/ รักโบราณ / หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า / บทที่ 10 ขอร้อง…เพื่อความอยู่รอด

공유

บทที่ 10 ขอร้อง…เพื่อความอยู่รอด

작가: Mu lingxi
last update 최신 업데이트: 2025-09-19 16:37:05

บทที่ 10

แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นเสียงหัวเราะใสกังวานของหญิงสาว

“ใครกันจะโง่กลัวคนงาม หากหวาดหวั่นต่อความงดงาม เช่นนั้นคงเป็นโรคร้าย ที่สมควรหาวิธีรักษาเสียแล้วล่ะ”

ชายหนุ่มนิ่งค้าง สายตาแดงฉานนั้นพลันสั่นไหววูบหนึ่ง…

แต่ในวินาทีนั้น เขากลับสังเกตเห็นแววตาของนาง

ใสกระจ่างราวหยดน้ำพุบริสุทธิ์ ปราศจากการเสแสร้งแม้เพียงเสี้ยวเดียว

เรือนผมสีเงิน… ดวงตาสีโลหิตคุณลักษณะเช่นนี้ มีเพียงหนึ่งเดียวในความทรงจำของนาง

บุรุษผู้มีนามว่า “อ๋องเพลิงโลหิต หนานกงเยี่ยนหลัว”

องค์ชายแห่งแคว้นหนานเซี่ย ผู้ครองเพลิงอันเกรียงไกร!

เล่าลือกันว่า หนานกงเยี่ยนหลัวคือโอรสที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด ทุกสิ่งที่เขาปรารถนา ล้วนต้องสมดังใจประหนึ่งเพียงเอ่ยขอ

แม้จะเป็นดวงดาวบนฟากฟ้า ฮ่องเต้ก็ยอมเด็ดลงมามอบให้เล่าลือกันว่า เขาโหดเหี้ยมเย็นชา มิได้มีเมตตาต่อผู้ใด

หากผู้ใดกล้าล่วงเกิน ไม่มีทางรอดเกินหนึ่งเค่อ!

เล่าลือกันว่า เขาไม่เคยอนุญาตให้สตรีหน้าไหนเข้าใกล้

แม้เพียงปลายแขนเสื้อ หากใครกล้าฝ่าฝืน แขนทั้งสองก็ถูกสับทิ้งโดยไร้ความปรานี!

เล่าลือกันว่า เขาเกิดมาพร้อมเคราะห์ร้ายคร่าชีวิตมารดาผู้ให้กำเนิดตั้งแต่แรกประสูติ เรื่องนี้แม้ไม่มีผู้กล้าเอ่ยปาก

แต่ล้วนซ่อนอยู่ในใจของทุกคน หากใครหลุดปากเพียงถ้อยคำเดียว ตระกูลทั้งเก้าชั่วโคตรย่อมถูกประหารสิ้น!

เล่าลือกันว่า เขาครอบครอง “หยกกิเลนสีม่วง”

วัตถุวิเศษเท่าฝ่ามือทารก อัญมณีคู่กายที่มิอาจหาที่ใดเหมือน

ในวัยเยาว์ เขาเคยเป็นเพียงเด็กน้อยช่างเจรจา

ยิ้มสดใสราวน้ำผึ้งไหลริน ผู้ใดเห็นก็เอ็นดู ผู้คนทั้งวังหลวงต่างแย่งกันเข้ามาอุ้มมาเล่น

แต่แล้ว…ในวัยเพียงสี่หรือห้าขวบ เขาก็พลันหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย แรกเริ่ม ฮ่องเต้ถึงกับทรงบ้าคลั่ง ส่งทัพออกตามหาทั่วทั้งแผ่นดิน

ทว่าไม่นานนัก ทุกอย่างก็เงียบงันไปอย่างลึกลับ

ผู้คนร่ำลือกันว่า เขาไปฝากตัวเป็นศิษย์เซียนผู้ลึกลับ

และเมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง…

เขาเติบโตเป็นหนุ่มวัยสิบห้าหรือสิบหกปี ดวงจิตพลิกเปลี่ยนเป็นคนเย็นชา เงียบขรึมจนยากมีผู้ใดกล้าแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยใกล้ แม้แต่บิดาผู้ให้กำเนิดยังต้องเกรงกลัว

เคยมีผู้ไม่เชื่อถ้อยคำล่ำลือ

ก็กล้าลองแตะต้องร่างกายของเขา… ผลลัพธ์คือร่างนั้นถูกแช่แข็งทันที และมิละลายอยู่นานนับเดือน!

ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา ไม่มีผู้ใดในใต้หล้าไม่หวั่นเกรงต่อเขา ครั้งหนึ่ง เขาเพียงออกมาเดินเล่นยามราตรีเพื่อคลายใจ

แต่กลับถูกผู้คนเข้าใจผิดว่าเป็นวิญญาณร้าย จนผู้คนแตกตื่น บ้างเสียสติ บ้างสิ้นใจด้วยความหวาดกลัว!

จากเหตุการณ์นั้นเป็นต้นมา ทุกคราที่เขาออกจากจวน

หนานกงเยี่ยนหลัว จะสวมชุดดำทั้งชุด คลุมศีรษะด้วยผ้าหนา

และสวมหน้ากากเงินทับอีกชั้น เพื่อปกปิดเส้นผมสีเงินและดวงตาสีเลือดที่ผิดแปลกจากผู้คน…

ในยามนี้เสียงครางแผ่วเบาหลุดออกจากริมฝีปากของเขา

“…อือ…” ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่น แสงสีเงินเรืองรองวาบขึ้นที่หว่างคิ้ว ร่างทั้งร่างถูกห่อหุ้มด้วยไอเย็นเฉียบ

เปลือกตาของเขาถูกเคลือบด้วยน้ำแข็งบางใสราวหิมะยามเหมันต์ งดงามทั้งน่าเกรงขาม… และน่าสะพรึงในคราเดียว!

แล้วทันใดนั้น

พื้นดินรอบกายเขาในรัศมีสิบจั้ง พลันถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งสีเงินขาว ราวกับฤดูเหมันต์กลืนกินสรรพสิ่ง ไปชั่วพริบตาความเย็นยะเยือกแทงลึกเข้ากระดูก

หลินเยว่ซินหรี่ดวงตาสีม่วงลึกล้ำ มองชายตรงหน้าด้วยสายตาจับจ้อง ใบหน้าเรียวขาวผ่องของเขาในยามนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ริมฝีปากถูกขบเม้มแน่น

หากแต่แววตากลับยังทระนงไม่ยอมจำนน ตราสัญลักษณ์สีเงินเรืองแสงระหว่างคิ้วยิ่งชัดเจนขึ้นในยามต้องแสงจันทร์

เขางามดุจเซียนจากสวรรค์… งามจนเกินกว่าจะบรรยายว่าเป็นเพียงมนุษย์!

หัวใจของหลินเยว่ซินพลันไหววูบ… สองชาติภพที่ผ่านมา

นางไม่เคยพบชายใดรูปโฉมสะกดจิตถึงเพียงนี้มาก่อน

นางถอนหายใจแผ่วเบา ”เฮ้อ… ความหลงใหลในรูปลักษณ์งดงาม ช่างเป็นโรคร้ายเสียจริง“

ปลายนิ้วเรียวเอื้อมไปเขี่ยต้นแขนเขาเบาๆ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่

“เฮ้ ที่แท้ท่านอ๋องก็มีวันที่น่าเวทนาเช่นนี้ด้วยหรือ?”

เสียงของนางเสียดแทงใจยิ่งนัก

ชายหนุ่มเบือนหน้าหนีอย่างเย็นชา มิยอมสบตา เพราะยิ่งมองหน้านาง ความเจ็บก็ยิ่งแล่นลึกถึงหัวใจ

เขาตอบเพียงเสียงต่ำสั้นๆ “หึ!”

หลินเยว่ซินเบ้ปากเล็กน้อย ก่อนถามยิ้มๆ “เจ็บมากใช่หรือไม่?” เงียบ… แม้ไร้คำตอบ แต่แววตาของเขากลับกู่ร้องออกมาอย่างชัดเจน นั่นมันแน่อยู่แล้ว!

หลินเยว่ซินหัวเราะเบาๆ ดวงตาทอประกายขบขัน

“ยามดึกเช่นนี้ แอบโผล่มาในเรือนข้า ไม่อายหรืออย่างไร?”

เขายังไม่ตอบ แต่ใจกลับตะโกน ‘เจ้าคิดว่าข้าอยากมารึ!‘

“ถ้าไม่พูด เชิญกลับไปเถอะ” นางกล่าวเสียงเรียบ ตัดบทอย่างไม่ใส่ใจ

ทันใดนั้นเขาขบกรามแน่น ดวงตาสีเลือดวาววับจ้องมาอย่างจะกลืนกิน พร้อมเอ่ยลอดไรฟัน

“คลายจุด!”

แววตาเย็นชานั้นราวกับจะทะลุทะลวงเข้าไปถึงวิญญาณ

คิดจะข่มขวัญนางหรือ? ได้เลย…

หลินเยว่ซินทำหน้าเหรอหรา แสร้งตาเลื่อนลอย

“อา…ท่านขู่ข้าจนตกใจ ลืมไปแล้วสิว่าคลายจุดอย่างไร…”

น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสะใจ แม้คำพูดแสร้งซื่อไม่เนียนสักนิด

สีหน้าของหนานกงเยี่ยนหลัวมืดครึ้มทันตา เสียงเขาตะโกนดังลั่น เย็นยะเยือกจนสั่นสะท้าน

“จิ่วหยาง ออกมา!”

ทันทีนั้น คลื่นพลังสังหารพลันแผ่ซ่าน!

คอของหลินเยว่ซินถูกปลายดาบเย็นเฉียบจี้เข้าอย่างเฉียดฉิว

บุรุษในชุดรัดกายสีดำพุ่งข้ามกำแพงเข้ามาอย่างไร้สุ้มเสียง ใบหน้าคมสันสะอาดสะอ้าน ดูไปแล้วก็พอมีเสน่ห์อยู่บ้าง

“พรวด…”

หลินเยว่ซินกลับกลั้นหัวเราะไม่อยู่ หลุดหัวเราะคิกคักออกมา

“ฮ่าๆๆ …”

‘จิ่วหยางรึ’

ชื่อเช่นนี้… ไฉนทำให้นางหัวเราะได้ขึ้นมาดื้อๆ ก็ไม่รู้!

หลินเยว่ซินถึงกับหลุดหัวเราะเสียงใสออกมา โดยไม่สนใจแม้คมดาบที่กำลังจี้อยู่ตรงลำคอ

“เจ้าชื่อ จิ่วหยาง บ้านเจ้าเปิดกิจการขายทำน้ำเต้าหู้ใช่หรือไม่ ฮ่าๆ”

คำพูดเสียดแทงดุจคมมีดทำเอาสีหน้าที่เย็นชา

มาตลอดขององครักษ์หนุ่มถึงกับแตกร้าว แม้เขาจะไม่รู้ว่า

ทำน้ำเต้าหู้ คือสิ่งใด

แต่ก็พอเข้าใจได้ว่ามันคือการดูแคลนอย่างร้ายกาจ

ปลายดาบขยับเข้ามาอีกครึ่งนิ้ว ความเจ็บแปลบแล่นผ่านลำคอ หยดโลหิตอุ่นๆ ไหลซึมลงมาเป็นทางแดงฉาน

ดวงตาของหลินเยว่ซินพลันเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว

ร่างบางพลิกกายไปด้านหลังอย่างฉับไว หลบคมดาบได้เฉียดฉิวก่อนจะหายวับไปจากสายตาในพริบตาเดียว

สองบุรุษตรงหน้าถึงกับชะงักงัน

ร่างของนาง! หายไปต่อหน้าต่อตา!

จิ่วหยางกวาดตามองทั่วลาน

แต่กลับเห็นเพียงท่านอ๋องที่บาดเจ็บกับสาวใช้ที่สลบอยู่

ไม่มีเงาหญิงสาวผมม่วงปรากฏอยู่เลย

ทว่าเพียงแสงสีขาววาบหนึ่ง นางก็กลับมาปรากฏตรงตำแหน่งเดิม ราวกับไม่เคยเคลื่อนที่ไปไหนมาก่อน

ยังไม่ทันที่หนานกงเยี่ยนหลัวจะได้เอ่ย

รอยยิ้มบางก็ผุดขึ้นที่มุมปากของหลินเยว่ซิน ร่างนางเคลื่อนไหวเพียงก้าวเดียว ก็ปรากฏอยู่ด้านหลังของจิ่วหยางทันที!

ปลายนิ้วเรียวทั้งสิบสะบัดว่องไว เข็มเงินหลายเล่มพุ่งออกไปอย่างแม่นยำ ปักลงบนจุดชีพจรสำคัญทั่วร่างองครักษ์หนุ่ม

จิ่วหยางชะงักกึก ร่างทั้งร่างอ่อนแรงแทบทรุด ดาบในมือแทบร่วงหลุด

สีหน้าที่เคยเย็นชากลับซีดเคร่ง “เจ้า…ทำอะไรข้า!”

หลินเยว่ซินไม่ตอบ เพียงย่อตัวลงนั่งข้างกายหนานกงเยี่ยนหลัว แววตาสีม่วงเป็นประกายระยับ

นางยกยิ้มบางเหมือนไม่มีพิษภัย ทว่าคำพูดกลับแฝงคมเขี้ยวอันร้ายกาจ

“ขอเตือนด้วยความหวังดี หากเจ้าขยับแม้เพียงนิดเดียว

อาจสิ้นชีวิตโดยไม่รู้ตัว

ตอนนี้… ชีวิตของเจ้าอยู่ในกำมือข้า เอาอย่างไรดีล่ะ?

ขอร้องข้าสักคำ ข้าก็อาจจะเมตตาช่วย”

หนานกงเยี่ยนหลัวใบหน้าแทบเปลี่ยนสี ดวงตาสีเลือดแทบพุ่งไฟ เขาอยากกระอักเลือดออกมาเสียให้ได้

ให้เขา…ขอร้อง?

สตรีนี้ช่างกล้าถึงเพียงนี้เชียว!

เสียงเขาต่ำลึก กัดฟันกรอดเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“เชื่อเถิด… หากข้าได้พบเจ้าอีกครา ข้าจะทำให้เจ้าตายไม่เป็นชิ้นดี!”

แต่หลินเยว่ซินกลับเพียงยักไหล่ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเย็นชา

“ข้าจะตายอนาถหรือไม่ นั่นมันเรื่องของอนาคต

แต่ถ้าเจ้าไม่ขอร้องข้าเสียตอนนี้… เจ้าก็จะตายอนาถทันที”

หนานกงเยี่ยนหลัวกัดฟันแน่น คำรามเสียงต่ำ

“ให้ข้าขอร้องเจ้า…เรื่องอะไร”

“ก็ขอให้ข้าช่วยเจ้าเสียสิ” หลินเยว่ซินตอบกลับทันควัน ราวกับรอคำถามนี้อยู่แล้ว

ชายหนุ่มแทบกลั้นหัวเราะ เสียงหัวใจเขาเต้นแรงด้วยโทสะและความขบขันผสมกัน

ช่วยเขา?

นางผู้นี้นะหรอ? เรือนผมสีม่วงรูปร่างบางเช่นนี้…

คิดว่าจะช่วยเขาได้จริงๆนะรึ น่าขันสิ้นดี!

เขากลอกตาเบาๆ แฝงแววดูแคลนในที

หลินเยว่ซินกลับยังยิ้มละมุนอย่างมีเลศนัย

“เจ้าไม่ยอมเอ่ยปาก… เจ้าก็อาจตายจริงๆ ได้นะ”

เสียงนั้นเบาราวลมพัด แต่แฝงความกดดันจนบรรยากาศรอบตัวขมึงเกลียว

จิ่วหยางที่ยืนข้างๆ เอ่ยเสียงสั่น

“นายท่าน…” ทว่าดาบในมือกลับหนักอึ้งจนยกไม่ขึ้นแม้แต่นิ้วเดียว หนานกงเยี่ยนหลัวยังคงเงียบ ดวงตาแดงฉานจ้องนางนิ่ง

สายตาคมวาวราวกับเพลิงที่พร้อมเผาผลาญได้ทุกเมื่อ

หลินเยว่ซินจงใจขยับกายเข้าไปใกล้ ยกดวงตาสีม่วงทอประกายวาววับ มองเขาด้วยรอยยิ้มที่ทั้งล้อเลียนและยั่วยวน

“ดูเจ้าเถิด งามสง่าถึงเพียงนี้ แต่ยังไม่ทันมีภรรยา

หากมาตายเอาวันนี้… ช่างน่าเสียดายนัก”

เขายังคงไม่เอ่ย แต่ภายในใจกลับคำรามก้อง

เขาจะไม่มีวันพูดคำนี้เด็ดขาด!

ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ก็จะไม่มีวันเสียศักดิ์ศรีเพราะสตรีนางนี้!

หลินเยว่ซินเห็นเขานิ่งเฉย ไม่ไหวติง จึงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นกดดันและหยิ่งผยอง

“ข้าให้เวลาเจ้าเพียงห้าลมหายใจ หากยังไม่ยอมขอร้อง…

ข้าจะปิดจุดไป่ฮุ่ยของเจ้า ครานี้เจ้าจะได้ลิ้มรสความตายที่ยิ่งกว่าความตายเสียอีก!”

คำว่า จุดไป่ฮุ่ย เพิ่งหลุดออกจากปากนาง หนานกงเยี่ยนหลัวก็ถลึงตาใส่ทันที ไฟโทสะแล่นพล่านไปทั่วร่าง

‘สตรีผู้นี้! ช่างหาที่ตายเสียจริง!’

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า    บทที่ 77 เสียงสุดท้าย ก่อนวิญญาณดับสูญ

    บทที่ 77หลินเยว่ซินหัวเราะเบาๆในลำคอ นางยกมือขวาขึ้นอย่างเชื่องช้าปลายนิ้วขาวซีด เรียวยาวราวหยกสลัก เผยฝ่ามือที่แบออกในมือนั้น คือเข็มทองสองเล่ม สิ่งที่เขารู้จักดียิ่งกว่าผู้ใดในใต้หล้า ดวงตาดำสนิทของเขาฉายแววบางอย่างวูบไหว แต่ยังแสร้งยิ้มบางประหนึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราว “เข็มทองรึ…หน้าตาก็แปลกดี” เสแสร้งหรือ? หลินเยว่ซินเพียงยิ้มเล็กน้อยอย่างรู้ทัน แต่หาได้เอ่ยวาจาเปิดโปงหรือกดดันใดๆ นางเพียงหยิบเข็มเล่มหนึ่งขึ้นมาช้าๆ หมุนปลายเรียวอย่างแผ่วเบาในระหว่างนิ้ว “งั้นหรือ… ข้าเองก็คิดเช่นนั้น” เสียงของนางเยียบเย็นดุจหิมะตกกลางฤดูร้อน แฝงรอยประชดประชันที่คมกริบเกินกว่าจะถูกจับผิดได้ “ของบางอย่าง ต่อให้ภายนอกงดงามเพียงใด ก็อาจซ่อนพิษร้ายในทุกเสี้ยวของเนื้อแท้” กล่าวจบ นางก้าวขึ้นอีกก้าว ยืนประจันหน้ากับเขาในระยะประชิดใกล้เสียจนได้ยินแม้เสียงลมหายใจ หลินเยว่ซินมองเขานิ่งๆ ในใจกลับยกย่องอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ บุรุษผู้นี้… ไม่สิ เด็กหนุ่มผู้นี้ กลับมีจิตใจลึกซึ้งเกินวัย ราวกับเคยผ่านศึกหนักนับร้อยสนาม ชั้นเชิงของเขา… ไม่ใช่สิ่งที่เด็กคนหนึ่งควรมี หากแต่ลึกล้ำประหนึ่งสืบทอดจากบรรพชน

  • หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า    บทที่ 76 คนที่ขัดใจ ก็ฆ่าปิดปาก คนที่พูดตรง ก็กำจัดให้สิ้น

    บทที่ 76คิ้วเรียวของหลินอวี้เฉิงขมวดแน่นเล็กน้อย ก่อนจะถอดผ้าคลุมไหล่ออกแล้วค่อยๆ คลี่มันออกด้วยมืออันอ่อนโยน โอบคลุมร่างที่สั่นไหวของมารดาไว้แน่น แววตาที่ทอดมองเต็มไปด้วยความห่วงใยลึกซึ้ง ไม่เอื้อนเอ่ยคำใด มีเพียงความเงียบงันที่อ่อนโยนปกคลุมอยู่รอบตัวทันใดนั้น เสียงทรงอำนาจก็ดังขึ้น“เจ้ามาทำอะไรที่นี่!”หลินเทียนหยู่ตวาดลั่น แววตาเต็มไปด้วยเพลิงโทสะที่แทบจะระเบิดออกมาเสียให้ได้ ความขุ่นเคืองในอกพลันพุ่งพล่านราวอยากทำลายทุกสิ่งตรงหน้าให้พินาศในขณะที่บรรยากาศตึงเครียดถึงขีดสุด เสียงหัวเราะเบาๆ พลันดังขึ้นหลินเยว่ซินก้าวเข้ามาอย่างสงบนิ่ง แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนไหล่ของหลินเทียนเฟิงด้วยท่าทีไม่ใส่ใจนัก แม้จะเผชิญหน้ากับบิดาโดยตรง แต่ดวงตาคู่นั้นกลับไม่เหลือบมองแม้แต่น้อยนางยกมือขึ้นช้าๆ ปลายนิ้วเรียวยาวลูบไล้เล็บสีแดงที่แต้มไว้อย่างประณีต ท่าทางเหมือนไม่พอใจนัก แต่คำพูดที่หลุดออกจากปากกลับแทงใจผู้เป็นบิดาเข้าอย่างจัง“ฝีมือของท่านพ่อ… พวกเราลูกๆ ล้วนได้ประจักษ์กับตาแล้วเจ้าค่ะ”เสียงของหลินเยว่ซินเยียบเย็นดุจน้ำค้างยามเหมันต์ ล่องลอยอยู่กลางอากาศ เงียบงันราวกับคมดาบกรีดลงกลางอ

  • หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า    บทที่ 75 บทเรียนของอวี้หรง

    บทที่ 75ขณะนั้นเอง ขุนนางวัยกลางคนผู้หนึ่งเบียดฝูงชนเข้ามา ชุดขุนนางของเขาเบียดเสียดกับแขนเสื้อผู้อื่นอย่างไม่เกรงใจในมือมีห่อเอกสารถูกพับอย่างดี“ฮ่ะฮ่าๆ! มาแล้ว มาแล้ว ทุกท่านทั้งหลาย พวกท่านอยากรู้เรื่องนี้มากใช่หรือไม่ เช่นนั้น ดูสิ! ดูสิ่งนี้คืออะไร!”ผู้คนแย่งกันไปหยิบอ่าน พอเพียงกวาดตาไปไม่กี่บรรทัดก็พากันหัวเราะเสียงดังไม่หยุดทุกสายตา หันขวับไปยังชายผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อม โดยไร้ซึ่งความเข้าใจใดๆสายตาเหล่านั้นเจือทั้งความเวทนา เสียดสี และความสะใจ…ปะปนกันจนยากแยกแยะหลินเทียนหยู่คิ้วกระตุกเล็กน้อย ก่อนที่หัวใจจะเต้นแรงขึ้น สัญชาตญาณของแม่ทัพผู้ผ่านศึกนับไม่ถ้วนกำลังกระซิบบอกเขาว่า…ในเอกสารนั้น ต้องมีเรื่องอัปยศเกี่ยวกับเขาอย่างแน่นอนเขาพุ่งมือไปคว้ากระดาษแผ่นหนึ่ง ดวงตาคมกริบไล่กวาดตัวอักษรทีละบรรทัด…“ภรรยาคนแรกของท่านกั๋วกงตระกูลหลิน คือแม่นางสกุลโหว หลินเทียนหยู่รักนางดั่งชีวิต แต่ไม่ได้ใส่ใจสกุลหลี่แม้เพียงน้อยหลี่อวี้หรงเฝ้าเรือนอย่างเดียวดาย อกอัดตันใจจนต้องระบายกับคนรับใช้ในจวนจากนั้น…ไม่นาน นางก็ตั้งครรภ์ และให้กำเนิดหลินอวี้ซิง…”ราวกับฟ้าผ่าลงตรงกล

  • หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า    บทที่ 74 ถูกใส่ร้าย โดยไม่ได้กระทำ

    บทที่ 74 “ท่านแม่รอง…” เสียงของหลินเยว่ซินอ่อนลง พลางยกมือลูบหว่างคิ้วด้วยท่าทีปวดหัว “ขอเถิด…วันหนึ่งจะปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบบ้างไม่ได้หรือ?” คำพูดที่ทั้งเฉื่อยชาและรำคาญนั้น เล่นเอาหลี่อวี้หรงถึงกับจุกอก พูดไม่ออกสักคำ ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยโทสะ แทบจะสำลักโลหิตออกมา! นางผู้นี้…ยังจะกล้าแสร้งไม่รู้เรื่อง อยู่อีกหรือ! หลี่อวี้หรงกัดฟันแน่น พยายามข่มกลั้นโทสะที่แทบปะทุขึ้นมาท่วมอก นางจ้องเขม็งไปยังหญิงสาวตรงหน้าอย่างโกรธเคือง “ถ้าเช่นนั้น ข้าจะถามให้ชัด!” “เมื่อคืน…มีคนเห็นสาวใช้ของเจ้าลอบออกไปข้างนอก แล้วกลับมาช้ามาก! จากนั้น เช้าวันนี้ ใบปลิวก็ว่อนเมือง! เรื่องเมื่อคืนกับเรื่องฐานะบุตรสาวข้าก็ถูกพูดกันให้ทั่ว! เจ้ายังจะกล้าปฏิเสธอีกหรือว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้าแม้แต่น้อย!” หลินเยว่ซินยกมุมปากนิดๆ เอ่ยเสียงเนิบไม่ทุกข์ร้อน “เมื่อวาน…ท่านแม่รองเพิ่งกล่าวหาว่าข้าเป็นลูกนอกสมรสไม่ใช่หรือ? วันนี้…ก็รีบร้อนมาแต่เช้าเพื่อด่าข้าว่าปล่อยข่าวลือใส่พี่รอง ท่านไม่เหนื่อยบ้างหรือ หรือว่าหากวันใดไม่ได้หาเรื่องข้า ท่านจะกินไม่ได้ นอนไม่หลับเสียกระมัง” “เจ้า…!” “ท่านนี่สมกับเป็นมารด

  • หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า    บทที่ 72 ข่าวลือปลิวว่อนทั้งเมือง

    บทที่ 72 ณ เรือนเยว่หยวน หลังจากเสี่ยวถิงจัดเตียงของคุณหนูเรียบร้อยแล้ว นางก็ลอบม้วนตัวกลับไปยังเรือนข้างอย่างเงียบงัน เพื่อพักผ่อน ในห้องที่เงียบมืดสนิท หลินเยว่ซินขยับนิ้วเพียงน้อยร่างของนาง ก็เลือนหายเข้าสู่มิติลับในพริบตา ภายในบ่อน้ำแห่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ไออุ่นลอยคลุ้งบางเบา ปกคลุมทั่วผืนอากาศ สตรีนางหนึ่งนั่งพิงแผ่นหินใหญ่ด้วยท่วงท่าเกียจคร้าน ร่างเปลือยเปล่าแช่อยู่ในน้ำอย่างไม่ไยดี ริมฝีปากโค้งรอยยิ้มจางคล้ายเบื่อหน่าย มือหนึ่งของนาง ลูบไล้ไข่อสูรเบาๆ ไข่ใบนั้นมีขนาดใหญ่เกือบเท่าเด็กวัยห้าขวบ เนื้อไข่โปร่งแสงบางส่วน แผ่พลังหม่นลึกลับที่หมุนวนอยู่ภายในอย่างแผ่วพลิ้ว พลังนั้น…เหมือนมีชีวิตของตน “เจ้านี่…โตช้าชะมัด โตช้าจนข้าเริ่มรำคาญแล้วนะ” เสียงบ่นของนางเบาแผ่ว ทว่าแฝงด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม คล้ายตำหนิของเล่นไร้ประโยชน์ที่ยังไม่ยอมเผยบทบาทสำคัญ ดวงตาสีม่วงเฉียบคมเหลือบมองไข่ใบนั้น ประกายหยอกล้อผสานแววเยาะหยันฉายชัดในดวงตาคู่งามหมั่นไส้ปนเอ็นดู… น้ำและดินในมิติแห่งนี้…หาใช่สิ่งของธรรมดาที่พบเห็นในโลกภายนอกไม่แต่กลับอวลไปด้วยพลังแห่งฟ้าดินอันมิอาจลบล้างได้ง่ายแ

  • หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า    บทที่ 71 ข้าออกจะน่ารัก จะไปทำเรื่องเลวได้อย่างไร~

    บทที่ 71สายตาคมกริบดั่งคมของหนานกงเยี่ยนหลัว จับจ้องไปยังอ่างปลาทรงประหลาดใบหนึ่ง สิ่งเดียวที่ดูไม่เข้ากับบรรยากาศเรียบสงบภายในเรือนในน้ำนิ่งใสสะอาดเรียบเย็น…เศษหยกโลหิตนั้น ที่แตกละเอียดก่อนหน้านี้ กำลังค่อยๆรวมตัวกลับเป็นรูปลักษณะเดิมอย่างเชื่องช้า ทว่า ดูลี้ลับยิ่งนัก เขาขมวดคิ้วเบาๆ เบิกตากว้างอย่างอดใจไม่ไหว“นี่มัน… อะไรกันแน่?”เสียงหัวเราะแผ่วเบาๆดังขึ้นจากข้างกายหลินเยว่ซิน หญิงสาวผู้สงบนิ่งคล้ายไม่แยแสสิ่งใด มือขาวเรียวเอื้อมไปหยิบหยกโลหิตขึ้นจากอ่างน้ำ ก่อนกล่าวน้ำเสียงราบเรียบ ดูคล้ายเรื่องไร้สาระ“ก็แค่ หยกโลหิต อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่รู้จัก”นางพลิกหยกโลหิตไปมาในมือราวกับของเล่น แสงจากโคมไฟสาดกระทบผิวหยกจนสะท้อนประกายสีเลือดงดงาม กลับดูไร้รอยตำหนิ งดงามยิ่งกว่าก่อนจะแตกเสียอีก“ดูเหมือนว่า สายน้ำในมิติของข้า จะมีคุณวิเศษเกินคาด” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงรอยขบขัน ขณะมองชายหนุ่มที่เริ่มทำหน้าเคร่งเครียดเขารู้จักหยกโลหิต แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจที่สุด กลับไม่ใช่หยก เขายกมือชี้ไปยังอ่างปลาทรงประหลาดนั้นทันที “ข้าหมายถึง เจ้านั่นต่างหาก!”นางปรายตามองตามนิ้ว ก่อนจะหัวเราะ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status