แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: กิตติรวิชญ์
“พ่อพูดถูกทุกอย่างค่ะ หนูไม่มีวันทำให้หัวใจของกู้ว่างเชินอ่อนลงได้ หนูรู้แล้วว่าผิด หนูจะกลับบ้านค่ะ"

เสียงแหบพร่าของฉู่เหมียนดังก้องอยู่ในห้องนั่งเล่นที่ว่างเปล่า

ตระกูลฉู่เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองอวิ๋น ทั้งยังเป็นตระกูลนักวิชาการทางการแพทย์

คุณปู่ฉู่เป็นนักธุรกิจ คุณย่าเป็นศาสตราจารย์แพทย์หญิงแผนกผ่าตัดศัลยกรรมหัวใจที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทั้งสองเหมาะสมกันทุกประการ

ตั้งแต่เด็ก ฉู่เหมียนได้รับการปลูกฝังวิชาการแพทย์จากคุณย่า คุณย่าบอกว่าเธอเป็นอัจฉริยะและถูกลิขิตมาเพื่ออาชีพนี้

คุณปู่และคุณย่าได้ปูทางสำหรับอนาคตไว้ให้เธอ พ่อเองก็เตรียมทรัพย์สมบัติไว้มากมายเพื่อรอให้เธอมารับมรดก ในขณะที่แม่บอกว่าเธอจะเป็นแก้วตาดวงใจของพวกเขาตลอดไป

แต่เธอกลับละทิ้งทุกอย่างเพื่อกู้ว่างเชิน ทำให้ตัวเองกลายเป็นคนน่าสมเพชเช่นนี้

เมื่อก่อนเธอคิดว่าตัวเองเป็นนักรบที่แสนจะกล้าหาญ ต่อสู้เพื่อความรัก สง่างามที่สุด

แต่เมื่อคิดดูดีๆ แล้ว มันช่างไร้สมองเสียจริง

ฉู่เหมียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เธอขึ้นไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้าบาง ๆ

จากนั้นก็เก็บของใช้ส่วนตัวของตนออกไปทั้งหมด

บนผนังด้านหลังโซฟาในห้องนั่งเล่น มีภาพวาดพระอาทิตย์ตกที่เธอและกู้ว่างเชินวาดด้วยกัน

ฉู่เหมียนยืนอยู่หน้าภาพนั้น ปลายนิ้วของเธอสัมผัสมันเบา ๆ อดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันแรกที่เธอแต่งงานและย้ายมาที่นี่ด้วยความยินดี

แม่ของกู้ว่างเชินบอกว่ากู้ว่างเชินยินดีจะแต่งงานกับเธอ แต่ขอไม่จัดงานแต่ง

ฉู่เหมียนไม่สนใจเลย ขอแค่ได้แต่งงานกับกู้ว่างเชินก็พอ มีงานแต่งงานหรือไม่ก็ไม่สำคัญ

พ่อเธอได้ยินแบบนั้นก็โกรธมาก บอกว่าเธอไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ รีบร้อนแต่งงานเกินงาม เดี๋ยวชีวิตคู่ก็ล้มเหลว

ฉู่เหมียนกลั้นน้ำตาไว้แล้วปลดภาพนั้นลงมา ฉีกทำลายมันอย่างรุนแรงแล้วโยนลงถังขยะ

ความล้มเหลวครั้งนี้เกือบคร่าชีวิตเธอไปครึ่งหนึ่ง ตอนนี้เธอสำนึกผิดแล้ว

จากนี้ไปขอให้ทุกอย่างราบรื่น

ฉู่เหมียนวางใบหย่าที่กู้ว่างเชินโยนให้เธอในคืนแต่งงานไว้บนโต๊ะ คลี่ยิ้มบาง ๆ งดงามราวกับดอกไม้

“กู้ว่างเชิน สมใจคุณแล้วล่ะ ขอให้มีความสุขนะ”

หลังจากปิดประตูบ้าน ฉู่เหมียนหันกลับมา เห็นรถปากานีสีม่วงเข้มจอดอยู่หน้าประตู ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งของเธอเอง

ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวลงจากรถ เขายกมุมปากขึ้นแล้วพูดติดตลก “คุณหนูฉู่ ในที่สุดก็ยอมปีนออกมาจากหลุมฝังศพของตัวเองแล้วเหรอ?”

“มาเร็วจังเลยนะ” ฉู่เหมียนเดินอ้อมหน้ารถแล้วขึ้นไปนั่งที่ตำแหน่งคนขับ

โม่อี้เป็นลูกน้องของฉู่เหมียน ตั้งแต่เด็ก ๆ โม่อี้ซุกซน เกือบจมน้ำตายในสระว่ายน้ำแล้ว แต่ฉู่เหมียนเป็นคนช่วยเขาไว้ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ติดตามฉู่เหมียนมาตลอดและยินดีรับใช้เธอโดยไม่บ่นสักคำ

“แหงสิ ฉันรอวันนี้มาสามปีแล้วนี่”

ฉู่เหมียนรู้สึกเจ็บปวดในใจ เธอคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วถามว่า “ทุกคนคิดว่าการแต่งงานของฉันครั้งนี้ต้องล่มแน่นอนกันหมดเลยเหรอ?”

โม่อี้มองฉู่เหมียนอย่างระมัดระวัง ใช้ความเงียบแทนคำตอบของเขา

ดวงตาสีอัลมอนด์ของฉู่เหมียนมืดลงเล็กน้อย

กู้ว่างเชิน ทั้งโลกบอกให้ฉันไม่รักคุณ แต่ฉันดันอยากจะพุ่งชนกำแพงนี้

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉู่เหมียนก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจจนแทบขาด

เธอจับพวงมาลัยด้วยมือข้างหนึ่ง เข้าเกียร์ด้วยมืออีกข้างหนึ่ง เหยียบคันเร่งจนสุด จากนั้นรถก็พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

รถปากานีสีม่วงเข้มแล่นไปบนถนนราวกับกำลังระบายความโกรธ

ไม่นานรถก็จอดอยู่หน้าร้านสักแห่งหนึ่ง ฉู่เหมียนลงจากรถแล้วเดินเข้าไป โม่อี้เดินตามมาติด ๆ

“หนีหราน สักลายนี้เลย” ฉู่เหมียนยื่นไอแพดให้ชายคนหนึ่งข้าง ๆ

บนหน้าจอเป็นลวดลายผีเสื้อที่ทั้งแปลกใหม่ สวยงาม และมีชีวิตชีวา

“สักตรงไหนดี?” หนีหรานถามฉู่เหมียน

ฉู่เหมียนถอดเสื้อคลุมออก ด้านในเป็นชุดสายเดี่ยวสีดำ ผิวของเธอขาวราวกับหิมะและมีสัดส่วนโค้งเว้าที่สวยงาม

ไหล่ขวาเฉียงลงมาของฉู่เหมียน มีรอยแผลเป็นลึก

“นี่ไปโดนอะไรมา…” หนีหรานประหลาดใจ

ฉู่เหมียนยังไม่ทันได้ตอบ โม่อี้ก็พูดก่อน “คุณหนูฉู่ทำอะไรไม่คิดสมัยยังเด็ก ดันไปช่วยคนเลว ๆ คนหนึ่งไว้”

หนีหรานเข้าใจในทันที ช่วยกู้ว่างเชินสินะ

เมื่อก่อนฉู่เหมียนชอบกู้ว่างเชิน ทั้งโลกต่างก็รับรู้ เรื่องนี้ยิ่งใหญ่และโด่งดังแพร่หลายไปทั่ว

นอกจากกู้ว่างเชินแล้ว ไม่มีใครที่เธอจะยอมแลกชีวิตเพื่อช่วยเหลือแน่

ฉู่เหมียนนอนบนเตียงพร้อมพูดเสียงเรียบ “ไม่ต้องทายาชา เริ่มสักได้เลย”

หนีหรานอ้าปากค้าง เขาอยากเตือนว่ามันเจ็บมากนะ แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจฉู่เหมียน

ฉู่เหมียนมีนิสัยดื้อรั้นมาโดยตลอด ตราบใดที่เธอตัดสินใจแล้ว คนอื่นมาฉุดมาดึงก็รั้งเธอไว้ไม่อยู่

ไม่งั้นเธอคงไม่ล้มเหลวจากกู้ว่างเชินอย่างไม่เป็นท่าขนาดนี้

“แผลนี้ลึกน่าดูเลยนะ”

"เมื่อก่อนฉันไม่ยักรู้ว่าหลังของเธอมีรอยแผลเป็นด้วย เพื่อคนคนนั้น เธอเสียสละมามากมายเหลือเกิน แล้วได้อะไรกลับมาบ้าง?” หนีหรานพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด

ฉู่เหมียนหลับตา ความทรงจำถูกกระชากกลับไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว

กู้ว่างเชินถูกลักพาตัว คนร้ายต้องการชีวิตของเขา เธอบ้าบิ่นตามไปคนเดียวหวังจะช่วยถ่วงเวลา

หลังจากที่เธอถูกจับได้ คนร้ายต่อรอง ต้องการให้เธอแลกชีวิตกับเขา เธอก็ยอม

เธอต่อสู้กับคนร้าย หลังของเธอถูกแทงด้วยมีด คนร้ายรู้ว่าเธอเป็นคุณหนูตระกูลฉู่ ถ้าเธอรอดกลับไปทั้ง ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาคงอยู่ในสังคมต่อไปไม่ได้ จึงคิดฆ่าเธอซะ พวกนั้นมัดหินไว้ที่ตัวเธอแล้วจับเธอถ่วงลงทะเล

น้ำทะเลกลืนกินเธอทีละน้อย เธอสำลักน้ำและจมลงไปเรื่อย ๆ อาการขาดอากาศหายใจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตั้งแต่นั้นมา เธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้แหล่งน้ำอีก

ความเจ็บปวดแผ่ซ่านจากด้านหลัง ฉู่เหมียนกัดริมฝีปากล่าง

เธออยากปกปิดรอยแผลเป็น ลบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าตัวเองเคยรักเขาแค่ไหน

ที่ขอไม่ทายาชา ก็เพื่อให้ตัวเองจดจำความเจ็บปวดนี้ไว้ให้ลึกซึ้ง

จากนี้ไป เธอจะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองเท่านั้น

...

ในโรงพยาบาล

กู้ว่างเชินนั่งอยู่ข้างเตียง กำลังปอกแอปเปิลอยู่ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงบนเตียงพูดเสียงอ่อย “อาเชิน หรือว่าเราเลิกกันดีไหม…”

กู้ว่างเชินเงยหน้ามองเธอ น้ำเสียงนุ่มนวลมาก “พูดอะไรไร้สาระ”

“เหมียนเหมียนรักคุณมากนะ ฉันไม่อยากทำร้ายจิตใจเหมียนเหมียน” ลู่เจียวสะอื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม

กู้ว่างเชินขมวดคิ้ว เสียงของฉู่เหมียนดังก้องอยู่ในหูเขา… กู้ว่างเชิน เราหย่ากันเถอะ

จนถึงตอนนี้เขายังรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ ฉู่เหมียนจะยอมหย่ากับเขาได้ยังไง

หรือว่าเธอต้องการใช้กลอุบายที่เลวร้ายนี้เพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้ผลักลู่เจียวลงน้ำ

“เดี๋ยวผมจะพาเธอมาขอโทษคุณ” กู้ว่างเชินยื่นแอปเปิลที่ปอกแล้วให้ลู่เจียว พูดเสียงเรียบ

ลู่เจียวมีทั้งความเศร้าและน่าสงสารอยู่ในแววตา เธอเม้มริมฝีปากไม่รับผลไม้ แต่กลับพูดด้วยความน้อยใจ

“อาเชิน…”

“ผมบอกว่าผมจะรับผิดชอบคุณ นั่นหมายความว่าผมจะแต่งงานกับคุณแน่นอน” กู้ว่างเชินยกมือขึ้น ลูบผม

ลู่เจียวเบา ๆ เพื่อปลอบเธอว่าอย่าคิดมาก

เมื่อได้ยินอย่างนี้ ลู่เจียวก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ความพึงพอใจเกิดขึ้นในใจ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเกลียดฉู่เหมียนเข้าไส้

แม่นั่นครองตำแหน่งภรรยาของกู้ว่างเชินไม่ยอมปล่อย ไม่รู้จักละอายจริง ๆ

กู้ว่างเชินรู้สึกหงุดหงิดใจแปลก ๆ เขาจึงหาข้ออ้างออกไป “ที่บริษัทยังมีเรื่องต้องจัดการ ผมขอตัวก่อน เดี๋ยวค่อยมาหาใหม่นะ”

ลู่เจียวมองตามร่างของกู้ว่างเชิน ความน้อยอกน้อยใจในดวงตาค่อย ๆ จางหายไป

เธอก้มหน้าลง เมื่อนึกถึงฉู่เหมียนก็อดรู้สึกโกรธไม่ได้

ฉู่เหมียนกอดทะเบียนสมรสกับผู้ชายที่ไม่ได้รักตนเอาไว้แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา

กู้ว่างเชินออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ได้รับโทรศัพท์จากต้วนจิ่นเหนียน

ลูกชายของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองอวิ๋น ประธานบริษัทตระกูลต้วน พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก

เสียงของชายหนุ่มนั้นเกียจคร้าน และมีน้ำเสียงติดตลก “สาวน้อยใสซื่อของนายเป็นไงบ้างล่ะ?”

กู้ว่างเชินเปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่ง เสียงเรียบเฉย “ลู่เจียวปลอดภัยแล้ว”

“ก็แหงล่ะสิ คนทั้งโรงพยาบาลลงไปรุมช่วยเธอขนาดนั้น เธอจะเป็นอะไรได้?” ต้วนจิ่นเหนียนพูดติดตลก แล้วก็ถามอีก “แล้วเมียนายล่ะ?”

กู้ว่างเชินเย็นชา เลียนแบบคำพูดของต้วนจิ่นเหนียน “เธอจะเป็นอะไรได้?”

ต้วนจิ่นเหนียนเดือดร้อนทันที “เหล่ากู้ ฉันเป็นคนช่วยชีวิตเมียนายไว้นะ วันนี้ถ้าฉันไม่อยู่ตรงนั้น เธอคงจมน้ำตายในสระว่ายน้ำไปแล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนี้ กู้ว่างเชินก็ขมวดคิ้ว ภาพฉู่เหมียนที่น่าสงสารเมื่อครู่ผุดขึ้นมาในหัว อดไม่ได้ที่จะกำพวงมาลัยแน่น

แต่ไม่นานเขาก็กลับมาสงบ “นายนี่พูดอะไรตลกดี คนอย่างเธอแม้แต่ทะเลลึกยังกล้าดำ สระว่ายน้ำธรรมดา ๆ จะทำให้เธอจมน้ำพำตายเชียวรึ?”

“หรือว่าแกล้งทำ? ดูไม่เหมือนเลย ถ้าแสดงคงเนียนเกินไปแล้ว” ต้วนจิ่นเหนียนถอนหายใจ พูดอย่างเสียไม่ได้ “ฉู่เหมียนนี่ก็ใจร้ายเกิน เธอไม่รู้หรือไงว่าลู่เจียวเป็นโรคกลัวน้ำ เพราะตอนที่นายโดนลักพาตัว เธอเป็นคนไปช่วยนาย จากนั้นก็เลยเป็นคนกลัวน้ำตั้งแต่นั้น แต่ดันไปตอกย้ำปมเธออีก”

คนอื่นอาจไม่รู้ แต่ต้วนจิ่นเหนียนรู้

เหตุผลที่กู้ว่างเชินอยากแต่งงานกับลู่เจียว ก็เพราะตอนที่เขาถูกลักพาตัว ลู่เจียวช่วยชีวิตเขาไว้

ลู่เจียวช่วยชีวิตเขา ดังนั้นเขาต้องปกป้องลู่เจียวไปตลอดทั้งชีวิต

กู้ว่างเชินฟังแล้วรู้สึกหงุดหงิดและกระวนกระวายใจ ราวกับกำลังจะสูญเสียอะไรไปในเร็ว ๆ นี้ เขาพูดเสียงต่ำ “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันวางก่อนนะ”

“เย็นนี้ไปเอสเคไนต์คลับกันไหม?”

“ไม่ไป”

พูดจบ กู้ว่างเชินก็วางสายไป

เขามองไปยังไฟแดงข้างหน้า คำพูดของต้วนจิ่นเหนียนดังขึ้นในหู

…เหล่ากู้ ฉันเป้นคนช่วยชีวิตเมียนายไว้นะ วันนี้ถ้าฉันไม่อยู่ตรงนั้น เธอคงจมน้ำตายในสระว่ายน้ำไปแล้ว

กู้ว่างเชินขมวดคิ้ว แล้วก็นึกถึงคำพูดของฉู่เหมียนเมื่อกี้

…กู้ว่างเชิน ฉันก็กลัวน้ำเหมือนกันนะ

กู้ว่างเชินเม้มปาก ความสงสัยผุดขึ้นในใจ ฉู่เหมียนจะเป็นโรคกลัวน้ำได้ยังไง

เขาเหยียบคันเร่ง รถแล่นไปถึงบ้านโดยไม่รู้ตัว

กู้ว่างเชินลงจากรถ เปิดประตูแล้วตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ฉู่เหมียน”

เขาเปลี่ยนรองเท้า เดินผ่านห้องโถงยาวไปจนถึงห้องนั่งเล่น แต่ก็ไม่เห็นฉู่เหมียน

เมื่อก่อนเวลาเขากลับบ้าน ฉู่เหมียนจะวิ่งลงมาจากบันไดหรือไม่ก็ทำงานยุ่งอยู่ในห้องครัว เธอจะออกมาต้อนรับเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทุกครั้ง

วันนี้บ้านกลับเงียบมากจนน่าใจหาย

กู้ว่างเชินขึ้นไปชั้นบน เปิดประตูห้องนอนกำลังจะเรียกฉู่เหมียน แต่กลับพบว่าห้องนอนสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบผิดปกติ

กู้ว่างเชินชะงักไป ห้องแต่งตัวก็ว่างเปล่า

แปรงสีฟันคู่ในห้องน้ำก็เหลือแค่ของเขา

ฉู่เหมียน... ไปแล้วเหรอ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
สายลม สายลม
พอ กินอารัยเปนอาหาร
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 295

    ฉู่เหมียนไปที่ฐาน M ในทันที เธอต้องการรู้ให้ได้เดี๋ยวนี้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องลู่เจียวเธอทนไม่ได้กับความอับอาย แม้แต่นิดเดียวก็ทนไม่ได้!โม่อี้กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล เขาตรวจสอบทุกมุมแล้ว แต่ก็หาคนที่เข้าไปในห้องทำงานของผู้อำนวยการไม่พบ“ดูกล้องวงจรปิดตรงหน้าต่างซิ” ฉู่เหมียนสั่งโม่อี้เสียงเย็นโม่อี้หันไป ก็เห็นฉู่เหมียนยืนอยู่ข้างหลังเขา “หัวหน้า มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”“เมื่อกี้” ฉู่เหมียนพูดเสียงแข็ง ชัดเจนว่ากำลังโกรธ คำสองคำนั้นเหมือนเค้นผ่านไรฟันออกมาโม่อี้กำลังตรวจสอบอย่างตั้งใจมาก จนไม่ได้สังเกตเห็นว่าเธอมาโม่อี้ร้อง “อืม” เสียงหนึ่ง รีบเปลี่ยนภาพกล้องวงจรปิดไม่ลืมเหลือบมองฉู่เหมียนอย่างระมัดระวังดูตรงหน้าต่าง… เดี๋ยวนะ“หน้าต่างโรงพยาบาลเหรอ?” โม่อี้เหยียดยิ้ม ดูเหมือนจะไม่เชื่อ “หัวหน้า นั่นมันชั้นที่สามสิบกว่านะ คนคนนั้นจะเข้ามาทางหน้าต่างเพื่อแจ้งเบาะแสเรื่องลู่เจียวเหรอ? บ้าไปแล้ว!”แล้วก็ไม่มีที่ให้เข้าไปด้วยนี่นา?“นอกหน้าต่างห้องทำงานของหลินเฉิงชุยมีระเบียง พอจะเข้าไปได้” ฉู่เหมียนคลายความสงสัยของเขาโม่อี้รีบตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 294

    “ฉันไม่ได้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับน้องสาวคุณ เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน” ฉู่เหมียนไม่อยากติดต่อกับคนตระกูลลู่“คุณฉู่ ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดี” ลู่อี้อธิบายฉู่เหมียนเงียบไปสามวินาที ก่อนจะเดินไปที่รถ “คุยกันตรงนี้แหละ”ลู่อี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้“ฉู่เหมียน ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่บัตรใบนี้มีมูลค่าสองล้าน” ลู่อี้ยื่นบัตรเครดิตมาให้ฉู่เหมียนตกใจเมื่อเห็นบัตรเครดิตใบนี้เขาหมายความว่ายังไง?“ขอให้คุณใจดีกับน้องสาวผมด้วย” เขาจ้องฉู่เหมียน นัยยะคือ เรื่องนี้เป็นฝีมือคุณ รับเงินสองล้านนี้ไป แล้วจบเรื่องไปซะฉู่เหมียนหัวเราะเขาคิดจะใช้เงินฟาดหัวเธอ นี่ไม่ใช่การดูถูกเธอหรอกเหรอ?“คิดว่าเงินแค่สองล้านจะเปลี่ยนทัศนคติของฉันที่มีต่อน้องสาวคุณได้เหรอ?” ฉู่เหมียนหยิบบัตรเครดิตขึ้น พลางจ้องมองลู่อี้อย่างเยาะเย้ย “ฉันจ่ายให้คุณสองล้าน หวังว่าคุณจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก เป็นคุณจะรู้สึกยังไง?”“ฉู่เหมียน คุณไม่ยุติธรรมเลย! กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ!” ลู่อี้ขมวดคิ้ว คิดว่าฉู่เหมียนไม่เข้าใจเหตุผล“ฝ่ายที่ไม่ยุติธรรมคือตระกูลลู่ของคุณต่างหาก!” ฉู่เหมียนโยนบัตรเครดิตใส่ลู่อี้พวกเขาทั้งคร

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 293

    ชูหลานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว เธอพูดว่า “ไม่มีเลย ตอนนั้นเลิกงานพอดี ฉันเลยเอาเอกสารมาให้ผู้อำนวยการ”ฉู่เหมียนเงียบไปสองสามนาที เธอมองวิดีโอในโทรศัพท์ สักพักก็คิดอะไรไม่ออก “ค่ะ”ถ้าไม่ใช่ชูหลานที่เอาเข้ามา งั้นจดหมายร้องเรียนที่ไม่ระบุชื่อนี่บินเข้ามาเองงั้นเหรอ?ไม่ไกลนัก หม่าจือหยางเดินเข้ามา เขามีสมุดประวัติการรักษาสองเล่มในมือ พูดพลางเดินเข้ามา “คุณหมอชู พรุ่งนี้ผมขอลาพักร้อนนะครับ”ชูหลานเหลือบมองหม่าจือหยาง หม่าจือหยางยื่นใบลาพักร้อนให้ชูหลาน“ค่ะ” ชูหลานตอบรับหม่าจือหยางมองฉู่เหมียน แล้วเลิกคิ้ว ก่อนจะหันหลังเดินจากไปฉู่เหมียนสังเกตเห็นใบลาพักร้อนในมือของชูหลาน นั่นเป็นลายมือของหม่าจือหยางแน่นอน“ลายมือรองผู้อำนวยการหม่า สวยดีนะคะ” ฉู่เหมียนพูด“ค่ะ ลายมือรองผู้อำนวยการหม่าอ่านง่ายดี หนักแน่นด้วย” ชูหลานเก็บใบลาพักร้อนไว้ฉู่เหมียนเหลือบมองอีกสองสามครั้ง แล้วก็ไปทำงานต่อแผนกฉุกเฉิน ฉู่เหมียนไปส่งเอกสาร กำลังจะจากไปก็ได้ยินเสียงคนเรียก “คุณหมอฉู่ มารับคนไข้เหรอคะ?”ฉู่เหมียนงง อะไรนะ?“มีคนไข้ของแผนกคุณอยู่ที่นี่พอดี อย่าลืมไปรับนะคะ” พยาบาลสาวเตือนฉู่เหมี

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 292

    ฉู่เหมียน “…” ก็เธอไม่ใช่เหรอ?“ตำแหน่งของใครมีความขัดแย้งกับลู่เจียวมากที่สุด?”ฉู่เหมียน “…”แผนกศัลยกรรมหัวใจมีหมอสองคน ถ้าตำแหน่งเดียวกัน ก็คงเป็นฉันสินะฉู่เหมียน “คุณหมอหลิน อย่าเอาแต่วิเคราะห์เลยค่ะ” ขืนยังวิเคราะห์ต่อไป เดี๋ยวจะถูกตัดสินว่ามีความผิดเอาเสียเองทุกอย่างชี้ไปที่เธอ ยากจะแก้ตัวจริง ๆฉู่เหมียนเท้ามือลงบนโต๊ะ ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “ขนาดวันหยุดสุดสัปดาห์ฉันยังนอนไม่หลับเลย”“งั้น… คุณพักร้อนสักสองสามวันไหมครับ?” หลินเฮิงชุยถามความเห็นของฉู่เหมียนอย่างระมัดระวังฉู่เหมียนตกใจ ทำไมล่ะ? ทำอย่างนั้นก็เหมือนกับตัวเองมีความผิดน่ะสิ!เธอไม่ทำอย่างนั้นหรอก ไม่เพียงแต่จะไม่พักร้อน แต่ยังจะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนอย่างองอาจทุกวันอีกด้วยจดหมายแจ้งเบาะแสฉบับนี้ “จริง ๆ แล้ว คุณไม่ได้เป็นคนเขียนใช่ไหม?”หลินเฮิงชุยเองก็เริ่มสงสัยแล้วฉู่เหมียน “…” ฉู่เหมียนเริ่มปวดหัว“ฉันไปดูที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดดีกว่า” ฉู่เหมียนยิ้มขณะที่กำลังพูด ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะ เป็นพนักงานผู้รับผิดชอบเรื่องนี้“ผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดออกแล้วเหรอครับ?” หลินเฮิงชุยสวมแว่น รู้สึกว่ามีหว

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 291

    ขณะที่ฉู่เหมียนกำลังคิดไม่ตกว่าจะพูดอย่างไร เสียงแตกของแจกันที่ตกพื้นในห้องผู้ป่วยก็ดังขึ้น“กรี๊ดดด!”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังแว่วแทรกเข้ามาในหูกู้ว่างเชินรีบเปิดประตูห้องผู้ป่วยเข้าไปทันที พบว่าผลไม้ถูกโยนมาตกอยู่ที่เท้าของเขากู้ว่างเชินเดินเข้าไปข้างใน ลู่เจียวกำลังนั่งอยู่บนเตียง ผมยุ่งเหยิง ดวงตาแดงก่ำ ดูเหมือนจะใกล้ถึงขีดสุดของความอดทนเมื่อลู่เจียวเห็นกู้ว่างเชิน เธอก็ร้องไห้จนพูดไม่ออก จบแล้ว จบสิ้นแล้วจริง ๆกู้ว่างเชินไม่ยอมรับตัวตนของเธอ ตอนนี้อาชีพที่เธอภาคภูมิใจที่สุดก็หายวับไปแล้ว!เธอจะทำอย่างไรดี?กู้ว่างเชินขมวดคิ้ว ลู่เจียวดูโทรมลงทุกวัน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอต้องมีปัญหาแน่ กู้ว่างเชินเก็บของที่ตกอยู่บนพื้น ลู่เจียวก็โยนลงไปอีกกู้ว่างเชินไม่พูดอะไร แค่คอย ๆ เก็บขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งลู่เจียวเหนื่อยที่จะโยน เธอหยุดโยนแล้วเอาแต่ร้องไห้กู้ว่างเชินรู้สึกอึดอัดใจ เดินเข้าไปลูบหัวลู่เจียวเพื่อปลอบโยน เมื่อเห็นเช่นนั้น ลู่เจียวก็ร้องไห้หนักกว่าเดิมเธอลุกขึ้นคุกเข่าแล้วโอบกอดกู้ว่างเชินไว้ ดูเหมือนว่ามีเพียงกู้ว่างเชินเท่

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 290

    ฉู่เหมียนตกใจ ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงกับต้องฉีดยา!“ใช่ค่ะ ตอนนี้คุณกู้กำลังรออยู่หน้าห้อง เป็นห่วงเจียวเจียวมาก” ซางหานถอนหายใจพอพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนต่างก็คิดว่าฉู่เหมียนแพ้แบบไม่ยุติธรรม!ทุกอย่างของฉู่เหมียนดีกว่าลู่เจียว แต่กลับแพ้ในเรื่องของกู้ว่างเชินฉู่เหมียนกัดริมฝีปาก ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลุกขึ้น “ฉันจะไปดูหน่อย”“อย่าไปเลยค่ะ ถ้าเจียวเจียวตื่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าเธอจะด่าคุณยังไงบ้าง พยาบาลบอกว่าตอนที่เธอกำลังใจเสีย เธอพูดว่า...” พูดมาถึงตรงนี้ ซางหานก็เงียบไปฉู่เหมียนไม่เข้าใจ พูดว่าอะไรล่ะ?ซางหานเกาหัว ดูเหมือนไม่อยากจะเล่าต่อฉู่เหมียนยิ้ม “พูดมาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก”คำพูดที่ออกมาจากปากของลู่เจียวเจียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวกับเธอ…ฉู่เหมียน คงไม่ใช่เรื่องดีแน่“ลู่เจียวบอกว่า เธอจะฆ่าคุณซะ...” ซางหานพูดฉู่เหมียนเม้มปาก เป็นอย่างที่คิดไว้จริงด้วย“เพราะงั้นคุณหมอฉู่ ตอนนี้คุณต้องระวังตัวตอนอยู่ในโรงพยาบาลนะคะ เพราะทุกคนต่างก็คิดว่าคุณเป็นคนแอบเขียนจดหมายร้องเรียน” ซางหานเตือนฉู่เหมียนฉู่เหมียนพยักหน้า ลูบหัวซางหาน “ได้ พี่รู้แล้ว ไปทำงานเถอะ!”“

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status