ทันทีที่คุณท่านโจแอนน์ได้ยินสิ่งที่อเล็กซ์เยาะเย้ย เธออยากที่จะรีบไปให้เร็วที่สุดและฆ่าอเล็กซ์ด้วยไม้เท้าให้ตายคามือแต่มันเป็นความเป็นความตายของตระกูลแอสเส็กซ์ ดังนั้นเธอเลยรีบเรียกลูกชายคนโตของเธอเบนนีย์ให้พาเธอไปยังบ้านของแคลร์พวกเขาถึงที่คฤหาสน์ในยี่สิบนาทีต่อมาทันทีที่คุณท่านโจแอนน์เดินเข้ามาด้านใน เอ็มม่าร้องไห้โวยวาย “คุณย่าคะ โดโรธีและสามีโสโครกของเธอไม่ช่วยทำอะไรให้ดีขึ้นเลยค่ะ! พวกเขาอิจฉาครอบครัวของพวกเราที่ประสบความสำเร็จกว่าและจงใจที่จะทำลายทุกอย่างค่ะ! ไอ้ชั่วนั้นไม่ได้แค่ตบหนูนะคะ แต่ตบคุณพ่อด้วย! เขามันคนชั่วช้าที่สุดเลยค่ะ!”ทันทีที่เอ็มม่าโวยวายเสร็จ อเล็กซ์ตบไปที่หน้าสวย ๆ ของเธออีกครั้งก่อนที่คุณท่านโจแอนน์จะทันได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ“เอ็มม่า แอสเส็กซ์ ผู้หญิงอย่างหล่อนไม่มีสิทธิ์ที่จะมาดูถูกฉัน อเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์” อเล็กซ์กล่าวต่อไปอย่างเรียบเฉย “แม่และภรรยาของฉันจะต่อว่าอย่างไรก็ได้ เพราะฉันเต็มใจให้พวกเขาทำ แต่พวกแกไม่มีสิทธิ์”หน้าของเอ็มม่าเริ่มแดงเนื่องจากความโกรธจัดแอนเดอร์สันตะโกนด่าอย่างโกรธแค้น “แกกล้าดียังไงมาใช้ความรุนแรงที่นี้ ไอ้เดรัจฉาน?
“อะไรนะ? แกจะเอาหุ้น 100% ไม่มีทาง มากสุดก็ได้แค่ 70%”“ตามนั้น”“แก…?”อเล็กซ์พูดพร้อมรอยยิ้ม “คุณย่าครับ จะมีการเสนอเซ็นสัญญาระหว่างเวย์ลอน อสังหาริมทรัพย์กับคุณย่าภายในเที่ยงวันพรุ่งนี้นะครับ โปรดเตรียมสัญญาซื้อขายหุ้นของบริษัทย่อยในเมืองทางตอนใต้มาให้พร้อมด้วย ตามนี้นะครับ แล้วเจอกันครับคุณย่า ไม่ต้องให้ไปส่งนะครับ”หลังจากออกมาจากบ้าน คุณท่านโจแอนน์ร้องคร่ำครวญเสียงดังพร้อมจับหน้าอกของเธอและกระทืบเท้า “ไอ้เดรัชฉาน! เขามันเป็นคนเดรัชฉาน! แอสเส็กซ์ทำอะไรไว้ถึงได้เจอเรื่องแบบนี้!”ในขณะเดียวกันภายในบ้าน แคลร์ขมวดคิ้วและถาม “นี่ลูกบ้าหรือเปล่าโดโรธี? ทำไมถึงกล้าเอาหุ้น 70% ของบริษัทย่อยทางตอนใต้ไปแลกกับหุุ้น 10% ของบริษัทใหญ่ล่ะ? มันต่างกันเกินไป แล้วอีกอย่างตำแหน่งผู้จัดการที่สำนักงานใหญ่มีค่ามากกว่านะ ลูกกำลังจะเสียโอกาสครั้งใหญ่แล้วไปคว้าน้ำเหลวนะ”โดโรธีส่ายหน้าพลางพูด “คุณแม่คะ มันไม่ง่ายเลยนะคะที่จะเป็นผู้จัดการในสำนักงานใหญ่ ที่นั่นมีทั้งประธานและรองประธาน ผู้จัดการทั่วไปเป็นได้เพียงหุ่นเชิดที่คอยแบกรับหน้าที่ต่าง ๆ มันไม่มีความหมายอะไรเลย แล้วก็ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเราจะ
อเล็กซ์วางเท้าอันผุดผ่องของคุณนายแคลร์ลงอย่างอ่อนโยนและเอ่ยขึ้น “ผมต้องรับสายก่อน”คุณนายแคลร์ จึงได้ตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ “ทำไมถึงจะต้องรีบรับสายขนาดนั้น? แค่คนโทรมา! ยังเหลืออีกข้างที่ต้องนวด! อืม นวดเก่งใช้ได้เลยนิ ”อเล็กซ์ หันกลับไปมองเธอด้วยท่าทางหงุดหงิด “ผมจะไปล้างมือก่อน”ทันทีที่เขารับสายเชอริลก็ถามขึ้นมาในทันทีว่า “อเล็กซ์ คุณได้โสมอายุร้อยปีมาหรือยัง?”อเล็กซ์ ถอนหายใจออกมาขณะที่เขาตอบว่า “มันเป็นของที่หายากมากจริง ๆ ผมยังหามันไม่ได้เลย ทั้ง ๆ ที่ไปมาตั้งหลายที่แล้ว”เชอริลเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ฉันรู้แล้วล่ะ แต่ว่าฉันหาให้คุณได้แล้วนะ”“โอ้! เรื่องจริงเหรอ?"“ใช่ ฉันบังเอิญไปพบมันเข้าแล้วรีบซื้อมันมาทันที”"ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนเหรอ? ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้”“ได้เลย ฉันจะส่งที่อยู่ให้กับคุณนะ”หลังจากที่อเล็กซ์วางสายไป เขาเห็นคุณนายแคลร์วางเท้าอีกข้างไว้บนโต๊ะน้ำชา บ่งบอกว่าเธอต้องการให้เขานวดต่อ อเล็กซ์จึงพูดขึ้นทันทีว่า “โดโรธี คุณแม่ครับ ผมต้องไปแล้วเพราะผมมีเรื่องสำคัญบางอย่างที่จะต้องทำ”โดโรธีจึงเอ่ยถามว่า “คุณจะไปไหนคะ?”อเล็กซ์ ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชาร์ล
“กรี๊ดดดดด”เสียงกรีดร้องของเชอริลดังขึ้น เธอตกใจมากเสียจนลืมที่จะหลบหลีกการโจมตีนั้นอเล็กซ์ รีบดึงเชอริลมาโอบไว้ในอ้อมแขนของเขา และใช้แผ่นหลังของเป็นเกราะกำบังการโจมตีให้กับเธอ เขารับรู้ได้ถึงแรงกระแทกอันหนักหน่วงที่ฟาดลงบนแผ่นหลังของเขาตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!เขาโดนโจมตีติดต่อกันถึงสามครั้งติดไม่ใช่แค่ชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่พยายามจะโจมตีพวกเขา แต่ยังมีชายอีกสองคนที่โจมตีพวกเขาอย่างสุดกำลังด้วยเช่นกันพวกเขาโจมตีด้วยท่อนไม้ในมืออย่างไม่ยั้งในที่สุดเชอริลก็กลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง และตระหนักได้ว่าอเล็กซ์กำลังปกป้องเธออยู่โดยใช้ร่างกายของเขาเป็นเกราะกําบังให้กับเธอ ในขณะที่เขาต้องเป็นคนที่อดทนต่อความเจ็บปวดจากการโจมตีนั้น หัวใจของเธอเต้นแรง และน้ำตาก็ไหลออกมาขณะที่เธอได้ยินเสียงท่อนไม้กระทบแผ่นหลังอเล็กซ์ อย่างไรก็ตามเมื่อเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นความสงบและความมุ่งมั่นในดวงตาของอเล็กซ์ภาพใบหน้าของเขานั้นมันได้ตราตรึงอยู่ในใจของเธอแกรกกกกก! ไม้ท่อนหนึ่งได้หักลงหลังจากนั้นก็มีคนพูดขึ้นมาว่า “พอได้แล้ว อย่าฆ่ามัน”ถ้าเป็นภายใต้สถานการณ์ปกติ อเล็กซ์ อาจจะมีกระดูกหักอย่างน้อ
หัวหน้าแก๊งยังคงปากแข็งเขาจ้องไปที่อเล็กซ์และไม่ปริปากพูดอะไรออกมาสักคำอเล็กซ์ดีดนิ้วของเขา “เอาล่ะ ได้ ถ้าแกไม่ปริปากแล้วละก็ มาดูกันว่าแกจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน ถ้าแกทนได้สักนาที ฉันจะปล่อยพวกแกไป”ในตอนนั้นดวงตาของหัวหน้าแก๊งเต็มไปด้วยความงุนงง และอเล็กซ์ ก็ได้กดนิ้วลงบนคิ้วของชายหัวหน้าแก๊งหลังจากนั้นพื้นที่รอบ ๆ นั้นก็เต็มไปด้วยออร่าแปลก ๆ ที่พวยพุ่งออกมา ในวินาทีถัดมา หัวหน้าแก๊งก็มีสีหน้าบูดเบี้ยวด้วยความกลัวและเหงื่อตกมีเสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวออกมาจากลำคอของหัวหน้าแก๊ง ราวกับว่าเขาได้พบกับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสอยู่ และมันก็เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขาเมื่อเชอริล เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว เธอก็ตกตะลึงและไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์นี้ได้ในเวลาไม่ถึงนาที เพียงแค่สามวินาทีเท่านั้น หัวหน้าแก๊งก็ล้มลงไปที่พื้นพร้อมกับเสียงดังตุ้บขณะที่เขาดิ้นทุรนทุรายปานจะขาดใจตาย “ฉันจะพูดแล้ว! อ๊ากกก! ฉันจะยอมบอกทุกอย่างเลย! ขอร้อง ได้โปรดหยุดเถอะ! ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย!”ดวงตาของเชอริลเบิกกว้างด้วยความงุนงงปฎิกิริยาและการตอบสนองของชายหัวหน้าแก๊งมันช่างดูเกินจริงไปมาก นี่เขากำลังทำการแสดง
“อเล็กซ์ คุณคิดว่าเราจะซื้อหุ้นของบริษัทย่อยทางตอนใต้โดยไม่มีปัญหาอะไรได้ไหม?” ในใจของโดโรธีนั้นเต็มไปด้วยความวิตกกังวลอเล็กซ์พูดขึ้นขณะที่ลูบกระเป๋าเอกสารในมือไปด้วย "วางใจได้เลย ผมสัญญา"สัญญาที่ลงนามโดยบริษัท เวย์ลอน อสังหาริมทรัพย์ อยู่ในกระเป๋าเอกสารนี้แล้วโดโรธี ยิ้มกว้างขณะที่ดวงตาที่งดงามของเธอมีประกายแห่งความหวังอเล็กซ์ รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยเป็นเวลานานมากแล้วที่โดโรธีไม่ได้ยิ้มอย่างมีความสุขเช่นนี้ต่อหน้าของเขาเขาจึงเดินเข้าไปใกล้ ๆ เธอ จากนั้นก็เอื้อมมือไปจับมือเธอพร้อมกับพูดว่า "โดโรธี ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและทุกสิ่งทุกอย่าง จากนี้ไปผมจะไม่ปล่อยให้คุณแบกรับภาระหนักอึ้งเพียงลำพังอีกแล้ว ผมจะช่วยแบ่งเบาภาระต่าง ๆ คุณจะได้ไม่ต้องทนทุกข์อีกต่อไป” หลังจากพูดจบเขาก็โอบกอดเธอเมื่อโดโรธีสัมผัสได้ถึงความจริงใจในอ้อมกอดของเขา ความรู้สึกต่าง ๆ ก็ท่วมท้นภายในใจพลั่งพลูออกมาพร้อมน้ำตา“ไม่เป็นไรนะ ทุกอย่างมันจะต้องเป็นไปด้วยดี”หลังจากที่เงียบไปสักพัก เธอก็พูดพร้อมกับรอยยิ้มว่า “หลังจากได้รับสัญญาซื้อขายหุ้นของบริษัทย่อยทางตอนใต้แล้ว ฉันจะเลี้ยงอาหารคุณพร้อมรางวัลเสริมอี
“.....”เบนนีย์ ก็หัวเราะออกมาด้วยเช่นกัน “โดโรธี แกคิดว่าบริษัท แอสเส็กซ์ ก่อสร้าง จะโอนหุ้น 70% ของบริษัทย่อยทางตอนใต้ให้กับแกจริง ๆ หรือ? แกนี่มันไร้เดียงสาจริง ๆ ฝันกลางวันต่อไปเถอะ”"นี่มันอะไรกัน?" โดโรธี อุทานด้วยความประหลาดใจ “สัญญานี้มันเป็นของปลอมเหรอ?”คุณท่านโจแอนน์หัวเราะคิกคัก “แน่นอน มันเป็นของปลอม ตระกูลแอสเส็กซ์ไม่ต้องการคนเนรคุณอย่างแกหรอก โดโรธี แกมันทะเยอทะยานมากเกินไป กล้าดียังไงถึงอยากที่จะมาครอบครองบริษัทย่อยทางตอนใต้ของเรา? แกมีสิทธิ์อะไร? กล้าดีอย่างไรที่จะคิดทำการใหญ่แบบนั้น? ไอ้ขยะที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แกยุยงอย่างนั้นเหรอ? จากนี้ไปแกจะไม่ได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของตระกูลฉันหรอก ฉันขอไล่แกออกจากตระกูลแอสเส็กซ์นับจากวันนี้”"นี่มันอะไรกันคะ คุณย่า? คุณย่าคะ คุณจะผิดสัญญาแบบนี้ได้อย่างไร?” โดโรธีสะอื้นคุณท่านโจแอนน์ จึงกล่าวว่า “ทำไมฉันต้องรักษาสัญญาเมื่อต้องรับมือกับคนไร้ยางอายและน่ารังเกียจอย่างแก? แกไม่คู่ควรที่จะเป็นคนของตระกูลแอสเส็กซ์เลยสักนิด”เอ็มม่าตะโกนออกมาว่า “พวกเราไม่ต้อนรับพวกแกทั้งคู่ ดังนั้นไสหัวไปได้แล้ว อย่าให้ฉันต้องเรียกรปภ. ให้มาลากตัวพวกแกสอง
"อะไรกัน? ไอ้ขยะคนนี้น่ะหรือ?“จะเป็นไปได้อย่างไร มันจะไปมีปัญญาทำเช่นนั้นได้อย่างไร?”พวกแอสเส็กซ์ไม่เชื่อกับสิ่งที่พวกเขาเพิ่งจะได้ยินอเล็กซ์ ดูนาฬิกาและพูดว่า “ห้านาทีผ่านไปแล้ว พวกคุณยังมีเวลาเหลืออีกสิบนาที... ที่ฉันทำเรื่องนี้ได้ แต่ว่าพวกแกทำไม่ได้ เป็นเพราะว่าชาร์ลส์ คาร์เตอร์ เขาเป็นหนี้บุญคุณฉัน”เอ็มม่า เริ่มโวยวายทันที "มันไม่มีทาง! หยุดหลอกลวงและโอ้อวดได้แล้ว! แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? แกก็เป็นได้แค่ความเรื่องน่าอับอายของตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์ แถมพ่อแม่ของของแกยังทรยศต่อประเทศของเราอีกด้วย แกก็ไม่ได้ดีไปกว่าหนูสกปรกข้างถนนหรอก ถ้าแกไม่ได้เกาะชายกระโปรงของนังโดโรธี แม่ของแกก็คงตายไปนานแล้ว! และก็คงจะอดตายด้วยเหมือนกัน แล้วแกคิดว่าแกสำคัญอะไร หือ? ชาร์ลส์ คาร์เตอร์ หนี้บุญคุณแก แล้วจะทำไม! อย่าประเมินค่าตนเองสูงไปหน่อยเลย…”อเล็กซ์ จ้องเอ็มม่าด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพุ่งเข้าหาเธอและกระชากผมของเธอ จากนั้นเขาก็กดหัวเธอลงบนโต๊ะฟันหน้าของเอ็มม่ากระแทกลงที่โต๊ะและจมูกของเธอก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาก“ไม่มีใครหน้าไหนที่ได้รับอนุญาตให้มาดูถูกพ่อแม่ของฉัน ฉันจะตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น