“จริงเหรอ?” คุณปู่ตระกูลหลี่ดวงตาเป็นประกาย และถามด้วยความเหลือเชื่อ“เรื่องจริงแน่นอนครับ”หลินเฟิงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “คุณปู่ ผมไปรับโทรศัพท์ก่อนนะครับ”พูดจบหลินเฟิงก็เดินออกไปข้างนอกหลินเฟิงรับสายของเซี่ยงตงเซิงปลายสายของโทรศัพท์มีเสียงคำรามของเซี่ยงตงเซิงดังขึ้นมา “ไอ้สกุลหลิน ลูกสาวของฉันตอนนี้ใกล้จะไม่ไหวแล้ว นายรีบรักษาให้ลูกฉันซะ”เซี่ยงตงเซิงร้อนใจจนยุ่งเหยิงไปหมดอาการลูกสาวของเขาในตอนนี้ ร้ายแรงมากยิ่งขึ้นแล้วแขนขาก็ยกขึ้นไม่ไหว ทำได้แค่นั่งอยู่บนรถเข็นหลินเฟิงกลับพูดอย่างเรียบฉย “ไม่ต้องรีบร้อน ลูกสาวของคุณยังมีเวลาอีกสามวัน ตอนนี้ยังต้องทรมานไปอีกระยะหนึ่ง”“นาย..”เซี่ยงเติงเซิงกำลังจะพูดขึ้นแต่ก็ถูกหลินเฟิงขัดจังหวะ“เซี่ยงตงเซิง ตอนนี้ผมต้องเตือนคุณหน่อยว่า คุณกำลังขอร้องผม คุณไม่มีสิทธิมาสั่งผม”“ได้ ไอ้สกุลหลิน นายต้องการอะไรกันแน่ ถึงจะช่วยรักษาลูกสาวของฉัน?”“การแบนตระกูลหลี่ฉันจะปลดออกเดี๋ยวนี้ นายคิดว่าเป็นอย่างไร?”เซี่ยงตงเซิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน“ผมเคยบอกกับคุณแล้ว ว่าถ้าต้องการให้ลูกสาวของคุณมีชีวิตรอด ก็ให้เธอขอโทษหลี่ฮุ่ยหราน” หลินเฟิงพูด
“ตรงไหนกันครับ…เรื่องเล็กน้อยทั้งนั้น ไม่คู่ควรแก่การพูดถึงเลยครับ”ในตอนนี้คุณปู่ตระกูลหลี่กับหลินเฟิงก็เดินเข้ามาหลี่ฮุ่ยหรานก็รีบบอกข่าวนี้กับเขา “คุณปู่คะ การแบนตระกูลหลี่ตอนนี้ถูกปลดออกแล้ว”“คุณปู่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องนี้แล้วค่ะ”“ปลดออกแล้ว?” คุณปู่ตระกูลหลี่ตกตะลึงเมื่อครู่หลินเฟิงรับสาย ๆหนึ่ง นั่นต้องเป็นฝีมือของหลินเฟิงแน่นอน“ดูท่าว่าครั้งนี้โชคดีที่ได้หลินเฟิงนะ”หลินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย ดูท่าเซี่ยงตงเซิงคนนี้ยอมอ่อนข้อแล้วเดาว่าอีกไม่นานก็จะมาขอโทษหลี่ฮุ่ยหรานแล้วจางกุ้ยหลานได้ยินแบบนี้ก็พูดเหยียดหยาม “หลินเฟิง? เกี่ยวอะไรกับเขาด้วย? ตระกูลหลี่ของพวกเราสามารถปลดการถูกแบนได้เพราะคุณชายสวี”“เป็นไปไม่ได้ เมื่อครู่หลินเฟิงคุยโทรศัพท์ การแบนตระกูลหลี่ของเราถึงได้ถูกปลดออก”คุณปู่ตระกูลหลี่พูด“ฮ่าฮ่าฮ่า เขาโทรไปแค่สายเดียวก็ปลดออกแล้วเหรอ? เขาโทรหาใคร หรือว่าโทรหาเซี่ยงตงเซิง?”หลี่เหวินเชาชี้หน้าหลินเฟิงแล้วพูดดูถูก “เขามีคุณสมบัติโทรหาตระกูลเซี่ยงด้วยเหรอ?”“จริงด้วย…”สวีเชาหัวเราะในทันที “หลินเฟิง อีกเดี๋ยวนายก็จะพูดใช่ไหมว่า คนตระกูลเซี่ยงจะมาขอโ
“ยกโทษให้ค่ะ ยกโทษให้แน่นอนอยู่แล้ว” หลี่ฮุ่ยหรานกลืนน้ำลาย ตัวเองมีสิทธิอะไรที่จะไม่ให้อภัยล่ะ“งั้นก็ดีมากเลย ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปพวกเราตระกูลเซี่ยงกับตระกูลหลี่ยังคงเป็นเพื่อนกัน”พ่อบ้านพูดอย่างสุภาพมาก“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ” หลี่ฮุ่ยหรานพยักหน้าเหมือนลูกไก่จิกไก่จางกุ้ยหลานพูดยิ้มแย้ม “เรื่องก่อนหน้านี้เข้าใจผิดกันทั้งนั้นค่ะ ต่อไปตระกูลเซี่ยงมีความต้องการอะไรก็บอกพวกเรามาได้เต็มที่”ตระกูลหลี่ทุกคนดีใจอย่างมากในเมื่อตระกูลเซี่ยงมาขอโทษถึงที่บ้าน เห็นได้ชัดว่าอยากจะคืนดีกับตระกูลหลี่แม้แต่สวีเชาก็รู้สึกว่าเหลือเชื่อมากในตอนนี้เอง หลินเฟิงเดินเข้าไปพูด “คุณขอโทษตระกูลหลี่มันเรื่องอะไรกัน? คนที่ทำร้ายคนก็คือเซี่ยงจื่อหลาน”“จะขอโทษ ก็ต้องเป็นเซี่ยงจื่อหลานขอโทษหลี่ฮุ่ยหรานด้วยตัวเอง”“นี่…” พ่อบ้านชะงักทันทีจางกุ้ยหลานได้ยินคำพูดนี้ก็ตกใจอย่างมาก จึงรีบถลึงตาใส่หลินเฟิง “ไอ้สกุลหลิน แกหุบปากเลยนะ ตรงนี้ไม่มีที่ให้แกพูด”“หลินเฟิง คุณอย่าพูดแทรก” หลี่ฮุ่ยหรานขมวดคิ้วแล้วตะโกนเบา ๆตอนนี้ตระกูลเซี่ยงกว่าจะมาปรับความเข้าใจกับตระกูลหลี่ได้ เธอไม่อยากเป็นเพราะคำพูดประโยคเดี
จางกุ้ยหลานพยักหน้าติดต่อกัน “พูดได้ถูกต้องมาก เพื่อนร่วมชั้นควรจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันถึงจะถูก”“หึหึ เขามีสิทธิอะไรทำให้ตระกูลเซี่ยงมาขอโทษถึงที่ได้” หลินเฟิงพูดเหยียดหยาม“ไอ้สกุลหลิน นายอิจฉาฉันใช่ไหม?” สวีเชาหัวเราะเยาะถึงแม้ตัวเองไม่ได้ทำอะไร แต่เพียงแค่คนตระกูลหลี่เชื่อใจเขาก็พอ“อิจฉาสวะอย่างนายมีความหมายอะไร?” หลินเฟิงมองเขาด้วยความเหยียดหยาม“ไอ้สกุลหลิน แกหุบปากไปเลย แกยังมีหน้ามาว่าคนอื่นว่าสวะอีกเหรอ?”จางกุ้ยหลานชี้หน้าด่าทอหลินเฟิง“จริงด้วย อยู่ฟรีกินฟรีที่ตระกูลพวกเรา ฉันดูแล้วนายนั่นหละที่เป็นคนไร้ประโยชน์มากที่สุด”หลี่เหวินเชาพยักหน้าตาม “ตอนนี้ยังกล้าใส่ความคุณชายสวี นายรีบไสหัวออกไปซะ”“หลินเฟิง คุณเลิกทำแบบนี้สักทีได้ไหม? หลี่ฮุ่ยหรานตะโกนใส่หลินเฟิงด้วยความผิดหวัง“ผมเป็นอย่างไร? ผมพูดความจริงมาโดยตลอด” หลินเฟิงขมวดคิ้ว“ความจริงอะไร? เซี่ยงจื่อหลานเป็นเพราะฟังคำพูดของคุณถึงได้มาขอโทษฉันเหรอ? ตระกูลเซี่ยงปลดการแบนก็เป็นเพราะคุณเหรอ?”หลี่ฮุ่ยหรานถลึงตาใส่“ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ? หรือคิดว่าเป็นเพราะเขา?”หลินเฟิงชี้หน้าสวีเชา “ดูสิว่าเขานิสัยเป็นอย่
“พ่อบ้านเซี่ยง คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?” จางกุ้ยหลานกลืนน้ำลายและถามด้วยความระมัดระวังพ่อบ้านตระกูลเซี่ยงขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณคิดว่าผมดูเหมือนคนที่ชอบเล่นตลกไหม?”“ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่นอน” จางกุ้ยหลานโบกมือของเธอไปมาแต่เธอไม่กล้าพูดว่าหลินเฟิงถูกพวกเขาไล่ไปแล้วเธอได้แต่พูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ “หลินเฟิงเพิ่งจะไปไม่นาน ถ้าตอนนี้คุณตามไป บางทีอาจจะตามทันก็ได้”เมื่อพ่อบ้านตระกูลเซี่ยงได้ยินแบบนั้นก็ไม่กล้าละเลยแม้แต่น้อย เขารีบตามออกไปทันทีจู่ ๆ หลี่ฮุ่ยหรานก็รู้สึกหน้ามืดตาลาย จนตัวเธอเซเกือบจะล้มไปกับพื้นที่แท้ทุกอย่างที่หลินเฟิงพูด ทั้งหมดเป็นความจริงคนที่จัดการเรื่องทุกอย่างมาโดยตลอด ก็คือหลินเฟิง ไม่รู้ว่าเบื้องหลังนี้เขาต้องทุ่มเทไปมากเท่าไหร่เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับตัวเองแต่พอลองคิดสิ่งที่ตัวเองพูดกับหลินเฟิงไป มันทำร้ายจิตใจกันมากแค่ไหน“ฮุ่ยหราน ฮุ่ยหราน…” จางกุ้ยหลานรีบช่วยประคองลูกสาวอย่างความรวดเร็วหลี่ฮุ่ยหรานเอียงตัวเข้าไปในอ้อมแขนของจางกุ้ยหลานพร้อมกับบ่นเบา ๆ ว่า “แม่ หนูเสียใจมาก หนูเสียใจมาก ๆ”เธอรู้สึกว่าตัวเธอได้ทำผิดต่อหลินเฟิง เธอไม่รู้ว่าควรจะอธิบ
หลินเฟิงเหลือบมองเซี่ยงจื่อหลานที่อยู่ในรถและเดินตรงไปตรงหน้าเธอเซี่ยงจื่อหลานเหมือนป่วยเป็นโรคหวาดกลัวหลินเฟิง เมื่อเธอเห็นหลินเฟิงเดินเข้ามาหา ร่างกายก็แข็งทื่อในทันทีจากนั้นก็ตัวสั่นอย่างมาก“คุณหลิน คุณจะทำอะไร?”พ่อบ้านตระกูลเซี่ยงเอ่ยถามด้วยความระแวง“ปลดผนึกจุดให้เธอ หรือคุณจะทำ?” หลินเฟิงพูดพร้อมกับเหลือบมองชายคนนี้พ่อบ้านตระกูลเซี่ยงก้าวถอยหลังด้วยความเก้กังหลินเฟิงแตะจุดฝังเข็มของเซี่ยงจื่อหลานสองครั้งแล้วค่อยทำให้จุดฝังเข็มของเซี่ยงจื่อหลานไหลเวียนทันใดนั้นเซี่ยงจื่อหลานก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดในร่างกายของเธอนั้นได้หายไปแล้วเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ อย่างโล่งอกหลินเฟิงพูดขึ้นมาเงียบ ๆ ว่า “ครั้งนี้ผมให้บทเรียนคุณ แต่ถ้าครั้งต่อไปคุณกล้าที่จะไม่เคารพหลี่ฮุ่ยหรานอีก คุณต้องตายแน่นอน” น้ำเสียงของหลินเฟิงเย็นชาและขู่อาฆาตเซี่ยงจื่อหลานฟังแล้วก็พยักหน้า “ไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้ว”ตอนนี้เธอถูกวิธีการของหลินเฟิงทำให้ทรมานและหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิงหลินเฟิงสะบัดแขนเสื้อ แล้วหันหลังเดินจากไปพ่อบ้านตระกูลเซี่ยงขมวดคิ้ว “หลินเฟิงคนนี้ จะกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว”“เงี
“เอ่อ…ของขวัญวันเกิด? ของขวัญวันเกิดแบบไหนครับ?”“ของขวัญที่จะให้หลินเสวี่ยฮุ่ย เด็กสาวอายุประมาณสิบแปดสิบเก้า” หลินเฟิงลูบคางแล้วพูดออกมา“อ่อ…”จ้าวเทียนหวานึกออกได้ทันที หลินเสวี่ยฮุ่ยคนนี้เป็นลูกสาวคนเดียวของอาจารย์ของหลินเฟิง คน ๆ นี้จะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษแต่เขาก็ลังเลเล็กน้อยว่าจะให้ของขวัญอะไรดี“คุณหลิน พวกเราควรให้ของที่มีค่าหน่อยหรือจะให้ของที่ราคาไม่แพงดีล่ะ?”“ต้องเป็นของมีค่าสิ”หลินเฟิงพูดจริงจังขึ้นมาลูกสาวคนเดียวของอาจารย์ตัวเอง สมควรได้รับของขวัญล้ำค่าที่สุด“ครับ ผมทราบแล้ว” ได้ยินแบบนี้จ้าวเทียนหวาก็พยักหน้าติดต่อกันแสดงให้เห็นว่าตัวเขาเข้าใจแล้ว“รีบเอามาส่งให้ผมที่วิลล่าอ่าวเทียนสุ่ย“ หลินเฟิงพูดจ้าวเทียนหวาพยักหน้าซ้ำ ๆ และวางสายโทรศัพท์ จากนั้นก็ไปจัดเตรียมทันทีหลังจากนั้นไม่นาน จ้าวเทียนหวาก็นำของขวัญมาส่งให้ถึงที่หลินเฟิงเปิดออกดูและเห็นว่ามันเป็นหยกจักรพรรดิชิ้นหนึ่งที่หน้าด้านแกะสลักเป็นรูปนกฟีนิกซ์“คุณหลิน นี่คือแผ่นจารึกฟีนิกซ์ที่แกะสลักโดยปรมาจารย์การแกะสลักที่เก่งที่สุดในเจียงโจวเมื่อสามปีที่แล้ว ส่วนวัสดุนี้ก็เป็นหยกจักรพรรดิ
ถ้าของขวัญของหลินเฟิงไม่มีค่า เขาอาจจะเยาะเย้ยใส่ก็ได้“เอ่อ…ช่างมันเถอะ ฉันจะกลับไปเปิดที่บ้าน”ด้านหลังหลี่ว์เจิ้งหยาง วัยรุ่นผมทองคนหนึ่งพูดขึ้น “อย่าสิ ครั้งที่แล้วที่ผมได้ยินว่าพี่เฟิงขับรถมายบัค ของขวัญที่มอบให้คงไม่ต่ำกว่าห้าแสนบาทหรอกนะ?ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นลูกสมุนของหลี่ว์เจิ้งหยางแน่ ภายนอกที่ดูเหมือนกำลังชื่นชม แต่ความเป็นจริงกำลังวางกับดักหลี่ว์เจิ้งหยางยิ้มแล้วพูดว่า “ห้าแสนบาท นายดูถูกพี่เฟิงหรือไง? นาฬิกาคาร์เทียร์ที่ฉันมอบให้มีมูลค่าห้าแสนแล้ว ของขวัญของพี่เฟิงก็ต้องมีมูลค่าอย่างน้อยหนึ่งล้านบาท”“มีเหตุผล มีเหตุผล”คนกลุ่มนี้ทั้งหมดเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย แล้วก็ไม่ใช่ลูกคนรวยทั้งหมดจัดงานวันเกิดมอบของขวัญราคาหลายพันบาทให้ก็ถือว่ามีค่ามากแล้ว นาฬิกาของหลี่ว์เจิ้งหยางมูลค่าห้าแสนบาท เรียกได้ว่าโดดเด่นจากคนอื่น ๆ“จริงด้วย เสวี่ยฮุ่ย เธอรีบเปิดเร็ว ๆ เถอะ ฉันอยากรู้มาก” หลี่ซืออวี่ก็อยากลองดูว่าหลินเฟิงจะใจกว้างมากน้อยแค่ไหนหลินเสวี่ยฮุ่ยไม่ได้รีบร้อน แต่กลับทำให้หลี่ซืออวี่ร้อนใจอย่างมากหลินเฟิงที่ได้ยินหลี่ว์เจิ้งหยางกับลูกสมุนของเขาพูดอย่างมีเจตนาแฝง ก
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ