“หยวนซู เป็นเจ้าที่เริ่มก่อน เมื่อข้าอดทนไม่ไหว จึงเกิดเรื่องเช่นนี้”
ยามนั้นเนี่ยหยวนซูที่อยู่ในสระน้ำกราดเกรี้ยวหนัก และนางกำลังหาทางขึ้นมาด้านบน แล้วหลบหนีเขาไปเสียแต่บังเอิญว่า นางเหยียบก้อนหินในน้ำแล้วลื่น จนเป็นเหตุให้ร่างเสียหลัก ก่อนจมหายลงไปในผิวน้ำ และยามนี้ห่าสายฝนตกลงมาราวกับฟ้ารั่ว หญิงสาวหวาดกลัวจับจิต ไม่อยากตายซ้ำสอง
หลายสิ่งพุ่งเข้ามาในหัวคือเรื่องต่าง ๆ ที่เคยทำให้โลกเก่าก่อน แน่นอนว่า เนี่ยหยวนซูย่อมไม่ใช่หญิงสาวแสนดี นางเป็นคนสีเทา ๆ ซึ่งเลี้ยงดูตัวเองด้วยลำแข้งคู่งามนี้ หากสุดท้ายชีวิตพลิกหลายตลบกระทั่งวิญญาณหลุดออกจากร่างและมาอยู่ในโลกที่มีระยะเวลาห่างกันนับพันปี
สองมือเรียวมือไขว่คว้าไปข้างหน้าสะเปะสะปะ พร้อมกันนั้นภาพดำมืดก็ทาบทับทุกอย่างจนมองไม่เห็นสิ่งใด!
ร่างกายหนาวสะท้าน และการหายใจยากเหลือเกินที่จะสูดอากาศเข้าปอด ชีวิตนางจบสิ้นลงแล้วหรือ มิทันได้พบความสุข ยังไม่ได้พิสูจน์ตนเองว่าเป็นฮูหยินม่ายที่หยัดยืนอย่างกล้าแกร่ง โดยไม่ต้องอาศัยบารมีสามี นางก็ต้องจากไปอย่างน่าเศร้า
ฝ่ายจิ่งหลัวคุนสบถออกมาชุดใหญ่ เขาเสียสติไปแล้วแน่ ๆ เรื่องนี้ไม่ต้องสืบความใด ๆ ทั้งเป็นคนชั่วช้าถึงเพียงนั้น ทำร้ายสตรีไร้ทางสู้
เขาพยายามดึงสติตนกลับ ด้วยพื้นนิสัยเป็นชายอารมณ์ร้อน มักฉุนเฉียวขาดสติและยังผีเข้าผีออก ทั้งหมดรวมอยู่ในตัวตนของบุรุษคนนี้ และมันระเบิดขึ้นเมื่อถูกเนี่ยหยวนซูกวนน้ำให้ขุ่น นางช่างเป็นคู่เวรคู่กรรม เป็นผีเน่ากับโลงผุที่เกิดมาเพื่อเขาเสียจริง
และเขาไม่เข้าใจตัวเอง เหตุใดถึงร้ายกับนาง นั่นอาจเป็นเพราะอดีตระหว่างเขากับนางมีหลายสิ่งที่แค้นใจกัน แต่อย่างไรก็ตาม เนี่ยหยวนซูบอบบางถึงเพียงนี้ แต่นางท้าทาย ชอบทำให้เขาคลั่งจนเสียสติ และควบคุมอารมณ์ไม่ได้
เมื่อเห็นร่างหญิงสาวหายไปในผิวน้ำ เขาจึงกระโดดตามลงไป
ยามนั้นต้องใจหาย คลองเส้นนี้ผ่านจวนของเขา เป็นทางน้ำที่ออกไปถึงนอกเมือง ปกติไม่ได้ลึกหรือดูมีอันตรายอันใด ทว่ายามนี้เขากลับหาเนี่ยหยวนซูไม่พบ
หัวใจชายหนุ่มร้อนรน ความรู้สึกกลัวเกิดขึ้นท่วมท้นใจ เขาทำสิ่งผิดพลาดหลายหน แต่ครั้งนี้เขาขวัญเสีย ราวกับเป็นช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่กับมารดา ก่อนนางจะจากไป!
ฝ่ายนั้นเป็นสตรีจิตใจเหี้ยมโหด นางเป็นลูกสาวคนเดียวของสำนักคุ้มภัยชื่อดัง เก่งด้านบู๊ ทั้งยังเอาแต่ใจ บ้าบิ่นเกินชาย เหนืออื่นใดนางหึงหวงจิ่งเทามาก จนเขาแทบไม่อาจเข้าใกล้สตรีนางอื่น ทั้งเกิดเหตุนองเลือดไม่หยุดหย่อน เพราะตงเสวียนหลี่ สังหารสตรีทุกคนที่เข้าใกล้จิ่งเทา แม้แต่สตรีที่ถูกนำมาให้นมแก่จิ่งหลัวคุนในยามที่เขาแบเบาะ เพราะตงเสวียนหลี่ไม่มีน้ำนม และพวกนางยังถูกฆ่าตายอย่างอนาถ
ด้วยความอำมหิต ไร้เหตุผล เจ้าอารมณ์ จึงไม่น่าแปลกใจที่พื้นนิสัยเหล่านี้จะติดตัวจิ่งหลัวคุนมา และก่อนมารดาเสียชีวิตก็เป็นเขาที่เห็นภาพนางคลุ้มคลั่ง ไล่ฆ่าผู้อื่นทั่วทั้งจวนจิ่ง สุดท้ายก็ตายด้วยน้ำมือตาของจิ่งหลัวคุน
ลึก ๆ แล้วจิ่งหลัวคุนคล้ายมองเห็นเงามารดาในตัวตนของเนี่ยหยวนซู แน่นอนพวกนางไม่ใช่คนเดียวกัน ทว่าความร้าย ความเอาแต่ใจ ทั้งยังชอบสร้างปัญหาของหญิงสาวส่งผลให้จิ่งหลัวคุนเกิดภาพหลอนในใจ
มือใหญ่ ๆ ควานหาร่างของเนี่ยหยวนซูอยู่หลายอึดใจ เขารู้ว่าหากช้ากว่านี้นางอาจได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิต สายฝนตกลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน และเวลาผ่านไปนานจนน่าเป็นห่วง กระทั่งหญิงสาวพุ่งมาเกาะที่เอวของเขา เกาะแน่นไม่ยอมปล่อย
“อาซู...”
จิ่งหลัวคุนเรียกนาง ก่อนพาขึ้นไปยังบนบก ร่างสูงใหญ่ทะยานเข้าไปหลบฝนในเรือนรับรองซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด
ยามนั้นหญิงสาวกลัว สับสน เพ้อจัด ด้วยสติหลุดหายไปชั่วขณะ
“คนบัดซบ ผู้ชายกลับกลอก ชาตินี้อย่าคิดว่าท่านจะได้หัวใจข้า!”
หวีดร้องจนเสียงแหบแห้งแล้วก็ตบตีเขา ฝ่ามือเรียวฟาดไม่ยั้งที่ใบหน้าคร้ามคม หากคงไม่สาแก่ใจ นางจึงกำหมัดแน่นแล้วต่อยรัว ๆ ใส่แผงหน้าอก ต้นแขน ฝ่ายเขาก็ปล่อยให้นางระบายโทสะจนกว่าจะพอใจ
“อยากให้ข้าตายหรือไร ถึงจะสาสมใจ หากเป็นสตรีของแม่ทัพใหญ่ ไยต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ แล้วถ้าเกลียดชังข้าทำไมถึงต้องตามตอแย เหตุใดถึงไม่ปล่อยข้าไปเสีย ท่านไม่ใช่ลูกผู้ชาย ไร้ความคิด ลาโง่ ลูกหมาหลัวคุน!”
ถึงออกแรงใส่ร่างแกร่งไปหลายครั้งหลายหน แต่ยังไม่หายแค้น นางจึงกระชากเสื้อของเขา ดึงออกอย่างรุนแรง เมื่อคลำเห็นหัวไหล่หนาก็อ้าปากกว้างแล้วกัดเนื้ออีกฝ่ายสุดแรง
เมื่อเขี้ยวคมสร้างบาดแผลที่ร่างกายจิ่งหลัวคุน โทสะเนี่ยหยวนซูเหมือนจะค่อย ๆ มลายลงทีละนิด นางได้กลิ่นคาวจัดในปาก ตามด้วยความอุ่นซ่านระคนเค็มปร่าอยู่สักหน่อย
หญิงสาวถ่มเลือดอีกฝ่ายทิ้ง ดวงตานางลืมขึ้นช้า ๆ แล้วร้องไห้ราวกับเสียใจอย่างที่สุด เมื่อต้องพบกับผู้ชายอย่างจิ่งหลัวคุน
“ท่านเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ข้าต้อง...มีชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน เป็นสตรีที่ไม่อาจก้าวไปข้างหน้า หรือหวนคืนกลับหลัง ทะ...ท่าน...ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะบุรุษแซ่จิ่ง นามหลัวคุน”
สิ่งที่เนี่ยหยวนซูกล่าว คือความคิดและห้วงคำนึงของเจ้าของร่างนี้ จริงอยู่นางหลงใหลเสน่ห์อีกฝ่าย ตกหลุมรักเขาเฉกเช่นดรุณีน้อยที่มีรักครั้งแรก ทว่าหลังเข้าห้องหอด้วยกัน บุรุษผู้นี้กลับเป็นมารร้ายที่กักขังวิญญาณนางเอาไว้ ไม่ให้ไปผุดไปเกิด ทั้งหมดคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า หากเนี่ยหยวนซูไม่พยายามเปลี่ยนแปลงโชคชะตานี้
“อาซู...เกลียดข้าถึงเพียงนั้นหรือ...และต้องทำอย่างไร เจ้าจึงจะมองข้าด้วยสายตาอื่นที่ไม่ใช่ศัตรูกัน” คำถามของชายหนุ่มสร้างบาดแผลลึกเสียยิ่งกว่าการที่นางกัดเขาที่หัวไหล่ด้วยซ้ำ
7 เดือนต่อมา หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย เนี่ยหยวนซูที่ยามนี้ท้องโตใกล้คลอด มีความสุขในการกินกว่าใคร ส่วนจิ่งหลัวคุนแม้จะเลิกแพ้อาหารแทนนางและไม่ค่อยเป็นลมหรือมีอาการหน้ามืด แต่เขากลับเป็นห่วงภรรยาชนิดที่เรียกว่าไม่ยอมห่างไปไหน ด้วยได้ยินเรื่องสตรีเสียชีวิตระหว่างคลอดบุตร รวมถึงอันตรายหลังการคลอด อีกทั้งสิ่งที่อาจเกิดกับชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลก ทั้งหมดเป็นเพราะเขาฟังผู้อื่นมากเกินไป ทั้งยังอ่านตำราต่างๆ เยอะ เรื่องนี้เนี่ยหยวนซูเข้าใจว่าเป็นเพราะเขารักและห่วงนาง “ท่านพี่ ข้าเพียงแค่อยากเดินเล่นสักหน่อย...” เนี่ยหยวนซูบอกเขา เช้านี้นางกินทั้งของคาวของหวานแล้วยังมีผลไม้อีก “แต่หมอบอกให้เจ้าอยู่นิ่งๆ ช่วงนี้ใกล้กำหนดที่ลูกจะลืมตาขึ้นมาดูโลกแล้ว” “ท่านพูดถูก แต่ให้นั่งๆ นอนๆ ไม่ขยับตัว มันทำให้ข้าอึดอัด บางทีก็เครียด ซึ่งอาจส่งผลถึงเด็กน้อยของเรา” นางว่าจบจึงมองชายหนุ่ม อ้อนวอนเขาด้วยสายตา “ได้ แต่แค่เดินที่สวนด้านหน้าเท่านั้น เราจะไม่ไปมากกว่านี้” เนี่ยหยวนซูไม่อยากขัดใจสามี แค่เขาให้นางออกจากเร
จิ่งหลัวคุนไม่อาจยืนนิ่งเฉย อาการเขาคล้ายคนจะหน้ามืดตามด้วยการวูบหมดสติ ยามนั้นแม้จิ่งป๋อฉุดแขนพี่ชายไว้ แต่กลายเป็นว่าเขาถูกเตะเสียนี่ แถมไม่ใช่เตะธรรมดา หากส่งผลให้จิ่งป๋อร้องโอดโอยอย่างน่าสงสาร ด้วยใครกันจะทนแรงของอดีตแม่ทัพหนุ่มไหว โดยเฉพาะอีกฝ่ายคือนักแสดงในโรงละคร วันๆ ร้องเพลง เล่นดนตรี สรรหาเรื่องรื่นเริงเท่านั้น ยามนี้จิ่งป๋อไม่ใช่หนุ่มน้อย ปีนี้อายุเขาสมควรออกเรือน ทว่าอย่างที่พี่ชายห่วงคือจนป่านนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจิ่งป๋อสนใจสตรีหรือบุรุษกันแน่ และที่จิ่งหลัวคุนแสดงท่าทีขึงขังก่อนทำร้ายน้องชาย เป็นเพราะเขา อ้างว่าตนสุขภาพดี ทว่าสภาพอย่างที่เห็น เขาดูแย่หนัก หน้าซีดท่าทางอิดโรย ฝ่ายจื่อเยว่มองคนเป็นพ่อสลับอาหนุ่มหล่อ ก่อนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย และถามว่า “เมื่อเช้าท่านพ่อ แพ้อาหารใดหรือไม่เจ้าคะ” นางถามอย่างซื่อๆ นั่นแหละ ดวงตากลมโตมองจิ่งหลัวคุนอย่างต้องการคำตอบ “เหตุใดถึงถามพ่อเช่นนี้ เรื่องพรรคนั้นย่อมไม่เกิดขึ้น” “เอ แต่ลูกได้ยินเสียงคล้ายคนอาเจียน โอ้กอ้ากหลายหนเชียว” และสายตาลูกสาวกับน้องชายหันไปทางจิ่งห
ผิดแต่เรื่องทายาทอีกฝ่ายที่เสี่ยวฉุนไม่ได้รายงานไป เนื่องจากตกลงกับเกอสวินไว้ว่าอยากให้เนี่ยหยวนซูกับจิ่งหลัวคุนได้ปรับความเข้าใจกันเสียก่อน และช่วงสองสามปีให้หลังนางติดต่อเกอสวินไม่ได้เช่นกัน จวบจนได้พบหน้าอีกครั้ง เสี่ยวฉุนก็ต้องยอมรับว่าเกอสวินเป็นหนุ่มเต็มตัว และเขาขโมยหัวใจนางไปหมดแล้วช่วงเช้าวันส่งตัวเจ้าสาว ฝานเหอมีสีหน้าไม่สู้ดี ด้วยของที่เตรียมเอาไว้ในห้องหอหายไป รวมถึงพัดของเจ้าสาวแล้วก็ผ้าคลุมหน้า สิ่งที่สำคัญมาก ด้วยสองสิ่งนี้เกี่ยวพันถึงเจ้าบ่าวด้วย แต่ยังโชคดีที่มีชุดสำรองเอาไว้“ไม่มีเจ้าคะเถ้าแก่เนี้ย” ฝานเหอบอกเนี่ยหยวนซู และนางไม่ได้เซ้าซี้ถามสิ่งใดหายไปอีกบ้าง แต่กวาดตามองหาไปทั่วๆ ห้องก่อนก้าวออกไปด้านนอก ยามนั้นเสียงดนตรี เสียงโห่ร้องดังเป็นระยะและอาหารเครื่องดื่มมีให้กินอิ่มหนำเป็นอย่างมากร่างสูงของจิ่งหลัวคุนเดินมาหาหญิงสาว ใบหน้าเขาแดงด้วยฤทธิ์สุรา“อาซู... เห็นน้องสามหรือไม่”เนี่ยหยวนซูถอนหายใจเล็กน้อย และถามว่า “นี่คงไม่ใช่ว่า ท่านกับคุณชายสามจะวางแผน ร้ายๆ กับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวหรอกนะ”“โอ้มิได้ ไม่มีการมอมสุรา หรือใส่ยากำหนัดในอาหารทั้งนั้น อาซูก็รู้ บ่า
ตอนพิเศษของหมั้นต่างหน้าจิ่งหลัวคุนไม่ได้รับใช้ทางด้านทหารแคว้นเฉิงโจวมาได้เกือบสามปี และเขาดูมีความสุข หัวเราะบ่อยครั้ง ใบหน้าคมคายประดับรอยยิ้มให้เห็นบ่อยๆ แม้ตัวเขาเสียดายหลายสิ่งโดยเฉพาะประสบการณ์ที่สะสมมา แต่ชีวิตย่อมต้องเดินหน้าส่วนภรรยาเขา เนี่ยหยวนซูนั้นอยากเป็นเถ้าแก่เนี้ยคนดังดูแลการค้าทั่วทั้งอาณาจักรอันกว้างใหญ่ และปากบอกอยู่เสมอว่าไม่สนใจเขา ไม่ว่าจะทำสิ่งใดต่อจากนี้ให้จิ่งหลัวคุนเลือกเอง แต่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคืนตำแหน่งทางการทหารก็แอบเสียดายไม่ได้ ดังนั้นจึงต่อว่าเขาพอให้หายหงุดหงิดใจ ด้วยหากเขายังเป็นแม่ทัพแคว้นเฉิงโจว อย่างไรคงมีความสามารถเจรจาค้าขายกับทางการและแคว้นพันธมิตรได้“ตอนนี้ นอกจากเป็นลาโง่ ท่านยังเป็นฉลามตาบอด ว่ายน้ำไม่รู้ทิศทาง คิดอย่างไร ถึงทิ้งตำแหน่งทรงเกียรติแล้วมาเป็นโจรสลัด!”จิ่งหลัวคุนหัวเราะ และเอ่ยว่า“เป็นเพราะต้องการแบ่งเบาภาระภรรยา การค้าขายทางน้ำ นับว่าสำคัญ ข้าจึงอยากทำหน้าที่เป็นหน่วยพิเศษคุ้มครองสินค้าทุกอย่างที่เจ้าขายและต้องการซื้อหาให้ปลอดภัยที่สุด”“ฮึ... แล้วคิดว่า เงินที่ท่านหาได้จากการเป็นคนส่งของ มันจะพอให้ข้าถลุงเล่นหรือ”ชายหน
เนี่ยหยวนซูส่ายหน้า “อย่าเลย...จะเป็นการเสียเวลาโดยเปล่า ข้ากำลังต้องการคำตอบจากพ่อค้าเรือเหล่านี้ หากเขายินยอมขายให้ข้า พวกท่านจะได้ทำการเก็บอากรเพื่อเข้าหลวงอย่างถูกต้อง ในครั้งต่อไปสินค้าทุกอย่างที่มาถึงเมืองเป่ยซาน ไม่ว่าจะค้าขายสิ่งใดต้องจ่ายเงินเข้าหลวง!”น้ำเสียงเนี่ยหยวนซูฟังแล้วก็เด็ดขาด แต่นั่นคือการป้องกันปัญหาในภายภาคหน้า เพื่อไม่ให้ใครคิดเอาเปรียบ หรือนำสินค้าไร้คุณภาพมาหลอกขายในราคาที่สูงเกินกว่าเหตุเมื่อเนี่ยหยวนซูเอ่ยจบ ร่างสูงใหญ่ของบุรุษที่มีผมหยักสลวยเส้นเล็กสีปีกอีกา ก้าวลงมาจากเรือลำใหญ่ที่สุดดวงตาคมกริบจ้องมาที่เนี่ยหยวนซู ในวาบแรกที่สายตาคนทั้งคู่ประสานกัน เป็นเหตุให้หญิงสาวต้องหวั่นไหว“เอ...คนตัวโต ท่านเป็นใครถึงกล้ามองมารดาข้าเช่นนี้ ไม่กลัวข้าควักลูกตาท่านหรือ” จื่อเยว่เอ่ย และวางท่าราวกับเป็นผู้พิทักษ์เนี่ยหยวนซู“เยว่เอ๋อร์อย่าได้เสียมารยาทกับผู้อื่น”“มิได้นะท่านแม่...ข้าเป็นลูกย่อมต้องปกป้องท่าน จะให้บุรุษใดมามองเช่นนี้ ถูกต้องที่ไหนกัน”“ฮ่า ๆ ๆ ลูกของอาซูหรอกหรือ...มิน่า ถึงขี้เหร่เช่นเจ้า และยังเป็นแม่นางน้อยด้วย”คนผู้นั้นเอ่ยและหัวเราะชอบใจ“ไร้มา
บทส่งท้ายเนี่ยหยวนซูคาดไว้แล้วว่า เมื่อวันที่นางสามารถยืนด้วยลำแข้งของตน มีกิจการใหญ่โต ขยายสาขาไปมากมาย ย่อมมีวันที่สินค้าขาดแคลน และยามนี้ต้องผลิตถ่านที่ทั้งหอม ไร้ควัน ให้ความร้อนได้นาน ที่ต้องส่งเข้าคลังหลวงเพื่อเป็นของวังหลังโดยเฉพาะ แต่กลับขาดวัตถุดิบซึ่งก็คือไม้ดำหอม นอกจากนั้นยังมีชุดหนังกระดาษที่ใช้ในการรบยุคใหม่ เนื่องจากน้ำหนักเบาป้องกันสนิมได้ดีสำหรับเมืองติดแม่น้ำหรือชายทะเล“วันนี้จะมีเรือการค้าจากชาวต่างชาติ และเมืองทางใต้เข้ามาหลายลำ พวกเขาเป็นชาวเล สกุลเก่าแก่เจ้าค่ะ”เนี่ยหยวนซูได้ยินเรื่องนี้มาพักใหญ่ ทั้งเป็นปัญหาต่อการค้านางมิน้อย การค้าทางเรือยังไม่ได้มีการควบคุมดีพอ อีกทั้งมีสินค้าหลากหลาย ผู้คนให้ความสนใจทุกครั้งที่เดินทางมาถึงสร้างความตื่นตาตื่นใจต่อชาวเมือง ขุนนางน้อยใหญ่ และเศรษฐีต่างออกมาใช้เงินซื้อหาสิ่งของต่าง ๆ เข้าเรือน พลอยให้ช่วงเวลาดังกล่าวร้านค้าในเครือสกุลเนี่ยได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมานางจึงเปิดโต๊ะเจรจากับทางการ ขอให้สินค้าทุกชนิด ลงทะเบียนก่อนทำการซื้อขาย ในภายภาคหน้าต้องเข้าร่วมสมาคมของเมืองเป่ยซาน ก่อนนำมาวางขายได้ มิเช่นนั้นการค้าในเมืองนี้คงเ