เจ้าของร้านเห็นชุดของนางก็รู้ทันทีว่าเป็นชุดจากทางร้าน ที่เมิ่งกุ้ยเฟยให้ตัดเย็บให้กับนาง จึงรีบมาวัดตัวนางและบอกว่าจะรีบแก้ให้เสร็จ ทั้งยังบอกจะส่งไปให้ถึงจวนนางรีบปฏิเสธบอกว่าจะมารับเอง ทางร้านจึงนัดให้นางมารับพรุ่งนี้ พอดีส่งบิดามารดานางเสร็จก็จะได้แวะมาเอา จะได้หาเลือกซื้อเครื่องประดับด้วย
" คุณหนูจะไปไหนต่อดีเจ้าคะ"
" ไปจวนพี่ใหญ่ คืนนี้ข้าจะนอนกับท่านแม่ของข้า"
ซูซินเหยียนพูดคุยกับบิดามารดา นั่งเล่นเดินเล่นใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวัน จนเย็นมากแล้วซูหานจึงได้เอ่ยขึ้น
" เหยียนเอ๋อนี่ก็เย็นมากแล้วกลับได้แล้วหล่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาส่งพ่อกับแม่"
" ไม่เจ้าค่ะ คืนนี้ข้าจะนอนกับท่านแม่ นะเจ้าคะท่านแม่ ข้าอยากนอนกอดท่านแม่ ไม่รู้จากกันคราวนี้อีกนานแค่ไหนกว่าจะได้พบกันอีก"
" เด็กโง่พูดอะไรเช่นนั้น เมืองหลวงกับผิงอันถึงจะไกลกันแต่ก็ใช่ว่าจะไกลมากซะที่ไหนเดินทาง10กว่าวันก็ถึงแล้ว เจ้าคิดถึงพ่อกับแม่ก็ไปหาได้ทุกเมื่อ"
" เหยียนเอ๋อเจ้าจะนอนค้างที่นี่ได้อย่างไรพึ่งจะแต่งงานได้ไม่กี่วันมันดูไม่เหมาะ สามีภรรยาพึ่งแต่งงานกันใหม่ๆก็เหมือนข้าวใหม่ปลามัน ข้าว่าเดี๋ยวเยี่ยนเฉิงจะได้มาตามเจ้ากลับไปกลางดึก ฮ่าฮ่า"
" เขาไม่มาหรอกเจ้าค่ะ"
ซูหานหยุดหัวเราะ รอยยิ้มที่มีค่อยๆจางลงสบตากับซูเหม่ยฟางแล้วมองหน้าบุตรสาวสังเกตุว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อก่อนทุกครั้งที่พูดถึงโจวเยี่ยนเฉิง ซูซินเหยียนจะมีแววตาแวววาวเต็มไปด้วยความสุข แต่ตอนนี้ดูหม่นหมองมีแต่ความเศร้าในแววตาคู่นั้น
" เอาหล่ะ คืนนี้ท่านพี่นอนคนเดียวนะเจ้าคะข้าจะนอนกับลูก ไปเหยียนเอ๋อ คืนนี้แม่จะกล่อมเจ้านอนเหมือนตอนเด็กๆ ดีไหมจ๊ะ"
" ดีเจ้าค่ะ ข้าอยากฟังท่านแม่ร้องเพลงกล่อมข้า"
ซูเหม่ยฟางเดินโอบกอดซูซินเหยียนออกไป
ยามห้าย ซูเหม่ยฟางมองดูบุตรสาวที่นอนหลับอยู่ข้างๆ บุตรสาวของนางต้องมีเรื่องทุกข์ใจปิดบังนางอยู่แน่ๆ นางไม่อยากถามว่าเรื่องอะไร แต่เดาว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับโจวเยี่ยนเฉิง ไม่ว่าบุตรสาวของนางจะตัดสินใจทำอะไร นางก็เคารพในการตัดสินใจ
" ยังไม่มีข่าวของนางรึ"
" ขอรับ คนที่ข้าส่งไปเฝ้าหน้าโรงเตี๊ยมทุกแห่ง บอกว่าไม่พบฮูหยินหรือลู่หนิงเข้าออกเลย รวมทั้งคุณชายตงหยางด้วยขอรับ"
" อืม ข้ารู้แล้ว ช่วงนี้ตงหยางไปสืบคดีที่นอกเมือง"
ยามซื่อ ซูซินเหยียนกอดลาบิดามารดา
" เหยียนเอ๋อ จำเอาไว้นะไม่ว่าลูกจะตัดสินใจทำอะไรรู้เอาไว้ว่าพ่อกับแม่จะอยู่ข้างลูกเสมอ"
ซูซินเหยียนมองดูบิดามารดาขึ้นรถม้าจากไปจนลับสายตา
" คุณหนู ไปเอาชุดที่ร้านฝูหลงกันเถอะเจ้าค่ะ เสร็จแล้วจะได้ขนของกลับจวนกันสายแล้วแดดจะร้อน"
" ข้าเอาชุดนี้"
" ไม่ได้เจ้าค่ะ ชุดนี้มีเจ้าของแล้ว"
" หากมีเจ้าของเหตุใดจึงมาแขวนโชว์อยู่เช่นนี้"
" ขออภัยจริงๆเจ้าค่ะ ชุดนี้พึ่งจะแก้เสร็จยังไม่ทันเก็บ"
" นางให้เท่าไหร่ ข้าให้สองเท่า"
" ไม่ได้จริงๆเจ้าค่ะ ชุดนี้มีเจ้าของแล้วจริงๆเดี๋ยวนางก็จะมาเอาแล้ว"
ซูซินเหยียนเดินเข้ามาในร้าน อี้ฝางเจ้าของร้านและเป็นช่างตัดเย็บมือหนึ่งของร้าน ที่ตัดชุดให้นาง ทั้งยังเป็นคนแก้ชุดให้ด้วย รีบเข้าไปทำความเคารพ
" คุณหนูซู เอ๊ย ฮูหยินโจว เชิญเจ้าค่ะ"
" เรียกข้าว่าคุณหนูซูอย่างเดิมเถอะ"
" อะเอ่อ เจ้าค่ะ คุณหนูเชิญทางนี้เจ้าค่ะ ชุดของท่านเสร็จแล้ว เดี๋ยวลองใส่ดูนะเจ้าคะว่าพอดีไหม"
ถานลี่หลินหันควับไปดู เห็นซูซินเหยียนกำลังเดินมาทางนี้ พนักงานยังรีบเอาชุดที่นางอยากได้ไปให้ซูซินเหยียนอีก ที่แท้ชุดนี้เป็นของซูซินเหยียนนี่เอง นางจ้องมองด้วยแววตาอิจฉาริษยา
ซูซินเหยียนไม่ได้สังเกตุว่ามีใครอยู่ในร้านแต่รับรู้ถึงสายตาจ้องมองมา จึงหันไปดู ถึงได้รู้ว่าเป็นถานลี่หลิน ไม่คิดว่าจะเจอนางอยู่ที่ร้านหรูหราแบบนี้ แต่จะแปลกอะไรในเมื่อมีโจวเยี่ยนเฉิงคอยตามใจทุกอย่าง หึนางยิ้มมุมปากแล้วเดินเข้าไปในห้องลองชุด ยังไม่ทันจะถึง ถานลี่หลินก็เข้าไปคว้าชุดมาจากมือของอี้ฝาง
" ท่านจะทำอะไร คืนชุดมา"
อี้ฝางถามด้วยความตกใจ
" ข้าต้องการชุดนี้ บอกมาได้เลยว่าเท่าไหร่สามีข้าพร้อมจ่าย"
" ไม่ได้เจ้าค่ะ ชุดนี้เป็นของคุณหนูซู ท่านลองดูชุดอื่นดีกว่า ในร้านมีแบบสวยๆให้เลือกเยอะแยะ หรือหากท่านต้องการแบบนี้ข้ายินดีตัดให้ท่านได้ แต่ต้องรอหน่อยเพราะช่วงนี้ไม่ว่าจะเป็นข้าหรือช่างคนอื่นก็ล้วนไม่ว่าง"
" ข้าต้องการชุดนี้ใส่ไปงานเลี้ยงชมบุพผาไม่มีเวลารอนานขนาดนั้นหรอก"
" ถ้าอย่างงั้นท่านก็ไปเลือกชุดอื่นเถอะเจ้าค่ะ ไม่ก็ลองไปดูร้านอื่น เผื่อมีช่างที่ว่างอยู่ แต่ตอนนี้คืนชุดนั้นมาก่อน"
อี้ฝางเขาไปดึงชุดคืนมาจากถานลี่หลินส่งให้ซูซินเหยียน แต่ถานลี่หลินก็รีบไปดึงคืนมา ซูซินเหยียนไม่ยอมปล่อย ยื้อกันไปมาพอนางปล่อยมือ ถานลี่หลินก็หงายหลังล้มลง คนในร้านหลายคนพากันหัวเราะเยาะ ถานลี่หลินโมโห ฉีกชุดจนขาด แคว่ก แคว่ก ทุกคนที่มองดูต่างตกใจกับการกระทำของนาง
ถานลี่หลินยิ้มเย้ย ในเมื่อนางไม่ได้ งั้นซูซินเหยียนก็อย่าหวังจะได้ไป ซูซินเหยียนยิ้มเยือกเย็น ถานลี่หลินรู้สึกว่ารอยยิ้มนั่นมันแปลกๆ
" เจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วกระมัง ถึงได้กล้าฉีกทำลายชุดที่เมิ่งกุ้ยเฟยมอบให้ข้า"
ถานลี่หลินตกใจหน้าซีด
" อะ อะไรนะ"
" นิสัยเสียอยากได้ของคนอื่น แล้วยังจะหูไม่ดีอีก คุณหนูของข้าบอกว่าชุดที่เจ้าพึ่งจะฉีกไปเมื่อกี้ เป็นชุดที่เมิ่งกุ้ยเฟยพระราชทานให้คุณหนูมา เพื่อใส่ไปงานเลี้ยงชมบุพผา แต่ขนาดไม่พอดีเลยเอามาแก้ "
" ไม่ ไม่จริง เจ้าโกหกข้า"
" นางจะโกหกไปทำไม ข้าเป็นคนตัดชุดให้นางตามรับสั่งของเมิ่งกุ้ยเฟยเอง ทั้งที่บอกแล้วว่าชุดมีเจ้าของแต่ก็ยังดึงดันจะแย่ง พอไม่ได้ก็ฉีกทำลาย ในเมื่อกล้าทำก็ต้องกล้ายอมรับผลที่จะตามมาด้วย"
ถานลี่หลินหน้าซีด นางรู้ว่าเมิ่งกุ้ยเฟยเป็นคนที่ฮ่องเต้โปรดปรานมากที่สุด แต่นางไม่รู้ว่าเมิ่งกุ้ยเฟยมีความสนิทสนมกับซูซินเหยียนมากขนาดไหน ถึงกับสั่งตัดชุดให้ หากเรื่องที่นางทำวันนี้รู้ถึงหูเมิ่งกุ้ยเฟย เกรงว่าแม้แต่โจวเยี่ยนเฉิงก็จะปกป้องนางไม่ได้ พูดถึงโจวเยี่ยนเฉิงเขาทำไมถึงได้มาช้านักนะ ระหว่างทางมาร้าน เขาเจอกับสหายเลยแวะคุยกัน แล้วบอกให้นางไปเลือกชุดรอที่ร้านเดี๋ยวเขาตามมา นี่ก็พักใหญ่แล้วทำไมถึงยังไม่มาอีก
" มีเรื่องอะไรกัน"
โจวเยี่ยนเฉิงเดินเข้ามาในร้าน เห็นคนรุมดูอะไรอยู่จึงถามขึ้นมา ถานลี่หลินรีบเข้ามากอดแขนเขาน้ำตาคลอ
" พี่เยี่ยนเฉิงช่วยข้าด้วย"
" เกิดอะไรขึ้น ใครรังแกเจ้า"
เขามองดูรอบๆแล้วก็ไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าที่คุ้นเคย ซูซินเหยียน นางมาอยู่ที่นี่นี่เอง เขาตามหานางตั้งนาน
" ซินเหยียน"
" มองทำไม คิดว่าข้ารังแกภรรยาของท่านรึ"
อี้ฝางกับคนอื่นๆในร้านหันไปมองโจวเยี่ยนเฉิงกับถานลี่หลิน ที่กอดแขนเขาแน่นเป็นตาเดียว
" ไม่ใช่ว่าซูซินเหยียนพึ่งแต่งงานกับโจวเยี่ยนเฉิงหรอกหรือ แล้วหญิงที่กอดแขนเขาอยู่เป็นใครกัน"
" เจ้าไม่ได้ยินเหรอ นางบอกว่าหญิงคนนั้นเป็นภรรยาของโจวเยี่ยนเฉิง"
" ข้าไม่เคยเห็นนางมาก่อน ไม่รู้ว่าเป็นบุตรสาวตระกูลใด"
เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเขา นางก็พูดต่อ" ใกล้ๆกันยังมีขนมถูกเททิ้งด้วย น่าเสียดายหากไม่กินก็น่าจะให้คนอื่น ไม่ก็แจกเด็กๆก็ได้ ทำแบบนี้ไม่ดีเลย"โจวเยี่ยนเฉิงกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ รีบหุนหันจากไป ถานลี่หลินมองตาม กระตุกยิ้มมุมปาก หึหึ ขนมอร่อยน่ากินจะทิ้งให้เสียของทำไม ทั้งขนมติงเซิงขนมหม่าซูถง อยู่ในท้องของนางนี่ซูซินเหยียนกำลังยืนคุยกับคนอื่นๆอยู่ โจวเยี่ยนเฉิงก็เข้ามาฉุดกระชากนางออกมา" ปล่อยนะ ท่านเป็นบ้าอะไร"นางสะบัดออกจากเขาด้วยท่าทีรังเกียจ" ตามข้ามานี่ ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า"" แต่ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับท่าน"" เหยียนเอ๋อ"" เรียกข้าแบบเดิมเถอะ อย่าเรียกข้าแบบนี้เลย เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น"" ข้าอยากถามว่าทำไมต้องเอาของที่ข้าให้ไปทิ้งด้วย ข้าตั้งใจซื้อมันมาให้เจ้านะ"นางขมวดคิ้วมองหน้าเขา " ของพวกนั้นข้าให้หนิงเอ๋อนำมันไปคืนท่านไม่ได้ทิ้ง"ลู่หนิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล ได้ยินที่ทั้งสองพูดก็รีบเดินเข้าไปหา" ข้าเอาของพวกนั้นไปฝากสือหลางคืนท่านไม่ได้ทิ้งเจ้าค่ะ ต่อจากนี้ท่านก็ต้องไปถามเขาเองแล้วแหละ"เห็นโจวเยี่ยนเฉิงทำหน้างง ซูซินเหยียนก็พอเดาออก" ใครบอกท่านว่าของพวกนั้นถูกทิ้ง ถานล
เมื่อเดือนก่อนฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้าน ถนนหนทางถูกตัดขาดสะพานข้ามแม่น้ำก็พัง น้ำท่วมอยู่เป็นเดือนพึ่งจะเริ่มลดลง ทหารอาสาซ่อมแซมสะพานเสร็จไปหนึ่งแห่ง คือทางหน้าหมู่บ้าน ส่วนอีกแห่งทางหลังหมู่บ้าน หลายคนกำลังช่วยกันซ่อมแซมอยู่ เพราะน้ำท่วมผ่านไปหลายวันแล้ว กว่าโจวเยี่ยนเฉิงจะมาถึงน้ำจึงแห้งเหือดไปหมด เหลือเพียงดินโคลนแห้งเกรอะกรัง ทหารที่มาช่วยงานและอาสาคนอื่นๆต่างช่วยชาวบ้านทำความสะอาด แต่ชาวบ้านยังคงพักอยู่ในกระโจมบนที่สูง แม่ทัพฉีเส้าหมิงสำรวจดูรอบหมู่บ้านเกรงว่าอาจเกิดดินถล่มลงมาอีก จึงยังไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปพักอาศัย แต่ให้รอดูสถานการณ์อีกสักระยะก่อนช่วงเย็นซูซินเหยียนนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้กับลู่หนิงและฉีหว่านหรู" ซินเหยียน ที่เขามาถึงที่นี่คงไม่ใช่มาตามเจ้าหรอกนะ"" ตามข้ารึ เป็นไปไม่ได้หรอก เขาไม่ได้รักข้า ไม่เคยรักเลยด้วยซ้ำ ข้ายอมหย่าให้เขากับถานลี่หลินได้สมหวัง เขาต้องดีใจอยู่แล้ว ไม่ต้องทนใช้ชีวิตร่วมกับข้า "" แต่ข้าสังเกตุว่าเขาคอยมองดูเจ้าตลอดเลยนะ"" ใช่เจ้าค่ะคุณหนู ข้าก็เห็นเหมือนกัน ข้าว่าสายตาที่เขามองคุณหนูแตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก เมื่อก่อนเขามองท่านด้วย
พอหมอเดินออกไปถานลี่หลินก็รีบเข้ามานางจะเอื้อมมือไปสัมผัสแผ่นหลังของโจวเยี่ยนเฉิง แต่ก็ชักมือกลับ กลัวจะโดนแผลให้เขาเจ็บกว่าเก่า " นายท่านเป็นแบบนี้พอใจเจ้าหรือยัง"สือหลางพูดแขวะก่อนเดินออกไป ถานลี่หลินน้ำตาไหลอาบแก้ม" พี่เยี่ยนเฉิง เป็นความผิดของข้า เพราะข้าท่านถึงต้องมาเจ็บตัวเช่นนี้ "ผ่านไปสักพักโจวเยี่ยนเฉิงค่อยๆลืมตาขึ้นมา เห็นถานลี่หลินนั่งน้ำตาคลออยู่ข้างๆ พอเห็นเขาลืมตา น้ำตาเม็ดโตก็ไหลรินอาบแก้มนางยิ้มทั้งน้ำตา" พี่เยี่ยนเฉิงท่านฟื้นแล้ว"ขยับเพียงนิดเขาก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งหลังและตูด สือหลางได้ยินเสียงก็รีบเข้ามาดูด้วยความดีใจ ก่อนจะออกไปแล้วกลับเข้ามาใหม่พร้อมถ้วยยา ถานลี่หลินแย่งถ้วยยามาถือไว้" เอามานี่ข้าจัดการเอง เจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะ"สือหลางไม่ชอบใจกับท่าทีของถานลี่หลิน ที่ทำตัวราวฮูหยินของจวน ชี้นิ้วสั่งคนนั้นคนนี้ เขาไม่อยากสนใจจึงเดินออกไป เห็นท่าทีกระตือรือร้นของนาง โจวเยี่ยนเฉิงก็นึกถึงอดีต ตอนนั้นเขาเล่นปีนต้นไม้กับซูตงหยางแล้วพลาดตกลงมาได้รับบาดเจ็บ ซูซินเหยียนก็เป็นห่วงเขาแบบนี้ นางร้องไห้ห่วงว่าเขาจะขาหักพิการเดินไม่ได้อีก มานั่งเฝ้าคอยดูแลเขา ยังช่วย
" ข้าเข้าใจแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นทน ทนอยู่ไปเพื่ออะไร เขาไม่รักไม่เห็นค่าก็หย่าไปเลย ข้าสนับสนุนเจ้า"" กุ้ยเฟยเพคะ"เช่อเอ๋อหันไปมองหน้าเมิ่งกุ้ยเฟย คิดว่าเมิ่งกุ้ยเฟยจะเกลี้ยกล่อมให้ซูซินเหยียน กลับไปคืนดีกับโจวเยี่ยนเฉิง แต่กลับเห็นดีเห็นงามกับการหย่าร้าง" ข้าพูดผิดตรงไหน เหตุใดสตรีจะต้องทนอยู่กับบุรุษที่ไม่รักเรา ในโลกนี้ยังมีบุรุษอีกเกลื่อนกลาด ไม่เห็นต้องไปสนใจ ในเมื่อโจวเยี่ยนเฉิงมีไข่มุกล้ำค่าในมือแล้วไม่เห็นค่ากลับไปให้ความสำคัญกับก้อนกรวด ก็ปล่อยเขาไป เหยียนเอ๋อของข้างดงามถึงเพียงนี้ ข้าจะหาบุรุษที่ดีกว่าโจวเยี่ยนเฉิงเป็นร้อยเท่าให้นางเอง"เมิ่งกุ้ยเฟยทำท่าครุ่นคิด ใครนะที่น่าสนใจ" เมิ่งกุ้ยเฟยเพคะ สาวใช้นางนั้นมาแล้วเพคะ"นางกำนัลคนหนึ่งเข้ามารายงาน" ให้นางเข้ามา"ถานลี่หลินเดินตามนางกำนัลเข้ามาถวายความเคารพ" รู้ใช่ไหมว่าข้าเรียกเจ้ามาทำไม"" หม่อมฉันโง่เขลา ไม่ทราบเพคะ"" คุกเข่าลง"นางรีบนั่งลงคุกเข่า หันไปเห็นซูซินเหยียนนั่งอยู่ข้างๆเมิ่งกุ้ยเฟยก็หน้าซีด มีลางสังหรณ์ไม่ดี" เจ้ารู้หรือไม่ว่าการทำลายข้าวของพระราชทานมีโทษเช่นไร"" หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ หม่อ
" ช่วงนี้ท่านดูเคร่งเครียด ให้ข้าช่วยทำให้ท่านสบายตัวดีหรือไม่"ถานลี่หลินลูบไล้อกแกร่งของโจวเยี่ยนเฉิงค่อยๆแหวกสาบเสื้อออก ลูบอกเปลือยเปล่าเมื่อเห็นว่าเขาเริ่มเคลิ้ม จึงใช้อีกมือลูบแท่งหยกของเขาจนมันเริ่มตื่นตัว โจวเยี่ยนเฉิงเห็นภาพทับซ้อน มองเห็นหน้าของถานลี่หลินเป็นซูซินเหยียน พอสะบัดหัวอีกทีถึงได้รู้ว่าเขาตาลาย เขารีบผลักถานลี่หลินออก " ดึกแล้วเจ้าไปนอนเถอะ ข้ามีเรื่องด่วนต้องไปจัดการ"พูดจบก็รีบจ้ำอ้าวเดินออกไป ทิ้งให้ถานลี่หลินยืนเหวออยู่ตรงนั้น เหตุใดเขาถึงได้ปฏิเสธนาง เหตุใดถึงได้รีบร้อนออกไปยามดึกแบบนี้ เขาจะไปที่ไหน หรือว่าจะไปหาซูซินเหยียน ไหนบอกว่าไม่ได้รักไง ก็ในเมื่อหย่ากันแล้วจะไปหาทำไมอีก นางกำมือแน่นแววตาฉายความโกรธเกรี้ยวโจวเยี่ยนเฉิงมาถึงจวนของซูตงหยาง ก็เห็นว่ามีบ่าวรับใช้ชายยืนเวรยามเต็มไปหมด ถ้าเข้าไปตรงๆก็คงต้องปะทะฝีมือกัน เขาไม่อยากทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ จึงเอาม้าไปผูกไว้ใต้ต้นไม้ห่างจากหน้าจวน แล้วใช้วิชาตัวเบาเหาะทะยานไต่ไปบนหลังคา ว่าแต่ซูซินเหยียนอยู่เรือนไหนนะ จวนแห่งนี้ไม่ได้กว้างมาก มีแค่ไม่กี่เรือน เรือนหลังนั้นเป็นของซูตงหยาง ส่วนตรงนั้นเป็นเ
" ซินเหยียน"" มาทำไม"" ข้ามารับเจ้ากลับจวน"" กลับไปทำไม ท่านกับข้าหย่ากันแล้ว หนังสือหย่าข้าวางเอาไว้ในห้อง ท่านไม่เห็นรึ"" เห็นแล้ว ข้าก็ฉีกทิ้งแล้วด้วย"" ท่าน"" ข้าไม่หย่า ข้ารับปากกับท่านแม่ไว้แล้วว่าจะแต่งงานกับเจ้าแค่คนเดียว มีเจ้าเป็นฮูหยินของข้าแค่คนเดียวเท่านั้น กลับไปกับข้าเถอะ สามีภรรยาไม่ควรแยกกันอยู่เช่นนี้"" ฮ่า ฮ่า ฮ่า"" เจ้า เจ้าหัวเราะอะไร"" ข้ารู้สึกขบขันยิ่งนัก จริงอย่างท่านว่า สามีภรรยาไม่ควรแยกจาก แต่ท่านกับข้าหาใช่สามีภรรยากัน ไม่ เราไม่เคยมีอะไรกัน คืนเข้าหอท่านก็ไปนอนที่ห้องหนังสือ กอดจูบลูบไล้ภาพวาดของถานลี่หลิน"อย่าว่าแต่เข้าหอเลย แม้แต่แตะต้องตัวนางก็ไม่เคย จับมือก็ไม่เคยโจวเยี่ยนเฉิงตกใจ นางรู้ได้อย่างไร หรือว่าคืนนั้นนางจะไปตามเขาแล้วเห็น" ซินเหยียน คือว่าเรื่องนั้นข้าอธิบายได้ ข้าคืนนั้นข้าเมาหนักไปหน่อย ข้ายอมรับว่าข้าคิดถึงหลินเอ๋อ แต่คนเราล้วนมีอดีตกันทั้งนั้น ตอนนั้นข้าคิดถึงนางที่จากไปแล้วไม่มีโอกาสได้พบเจออีก ไม่คิดว่าอยู่ดีๆนางจะปรากฏตัว ส่วนเรื่องเข้าหอข้ายังทำใจไม่ได้ เลย เลยให้เวลาตัวเองหน่อย"" หึ จะเข้าหอกับข้าต้องใช้เวลาทำใจขนาดนั้