แกร็ก!
เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกก่อนเรือนร่างสมบูรณ์แบบสมชายชาตรีของรพีพัฒน์จะก้าวเท้าออกมา พริมาไล่สายตาตั้งแต่ปลายเท้าค่อย ๆ เลื่อนไปข้างบน
เอวสอบถูกพันไว้ด้วยผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่ ซิกแพ็คเป็นลูก ๆ แผงอกแน่นปึก ลำแขนเป็นมัด ๆ มีหยดน้ำเกาะพราวตามร่างกาย ยิ่งรพีพัฒน์สะบัดศีรษะไปมาไล่หยดน้ำพร้อมทั้งใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมที่เปียกชื้นไปด้วยก็ยิ่งเซ็กซี่!
So Hot!
อึก! พริมากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คิดถึงบทรักที่ชายหนุ่มมอบให้ยามทั้งสองใช้เวลาร่วมกันก็ยิ่งร้อนผ่าวไปทั้งร่าง
จะวูบ!
ความรู้สึกร้อนรุ่ม วูบวาบ ปฏิกิริยาแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นของร่างกาย ไม่ต้องให้ใครบอกก็รู้ด้วยตัวเอง ว่าเธอ...
กำลังมีอารมณ์!
“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอคะ” นานนับนาทีกว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ
“อืม” ชายหนุ่มรับคำในลำคอมองหญิงสาวด้วยสายตารู้ทัน ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อยแล้วกระชากยิ้มมุมปาก
อ่านกินเขาอยู่แน่ ๆ...
พริมาเดินเข้าไปใกล้พร้อมแย่งผ้าขนหนูผืนเล็กมาถือไว้ จับจูงมือชายหนุ่มไปนั่งบนเตียง แล้วจัดการเช็ดกลุ่มผมดกด่ำให้เขาด้วยตัวเอง พร้อมทั้งนวดขมับไปด้วยในตัว เพื่อให้ชายหนุ่มได้ผ่อนคลายบ้าง
มือเล็กค่อย ๆ เลื่อนจากขมับมาที่ต้นคอหนา ทิ้งผ้าขนหนูผืนเล็กไปอย่างไม่ไยดี หญิงสาวกดย้ำ ๆ อย่างมีจังหวะ ผ่อนหนักผ่อนเบาอย่างรู้งาน ยิ่งเห็นอาการเคลิบเคลิ้มของคนร่างใหญ่ก็ยิ่งพอใจ
“พี่พีนอนคว่ำหน้าลงไปสิคะ เดี๋ยวพริมนวดให้”
“ไม่เป็นไรครับ พี่กลัวพริมจะเมื่อย” รพีพัฒน์บอกอย่างเป็นห่วงแต่เมื่อหันมาเห็นพริมาย่นคิ้วก็ล้มตัวลงนอนทันที
รักชีวิตอย่าคิดสู้เมีย!
พริมาฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างผู้ชนะ สายตาวับวาวจับจ้องยังแผ่นหลังกว้างพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก
“อืม” ชายหนุ่มครางรับในลำคออย่างพอใจเมื่อมือเล็กไล่บีบนวดไปตามแผ่นหลัง เขาหลับตาผ่อนคลายไปตามสัมผัสของหญิงสาว ก่อนจะตัวแข็งทื่อเมื่อหมอนวดจำเป็นขึ้นมานั่งคร่อมบนสะโพกของตน
“อย่าเกร็งสิคะ ปล่อยตัวตามสบาย พริมจะบริการพี่พีเอง” พริมาพูดติดตลก ตอนแรกรพีพัฒน์ก็เกร็งอยู่บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปแฟนสาวไม่ได้มีท่าทีผิดแปลก เขาจึงวางใจค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
สัมผัสนุ่มที่แผ่นหลังกว้างทำให้รพีพัฒน์รู้สึกดีอย่างถึงที่สุด นึกแปลกใจที่วันนี้ฝีมือการนวดของพริมาดีกว่าทุกที คล้ายกับว่ามันทำให้เขาสบายขึ้นอย่างมาก ความเมื่อยล้าที่เกิดจากการทำงานหนักค่อย ๆ เลือนหาย
บรรยากาศในห้องนอนเงียบสงบ พริมามองรพีพัฒน์จากด้านหลังด้วยสายตาวับวาว เธอกดยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนค่อย ๆ ปลดชุดของตัวเองออก
วันนี้ชุดนอนที่รพีพัฒน์เตรียมให้เป็นสายเดี่ยวกระโปรงยาว เธอจึงถอดมันออกอย่างง่ายดาย จนเหลือเพียงชั้นในตัวจิ๋วที่ปกปิดของสงวนไว้เท่านั้น ส่วนด้านบน... เจ้าตัวไม่ใส่บรานอนเป็นปกติอยู่แล้ว ตอนนี้จึงอล่างฉ่างเผยก้อนกลมกลึงขยับขึ้นลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกเวลาเธอหายใจ
พริมาถดกายลงต่ำเล็กน้อยแล้วนอนทาบทับไปบนเเผ่นหลังของรพีพัฒน์อย่างแผ่วเบา ปล่อยให้ทรวงอกนุ่มหยุ่นสัมผัสกับแผ่นหลังแข็งแกร่งโดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น เท่านั้นยังไม่พอ หญิงสาวใช้มือของตนลูบไล้กายแกร่งเบื้องล่างไปมาอย่างถือสิทธิ์
“พริมกำลังจะทำอะไรครับ” รพีพัฒน์ถามเสียงสั่น แม้จะพอรู้แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะตลอดเวลาที่คบกัน เขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อนทุกครั้ง ตอนนี้มาถูกคนรักจู่โจมแบบนี้บอกตรง ๆ ว่าเขาตั้งรับไม่ทัน ความรู้สึกที่ถูกสะกดกั้นเริ่มแผลงฤทธิ์ หลักฐานก็ความแข็งขืนที่พยายามดุนดันอยู่เบื้องล่าง และเสียงหายใจหนัก ๆ ของเขานี่อย่างไรเล่า
พริมามองปฏิกิริยาของชายหนุ่มด้วยความพอใจ ก่อนตอบไปอย่างนึกสนุกว่า “นวดแล้วก็ต้องนาบสิคะ ไม่งั้นจะครบสูตรได้ยังไง” พูดเสร็จก็เป่าลมหายใจร้อน ๆ รดต้นคอของชายหนุ่มพร้อมเลื่อนหน้าไปงับติ่งหูของเขาเล่นเบา ๆ
ความรู้สึกของรพีพัฒน์เดือดพล่านร้อนรุ่มอยากปลดปล่อย แต่ก็ต้องพยายามห้ามตัวเอง เพราะอยากรู้ว่าคนขี้เล่นจะทำอะไรกับตนบ้าง
ขณะเดียวกันพริมาก็เริ่มขยับเคลื่อนตัวเสียดสีขึ้นลงบนแผ่นหลัง ใช้สองเต้ากลมกลึงนวดเฟ้น ปล่อยสัมผัสซ่านสยิวเล่นงานเสือตัวร้ายที่กำลังตื่นให้เพริดไปกับการกระทำของเธอ
“ชอบไหมคะ” ถามพร้อมคลอเคลียหลังต้นคอ
“ชอบครับ แต่พี่ทนไม่ไหวแล้ว!” รพีพัฒน์กดเสียงต่ำตอบพร้อมสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วพลิกร่างตนเองให้นอนหงายทันที มือหนากระชากผ้าขนหนูผืนเดียวที่ปิดบังความเป็นชายออก
พริมาก็ไม่รอช้าถอดซับในตัวจิ๋วทิ้งลงข้างเตียงไปเช่นกัน ก่อนจะเข้ามานั่งคร่อมชายหนุ่มตามเดิม ให้ลูกสาวลูกชายทั้งสองสัมผัสกันและกันสายตาเร่าร้อนสบประสานบ่งบอกความต้องการเต็มที่
รพีพัฒน์ดึงพริมาให้โน้มตัวลงมาใกล้แล้วตะโบมจูบปากบางเรียกร้องรุนแรง มือหนาปัดป่ายสะเปะสะปะไปทั่วร่างเปลือยเปล่า บีบขยำตามแรงอารมณ์ ก่อนเคลื่อนเข้ากอบกุมอกนุ่มเด้งทั้งสองข้างอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
พริมาแอ่นอกอำนวยความสะดวกให้ชายหนุ่มสัมผัสร่างกายตามความต้องการอย่างยินยอมพร้อมใจ เรียวแขนขาวเกาะเกี่ยวต้นคอหนาของชายหนุ่มไว้ แหงนเงยใบหน้ารับสัมผัสซ่านสยิวที่รพีพัฒน์ตั้งใจมอบให้ ซึ่งตอนนี้กำลังปรนเปรอเธอทั้งมือทั้งปาก
รพีพัฒน์ลูบไล้โลมเลียดูดดึงความขาวเนียนอย่างเต็มรัก มือขวาเลื่อนลงบีบเคล้นสะโพกงามงอนจนเกิดรอยแดง เมื่ออารมณ์หวามถูกจุดถึงขีดสุด สองร่างก็ร่วมสอดประสานรวมเป็นหนึ่ง บรรเลงบทเพลงรักอยู่ครึ่งค่อนคืน ปลดปล่อยความปรารถนาจนสุขสมอารมณ์หมาย แล้วถึงผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน
20:00 น. รพีพัฒน์กลับจากทำงานก็เข้ามาเห็นภรรยาสาวนั่งหน้าบูดอยู่ในห้องนอนเด็ก ซึ่งเป็นห้องว่างข้าง ๆ ห้องนอนพวกเขา ที่เอามารีโนเวทให้เป็นห้องนอนของลูก“เป็นอะไรครับ ทำไมนั่งหน้าบูดแบบนี้” ชายหนุ่มถามคนนั่งหน้าบึ้งอย่างสงสัยไม่รู้มีใครทำอะไรให้เธอไม่สบายใจหรือไม่พอใจ วันนี้คนสวยของเขาถึงได้อารมณ์ไม่ดีแบบนี้“ก็คุณพ่อคุณแม่สิคะ ซื้อของเล่นกับชุดเด็กมาอีกแล้ว พริมบอกว่าให้พอก่อน ๆ ดูสิคะเนี่ย เต็มห้องไปหมด ไม่รู้จะจัดการยังไงแล้ว” เจ้าตัวชี้ไปยังกองของเล่นที่เพิ่งมาใหม่สด ๆ ร้อน ๆ ที่วางอยู่มุมหนึ่งของห้อง รพีพัฒน์เลิกคิ้วแล้วมองตามมือขาวผ่องที่ตอนนี้เริ่มมีน้ำมีนวลมากกว่าแต่ก่อนก็เห็นจริงดังว่า เขาพรูลมหายใจออกจากปาก ห้ามพ่อแม่เขา? คงยาก! ยิ่งหลานคนแรกด้วยแล้ว หึหึ“ไม่ต้องมายิ้มเลยนะคะพี่พี พริมเครียดจะตายอยู่แล้วเนี่ย! ฮึก”เขาว่าอารมณ์คนท้องมักแปรปรวน รพีพัฒน์แจ่มแจ้งแก่ใจแล้ว ภายในหนึ่งวันเขาต้องปรับตัวรับกับอารมณ์แม่ของลูกอยู่ตลอด เดี๋ยวเศร้า เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวหัวเราะ ผสมปนเปกันไปหมด เช่นเดียวกับตอนนี้ “โอ๋ อย่าร้องสิครับ ไหนเครียดอะไร ไม่เห็นมีอะไรให้น่าเครียดเลย
“มีความสุขไหมคะ” พริมาเอ่ยถามคนที่ตระกองกอดเธออยู่ข้างหลัง มือบางกอบกุมมือใหญ่ที่โอบกอดเธอไว้ ขณะที่สายตาทอดมองไปยังทิวทัศน์เบื้องหน้า ชมความงามของธรรมชาติที่รังสรรค์ขึ้น ประเทศที่มีสีเขียวที่เธอชื่นชอบ ประเทศที่มีเทือกเขาเยอะที่สุดในโลก มองไปทางไหนก็งดงาม ประเทศสวิตเซอร์แลนด์“มีความสุขครับ” เสียงทุ้มตอบกลับก่อนกระชับกอดให้แน่นขึ้น พร้อมทั้งโน้มใบหน้าหอมแก้มนุ่มเข้าปอดฟอดใหญ่“ชอบไหมครับ ได้มาฮันนีมูนและพักผ่อนยังประเทศที่พริมชอบ”“ชอบสิคะ ชอบที่สุดเลย ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวกล่าวตอบเสียงใสพาใจคนฟังชุ่มชื้น“หนึ่งปีที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นมากมายเหมือนกันนะครับ”“ใช่ค่ะ ทั้งงานทั้งคนวุ่นไปหมดเลย”“นั่นสิครับ ดีจังที่เราได้มาฮันนีมูนและพักผ่อนกันแบบนี้”“ใช่ค่ะดีมากเลย ที่นี่สงบมากเลยค่ะ วิวก็สวย พริมอยากอยู่ไปนาน ๆ เลย”“ได้เลยครับ หยุดตามวันที่เราแพลนไว้เลยเนอะ ความจริงเราควรมาฮันนีมูนกันตั้งนานแล้ว นี่อะไร แต่งงานกันมาสามเดือนแล้วเพิ่งจะได้มาฮันนีมูน”“อย่าบ่นสิคะ ช่วงนั้นเราสองคนงานยุ่งนี่นา คุณพ่อเพิ่งวางมือให้พี่อิงรับตำแหน่งประธานบริษัทแบบเต็มตัว แม้พริมจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับตำแหน่งบริ
หนึ่งปีผ่านไป... “ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”“เรียบร้อยดีครับ”“ดี อย่าให้มีอะไรผิดพลาดละ”“ครับ”เสียงพูดคุยระหว่างออแกไนซ์และทีมงานดังขึ้นเป็นระยะให้ได้ยินอยู่เรื่อย ๆ เรียกได้ว่าแทบทุก 3 นาที 5 นาที ที่เป็นเเบบนี้เพราะว่างานนี้เป็นงานใหญ่ จึงไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด ทุกอย่างต้องออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดซุ้มประตูดอกไม้ขนาดใหญ่สีขาวแซมสีชมพูที่อยู่หน้าประตู ถูกเซตเข้ากันอย่างลงตัว ตั้งแต่ทางเดินเข้าไปจนถึงเวทีปูด้วยพรมสีแดง ภายในห้องบอลรูมสุดหรูถูกตกแต่งไปด้วยไม้ดอกหลากสีนานาพรรณ โต๊ะแชมเปญทาวเวอร์จัดเรียงแก้วลดหลั่นกันมาดูงดงามหรูหราเข้ากับบรรยากาศของงานอย่างมาก โต๊ะเก้าอี้ต่างถูกจัดเรียงไว้อย่างลงตัว ข้างเวทีมีเครื่องดนตรีถูกติดตั้งไว้อย่างเพียบพร้อม และหากทอดสายตามองขึ้นไปบนเวทีจะเห็นชื่อของคนสองคนประดับไว้โดยมีรูปหัวใจอยู่ตรงกลาง‘รพีพัฒน์ พริมา’ ใช่แล้ว!วันนี้คือวันแต่งงานของรพีพัฒน์และพริมา วันคืนที่ชายหนุ่มเฝ้ารอมาเนิ่นนาน ในที่สุดก็มาถึงสักที! “โอ๊ย ๆ หุบยิ้มหน่อยเถอะพ่อคุณ ยิ้มจนปากจะฉีกแล้วนั่น” ภายในห้องวีไอพีของโรงแรมห้องหนึ่ง เสียงเย้าแหย่เอ่ยแซวของเพื่อนชายดังขึ้นหลายค
หนึ่งเดือนต่อมาจากคำขอร้องกึ่งบังคับของคนในครอบครัว ทำให้คุณเดชาใช้ชีวิตไม่ต่างไปจากคนปลดเกษียณ เขาหยุดงานเพื่อพักฟื้นร่างกายอยู่ที่บ้านนับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล เวลาว่างส่วนใหญ่ถ้าไม่ปลูกผักทำสวนก็จะทำกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยให้จิตใจผ่อนคลายปลอดโปร่ง เพราะได้กำลังใจดี กำลังกายจึงดีตามไปด้วย สุขภาพของเขาจึงกลับมาแข็งแรงอย่างรวดเร็วกระนั้นคุณเดชาก็ยังไม่กลับไปทำงานที่บริษัทแต่อย่างใด เพราะหลังจากได้หยุดยาว มีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น จึงคิดอะไรได้หลายอย่าง เริ่มคิดถึงบั้นปลายชีวิตที่เรียบง่ายแต่มีความสุข ชายวัยกลางคนจึงคิดอยากวางมือจากบริษัท แล้วหันมาใช้ชีวิตเรียบง่ายปลูกผักทำสวนอยู่ที่บ้านมากกว่างานบริษัทตอนนี้เขาจึงมอบหมายให้ลูก ๆ และผู้บริหารคนอื่น ๆ ดูแลรับผิดชอบ เพื่อว่าหากเขาวางมือจริง ๆ ขึ้นมาจะได้ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องงานที่สำคัญจริง ๆ คุณเดชาจะประชุมอยู่บ้าน เอกสารสำคัญตัวไหนที่เขาต้องเซ็น เลขาส่วนตัวก็จะนำมามอบให้ที่บ้านเช่นกัน กล่าวถึงเรื่องความสัมพันธ์ครอบครัว ระหว่างคุณเดชาและบุตรสาวทั้งสองนับว่าดีขึ้นเรื่อย ๆ ต่างฝ่ายต่างปรับตัวเขาหากัน แม้แรก ๆ พริมาจะมีอาการเกร็งและฝื
“พริม พ่อรู้ว่าความสัมพันธ์ของเราไม่ค่อยดี และพ่อก็ได้ทำร้ายจิตใจลูกมามาก แต่พ่อก็อยากบอกให้ลูกรู้ว่า พ่อรักลูกนะ รักไม่น้อยไปกว่าพี่สาวของลูกเลย แล้วพ่อก็อยากขอโทษ ขอโทษที่เข้มงวดกับลูกเกินไป ขอโทษที่ทำหน้าที่พ่อได้ไม่ดีพอ ขอโทษที่ให้ครอบครัวที่สมบูรณ์กับลูกไม่ได้ ขอโทษนะลูก พ่อขอโทษ” คุณเดชามองแผ่นหลังของบุตรสาวด้วยแววตาวูบไหว หน้าอกรู้สึกปวดแปลบเพราะหัวใจบีบรัดจนต้องยกมือขึ้นมากุมไว้ แต่ก็ยังฝืนพูดต่อว่า“มันอาจฟังดูเห็นแก่ตัว แต่พ่อขอโอกาสอีกสักครั้งได้ไหม ขอให้พ่อได้ทำหน้าที่พ่อที่ดี เป็นที่พึ่งพาแก่ลูกบ้าง สักครั้งก่อนตายก็ยังดี ลูกจะให้โอกาสพ่อได้ไหมพริมา” ไหล่บางสั่นน้อย ๆ ก่อนที่หยดน้ำตาจะกลิ้งหล่นลงบนใบหน้างาม ใจดวงน้อยสั่นระรัว เมื่อได้ยินคำว่ารักและคำขอโทษ ที่เธอเฝ้ารอออกจากปากเขา หญิงสาวรู้สึกดีกับสิ่งที่ได้ยิน แต่มันยังไม่พอจะปลดล็อกความรู็สึกทั้งหมดได้ กำแพงที่เธอมีต่อเขามันสูงเกินไป หากอิงอรมีปมเรื่องการถูกละเลยความรู็สึก เธอก็มีปมที่คิดว่าตัวเองและแม่ไม่สำคัญสำหรับเขาเช่นกันร่างบางสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ก่อนหันกลับมาเผชิญหน้ากับคนเป็
08:30 น. เช้าวันที่แปดคุณเดชาตื่นขึ้นมาในห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาลด้วยใบหน้าผ่องใสเบิกบานกว่าเดิม มองขวดน้ำเกลือที่พยาบาลเพิ่งเปลี่ยนให้ใหม่ด้วยแววตาเบื่อหน่ายเขาแข็งแรงดีแล้วคุณหมอก็ยังไม่ยอมให้กลับบ้านเสียที เฮ้อ!ดวงตาคมดุกวาดมองไปรอบตัวพลันรู้สึกว่าห้องพักผู้ป่วยดูคับแคบขึ้นทันตาเพราะทุกคนอยู่ที่นี่กันหมด ไม่ว่าจะเป็นอรวรรณ อิงอร พริมา รพีพัฒน์ ฉัตร“ทนหน่อยนะคะคุณ หายดีกว่านี้เดี๋ยวหมอก็อนุญาตให้กลับเองแหละค่ะ” คุณอรวรรณรีบพูดเมื่อเห็นสายตาเบื่อหน่ายของสามีคุณเดชาไม่ตอบ สายตาของเขาจ้องเขม็งไปยังบุตรสาวทั้งสอง ที่คนหนึ่งเกิดจากหน้าที่ อีกคนเกิดจากความรัก แต่ถึงจะเกิดจากคนละแม่ เขาก็รักลูกทั้งสองคนมากอยู่ดี ไม่เคยรักใครน้อยกว่าใครเลย แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ พี่น้องไม่รักกันก็ว่าแย่แล้ว คิดร้ายต่อกันไม่พอ ถึงขนาดไล่ให้อีกคนไปตาย คนเป็นพ่ออย่างเขาจะรับได้หรือ? ลูกสองคนเป็นแบบนี้แล้วเขาจะมีความสุขได้อย่างไร?คุณเดชาหลับตากล้ำกลืนความขมขื่นเอาไว้ให้ลึกที่สุด ภายในห้องพักผู้ป่วยเกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ คิดว่าหากมีใครสักคนทำเข็มตกต้องได้ยินชัดเจนแน่ สถานการณ์ดูเหมือนจะน่า