Home / รักโบราณ / สามีข้าหาใช่ตัวร้ายอีกต่อไป / บทที่ 8 กลับมาเพื่อเริ่มใหม่

Share

บทที่ 8 กลับมาเพื่อเริ่มใหม่

last update Last Updated: 2025-05-16 12:04:37

"คุณหนูใหญ่เจ้าคะ คุณหนูใหญ่"

เสียงเรียกของเถาเป่าทำให้เย่หลีสะดุ้งตื่นขึ้นมา หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ ก่อนจะพบว่ายามนี้ตนเองกำลังนั่งอยู่ที่ศาลาริมสระบัว เบื้องหน้ามีถ้วยน้ำชาที่ยังคงร้อนกรุ่นส่งกลิ่นหอม เย่หลีย่นหัวคิ้ว ก่อนจะหันขวับไปมอง และพบกับเถาเป่าที่กำลังยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ไม่ไกลนัก

เย่หลีพลันตื่นตระหนก นางจำได้ว่าก่อนหน้านี้นางสิ้นใจตายอยู่ในคุกหลวงใต้ดิน และเถาเป่าก็ถูกไป๋ซู่ฮวาโบยจนตายเพราะปกป้องนางไปแล้วไม่ใช่หรือ 

นี่มันเรื่องใดกัน!

นางลุกพรวดยืนขึ้น ก่อนจะหันมองไปโดยรอบ ที่นี่คือจวนตระกูลเย่จริง ๆ แต่ทว่าเหตุใดยังคงเงียบสงบร่มรื่นเช่นนี้เล่า! 

ฉับพลันภาพต่าง ๆ ก็ถาโถมเข้ามาในหัวของเย่หลีภาพแล้วภาพเล่า มีทั้งภาพวันที่นางตบตีบ่าวไพร่เพราะเรื่องชาดทาปาก ภาพที่นางเหยียบดอกมู่ตานที่เย่หลิงมอบให้ ภาพที่นางไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนคังอ๋อง ภาพที่นางตบตีเย่หลิง ภาพที่นางพบกับฟ่านเฉิน ภาพที่นางได้เสียและแต่งงานกับเขา จนกระทั่งภาพวันที่นางถูกเขาสังหารจนตายก็ปรากฏขึ้นราวกับภาพฝัน!

เย่หลีพลันใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง นี่มันคือความฝันหรือความจริงกันแน่

นางเดินไปโดยรอบ มองทุกสรรพสิ่งรอบกายที่เคลื่อนไหว ภายในจวนมีสาวใช้เดินกันไปมา ต่างคนต่างมีงานให้ทำ มีเสียงนกร้อง ดอกมู่ตานกำลังเบ่งบานรับลมฤดูใบไม้ผลิ นางหันไปมองเถาเป่าที่กำลังวิ่งตามมาด้วยท่าทีหวาดหวั่น เถาเป่ามองเจ้านายตนด้วยแววตาที่หวาดกลัว ก่อนจะเอ่ย

"คุณหนูเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว บ่าวเพียงเห็นว่าท่านงีบหลับกลางวันที่ศาลาริมน้ำนานเกินไป จึงเป็นห่วง จึงถือวิสาสะปลุกท่าน ฮือ บ่าวสมควรตายเจ้าค่ะ"

"ข้านอนงีบหลับอย่างนั้นหรือ"

"เจ้าค่ะ"

เย่หลีเอ่ยถามด้วยความสงสัย นางหลับตาลงพยายามคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ก่อนหน้านี้แล้วจึงหันไปเอ่ยกับเถาเป่าอีกครา

"เจ้าบอกว่าข้าแค่งีบหลับจริงหรือ"

เถาเป่าพยักหน้า และเอ่ยตอบ

"เจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้คุณหนูบอกว่าง่วงมากเพราะเมื่อวานอยู่ต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานวันเกิดอายุครบสิบหกปีของคุณหนู ท่านบ่นว่าอยู่ในห้องแล้วอบอ้าวจึงมานั่งรับลมที่นี่ ก่อนจะเอนกายงีบหลับไปเจ้าค่ะ"

"อายุสิบหก"

เย่หลีพยายามคิดทบทวนอีกหน ปีนี้นางอายุสิบหกอย่างนั้นหรือ 

"เจ้ายังไม่ตายหรือเถาเป่า"

เถาเป่าเมื่อได้ยินเย่หลีเอ่ยถามเช่นนั้นก็สะดุ้งโหยง ก่อนจะรีบคุกเข่าลงและร้องขอความเมตตา

"คุณหนูใหญ่เจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้วที่รบกวนความสงบของท่าน แต่ขอร้องอย่าไล่บ่าวไปตายเลยนะเจ้าคะ ฮือ คุณหนู บ่าวไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะ"

เย่หลีมองเถาเป่าที่คุกเข้าร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังคราหนึ่ง ก่อนจะสั่งให้นางหยุดร้อง หญิงสาวมองไปโดยรอบอีกคราเพื่อให้แน่ใจว่าตนไม่ได้ฝันไป

ภายในจวนยังหลงเหลือกลิ่นอายของการจัดงานเลี้ยง มีบ่าวชายไม่น้อยที่ช่วยกันขนของ สาวใช้ก็เก็บกวาดทำความสะอาดวิ่งวุ่นไปทั่วทั้งจวน

อยู่ ๆ เย่หลีก็รู้สึกเวียนหัว นางซวนเซเป็นลมล้มพับไป เถาเป่าตกใจรีบเรียกสาวใช้มาช่วยกันประคองนางกลับห้อง ก่อนจะให้คนไปแจ้งฮูหยินใหญ่โดยด่วน เย่ฮูหยินเมื่อได้ยินว่าบุตรสาวอาการไม่สู้ดี ก็สั่งให้คนไปตามท่านหมอมาในทันที เมื่อตรวจแล้วไม่พบสิ่งใดน่าเป็นกังวลเพียงแค่อ่อนเพลียเล็กน้อย จึงวางใจลงได้

เย่หลีที่หลับไปอีกครา ในฝันนางฝันเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้าอีกคราซ้ำวนไปวนมา ก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองยังอยู่ที่จวนตระกูลเย่ อยู่ในห้องนอนที่ตนเคยนอนมาตั้งแต่เด็ก

นางยกมือขึ้นตบใบหน้าตนเองหลายต่อหลายทีจนใบหน้าสวยหวานแดงก่ำ เถาเป่าที่เห็นเช่นนั้นก็ตกใจไม่น้อย คิดว่าคุณหนูของตนยามนี้โรคจิตถึงขนาดทุบตีตีตนเองแล้วหรือ!

เย่หลีเจ็บระบมไปหมด แต่นางกลับยิ้มเต็มใบหน้า 

สวรรค์! สวรรค์ให้โอกาสนางย้อนเวลากลับมาอยู่ในร่างของตนเองตอนอายุสิบหกปีจริงด้วย

ในยามนี้นางเพิ่งอายุสิบหกปี ยังไม่ได้พบเจอฟ่านเฉิน ยังไม่ได้ตกเป็นเครื่องมือของเขา นางยังใช้ชีวิตอย่างเสรี เป็นช่วงชีวิตที่ดีงาม ก่อนที่นางจะพาตนเองเดินเข้าสู่เส้นทางที่ผิดจนเกิดความสูญเสียตามมา!

สายลมนอกหน้าต่างพัดเข้ามาปะทะใบหน้าของเย่หลี ทำให้นางพลันได้สติกลับคืนมา หญิงสาวรีบวิ่งกลับไปที่เรือนใหญ่ เถาเป่าที่เห็นว่าเจ้านายวิ่งไปแล้วจึงรีบตามไปทันที พร้อมร้องเอ่ยเตือนว่าเย่หลีเพิ่งจะได้สติ อย่าได้ออกวิ่งจนล้มป่วย!

เย่หลีวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต นางวิ่งไม่ยอมหยุด จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หน้าเรือนใหญ่ เมื่อมองเข้าไปก็พบว่ายามนี้เย่ฮูหยินกำลังสั่งการสาวใช้ให้เก็บกวาดเรือนให้สะอาดเรียบร้อย เพราะใกล้ถึงวันที่ท่านพ่อและพี่ชายของนางจะเดินทางกลับมาจากชายแดนแล้ว

เย่ฮูหยินเมื่อได้ยินเสียงวิ่งจึงหันมามอง พอเห็นว่าเป็นเย่หลีที่กำลังยืนมองตนอยู่ ก็ยิ้มออกมาเต็มใบหน้า ก่อนจะเดินข้ามาหาบุตรสาว

"หลีเอ๋อร์ ตายจริง หน้าเจ้าไปโดนอันใดมากัน เหตุใดจึงบวมแดงเช่นนี้กันเล่า แล้วนี่รีบออกมาเดินรับลมทำไมกัน เจ้าเพิ่งจะเป็นลมร่างกายอ่อนเพลียแท้ ๆ”

เย่ฮูหยินยื่นมือมาจับใบหน้าของเย่หลี แววตาของนางฉายแววปวดใจเป็นอย่างยิ่ง เย่หลีมองหญิงวัยกลางคนตรงหน้าคราหนึ่ง

สตรีนางนี้เดิมทีไม่ใช่มารดาของนาง แต่กลับรักนางไม่ต่างจากบุตรแท้ ๆ และนางก็ผูกพันกับสตรีนางนี้เป็นอย่างมาก

"ท่านแม่"

อยู่ ๆ เย่หลีก็โผเข้ามากอดเย่ฮูหยิน ก่อนจะร้องไห้ออกมา เย่ฮูหยินตกใจรีบเอ่ยถามทันที

"หลีเอ๋อร์ เจ้าเป็นอันใดไป ร้องไห้ทำไม บอกแม่มา ผู้ใดรังแกเจ้า"

เย่หลียังคงร้องไห้ไม่หยุด นางเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

"ท่านแม่ เมื่อครู่ข้าฝันเจ้าค่ะ ข้าฝันว่าข้าเลือกทางผิด แต่งงานกับคนไม่ดี และพวกท่านตายจากข้าไป พวกท่านตายจากข้าไปหมด ฮือ ข้ากลัวเจ้าค่ะท่านแม่!"

เย่ฮูหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยกมือขึ้นมาตบหลังบุตรสาวเพื่อปลอบใจ ก่อนจะเอ่ย

"เด็กโง่ ก็แค่ความฝันเท่านั้น คงเพราะท่านพ่อและพี่ชายเจ้าใกล้จะกลับมาแล้ว เจ้าคิดถึงพวกเขามากจึงเก็บเอามาฝันล่ะสิ รีบเช็ดน้ำตาเร็วเข้า แม่สั่งให้คนทำขนมเอาไว้ให้เจ้าด้วย ของชอบเจ้าทั้งนั้น"

เย่ฮูหยินเอ่ยกับบุตรสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนจะสั่งให้สาวใช้รีบไปนำขนมที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ มาให้เย่หลี เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เย่ฮูหยินก็บอกว่าจะไปดูบ่าวไพร่ว่าทำความสะอาดจวนไปถึงไหนแล้ว ให้นางกินขนมได้ตามใจเลยไม่ต้องรอ เย่หลีพยักหน้ารับ ก่อนจะมองตามแผ่นหลังของเย่ฮูหยินไปจนลับสายตา

เมื่ออยู่เพียงลำพังแล้ว เย่หลีก็ถอนหายใจออกมา นางกำมือแน่นมองขนมตรงหน้าด้วยแววตาที่ตื่นเต้น นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ตนจะมีโอกาสได้ย้อนเวลากลับมาอีกครั้ง 

แต่ทว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าก็เหมือนความฝันเหลือเกิน ความฝันที่น่าหวาดหวั่น!

นางในตอนที่ยังอายุเพียงสิบหกปีนั้น ยังไม่ทันได้ทำเรื่องเลวร้ายใด ยังไม่ได้พบเจอกับฟ่านเฉิน และยังไม่ได้ให้ความสนใจในตัวของฟ่านหลิ่นเท่าใดนัก เรียกได้ว่าเป็นเพียงคุณหนูที่เอาแต่ใจตนเองและไม่เห็นหัวใครเพียงเท่านั้น ไม่ได้เจ้าแผนการ เจ้าคิดเจ้าแค้นเจ้าเล่ห์เพทุบายเช่นในยามที่อายุสิบเจ็ดปี

และที่สำคัญนางยังไม่ทันได้กลั่นแกล้งเย่หลิงถึงขนาดที่คิดจะเอาชีวิตน้องสาวตัวเองเพียงเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว!

ในเมื่อมีโอกาสอีกครา นางจะทำทุกอย่างให้คนในครอบครัวไม่ต้องปวดหัวกับนาง นางจะไม่ยอมให้เย่หลิงและนางเข้าไปเกี่ยวข้องในวังวนของการแย่งชิงอำนาจอีก หาบุรุษดี ๆ สักคนแล้วแต่งงานออกไปเสีย ในเมื่อไม่ได้แต่งงานกับเชื้อพระวงศ์ย่อมไม่ถูกเพ่งเล็งมากถึงเพียงนั้น และอาจจะยังมีหนทางรอดหลงเหลืออยู่

แต่สิ่งที่นางเป็นกังวลนั่นก็คือ นางไม่รู้ว่ายามนี้ฟ่านเฉินจะคิดวางแผนการใดไว้แล้วหรือไม่!

ตอนนี้ทำได้เพียงรอท่านพ่อและพี่ใหญ่กลับมาเท่านั้น นางยังคิดไม่ตกว่าจะเริ่มต้นบอกเล่าเรื่องราวที่นางประสบพบเจอมาให้พวกเขาฟังเช่นไรดี จึงจะสามารถระวังภัยที่อาจจะมาถึงในอีกไม่ช้านี้ได้

ยิ่งคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เย่หลีก็พลันคิดถึงใบหน้าของคนผู้หนึ่งขึ้นมาได้

ฟ่านเฉิน!

เมื่อคิดถึงเขา ใจของนางก็บีบรัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นางกลัวเขาเหลือเกิน!

ก่อนตายนางอธิษฐานเอาไว้ว่าไม่ขอพบเจอเขาอีกไม่ว่าชาติใดก็ตาม แต่เห็นทีครั้งนี้คงจะหลีกเลี่ยงการไม่พบหน้ากันไม่ได้เสียแล้ว

ช่างเถิด เจอกันให้น้อยลงหน่อยก็คงจะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาได้

เมื่อคิดได้เช่นนั้นเย่หลีก็พอจะสงบใจลงไปได้บ้าง นางหันมองขนมที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะเอ่ยกับเถาเป่า

"ข้าจะไปที่เรือนของอนุซ่ง เจ้านำขนมมาเพิ่มอีกหน่อย ข้าจะนำไปมอบให้น้องสาว"

เถาเป่าลอบมองเจ้านายตน พลางครุ่นคิดในใจ

ให้ตายเถอะ! ไม่ใช่ว่าจะเอาขนมพวกนี้ไปเขวี้ยงใส่หน้าอนุซ่งกับคุณหนูรองหรอกนะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามีข้าหาใช่ตัวร้ายอีกต่อไป   ตอนพิเศษ

    ฟ่านเฉินพานางไปไหว้หลุมศพของหยางกุ้ยเฟยผู้เป็นมารดาหลังจากแต่งงานกันได้ไม่นาน อีกทั้งยังขอให้พระนางอวยพรให้เขาและนางใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่น มีสายลมพัดเข้ามาแผ่วเบาราวกับว่าหยางกุ้ยเฟยรับรู้ถึงคำขอของนางและฟ่านเฉินแล้วเดิมทีฟ่านเฉินตั้งใจว่าจะเอาเลือดของสวีกุ้ยเฟยมาเซ่นสังเวยหลุมศพมารดา แต่เมื่อได้คิดอีกคราเขากลับพบว่าตนเองคิดถูกที่ไม่ทำเช่นนั้น เพราะเสด็จแม่เองก็คงไม่ต้องการให้เลือดชั่วของสวีกุ้ยเฟยมาแปดเปื้อนหลุมศพของนาง!หนึ่งปีแรกหลังจากแต่งงาน เย่หลียังคงไม่ตั้งครรภ์ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเขาและนางเลยแม้แต่น้อย นางไม่มีแม่สามีคอยกดดัน อีกทั้งพ่อสามีก็ไม่เร่งรัดนางจากนั้นไม่นาน เย่หลีก็ได้เอ่ยถามฟ่านเฉินว่าเขาคิดจะถอนพิษให้ไป๋ซู่ฮวาหรือไม่ ยามนี้แผนการก็สำเร็จลุล่วงแล้ว อย่างไรก็ควรจะเมตตานางเสียหน่อย แต่ฟ่านเฉินกลับไม่ตกลงทำตามที่นางบอก เขาเอ่ยว่าไป๋ซู่ฮวากลับมาแล้วยังไม่รู้จักประมาณตน ปล่อยไว้ย่อมเป็นภัย ให้นางเป็นใบ้ไปชั่วชีวิตเช่นนั้นก็ดีแล้ว จะได้ไม่ก่อคลื่นลมให้เขาและนางต้องปวดหัวได้อีก เย่หลีเองก็ไม่ได้คัดค้านอันใดส่วนเย่หลิงนั้นนางได้แต่งงานกับหวังฉงคน

  • สามีข้าหาใช่ตัวร้ายอีกต่อไป   ตอนจบ

    เมื่อทุกอย่างจบลง แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องทำคือการปลอบขวัญกำลังใจเหล่าทหารกล้า พวกเขาทุกคนช่วยกันนำศพไปฝังเพราะอย่างไรเสียคงไม่อาจนำศพของพวกเขากลับบ้านเกิดได้อีกแล้ว เหล่าชาวบ้านก็ล้มตายไปไม่น้อยที่เหลือรอดก็มีอยู่ไม่มากและยังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฟ่านหลิ่นและฟ่านเฉินจึงสั่งให้ทหารช่วยดูแลชาวบ้านและปลอบขวัญพวกเขาจนมีอาการดีขึ้นเวลาผ่านมาร่วมหลายวัน คนทั้งหมดก็เดินทางกลับเมืองหลวง อย่างไรเสียย่อมต้องกลับไปรายงานความดีความชอบนี้ให้ฮ่องเต้ฟ่านหมิงจิ้นได้ทราบเสียก่อน ส่วนเรื่องอื่นนั้นค่อยจัดการหารือกันภายหลังระหว่างที่เดินทางกลับนั้นเย่หลีนั่งรถม้ามาพร้อมกับสาวใช้น้อยนางนั้น เดิมทีเย่หลีไม่ได้คิดจะพานางติดตามกลับเมืองหลวงมาด้วย แต่เพราะสตรีนางนั้นบอกว่าไม่มีที่ไปแล้ว เย่หลีสงสารจึงรับนางเอาไว้และตั้งชื่อให้ว่าอาหลวนเดินทางมาจนถึงจุดพักม้าอย่างไรย่อมต้องหยุดพักเสียหน่อยเพราะอีกหลายวันกว่าจะเดินทางถึงเมืองหลวงและยามนี้ม้าก็อ่อนแรงลงไปไม่น้อยแล้ว ทางการรีบจัดที่พักให้พวกเขาและดูแลเรื่องอาหารอย่างไม่ให้ขาดตกบกพร่อง เย่หลีได้พักที่เรือนรับรองที่สะดวกสบายที่สุด เดิมทีเรือนนี้คนของท

  • สามีข้าหาใช่ตัวร้ายอีกต่อไป   บทที่ 44 ปิดฉากสงคราม

    เช้าวันต่อมาหลังจากที่เย่หลีตื่นขึ้นมา ก็พบว่าฟ่านเฉินรวมถึงบิดาและพี่ชายของนางได้ออกรบกับแคว้นฉีอีกครั้งแล้วเมื่อคืนนี้หลังจากปรับความเข้าใจกันได้แล้ว นางก็กลับมาพักยังที่พักของตน ยามนอนหลับนางฝันดีตลอดทั้งคืนในขณะที่เย่หลีเพิ่งจะกินมื้อเช้าเสร็จและเดินออกมาภายนอกกระโจมก็พบว่ายามนี้ภายในค่ายทหารกำลังวุ่นวายเป็นอย่างมาก เหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บถูกหามเข้ามาคนแล้วคนเล่า บางคนถูกธนูยิงจนทะลุหน้าอก บางคนแขนขาด บางคนเลือดไหลโทรมกาย ช่างเป็นภาพที่น่าหวาดกลัวไม่น้อยเลย สาวใช้น้อยข้างกายของนางถึงกับเบือนหน้าหนีไม่กล้ามองเพราะหวาดกลัวเย่หลีย่นหัวคิ้ว ไม่คิดว่าทหารของแคว้นซ่งจะได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ นางมองไปโดยรอบก่อนจะพบกับฟ่านหลิ่นที่กำลังเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นางจึงรีบเอ่ยกับเขาทันที"คังอ๋อง เกิดเรื่องใดขึ้นหรือเพคะ"ฟ่านหลิ่นมองเย่หลีก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีเท่าใดนัก"เสด็จอาเล่นลูกไม้สกปรก ลอบส่งทหารไปซุ่มโจมตีทหารของพวกเราจากที่ลับ ก่อนหน้านี้ก็ส่งคนมาเผาเสบียงอาหาร อีกทั้งยังใช้ดินประสิวระเบิดภูเขาทำให้ก้อนหินร่วงลงมาทับทหารของแคว้นซ่งตายไปหลายพันนาย สถานกา

  • สามีข้าหาใช่ตัวร้ายอีกต่อไป   บทที่ 43 เริ่มใหม่

    ฟ่านเฉินรีบหันกลับมามองก่อนจะต้องตกตะลึงอยู่เช่นนั้น เขาคิดว่าตนเองคงจะฝันไป แต่เมื่อได้เห็นว่ายามนี้สตรีตรงหน้ากำลังแย้มยิ้มให้เขา เขาจึงตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่ความฝันแต่เป็นนางจริง ๆเย่หลีมองพิจารณาบุรุษตรงหน้า ยามนี้เขายังคงดูหล่อเหลาเช่นเดิม แต่ทว่าผิวกลับคล้ำลงไปไม่น้อย ดูคมเข้มชวนมองขึ้นกว่าแต่ก่อนมากนัก"เจ้ามาได้เช่นไร"ฟ่านเฉินเอ่ยถามเย่หลีด้วยความสงสัย เขาเองก็มองนางอย่างพิจารณาเช่นเดียวกัน แม้ยามนี้ผิวของนางจะดูคล้ำลงแต่ความงามนั้นไม่ด้อยลงไปเลยแม้แต่น้อยเย่หลียิ้มก่อนจะตอบ"ข้าก็เดินทางมากับขบวนเสบียงน่ะสิ มาพร้อมพี่ชายของท่าน"เมื่อได้ยินว่าเย่หลีมาพร้อมกับฟ่านหลิ่น ในใจของฟ่านเฉินก็พลันขมขื่นขึ้นมา นางมาพร้อมพี่ชายของเขา ไม่คิดว่าเวลาเพียงไม่นานความสัมพันธ์ของคนทั้งสองจะก้าวหน้ามาถึงขั้นนี้แล้วที่นางเคยบอกว่าไม่ชอบพี่ชายเขา คงเป็นเพราะนางจะยังไม่รู้หัวใจตนเองใช่หรือไม่ เมื่อรู้แล้วนางจึงเลือกพี่ชายของเขาอย่างไม่ลังเลเมื่อเห็นว่าฟ่านเฉินเอาแต่เงียบ เย่หลีก็รู้สึกสงสัยไม่น้อย อันใดกัน ไม่เจอกันนานก็ไม่มีเรื่องจะสนทนากันแล้วหรือเมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงเอ่ยถามเขาอีกครั

  • สามีข้าหาใช่ตัวร้ายอีกต่อไป   บทที่ 42 เดินทางตามหัวใจกลับคืน

    เย่หลีนั่งอยู่ในเรือนนั้นอีกสักพัก ก่อนที่นางจะตัดสินใจเรื่องราวบางอย่างได้ ก่อนกลับนางได้บอกกับอาหลันว่าให้นำชุดแต่งงานสองชุดนั้นส่งกลับไปให้นางที่จวนตระกูลเย่ด้วย อาหลันรับคำ เย่หลีพยักหน้ารับก่อนจะกลับจวนของตนไปเมื่อเย่หลีกลับมาที่จวนนางก็จัดการล้างหน้าของตนให้สะอาด ทำเหมือนกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เช้าวันต่อมานางก็ได้ยินข่าวหนึ่ง นับว่าเป็นข่าวดีของแคว้นซ่ง เมื่อมีจดหมายจากชายแดนว่าครั้งนี้ได้รับชัยชนะต่อเนื่องกัน พวกกบฏแคว้นฉีระส่ำระสาย เรื่องนี้สร้างความดีใจต่อฮ่องเต้ฟ่านหมิงจิ้นไม่น้อย เดิมทีเขาคิดว่าหากฟ่านเฉินกลับมาอาจจะมอบตำแหน่งดี ๆ ใหบุตรชาย เพราะยามนี้เหล่าขุนนางต่างถกเถียงกันว่าคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งองค์รัชทายาทก็คือหลิงอ๋อง เพราะการศึกที่ชนะได้ในครั้งนี้เก้าในสิบส่วนเพราะเป็นความปรีชาสามารถของหลิงอ๋องแต่ทว่านอกจากจดหมายของทางการทหารแล้ว กลับมีจดหมายของฟ่านเฉินแนบมาด้วย เมื่อเขาเปิดออกก็ถึงกับทอดถอนใจออกมาฟ่านเฉินบอกว่าไม่ต้องการตำแหน่งใดทั้งสิ้นเพราะหลังจบสงครามก็จะไม่ขอกลับเมืองหลวงอีก จะใช้ชีวิตอยู่ที่ชายแดนเยี่ยงคนธรรมดาสามัญ นับแต่นี้ท่องเที่ยวไปทั่วใต้หล้า ไม่

  • สามีข้าหาใช่ตัวร้ายอีกต่อไป   บทที่ 41 เรือนหอ

    "พี่สาวท่านกำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือ"เย่หลีที่กำลังคิดสิ่งใดไปเรื่อยเปื่อยพลันได้สติกลับคืนมาเมื่อเย่หลิงเอ่ยถามตน นางหันไปยิ้มให้น้องสาวก่อนจะส่ายหน้าไปมา แล้วจึงเอ่ยกับเย่หลิง"ข้าจะไปหาที่เดินเล่นสงบใจเสียหน่อย อีกไม่นานจะกลับมา""เจ้าค่ะ"เย่หลีเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นเดินไปพร้อมกับเถาเป่า เดิมทีนางอยากนั่งอยู่เงียบ ๆ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดอยู่ ๆ นางจึงอยากจะเดินเล่นรอบ ๆ จวนองค์ชายรองที่ยามนี้กลายเป็นจวนหลิงอ๋องเสียหน่อย"เจ้าไม่ต้องตามข้ามา รออยู่ตรงนี้ก็พอ""เจ้าค่ะคุณหนู"เถาเป่าพยักหน้ารับเพราะไม่กล้าขัดคำสั่งเจ้านาย เย่หลีเดินตามทางมาเรื่อย ๆ ยามนี้โดยรอบจวนอ๋องมีดอกไม้และใบไม้เขียวชอุ่มให้ความรู้สึกที่สบายตาไม่น้อยเลย สายลมพัดเข้ามาปะทะใบหน้าของนางเล็กน้อย เย่หลีมองไปโดยรอบด้วยแววตาที่วูบไหว อยู่ ๆ นางก็หยุดฝีเท้าอยู่ที่ด้านหน้าเรือนแห่งหนึ่งมันคือเรือนที่นางเคยอยู่ในชาติก่อนที่จวนแห่งนี้เดิมทีมีแต่ความทรงจำที่ขมขื่นและเจ็บปวดมากมาย แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดนางจึงอยากจะมองมันให้ชัดเจนอีกสักคราราวกับว่านี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่นางจะได้เยียบย่างเข้ามาในที่ที่เป็นความหลังแห่งนี้ราวกับภา

  • สามีข้าหาใช่ตัวร้ายอีกต่อไป   บทที่ 40 ล้างบางคนชั่ว

    เวลาผ่านมาร่วมหลายวัน ในที่สุดอาการบาดเจ็บของฟ่านเฉินก็หายดีจนเป็นปกติ เพราะได้รับบาดเจ็บระยะนี้จึงได้รับอนุญาตให้ไม่ต้องเข้าร่วมประชุมยามเช้าที่วังหลวงหลังจากกินมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็มุ่งหน้ามาที่วังหลวงเพื่อเยี่ยมเยือนบิดา ฮ่องเต้ฟ่านหมิงจิ้นเมื่อเห็นว่าบุตรชายไม่เป็นอันใดแล้วก็ดีใจไม่น้อย ฟ่านเฉินอยู่สนทนากับบิดาต่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะขอตัวกลับเมื่อเดินออกมาแล้ว เขากลับยังไม่ได้ออกจากวังหลวง ชายหนุ่มเดินตรงมาที่คุกหลวงซึ่งเป็นสถานที่กักขังสวีกุ้ยเฟยเอาไว้ นางยังไม่ถูกลงโทษ เพราะเสด็จพ่อเดิมทีก็เหมือนจะมีเยื่อใยต่อนางอยู่ไม่น้อยเขาเดินเข้ามาในคุกหลวงที่มืดมิด ได้กลิ่นสาบจาง ๆ โชยมาต้องนาสิกเป็นระยะ แต่ทว่าชายหนุ่มกลับหาได้สนใจแม้แต่น้อย เขาเดินตรงมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าห้องขังห้องหนึ่ง เมื่อมองเข้าไปก็พบกับสตรีวัยกลางคนที่กำลังนั่งพิงกำแพงอยู่ ใบหน้าของนางที่เคยงดงามยามนี้แก่ชราลงไปหลายปี ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าสกปรกมอมแมม เมื่อได้ยินเสียงห้องขังเปิดออกนางจึงหันมามอง เมื่อพบว่าเป็นฟ่านเฉิน นางก็รีบลนลานเข้ามากอดเขาเอาไว้ ก่อนจะเอ่ย"เฉินเอ๋อร์ ช่วยแม่ด้วย ได้โปรดช่วยแม่ด้วย

  • สามีข้าหาใช่ตัวร้ายอีกต่อไป   บทที่ 39 ขมขื่น

    ยามนี้ฟ่านเฉินกำลังควบม้ามุ่งหน้าตรงมาที่จวนของฟ่านหรง เมื่อมาถึงเขาก็สั่งให้คนค้นทั่วทั้งจวน หลังจากสำรวจโดยรอบอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ถึงกับส่งเสียงเหอะออกมาคาดเดาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตระกูลสวีก่อนหน้านี้จะต้องเป็นฝีมือของฟ่านหรงถึงสิบส่วน คนของเขาบอกว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนสวีกุ้ยเฟยคลุ้มคลั่งแทบเสียสติเพราะตราคำสั่งทางทหารของบิดานางหายไป เขาเคยเห็นตราสั่งการทางทหารนั้นมาก่อน ย่อมจำได้เป็นอย่างดี การที่ฟ่านหรงหนีไปครั้งนี้ย่อมไม่ได้หนีไปตัวเปล่า แต่เขานำกองกำลังนั้นไปด้วย หากเป็นเช่นนี้ก็ย่อมอันตรายมากยิ่งนักเมื่อเขาออกมาจากจวนฟ่านหรงก็พบกับเย่จิ้นอันที่ควบม้าตามมา ชายหนุ่มมองฟ่านเฉินครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"องค์ชายรอง คนเล่า เขาหนีไปได้เช่นไร เห็นอยู่ว่าพิการเช่นนั้นไปแล้ว"ฟ่านเฉินมองเย่จิ้นอันก่อนจะเอ่ยตอบ"ถึงเขาจะพิการ แต่คนของเขาฝีมือไม่ได้ด้อย ข้าเชื่อว่าเขาต้องหนีไปพร้อมกับตราคำสั่งทางทหารของสวีกุ้ยเฟย อีกทั้งการที่ทหารในค่ายถูกโยกย้ายไปก่อนหน้านี้ล้วนเป็นฝีมือของเขารวมไปถึงการที่จวนตระกูลสวีเกิดเหตุในคืนนั้นก็เป็นฝีมือเขาด้วยเช่นกัน""เกิดการหักหลังกันเช่นนั้นหรือ""ถูกต้อง"เ

  • สามีข้าหาใช่ตัวร้ายอีกต่อไป   บทที่ 38 งานเลี้ยงของสวีกุ้ยเฟย

    ฟ่านเฉินเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์นอกเหนือความคาดหมายทำให้เขารับมือไม่ได้ จึงบอกให้เย่จิ้นอันจับตาดูฟ่านหรงเอาไว้เย่จิ้นอันพยักหน้ารับคำ เอ่ยปากอำลากลับมาที่จวนของตนเรื่องนี้เขาได้ปรึกษากับบิดาก่อนหน้านี้แล้ว ท่านพ่อเองก็คอยช่วยเหลือพวกเขาอย่างลับ ๆ อีกอย่างค่ายทหารที่ฟ่านเฉินบอกก็เป็นความจริง ชายหนุ่มนั่งสนทนากับบิดา ก่อนจะเอ่ย"ท่านพ่อ ก่อนหน้านี้ความฝันของหลีเอ๋อร์เหมือนจะเป็นจริงหลายส่วน แต่ว่าไม่ตรงกับฟ่านเฉิน เขาไม่ได้เลวร้ายหรือคิดแย่งบัลลังก์ เรื่องนี้ท่านคิดเห็นเช่นไร"แม่ทัพใหญ่เย่มีท่าทางครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้า"บางทีความฝันก็อาจจะไม่เป็นจริงเสมอไป เอาเถิด เจ้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำก็ทำอย่างรอบคอบ หากต้องการความช่วยเหลือพ่อจะคอยช่วยเจ้าอีกแรง ไว้จับคนร้ายได้เมื่อไหร่และเปิดโปงคนชั่วได้สำเร็จ คาดว่าเรื่องนี้คงจะทำให้ฝ่าบาทปวดหัวไม่น้อยเลย เรื่องนี้พ่อไม่ได้ทูลฝ่าบาทเพราะเกรงว่าอาจกระทบกับแผนการที่พวกเจ้าลงมืออยู่ แต่อย่างไรพ่อจะคอยช่วยเหลืออยู่ห่าง ๆ”"ขอรับท่านพ่อ"เย่จิ้นอันพยักหน้าแล้วขอตัวเดินออกมา ระหว่างทางได้พบกับเย่หลีที่เพิ่งเดินกลับมาจากเรือนใหญ่พอดี สองพี่น้องยิ้ม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status