พลั่ก!!
ไม่รอให้มันได้หยามผมเป็นครั้งที่สอง ผมสวนหมัดเข้าหน้ามันทันทีจนแม่งล้มลงไปกองกับพื้น คนในร้านบางส่วนกรี๊ดอย่างตกใจที่มีเหตุปะทะ ผมตั้งหมัด จ้องหน้าพวกมันอย่างอาฆาต
“ไอ้โจ!” พวกมันเรียกชื่อคนที่ล้มลงไปก่อนที่จะกรูกันเข้ามาเพื่อจะรุมผมคนเดียว ผมส่งสายตาให้ไอ้พัน มันตั้งหลักแล้วต่อยคนที่อยู่ทางซ้ายจนร่วง
ฉายาเก่าผมกับมันที่เป็นเพื่อนคู่เดือดกันมาหลายปี
ชายหมัดหนัก
ผมกระแทกศอกเข้าคางอีกคนในขณะที่ไอ้พันจัดการอีกคน ก่อนที่ผมจะใช้เท้าถีบมันจนกระเด็น คนที่ผมจัดการล้มไปชนโต๊ะจนมันกระจายลงพื้น ผมพ่นลมหายใจ คายความเดือดออกมาพร้อมกับเดินไปหามัน
ผมนั่งยองๆ ต่อหน้ามัน กระชากคอเสื้อมันมาจนชิดหน้า
“พวกมึงได้ส่งใครตามชูใจไปมั้ย” เมื่อผมไม่แน่ใจผมเลยถาม มือผมสั่นแต่พยายามกำหมัดไว้ไม่ให้มันสั่นมากกว่านี้ ใจผมตอนนี้คิดถึงแค่ชูใจคนเดียว
“... อึก”
“ตอบดิ”
“...”
“มึงเอาใครตามชูใจไป กูถาม!!” คราวนี้ผมตะคอกใส่หน้ามัน ไอ้ตัวสูงที่เป็นแค่ลูกไก่ในกำมือผมได้แต่หน้าซีด เพราะผมต่อยมวย ผมรู้วิธีเตะเข้าจุดที่ให้ไม่สามารถขยับตัวได้อีก มันทำไรผมไม่ได้ด้วยซ้ำ แม้แต่แรงยังไม่มี
“นะ... นี่มึงเป็นผัวอีนั่นจริงๆ เหรอ”
ผมฟาดหน้ามันไปแรงๆ ด้วยหลังมือ
“กูถาม ตอบให้ตรงคำถาม”
“อะ... ไอ้โอห์ม! มันให้พวกกูดูทางมึงไว้ แล้วมันจะส่งเด็กไปขืนผู้หญิงให้ยอมเป็นเมียมัน” มันยอมตอบแต่โดยดี ผมเบิกตากว้าง เส้นเลือดขึ้นที่กรามเป็นริ้ว ผมกระชากคอมันเหวี่ยงไปกระแทกกับพื้น ก่อนที่จะหันไปบอกไอ้พันอย่างร้อนรน
“พัน มึงจัดการที่เหลือ กูจะไปหาชูใจ!”
“เออได้ รีบไป!”
ผมพยักหน้าให้มันแล้ววิ่งสี่คูณร้อยไปที่รถมอเตอร์ไซค์คันเก๋าของตัวเอง ก่อนที่จะขับออกไปในขณะที่โทรหาชูใจไปด้วย
แต่ไม่มีใครรับสาย ใจผมแม่งยิ่งร้อน
ผมบิดรถไปจนสุดแฮนด์ ขับปาดรถคันนู้นคันนี้เพื่อไปหาชูใจให้เร็วที่สุด
ถ้าไม่ทันแล้วเธอเป็นอะไรไป ผมจะจำไปจนวันตายว่าผมมันไร้น้ำยา!!
[จบพาร์ท : โหน]
ยี่สิบนาทีที่แล้ว
ฉันพยายามเช็ดน้ำตาแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น ฉันไม่ได้ร้องไห้หนัก แต่ใจฉันตอนนี้มันดูเหมือนจะผิดหวัง ที่สุดท้ายแล้วโหนก็ไม่ต่างกับผู้ชายคนอื่น เขาฉวยโอกาสตอนที่ฉันเมา ฉันไม่รู้ว่าเขาทำอะไรไปบ้าง ไม่อยากฟัง เลยตัดพ้อเขาแล้วสาวเท้าออกมาจากตรงนั้น
ฉันเม้มริมฝีปากแน่นตอนเดินออกมาพ้นจากร้านเหล้า รู้สึกช็อกที่รู้ว่าโหนแอบรักฉันมานานแล้ว เพราะที่ผ่านมาเขาเป็นเพื่อนที่ดีกับฉันมาตลอด
นั่นมันคือการเสแสร้งทำเป็นดีเหรอ? ใช่รึเปล่านะ
“คบกับเราได้มั้ยวะ”
“...”
“เชื่อเรา เราจะเป็นผู้ชายธรรมดาคนนึงที่รักเธอมากกว่าผู้ชายคนอื่นเป็นล้านเท่า”
ฉันนึกถึงคำพูดของโหน แล้วได้แต่กัดปากตัวเอง
เพื่อนที่แสนดีของฉันตอนนี้ ฉันมองเขาเป็นผู้ชายคนนึงไปแล้ว
ฉันเดินไปเรื่อยๆ ในขณะที่คิดไม่ตกกับคำสารภาพของโหน คิดอยู่อย่างนั้นจนมาถึงหน้าหอพักตัวเอง
ฉันชะงักไปเมื่อเห็นว่าพี่โอห์มยืนดักรออยู่หน้าตึก
ฉันสบตาเขา ก่อนที่จะหันหน้าหนีแล้วทำท่าจะเดินผ่านไป แต่พี่โอห์มก็คว้าแขนฉันไว้ได้ก่อน
“จะไปไหนคะชูใจ” เขาเรียกชื่อฉันห้วนๆ มือหนาเลื่อนลงมาเปลี่ยนเป็นโอบเอวฉันอย่างน่าเกลียด “พี่ว่าเราต้องคุยกันหน่อย หนูหนีหน้าพี่ทำไมคะ”
ฉันมองเขาอย่างหวาดหวั่น เพราะพี่โอห์มไม่ได้มาคนเดียว เขามีเพื่อนมาด้วยอีกสองคน ท่าทางน่ากลัวจนฉันต้องพูดออกไปเสียงแผ่ว
“พี่โอห์ม ชูใจไม่ได้อยากคบกับพี่โอห์มต่อ ชูใจบอกไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วนะคะ”
“พี่ไม่ได้ให้ชูใจเป็นคนตัดสินใจนะคะ พี่จะตัดสินเองว่าเราควรคบกันต่อรึเปล่า” เขาฉีกยิ้ม ก่อนที่จะยื้อเอวฉันให้เดินไปกับเขาพร้อมกับส่งสัญญาณให้เพื่อนของเขาตามมาด้วย
ที่หอนี้คนเข้าออกได้ทั้งหญิงทั้งชาย ก็คล้ายๆ คอนโด ฉันเลยไม่สามารถไล่เขาได้ ฉันไม่กล้าจริงๆ เพราะเพื่อนของเขายืนคุมเชิงอยู่ด้านหลัง
ในใจฉันตอนนี้นึกถึงใครบางคน
คนที่ฉันเรียกเขาว่า ‘เพื่อน’ มาตลอด คนที่ฉันนึกถึงคนแรกเวลามีปัญหา
... โหน
[พาร์ท : โหน]
ผมบึ่งรถไปถึงหอชูใจภายในเวลาไม่กี่นาที ใจแม่งร้อนรนไปหมด
ผมมีคีย์การ์ดสำรองห้องของเธอ จำได้ปะ ตอนนี้ผมแทบไม่คิดเหี้ยไรทั้งนั้น สาวเท้าขึ้นไปในขณะที่มือกำคีย์การ์ดแน่นจนมันแทบแหลกคามือ
ผมไม่อยากคิดว่าผมมาช้าไป เพราะนี่คือโคตรรีบที่สุดในชีวิต
ผมขึ้นลิฟต์ กระดิกตีนอย่างอยู่ไม่สุขในนั้น ความเครียดก่อตัว ผมกัดฟันแน่นตอนที่ประตูลิฟต์เปิดเพราะห้องชูใจอยู่ชั้นที่ไม่สูงมาก เหงื่อผมแตก รีบวิ่งไปหน้าประตูห้องของเธอ กดคีย์การ์ดแล้วเปิดประตูเข้าไป
พลั่ก!
แต่ทันทีที่เปิดประตูออกมา ผมก็โดนผู้ชายคนนึงในห้องชูใจเอาไม้หน้าสามฟาดที่หน้าจนเซล้มลงไปกองกับพื้น
“ลากมันเข้ามา” เสียงที่ผมคุ้นว่าเป็นไอ้เหี้ยโอห์มดังขึ้นในห้อง ผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนมันสองคนเดินมาล็อกตัวผมแล้วลากเข้าไปข้างใน ผมรู้สึกปวดหัวหนึบๆ เหมือนหัวจะแตก
เลือดลงหัวว่ะ
“กูคิดแล้วว่ามึงต้องมา” มันเปรยเสียงเหี้ยม ส่งสัญญาณให้เพื่อนมันดันผมให้นั่งยองๆ ที่พื้นห้อง ผมเงยหน้าขึ้นมา เห็นชูใจที่นั่งอยู่บนโซฟา มือเธอถูกมัด ปากเธอถูกปิดด้วยผ้าผืนหนา ร่างเล็กเห็นผมแล้วดิ้นไปมา พยายามจะเรียกชื่อผมให้ช่วยแต่ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงอู้อี้ของเธอ
น้ำตาเธอคลอเบ้า ผมเบิกตากว้าง
“มึงแม่งระยำ!!” ผมตวาดเสียงดัง ตะโกนสุดเสียงให้มันพุ่งเป้ามาที่ผมแทนชูใจ “มึงทำผู้หญิงไม่มีทางสู้ลงได้ไงวะ ไอ้สันขวาน!”
“ทำให้มันพูดไม่ได้ไปชั่วคราวหน่อยดิ๊” ไอ้โอห์มพูดกับเพื่อนมัน ไม่สะทกสะท้านในสิ่งที่ผมก่นด่า หลังจากนั้นผมก็ถูกเพื่อนมันคนนึงล็อกตัวไว้ให้ลุกขึ้นยืน ส่วนอีกคนง้างหมัดต่อยปากผมเต็มแรง
พลั่ก!!
“... อั่ก!” ผมทรุด แต่ก็โดนล็อกให้ลุกขึ้นมาใหม่
“ปากดีนักนะมึง ทีนี้รู้ฤทธิ์กูรึยัง น้องชูใจเขาเป็นเมียกู ไม่ใช่ไอ้ขี้ก้างติดยาแบบมึง หัดสำเหนียกตัวเองหน่อยก็ดีว่ะ”
“เฮ้ย ไอ้โอห์ม กูชักรอนานละ เมื่อไหร่จะได้ลงแขกน้องชูใจของมึงวะ กูจะได้กดถ่ายคลิป” เพื่อนที่เป็นคนต่อยผมเงยหน้าพูดกับแม่ง ไอ้เหี้ยโอห์มหัวเราะ ก่อนที่มันจะเดินไปนั่งข้างๆ ชูใจที่โดนมัดอยู่บนโซฟา ก่อนที่จะผลักเธอนอนแล้วขึ้นคร่อมทันที
“อื้อๆๆๆ!” ชูใจดิ้นครวญครางอย่างหวาดกลัวสุดชีวิต ผมถ่มเลือดลงพื้น พยายามจะพุ่งไปหาไอ้เหี้ยโอห์มแต่โดนล็อกคอไว้จนล้มไปกับเพื่อนมัน
“ไอ้เหี้ย หยุดนะ อย่าทำชูใจ!!!” ผมตะโกนลั่น หน้าแดงก่ำไปด้วยความเจ็บใจ
ทำไมชูใจแม่งต้องมาเจอไรแบบนี้ด้วยวะ ถ้าจะผิดแม่งก็คงเป็นผมเอง ผมไม่ตามชูใจไป ผิดที่ผมไม่สารภาพรักกับเธอเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ผิดที่ผมไม่กันเธอจากมันให้เด็ดขาด
ผมไม่โทษใครเลย นอกจากตัวเอง
“นิ่งๆ หน่อยน้องชูใจ พี่จะสัมผัสหนูเบาๆ แน่ ทำตัวเป็นเด็กดีหน่อย” ไอ้เหี้ยโอห์มพูดกับชูใจ สายตาที่พร่ามัวเพราะเลือดที่หล่นมาปรกหน้าเห็นเป็นภาพมันกำลังพยายามปลดกระดุมชุดนักศึกษาของชูใจ
พอแม่งปลดไม่ทันมือ ไอ้เหี้ยนั่นก็ฉีกชุดเธอจนขาดยับ ชูใจร้องไห้ออกมา น้ำตาเธอไหลเป็นสาย เธอถูกมัดไว้เลยไม่สามารถปกปิดเสื้อกล้ามตัวบางกับชั้นในที่เผยเรือนร่างเธอได้
นาทีนั้นผมคิดเหี้ยไรไม่ออกนอกจากต้องคว้าของใกล้มือมา แล้วฟาดหัวพวกมันให้ตาย
สิ่งที่ผมคว้าได้คือไม้หน้าสามที่ตกบนพื้นตอนที่ผมกับเพื่อนไอ้เวรนั่นตะลุมบอนจนล้มลงไปกองกับพื้น ไม้หน้าสามอันเดียวกับที่มันใช้ฟาดหัวผม
“เฮ้ย!”
พลั่ก!!
ไม่ทันที่มันจะได้ตกใจจบ ผมหันกลับไปหวดไม้หน้าสามเข้าหน้าไอ้คนที่ล็อกหลังผมเต็มแรงจนมันล้มลงไปกองกับพื้น เพื่อนอีกคนที่ตั้งท่าถ่ายคลิปชูใจหันมาจะฟาดโทรศัพท์ที่ยังกดถ่ายคลิปอยู่ฟาดหน้าผม แต่ผมคว้าข้อมือมันไว้ได้ด้วยทักษะมวยที่เรียนมา กำแน่นจนแทบแหลกตอนที่เหวี่ยงไม้หน้าสามฟาดหัวมันอีกคน
มันล้มลงไปนอนโอดโอยอยู่บนพื้น ผมหอบหายใจ ก่อนที่จะใช้เท้ากระทืบหน้าเมื่ออีกคนพยายามลุกขึ้นมาสวนผม
สายตาผมมันไม่ใช่ไอ้โหน เพื่อนที่แสนดีของชูใจอีกแล้ว
กูจะฆ่ามัน
ฆ่ามันให้ตายคามือกู
“มึง อย่าเข้ามา” ไอ้เหี้ยโอห์มพอไม่มีพรรคพวกก็เหมือนหมา มันผุดลุกขึ้นจากร่างชูใจที่นอนร้องไห้ ในขณะที่ผมกำไม้หน้าสามแน่น เส้นเลือดที่แขนขึ้นจนปูด “อย่าเข้ามา กูไม่ได้ตั้งใจมายุ่งกับเมียของมึง”
“ง่ายดีนี่” ผมแค่นหัวเราะ เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อมันที่ถอยหลังหนีไม่ทันมาชิดหน้า “มึงพวกเยอะไม่ใช่เหรอ เรียกมาสิไอ้เวร”
“...”
“เงียบทำไม ทีงี้มึงสงบปากเลย? ทีตอนมีพวกข่มกูจัง” ผมกัดฟันพูดเสียงเย็น ก่อนที่จะตบหน้ามันไปสุดแรงจนฟันมันหลุดออกมาซี่นึง กระเด็นหลุดลงไปที่พื้นห้อง เลือดที่มุมปากสาดกระจาย “ดอกแรก ให้กับความเหี้ยของมึง”
ผมตบหน้ามันไปอีกที คราวนี้เน้นๆ จนเลือดกบปาก
“ดอกที่สอง ที่มายุ่งกับผู้หญิงของกู”
“... อั่ก”
ผมนิ่งไปเมื่อนึกไรออก ผลักมันลงไปนอนกับพื้นในขณะที่หันไปทางชูใจ สายตาของผมเปลี่ยนไป แกะผ้าปิดปากเธอออก ในขณะที่จะฉุดแขนเธอขึ้นมาเพื่อปลดเชือกที่มัดแขนเธอไว้
“ฮึก... โหน” ชูใจมองผมทั้งน้ำตา ผมจ้องหน้าเธอ ก่อนที่จะดึงชายเสื้อตัวเองมาเช็ดน้ำตาให้เธอลวกๆ
“ไม่ต้องกลัว”
“...”
“เราอยู่นี่แล้วว่ะ ชูใจ”
“อะ!” เธอหลุดครางเสียงดังนิดหน่อยเมื่อผมดูดดึงหน้าอกเธอผ่านผ้า ผมไม่อยากถอดอะไรในตัวเธอออก เพราะตอนนี้ถึงมันจะมืดมาก แต่ก็เป็นที่สาธารณะ แม้ว่าผมจะแทบทนไม่ไหวแล้วก็ตามผมดูดจนผ้าเธอเปียกน้ำลาย เห็นรอยยอดอกสีชมพูเข้มจางๆ ที่ดูเหมือนจะเข้มกว่าตอนที่เป็นแฟนกันเพราะเธอมีลูกแล้ว ผมจูบปากชูใจอย่างดูดดื่ม แลกลิ้นให้กัน ในขณะที่จะกัดปากเธอจนห้อเลือด“อื้อ โหน” เธอครางแล้วเริ่มจูบผมตอบกลับมา ผมถูกเธอผลักจนกึ่งนั่งกึ่งนอน ชูใจที่ถูกเลิกเสื้อจนเห็นชั้นในถอดเสื้อผ่าหลังออกทางศีรษะ แล้วขึ้นคร่อมผมอย่างใจกล้า “... จะไม่ให้ไปไหนแล้วนะ”เธอพูดแบบนั้น ผมจ้องหน้าเธอ เวลาผ่านไปเกือบปีชูใจเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวเหรอวะ ทั้งเซ็กซี่ ทั้งร้อน...“... อึก” ผมครางออกมาเบาๆ ในลำคอเมื่อถูกไล้ปลายนิ้วไปตามช่วงท้อง ชูใจเลิกเสื้อผมขึ้น ในขณะที่ใบหน้าจิ้มลิ้มก็เลื่อนมาดูดปากผมอย่างแนบแน่นเธอจูบเก่งจังวะ เคลิ้มเลยเนี่ย“อื้อ” แต่มือผมก็ไม่ปล่อยให้ว่าง ผมขยำหน้าอกเธอแรงๆ จนชูใจกระตุกนิดๆ เธอถูกผมต้อนจนมุมเหมือนอย่างเคย ในขณะที่ผมจะจงใจย้ำฝ่ามือลงหนักขึ้นแต่ใช่ เธอเองก็ร้ายใช่ย่อยมือเล็กๆ ของชูใจเลื่อนไปขยุ้มที่ใจกลาง
ฉันกลับมาแล้วล่ะจริงๆ ก็เพิ่งบินลงมาที่กรุงเทพเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี่เอง ฉันกลับมาพร้อมกับลูก อุ้มลูกบินข้ามน้ำข้ามทะเลจากญี่ปุ่นมาที่ไทย เพื่อกลับมาสู่ชีวิตเดิมๆ ที่เคยเป็นอยู่พ่อแม่ดูดีใจที่เห็นหลาน แม้ว่าเวลาเกือบปีจะทำให้พวกเขาแทบไม่ค่อยเปลี่ยนไปก็ตาม แต่ไม่ได้บังคับอะไรฉันมากมายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อีกอย่างตอนที่ฉันตัดสินใจบินไปที่ญี่ปุ่นกับพี่ชาย ฉันเข้าร่วมงานการ์ตูน ออกบู้ทมากมายเพื่อปรับปรุงฝีมือตัวเองที่ทิ้งหายไปนาน โดยมีพี่ชุนคอยดูแลบำรุงฉันที่ท้องโตขึ้นเรื่อยๆ อยู่เสมอฉันไม่ใช่นักวาดการ์ตูนที่ดังที่สุดในญี่ปุ่น แต่ก็พอมีคนรู้จักทั้งต่างประเทศ ญี่ปุ่น และประเทศไทย นามแฝงของฉันคือ ‘Peach’ฉันเริ่มทำงานด้วยการวาดสีน้ำขาย ก่อนที่จะปรับปรุงมาซื้ออุปกรณ์สำหรับวาดภาพในคอมพิวเตอร์ เม้าท์ปากกา โปรแกรมวาดรูปอะไรต่างๆ ที่ต้องซื้อมาอ้อ ฉันสักแบบมินิมอลเล็กๆ ตามจุดต่างๆ ของร่างกายด้วยนะ ขออนุญาตพี่ชายแล้วล่ะ มันก็ดูน่ารักดีเหมือนกัน มุมมองของฉันที่เคยมีต่อคนสักเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเลย ตั้งแต่มาคบกับโหน ฉันก็สนใจอะไรที่ตัวเองไม่ค่อยจะได้สัมผัสมากขึ้นอีกอย่างได้เรียนรู้แฟชั่นของญี่ปุ่
[พาร์ท : โหน]เป็นเกือบปีที่โคตรทรมานใช้ได้ถามว่าทำไมก็ตั้งแต่ที่ไปเคลียร์กับไอ้ลูกโชนวันนั้น มันก็ถอนหมั้นชูใจทันที แต่สาเหตุก็คงเพราะชูใจยังตั้งท้องกับผม ผมไม่รู้ว่ามันได้สารภาพเรื่องที่มันคบซ้อนหรือไม่ แต่ผมไม่สนเท่าไหร่ ขอแค่มันถอนหมั้นก็เป็นพอจะบอกว่าลูกทำให้ผมมีแรงผลักดันโง่ๆ ในเฮือกสุดท้ายก็ได้ และแม่งก็คงโง่จริงๆ เพราะหลังจากที่พ่อแม่เรียกชูใจมาคุยเรื่องที่ไอ้ลูกโชนถอนหมั้น ชูใจก็ตัดสินใจกลับต่างประเทศไปกับพี่ชายเธอ เห็นสายเพื่อนผมมันบอกมาว่าเธอจะอยู่ที่นั่นเป็นปีๆ จนกว่าจะคลอดลูก... ไม่รู้เธอจะกลับมาอีกมั้ยผมกระดกเหล้าลงคอ หลังจากวันนั้นก็ขอมาทำงานในร้านเหล้ากับพ่อ ทำมาได้เกินเกือบปีแล้วว่ะ แต่เป็นเกือบปีที่ผ่านไปได้อย่างยากลำบากผมไม่ได้เหนื่อยกับการรอคนที่ผมรัก เพราะตอนที่แอบรักเธอตอนสมัยเรียน ผมก็ทนมันได้เป็นปีๆแต่ความคิดถึงนี่ดิ มันผ่านยากมากว่ะผมนั่งคิดถึงเธอทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาทำงาน เวลานอน ทุกวินาทีลมหายใจผมมีแต่ชูใจคนเดียวเท่านั้น ผมตัดสินใจเลิกยุ่งกับใครๆ เพราะผมจะกลับมาหาเธออย่างเด็ดขาดแต่เธอหายไปในที่ที่ไกลเกินเอื้อมถึง เอาตรงๆ ก็ไม่มีเงินตามเธอไปด้วย ไม
ผมมาดักรอไอ้ลูกโชนที่ร้านเหล้าเดิมๆ มาเพื่อจะคุยกับมัน เพราะถ้ามันยังคิดจะยื้อชูใจไว้ต่อไป ผมก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกันผมเห็นว่ามันโอบเอวแฟนตัวจริงมาด้วยกัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ผมค่อนข้างไม่คุ้นตา เธอสวย แต่คงไม่เท่าชูใจของกูผมยืนดูดบุหรี่รอ พวกมันเดินไปเต้นที่โต๊ะด้วยกัน ท่าทางกระหนุงกระหนิงทำให้ผมรู้สึกเดือดดาล เป็นครั้งแรกที่รู้สึกอยากต่อยหน้ามันให้เละ แม้ว่าจากที่เคยสืบมา ตัวผมเองคงสู้กำลังมันไม่ได้ก็ตามจนมันย้ายมานัวเนียกันตรงจุดเดิม ผมเลยถือวิสาสะเดินไปขัด“ไอ้ลูกโชน” มันผละปากจากซอกคอของผู้หญิง ก่อนที่จะเลิกคิ้วมองผม ดูเหมือนไอ้ลูกโชนจะเมา“เหี้ยไร? มึงเป็นใคร” ผู้หญิงมองผมอย่างหวาดกลัว ผมแค่นหัวเราะที่มันเมามายจนจำหน้าผมไม่ได้ ก่อนที่จะผลักตัวหนาๆ ของมันจนเซไปทีนึง เพราะไอ้เวรนี่เมามากจนไม่มีสมรรถภาพจะพยุงร่างตัวเองได้เลย“กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”“...”“ตัวต่อตัว”“มึงมีไรจะคุยกับกูวะไอ้ขี้ก้าง” ไอ้ลูกโชนพูดอย่างเหยียดหยาม มันมองหน้าผมที่จ้องหน้ามันกลับไปอย่างแน่วแน่ ผมเองก็พร้อมเหมือนกัน ถึงจะรู้ว่าสุดท้ายผมอาจจะสู้มันไม่ได้ก็ตาม“เรื่องชูใจ” ผมตอบไปสั้นๆ มันแค่นหัวเราะทันที“
“เราทนใช้ชีวิตที่ไม่มีเธอไม่ได้ว่ะ” ผมกัดฟันแน่น เขย่าไหล่เธอเบาๆ อย่างออมแรง “ทั้งชูใจ ทั้งลูก เราต้องมีมันจริงๆ”“...”“ถ้าไปไม่ไหว ก็ขอให้คิดใหม่” ชูใจที่สบตาผมในระยะใกล้ ดวงตากลมโตของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เธอมองหน้าผม ก่อนที่จะเม้มริมฝีปากแน่นและก่อนที่เธอจะได้อ้าปากตอบอะไรกลับมา ความใจร้อนของผมที่อยากได้เธอกลับมาก็ทำให้ผมเลื่อนหน้าเข้าไปจูบเธอหนักๆ ปากที่นุ่มละมุนของชูใจทำให้ผมกุมใบหน้าเธอไว้ ก้มหน้าลงอีกเมื่อรู้ตัวว่าตอนนี้ความสูงเรามันต่างกันเกินไปชูใจพยายามดันอกผมออก ทึ้งเสื้อผมจนมันยับ เธอพยายามดิ้นรนทุกทางที่จะทำให้เธอไม่ทรยศต่อความรักของไอ้ลูกโชน แต่ผมรู้ดี ความรักของแม่งมันเป็นของปลอมทั้งเพถ้าเธอยังเชื่อไอ้เหี้ยนั่นที่มันตอแหลสร้างภาพมาว่ารักหลงเธอนักหนาแบบนั้นลง ผมก็ขอยอมเป็นคนเลวซะดีกว่า ที่จะต้องพยายามทำให้เธอท้องอีกทีในคืนนี้สติผมเลือนราง พอๆ กับแรงผลักไสของชูใจที่เริ่มอ่อนลง ผมไล้ปากของผมไปตามปากเล็กๆ ของเธอ กัดปากล่างของร่างเล็กแล้วช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มตัวชูใจเล็กแถมเบาหวิว จนสงสัยว่าหลังจากเลิกกันเธอได้กินอะไรลงบ้างมั้ย ผมลืมตามองเธอระหว่างที่กำลังจูบซับน้ำตาให้เธอตอ
แกรกฉันรีบเปิดประตูออกไปอย่างลืมตัว ด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี ฉันเห็นว่าเป็นโหนในลุคที่ดูต่างไปจากเคย เกือบเดือนที่ไม่ได้เจอกัน เขาเปลี่ยนแปลงทั้งสีผม รอยสักที่เพิ่มมากขึ้น และการแต่งตัวโหนที่ยืนจ้องหน้าฉันอยู่ที่หน้าประตู ฉันจ้องตาเขากลับไปเช่นกันแต่สิ่งที่ปรากฏในแววตาของเขา ฉันเห็นว่ามันเต็มไปด้วยความ... โหยหา?“... มาทำไมเหรอ” ฉันถามยิ้มๆ พยายามทำตัวเป็นปกติที่สุดกับเขา ยังไงก็ยังอยากเป็นเพื่อนเขาอยู่นะ ถึงเขาจะเริ่มต้นใหม่ไปแล้วก็ตามฉันคงเหมือนผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่ง ที่ผลักเขาออกไป ทำเหมือนโกรธเขาซะมากมาย แต่สุดท้ายก็โกรธไม่ลง แถมยังขาดเขาไม่ได้อยู่แบบนี้อีกโหนมองหน้าฉัน เขาฉีกยิ้มบางๆ กลับมา“คิดถึงเฉยๆ”“...!”“ผิดมั้ย ถ้ายังคิดถึงเธอ”ฉันนิ่งค้างไป นึกคำพูดออกมาไม่ได้เลย กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเขาบ่งบอกว่าโหนคงจะเมา เพราะเขาเมาใช่มั้ย... เขาถึงมาที่นี่แต่ก็เพราะเมาอีกนั่นล่ะ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลย“ผิดสิ” ฉันตอบกลับไป ทั้งๆ ที่ในใจสั่นไหวจนแทบบ้า นี่มันผ่านไปกี่วันแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้ยินคำนี้จากเขา “เรามีแฟนแล้วนะ โหนก็มีแฟนแล้วเหมือนกัน”“...”“ถ้าแฟนโหนรู้ว่าโหนมาหาเรา...