วันต่อมา
ทัศนีย์และสุเมธรีบมาที่บ้านของเพื่อนรักคเชนทร์และสิริวดีแต่เช้าตรู่เพื่อพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปแล้ว
“ข้าขอโทษจริงๆ เว้ยไอ้เชนไม่คิดว่าไอ้ลูกไม่รักดีมันจะหน้ามืดตามัวได้ถึงขนาดนี้”
สุเมธพูดแล้วก็พาให้โมโหรู้สึกผิดกับเพื่อนจนไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดได้แล้ว
“เอาน่าเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วอันที่จริงทั้งสองคนก็ตั้งใจจะหย่ากันอยู่แล้วด้วย”
“มันจะหย่ากันจริงๆ ได้ที่ไหนเธอก็รู้นี่วดี”
ทัศนีย์แหวขึ้นมาทั้งที่ตายังบวมไม่หายแค่คิดก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ
“ถึงยังไงก็ต้องรับผิดชอบนั่นแหละนะ จะใจไม้ใส้ระกำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”
สิริวดีพูดขึ้นมาตามความเป็นจริงถึงจะรู้สึกเห็นใจเพื่อนและลูกสาวตัวเองมากขนาดไหนแต่เด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนี่นา
“เรื่องสินสมรสทุกอย่างไม่ต้องแบ่งครึ่งแบ่งกันอะไรแล้วยกให้หนูอรไปเลยทุกอย่างแล้วก็อันนี้ด้วยคนไม่รักดีไม่ควรได้อะไร”
ทัศนีย์วางกระเป๋าที่เต็มไปด้วยฉโนดที่ดินและเครื่องเพชรมากมายเต็มกระเป๋ามอบให้สิริวดีและคเชนทร์เพื่อแทนคำขอโทษและความเสียหายของอรฤดี พวกเขารักและเอ็นดูเธอไม่ต่างจากลูกสาวคนนึงจึงรู้สึกมากเหลือเกิน
“โอยย ไม่ต้องหรอกอย่าไปคิดมากเลยเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งขนาดไหน”
คเชนทร์ทำท่าไม่รักสิ่งของตรงหน้าแต่สุเมธก็ห้ามไว้ทันที
“รับไว้เถอะไอ้เชนอย่างน้อยๆ ความรู้สึกผิดของกูกับเมียก็จะได้ผ่อนเป็นเบาลงไปบ้างสักนิดก็ยังดี “
เมื่อเห็นเพื่อนสนิทพูดอย่างนั้นแถมยังแอบปาดน้ำตาอยู่หลายครั้งคเชนทร์จึงยินดีรับไว้
แล้วสิริวดีก็สวมกอดทัศนีย์เพื่อนรักเพื่อนสนิทแนบแน่นแล้วลูบหลังเธอเบาๆ เพื่อให้เธอสบายใจขึ้น
“ขอบคุณมากๆ เลยนะวดี คเชนทร์”
“ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นา.…”
.
.
“ผมเอาไปให้อรเซ็นเองไม่ได้เหรอครับแม่”
“นี่แกยังจะมีหน้าไปเจอหนูอรให้เค้าเจ็บช้ำไปกว่าเดิมอีกหรือไง”
ทัศนีย์เป็นฝ่ายเอาใบหย่ามาให้ลูกชายเซ็นต์เพราะอรฤดีไม่ต้องการจะเจอหน้าผู้ชายคนนี้อีกแล้วและทุกคนก็คิดเห็นแบบเดียวกัน
“….”
“รีบเซ็นในส่วนของแกซะนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่แม่จะช่วยเหลือแกถ้ายังมีความเป็นคนอยู่ล่ะก็ไปทำหน้าที่พ่อของแกซะอย่าไปรบกวนหนูอรเค้าอีกเลย”
ให้ตายเถอะเก็บน้ำตาไม่ได้เลยอายุก็ปูนนี้แล้วแท้ๆ
ทัศนีย์ยกมือขึ้นปาดน้ำตาเบาๆ มันทำให้จอมทัพรู้สึกผิดรู้สึกเสียใจจนพูดอะไรไม่ออก
เขาทำให้ครอบครัวตัวเองพัง ทำให้พ่อและแม่เสียใจ คนที่ทำแบบนี้ได้ต้องเลวขนาดไหนกัน..
“แล้วชั้นขอยื่นคำขาดอย่าให้นังเด็กนั่นมาเหยียบที่นี่เด็ดขาดแกก็เหมือนกันไม่มีอะไรสำคัญไม่ต้องมา ! “
ถึงจะดูใจร้ายแต่ก็เพราะที่ผ่านมาเธอใจดีน่ะสิ ถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น..
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรทำได้เพียงเว็นเอกสารแล้วก้มหน้าหลบสายตาคนเป็นแม่ที่กำลังจ้องมองเขาราวกับจะกินเลือดจะกินเนื้อ
.
.
ณ เรือนหอของอรฤดีและจอมทัพ
“เอามาเถอะค่ะแม่ มันคือสิ่งที่อรตั้งใจจะทำอยู่แล้วนี่คะ”
อรฤดียื่นมือไปหยิบเอกสารจากมือคนเป็นแมาแล้วเซ็นต์ลงไปในส่วนของเธออย่างไม่ลังเล เธอรู้เรื่องราวทุกอย่างแล้วและพร้อมจะเดินออกไปจากชีวิตของเขาทุกวินาที
“เรียบร้อยค่ะ”
มือเล็กๆ เซ็นชื่อตัวเองเสร็จกก็ส่งคืนให้ด้วยรอยยิ้มตอนนี้เธอกับเขาตัดขาดกันโดยสิ้นเชิงแล้วและยังไม่คิดที่จะบอกกับแม่เธอว่าตอนนี้เธอเองก็กำลังตั้งท้องอยู่
“ลูกแม่..แม่ขอโทษนะที่บังคับลูกตั้งแต่แรก”
สิริวดีสวมกอดลูกสาวสุดที่รักดั่งดวงใจเบาๆ ถึงตอนนี้เธอจะยิ้มอยู่แต่แววตาของเธอนั้นไม่ใช่เลย
“หนูโอเค ค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงนะคะ”
“โถลูกแม่”
คำพูดที่ช่างสวนทางกับสายตาทำเอาคนเป็นแม่ถึงกับเก็บน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
“หนูไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะแม่แล้วหนูว่าจะไปอยู่ที่สวนสักพักนะคะ”
สิริวดีคลายอ้อมกอดแล้วพยักหน้ารับเบาๆ ที่บ้านสวนเป็นบ้านพักตากอากาศบนเขาถูกปลูกและจัดสวนตกแต่งเต็มไปด้วยดอกไม้มากมายตามที่เธอชอบบ้านหลังนั้นเป็นของขวัญวันเกิดที่คเชทร์มอบให้และคอยดูแลความสวยงามให้คงไว้อย่างนั้นตลอดเพื่อวันที่อรฤดีกลับไปก็จะเห็นดอกไม้สวยๆ ที่เธอชอบตลอดเวลา
ถ้าเสร็จงานทางนี้แล้วแม่จะไปหานะลูก
“ค่ะ งั้นอรไปนะคะ”
เมื่อได้รับอิสระคืนกลับมาพร้อมกับลูกในท้องที่ไม่มีใครรู้เธอก็อยากหลบไปพักใจใช้ชีวิตเงียบๆ ให้เรื่องราวต่างๆ มันจางหายไปตามกาลเวลาถึงแม้ข้างในจะเจ็บปวดมากขนาดไหนแต่ต่อไปนี้ก็คงต้องเข็มแข็งเพื่อสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ ที่กำลังจะเกิดมา เห็นว่าถ้าแม่เสียใจความรู้สึกนั้นก็จะส่งผ่านไปถึงลูกที่อยู่ในท้องได้ด้วย
“คุณอร ฮือๆ ให้พี่ปลาไปอยู่ด้วยนะคะ ให้พี่ปลาไปดูแลคุณอรด้วยนะคะ”
พี่ปลาร้องไห้โฮออกมาในทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้นเธอเป็นคนเดียวที่รู้ว่าอรฤดีกำลังตั้งท้องอยู่ แล้วจะให้เธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้ยังไงกัน
“อรไม่กล้ารบกวนพี่ปลามากขนาดนั้นหรอกค่ะ ขอบคุณมากนะคะพี่ปลา”
เธอลูบหลังมือพี่ปลาเบาๆ ด้วยรอยยิ้มนั่นยิ่งทำให้พี่ปลาสะอื้นออกมาไม่หยุด
“ไม่เอาค่ะ พี่ปลาจะไปกับคุณอร อย่าทิ้งพี่ปลาเลยนะคะให้พี่ปลาคอยดูแลรับใช้คุณอรนะคะ ฮือๆ “
“เดี๋ยวชั้นไปคุยกับเจ้านายเธอให้นะตอนนี้ก็กลับไปอยู่บ้านใหญ่ก่อนก็แล้วกันนะ”
สิริวดีเห็นแล้วก็สงสารจึงอาสาจะเป็นธุระให้ ซึ่งพี่ปลาก็ยอมทำตามแต่โดยดีได้แต่ยืนร้องไห้สะอื้นดูรถของอรฤดีแล่นออกจากบ้านไปจนลับสายตา
ไม่มีใครอยู่ที่นี่อีกแล้วเรือนหอที่เคยมีทั้งจอมทัพและอรฤดีเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม.. ทุกอย่างกลายเป็นเพียงความทรงจำที่อีกไม่นานก็คงละถูกลืมเลือนไปตามการเวลา
“หึหึ ในที่สุดแกก็ไม่เหลืออะไรคนอย่างแกจะเสนอหน้ามาแย่งของๆ ชั้นไปได้ยังไงอีชั้นต่ำ !!”
ลูกปัดหัวเราะเบาๆ ในลำคอแล้วประโคมลงข่าวว่าเธอกำลังจะหมั้นกับจอมทัพในเร็ววันนี้เป็นข่าวฉาวข่าวดังในแวดวงสังคมไฮโซอยู่ไม่น้อยเพราะไม่กี่เดือนก่อนว่าที่คู่หมั้นของเธอก็เพิ่งจัดงานแต่งใหญ่โตไปได้ไม่นาน
“นี่ลูกทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาพ่อกับแม่บ้างพี่ของเรารู้เรื่องหรือเปล่า”
คุณหญิงเพ็ญพักตร์แม่ของลูกปัดถามเธอเสียงเรียบนานๆ เธอจะได้เจอกับลูกสาวสักทีนึงเพราะอยู่ต่างประเทศเสียส่วนใหญ่และถ้ากลับมาก็จะเป็นการเข้าสังคมหรือเรื่องงานเพียงเท่านั้น
โดยที่เธอจะอยู่กับพี่ชายซึ่งก็คือเปรมที่คอยดูแลธุรกิจบางส่วนแทนตนและสามี
“พี่เปรมเคยสนใจปัดที่ไหนล่ะคะ มีแต่ทำงานๆๆ แต่คุณแม่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ถ้าปัดแต่งงานแล้วก็ไม่ต้องคอยรบกวนพี่เปรมแล้วพ่อกับแม่ก็ไม่ต้องห่วงปัดด้วยจริงไหมคะ”
“แล้วทางนั้นเค้าเพิ่งแต่งงานไปไม่ใช่เหรอนี่มันเรื่องอะไรกัน ทางสังคมจะมองลูกว่ายังไง”
“ปัดไม่สนใจหรอกค่ะแม่มันเป็นแค่การแต่งงานบังหน้าเท่านั้นค่ะ จอมกับปัดรักกันด้วยใจจริง เราต้องเป็นครอบครัวที่มีความสุขแน่ๆ ค่ะคุณแม่”
ลูกปัดยิ้มร่าอย่างมีความสุขเพียงแค่คิดถึงภาพอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นจากนี้ไปคงจะหมดทุกข์หมดโศกแล้วเสียที
“พ่อหวังว่าลูกจะมีความสุขกับสิ่งที่ลูกเลือกนะลูกเองก็โตแล้วตัดสินใจอะไรก็คิดให้ดีๆ ก็แล้วกัน”
คนเป็นพ่อที่นั่งฟังอยู่นานก็พูดขึ้นมาบ้างเอาจริงๆ เขาก็พอจะรู้เรื่องมาจากเปรมบ้างแล้วถึงจะไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่แต่ตอนนี้เธอได้ตั้งท้องแล้วจะไปพูดอะไรก็คงจะสายเกินไปเสียแล้ว
“คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ ปัดกับจอมเรารักกันค่ะ”
หญิงสาวตัวน้อยๆ ในสายตาของคนทั้งสองเอ่ยปากรับคำอย่างชัดถ้อยชัดคำในแววตาเต็มไปด้วยความสุขเปล่งประกาย
“อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันหมั้นแล้วปัดไปเตรียมตัวก่อนนะคะ”
“ แล้วเจอกันวันงานค่ะคุณพ่อคุณแม่”
“สดชื่นไหมคะคุณอรที่นี่อากาศดีทั้งปีคุณอรพักอยู่ที่นี่นานๆ เลยนะคะ” “ขอบคุณมากนะคะป้าพันอร อุก ..อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ ““ตายแล้วแพ้ท้องหนักมากเลยนะคะ มาค่ะป้าช่วยนะคะ ค่อยๆเดินค่ะ” อาการแพ้ท้องของอรฤดีมีแต่จะหนักขึ้นทุกวันแต่ก็ยังดีที่มีป้าพันผู้มีประสบการณ์การมีลูกมาอย่างโชกโชนและลูกสาวคนเล็กที่คอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง ครอบครัวของป้าพันคอยดูแลบ้านสวนแห่งนี้ไว้มาตั้งแต่เริ่มและเป็นคนที่สิริวดีไว้ใจมากพอสมควร “มาแม่ แหนมช่วยประคองนะ เขาไปข้างในก่อนดีกว่าค่ะคุณอรข้างนอกลมแรงแล้วค่ะ”“อรไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ ““แต่คุณอรแพ้ท้องหนักมากนะคะจะไม่ให้ป้าบอกคุณนายจริงๆ เหรอคะป้าว่า..”“ตอนนี้ที่บ้านมีเรื่องเครียดมากแล้วค่ะ รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอีกสักหน่อยแล้วค่อยบอกดีกว่าค่ะ” “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะพวกเราจะดูแลคุณอรอย่างดีที่สุดเลยค่ะ ““แหนมด้วยค่ะ แหนมด้วยๆ” “หึหึ ขอบคุณมากนะคะ อุก.. อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ”“พรุ่งนี้พี่หมอจะรีบมาแต่เช้าเลยนะคะคุณอร แหนมตื่นเต้นจังเลยค่ะจะเป็นน้องผู้หญิงหรือผู้ชายน้าาา”“เพ้อเจ้ออะไรของมึงอีแหนมคุณเขาพึ่งจะท้องยังไม่รู้เพศหรอก”“อ่าวเหรอ
วันต่อมา ทัศนีย์และสุเมธรีบมาที่บ้านของเพื่อนรักคเชนทร์และสิริวดีแต่เช้าตรู่เพื่อพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปแล้ว “ข้าขอโทษจริงๆ เว้ยไอ้เชนไม่คิดว่าไอ้ลูกไม่รักดีมันจะหน้ามืดตามัวได้ถึงขนาดนี้” สุเมธพูดแล้วก็พาให้โมโหรู้สึกผิดกับเพื่อนจนไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดได้แล้ว“เอาน่าเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วอันที่จริงทั้งสองคนก็ตั้งใจจะหย่ากันอยู่แล้วด้วย” “มันจะหย่ากันจริงๆ ได้ที่ไหนเธอก็รู้นี่วดี” ทัศนีย์แหวขึ้นมาทั้งที่ตายังบวมไม่หายแค่คิดก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ “ถึงยังไงก็ต้องรับผิดชอบนั่นแหละนะ จะใจไม้ใส้ระกำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”สิริวดีพูดขึ้นมาตามความเป็นจริงถึงจะรู้สึกเห็นใจเพื่อนและลูกสาวตัวเองมากขนาดไหนแต่เด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนี่นา“เรื่องสินสมรสทุกอย่างไม่ต้องแบ่งครึ่งแบ่งกันอะไรแล้วยกให้หนูอรไปเลยทุกอย่างแล้วก็อันนี้ด้วยคนไม่รักดีไม่ควรได้อะไร” ทัศนีย์วางกระเป๋าที่เต็มไปด้วยฉโนดที่ดินและเครื่องเพชรมากมายเต็มกระเป๋ามอบให้สิริวดีและคเชนทร์เพื่อแทนคำขอโทษและความเสียหายของอรฤดี พวกเขารักและเอ็นดูเธอไม่ต่างจากลูกสาวคนนึงจ
“กรี้ดดดดดไม่จริ้งงงงง! กรี้ดดดดดดด! กรี้ดดดดดดด! ไม่จริง ต้องไม่ใช่แบบนี้ ฮือๆ ไม่จริงง!” ลูกปัดทรุดตัวลงกับพื้นร้องไห้จนตัวโยนเมื่อเห็นผลตรวจการตั้งครรภ์ในมือขึ้นสองขีดชัดเจนไม่ว่าจะลองตรวจมาแล้วหลายต่อลหายอันแค่ไหนก็ขึ้นสองขีดทุกอัน “ชั้นจะทำยังไงดี ชั้นยังไม่อยากมีลูก ชั้นไม่อยากท้องกับไอ้บ้านั่น ไม่เอาชั้นรักจอม .. ชั้นอยากมีลูกกับจอม..” เมื่อพูดคำนี้ออกมาเธอก็หยุดชะงักแล้วยิ้มมุมปากออกมาเมื่อคิดแผนเด็ดขึ้นมาได้“แกอย่าหวังเลยว่าจะทำให้ชั้นจนตรอกได้ ไม่มีทาง”ลูกปัดคิดย้อนกลับไปถึงวันที่เธอมีอะไรกับดนัยและรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้องร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อคิดแผนได้แล้วเธอก็รีบต่อสายหาจอมทัพในทันที ตืดดดด ตืดดดด “คุณมาหาปัดที่คอนโดหน่อยสิคะ ปัดมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกกับคุณค่ะจอม” “ผมอยู่แถวนี้พอดีเดี๋ยวผมเข้าไปนะ” ดีเหมือนกันวันนี้จะได้เคลียร์กันให้จบๆ ไปสักทีคาราคาซังมานานเกินไปแล้วเมื่อบอกยุติความสัมพันธ์กับเธอแล้วจะได้กลับไปขอโทษผู้หญิงคนที่อยู่ในหัวของเขาตลอดเวลาสักที “น่ารักจังเลยค่ะ ปัดรอนะคะ” “แล้วเจอกันครับ” ปัดไม่ยอมเสียคุณไปง่ายๆ แน่ค่ะจอม ปัดจะสู้ให้ถ
“เลว! เลวสิ้นดี!” อรฤดีพูดออกมาเมื่อเห็นรูปที่ลูกปัดส่งมาให้ได้แต่คิดว่าเธอไม่น่าโง่ไปหลงเชื่อการกระทำของเขาเลย หลอกลวงทั้งนั้น เธอมันโง่เองที่หลงไปเผลอมีความรู้สึกดีๆ ให้คนแบบนั้น ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตามความตั้งใจเดิมเหมือนในตอนแรก .. เธอนอนคิดทบทวนไตร่ตรองทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เรื่องที่มีให้คิดมันมากมายเหลือเกิน นี่นะหรือชีวิตคู่ทำไมผู้คนมากมายถึงได้โหยหา และฝ่าฟันเพื่อจะมาถึงจุดนี้กันนะ.. ไม่เห็นจะมีความสุขเลยสักนิด หลายวันต่อมา “แม่คะอรจะหย่า .. ““อรคิดดีแล้วเหรอลูก”“พ่อว่าลองหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกันก่อนดีไหมลูก”“อรคิดดีแล้วค่ะ พ่อ แม่.. อันที่จริงทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่คะว่าเค้ามีคนรักอยู่แล้วอรทำใจอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ พ่อแม่เข้าใจอรนะคะ” “แต่เรื่องนั้น”“อรคิดดีแล้วค่ะ อีกอย่างเราสองคนก็ไม่ได้รักกันด้วย มันไปไม่รอดหรอกค่ะ “แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอ ท่าทางที่ไม่เหมือนเคยทำให้คนเป็นพ่อแม่ไม่กล้าที่จะเอ่ยพูดอะไรออกมาอีก เพราะเธอคือความรักและความสุขของเขาทั้งสองคนถ้าเอาแต่ทำตามใจตัวเองก็ทนไม่ได้ที่ต้องเ
“ดื่มน้ำก่อนนะคะคุณอร พี่ปลาเป็นห่วงแทบแย่เลยค่ะ ปลอดภัยแล้วนะคะ ฮือๆ” พี่ปลาดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ร้องไห้ออกมาในทันที “ของคุณมากนะคะพี่ปลา อรมาที่นี่ได้ยังไงคะ” “ก็คุณจอมพามานะสิคะ คุณอรหมดสติหลับไปตั้งแต่เมื่อวานเลยนะคะ โถคุณอร”งง มัน งง ไปหมดอรฤดีพยายามนั่งปะติดปะต่อเรื่องรวมทั้งหมดแต่ก็จำอะไรไม่ได้เลยจำได้แค่ว่าคุยโทรศัพท์กับแม่กำลังจะกลับบ้านแล้วก็ภาพตัดไป.. แล้วอยู่ๆ มานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง..มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจแต่รู้แน่ชัดเพียงสิ่งหนึ่งว่าเธอไม่ต้องการเห็นหน้า ไม่ต้องการอยู่ที่นี่.. “อรอยากอาบน้ำสักหน่อยค่ะ เหนียวเนื้อเหนียวตัวไปหมด” สิ่งแรกที่เธอทำก็คือสำรวจร่างกายตัวเองคร่าวๆ ตามแขนตามขาก็พบว่าเจ็บที่ขาอยู่ไม่น้องแถมมีแผลถลอกบางจุด ซึ่งไม่รู้ว่าได้มายังไงพี่ปลาบอกว่าไอ้คนเลวนั่นพาเธอมาไม่ใช่ว่า… ด้วยความกลัวก็คิดไปต่างๆ นาๆ แต่ก็พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติเมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยอรฤดีก็กลับบ้านตัวเองไปในทันทีโดยพยายามเลี่ยงไม่ให้เจอหน้าคนที่เธอรู้สึกเกลียดเข้าใส้ไปแล้ว “จะไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเหรอคะคุณอร” พี่ปลาทำหน้าเศร้าเมื่อเห็นชีวิตคู่ขอ
กรองขวัญนั่งมองเพื่อนที่กำลังจ้วงขนมเค้กเข้าปากอย่างมีความสุขกินเข้าไปขนาดนี้มีหวังได้ใช้ชีวิตในฟิตเนสทั้งเดือนแน่ๆ เลยเรา ไม่เป็นไรๆ เพื่อนมีความสุขเราก็ดีใจ.. “แล้วเสร็จนี่จะไปไหนต่อกันดีอ่ะ” “อืมม.. ว่าจะไปดูเครื่องสำอางค์สักหน่อยยังไม่อยากกลับบ้านเลย” “อึ๋ยย..” กรองขวัญเบ้หน้าเมื่อได้ยินว่าเพื่อนเธอต้องการจะไปดูเครื่องสำอางค์ ก็ปกติอรฤดีไม่ค่อยจะสนใจเรื่องพวกนี้เลยนะสิ ถ้าบอกว่าจะไปดูหนังสือก็ว่าไปอย่าง นี่เพื่อนเธอเป้นอะไรกันแน่ ทำตัวแปลกๆ แล้วยังจะพูดแปลกๆ อีกต่างหาก .. มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ “อะ เอาสิ ไปๆ แปลกใจเลยนะเนี่ยอรอยากไปดูเครื่องสำอางค์..”“ปัดมือถือไปเจอแล้วน่าสนใจดี ลองไปดูเผื่อมีอะไรถูกใจ” นั่นแปลก..แปลกจริงๆ ด้วยนี่ไม่ใช่คำพูดที่เพื่อนเธอควรจะพูดออกมาแน่นอนถ้าเป็นเมื่อก่อนมีแต่ซื้อแล้วยัดใส่มือให้เท่านั้นถ้าให้เดินเข้าไปเองแบบนี้ฝันไปได้เลย … ไม่มีทาง! มีแต่แม่ของเธอที่จะคอยจัดเตรียมเรื่องพวกนี้ให้หรือไม่ก็เพื่อนอย่างเธอที่คอยหาซื้อให้มาตลอด ..นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นนนน การแต่งงานมันทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ… น่ากลัวจริงๆ “ไปกันเลยไหม อยากเดิ