คาเตอร์กำลังข่มอารมณ์อย่างหนัก เขากำลังคิดว่าทำไมตัวเองถึงต้องมายุ่งเรื่องไร้สาระพวกนี้ด้วย แทนที่จะกลับบ้านไปนอนหลับพักผ่อนให้สบายดีกว่า
แต่ทว่าพอหันไปสบตาผู้หญิงคนนั้น เขาก็รู้สึกบางอย่าง เหมือนกับว่าหากเขาไม่ช่วย เธอจะตายอย่างนั้นแหละ ทั้งที่เขามองออกว่าพวกนี้คงไม่ถึงขนาดฆ่าเธอหรอก คงแค่อยากสั่งสอนที่เธอปากดีไปดูถูกพวกมันเท่านั้น แต่ทว่าขายาวของเขาก็ไม่เดินกลับไปที่รถเสียที มือหนาก็ยังคงกำกระบอกปืนพกสั้นที่เขาพกติดตัวตลอด ไม่ใช่ว่าจะเอามาใช้สุ่มสี่สุ่มห้า เพียงแต่พกไว้ป้องกันตัวเวลากลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ แค่นั้นเอง ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เอาออกมาช่วยผู้หญิงปากดีคนนี้ไว้ “กูให้โอกาสมึงอีกครั้ง ปล่อยผู้หญิงคนนั้นมาให้กู แล้วเรื่องทุกอย่างก็จะจบ” “มึงพูดไร้สาระอะไรอยู่ว่ะ ถ้าไม่ร่วมด้วยก็ถอยออกไป ก่อนที่พวกกูจะทำให้มึงขับรถกลับบ้านไม่ได้” พายมองเหตุการณ์ตรงหน้า น้ำตาเธอเริ่มไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะช่วยเธอได้หรือเปล่า แต่เขาคือความหวังเดียวของเธอตอนนี้ เธอหลับตาช้า ๆ ภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ว่าขอให้เขาช่วยเธอให้พ้นจากผู้ชายกลุ่มนี้ด้วย ไม่ว่าหลังจากนี้เขาต้องการอะไรตอบแทน เธอจะให้เขาทุกอย่างที่เขาต้องการ “คิดว่าที่กูมายืนอยู่ตรงนี้กูกลัวพวกมึงเหรอว่ะ”คาเตอร์ขึ้นเสียงใส่อย่างโมโห ดูเหมือนว่าเขาจะทนใจเย็นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เมาก็เมา ง่วงก็ง่วง ยังต้องมายืนมีมารยาทกับพวกขยะสังคมแบบนี้ มันไม่ใช่ตัวเขาเลยสักนิด มือหนาเลยตัดสินใจคว้าแขนเล็กของผู้หญิงคนนั้น ช่วงที่มันกำลังเผลอเข้าอ้อมกอดของเขาทันที แล้วใช้เท้าถีบผู้ชายตรงหน้าให้ล้มลงไปที่พื้นอย่างแรง พลั่ก!!! “สัด!!!”พวกมันที่เหลือจะกรูเข้ามาหาเขาทันทีที่เขาถีบคนตรงหน้าล้มลง แต่ทว่าก็ต้องหยุดชะงักเพียงแค่นั้น แกร็ก!!! เมื่อปืนกระบอกดำถูกมือหนาของคาเตอร์ยื่นออกไปทันที พายทำหน้าตาตื่นที่เห็นแบบนั้น เกิดมาเพิ่งเคยเห็นฉากเหมือนในหนังแบบนี้ เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดไปหรือเปล่า หากอีกฝ่ายชักปืนออกมาด้วย เธอกับเขาคงตายตรงนี้ เพราะพวกมันมีจำนานคนมากกว่า “อยู่นิ่ง ๆ ถ้าไม่อยากตาย”คาเตอร์เค้นเสียงรอดไรฟัน เมื่อผู้หญิงในอ้อมกอดขยับตัวยุกยิก หากเธอทำแบบนี้ไม่พ้นเราสองคนได้ตายก่อนออกไปจากตรงนี้แน่ ๆ ตอนนี้เขาก็รอลุ้นอยู่ว่าพวกมันสี่คนจะมีใครมีปืนและชักออกมาหรือเปล่า แต่ทว่าพวกมันยืนนิ่งไม่ขยับ “ที่นี้ปล่อยกูไปได้หรือยัง” เมื่อแน่ใจว่าพวกมันไม่มีอาวุธต่อสู้กับเขาได้ ก็เอ่ยเสียงเรียบออกไปทันที จับอาการได้จากใบหน้าพวกมันสี่คนที่ซีดลงเรื่อย ๆ คงไม่คิดว่าเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่พวกมันว่า…จะชักปืนออกมาข่มขู่ขนาดนี้ “วันนี้ไม่ใช่วันของพวกกูว่ะ แต่วันหน้าไม่แน่ วันพระไม่ได้มีหนเดียว”พวกมันสามคนดึงตัวคนที่เขาถีบลุกขึ้น ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้กระบอกปืนของเขา แล้วพูดออกมาด้วยความโมโห ก่อนจะเดินหันหลังออกไปทันที บทจะง่ายก็ง่าย ไม่ต้องลงแรงอะไร แค่ชักปืนออกมาพวกมันก็ไปกันหมดแล้ว แต่เขารู้ว่าพวกมันไม่จบแค่วันนี้แน่ มันดูแค้นเขาและผู้หญิงคนนี้มาก นี่เขากำลังหาเรื่องใส่ตัวให้มีศัตรูเพิ่มจากเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง “จะยืนร้องไห้อีกนานไหม” “ฮึก ฮึก” “น่ารำคาญฉิบ!!! เงียบสักที ทำไมฉันต้องมาช่วยผู้หญิงปากดีแบบเธอด้วยนะ ปากเก่งไม่รู้เวล่ำเวลา” “นี่พี่กำลังโทษฉันเหรอ พี่ก็เห็นว่าคนพวกนั้นกำลังจะทำอะไรฉัน มันลวนลามจับก้นฉันในผับนะ”เมื่อตั้งสติได้ ก็โพล่งออกไปทันที เธอเองก็โมโหเขาเหมือนกัน ถึงจะเป็นคนช่วยเธอ แต่ดูเหมือนเขาเองก็น่าจะไม่ต่างจากผู้ชายกลุ่มนั้น ที่เห็นผู้หญิงเป็นของไร้ค่า “หึ…ไม่ใช่เพราะเธอปากดีไปด่าพวกมันหรือไง มันถึงได้แค้นมาดักรอเธอแบบนี้ คราวหลังก็หัดอยู่เงียบ ๆ ซะบ้างสิ อย่าปากดีให้มากนัก” “แล้วพี่มาช่วยฉันทำไม ถ้าจะมาด่ากันแบบนี้ ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันโดนพวกนั้นข่มขืนไปเลยล่ะ” คาเตอร์แหงนใบหน้าหล่อเหลาขึ้น กรามขบเข้าหากันแน่น เพราะต้องระงับอารมณ์กับผู้หญิงที่ยังปากดีไม่เลิกตรงหน้าเขา ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่ช่วยเธอเอาไว้ “ฉันไม่อยากช่วยเธอ รู้ไว้ซะนะ ถ้าเธอไม่ใช่ลูกน้องของพี่ธัน ฉันปล่อยให้เธอโดนรุมโทรมไปแล้ว ปากดีแบบเธอมันก็น่าจะโดนอยู่หรอก ขนาดว่าฉันช่วยแล้ว ยังมายืนด่าฉันอยู่อีก” “ก็พี่ด่าฉันก่อนทำไมล่ะ ตอนแรกฉันก็ซาบซึ้งใจนะ ที่พี่ช่วยฉัน แต่มาตอนนี้ฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าระหว่างให้ไอ้พวกนั้นรุมโทรมกับให้พี่ช่วยอะไรจะดีกว่ากัน” คาเตอร์ขยับตัวเข้าไปใกล้เธอ มือหนาล้วงเข้าไปในแจ็คเกตอีกครั้ง ซึ่งพายที่เห็นเขาทำแบบนั้น เธอก็หุบปากตัวเองทันที รอดจากพวกนั้นมาได้แล้ว เธอยังไม่อยากตายเพราะความปากดีตอนนี้อีก “เงียบทำไม ทำไมไม่พูดต่อ” “…..” “อีกอย่างนะ ฉันจะบอกอะไรให้เอาบุญ” “อะไร?” “ไอ้พวกนั้นมันคงไม่หยุดแค่นี้หรอก หลังจากนี้เธอระวังตัวไว้ให้ดีแล้วกัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะช่วยเธอได้ตลอดหรอกนะ เธอต้องหัดลดความปากดีของตัวเองซะบ้าง” “ไอ้พวกนั้นมันลวนลามฉันในผับนะ ทำไมไม่เชื่อ ถ้ามันไม่ลวนลาม ฉันจะไปด่าพวกมันทำไม ฉันเองก็เป็นผู้หญิงนะ”พายพูดออกไปอย่างเหลืออด พวกผู้ชายชอบคิดว่าตัวเองพูดถูกเสมอ ทั้ง ๆ ที่เขาน่าจะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ถึงได้รู้ว่าเธอปากดีใส่คนพวกนั้น แต่กลับไม่พูดถึงเรื่องที่เธอถูกกระทำ แบบนี้เขาเองก็ไม่ต่างจากผู้ชายกลุ่มนั้นหรอก “หึ…นั่นมันเรื่องของเธอ ฉันไม่เกี่ยว”คาเตอร์ยักไหล่เหมือนไม่สนใจ พูดจบเขาก็เดินไปที่รถทันที เมื่อเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ มองผ่านกระจกหลัง เขาก็ยังเห็นผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ที่เดิม “ดูเหมือนฉลาดนะ แต่โง่ฉิบหาย”ชายหนุ่มบ่นออกมาอย่างหัวเสีย เขาต้องเปิดประตูแล้วพาตัวเองออกมาจากรถอีกครั้ง ในใจก็โมโหที่ยังยุ่งเรื่องของผู้หญิงคนนี้ไม่หยุด เขาควรขับรถกลับคอนโดแล้วนอนพักผ่อน หลังจากนี้เธอจะเป็นยังไงก็เรื่องของเธอ เพราะเขาได้ช่วยในสิ่งที่ควรช่วยไปแล้ว “ยืนเซ่อทำอะไรนักหนา เธอไม่กลัวพวกมันย้อนกลับมาหรือไง หรือว่าเปลี่ยนใจอยากเป็นเมียไอ้พวกนั้น”แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ต้องเดินไปลากตัวเธอให้มาที่รถของเขาทันที “ปล่อยนะ!!!” พายขัดขืนตัวเอง เมื่อเขาจับเธอยัดเข้าไปในรถของเขา พร้อมทั้งปิดประตูกดล็อคเรียบร้อย ก่อนจะอ้อมตัวเองมาขึ้นฝั่งคนขับ แล้วสตาร์ทรถขับออกไปทันที “ผู้หญิงแบบเธอนี่แปลกนะ ชอบทำให้ตัวเองอันตราย เอ๊ะ หรือว่า…” “หรือว่าอะไร?” “หรือว่าเธอยืนอ่อยฉัน สนใจฉันขึ้นมาล่ะสิ”หญิงสาวหันมองหน้าเขาทันที อะไรทำให้ผู้ชายคนนี้มั่นใจตัวเองขนาดนั้น ถึงแม้ว่าเมื่อมองหน้าเขาชัด ๆ เธอจะเห็นความหล่อเหลาของเขากระแทกตาเธอก็เถอะ แต่เธอก็ไม่ได้พิศวาสเขาเสียหน่อย ที่เธอยืนอยู่ตรงนั้น ก็แค่ระงับสติของตัวเองให้เป็นปกติ ขืนเดินไปขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ทั้งน้ำตาแบบนั้น มีหวังพวกวินมอเตอร์ไซค์ตกใจแน่ “จะบอกอะไรให้นะ หน้าตาแบบพี่ มหาลัยที่ฉันเรียนมีเยอะแยะไป ถ้าฉันจะชอบ ฉันไปชอบผู้ชายพวกนั้นไม่ดีกว่าเหรอ ทำไมต้องมาชอบผู้ชายที่อันตรายแบบพี่ด้วย” “หึ มันเหมือนกันเหรอ ไม่ใช่ว่าหน้าตาหล่อแล้วเราต้องชอบทุกคนนี่ เธอคงกำลังซาบซึ้งใจที่ฉันช่วยเลยชอบฉันขึ้นมาก็ได้” พายกรอกตามองบนอย่างเหนื่อยใจ กับความหลงตัวเองของผู้ชายคนนี้ มองดูภายนอกก็เหมือนจะเป็นคนเงียบ ๆ แต่ปากและความหลงตัวเองของเขาไม่ธรรมดาเลย“ฉันจะลงข้างหน้า จอดรถด้วยค่ะ”09.20น. “มาถึงมันก็หลับอีกแล้ว”มีนาเพื่อนในกลุ่มของพายพูดขึ้น เมื่อเดินมาถึงโต๊ะประจำของกลุ่มแล้วเห็นเพื่อนสนิทฟุบหน้าหลับอยู่บนโต๊ะเหมือนทุกวัน “เมื่อคืนมันโดนลวนลามอีกแล้ว”ลลิลเพื่อนสนิทอีกคนเอ่ยบอกมีนาทันที ที่เธอรู้เรื่องนี้ก็เพราะเจอกับปริมเพื่อนที่ทำงานที่ผับเดียวกันกับพายเมื่อเช้าตรงลานจอดรถ “เมื่อไหร่ไอ้พวกเศษเดนพวกนี้จะหายไปจากโลกนี้สักทีว่ะ ไม่เห็นใจเพื่อนร่วมมนุษย์กันบ้างหรือไง เห็นว่าเป็นผู้หญิงหน่อย มันคิดจะทำอะไรก็ได้เหรอว่ะ”มีนาบ่นอุบ จะห้ามเพื่อนไม่ให้ไปทำงานก็ไม่ได้ เพราะรู้ว่าเพื่อนมีปัญหาด้านการเงินมาตลอด แต่พายไม่เคยรับความช่วยเหลือจากพวกเธอสองคนเลยสักครั้ง บอกแค่ว่าถ้าไม่ไหวจริง ๆ จะบอก แต่คบกันมาสองปีแล้ว ไม่เคยเห็นบอกสักทีว่าไม่ไหว มีแต่ยิ่งทำงานหนักขึ้นทุกวัน “แล้วเจ้าของผับทำอะไรอยู่ว่ะ กูเห็นพายมันโดนแบบนี้หลายครั้งแล้วนะ เขาไม่มีมาตรการอะไรปกป้องลูกน้องบ้างหรือไง” “หึ พวกนักธุรกิจหน้าเลือดแบบนั้น ไม่มาสนใจลูกน้องตัวเล็ก ๆ หรอก ถึงไปบอกมันก็คงเข้าข้างลูกค้าพวกนั้นแหละ เงินถึงขนาดนั้น”มีนาพูดตามหลักความเป็นจริงที่เคยเห็นมา เธอมองว่าเจ้าของผับที่เพื่อนเธอท
“ถ้าไม่ติดว่าฉันเพิ่งช่วยเธอมานะ ฉันไม่สนใจผู้หญิงปากดีแบบเธอหรอก รอให้พ้นวันนี้ก่อนนะ หลังจากนี้จะเป็นจะตายก็เรื่องของเธอ” พายนั่งกำมือเข้าหากันแน่น เธอไม่อยากต่อปากต่อคำกับผู้ชายคนนี้ เขาดูอันตรายกว่าที่เธอคิด ดูจากหน้าตา อายุเขาน่าจะแก่กว่าเธอไม่เท่าไหร่ แต่เขากลับมีปืนผาหน้าไม้ ถ้าหากเถียงเขาไปมาก ๆ เธออาจจะถูกเขาสาดกระสุนใส่แทนไอ้พวกเลวก่อนหน้านี้ก็ได้ “เงียบทำไม?”ที่จริงก็ไม่อยากสนใจว่าเธอจะพูดหรือเงียบ แต่เห็นใบหน้าเธอซีดลงเรื่อย ๆ ก็สงสัยว่าเป็นอะไร ไม่ใช่ว่าจะมาเป็นลมในรถเขาหรอกนะ แค่ช่วยจากไอ้พวกนั้นก็พอแล้ว อย่าให้ต้องถึงขั้นพาไปส่งโรงพยาบาลอีกเลยนะ “ตกลงบ้านเธออยู่ไหน?” “…..” “เธอนี่เป็นคนแบบไหนกันนะ พอพูดมากก็ปากดีเหลือเกิน พอจำเป็นต้องพูดกลับไม่พูด เธออยากให้ฉันโมโหไปมากกว่านี้สินะ” “ขับตรงไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวใกล้ถึงฉันจะบอก”เมื่อเขาเริ่มโมโห เธอก็ส่งเสียงออกมาทันที เธอยังอยากกลับไปหายาย ไม่อยากทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ตอนนี้ “เธอกลัวฉัน?” “พี่มีปืน”เธอตอบออกไปทันที มีใครบ้างในโลกนี้ไม่กลัวปืน ขนาดไอ้พวกอันธพาลเมื่อกี้ มันมีกันสี่คน พอเขาชักปืนออกมาขู่ มันก็ถอยไปทันที แล้
คาเตอร์กำลังข่มอารมณ์อย่างหนัก เขากำลังคิดว่าทำไมตัวเองถึงต้องมายุ่งเรื่องไร้สาระพวกนี้ด้วย แทนที่จะกลับบ้านไปนอนหลับพักผ่อนให้สบายดีกว่า แต่ทว่าพอหันไปสบตาผู้หญิงคนนั้น เขาก็รู้สึกบางอย่าง เหมือนกับว่าหากเขาไม่ช่วย เธอจะตายอย่างนั้นแหละ ทั้งที่เขามองออกว่าพวกนี้คงไม่ถึงขนาดฆ่าเธอหรอก คงแค่อยากสั่งสอนที่เธอปากดีไปดูถูกพวกมันเท่านั้น แต่ทว่าขายาวของเขาก็ไม่เดินกลับไปที่รถเสียที มือหนาก็ยังคงกำกระบอกปืนพกสั้นที่เขาพกติดตัวตลอด ไม่ใช่ว่าจะเอามาใช้สุ่มสี่สุ่มห้า เพียงแต่พกไว้ป้องกันตัวเวลากลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ แค่นั้นเอง ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เอาออกมาช่วยผู้หญิงปากดีคนนี้ไว้ “กูให้โอกาสมึงอีกครั้ง ปล่อยผู้หญิงคนนั้นมาให้กู แล้วเรื่องทุกอย่างก็จะจบ” “มึงพูดไร้สาระอะไรอยู่ว่ะ ถ้าไม่ร่วมด้วยก็ถอยออกไป ก่อนที่พวกกูจะทำให้มึงขับรถกลับบ้านไม่ได้” พายมองเหตุการณ์ตรงหน้า น้ำตาเธอเริ่มไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะช่วยเธอได้หรือเปล่า แต่เขาคือความหวังเดียวของเธอตอนนี้ เธอหลับตาช้า ๆ ภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ว่าขอให้เขาช่วยเธอให้พ้นจากผู้ชายกลุ่มนี้ด้วย ไม่ว่
ระหว่างที่กำลังเดินเพื่อไปขึ้นวินมอเตอร์ไซค์เจ้าประจำ ก็มีกลุ่มผู้ชายที่เธอทะเลาะด้วยในผับ เดินมาดักหน้าเธอด้วยใบหน้าขึงขังทั้งสี่คน “คิดว่าด่าพวกกูขนาดนั้น แล้วพวกกูจะปล่อยมึงไปง่าย ๆ เหรอ” พายเอามือจับสายสะพายของกระเป๋าไว้แน่น เธอกำลังคิดทางหนี ทีไล่ หากจะวิ่งฝ่ากลุ่มผู้ชายพวกนี้ก็ดูเหมือนจะคิดผิด เพราะแต่ละคนร่างสูงใหญ่ราวกับเสาไฟฟ้า ไม่รู้ทำไมตอนอยู่ในผับก่อนหน้านี้เธอถึงไม่เห็นว่าคนพวกนี้จะตัวใหญ่และหน้าตาเหมือนคนเพิ่งแหกคุกออกมาขนาดนี้ หรือเพราะแสงไฟมันหลอกตาเธอกันนะ “แล้วพวกคุณต้องการอะไร”เธอพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น ทั้งที่ภายในใจเริ่มกลัว เพราะหางตาเธอมองไม่เห็นสิ่งมีชีวิตแถวนี้เลย อีกทั้งตรงนี้หากจะวิ่งกลับไปที่ผับก็ห่างกันเกือบสองร้อยเมตร ส่วนวินมอเตอร์ไซค์ถึงจะอยู่ไม่ไกล แต่ก็ต้องเลี้ยวเข้าไปตรงซอย ทำให้ตรงที่เธอยืนอยู่เป็นที่เปลี่ยว ๆ ที่มีเพียงแสงไฟจากเสาไฟฟ้าต้นหนึ่งเท่านั้น “อย่ามาพูดดี เมื่อกี้มึงยังด่ากูว่าหื่นกามอยู่เลย บอกว่าพวกกูน่าขยะแขยงบ้าง มึงลองมาเป็นเมียพวกกูพร้อมกันทั้งสี่คนดูไหมล่ะ ว่าน่าขยะแขยงเหมือนปากมึงว่าหรือเปล่า” หญิงสาวพยายามควบคุมสติของตัว
“ช่วงนี้ไม่เห็นหน้าเห็นตาเลยนะมึง”คาเตอร์เอ่ยทักโซลทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนสนิท ที่ช่วงนี้ได้ชื่อว่ามาเที่ยวผับ แต่มักชอบหายตัวไปบ่อย ๆ แบบเนียน ๆ “กูมีธุระ” คาเตอร์ยกยิ้มมุมปาก เขาพอจะมองออกว่าธุระของเพื่อนคืออะไร คนแบบมันถ้าไม่ใช่เรื่องน้องสาวก็ต้องเป็นเรื่องผู้หญิงแน่ ๆ ที่ทำให้มันหายตัวไปแบบนี้ เมื่อก่อนอาจจะเป็นเรื่องของมิลลิได้ เพราะต้องคอยเฝ้าน้องสาวจากพวกผู้ชาย แต่ตอนนี้มิลลิมีแฟนไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็เหลือเพียงอย่างเดียวที่ทำให้มันหายตัวได้คือเรื่องผู้หญิงเท่านั้น “อยากเห็นหน้าว่ะ คนที่มึงกำลังกก” “กกเหี้ยไร กูบอกว่ากูมีธุระ”โซลขึ้นเสียงใส่เพื่อนทันที ไม่ใช่ไม่พอใจที่เพื่อนหยอก แต่ขึ้นเสียงเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เพื่อนพูดต่างหาก แต่คาเตอร์ก็ไม่ได้สนใจ เขาชินเสียแล้วเวลาเพื่อนคนนี้ติดพันใคร มักไม่ค่อยบอกอะไรกับเพื่อนอยู่แล้ว ขอแค่ว่าไม่ไปกกเอาแฟนของเพื่อนคนไหนอีกเป็นพอ เพราะไม่อยากให้มีปัญหาตามมาทีหลังอีก “พอขึ้นปีสี่ สังเกตุไหมว่ากลุ่มเราเริ่มหายหัวกันหมด ยิ่งใกล้ฝึกงานแบบนี้กูไม่เห็นหัวใครสักคน” วันนี้ที่นัดกันมาผับ ก็นัดกันมาทุกคน แต่เลยเวลานัดมากว่าชั่วโมงกลับเห็นแค่เขา