ลมหนาวหยิบขนมขึ้นมาแกะกิน เพราะตอนนี้ก็เริ่มหิวแล้ว บรรยากาศภายในรถมีเสียงเพลงจังหวะฟังสบาย ไม่เหมือนบรรยากาศข้างนอก ที่รถค่อนข้างติดเป็นบางช่วง ลมหนาวและวาริชคุยกันมาตลอดทาง
ตลาดน้ำ
ทั้งสองใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง กว่าจะมาถึงตลาดริมน้ำ ที่อยู่อีกฟากของเมืองหลวง
“โห สวยจังเลย บรรยากาศดี้ดี” ลมหนาวพูดออกมาอย่างตื่นเต้น หลังจากเดินเข้ามาในตลาดริมน้ำแล้ว มีของขายตลอดข้างทาง ทั้งของกิน ของใช้ ของที่ระลึก ในน้ำก็มีคนพายเรือขายของเช่นกัน พ่อค้าแม่ค้าจะแต่งตัวด้วยชุดไทยหลากหลายแบบ ลมหนาวคิดว่า มันช่างเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้จริง ๆ
“ใช่ สวยมาก ๆ บรรยากาศก็ดี” วาริชเห็นด้วยกับลมหนาว
“พี่เคยมาหรือยังครับ” ลมหนาวหันไปถามคนตัวสูงข้าง ๆ ที่ตัวเขาเองต้องเงยหน้ามอง
“พี่เคยมาสองครั้งแล้ว เดี๋ยวพี่พาไปชิมร้านอร่อย ๆ”
“ดีครับ มีไกด์พาชิมพาเที่ยวด้วย”
วาริชยิ้มให้กลับคำพูดของรุ่นน้อง เพราะแค่นี้เขาก็ดีใจมากแล้ว ที่ลมหนาวไม่ปิด และเปิดใจให้เขาจีบตั้งแต่วันนั้น
“หนาวเดินไปซื้อขนมร้านนั้นนะ เดี๋ยวพี่จะถ่ายรูปให้” ชายหนุ่มบอกลมหนาว พร้อมกับนำกล้องที่ตัวเองพกติดตัวด้วย ออกมาเตรียมถ่ายรูป ให้กับนายแบบคนพิเศษของเขา
“อ๋อ ได้ครับ” ลมหนาวรับคำ แล้วเดินไปซื้อขนมที่วาริชบอก
เมื่อซื้อเสร็จแล้ว ลมหนาวก็ถือกระทงขนม กลับไปหาช่างภาพตัวสูงทันที
“ขนมมาแล้วครับ” ลมหนาวใช้สองมือโอบรอบกระทงขนมไว้ แล้วยื่นให้วาริช
“ค้างไว้นะครับ ยิ้มนิดหนึ่ง” ชายหนุ่มกดถ่ายรูปคนตรงหน้ารัว ๆ เพราะเขาคิดว่ามันช่างน่ารักเหลือเกิน
‘คนอะไร ทำอะไร ก็น่ารัก’
“เดี๋ยวผมถ่ายให้พี่บ้าง ไปมุมนู้นกันดีกว่า” ลมหนาวชี้ไปทางที่นั่งพัก ที่อยู่ติดริมน้ำ ลมหนาวบอกให้วาริช เดินไปนั่งที่เก้าอี้ แล้วเขาก็กดถ่ายรูปให้
“พี่วายิ้มให้กล้องหน่อยครับ” ลมหนาวบอกกับรุ่นพี่ หลังจากถ่ายรูปหน้านิ่ง ๆ ของวาริชมาพักหนึ่งแล้ว
“ยิ้มให้คนหลังกล้องได้ไหม” วาริชยิ้มนิด ๆ ให้กับคำพูดตัวเอง เพราะไม่เคยเลยที่ตัวเขาจะไปพูดประโยคแบบนี้กับใคร
‘ลมหนาวคือคนแรก’
ลมหนาวได้ยินถึงกับชะงักและเขินนิด ๆ แต่ก็พยายามเก็บอาการไว้ ไม่ให้แสดงออกเยอะ
“ได้ครับ คนหลังกล้องอนุญาต” ลมหนาวบอกออกไป
วาริชยกยิ้มขึ้น เมื่อได้รับคำตอบที่เขาพอใจ
ชายหนุ่มนั่งเป็นแบบ ให้ช่างภาพตัวเล็กถ่ายรูปอยู่พักหนึ่ง แล้วทั้งสองก็เริ่มเดินเที่ยวไปเรื่อย ๆ จนสุดตลาดน้ำแห่งนี้
เมื่อเดินมาจนสุดตลาด และของกินก็เต็มไม้เต็มมือไปหมด ทั้งสองก็ชวนกันหาที่นั่งพัก ที่โต๊ะใกล้ ๆ กับริมคลองสายนี้ บรรยากาศในตอนนี้ดีมาก วิวก็สวยเมื่อมีแสงไฟจากร้านรวงต่าง ๆ ตกกระทบกับพื้นผิวน้ำ จนเกิดประกายแสงระยิบระยับ
“ศุกร์หน้าส่งงานแล้ว ตื่นเต้นจัง” ลมหนาวพยายามคิดเรื่องพูดกับรุ่นพี่ เพราะเมื่อนั่งลงก็นึกเรื่องที่จะพูดคุยไม่ค่อยออก
“อือ ถ้าได้รางวัลเดี๋ยวพาไปฉลองดีไหม” วาริชพูดทีเล่นทีจริง
“ทำยังกะเงินรางวัลเยอะงั้นแหละ ผมกินเยอะนะ จ่ายไหวเหรอ”
“ตัวแค่นี้เอง พี่เลี้ยงได้”
“โอเคครับ จะเก็บท้องไว้รอเลย” ลมหนาวพูดแล้วก็ทำท่าลูบพุงตัวเอง
“ฮ่า ๆ หนาวนี่ก็ตลกเหมือนกันนะ” ชายหนุ่มหัวเราะออกมา เมื่อเห็นท่าทางของลมหนาวที่ลูบพุงตัวเอง เขาคิดว่าลมหนาวเป็นคนเงียบ ๆ เรียบร้อย แต่ก็ยังมีอารมณ์ขำขันอยู่บ้าง
“ผมก็มีหลายมุมนะครับ คบไปนาน ๆ ก็อาจจะเจอเยอะกว่านี้ก็ได้”
“โอเคครับ จะคบไปนาน ๆ เลยนะ”
ลมหนาวชะงักกับคำพูดของรุ่นพี่นิดหนึ่ง แล้วหันไปยิ้มให้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
วาริชมาส่งลมหนาวที่คอนโดตอน 4 ทุ่ม ลมหนาวขึ้นมาถึงห้องก็อาบน้ำ เตรียมตัวเข้านอน ก่อนนอนก็แวะมารดน้ำเจ้าโฮชิ ดูเหมือนมันจะโตขึ้นมาอีกเล็กน้อย พอนึกถึงเรื่องนี้ ก็ทำให้ลมหนาวหวนกลับไปคิดถึงเรื่อง ของคุณดวงอาทิตย์อีกครั้ง
เลิกคิดได้แล้วไอ้หนาว
วันนี้ลมหนาวมีเรียนตอนสิบโมง เลยไม่ค่อยรีบเท่าไหร่ นิ้วเรียวกดเข้าไปดูการแจ้งเตือนต่าง ๆ ที่เด้งขึ้นมาโชว์ที่หน้าจอโทรศัพท์
เมื่อลมหนาวเปิดดูแจ้งเตือนจากวีโฟร์ เห็นแจ้งเตือนว่ามีคนแท็กเขา ก็เลยกดเข้าไปดู เป็นวาริชที่แท็กหาเขา เมื่อเปิดเข้าไปดูก็เป็นรูปที่พวกเขาไปเที่ยวตลาดริมน้ำด้วยกัน มีทั้งรูปเดี่ยวของลมหนาว และวาริชในอิริยาบถต่าง ๆ จนนิ้วเรียวเลื่อนลงมาถึงรูปสุดท้าย เป็นรูปคู่ที่ลมหนาวและวาริชอยู่ในเฟรมเดียวกัน
ลมหนาวยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก แล้วกดหัวใจไป มือเลื่อนดูคอมเมนต์ต่าง ๆ ทั้งฝั่งรุ่นพี่และของลมหนาว ทุกคนต่างพากันเดาความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนว่าเป็นอะไรกัน แต่ลมหนาวก็ไม่ได้สนใจคอมเมนต์ต่าง ๆ มากนัก
ลมหนาวพิมพ์ข้อความหาวาริช ถึงเรื่องรูปที่ลงไป
LN Wayuwat : ลงรูปผมไม่ขออนุญาตแบบนี้
LN Wayuwat : ต้องโดนลงโทษ
LN Wayuwat : ด้วยการเลี้ยงไอติมผมนะครับ
LN Wayuwat : สติกเกอร์หมีกอดอก
LN Wayuwat : สติกเกอร์กระต่ายกอดอก
Wa.Warit: ขอโทษครับ
Wa.Warit : อยากกินอะไรพี่เลี้ยงหมดเลย
Wa.Warit : สติกเกอร์ลิงก้มหัว
Wa.Warit : สติกเกอร์ SORRY
LN Wayuwat : สติกเกอร์กดไลก์
เมื่อคุยกับวาริชเสร็จแล้ว ลมหนาวก็มานั่งดูอีเมลที่ตังส่งมาให้ เกี่ยวกับรายงานกลุ่ม ลมหนาวไล่สายตาไปเรื่อย ๆ เพื่อหาชื่ออีเมลของตัง แต่ก็เจอเข้ากับอีเมลแปลกปลอมหนึ่งฉบับ นิ้วเรียวคลิกเมาส์เพื่อเข้าไปดู
เป็นอีเมลจากร้านส่งรัก ในมหาวิทยาลัยที่เขาเรียนอยู่ ทำไมถึงส่งมาหาเขา ด้วยความสงสัยลมหนาวก็กดเข้าไปอ่านทันที
ถึงคุณวายุวัส วงค์วิภากร
เราขอแจ้งให้ทราบว่า มีผู้รับพัสดุของคุณ ต้องการทราบชื่อ และติดต่อกับคุณ เราจึงขอถามความสมัครใจของคุณ ว่าอนุญาตหรือไม่ เราไม่สามารถติดต่อเบอร์โทรศัพท์ ที่ท่านให้ไว้ได้ จึงได้ส่งอีเมลฉบับนี้มา หวังว่าคุณจะให้คำตอบในเร็ววัน
ขอบคุณจากใจ ร้านส่งรัก
“ร้านส่งรัก”
เมื่อลมหนาวอ่านอีเมลจบ ก็รู้สึกสงสัยว่า ตัวเองไม่เคยส่งของที่ร้านนี้เลย แล้วทำไมถึงมีอีเมลฉบับนี้ ส่งมาถึงเขาได้
หรือว่าจะเป็น...
“คงต้องไปที่ร้านดูหน่อยแล้ว”
***************
หลังจากที่ลมหนาวและซันกลับจากเที่ยวทางภาคเหนือแล้ว ทั้งสองก็กลับมาเรียนต่อ ความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้เรียนรู้กันและกันมากขึ้น คนทั้งมหาวิทยาลัยต่างรู้แล้วว่าทั้งสองคนคบกัน เพราะทั้งคู่ตั้งสถานะในแอปวีโฟร์เสียขนาดนั้น ว่ากำลังคบกัน“หนาวเย็นนี้ทำอะไรกินดีครับ” ซันถามคนรักในระหว่างที่กำลังเลี้ยวรถเข้าไปจอดในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง“หนาวอยากกินแกงจืดเยื่อไผ่ ตุ๋นกับปีกไก่ครับ” ลมหนาวพูดบอกเมนูอาหารที่ตัวเองอยากกินออกไป“น่ากินจัง ขอพี่กินด้วยคนนะครับ”“แหม ถึงพี่ไม่บอกหนาวก็ต้องทำให้กินด้วยอยู่แล้วครับ ใครจะใจร้ายกับแฟนตัวเองได้ลงคอ” ลมหนาวพูดหยอกซัน“เดี๋ยวนี้พูดว่าเป็นแฟนกันได้ ไม่เขินแล้วเนอะ” ซันคิดถึงเมื่อก่อนที่ลมหนาวจะเขินเวลาพูดเรื่องนี้“ผมก็เริ่มชินแล้วหนิ” ลมหนาวเอนตัวไปซบไหล่ของคนรักซันยิ้มด้วยความเอ็นดู เขาเป็นแฟนกับลมหนาวมาได้ 3 ปีกว่าแล้ว ปีนี้ลมหนาวอยู่ปี 4 ส่วนเขานั้นเรียนจบเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้เขาทำงานในบริษัทของที่บ้าน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อ เพราะท่านก็เริ่มแก่ตัวลงทุกวันส่วนความสัมพันธ์ของเขากับลมหนาวนั้น แรก ๆ ผู้เป็นพ่อก็ย
หลังจากที่วาริชใช้เวลาคิดถึงเรื่องลมหนาว และตัวเองอยู่พักใหญ่นั้น เขาก็คิดได้ว่า ไม่ควรที่จะรั้งลมหนาวไว้ ในเมื่อเขาเจอคนที่ชอบแล้ว ก็ควรหยุดยื้อเขาไว้เสียที และเขาก็ควรที่จะหยุดใช้ลมหนาวเพื่อมาเป็นตัวแทนของเพียงดิน ชายหนุ่มกดโทรออกหาลมหนาวทันที[ฮัลโหลครับ] วาริชรอสายอยู่แป๊บหนึ่ง ลมหนาวก็กดรับ“ฮัลโหลครับ หนาว” วาริชพูดทักคนปลายสาย[ครับพี่วา พี่กลับมาแล้วเหรอครับ]“ครับ พี่กลับมาแล้ว”อยู่ ๆ บทสนทนาก็หยุดไปดื้อ ๆ เหมือนทั้งสองฝ่ายไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ“เสาร์นี้เรามาเจอกันไหม” วาริชพูดขึ้นหลังจากที่คิดมาดีแล้ว[เสาร์นี้ ได้ครับ เจอกันที่ไหนครับ]“ร้านกาแฟ D หน้ามอนะ 10 โมงเช้า” วาริชบอกสถานที่ และเวลากับลมหนาว[โอเคครับ แล้วเจอกันครับ]“ครับ”ประโยคการสนทนาจบเพียงเท่านี้ จากนั้นวาริชก็กดวางสายทันที ชายหนุ่มกดดูรูปในโทรศัพท์ ที่ตนเองได้ถ่ายรูปลมหนาวไว้ เขามองรอยยิ้มของคนในรูปแล้วยิ้มตาม เขาอยากซึมซับความรู้สึกที่มีความสุขนี้ไว้ สักนิดก็ยังดีเมื่อถึงวันที่นัดเจอลมหนาว วาริชไปที่คอนโดของลมหนาว เพื่ออยากมองลมหนาวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะไม่ได้ทำแบบนี้อีกแล้ววาร
“เอ้า บาสแล้วจะให้เราทำยังไง พูดไม่ดีกับพี่เขาเหรอ แล้วบาสรู้ได้ยังไงว่าเราไม่ได้ชอบรุ่นพี่” ลมหนาวถามบาสอย่างสงสัยบาสเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา “หนาวมีคนที่ชอบแล้วไม่ใช่เหรอ”“เราเนี่ยนะ เราชอบใคร” ลมหนาวสงสัย“หนาวเรารู้ทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องปิดบังหรอก”“เฮ้ย บาสเราไม่รู้จริง ๆ งงแล้วนะเนี่ย”“หนาวหยุดทำเป็นไม่รู้ ไม่ชี้ดิ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่เราแกล้ง ที่เราหยอด หนาวไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ” บาสจ้องหน้าเค้นหาความจริงกับลมหนาว“บาส เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย ที่บาสทำกับเราแบบนั้น เราก็คิดว่าบาสแค่แกล้ง ไม่ได้มีอะไร เราคิดกับบาสแค่เพื่อนเท่านั้น” ลมหนาวรีบพูดอธิบาย“แค่เพื่อนเหรอ แล้วที่หนาวแอบเอากล่องของขวัญไปไว้ใต้โต๊ะเรา มันคืออะไร หรือหนาวแค่แกล้งเรา ให้รู้สึกว่ามีคนมาแอบชอบงี้เหรอ”บาสเริ่มสับสน และก็เริ่มรู้สึกโมโหขึ้นมา ที่ลมหนาวมาทำแบบนี้ ทำให้จากคนที่ไม่ได้ชอบ แต่ตอนนี้กลับทำให้ชอบจนหมดใจ“เดี๋ยวบาส ฟังเราก่อนนะ คือใช่เราเป็นคนเอากล่องของขวัญ ไปไว้ที่ใต้โต๊ะบาสเอง แต่มันไม่ใช่ของจากเรา มีคนเขาฝากมาให้ช่วยน่ะ เราไม่ได้จะแกล้งหรือปั่นหัวบาสนะ” ลม
โรงเรียนมัธยมศึกษา WTNวันนี้ลมหนาวต้องรีบตื่นแต่เช้า เพื่อไปเข้าเรียน ที่โรงเรียนมัธยมปลายเป็นวันแรก เด็กหนุ่มต้องนั่งรถเมล์ไปลงที่หน้าโรงเรียน ระยะทางจากบ้านถึงโรงเรียน ก็ห่างกันหลายกิโลเมตรเลย มีโรงเรียนที่ใกล้บ้านกว่านี้ แต่ลมหนาวก็ไม่ได้เลือกเรียน เพราะตั้งใจจะมาเข้าเรียนที่นี่ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพราะเป็นโรงเรียนที่ใหญ่ และมีชื่อเสียงมากในแถบนี้ การเรียนการสอนก็ดี กว่าเขาจะสอบติดที่นี่ก็ลุ้นจนตัวโก่งวันแรกที่เข้าเรียนเขาก็ได้เจอกับตัง เพราะตังหาห้องเรียนไม่เจอ จึงได้เดินมาถามลมหนาว ที่อยู่แถว ๆ นั้นพอดี นั่นจึงทำให้ทั้งสองรู้ว่าพวกเขาเรียนห้องเดียวกัน จึงพากันเดินสอบถาม จนเจอห้องที่จะเข้าเรียน ทำให้พวกเขาทั้งสอง นั่งเรียนด้วยกัน และกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุดเพื่อนในกลุ่มของลมหนาวและตัง มีอีก 5 คน คือป้อง หนุ่มแว่นเนิร์ด ๆ ที่แต่งตัวเนี้ยบภู หนุ่มขี้เล่น กวนตีนคนอื่นไปทั่วก้อง สายฮา สายปาร์ตี้ฮลัน หนุ่มหล่อโคตร ๆ เดินไปไหนสาว ๆ มองตามเป็นแถวบาส หนุ่มหล่อ หน้านิ่ง นักกีฬาโรงเรียนพวกเขาทั้ง 7 คนเริ่มสนิทกันมากขึ้น เมื่อขึ้นเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี
หลังจากที่ลมหนาวออกมาจากวัด ก็ตรงมาขึ้นรถที่โฮมสเตย์จอดรอรับอยู่ หลังจากที่ได้พูดคุยกับหลวงพ่อ ทำให้ลมหนาวคิดอะไรได้หลาย ๆ อย่างเลย เขาไม่ควรจมอยู่แต่กับความผิดพลาด หรือความรู้สึกผิดในอดีต ชีวิตต้องเดินต่อไปข้างหน้าลมหนาวกลับมาถึงที่โฮมสเตย์ในตอนเกือบเที่ยง ชายหนุ่มมองไปที่โฮมสเตย์หลังข้าง ๆ แขกที่มาพักอยู่เมื่อวานน่าจะเช็กเอาต์ออกไปแล้ว เพราะเห็นแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด ลมหนาวมองเพียงเท่านั้นก็ไม่ได้สนใจอีกชายหนุ่มกดเข้าไปเช็กโซเชียลที่แอปไอเจ เห็นเพื่อน ๆ หลายคนถ่ายรูปอวดที่เที่ยวต่าง ๆ เขากดเข้าไปดูไอเจของพี่ซัน แต่ก็ยังคงไม่มีอะไรอัปเดต เข้าไปเช็กที่แอปวีโฟร์ ก็ไม่มีอะไรอัปเดตเหมือนกัน‘ทักไปหาจะดีไหมนะ’ ลมหนาวคิดกับตัวเอง แล้วก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง“แต่เราบอกพี่ซันว่าจำพี่เขาไม่ได้หนิ จะอธิบายยังไงดีล่ะ” ลมหนาวรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที“เลิกคิด ๆ เรามาเที่ยวนะ ต้องมีความสุขสิ ไม่ใช่มานั่งเครียด ไปหาอะไรกินดีกว่า”ลมหนาวพูดบอกตัวเอง แล้วก็ออกไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารของโฮมสเตย์ และกะว่าจะไปเดินเที่ยวในหมู่บ้านใกล้ ๆ ด้วยเพราะพนักงานที่โฮมสเตย์บ
ตังทนไม่ได้ที่เห็นเพื่อนจมปลัก อยู่กับความรู้สึกผิดนี้ จึงต้องพูดให้ได้สติเมื่อลมหนาวได้ฟังก็น้ำตาไหล นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ได้แต่ก้มหน้าร้องไห้อยู่อย่างนั้น ไม่ได้พูดอะไรตังเมื่อเห็นเพื่อนร้องไห้ ก็รีบเข้ามากอดปลอบ “หนาวกูขอโทษ ต่อไปกูจะไม่พูดแบบนี้แล้ว มึงอย่าร้องเลย กูขอโทษนะ”ลมหนาวส่ายหน้า “ไม่ ไม่ใช่ความผิดตังหรอก” ดวงตาเศร้าหันไปสบตากับเพื่อน “เราแค่ยังให้อภัยตัวเองตอนนี้ไม่ได้เท่านั้น ขอเวลาเราหน่อย”“อือ อือ กูฟังมึง ไม่ร้องนะ เช็ดซะ” ตังยื่นทิชชูให้เพื่อนเช็ดหน้า“ปะ เดี๋ยวกูเลี้ยงข้าวมึงเอง อยากกินอะไรบอก เต็มที่เลยเพื่อน” ตังชวนเพื่อนไปกินข้าว ถือเป็นการไถ่โทษที่ทำให้เพื่อนร้องไห้ด้วยใกล้ถึงวันสิ้นปีแล้ว มหาวิทยาลัยก็หยุดหลายวัน เพื่อน ๆ แต่ละคนต่างก็วางแผนจะไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ“ซัน ปีใหม่ไปเที่ยวทะเลทางใต้ด้วยกันไหม เพื่อนไปกันหลายคนเลย” เมฆถามเพื่อน“โทษทีว่ะ กูคงไม่ได้ไปด้วย” ซันบอกเพื่อนออกไป“มึงจะไปตามน้องลมหนาวเหรอวะ” เมฆที่รู้เรื่องราวก็ทำให้พลอยเครียดกับเพื่อนไปด้วย เพราะกว่าซันจะเจอคนที่ถูกใจจริง ๆ ก็มีแต่อุปสรรคเหลือเกิน“อือ กูให้คนสืบอยู