“พี่กลับไปซะเถอะค่ะ ที่นี่ไม่มีใครเขาต้อนรับพี่หรอก”
เมธาวีเบ้ปากขณะที่วิ่งตามอดีตพี่สะใภ้เข้ามาให้บ้าน นี่นับว่าโชคดีที่พี่ชายของเธอได้พากวินตราออกไปข้างนอกแล้ว หากให้ทั้งสามมาเจอกันตอนนี้ ความสัมพันธ์ของพี่ชายกับเพื่อนรักที่เธอหวังจะให้ลงเอยคงอลเวงวุ่นวายไม่หยุดแน่ ๆ
“นี่น้องสามี ลืมอะไรไปหรือเปล่า บ้านหลังนี้กรสร้างให้พี่นะ ไร่นี่แทบทั้งหมดล้วนมีพี่เป็นแรงบันดาลใจ คิดจะไล่กันไปแบบนี้ทำได้เหรอ” หญิงสาวผู้เคยเป็นดั่งนายหญิงและผู้ปกครองไร่เอ่ย ทำท่าทางวางอำนาจราวกับเธอรู้ดีว่าหากกลับมาก็ไม่ยากที่จะมายืนที่จุดเดิม
“ทำได้สิคะ หนูทำเรื่องให้พวกพี่จบกันแล้วสมบัติก็แบ่งให้ไปแล้วยังจะต้องการอะไรอีก”
“ฉันจำเป็นต้องบอกเธอเหรอ เอาเป็นว่าพี่จะรอกรอยู่ที่นี่ ไว้กรกลับมาพี่จะคุยกับเขาเอง...ว่าไงลูก”
ชัญญาทำเป็นไม่สนใจน้องสะใภ้ที่กำลังหน้างอเพราะไล่ตัวปัญหาออกจากบ้านไม่ได้ และชัญญาก็ทำตามที่ว่า เธอเข้ามาทำทีเล่นกับลูกราวกับว่าคิดถึงลูกมากทั้งที่ตลอดเวลาปีกว่าที่เธอหายก็ไปไม่เคยติดต่อมาสักครั้ง
“เรายังเหลือพวกเนื้อที่ต้องซื้อเพิ่มนะคะ” ใบหน้าหวานก้มลงมองจอสมาร์ตโฟนของตัวเองขณะที่นิ้วเรียวไล่เลื่อนเช็กลิสต์ที่ซื้อมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
“แล้วคุณล่ะ อยากได้อะไร”
“คะ” กวินตราละสายตาจากจอมือถือหันไปมองคนข้าง ๆ ที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกริ่ม เธอรู้สึกร้อนที่พวงแก้ม วันนี้เขาดูหล่อเสียจริง หล่อกว่าทุกวันอีก
เธอรู้สึกราวกับตัวเองเป็นเด็กมัธยมวัยใสที่พอเจอคนหล่อก็ต้องเขินหน้าแดงแล้วยังทำตัวประหม่าน่าอายต่อหน้าเขาอีก
“ผมถามว่าคุณอยากได้อะไรหรือเปล่า”
“อืม ไม่รู้สิคะ ทุกวันนี้ก็กินอยู่บ้านคุณฟรีอยู่แล้ว ฉันยังมีอะไรที่ต้องอยากได้อีก งานก็มีทำสบายกว่าอยู่ที่กรุงเทพตั้งเยอะ” กวินตราพูดติดตลกแก้เขิน
“จริงเหรอครับ ไม่คิดอยากจะย้ายมาถาวรเหรอครับ”
“คะ” กวินตราเบิกตามองอีกคนที่ทำเป็นขำกลบเกลื่อนแล้วถอยรถออกจากซองเพื่อขับพาเธอไปซื้อสิ่งที่ยังขาดในลิสต์ต่อ
“เราไม่ซื้อในห้างเหรอคะ”
ปกติที่กรุงเทพหากเป็นเนื้อซื้อในห้างจะดีและปลอดภัยมากกว่า เนื่องจากไม่มีใครทราบแหล่งที่มาของเนื้อในตลาด ตาดีได้ตาร้ายเสีย เธอเคยไปซื้อหมูที่ตลาดมากินเพราะราคามันถูกแต่โชคร้ายดันไปเจอหมูมีกลิ่นสาบอะไรก็ไม่รู้แรงมาก ทำสุกยังไม่หายแล้วยังติดปากไปหลายวัน หลังจากวันนั้นกวินตราก็ไม่คิดจะซื้อเนื้อมั่วซั่วอีกเลย
“ผมรู้จักกับเจ้าของเขียงเนื้อน่ะ ถ้าจะซื้อเนื้อไม่มีที่ไหนสดและถูกกว่าเขียงเฮียซ่งอีกแล้ว” ชายหนุ่มพูดอย่างภูมิใจก่อนจะจอดรถแล้วดับเครื่องยนต์
เขาพาหญิงสาวเดินเข้าไปในตลาด กวินตรามองผักสดที่ชาวบ้านนำมาขายพบว่ามันสดมากอย่างกับพึ่งเด็ดมาจากต้น เธอมองเห็นผักกูดที่แม่บ้านเคยผัดให้กินวันก่อน เธอชอบมันมาก ๆ จึงได้คิดจะแวะซื้อไปให้พี่แม่บ้านทำให้ทานอีก
“เดี๋ยวค่ะ ผักสดมากเลยฉันอยากซื้อผักนี่ไปให้พี่แม่บ้านทำให้ทาน วันก่อนฉันกินอร่อยมาก ๆ เลยนะคะ”
ธัชกรเหลือบมอง เขาเดินกลับมาหยุดที่หน้าร้านขายผัก มียายวัยประมาณเจ็ดสิบนั่งอยู่หลังแผงขาย เธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มด้วยหน้าตายิ้มแย้มแล้วทักทาย
“พ่อเลี้ยงไม่เจอนานเลยนะคะ” หญิงชราเอ่ยทักแล้วหันไปยิ้มให้กวินตราที่ยืนอยู่ข้างหลัง “นั่นเมียใหม่เหรอคะพ่อเลี้ยง แหม่สวยจังเลยนะคะ เข้าใจเลือก”
กวินตรามองหน้าทั้งสองสลับกันไปมาก่อนจะโบกมือปฏิเสธแล้วบอกว่าตนเป็นแค่ผู้ช่วยที่พึ่งมาทำงานให้ธัชกรได้ไม่นานนี้เอง หลังจากซื้อเสร็จเขาจ่ายเงินแล้วเลือกผักมาอีกสองอย่างก่อนจะบอกไม่ให้ยายทอนเงิน หญิงชราดีใจฉีกยิ้มตอบรับจนริ้วรอยแห่งวัยปรากฏชัดมองตามทั้งคู่เดินออกจากร้านไป
ยังเดินไม่ถึงเขียงเนื้อเลยกวินตราก็แวะซื้อผักจนเต็มมือธัชกรแล้ว ผักมากมายที่นี่ทั้งสดทั้งราคาถูก เธอมีความสุขมากที่ได้มาที่นี่เพราะเงินที่เธอถือมาหากอยู่กรุงเทพคงซื้อได้ไม่กี่อย่าง แต่นี่ของเต็มมือธัชกรแล้วเงินยังเหลือเยอะเลย
“ให้ฉันช่วยถือมั้ยคะ” หญิงสาวเอ่ยถามขณะที่ทั้งคู่ถึงเขียงเนื้อพอดี
“ไม่เป็นไรครับผมถือไหว”
“อ้าวพ่อเลี้ยงวันนี้มาเองเลยเหรอครับ” ชายร่างท้วมที่หันมาเจอลูกค้าขาประจำเข้าพอดีจึงเอ่ยทักทายก่อน
กวินตรามองเขียงเนื้อไปรอบ ๆ รู้สึกตื่นตา เนื้อชิ้นใหญ่ถูกแขวนเอาไว้อย่างกับตากปลาแห้ง แล้วยังมีเนื้อชิ้นเล็ก ๆ มากมายวางกองกันอยู่ที่พื้นใกล้เขียง ทั้งเงยหน้าขึ้นมองพ่อค้าก็ยิ้มทักทาย เขาคาบบุหรี่ที่ปากไม่นานก็ดูดคำใหญ่จนหมดมวนทีเดียวก็ปาทิ้ง ใช้เท้าขยี้จนดับ มีผ้าสีขาวพาดอยู่ที่คอ มือถือปังตออันใหญ่หลังจากที่ธัชกรบอกจำนวนที่ต้องการไปเขาก็หั่นให้ทันทีอย่างแม่นยำทุกชิ้นที่ขึ้นตาชั่ง
ยังมีอะไรที่ต้องซื้ออีกมั้ยครับ ธัชกรขึ้นรถมาถามหญิงสาวหลังจากปิดประตูและรัดเข็มขัด
กวินตราไม่แน่ใจเธอรีบเอาลิสต์ที่จดไว้มาดูก็พบว่าของที่ต้องซื้อครบหมดแล้ว
“ครบแล้วค่ะ”
ธัชกรพยักหน้า เขาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะพูด “ยังมีเวลา”
“อะไรเหรอคะ”
“ไว้ผมค่อยบอกตอนไปถึงนะ”
ธัชกรพาผู้ช่วยสาวมาถึงร้านหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากตลาดนัก กวินตรามองไปที่แห่งนั้นด้วยความสงสัยก็เห็นว่ามันมีกระจก ในนั้นมีรถจอดอยู่หลายคันเธอจึงหันไปถามคนที่พามา
“คุณจะซื้อรถเหรอคะ”
“คิดว่าไงครับ ลงไปช่วยผมเลือกหน่อย”
กวินตรากระโดดลงจากรถกระบะคันใหญ่ ก่อนจะเดินตามร่างสูงเข้าไปภายในร้าน หญิงสาวมองธัชกรที่ทักทายเจ้าของร้านอย่างเป็นกันเอง จากนี้ก็เริ่มสงสัย ตั้งแต่ที่ตลาดแล้วธัชกรรู้จักคนเยอะจริง ๆ ขนาดเจ้าของร้านขายรถพอรู้ว่าธัชกรมาก็รีบออกมาต้อนรับด้วยตัวเองเลย
หลังจากธัชกรยืนคุยกับเจ้าของร้านอยู่ครู่หนึ่งก็เดินกลับมาหาผู้ช่วยสาวของตน กวินตราแอบเห็นเจ้าของร้านเดินกลับเข้าไปในห้องห้องหนึ่งที่มีกระจกล้อมรอบ แต่ยังไม่ทันได้สังเกตอะไรเสียงทุ้มดังก็ขึ้นข้าง ๆ จนเธอต้องหันไปมอง
“ไปเลือกมาสักคันสิ”
“อะไรคะ”
“รถน่ะ เอาไว้ไปขับตอนไปทำงาน”
“อ้าวทำไมคะ หรือคุณไม่อยากให้ฉันไปพร้อมกับคุณแล้วเหรอ” กวินตราเกือบจะหลุดความคาดหวังออกไปทว่ายังดีที่ยั้งเอาไว้ได้ทัน
“เปล่า ผมน่ะตื่นเช้าเกินไปเพราะต้องไปดูหน้างานให้คนงานก่อน ผมเกรงใจที่คุณต้องมาตื่นเช้าเพราะผมทุกวัน”
ธัชกรแอบเห็นกวินตรานั่งงีบทุกวันหลังจากที่กินข้าวเสร็จ ทุกวันเขาตื่นตีสี่เนื่องจากช่วงนี้ต้องเร่งทำห้องเพิ่มเพื่อรองรับลูกค้าที่ตามมาจากโซเชียล เป็นไปได้ก็อยากเร่งให้ทันช่วงเทศกาล ทว่ากวินตราเดิมทีก็มีหน้าที่แค่คอยประสานงานกับคนงานทั้งไร่และในโฮมสเตย์ และช่วยเขาดูแลความเรียบร้อย งานของเธอไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าขนาดนั้น อีกอย่างเขาจะได้ทำงานเต็มที่ไม่ต้องมาพะวงที่เธอต้องตื่นเช้าและลืมค่ำไปพร้อมกับเขาอีก
น้องสาวตัวดีก็จะได้เลิกบ่นเรื่องเขาใช้แรงงานกวินตราหนักเกินไปด้วย
อ้อ ที่แท้เขาก็จะซื้อรถให้เธอ ช่างเป็นเจ้านายที่ดีจริง ๆ เลยนะ
“ถ้าอย่างนั้นเอารถไฟฟ้าก็ได้ค่ะ คือ...ฉันขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นขับเป็นแต่รถเก๋งน่ะค่ะ”
“ครับ แต่ผมมีข้อแลกเปลี่ยน คุณต้องอยู่ที่นี่กับผม...ตลอดไป”
ธัชกรหันไปมองกวินตราแล้วพยักหน้าให้อย่างเข้าใจขณะที่เมธาวีเองก็ดูไม่ได้ใส่ใจเหมือนเมื่อก่อนแล้วเขาจึงตอบรับหลังจากที่ทานอะไรเสร็จวันนี้เมธาวีจะขอไปเดินตรวจงานกับกวินตราด้วย ส่วนธัชกรจะตามไปทีหลังเพราะว่าจะรออยู่คุยกับชัญญาก่อนในห้องรับแขกทั้งคู่ได้นั่งลงแล้วเปิดใจ ชัญญาเริ่มบทสนทนาทันทีไม่อ้อมค้อม“ฉันคิดดีแล้วนะคะ คือว่าฉันจะไปจากที่นี่”“คุณจะไปไหน อยู่ที่นี่ก่อนก็ได้ผมไม่ว่าหรอก ลูกจะได้อยู่กับคุณด้วย”ชัญญาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าธัชกรต้องพูดแบบนี้ เขาเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ“ฉันรู้ค่ะว่าคุณไม่ว่า แต่ฉันคงติดอยู่ที่นี่ตลอดไม่ได้หรอกนะคะ อีกอย่างไม่นานคุณก็จะแต่งงานใหม่ ถ้ามีเมียเก่าอยู่ด้วยมันจะดูน่าเกลียดไปมั้ย ฉันไม่อยากตกเป็นขี้ปากพวกเด็ก ๆ ในไร่” ชัญญาพูดทีเล่นทีจริง“ใครจะกล้าว่าคุณ ที่นี่ก็บ้านของคุณเหมือนกันอย่าลืมสิครับ...เอาเป็นว่าคุณตัดสินใจยังไงผมจะไม่ขัดขวางเลย แต่ขออย่างเดียวขอให้คุณมาเยี่ยมเด็ก ๆ บ้าง ที่นี่ต้อนรับคุณเสมอนะ”ชัญญาน้ำตาคลอ เธอพึ่งจะคิดได้ว่าจร
ชัญญามองหน้าหัสดินด้วยแววตาเห็นอกเห็นใจ“คุณไม่เสียดายเหรอคะ”“เสียดายสิครับ เสียดายมาก ๆ แต่ว่าผมเองก็ทำให้โอกาสมันหลุดมือไปเอง อีกนิดเดียวพวกเราจะได้แต่งงานกันแล้วแท้ ๆ แต่ผมกลับทำมันพังเพราะอารมณ์ชั่ววูบของตัวเอง”“พวกคุณกำลังจะแต่งงาน แล้วมันเกิดอะไรขึ้นคะ” ชัญญาพลิกเปลี่ยนท่านอนคว่ำเพื่อรอฟังเรื่องของอีกคนที่ดูเหมือนจะน่าสงสารกว่าเธอเสียอีกหัสดินถอนหายใจออกมายาว ๆ ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับชัญญาฟังชัญญายกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ เธอฟังจบก็ถอนหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้ ที่แท้ชีวิตของชายคนนี้ก็น่าสงสารขนาดนี้ แต่เธอกลับคิดว่าเขาเข้มแข็งมาก ๆ ที่กล้าจะยอมรับความจริง“อยากกลับไปหาคุณมินมั้ยคะ ถ้าคุณอยากแย่งเธอฉันจะช่วย” ชัญญาถามด้วยสีหน้าจริงจังหัสดินชะงักไปครู่ใหญ่ ความคิดมากมายตีกันในหัวแต่ครู่เดียวชัญญาก็หลุดขำออกมา“ล้อเล่นน่ะค่ะ”“ตกใจหมดเลยครับ บอกตรง ๆ ผมก็เสียดายมินนะ แต่ว่าผมคงไม่แย่งเธอกลับมาแล้วละครับ ตอนนี้เธอเจอคนดี ๆ แล้ว ผมคงไม่เห็
นานแล้วที่เขาไม่ได้ฉลองงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยสีสันขนาดนี้ ต้องขอบคุณกวินตราที่เข้ามาในชีวิตของเขา เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองนั้นได้กลับไปแก้ไข้ข้อบกพร่องที่เคยเป็นพ่อและสามีที่เอาแต่ทำงานไม่สนใจครอบครัว และเธอคือคนที่รับข้อบกพร่องนั้นของเขาได้ ทว่าจากนี้ไปธัชกรจะไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีก“เริ่มรู้สึกเสียดายแล้วเหรอครับพี่ดิน” ทนายหนุ่มกระซิบข้างหูพี่ชายด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง“เปล่า พี่คิดว่าวันนี้มินดูมีความสุขมากเท่านั้น เผลอ ๆ บางทีอาจจะมีความสุขมากกว่าอยู่กับพี่อีก”“เห้อ คนดีจริงจริ๊งพี่ชายผม ไปดีกว่าครับไปสนุกก่อนกลับ ผมจะเมาให้เละไปเลย”ณัฐชัยลุกขึ้นแล้วคว้าเอาแก้วของตัวเองเพื่อไปสนุกกับสาว ๆ คนงานในไร่ที่อยู่อีกโต๊ะ ก็ด้วยฝีปากช่างพูดช่างเจรจาเขาหาเรื่องมาเล่าจนสาว ๆ นี่กรี๊ดกร๊าดชอบใจกันทั้งโต๊ะ แต่ว่ามีอยู่คนหนึ่งที่เอาแต่มองทนายจอมเจ้าชู้แล้วเบ้ปากวันก่อนยังของขึ้นใส่เธออยู่เลย วันนี้ไปหน้าม่อใส่คนงานบ้านเธอเสียแล้ว เกลียดจริง ๆ ผู้ชายแบบนี้เมธาวีคิดในใจก่อนจะถือแก้วแอลกอฮอล์ของตัวเองเดินเลี
ธัชกรจับแขนของหญิงสาวก่อนจะแกะเธอออก ทว่ายังไม่ทันจะได้เอาเธอออกจากตักเสียงของน้องสาวเธอก็เรียกกวินตราที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านพอดี ธัชกรใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม ร่างของชัญญาถูกธัชกรผลักจนล้มลงที่พื้นกวินตรามองทั้งคู่ด้วยสายตาที่ผิดหวังก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องไม่สนกระทั่งเพื่อนสนิทที่เรียกเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังตามมาก็ไม่ทันกวินตราปิดประตูห้องทันทีแล้วล็อกเอาไว้ปัง หญิงสาวหันไปเจอสภาพห้องถึงกับตะลึง ข้าวของเสื้อผ้าของเธอถูกรื้อกระจายเต็มห้อง กวินตราจึงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้ากลับพบว่ามีเสื้อผ้าของคนอื่นมาแทนที่แล้วหญิงสาวเข้าใจแล้ว ธัชกรให้ภรรยาเก่าของเขากลับมาอยู่ที่นี่เหมือนที่แม่บ้านบอกจริง ๆ“มิน มินเปิดประตูให้ผมหน่อย” ธัชกรเรียกหญิงสาวอยู่หน้าห้อง กวินตรายกมือปาดเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้เขาธัชกรเดินเข้ามาในห้องพอได้เห็นอย่างนั้นเขาถึงกับตกใจ มองหน้าหญิงสาวที่ตนรักก็คิดว่าเธอเข้าใจผิดเขาไปมากมายแล้วในตอนนี้“ผมไม่ได้ให้ชัญญามาอยู่ที่ห้องนี้นะ ผมให้เธอไปนอนกับลูก”“ช่างเถอะค่ะ มินไ
กวินตราเดินขึ้นชั้นสองได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก ๆ จึงเดินเข้าไปหา เห็นเมธาวีนั่งปลอบหลานชายทั้งสองอยู่ด้วยความยากลำบากเนื่องจากขาของเธอเจ็บและเด็ก ๆ ก็ดิ้นอยากจะเจอพ่อท่าเดียว“เม” กวินตราเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ก่อนจะยิ้มให้กับนที และรพีที่กำลังร้องไห้จนใบหน้าเล็ก ๆ แดงก่ำ“อามิน พ่อกรอยู่ไหนครับ” เด็กน้อยเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งลงตรงหน้าตนเองกวินตรารับร่างเล็ก ๆ ทั้งสองเข้ามากอดเอาไว้ ดูเหมือนนทีกับรพีจะสงบลงได้เมื่อถูกกวินตรากอดเอาไว้ เมธาวีเห็นแบบนั้นก็เข้ามากระซิบว่าเธอจะไปเอาของว่างมาให้ เด็ก ๆ จะได้ใจเย็นลง เมธาวีเลยชวนพี่เลี้ยงลงไปเตรียมของช่วยเธอและป้าน้อยก็ต้องขอตัวไปเตรียมกับข้าวตอนเย็นภายในห้องจึงเหลือแค่กวินตรากับเด็กแฝดสองคน“อยากฟังนิทานมั้ย อามินจะเล่าให้ฟัง”“นิทานเหรอครับ นทีชอบนิทาน” เด็กน้อยยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งไปหยิบหมอนกับผ้าห่มมาเตรียมนอนรอฟัง“รพีก็ชอบครับ ตั้งแต่แม่ไม่อยู่พวกเราก็ไม่เคยฟังนิทานเลย”กวินตราถอนหายใจด้วยความสงสารก่อนจะนอนลงแล้วอ้าแ
“คงอย่างนั้นมั้งคะ” กวินตราพูดก่อนจะหันไปเปิดดูตู้เย็น แต่ว่าในครัวมีแม่บ้านที่กำลังนั่งเตรียมผักอยู่ บางคนก็อยากจะร่วมวงเลยพูดขึ้นบอกทนายหนุ่มแขกของกวินตรา“ใช่ค่ะคุณทนาย เมื่อก่อนพ่อเลี้ยงไม่ได้ร่ำรวยอย่างทุกวันนี้หรอกนะคะ ทั้งสองคนเรียนจบมามีแค่ตัวเปล่า แต่แม่ของหนูเล่าให้ฟัง...” แม่บ้านวัยสิบเจ็บเล่าทำให้ทนายหนุ่มรีบเดินเข้าไปนั่งร่วมวงแม่บ้านเมาท์มอยเรื่องเจ้านาย“...ว่ายังไงครับเล่าหน่อย”เห็นทนายหนุ่มมีความสนใจใคร่รู้เรื่องชาวบ้าน แม่บ้านช่างเมาท์จึงได้เล่าต่อถึงเรื่องราวในอดีตของทั้งสองคนโดยที่ลืมไปเลยว่ากวินตรากับธัชกรมีความสัมพันธ์ดี ๆ ด้วยกันอยู่“ก็เมื่อก่อนเห็นว่าที่นี่เป็นที่ของพ่อคุณชัญญาค่ะ แต่ถูกเจ้าพ่อเมืองลำปางคนก่อนซื้อไป คุณธัชกรเห็นว่าที่นี่สำคัญกับคุณชัญญามากเขาจึงซื้อเอาไว้ก่อนจะทำสวนและต่อเติมโฮมสเตย์หลังจากที่แต่งงานมีลูกกันน่ะค่ะ”“อ้อ แบบนี้นี่เองสินะครับ พอดีผมส่งผู้ชายคนใหม่คนนั้นเข้าคุกไปแล้ว แบบนี้คุณธัชกรคงไม่คิดจะพาคุณชัญญากลับมาที่นี่หรอกมั้งใช่มั้ยครับ ก็ที่นี