พระอาทิตย์อยู่ตรงกลางหัว ห้องที่มีแสงสว่างส่องเข้ามาภายใน ร่างบางที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาพลิกตัวไปมาเพราะแสงแยงตา เรนนี่ยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมหัวหวังจะนอนต่อแต่ก็ไม่สามารถหลับลงได้
เธอจึงปัดผ้าห่มที่คลุมหน้าออก ทรงผมกระเซอะกระเซิง ชุดสวยที่สวมใส่ไม่ได้ทำให้เธอนอนสบายตัวสักเท่าไร เรนนี่ลืมตามองเพดานห้อง
เพดานสีขาวสูงมีแชนเดอร์เลียร์สีทองอร่ามห้อยลงมา
“หือ” เรนรี่ครางในลำคอ มองไปโดยรอบก่อนจะพบว่าเธอไม่คุ้นกับที่นี่เอาเสียเลย
ร่างบางหยัดตัวลุกขึ้นนั่งเอามือกุมศีรษะ “ทำไมปวดหัวจัง” บ่นกับตัวเอง “เอ๊ะ!” เรนนี่นึกได้ว่าเมื่อคืนเธอไปดื่มกับเอมมี่ แต่ธีรภพก็มาลากตัวเอมมี่กลับไปก่อน แล้วก็มีเรื่องเกิดขึ้น เธอจำได้ว่ามีผู้ชายเข้ามาจะทำความรู้จักเธอแล้วก็มีอีกคนเข้ามาห้าม สิ่งสุดท้ายที่เธอจำได้คือผู้ชายคนนั้นหล่อมาก!
เรนนี่ยกผ้าห่มที่คลุมตัวขึ้นดู เสื้อผ้ายังอยู่ครบ ไม่มีร่องรอยของการทำเรื่องอย่างว่า ต่างหูคู่สวยยังคงสวมใส่ เท้าเธอยังมีรองเท้าส้นสูงติดอยู่เลยหนึ่งข้าง
เรนนี่รีบร้อนลุกออกจากเตียง เดินไปยังประตูห้อง เปิดออกไปก็พบกับผู้ชายร่างสูง กำยำ ผมสีดำขลับ ใบหน้าหล่อคม สวมแว่นตาสีดำทรงเชย ๆ คนนี้นี่แหละที่เรนนี่เห็นเมื่อคืน!
“ที่นี่ที่ไหนเหรอ” เรนนี่ถามคนตรงหน้า ดูท่าทางแล้วเขาตั้งใจจะมาหาเธอใช่ไหม ในมือมีถาดอาหาร แก้วน้ำแล้วก็คงจะเป็นยาพาราสองเม็ด
“คอนโดของฉัน” ผู้ชายตรงหน้าตอบเสียงเรียบ
“คุณพาฉันมาบ้านของคุณ?”
“…” ผืนป่าพยักหน้าแทนคำตอบ
“แปลก”
“…”
“แล้วทำไมคุณไม่ทำอะไรฉัน!”
เรนนี่โวยวายอยู่สักพัก ผืนป่าจึงยัดถาดอาหารให้และเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองที่อยู่ติดกัน
หญิงสาวได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ ก้มมองถาดอาหารที่อยู่ในมือ เรนนี่ไม่ได้รู้อะไรมากกว่าที่อีกคนพาเธอมาที่ห้อง แถมไม่ทำอะไรเธอ ชื่อก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
เรนนี่หันหลังกลับเข้าห้องที่เธอเดินออกมา อันที่จริงเธอรู้ว่าเธอควรออกไปจากที่นี่ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าเธอจะไปไหน เธอปวดหัวเกินกว่าจะออกไปหาห้องรายวันเพื่อพักผ่อน ดูท่าทางแล้วผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเธอเมาขนาดนั้นแท้ ๆ แต่อีกคนก็ไม่แม้แต่จะแตะต้องตัวเธอ
เรนนี่วางถาดอาหารลงบนพื้นกลางห้อง ห้องนี้คงเป็นห้องรับแขกอะไรทำนองนั้น มีแค่เครื่องปรับอากาศ เตียงกว้าง ตู้เสื้อผ้าติดผนัง
“เฮ้อ” เรนนี่เมินอาหาร เธอเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียง หยิบกระเป๋าสะพายที่วางอยู่เตียงอีกฝั่งมา เป็นจังหวะเดียวกันกับโทรศัพท์ที่อยู่ภายในส่งเสียงดังบอกเธอว่ามีคนโทรเข้า
“ว่าไง” เรนนี่กดรับทันทีเมื่อเห็นว่าเอมมี่เป็นคนโทรหา
[ไอ้เรน แกทำไมไม่บอกฉันว่าแกเลิกกับแฟนแล้ว!] เอมมี่ทักทายด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ก็เมื่อวานแกทะเลาะกับเฮียธีร์ ฉันก็ไม่อยากเอาเรื่องน่าปวดหัวไปใส่หัวแกนี่”
[ไม่เกี่ยวกันเลย ไอ้บ้า ฉันก็ว่า...อยู่ ๆ แกก็จะมาหา ทำไมแกไม่บอก แกปล่อยให้ฉันเอาแต่ระบายเรื่องตัวเองแล้วแกก็นั่งเงียบปลอบฉันน่ะเหรอ]
“อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ได้ไหมไอ้เอม ฉันสบายดีน่า”
เรนนี่พูดพร้อมกับเอนกายลงบนเตียงอีกครั้ง
[เฮ้อ แล้วตอนนี้แกอยู่ไหน]
“ห้องใครก็ไม่รู้”
[ยังอยู่ห้องพี่ป่าเหรอ]
“หือ ป่า ป่าไหน” เรนนี่ไม่เข้าใจ
[ก็ห้องที่แกอยู่ตอนนี้คือห้องของพี่ผืนป่า พี่ป่าเป็นเพื่อนกับเฮีย เมื่อคืนตอนที่เฮียไปพาฉันกลับ เฮียฝากแกไว้ให้พี่ป่าดูแล] เอมมี่อธิบายยาวเพราะกลัวว่าเพื่อนของตัวเองจะไม่เข้าใจ
“อ๋อ ชื่อป่านี่เอง” เรนนี่พยักหน้าหงึกหงัก
[ตอนเย็นฉันจะไปหา]
“...”
[แกนี่นะ เลิกสักทีเถอะไอ้นิสัยเป็นอะไรแล้วไม่บอกใคร ฉันเป็นห่วง]
“จ้า ๆ ขอโทษน้า” เรนนี่ใช่น้ำเสียงออดอ้อน
[จะทำอะไรก็เกรงใจพี่ป่าด้วยนะ พี่ป่าเขาเป็นคนชอบความสงบ พูดน้อย ใจดีแต่ก็แอบดุ ๆ อยู่บ้าง] เอมมี่บอกให้เพื่อนสนิทของเธอระวังตัว เพราะเพียงเท่านี้ก็รบกวนผืนป่ามากพออยู่แล้ว อันที่จริงเธออยากจะมารับเรนนี่เสียด้วยซ้ำ แต่ธีรภพเป็นคนห้ามเธอเอาไว้
“ฉันไม่ทำอะไรหรอกน่า”
[งั้นแกเล่าให้ฉันฟังได้ไหมว่าทำไมแกถึงเลิกกัน]
“…ได้สิ”
เรนนี่เริ่มเล่าเรื่องราวความเป็นมาให้เอมมี่ฟังตั้งแต่ต้น โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเจ้าของห้องที่อยู่อีกฝั่งของประตูกำลังฟังอยู่ด้วยเช่นกัน
ผืนป่ายืนกอดอกพิงผนัง ฟังเรื่องราวของเรนนี่ คนในห้องร้องไห้เป็นระยะ...
“ฮึ” ผืนป่าหัวเราะเล็กน้อย ทำทีเป็นไม่สนใจก่อนจะหายตัวกลับเข้าห้องไปอีกตามเคย
“หนูจะวางสายแล้วนะ” [หนูทำงานไปด้วยคุยกับพี่ไปด้วยไม่ได้เหรอครับ] “เราคุยกันมาจะชั่วโมงหนึ่งแล้วนะพี่ป่า” [คุยกับหนูทั้งวันพี่ก็ไหว] “อย่าทำเหมือนตัวเองเป็นวัยรุ่นได้ไหม จะสามสิบอยู่แล้วนะ” [เฮ้อ ก็ได้ครับ] “ไว้คุยกันตอนเย็นนะคะ” [ครับ ไว้เจอกัน] “ไว้คุยกัน ไม่ใช่ไว้เจอกัน!” [โอเค...คิดถึงหนูนะ] “หนูก็คิดถึงพี่ป่า” [ครับ งั้นพี่วางสายแล้วนะ] “ค่า วางไปเลย” สายถูกตัดไปทันทีที่เธอเอ่ยบอก เรนนี่นั่งยิ้มให้กับความน่าเอ็นดูของผืนป่า ตอนนี้ก็เข้าเดือนที่ 3 แล้วตั้งแต่ที่เธอรู้จักกับผืนป่ามา ผืนป่าเสมอต้นเสมอปลาย ติดเธอยังไงก็ยังคงติดเธอแบบนั้น วันนี้เป็นวันฝึกงานวันสุดท้าย เรนนี่ตั้งใจว่าพรุ่งนี้เช้าจะรีบเดินทางไปหาผืนป่า ตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์ ตั้งแต่ที่เธอตกลงเป็นแฟนกับผืนป่า เธอก็ลองใจโดยการไปหาเพียงเดือนละครั้งถึงสองครั้ง ก่อนที่เรนนี่จะรักผืนป่าไปมากกว่านี้เธออยากจะแน่ใจว่าระยะทางที่ห่างกันจะมีผลต่อความสัมพันธ์
“พี่ป่า...หนูเหนื่อยแล้วนะ” เรนนี่พึมพำ สะลึมสะลืออยู่ในอ้อมอกของผืนป่า มือหนาที่สาละวนอยู่บนหน้าท้องขาวก็หยุดลง“พี่ป่าไม่ได้จะทำครับ พี่ป่าอยากลูบให้หนูเฉย ๆ”“ไม่จริง พี่ป่าหวังผล” เรนนี่เถียงกลับผืนป่าหัวเราะเล็กน้อย กระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น “หนูอยากไปทำงานกับพี่ไหมครับ”“หนูจะไปกวนพี่ป่าไหม” เรนนี่หลับตาตอบ“ไม่กวน ให้หนูไปด้วยพี่น่าจะมีกำลังใจทำงานมากกว่า”“อือ...แต่หนูขอนอนแป๊บหนึ่งได้ไหมคะ”“ครับ นอนพักก่อน”ผืนป่าปล่อยให้เรนนี่พักสายตาชั่วโมงกว่า ๆ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปปลุกด้วยการระดมหอมแก้มซ้ายทีขวาที เรนนี่รู้สึกจั๊กจี้จึงลืมตาตื่นขึ้นมา มือเรียวคล้องไปที่คอของผืนป่ารอยยิ้มหวานถูกส่งออกมา “พรุ่งนี้หนูต้องกลับแล้วนะ”“...” ผืนป่าเงียบ“ไว้หนูจะมาหาใหม่”“พี่ไม่อยากให้หนูกลับแต่พี่ก็เข้าใจ” เพราะเรนนี่กำลังฝึกงานอยู่ เขาไม่อยากจะขัด แต่เขาก็ไม่ได้อยากให้เรนนี่ห่างจากเขา“หืม พี่ป่างอแงเหรอ” เรนนี่เห็นสีหน้าที่แปลกไปก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม ใบหน้าหล่อเศร้าลงเล็กน้อย มุมปากเบะลงต่ำ“เฮ้อ” ผืนป่าทิ้งตัวลงบนเตียง ใบหน้าหล่อซุกลงที่ลำคอระหงเรนนี่พยายามกลั้นยิ้ม ผืนป่าน่ารัก...น่
เรนนี่สวมชุดเกาะอกสีอ่อน กระโปรงสั้นชนิดที่ขัดใจผืนป่า ผมปล่อยยาวตรง ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างดี ริมฝีปากบางน่าสัมผัส ผืนป่าเอ่ยปากชมเรนนี่ไม่ต่ำกว่าสามครั้งก่อนออกจากห้องเธอควงแขนผืนป่าเดินขนาบข้างไปที่ท่าเรือ ผืนป่าเหมาเรือเพื่อพาเรนนี่ดินเนอร์กลางแม่น้ำเจ้าพระยาแม้เรนนี่จะมีฐานะที่พอจะทำอะไรแบบนี้ได้ แต่เชื่อเถอะว่าเธอไม่มีทางทำมันเด็ดขาด แพงเกิน!หญิงสาวเอาแต่ยิ้มอยู่อย่างนั้น เธอดีใจที่ผืนป่าทำให้เธอขนาดนี้ ทำให้เธอโดยที่เธอไม่ต้องเรียกร้องเลยสักอย่าง สุดท้ายแล้วเรนนี่ก็อดไม่ได้ที่จะเอาไปเปรียบเทียบกับพีระ รายนั้นน่ะนอกจากไม่ออกเงินสักบาทยังรบเร้าให้เธอพาไปทานแต่อาหารแพง ๆ“คิดอะไรอยู่” ผืนป่าถามเมื่อเห็นว่าเรนนี่นั่งเหม่อโต๊ะทานอาหารที่อยู่กลางเรือ มีเพียงสองคนที่นั่งอยู่ ส่วนพนักงานต่างรอบริการอยู่ไกล ๆ เพราะผืนป่าบอกเอาไว้ว่าเขาชอบความเป็นส่วนตัว“คิดว่าหนูโชคดีที่ได้เจอพี่ป่า” เรนนี่ออดอ้อน“หนูอยากได้อะไร”“ทำไมเหรอ”“หนูอ้อนพี่ป่าทำไมครับ”“อ่า...” เรนนี่รู้สึกร้อน ๆ ที่หนู เธอแพ้กับคำพูดที่เรียกแทนตัวเองว่าพี่ป่า“หนูอยากดื่มไหม”“อยากค่ะ”“งั้นเดี๋ยวพี่เลือกเ
ร่างบางเปลือยเปล่า ไม่ได้สวมใส่อะไรนอนคว่ำหน้าบนหมอนนุ่ม ข้าง ๆ กันมีผู้ชายร่างสูงกำลังนั่งมองแผ่นหลังขาวเนียน มือหนาวางลงบนกลุ่มผมนุ่มอยู่อย่างนั้นผืนป่ายิ้มออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขารู้แค่เพียงว่าตอนนี้เขาอิ่มความสุขเสียเหลือเกิน...เรนนี่รู้สึกตัวจึงขยับตัวเล็กน้อย หันหน้ามาทางที่ผืนป่าอยู่ เปลือกตาสีไข่ ๆ ค่อยลืมขึ้น เมื่อเห็นว่ามีผู้ชายที่เปลือยเปล่านั่งอยู่ข้าง ๆ เรนนี่ก็รีบหันหน้าหนี“ทำไมพี่ป่าไม่ใส่เสื้อผ้า” เรนนี่ทักท้วง“หนูยังไม่ใส่ ทำไมพี่ต้องใส่ล่ะครับ” ผืนป่าตอบเสียงเรียบ“งั้นพี่ป่าก็เอาผ้าห่มคลุมไว้สิ” เรนนี่เถียงต่อ“ทำไมพี่ต้องทำแบบนั้น”“ก็...ก็ต้องอายหนูไง”“พี่ไม่อาย”“อายหนูหน่อยก็ได้ หนูยังอายเลย”“ครับ อายนิดเดียวก็ได้” ผืนป่าพูดจบเขาก็ทำสิ่งที่ทำให้เรนนี่ตื่นเต็มตา มือของผืนป่าจับมือของเรนนี่ไปวางไว้บนดุ้นยักษ์ที่กำลังหลับใหล“พี่ป่า!” เรนนี่ลืมตัวจึงหันกลับมาเรียกอีกคนเสียงดังลั่น แต่พอสบตาเข้ากับคนเจ้าเล่ห์ก็ต้องใจอ่อนยวบ ใบหน้าหล่อกำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาที่ไม่อาจต้าน“ว่าไงครับ” ยิ่งเจอน้ำเสียงออดอ้อนแบบนั้นเรนนี่ยิ่งอยากยกธงขาว...สุดท้ายเรนนี่ก็ทำในส
สองเท้าหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะที่เรนนี่นั่งอยู่ เขาส่งสายตาดุไล่คนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้หวังจะทักทาย สุดท้ายผู้ชายคนนั้นก็ถอยห่างออกไปเรนนี่เงยหน้ามาสบตา ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “พี่ป่าเห็นหนูได้ยังไง”ผืนป่าใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม ไม่เจอกันนานหลายสัปดาห์ โผล่มาอีกทีก็มายิ้มหวานใส่เขาซะงั้น ใครมันจะไปไหนรอด“หนูมาที่นี่ได้ยังไง”“ไม่รู้”“…”“สงสัยความคิดถึงมันพาหนูมามั้ง”คำตอบที่ได้ทำเอาผืนป่ายิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาเดินเข้าไปใกล้ หยิบกระเป๋าใบเล็กของเรนนี่มาถือไว้ในมือ มือหนากอบกุมมือเรียวเอาไว้ก่อนจะพาเรนนี่เดินออกมาจากร้านทันทีคอนโดมิเนียมสุดหรูคือจุดมุ่งหมาย แต่ทว่าต่างฝ่ายต่างนั่งเงียบไม่พูดไม่จา นั่งคนละฝั่งของโซฟา ผืนป่านั่งมองเรนนี่ส่วนเรนนี่เอาแต่ก้มมองเท้าของตัวเอง“พี่ป่าโกรธหนูไหม”ผืนป่าอยากตอบออกไปว่าไม่โกรธ แค่หนูโผล่มาอยู่ตรงนี้และเรียกเขาว่าพี่ป่าด้วยรอยยิ้มแบบนั้นเขาก็โกรธไม่ลงแล้ว แต่ทว่าผืนป่าก็อยากรู้ว่าเรนนี่ต้องการจะคุยอะไรกับเขา เขาเลยเล่นไปตามน้ำ “ให้พี่โกรธหนูเรื่องอะไร”“ที่หนูหายไปไม่บอก”“…” ไม่โกรธครับ พี่ไม่โกรธหนูเลย“โกรธหนูใช่ไหม” เมื่อเห็นว่าผืนป่าไม่ตอบ เ
ฉันกลับแล้วนะ ขอบคุณที่ให้ฉันอยู่ด้วยแล้วก็ขอโทษที่รบกวน-เรนนี่-กระดาษโพสต์อิทแผ่นเล็กแปะไว้บนบานประตูห้องนอนของผืนป่า เขาตื่นมาในช่วงสาย ๆ ของวัน ทันทีที่เปิดประตูห้องแล้วเห็นกระดาษแผ่นเล็กแผ่นนั้นใจเขาก็รู้สึกวาบโหวง แม้จะอยู่ด้วยกันไม่กี่วันแต่เขาก็ชอบมากกว่าเขาอยู่เพียงลำพังร่างสูงเดินไปนั่งลงบนโซฟา มือก็ถือกระดาษแผ่นนั้นเอาไว้ มองมันสลับไปมากับห้องนอนของเรนนี่ที่เปิดค้างอยู่ ไม่รอช้าเขาก็รีบเดินเข้าไปภายในกลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ยังคงลอยทั่วห้องนอนเล็ก เสื้อผ้าบางชุดยังคงแขวนอยู่ในตู้ ครีมบางตัวยังวางอยู่ในห้องผืนป่ายกยิ้มขึ้นเบา ๆ หากเจ้าของเขาทิ้งของเอาไว้แบบนี้แสดงว่าเดี๋ยวก็คงกลับมาเอาจากที่จิตใจห่อเหี่ยวก็กลับมาสดใสอีกครั้ง ผืนป่าไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะนัดเพื่อนออกไปทานอาหารกลางวันร้านอาหารที่มีห้องส่วนตัวคือจุดหมาย ผืนป่าไม่ชอบความวุ่นวาย เวลาเขาจองห้องอาหารเขาจึงเลือกร้านที่มีห้องวีไอพีเขาไปนั่งรอสักพักไม่นานนักเมย์ก็มาถึง“อ้าว ไอ้ธีร์ยังไม่มาเหรอ” เมย์เห็นห้องโล่งก็เอ่ยถาม“ยัง”“แล้วทำไมแกมาคนเดียวล่ะ” เมย์นั่งลงตรงกันข้าม “ธีร์มันโม้ให้ฉันฟังว่าแกมีเด็ก” เพื่อนสาววางกระ
หลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายที่ผับของผืนป่า เขาก็ได้พาเรนนี่กลับทันที เขาไม่มีอารมณ์จะมานั่งทำงานต่อตลอดทางกลับไปยังคอนโดมิเนียมหรูไม่มีเสียงพูดใด ๆ ผืนป่าดูอารมณ์ร้อนเล็กน้อย ส่วนเรนนี่ก็เอาแต่นั่งเงียบเพราะความเขิน แต่ผืนป่ากลับคิดว่าที่เรนนี่นั่งเงียบมันเป็นเพราะพีระ เพราะวันนี้เขายังได้ยินเรนนี่ร้องไห้เพราะเรื่องไอ้เวรนั่นอยู่เลยสองเท้าก้าวเข้าไปในห้อง เรนนี่ถอดรองเท้าและเปลี่ยนเป็นรองเท้าสลิปเปอร์สีเข้มที่เอาไว้ใส่ในห้อง เธอทำเหมือนกับว่าที่นี่คือห้องของเธอ ถึงอยู่ได้ไม่กี่วันแต่เธอยอมรับว่าเธอรู้สึกปลอดภัยในตอนที่เธออยู่ที่แห่งนี้“หิวหรือเปล่า” ผืนป่าเป็นคนพูดขึ้นมาก่อนเรนนี่ส่ายหัวก่อนเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟาผืนป่าพยักหน้าทั้ง ๆ ที่เรนนี่ไม่เห็น เขาปลดกระดุมออก ก่อนพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นถึงบริเวณข้อศอก ร่างสูงเดินตรงไปยังตู้เย็นก่อนเปิดหาน้ำเย็นเพื่อดื่มดับความลุ่มร้อนในหัวใจเรนนี่กัดริมฝีปากล่าง เธอขบคิดอะไรอยู่ในหัว สงสัยแต่ก็ไม่แน่ใจว่าควรถามมันออกไปหรือเปล่า...โซฟาข้างกายยวบลงบ่งบอกเธอว่าเจ้าของห้องได้มานั่งข้าง ๆ ผืนป่านั่งขาไขว่ห้างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์สั่งงานลูกน้อง ปกติ
“อย่าทำอะไรน้องถ้าน้องไม่ยอมนะ” ธีรภพที่นั่งดื่มกับผืนป่าบนชั้นสอง มองลงไปด้านล่างเห็นเอมมี่และเรนนี่กำลังคุยกันอยู่“กูไม่ได้เลวขนาดนั้น”“กูรู้ แต่กูกลัวมึงหน้ามืดตามัวเห็นของชอบใกล้ ๆ กลัวมึงจะอดใจไม่ไหว” ธีรภพวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ มองหน้าเพื่อนของตัวเอง“...” ผืนป่ายกยิ้ม“เอมมี่เป็นห่วงเพื่อนมาก ๆ” ธีรภพพูดขึ้น “หวังว่ามึงจะไม่ทำอะไรให้เมียกูเสียใจนะที่ไว้ใจผิดคน”“เออ ไม่ต้องย้ำ”ผืนป่าไม่ได้ชวนคุยอะไรต่อ เขาเอาแต่มองลงไปยังชั้นหนึ่ง มองหน้าหญิงสาวที่อาศัยอยู่กับเขามาหลายวัน อยู่ ๆ หัวคิ้วเขาก็ขมวดเป็นปมเมื่อมีผู้ชายเข้ามาทักทายเรนนี่ถึงโต๊ะ ทั้ง ๆ ที่เขาให้การ์ดมายืนเฝ้าที่โต๊ะแล้วแท้ ๆ ไอ้เวรนั่นมันกล้าดียังไงวะ“ฉิบ เมียกู” ธีรภพวางแก้วลงบนโต๊ะรีบร้อนจะลุกออกไปแต่ก็ไม่ทันผืนป่า ที่ลุกหายไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ “เร็วกว่ากูอีก” เขาบ่นพึมพำแล้วรีบก้าวเท้าตามลงไป“ว่าไงครับเรนนี่” พีระที่สวมเสื้อยืดสีขาว เอาเสื้อเข้าด้านในกางเกงยีนสีซีด พีระไม่ใช่คนหน้าตาดี แต่เขาเป็นคนที่แต่งตัวเก่ง“…” เรนนี่เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง“ออกไปจากโต๊ะพวกเราเถอะ” เอมมี่เป็นคนเอ่ยบอก“ได้ยังไงล่ะ ไหน ๆ
เรนนี่ตั้งสติก่อนยิ้มออกมา ผืนป่าไม่ใช่คนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แบบที่เอมมี่บอก“งั้นแสดงว่าคุณกำลังคิดอกุศลกับฉัน...ใช่ไหม” เรนนี่ไม่ได้กลัว หากอีกคนเป็นไฟเธอก็พร้อมที่จะเป็นน้ำมัน“...”“ชอบฉันหรือไง” เรนนี่ขยับเข้ามาใกล้ ใช้ขาหนึ่งข้างเกยไปบนหน้าขาแกร่ง“ฮึ”“ทำไมไม่ตอบล่ะ”หมับมือหนาวางลงบนต้นขาขาว เรนนี่เบิกตาโพลง ตกใจและตื่นเต้นกับไอร้อนของฝ่ามือที่สัมผัสอยู่ที่หน้าขาของเธอ“ฉันว่าฉันเตือนเธอแล้วนะ” ผืนป่าบอก ใบหน้าเขาตอนนี้ราวกับสัตว์ป่าที่กำลังหิวกระหาย“คะ...คุณ” เรนนี่อึกอักเมื่อมือร้อนนั้นเริ่มลากไล้“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าเธอไม่ลุกหนีฉันจะคิดว่าเธอรู้สึกแบบเดียวกันกับฉัน”ไม่ทันที่ผืนป่าจะเริ่มนับ เรนนี่ก็วิ่งหนีหายเข้าไปในห้องตัวเองเสียแล้วปังเสียงปิดประตูดังลั่น ผืนป่าหัวเราะออกมาเบา ๆ “น่ารัก” พร้อมกับพึมพำกับตัวเองอีกฝั่งของประตู หญิงสาวที่วิ่งหนีกลับเข้าห้องทรุดตัวลงกับพื้น มือเรียวกุมเอาไว้ที่ตรงกลางระหว่างอก สัมผัสเมื่อกี้มันทำให้เธอใจเต้นแรงจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ไหนจะใบหน้าหล่อที่มีแว่นปกปิดอยู่ใกล้เพียงไม่กี่คืบ เรนนี่อาจจะเป็นโรคภูมิแพ้...หมายถึงภูมิแพ้คนหล่อเพ