมืองเป่ยเย่ไปยังเมืองฉางอันใช้วิธีล่องเรือไปนั่นก็ทรมานปวดมวนท้องไปตลอดเส้นทางแล้ว มาครั้งนี้การที่ต้องมานั่งอยู่บนรถม้าก็ยิ่งทำให้นางปวดระบมไปทั้งตัวจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว“อดทนหน่อยนะอีกไม่กี่ลี้ก็ถึงเมืองหลวงแล้ว”“ข้าทนได้”“ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วว่าอย่าเพิ่งกลับมาก็ไม่เชื่อเห็นหรือไม่ว่าตอนนี้ร่างกายของเจ้ายิ่งแย่เข้าไปใหญ่”“ที่ข้าปวดเนื้อปวดตัวนั่นไม่ใช่เพราะท่านหรอกหรือ”“พูดอะไร”เขาจ้องมองนางเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่นางพูดหรือเขาแค่คิดไม่ทันกันแน่ ชายหนุ่มได้แต่บีบๆ นวดๆ ให้นางเพื่อให้อาการปวดเกร็งนั้นผ่อนคลายลงแต่นั่นกลับยิ่งทำให้นางเจ็บปวดมากขึ้น“พอแล้วๆ น้ำหนักมือของท่านมากเกินไปมันทำให้ข้าเจ็บมากกว่าเดิมเสียอีก”“ข้าทำเบามือสุดๆ แล้วนะ”มู่อิงเถาหันขวับไปจ้องมองใบหน้าใสซื่อของคนด้านข้าง“เบากระนั้นหรือเมื่อคืนวานไม่ใช่ท่านเป็นคนบอกข้าเองหรอกหรือว่าจะทะนุถนอมข้า แต่เหตุไฉนถึงได้เอาแต่ใจตนเองเช่นนั้นเห็นร่องรอยบนตัวข้าหรือไม่ยังดีที่เย่หยุนฟางเอาแต่ตามติดคุณชายเซี่ยนางถึงไม่ทันได้สังเกตมิเช่นนั้นข้าคงได้

  • สามีของข้าคือตัวร้ายไม่ใช่พระเอก   ตอนที่ 43 กลับเมืองหลวง

    สวนไผ่ที่ตั้งอยู่หลังบ้านเล็กๆ ริมทะเลสาบของนางนั้นเต็มไปด้วยต้นไผ่เขียวชอุ่มที่สั่นไหวไปตามแรงลมเสียงใบไผ่เสียดสีกันดังเป็นจังหวะ เมื่อก่อนนางมักมาเดินเล่นและพักผ่อนในที่แห่งนี้เป็นประจำหลังอาหารมื้อบ่ายมู่อิงเถาตั้งใจจะนอนพักสักงีบแต่ไม่ว่าอย่างไรหญิงสาวก็ไม่อาจหลับตาลงได้จึงออกมาเดินเล่นรับลมในที่แห่งนี้ก่อนที่สองเท้าจะพาตนเองเดินทอดน่องไปจนถึงทะเลสาบที่อยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านนักมู่อิงเถาเข้าไปนั่งเล่นที่ศาลาไม้มองเห็นเรือไม้ลำเล็กที่ถูกผูกเอาไว้ที่ท่าน้ำ น่าจะเป็นเรือที่ซ่งอวี่ถงจัดหามานั่นเอง“อากาศเย็นเพียงนี้ยังออกมาเดินเล่นอีกเดี๋ยวก็ได้เป็นหวัดหรอก เหตุใดถึงไม่ใส่เสื้อหนาๆ มาด้วยนะ”‘ตะ ตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย’ชายหนุ่มถอดเสื้อคลุมตัวนอกของเขาออกก่อนจะคลุมไปที่ไหล่บางของนาง ความอบอุ่นของเสื้อคลุมที่เพิ่งถอดออกจากตัวของเขาและกลิ่นกายที่คุ้นเคยนั้นทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเสียอย่างนั้นปากของเขาก็เอาแต่พร่ำบ่นไม่มีหยุด‘บ่นเป็นตาแก่ไปได้’“เมื่อก่อนท่านไม่เห็นบ่นเช่นนี้เลยนะ”“นั่นมันเมื่อก่อน”พูดจบก็นั่งลงข้างๆ นางจ้องมองใบหน้าหวานนั้นไม่วางตา“เมื่อก่อนข้านั้นโง่เขลายิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status