Masuk“คุณกำลังข่มขืนฉัน” หญิงสาวเถียงปนหอบ
“ถ้าผมทำอย่างว่า เราคง ‘ถึง’ ไม่ต่ำกว่าสามยกแล้วจ้ะ ถึง…แบบไม่ ‘เสร็จสม’ น่ะ”
สามยก! ในเวลาไม่กี่นาทีเนี่ยนะ อึ๋ยยย! เขามันไอ้ตัวลามกที่นรกส่งมาชัดๆ
“ปกติผมไม่เสียเวลาเล้าโลมหรอกนะ ผมมันพวกบ้าพลัง แต่คุณถือเป็นกรณีพิเศษ”
“ฉันไม่อยากเป็นกรณีพิเศษ”
“ไม่ทันแล้วมั้งยาหยี ดูสิ…เราเข้ากันได้ดีเป็นบ้า”
ยังไม่ทันจะขาดคำคนหน้าไม่อายก็ช้อนท้ายทอยสลวยขึ้นจากหมอนใบโต แล้วพยักพเยิดให้เธอดูส่วนที่ ‘เข้ากันได้ดี’ ถึงจะเลือนรางจนแทบมองไม่เห็นท่ามกลางความมืด แต่ความรู้สึกของการหลอมรวมเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันก็ทำให้ใบหน้าหวานใสแทบไหม้ด้วยความกระดากอาย
“ไอ้คนหื่นกาม! โรคจิต! วิตถาร! ฉันจะแจ้งความเอาผิดคุณให้ถึงที่สุด” เธอสะบัดศีรษะออกจากมือใหญ่ เบี่ยงหน้าหนีปากร้อนร้ายที่นาบจูบลงมาไม่ลดละ แล้วขู่ฟ่อปากคอสั่น
“ขู่เก่ง”
“ไม่ได้ขู่ ฉันเอาจริง”
“ผมก็ ‘เอา’ จริง”
คนกักขฬะว่าพลางเสยสะโพกส่งตัวตนกร้าวแกร่งเข้าไปลึกกว่าเดิม ตอกย้ำเจตนารมณ์ว่าเขาจะไม่หยุดการกระทำสุดวาบหวาม เรียกเสียงครางกลั้วลำคอน้อย
“ฮื้อ…ฉันจะให้ตำรวจมาลากคอคุณเข้าคุก”
“ชอบแบบไหนก็ทำเถอะพิกกี้ แต่ต้องหลังจากคืนนี้”
ขาดคำคนที่กัดฟันต่อปากต่อคำกับเธออยู่พอสมควร ก็เริ่มขยับกายเข้าหาอย่างอ้อยอิ่ง ด้วยมิอาจทนประวิงเวลาได้อีกต่อไป ขณะส่งนิ้วบดขยี้บี้คลึงเกสรดอกรักเร้าอารมณ์ ส่วนปากก็ครอบครองยอดอกตูมเต่งอย่างตะกละตะกลาม แต่แค่นั้นก็ทำเอาสาวเจ้าหลุดเสียงครางผาดแผ่ว
ฤทธิ์ยาที่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธอไร้การควบคุม สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว และร้อนรุ่มไปทั้งสรรพางค์กาย ไม่นานคนที่พยายามกัดฟันขัดขืนก็เผลอแอ่นร่างเสนอตัว
“โอ…อื้อ ยะ…หยุดนะ อย่า…”
เสียงครางปะปนกับเสียงห้ามปรามทำให้มุมปากหยักกระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงแก่นกายออกมาจากซอกสาว แล้วเสือกไสเข้าหาอย่างเชื่องช้าทว่าบาดอารมณ์ ทำเอาสาวเจ้าเผลอครางอย่างจิตหลุด
“อ๊ะ…อ๊า…”
“หายเจ็บแล้วใช่ไหมหือ…”
เขาเค้นเสียงห้าวติดจะแหบถามไถ่ ถึงแม้จะอยากโจนจ้วงล้วงลึก แล้วพาสาวเจ้าไปท่องแดนสวรรค์ใจแทบขาด แต่ก็สำเหนียกดีว่าอีกฝ่ายยังไม่เคย และสดใหม่กับเรื่องนี้
ที่สำคัญคือคนอย่างเขาไม่เคยทำให้ผู้หญิงคนไหนเจ็บปวด หรือได้รับบาดเจ็บจากการร่วมรัก ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่คู่นอนชั่วข้ามคืนก็เถอะ
“ว่าไง ถามก็ตอบสิจ๊ะ” ไม่เซ้าซี้เปล่าคนโอหังยังฟอนเฟ้นอกอวบอย่างย่ามใจ
“ฮื่อ…”
เสียงครางเหมือนอึดอัดทรมานหลุดจากปากอิ่ม บ้างคล้ายประท้วง บ้างต้องการให้นำพาด้วยความสับสน ทว่าสะโพกมนกลับแอ่นขึ้นเป็นเชิงเชื้อเชิญให้เขาได้เติมเต็มอย่างถนัดถนี่
“คนเก่ง”
ว่าแล้วเขาก็ให้รางวัลเด็กน้อยด้วยการก้มลงบดเคล้ากลีบปากนุ่ม มอบจูบดูดดื่ม สอนให้เธอรู้จักแลกลิ้นอย่างเงอะๆ งะๆ พร้อมกับขยับสับสอดด้วยจังหวะที่เร่งร้อนยิ่งกว่าเดิม
“อา…คับแน่นขนาดนี้…คุณฆ่าผมได้เลยพิกกี้”
ชายหนุ่มสูดปากครางอย่างหลุดหลง ในวินาทีที่กายสาวโอบกระชับด้วยความรัญจวนใจจนแทบคลั่ง ขณะตอกอัดตัวตนเข้าหาด้วยจังหวะที่หน่วงหนักมากยิ่งขึ้น ทำเอาร่างอวบใต้ร่างสั่นคลอน เผยอปากร้องครางลั่นระงม เพราะไร้สติแบบสุดกู่ ฤทธิ์ยาปลุกสวาทบวกกับการเล้าโลมหลอกล่อชั้นเซียนของเขา ต่อให้แก่กล้าประสบการณ์มากแค่ไหนก็มิอาจต้านทานได้ไหว แล้วนับประสาอะไรกับคนไม่เคยอย่างเธอ
“คะ…คุณ ฉันไม่ไหว…”
เจ้าของร่างอวบอัดทว่านุ่มนิ่มส่ายหน้า พลางเอ่ยวิงวอน เพราะอ่อนหัดจึงจนปัญญาที่จะหาทางหลุดพ้นจากความทรมานหวานแหลมที่กำลังประสบ
“ผมรู้พิกกี้ ผมรู้…”
จากนั้นเขาก็กระโจนเข้าหา ส่วนเธอผวาขึ้นรับ ท่วงทำนองรักเป็นไปอย่างร้อนฉ่า และแสนจะลงตัวชวนพิศวง แต่ครั้นคนโดนวางยาปลุกกำหนัดเกือบทะยานไปถึงฝั่งฝัน เขากลับหยุดชะงัก ทำเอาผู้ที่ถูกฉุดไปถึงปากทางสวรรค์แทบไปไม่เป็น เนื้อตัวเครียดเกร็ง กลางกายรวดร้าว และหลุดเสียงครางประท้วง
หากแต่ไม่นานก็ต้องอุทานออกมา เมื่อชายหนุ่มพลิกร่างอวบอิ่มขึ้นไปเหนือกาย ครั้นสาวเจ้าทำท่าจะหาทางหนีทั้งที่ไฟสวาทยังไม่สิ้นเชื้อด้วยความกระดาก คนหน้าไม่อายก็กดบั้นท้ายน่าฟัดเอาไว้ แล้วกระซิบข้างหูด้วยถ้อยคำหยาบโลนทว่าหวามในอกอย่างน่าประหลาด
“ทำสิ…ข่มเหงผมคืนเลยเบบี๋”
“ฉันไม่…” เจ้าของพวงแก้มร้อนฉ่าส่ายหน้าหวือ
“เดี๋ยวผมสอนให้…”
ยังไม่ทันจะขาดคำฝ่ามือใหญ่ก็ช้อนสะโพกมนขึ้นเหนือร่าง แล้วรั้งลงมาสวมครอบครองท่อนกายชายที่ตั้งลำรอท่า ท่ามกลางเสียงสูดปากอย่างซ่านสะใจ
“อูยยยยย…คุณเป็นสาวอวบคนแรกที่ผมยอมให้ ‘ขึ้นขี่’ เลยนะพิกกี้”
จากนั้นเขาก็ยกบั้นท้ายอวบอั๋นขึ้นลงเป็นเชิงนำทาง เธอทำตามอย่างเงอะๆ งะๆ แต่กระนั้นก็ยังทำให้ร่างทรงพลังแทบครางโหยด้วยความกระสันซ่าน
“อา…อย่างนั้น เก่งมาก…เด็กดี”
ไม่นานเขาก็ปล่อยให้เธอเป็นผู้กำหนดท่วงทำนองฮอตฉ่า เสียงครางสอดประสานคละเคล้ากับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นระงม ที่สุดคลื่นสวาทลูกยักษ์ซึ่งถาโถมเข้าหาอย่างไม่บันยะบันยังก็พัดพาทั้งคู่ไปถึงฝั่งฝันอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ฮื้อ…อย่านะ พะ…พอแล้ว…”
คนที่แทบจะสลบไปกับบทรักเร่าร้อนซึ่งเพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ อีกทั้งยังรู้สึกถึงความกร้าวแกร่งที่กระตุกอยู่ในตัว เค้นเสียงครางปนหอบหนักๆ ประท้วง เมื่อถูกพลิกให้ลงไปนอนใต้ร่างใหญ่พราวเหงื่อ ที่กำลังพรมจูบไปทั่ว แต่ฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กส์ที่ยังไม่หมดก็ทำให้เธอเหมือนไม่มีแรงขัดขืนอย่างถึงที่สุด แค่เขาปลุกเร้าด้วยฝ่ามือและปากลิ้นอย่างร้ายกาจ เธอก็เหมือนถูกเปิดสวิตช์กระชากสัญชาตญาณดิบขึ้นมาอีกครั้ง
แต่สติอันน้อยนิดก็ทำให้เธอเผยอปากเจ่อเค้นเสียงห้ามปราม แค่เสียสาวมันก็มากพอแล้ว หากจะถูกกระทำชำเราซ้ำอีกก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ไหน
“พอเถอะ อย่าทำอะไรฉันอีกเลย”
ให้ตาย! เขาโทรหายัยเด็กดื้อเงียบนั่นตั้งเกือบห้าสิบสาย คนที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับโทรศัพท์สบถในใจด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน และเพราะมัวแต่สนใจเครื่องมือสื่อสารที่ว่า เขาจึงไม่รับรู้ถึงการมาของลูกน้องคนสนิท “ผมไม่เคยเห็นนายหมกมุ่นกับเรื่องของผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน”น้ำคำเหมือนชวนคุยแต่เต็มไปด้วยความสงสัยอย่างมากล้น ทำให้คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาต่อสายโทรศัพท์ชะงัก เงยขึ้น สีหน้าไม่สบอารมณ์พลันเฉยชาในบัดดล “ฉันให้แกมารายงานเรื่องที่ให้ไปสืบ ไม่ใช่ให้มาตั้งคำถาม” เสียงห้วนจัดรวนกลับ “คนนี้จริงจังใช่ไหมครับ”ร่างสง่าที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ยกมืนขึ้นกอดอกถ่วงเวลาด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย เล่นกับความรู้สึกคนรอท่าคำตอบ แล้วถึงขยับปากเอ่ยออกมา “นั่นเมียกูไหม”“ก็ไหนว่าไม่เต็มใจจดทะเบียนสมรสไงครับ”ไอ้ลูกน้องเวร! มันยังไม่เลิกเซ้าซี้อีก“มึงจะมาอยากรู้อะไรนักหนาวะ”“งั้นนายก็ตอบมาสิครับ ผมจะได้ไม่ถามให้รำคาญอีก”หึ! ได้คืบจะเอาศอก “ถ้ามึงไม่พูดเรื่องที่กูให้ไปจัดการ ก็ไสหัวไปไกลๆ ตีน”มหรรณพเอ่ยอย่างเฉียบขาด เขาไม่คิดจะอธิบายเรื่องส่วนตัวให้ลูกน้องฟังอยู่แล
“เอ่อ…พี่แพรกับคุณหวงไม่ได้รักกันหรอกเหรอคะ”หลังจากอึ้งไปอึดใจปิยฉัตรก็เอ่ยถามอย่างไม่เต็มเสียงมากนัก เพราะเกรงว่าจะเป็นการเสียมารยาทกับการละลาบละล้วง อีกอย่างก็กลัวจะไปกระทบจิตใจอีกฝ่ายเข้า “ถ้าจะรัก ก็คงมีแค่พี่ที่แอบรักสามีตัวเองข้างเดียวมาตั้งแต่เล็กจนโต รักทั้งที่รู้ว่าไม่มีสิทธิ์ รักจนยอมสละไตข้างหนึ่งให้เขาในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุปางตาย”“การสละไตข้างหนึ่งที่ทำให้หมอคนที่เพิ่งไปกับคุณหวงเป็นข่าว และถูกยกย่องว่าเป็นนางฟ้าชุดกาวน์ใช่ไหมคะ”ปิยฉัตรละล่ำละลักอย่างตกใจ เริ่มเดาได้ว่าสาวสวยที่เพิ่งจากไปคือคนที่มาชุบมือเปิบเอาความดีความชอบที่ปานระพีสมควรจะได้รับไปอย่างหน้าตาเฉย “ฮื่อ…”“แล้วทำไมพี่แพรไม่บอกความจริงกับคุณหวงไปตรงๆ ล่ะคะ” ปิยฉัตรเริ่มเป็นเดือดเป็นร้อนแทน รู้สึกสงสารคนที่ทำตัวปิดทองหลังพระเช่นปานระพีจับจิต “มันไม่มีประโยชน์หรอก เขาไม่ได้รักพี่ และเราสองคนก็กำลังจะหย่ากัน”ปานระพีส่ายหน้า แล้วยิ้มเศร้า จากนั้นก็ปรับทุกข์กับอีกฝ่ายอีกนิดหน่อย ส่วนปิยฉัตรก็เล่าถึงสาเหตุที่เธอต้องมาขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่าย ตบท้ายด้วยการขอร้องให้ปานระพีช่วยบอกเธอ หากว่าเห็นอะไรไม่
บ่ายวันนั้น หลังจากตรวจคนไข้ที่โรงพยาบาลรักษ์เสร็จ ปานระพีก็ถูกมหรรณพลากติดมือไปขึ้นรถ ครั้นจะหาทางหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะพ่อคุณดันมานั่งเฝ้าหน้าห้องตรวจก่อนเวลาตั้งสองชั่วโมง ด้วยกลัวว่าเขาจะทำอะไรบ้าดีเดือดตามที่ได้ข่มขู่ไว้ เธอจึงไม่กล้าโวยวายและขัดขืน แต่น่าแปลก!มหรรณพดูมึนตึง เย็นชา และหมางเมินจนน่าใจหาย มันเกิดอะไรขึ้น? ถ้าว่าเขาทำตามแผนที่คุณย่าโทรมาเล่าให้ฟังในตอนเที่ยง มันจะเวอร์ไปหน่อยไหม ในเมื่อคณิสราไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยเสียหน่อย แล้วเขาจะเล่นละครไปเพื่ออะไร เอ๊ะ! หรือว่าเขาจะโกรธเธอเรื่องหย่าที่ฝากคนเป็นย่าไปบอก โกรธแล้วยังไง?ต่อให้ยังตัดใจจากเขาไม่ได้ เธอก็จะหย่าอยู่ดี ตอนแรกนั้นปานระพีงงหนักมาก ที่อยู่ๆ มหรรณพก็พามาที่ค่ายมวยแห่งหนึ่ง กระทั่งได้พบและทำความรู้จักอย่างเป็นทางการกับจอมพล อาศิระ เจ้าพ่อมาเฟียแดนใต้ และแพทย์หญิงปิยฉัตร สิทธิประเสริฐ ซึ่งสาวห้าวที่ว่ามาสมทบทีหลัง จริงๆ ปานระพีพอจะรู้จักสองคนอยู่ก่อนแล้ว เธอได้มีโอกาสรู้จักจอมพลผ่านทางนลินนิภา ส่วนปิยฉัตรนั้นก็เป็นรุ่นน้องสมัยเรียน ทำงานที่โรงพยาบาลรักษ์เหมือนกัน แถมยังเคยอยู่ในเหตุการณ์
“มันหนาว ขอกอดหน่อย”ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ วงแขนแกร่งกระชับเอวคอดมากยิ่งขึ้น แล้วเอ่ยเหมือนชวนคุย “เมื่อกี้เกือบไม่เสร็จแน่ะ ต้องหลับตานึกถึงหน้าแดงๆ ของแพรตอนผมขึ้นขี่แบบเมื่อคืนแทบแย่”อึ๋ยยย ดูพูดเข้า! คนอะไรไร้ยางอายสิ้นดี! “ทุเรศ! น่าเกลียดที่สุด!”“น่าเกลียดตรงไหน ‘ช่วยตัวเอง’ เป็นเรื่องธรรมดาจะตาย โลกสวยด้วยมือเราน่ะเคยได้ยินไหม”ทนความไร้ยางอายของอีกฝ่ายไม่ไหว ปานระพีก็หลับตาลงเป็นเชิงยุติบทสนทนา ซึ่งเขาก็กอดกระชับเอวคอดมากยิ่งขึ้น แล้วพึมพำนัดหมาย ว่าจะพาเธอไปที่ไหนสักแห่งในวันพรุ่งนี้ ตบท้ายด้วยการจุมพิตหน้าผากมนอย่างแผ่วพลิ้ว ทำเอาคนแสร้งหลับตัวเกร็ง ใช้เวลาทำใจให้สงบอยู่นานกว่าจะหลับลง รุ่งเช้าลูกน้องของมหรรณพก็มาเคาะประตูห้อง เอาเสื้อผ้ามาให้เจ้านาย อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ เจ้าของร่างทรงพลังก็เดินผิวปากออกมาจากห้องน้ำ โดยมีผ้าขนหนูของเธอที่พอไปพันอยู่ตรงเอวสอบกลับดูสั้นจู๋ไปถนัดตา ส่วนมือก็ใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดผมด้วยท่าทีสบายๆ ยืนอวดหุ่นทรมานใจอย่างหน้าตาเฉย “งายยยย…ชอบที่เห็นไหมพิกกี้” น้ำคำสัพยอกทำให้คนที่เอาแต่นอนจ้องเขาได้สติ กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะอุบอิบออกมา “บ้
“เด็กดี”คนได้ดั่งใจเอ่ยชมอย่างยิ้มๆ ขณะเอื้อมมือมาโยกหัวน้อยเบาๆ คนตัวเล็กเงยหน้าถลึงตาใส่ ปัดมือใหญ่ออกจากหัวตัวเอง แต่กลับต้องหลุดสะดุ้ง เมื่ออีกฝ่ายเลื่อนฝ่ามือกระด้างลงมาไล้ที่ลำคอระหง “ผู้ใหญ่ให้ของต้องทำยังไงครับ” คำว่า ‘ครับ’ ง่ายๆ ที่ใครๆ ก็พูดกัน แต่พอเป็นเขาพูดเธอกลับใจสั่นซะงั้น “ไม่ได้อยากได้สักหน่อย” คนหน้าตูมย่นจมูก หลุดอุทานหน้าตื่น เมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายก็รั้งลำคอระหงเข้าหา ในจังหวะที่เขายื่นหน้าข้ามโต๊ะเข้ามาใกล้ แล้วทำให้เธอตัวแข็งทื่อ แทบหยุดหายใจ ด้วยการประกบปากหยักเข้ากับปากอิ่ม ปานระพีอึกอักประท้วง แต่แทนที่จะหลุดพ้นกลับโดนล้วงชิมความหวานล้ำจนหนำใจ“คราวหน้าคราวหลังถ้าผมให้อะไร ต้องขอบคุณแบบเมื่อกี้นะลูกหมูน้อย” หลังจากถอนปากห่างอย่างอ้อยอิ่ง จอมเจ้าเล่ห์ก็เอ่ยบอกอย่างครึ้มอกครึ้มใจ พลางหลิ่วตาให้ จากนั้นคนโดนปล้นจูบจนปากเจ่อก็จัดการกับของกินตรงหน้าโดยไม่พูดไม่จา ไม่ยอมสบตากับคนที่นั่งอยู่ในฝั่งตรงข้าม ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนจนมหรรณพนึกอยากจะทำอะไรบ้าๆ ลงไป “ขอชิมหน่อยสิ”เขาว่าพลางจ้องจานสลัดของเธอนิ่งๆ “คุณไม่ชอบกินผักไม่ใช่เหรอคะ”“รู้ได้ไง”
ไม่อยากจะเชื่อว่าเสาร์อาทิตย์นี้มหรรณพจะขลุกอยู่กับเธอตลอด ไล่ยังไงก็ไม่ไป แถมยังทำตัวน่าหมั่นไส้ เธอเดินไปไหนก็เดินตาม ถึงแม้จะอยู่ในห้องแคบๆ ที่แค่ปรายตามองก็รู้แล้ว ว่าเธอกำลังทำอะไร อยู่ตรงไหน แต่เขาก็ยังตามมาอยู่ใกล้ๆ นับวันยิ่งทำตัวประหลาดชวนให้ลากไปเช็กประสาทเข้าไปทุกที เมื่อเลี่ยงไม่ได้ หนีหน้าเขาก็ไม่ได้ เพราะนอกจากเธอจะทำงานหนักมาทั้งสัปดาห์ เมื่อคืนยังถูกเขาสูบพลังจนแทบกระดิกนิ้วไม่ไหว ฉะนั้นที่ทำได้ก็คือหมกตัวอยู่แต่ในห้อง นอนกลางวันให้ร่างพังๆ ได้ชาร์ตพลังงาน และพยายามไม่สนใจแขกไม่ได้รับเชิญ ที่ชอบทำตัวมีปัญหาเรียกร้องความสนใจอยู่บ่อยครั้ง พอตกเย็นเธอก็ทำอาหารง่ายๆ โดยไม่ลืมเผื่อเขาด้วย ไม่ใช่ว่าเต็มใจแต่โดนคนบ้าอำนาจบังคับ “ทำอะไรกินหืม…”เสียงห้าวเจือแหบของคนที่ยืนซ้อนหลังกระซิบงึมงำชิดซีกแก้มนวลปลั่ง ก่อนจะขโมยจูบเร็วๆ จนนับครั้งไม่ถ้วน ครั้นคนหน้าร้อนจี๋จะเอนตัวหนีเขาก็รวบเอวคอดเอาไว้ แล้วแถมจุ๊บให้อีกหลายหน “ว่างายยยย…ลูกหมูน้อย ถามทำไมไม่ตอบ” เธอเกลียดเสียงยานคางกวนประสาทนั่นชะมัด“ทำข้าวผัดแหนมคะ เอ่อ…คุณไปรอที่โต๊ะกินข้าวดีกว่านะคะ ทำแบบนี้ฉันไม่







