“สดชื่นไหมคะคุณอรที่นี่อากาศดีทั้งปีคุณอรพักอยู่ที่นี่นานๆ เลยนะคะ”
“ขอบคุณมากนะคะป้าพันอร อุก ..อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ “
“ตายแล้วแพ้ท้องหนักมากเลยนะคะ มาค่ะป้าช่วยนะคะ ค่อยๆเดินค่ะ”
อาการแพ้ท้องของอรฤดีมีแต่จะหนักขึ้นทุกวันแต่ก็ยังดีที่มีป้าพันผู้มีประสบการณ์การมีลูกมาอย่างโชกโชนและลูกสาวคนเล็กที่คอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง ครอบครัวของป้าพันคอยดูแลบ้านสวนแห่งนี้ไว้มาตั้งแต่เริ่มและเป็นคนที่สิริวดีไว้ใจมากพอสมควร
“มาแม่ แหนมช่วยประคองนะ เขาไปข้างในก่อนดีกว่าค่ะคุณอรข้างนอกลมแรงแล้วค่ะ”
“อรไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ “
“แต่คุณอรแพ้ท้องหนักมากนะคะจะไม่ให้ป้าบอกคุณนายจริงๆ เหรอคะป้าว่า..”
“ตอนนี้ที่บ้านมีเรื่องเครียดมากแล้วค่ะ รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอีกสักหน่อยแล้วค่อยบอกดีกว่าค่ะ”
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะพวกเราจะดูแลคุณอรอย่างดีที่สุดเลยค่ะ “
“แหนมด้วยค่ะ แหนมด้วยๆ”
“หึหึ ขอบคุณมากนะคะ อุก.. อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ”
“พรุ่งนี้พี่หมอจะรีบมาแต่เช้าเลยนะคะคุณอร แหนมตื่นเต้นจังเลยค่ะจะเป็นน้องผู้หญิงหรือผู้ชายน้าาา”
“เพ้อเจ้ออะไรของมึงอีแหนมคุณเขาพึ่งจะท้องยังไม่รู้เพศหรอก”
“อ่าวเหรอแม่ ว่าแต่คุณอรอยากได้น้องผู้หญิงหรือผู้ชายคะ”
คำถามของแหนมทำให้อรฤดีหน้าหม่นลงไปไม่น้อยพอเจอคำถามแบบนี้ก็อดที่จะคิดถึงภาพของครอบครัวที่มีกันครบพ่อแม่ลูกไม่ได้ แต่จะทำยังไงได้ล่ะเด็กอีกคนนึงก็ต้องมีพ่อเหมือนกันและที่สำคัญเขาไม่ได้รักเธอเขามีคนที่เขารักตั้งแต่แรกเริ่มมาอยู่แล้ว
เธอจะไปมีสิทธิ์อะไรได้..แล้วที่สำคัญเขาไม่คู่ควรกับความรักของเธอเลยสักนิดการกระทำของคนเลวๆ แบบนั้นไม่คู่ควรกับคำว่าพ่อของลูกในท้องเธอที่กำลังจะเกิดมาเลยแม้แต่น้อย ความเจ็บปวดที่เธอไม่มีวันลืมเลือนมันชัดเจนมากพอๆ กับความเกลียดชังที่มีต่อเขาจนไม่รู้จะทำใจให้อภัยคนๆ นี้ได้ยังไง
“เดี๋ยวป้าไปหาอะไรอุ่นๆ มาให้ทานดีกว่านะคะ สบายท้องสบายตัวจะได้นอนพักผ่อนช่วงนี้ร่างกายอ่อนแอมากต้องพักผ่อนให้มากๆ นะคะ”
ป้าพันเห็นสีหน้าอรฤดีไม่ค่อยจะสู้ดีกับคำถามของลูกสาวตนเองจึงชวนเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
“อรอยากทานขนมหวานจังเลยค่ะป้าพัน”
เธอพูดทิ้งท้ายเมื่อป้าพันกำลังจะเดินลับสายตาไปเห็นรูปในหน้าฟีดโทรศัพท์มือถือตั้งแต่เช้าจนน้ำลายไหลแต่ก็มัวชมสวนเพลินจนลืมบอกป้าพันไปเสียสนิท
“ได้เลยค่ะคุณอร รอสักครู่นะคะเรื่องขนมหวานป้าพันไม่แพ้ใครแน่นอนค่ะไว้ใจได้ นางแหนมมาเอาน้ำมะนาวไปให้คุณอรจิบรอแม่ทำขนมเร็ว”
“จ้าแม่ รอแปปนึงนะคะคุณอร “
อรฤดียิ้มพยักหน้ารับหงึกๆ แล้วหันมองออกไปนอกหน้าต่างที่เต็มไปด้วยดอกไม้นาๆ พันธุ์ที่ออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม
“มาแล้วค่าาา น้ำผึ้งมะนาวอุ่นๆ สำหรับคุณอรของแหนมค่ะ”
แหนมเป็นเด็กมัธยมปลายเธอเคยเจออรฤดีบ้างเป็นครั้งคราวแต่ทุกครั้งที่เจออรฤดีจะมีของติดไม้ติดมือมาฝากเธอตลอดมีทั้งอุปกรณ์การเรียนต่างๆ เสื้อผ้าสวยๆ และขนมอร่อยๆ มากมายรวมถึงค่าเทอมของเธอด้วย
เธอบอกว่าเป็นการตอบแทนที่ช่วยดูแลบ้านสวนให้เธอถึงแม้ครอบครัวของเธอจะได้เงินเดือนจากคุณสิริวดีแล้วก็ตามเพราะอย่างนั้นไม่ว่าจะเป็นอรฤดีหรือทุกคนในครอบครัวของเธอก็คือผู้มีพระคุณที่เธอพร้อมจะดูแลและซื่อสัตว์ตลอดไป
“บัวลอยไข่หวานมาแล้วค่ะลองชิมหน่อยสิคะ”
ป้าพันหายเข้าครัวไปไม่นานก็เดินออกมาพร้อมกับถ้วยขนมหอมๆ จนอรฤดีชะเง้อคอมองตาโต
“หืมหอมจังเลยค่ะป้าพัน “
“ค่อยๆทานนะคะ กำลังร้อนๆ เลย”
“อื้อออ อร่อยมากๆ เลยค่ะ มีอีกไหมคะ “
“มีค่ะ มีเป็นหม้อเลย “
“เดี๋ยวป้าจะทำให้ทานทุกวันเลยนะคะ กล้วยในสวนกำลังสุกน่ากินทำกล้วยบวชชีได้พอดีเลยค่ะ “
“ดีเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะป้าพัน”
“คุณอรชอบป้าก็ดีใจแล้วค่ะ เดี๋ยวป้าไปตักเพิ่มมาให้อีกนะคะ “
อรฤดีเคี้ยวตุ้ยๆ เต็มปาก ฝีมือป้าพันอร่อยเหมือนที่พูดไว้จริงๆ
.
.
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะแกกำลังจะได้สร้างครอบครัวกับคนที่แกรักมาตลอดไม่ใช่หรือไง”
สุเมธเอ่ยถามลูกชายตนเองเสียงเรียบเมื่อเห็นเขานั่งอยู่เงียบๆ คนเดียวอย่างคนคิดไม่ตกมาตั้งแต่เย็นจนตอนนี้ก็มืดแล้ว
“ผมสับสนครับพ่อ”
จอมทัพเงยหน้ามองดวงดาวที่พร่างพราวเต็มท้องฟ้าแล้วพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา
“อืม พ่อรู้”
“ผมควรทำยังไงดีครับ”
“แกก็กำลังทำอยู่ไม่ใช่เหรอ ตอนนี้มันทำอะไรไม่ได้แล้วตอนที่มีโอกาสแกไม่คว้าไว้เองไม่ใช่แค่แกคนเดียวหรอกที่เสียใจ แม่แก พ่อ หรือหนูอรก็เสียใจไม่แพ้กัน”
“ผมรักเค้าครับพพ่อ”
ตอนนี้เขารู้แล้วถึงความรู้สึกแท้จริงของตัวเองข้างใน เขารู้แล้วว่าคำที่เขาควรจะพูดคือคำไหนแต่ข้างกายเขากลับไม่มีแม้สักคนที่จะรับฟัง..เพราะเขาเอง
“เก็บคำพูดของแกเอาไว้เถอะตอนนี้มันไม่มีใครต้องการแล้วแกน่าจะรู้ดีต่อให้แกตะโกนจนคอแตกก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี ทีนี้แกรู้ซึ้งแล้วหรือยัง”
สุเมธพูดจบก็หันหลังเดินจากไปในเมื่อเป็นคนผูกปมนี้ขึ้นมาลูกชายของเขาก็ต้องเรียนรู้ที่จะเป็นคนคลายปมนั้นเองเขาคงชวยอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้เพราะทุกคนไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับการกระทำของเขามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
“ผมขอโทษครับพ่อ ผมขอโทษครับ ฮึก..ฮึก”
หยดน้ำตาของลูกผู้ชายที่รู้สึกสูญเสียความรัก รู้สึกสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไหลออกมาในที่สุดเขามันโง่เอง โง่ที่มองไม่เห็นสิ่งที่มีค่าที่สุดที่อยู่ตรงหน้าจนวันนี้ที่ทุกอย่างมันสายไปแล้ว..
และตั้งแต่วันที่หย่ากันเขาก็ขับรถไปแอบดูเธอตั้งหลายครั้งแต่ก็เหมือนไม่มีใครอยู่ที่บ้านหลังนั้นแล้ว ที่บ้านพ่อแม่ของเธอก็ไม่อยู่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหน
“คุณจะไม่พูดอะไรกับลูกหน่อยเหรอ”
สุเมธถามภรรยาของตนเองเบาๆ ที่คอยแอบมองอยู่ห่างๆ
“ไม่ดีกว่าค่ะลูกโตแล้ว โตพอที่จะต้องจัดการเรื่องในชีวิตเองได้แล้วค่ะ เราคอยดูอยู่ห่างๆ ก็พอ”
ทัศนีย์พูดแล้วก็ไม่ได้หันไปมองลูกชายของเธอที่กำลังร้องไห้อยู่ลำพังเพราะกลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนเอาเสีย ในเมื่อดื้อดึง ในเมื่อสร้างปัญหาก็ควรรับผิดชอบด้วยตัวเองถึงจะถูก
“สดชื่นไหมคะคุณอรที่นี่อากาศดีทั้งปีคุณอรพักอยู่ที่นี่นานๆ เลยนะคะ” “ขอบคุณมากนะคะป้าพันอร อุก ..อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ ““ตายแล้วแพ้ท้องหนักมากเลยนะคะ มาค่ะป้าช่วยนะคะ ค่อยๆเดินค่ะ” อาการแพ้ท้องของอรฤดีมีแต่จะหนักขึ้นทุกวันแต่ก็ยังดีที่มีป้าพันผู้มีประสบการณ์การมีลูกมาอย่างโชกโชนและลูกสาวคนเล็กที่คอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง ครอบครัวของป้าพันคอยดูแลบ้านสวนแห่งนี้ไว้มาตั้งแต่เริ่มและเป็นคนที่สิริวดีไว้ใจมากพอสมควร “มาแม่ แหนมช่วยประคองนะ เขาไปข้างในก่อนดีกว่าค่ะคุณอรข้างนอกลมแรงแล้วค่ะ”“อรไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ ““แต่คุณอรแพ้ท้องหนักมากนะคะจะไม่ให้ป้าบอกคุณนายจริงๆ เหรอคะป้าว่า..”“ตอนนี้ที่บ้านมีเรื่องเครียดมากแล้วค่ะ รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอีกสักหน่อยแล้วค่อยบอกดีกว่าค่ะ” “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะพวกเราจะดูแลคุณอรอย่างดีที่สุดเลยค่ะ ““แหนมด้วยค่ะ แหนมด้วยๆ” “หึหึ ขอบคุณมากนะคะ อุก.. อ้วกกกก อ้วกกกก แค่ก ๆ”“พรุ่งนี้พี่หมอจะรีบมาแต่เช้าเลยนะคะคุณอร แหนมตื่นเต้นจังเลยค่ะจะเป็นน้องผู้หญิงหรือผู้ชายน้าาา”“เพ้อเจ้ออะไรของมึงอีแหนมคุณเขาพึ่งจะท้องยังไม่รู้เพศหรอก”“อ่าวเหรอ
วันต่อมา ทัศนีย์และสุเมธรีบมาที่บ้านของเพื่อนรักคเชนทร์และสิริวดีแต่เช้าตรู่เพื่อพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปแล้ว “ข้าขอโทษจริงๆ เว้ยไอ้เชนไม่คิดว่าไอ้ลูกไม่รักดีมันจะหน้ามืดตามัวได้ถึงขนาดนี้” สุเมธพูดแล้วก็พาให้โมโหรู้สึกผิดกับเพื่อนจนไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดได้แล้ว“เอาน่าเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วอันที่จริงทั้งสองคนก็ตั้งใจจะหย่ากันอยู่แล้วด้วย” “มันจะหย่ากันจริงๆ ได้ที่ไหนเธอก็รู้นี่วดี” ทัศนีย์แหวขึ้นมาทั้งที่ตายังบวมไม่หายแค่คิดก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ “ถึงยังไงก็ต้องรับผิดชอบนั่นแหละนะ จะใจไม้ใส้ระกำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”สิริวดีพูดขึ้นมาตามความเป็นจริงถึงจะรู้สึกเห็นใจเพื่อนและลูกสาวตัวเองมากขนาดไหนแต่เด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนี่นา“เรื่องสินสมรสทุกอย่างไม่ต้องแบ่งครึ่งแบ่งกันอะไรแล้วยกให้หนูอรไปเลยทุกอย่างแล้วก็อันนี้ด้วยคนไม่รักดีไม่ควรได้อะไร” ทัศนีย์วางกระเป๋าที่เต็มไปด้วยฉโนดที่ดินและเครื่องเพชรมากมายเต็มกระเป๋ามอบให้สิริวดีและคเชนทร์เพื่อแทนคำขอโทษและความเสียหายของอรฤดี พวกเขารักและเอ็นดูเธอไม่ต่างจากลูกสาวคนนึงจ
“กรี้ดดดดดไม่จริ้งงงงง! กรี้ดดดดดดด! กรี้ดดดดดดด! ไม่จริง ต้องไม่ใช่แบบนี้ ฮือๆ ไม่จริงง!” ลูกปัดทรุดตัวลงกับพื้นร้องไห้จนตัวโยนเมื่อเห็นผลตรวจการตั้งครรภ์ในมือขึ้นสองขีดชัดเจนไม่ว่าจะลองตรวจมาแล้วหลายต่อลหายอันแค่ไหนก็ขึ้นสองขีดทุกอัน “ชั้นจะทำยังไงดี ชั้นยังไม่อยากมีลูก ชั้นไม่อยากท้องกับไอ้บ้านั่น ไม่เอาชั้นรักจอม .. ชั้นอยากมีลูกกับจอม..” เมื่อพูดคำนี้ออกมาเธอก็หยุดชะงักแล้วยิ้มมุมปากออกมาเมื่อคิดแผนเด็ดขึ้นมาได้“แกอย่าหวังเลยว่าจะทำให้ชั้นจนตรอกได้ ไม่มีทาง”ลูกปัดคิดย้อนกลับไปถึงวันที่เธอมีอะไรกับดนัยและรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้องร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อคิดแผนได้แล้วเธอก็รีบต่อสายหาจอมทัพในทันที ตืดดดด ตืดดดด “คุณมาหาปัดที่คอนโดหน่อยสิคะ ปัดมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกกับคุณค่ะจอม” “ผมอยู่แถวนี้พอดีเดี๋ยวผมเข้าไปนะ” ดีเหมือนกันวันนี้จะได้เคลียร์กันให้จบๆ ไปสักทีคาราคาซังมานานเกินไปแล้วเมื่อบอกยุติความสัมพันธ์กับเธอแล้วจะได้กลับไปขอโทษผู้หญิงคนที่อยู่ในหัวของเขาตลอดเวลาสักที “น่ารักจังเลยค่ะ ปัดรอนะคะ” “แล้วเจอกันครับ” ปัดไม่ยอมเสียคุณไปง่ายๆ แน่ค่ะจอม ปัดจะสู้ให้ถ
“เลว! เลวสิ้นดี!” อรฤดีพูดออกมาเมื่อเห็นรูปที่ลูกปัดส่งมาให้ได้แต่คิดว่าเธอไม่น่าโง่ไปหลงเชื่อการกระทำของเขาเลย หลอกลวงทั้งนั้น เธอมันโง่เองที่หลงไปเผลอมีความรู้สึกดีๆ ให้คนแบบนั้น ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตามความตั้งใจเดิมเหมือนในตอนแรก .. เธอนอนคิดทบทวนไตร่ตรองทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เรื่องที่มีให้คิดมันมากมายเหลือเกิน นี่นะหรือชีวิตคู่ทำไมผู้คนมากมายถึงได้โหยหา และฝ่าฟันเพื่อจะมาถึงจุดนี้กันนะ.. ไม่เห็นจะมีความสุขเลยสักนิด หลายวันต่อมา “แม่คะอรจะหย่า .. ““อรคิดดีแล้วเหรอลูก”“พ่อว่าลองหันหน้าคุยปรับความเข้าใจกันก่อนดีไหมลูก”“อรคิดดีแล้วค่ะ พ่อ แม่.. อันที่จริงทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่คะว่าเค้ามีคนรักอยู่แล้วอรทำใจอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ พ่อแม่เข้าใจอรนะคะ” “แต่เรื่องนั้น”“อรคิดดีแล้วค่ะ อีกอย่างเราสองคนก็ไม่ได้รักกันด้วย มันไปไม่รอดหรอกค่ะ “แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอ ท่าทางที่ไม่เหมือนเคยทำให้คนเป็นพ่อแม่ไม่กล้าที่จะเอ่ยพูดอะไรออกมาอีก เพราะเธอคือความรักและความสุขของเขาทั้งสองคนถ้าเอาแต่ทำตามใจตัวเองก็ทนไม่ได้ที่ต้องเ
“ดื่มน้ำก่อนนะคะคุณอร พี่ปลาเป็นห่วงแทบแย่เลยค่ะ ปลอดภัยแล้วนะคะ ฮือๆ” พี่ปลาดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ร้องไห้ออกมาในทันที “ของคุณมากนะคะพี่ปลา อรมาที่นี่ได้ยังไงคะ” “ก็คุณจอมพามานะสิคะ คุณอรหมดสติหลับไปตั้งแต่เมื่อวานเลยนะคะ โถคุณอร”งง มัน งง ไปหมดอรฤดีพยายามนั่งปะติดปะต่อเรื่องรวมทั้งหมดแต่ก็จำอะไรไม่ได้เลยจำได้แค่ว่าคุยโทรศัพท์กับแม่กำลังจะกลับบ้านแล้วก็ภาพตัดไป.. แล้วอยู่ๆ มานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง..มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจแต่รู้แน่ชัดเพียงสิ่งหนึ่งว่าเธอไม่ต้องการเห็นหน้า ไม่ต้องการอยู่ที่นี่.. “อรอยากอาบน้ำสักหน่อยค่ะ เหนียวเนื้อเหนียวตัวไปหมด” สิ่งแรกที่เธอทำก็คือสำรวจร่างกายตัวเองคร่าวๆ ตามแขนตามขาก็พบว่าเจ็บที่ขาอยู่ไม่น้องแถมมีแผลถลอกบางจุด ซึ่งไม่รู้ว่าได้มายังไงพี่ปลาบอกว่าไอ้คนเลวนั่นพาเธอมาไม่ใช่ว่า… ด้วยความกลัวก็คิดไปต่างๆ นาๆ แต่ก็พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติเมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยอรฤดีก็กลับบ้านตัวเองไปในทันทีโดยพยายามเลี่ยงไม่ให้เจอหน้าคนที่เธอรู้สึกเกลียดเข้าใส้ไปแล้ว “จะไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเหรอคะคุณอร” พี่ปลาทำหน้าเศร้าเมื่อเห็นชีวิตคู่ขอ
กรองขวัญนั่งมองเพื่อนที่กำลังจ้วงขนมเค้กเข้าปากอย่างมีความสุขกินเข้าไปขนาดนี้มีหวังได้ใช้ชีวิตในฟิตเนสทั้งเดือนแน่ๆ เลยเรา ไม่เป็นไรๆ เพื่อนมีความสุขเราก็ดีใจ.. “แล้วเสร็จนี่จะไปไหนต่อกันดีอ่ะ” “อืมม.. ว่าจะไปดูเครื่องสำอางค์สักหน่อยยังไม่อยากกลับบ้านเลย” “อึ๋ยย..” กรองขวัญเบ้หน้าเมื่อได้ยินว่าเพื่อนเธอต้องการจะไปดูเครื่องสำอางค์ ก็ปกติอรฤดีไม่ค่อยจะสนใจเรื่องพวกนี้เลยนะสิ ถ้าบอกว่าจะไปดูหนังสือก็ว่าไปอย่าง นี่เพื่อนเธอเป้นอะไรกันแน่ ทำตัวแปลกๆ แล้วยังจะพูดแปลกๆ อีกต่างหาก .. มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ “อะ เอาสิ ไปๆ แปลกใจเลยนะเนี่ยอรอยากไปดูเครื่องสำอางค์..”“ปัดมือถือไปเจอแล้วน่าสนใจดี ลองไปดูเผื่อมีอะไรถูกใจ” นั่นแปลก..แปลกจริงๆ ด้วยนี่ไม่ใช่คำพูดที่เพื่อนเธอควรจะพูดออกมาแน่นอนถ้าเป็นเมื่อก่อนมีแต่ซื้อแล้วยัดใส่มือให้เท่านั้นถ้าให้เดินเข้าไปเองแบบนี้ฝันไปได้เลย … ไม่มีทาง! มีแต่แม่ของเธอที่จะคอยจัดเตรียมเรื่องพวกนี้ให้หรือไม่ก็เพื่อนอย่างเธอที่คอยหาซื้อให้มาตลอด ..นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นนนน การแต่งงานมันทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ… น่ากลัวจริงๆ “ไปกันเลยไหม อยากเดิ