“หวังว่าจะไม่ตายเร็วๆ นี้นะ เพราะฉันยังสนุกกับเธอไม่จบ”
มือหนากระชากแขนเล็กๆ ของคนตัวเล็กเท่าลูกหมาเห็นจะได้ขึ้นมา อีกฝ่ายเอาแต่บีบน้ำตาร้องห่มร้องไห้เหมือนจะเป็นจะตายมาตลอดทางที่เขานั้นอุตส่าห์พาเธอนั่งรถกลับบ้านมาด้วย ไม่ได้ปล่อยให้เดินกลับมาเอง
พร้อมส่งคำอวยพรไปให้อย่างหวังดีไม่อยากให้อีกฝ่ายตรอมใจตายไปเร็วๆ นี้เพราะเขายังติดใจเรื่องบนเตียงกับเธออยู่ ยังคงอยากสนุกไปกับเรือนร่างเล็กๆ นั้นไปอีกสักพัก
“ปล่อยหนูนะ”
เข็มขาวพยายามดึงแขนของเธอคืนมาจากคนใจร้ายที่จะฆ่าเธอให้ตายก็ไม่ฆ่าโหดเหี้ยมทรมานเธอครั้งแล้วครั้งเล่านั้น เมื่อเห็นว่าลูกน้องของเขาเปิดประตูให้เธอได้มีทางลงจากรถคันนี้ได้แล้ว
เนื้อตัวที่เจ็บระบมไปหมดทั้งตัวจากการตกจากหลังม้านั้นก็ยังคงทวีความเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีท่าทีว่าจะจบลงตรงไหน และยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บราวกับมีกระดูกตรงไหนหักอยู่
แต่ถึงกระนั้นเธอก็จำต้องอดทน เพราะตอนถูกแม่ตีเจ็บกว่านี้เธอก็ผ่านมันมาแล้ว กับการเจ็บแค่นี้เธอก็ต้องผ่านมันไปให้ได้
“หึ สกปรกแบบนี้กูเอาไม่ลงหรอก ไม่ต้องมาห่วงเนื้อห่วงตัวนักหรอก กูไม่ได้พิศวาสมึงขนาดนั้นหรอก”
ผลักร่างเล็กของหญิงสาวอย่างแรงเพื่อให้ร่างนั้นลงจากรถของเขาไปด้วยท่าทีรังเกียจ ถึงเขาจะยังอยากพาเธอขึ้นเตียงอีกสักรอบสองรอบเพื่อความสนุกมากแค่ไหนแต่มันก็ไม่ใช่ตอนนี้ที่เธอนั้นเลอะเทอะเหมือนถังขยะเคลื่อนที่ได้แบบนั้น เห็นแล้วมันหมดอารมณ์
“โอ๊ย”
ร่างเล็กกลิ้งตกจากรถอีกครั้งเมื่อได้ไม่ตั้งหลักให้ดีก่อนจะถูกผลักลงมาอย่างแรง เจ็บซ้ำเจ็บซากจนน้ำตามันไหลนอกหน้าอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้
“ล้างเนื้อล้างตัวซะ ถ้าฉันวางจะแวะเข้ามาสงเคราะห์ให้ก็แล้วกัน”
ก่อนที่ลูกน้องจะปิดประตูรถให้ ฟีนิกส์ได้พ่นคำพูดไม่น่าฟังออกไปอีกเพื่อความสาแก่ใจของเขา แล้วก็พยักหน้าให้ลูกน้องรีบปิดประตูรถซะด้วยไม่อยากเห็นสภาพน่าสมเพชของหญิงสาวนั้นอีกต่อไป
แล้วรถของเขาพร้อมกับขบวนรถของลูกน้องก็เคลื่อนตัวออกจากบ้านนั้นไป หลังจากทิ้งร่องรอยแห่งความเจ็บปวดเอาไว้ได้อย่างสาแก่ใจให้กับหญิงสาวลูกสาวของผู้หญิงแพศยาคนนั้น
“ไหวไหม”
เลนินหนึ่งในลูกน้องอีกสามคนที่ถูกสั่งให้เฝ้าหญิงสาวเอาไว้เดินเข้ามาถามเธอ เมื่อเห็นว่าเธอนั้นยังคงนอนร้องไห้อยู่กับพื้น
เข็มขาวได้แต่ส่ายใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาไปมาเบาๆ เพื่อเป็นการคำตอบของคำถามที่ถูกถามออกมาก่อนหน้านี้
เธอลุกขึ้นไม่ไหวอีกแล้ว ร่างกายมันแหลกสลายครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่เหลือชิ้นดีอีกต่อไปแล้ว
“น้ำตามันก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอก นายไม่ฆ่าเธอก็บุญเท่าไหร่แล้ว”
เลนินเดินเข้ามาใกล้ๆ ร่างเล็กนั้นแล้วก็ช่วยดึงแขนเล็กๆ นั้นเพื่อให้เธอลุกขึ้นยืนด้วยขาของเธอเองให้ได้
พาเธอเดินกลับเข้าไปภายในบ้านหลังใหญ่ที่ไม่หลงเหลือใครอีกแล้วให้เข้าไปพักในห้องนอนเล็กๆ ของเธอ แล้วเฝ้าดูเอาไว้ตามคำสั่ง
เข็มขาวนอนพักรักษาตัวอยู่ภายในห้องนอนที่มันแสนยับเยินเหมือนกับตัวเธอนั่นแหละอยู่สามวันอาการจากการตกม้าถึงดีขึ้น
โดยมีข้าวจากร้านสะดวกซื้อและยาแก้ปวดช่วยรักษาชีวิตของเธอเอาไว้ ให้รอดมาจนถึงตอนนี้ได้
และเธอก็เริ่มลุกขึ้นจากเตียงออกไปสำรวจที่ประตูห้องนอนของตัวเองว่ามีใครเฝ้าดูเธออยู่หรือเปล่า ด้วยเธออยากออกไปสูดอากาศข้างนอกสักหน่อย
“จะไปไหน”
เลนินที่รับหน้าที่เฝ้านักโทษของเจ้านายเอาไว้เอ่ยดังมาแต่ไกลๆ เมื่อเห็นว่านักโทษของเจ้านายกำลังจะเดินออกจากที่กุมขัง
ไม่ได้มีคำสั่งกักบริเวณอะไรหรอกสำหรับเธอคนนั้นเธอจะเดินไปไหนมาไหนก็ได้ภายในบ้านหลังนี้ แต่ก็ต้องเฝ้ามองเอาไว้เพราะคำสั่งจากเจ้านายคือห้ามให้เธอหนีไปไหนได้นอกเสียจากหนีไปตายเพียงอย่างเดียว
“แค่ออกมาเดิน”
หญิงสาวตอบออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ อย่างลองดูว่าเธอจะได้ออกไปนอกห้องสักนิดหนึ่งไหมเพื่อจะไปเดินยืดเส้นยืดสายบ้างก็ยังดี
เธอรู้ดีว่าไม่มีทางหนีรอดไปไหนได้ในตอนนี้ เพราะแค่จะเดินให้ไม่รู้สึกเจ็บขาที่ถูกกระแทกอย่างแรงจากการตกม้ามายังยากลำบากอยู่เลย
ถ้าให้วิ่งหนีเธอคงไปไม่พ้นประตูบ้านหรอก คงถูกเขาจับได้ก่อนจะหนีไปได้อย่างแน่นอน
“อย่าให้เห็นว่าคิดหนี ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่ได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีก”
เลนินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยแรงขู่พวกนั้นโดยที่ตัวเขานั้นยังคงนั่งหลบซ่อนอยู่ที่เดิมไม่ได้ปรากฏตัวให้หญิงสาวได้เห็นหรอก
เพียงแค่ทำแค่นี้ผู้หญิงคนนั้นก็ดูกลัวมากพอแล้วคงไม่กล้าหนีหรอก คงไม่ต้องถึงกับปรากฏตัวให้ได้เห็นให้ต้องเสียเวลาหรอก
อีกอย่างภายในบ้านนี้ก็มีลูกน้องเฝ้าดูรอบนอกอีกสองสามคน ขืนเธอหนีไปพ้นสายตาเขาได้ไม่นานก็ถูกจับกลับมาอยู่ดีนั่นแหละ
“ยังคงสวยเหมือนเดิมเลยสินะ ไม่รู้ว่าคุณแม่จะเห็นดาวพวกนี้ไหม”
เธอเดินออกมานั่งดูดาวตรงสวนหย่อมบริเวณข้างบ้านระหว่างทางที่จะเดินไปเรือนหลังเล็กได้ ไม่ได้เดินไปไหนไกลด้วยขาข้างหนึ่งยังไม่หายเจ็บดี
ใบหน้าหวานที่จืดชืดราวกับกระดาษไรสีไรสันที่จะมาแต่งแต้มให้ดูงดงามเงยขึ้นมองดวงดาวบนท้องฟ้าหวังหาความสุขเล็กๆ ให้กับตัวเอง
แล้วเธอก็พบเจอหมู่ดาวจำนวนมากมาย ทำให้หวนนึกถึงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งเมื่อสมัยเธอย้ายมาอยู่ที่นี้ใหม่ๆ แม่ของเธอเคยพาเธอออกมาเดินดูดาวกับคุณลุงผู้เป็นสามีของแม่
เหตุการณ์ครั้งนั้น แม่ใกล้ชิดกับเธอเหมือนกับเป็นแม่และลูกกันจริงๆ แบบคนทั่วๆ ไปเขาเป็นกัน เหมือนกับที่เธอเคยนึกฝันเอาไว้เลยล่ะ และมันก็เป็นครั้งแรกและก็ครั้งเดียวที่เธอได้สัมผัสความรู้สึกแบบนั้น
“เพ้อเจ้อ”
เสียงหนาเอ่ยดังมาแต่ไกลๆ พร้อมกับร่างหนาที่ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางความมืดของสวนในตอนนี้
“คุณ”
หญิงสาวหันหน้าหันหลังอย่างหวาดระแวงไปตามเสียงที่ได้ยิน พอเห็นแต่ไกลๆ ว่าเป็นเสียงของใครเท่านั้นแหละ
สมองของเธอก็สั่งให้สองเท้ารีบวิ่งหนีไปให้ไกลในทันที โดยที่ลืมคิดไปเลยว่าขาของตัวเองยังมีความเจ็บอยู่มาก ยังวิ่งไม่สะดวกเลยด้วยซ้ำไป
ขอแค่ไปให้พ้นจากตรงนี้ ไปให้พ้นจากคนใจร้ายอย่างเขา จะไปตายตรงไหนเธอก็ยอม เธอคิดแค่นั้นจริงๆ
“พี่เลนินกับพี่เออร์วานเป็นลูกน้องคนสนิทของคุณจะให้มาเป็นพี่เลี้ยงเด็กคงไม่เหมาะ หนูหาพี่เลี้ยงเองจะดีกว่า อีกอย่างหนูก็เรียนจบก็คอยดูแลลูกด้วยตัวเองได้อย่างเต็มที่ได้แล้วคุณจะได้กลับไปทำงานอย่างเต็มตัว”“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจหนู เดี๋ยวฉันจะช่วยหาอีกแรงก็แล้วกัน ว่าแต่ชุดว่ายน้ำนั้นทิ้งไปหรือยัง”เรื่องลูกคุยกันจบไปแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความหวงเกี่ยวกับชุดว่ายน้ำที่เธอพูดถึงเอาไว้ตั้งแต่เดินทางมาถึงใหม่ๆ“ใครๆเขามาเที่ยวทะเลก็ต้องใส่ชุดว่ายน้ำกันทั้งนั้นไม่เห็นจะแปลกอะไรเลย แต่ทำไมคุณให้หนูเอาชุดไปทิ้งล่ะคะ”ร่างเล็กเอนตัวเข้าไปซบต้นแขนหนาของผู้เป็นสามีอย่างออดอ้อน เอ่ยเสียงเบาๆตอบเขาอย่างน่ารัก“ใครๆที่ไหนก็ช่างหัวมันสิ มันจะใส่อะไรหรือจะแก้ผ้าเดินก็เรื่องของพวกมัน แต่สำหรับเมียฉันแล้วห้ามใส่อะไรพวกนั้น ความสวยงาม เรือนร่าง ร่างกายนุ่มนิ่มนี้ ฟีนิกส์มีสิทธิ์ได้เห็นคนเดียวเท่านั้น”สองมือหนาช่วยกันรวบร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆขึ้นมานั่งบนตักแกร่งของเขาได้อย่างง่ายดาย เมื่อมีโอกาสได้ใช้เวลากันตามลำพัง เขาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปง่าย ต้องได้ใกล้ชิดกับเธอจนรู้สึกชุ
“ทาเล๊”เสียงของเด็กชายวัยสองขวบเอ่ยขึ้นเมื่อสายตานั้นมองเห็นผืนน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า พร้อมกับท่าทางตื่นตาตื่นใจนี่อาจไม่ใช่การเห็นทะเลเป็นครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้สำหรับเด็กตัวน้อยๆคนนี้ด้วยพ่อของเขานั้นเป็นมาเฟียมีท่าเรือส่วนตัวเอาไว้ขนของติดกับทะเล ทำให้เขานั้นเดินทางไปทำงานกับพ่อและก็เห็นทะเลนับครั้งไม่ถ้วนแล้วตั้งแต่ลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่เดือนแต่ทุกครั้งที่เด็กชายเห็นทะเลก็จะมีอาการตื่นเต้นแบบนี้ทุกครั้งไป ดูจะเป็นเด็กที่รักธรรมชาติไม่น้อยเลยในสายตาของคนเป็นพ่อกับแม่“ว้าว ทะเล”ส่วนคนเป็นแม่เองก็เก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่ไม่ต่างจากลูกชายตัวน้อยเลยสักนิด เธอนั้นตื่นตาตื่นใจกับผืนน้ำสีฟ้าสดใสและหายทรายสีขาวที่อยู่ตรงหน้าเป็นที่สุดเธอก็เหมือนกับลูกชายนั่นแหละ ได้เห็นทะเลอยู่บ่อยๆเพราะตามผู้เป็นสามีไปทำงานอยู่เป็นประจำแต่ทว่าไม่เคยเห็นทะเลที่เป็นหาดทรายสีขาวสวยแบบนี้มาก่อน ด้วยที่ท่าเรือนั้นมันมีมีหาดทรายมีแต่ผืนน้ำและก็เรือขนส่งเท่านั้น“หวังว่าหนูคงไม่เอาชุดว่ายน้ำแบบนั้นมาใส่นะ”พอเห็นลูกกับเมียดูจะมีความสุขคนเป็นหัวหน้าครอบครัวก็อดไม่ได้ที่จะ
“ทำรายงานอยู่เหรอ”นอกจากวันนี้เมียตัวน้อยจะเลิกเรียนเย็นกว่าทุกวันแล้วพอกลับมาถึงบ้านก็ยังมีรายงานต้องให้ทำต่ออีกนิดหน่อย สามีอย่างเขาก็เลยรับหน้าที่เลี้ยงลูกเป็นหลักสลับกับทำงานไปด้วยพอพาลูกเข้านอนแล้วก็ให้กล้องช่วยเลี้ยงลูกต่อ ไม่ให้ลูกคลาดสายตาแม้แต่นิดแม้จะมีลูกน้องคอยนอนเฝ้าอยู่ใกล้ๆก็ตามส่วนคนเป็นพ่อนั้นก็ได้โอกาสมาดูแลเมียต่อจากลูกบ้าง หลังจากต้องแยกกันทำหน้าที่แทบไม่ได้เจอหน้ากันแบบนานๆเลย“ค่ะ อีกนิดก็ใกล้จะเสร็จแล้ว คุณฟีนิกส์อาบน้ำนอนก่อนได้เลยค่ะ”เข็มขาวกำลังก้มหน้าก้มตาทำรายงานอย่างขะมักเขม้นในช่วงที่สมองกำลังแล่นได้ที่ ไม่ได้เงยหน้ามองคนที่เดินเข้ามาภายในห้องนอนแม้แต่นิด แต่ก็รู้ดีว่าเป็นเขาเพราะกลิ่นกายเขามันหอมฟุ้งมาก่อนตัวเสียอีก เธอจำได้ดี“ฉันอาบน้ำแล้ว เหลือแต่ว่าเมื่อไหร่เมียจะไปกล่อมนอนแค่นั้นเอง”เขาทำทุกอย่างพร้อมเข้านอนมาตั้งแต่อยู่ในห้องนอนที่ชั้นล่างที่เปิดขึ้นมาใหม่ตั้งแต่มีลูกนั้นแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลาเมื่อเจอหน้ากับเมียเพราะลูกยังเล็กมากๆทิ้งไว้คนเดียวนานก็ไม่ดี มีเวลาแค่รอบกินนมสองถึงสามชั่วโมงเท่านั้นพ่อมือโปรอย่างเขาที่เลี้ยงลูกเป็นห
“ให้ฉันช่วยแต่งตัวไหม”เสียงหนาเอ่ยขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวขึ้นอย่างช้าๆทางด้านหลังของเมียตัวน้อยที่กำลังยืนเช็ดตัวให้แห้งอยู่หน้ากระจกภายในห้องแต่งตัวสายตาคมพิศมองเมียจากทางด้านหลังไม่ห่างเลย แม้เธอจะเพิ่งคลอดลูกได้เพียงสามเดือนเท่านั้น แต่ทว่าทรวงทรงองค์เอวยังคงน่าเอาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยยกเว้นอวบขึ้นมานิดหน่อย และนั้นทำให้เหมือนว่าจะจับได้ถนัดมือมากขึ้นไปอีก“ว้าย”คนตัวเล็กที่เอาแต่รีบเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้แห้งถึงกับสะดุ้งโหย่งด้วยความตกใจเมื่อถูกทักทายโดยผู้เป็นสามีไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาภายในนี้ตอนที่เธอกำลังโป้อยู่ เพราะก่อนหน้านี้เขายังนอนหลับอยู่กับลูกน้อยวัยสามเดือนของเธออยู่เลยหรือว่าเขาจะแกล้งหลับกันแน่ก็ไม่รู้ พ่อมาเฟียคนนี้ยิ่งร้ายๆอยู่จนเมียอย่างเธอตามไม่เคยทันเลย“ลูกยังหลับอยู่ ฉันก็ยังพอจะว่างช่วยหนูแต่งตัวได้นะ”มือหนาหยิบเอาชุดชั้นในของเมียขึ้นมาถือเอาไว้แน่น หมายมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นคนใส่ให้เมีย เพื่อการันรีว่าเขาไม่ใช่แค่จะถนัดเพียงถอดออกเท่านั้นแต่เมื่อเป็นพ่อคนแล้วแต่งตัวให้ลูกน้องมานับครั้งไม่ถ้วนได้แล้ว เขาก็แต่งตัวให้เมียได้ด้วยเช่นก
“นี่เป็นแหวนที่ฉันตั้งใจเลือกมาเองกับมือและก็สลักชื่อฉันเอาไว้อย่างชัดเจน แหวนวงนี้มันเป็นของหนูแต่เพียงผู้เดียวนะ เหมือนที่ตัวฉันและก็หัวใจของฉันเป็นของหนูแต่เพียงผู้เดียวนั่นแหละ”รับแหวนนั้นมาจากมือลูกน้องแล้วแกะออกมาจากกล่อง มองแหวนที่ตั้งใจสั่งทำมาด้วยตัวเองอีกรอบด้วยความรักที่มีให้กับเธอแต่เพียงผู้เดียวจับมือเล็กๆของเธอข้างซ้ายขึ้นมาแล้วสวมแหวนวงนั้นให้กับนิ้วนางของเธออย่างบรรจงและเบามือที่สุดนี่แหละพิธีแต่งงานของเขาที่เขาตั้งใจจัดขึ้นมาเพื่อประกาศความรักของเขาและก็เธอ และเขาก็มั่นใจว่ามันจะส่งผ่านไปถึงเจ้าตัวน้อยที่อายุได้สามเดือนแล้วในท้องแม่นั้นด้วย“ขอบคุณนะคะ”เอ่ยขอบคุณเขาออกมาจากหัวใจและรอยยิ้มที่มีความสุข คราวนี้เธอไม่ได้ไหว้เขาอีกแล้วแต่ทว่ากลับก้มลงไปหอมแก้มเขาทั้งสองข้างแทน“แต่ว่าหนูไม่มีอะไรจะให้คุณเลย”ถ้าพูดถึงการแลกแหวนแทนใจในวันแต่งงานแบบที่เขาทำกับเธอ เธอก็ไม่มีแหวนแลกกลับไป เพราะไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อนหน้านี้เลย“ไม่เป็นไร ฉันไม่ต้องการอะไรจากหนูทั้งนั้น แค่ฉันเป็นสุดที่รักของหนูก็เพียงพอแล้ว”เขาไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอทั้งนั้น เพราะเธอคือหัวใจของเขา เขาไม
“มีที่สำคัญที่เราจะไปต้องกันคืนนี้ และก็เรื่องสำคัญที่เราจะต้องทำด้วยกัน”พอเมียตั้งท้องได้สามเดือนเข้าระยะที่ปลอดภัยดีแล้ว ฟีนิกส์ก็หาเรื่องพาเธอออกไปจากบ้านในทันที นอกเหนือจากที่ให้เธอไปเรียนที่มหาลัยทุกวันโดยเขานั้นทำตัวมีความลับ ไม่ปริปากบอกสถานที่ที่จะพาไปและก็ทำตัวแกมบังคับเธอด้วยหลังจากที่ไม่ได้ทำตัวแบบนี้กับเธอมานานมากแล้ว“อะไรเหรอคะ คุณเปิดตัวโกดังแห่งใหม่อีกเหรอคะ”เข็มขาวที่เพิ่งจะกินมื้อเย็นเสร็จกำลังช่วยแม่บ้านเก็บจานอาหารอยู่หันไปถามเขาด้วยความสงสัยว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหนกันในเวลาเริ่มมืดค่ำแบบนี้“หนูปิดตาเอาไว้ก่อน ถึงที่หมายแล้วค่อยเปิดออก”ไม่ตอบคำถามอะไรเมีย แต่กลับเอาผ้ามาปิดตาเธอแทน แล้วพาเธอไปขึ้นรถwx“ให้หนูเห็นทางไม่ได้เหรอคะ”“ไม่ได้”แล้วเขาก็รีบสั่งให้ลูกน้องเคลื่อนขบวนรถโดยเร็วที่สุด เพื่อไปให้ถึงยังโรงแรมแห่งใหม่ที่เขาเพิ่งจะซื้อมาเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง โดยที่การซื้อโรงแรมครั้งนี้เมียของเขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำเพราะเขาตั้งใจปิดเอาไว้เป็นความลับ“ใกล้ถึงหรือยังคะ”ระหว่างทางเข็มขาวพยายามถามเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น หวังว่าเขาจะบอกอะไรกับเธอบ้างเพื่อลดความตื่น