2 ลอง
“สนุกไหมคะงานปัจฉิมนิเทศ” ป้าเฟื่องในวัยหกสิบเอ็ดปีโอบเอาร่างของคนที่กอดตัวเองไว้แน่นทันทีเมื่อเข้ามานั่งในรถ มาลีญาส่ายหน้ากับอกอุ่น เพราะไม่มีเพื่อน ไม่มีใครคบ เด็กสาวเลยไม่เคยรู้สึกสนุกกับกิจกรรมใดๆของโรงเรียน วันนี้เธอเรียนจบชั้นมอหกแล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องมาโรงเรียนแล้ว และก็ไม่รู้ว่านายจะให้เธอเรียนต่อที่ไหนด้วย เด็กสาวได้แต่รอให้เขาสั่งและชี้เป็นชี้ตายกับชีวิต
“ไม่สนุกเลยค่ะ เรารีบกลับบ้านกันเถอะค่ะป้าเฟื่อง วันนี้คุณกัลยาจะสอนมวยให้หนูด้วย”
กัลยาซึ่งเป็นคนดูแลและติดตามเด็กสาวมาเกือบสิบเอ็ดปียิ้มในหน้า เอี้ยวตัวกลับมามองเด็กสาวที่ยังคงซบหน้ากับอกป้าเฟื่อง แต่สายตาชำเลืองมองเธอมาด้วยแววตาเป็นประกาย
“รอให้อายุครบสิบแปดปีก่อนค่ะ”
“อีกสามวันเอง” เด็กสาวกระเง้ากระงอด
“ก็ต้องรอค่ะ” กัลยาพูดจบก็หันไปนั่งตัวตรงมองไปข้างหน้าด้วยท่าทางสงบเหมือนทุกครั้ง
“คุณกัลยาใจร้ายเนอะป้าเฟื่อง” เด็กสาวกระซิบกระซาบกับผู้สูงวัย ป้าเฟื่องหัวเราะเบาๆในลำคอไม่พูดอะไรต่อ มือเหี่ยวย่นลูบหลังเด็กสาวที่รักและเอ็นดูเหมือนลูกหลานเบาๆ อีกสามวันมาลีญาคนนี้ก็จะอายุครบสิบแปดปีแล้ว
“นายไม่อยู่บ้านหรือคะป้าเฟื่อง”
“ไม่อยู่ค่ะ วันนี้นายไปงานเลี้ยงในเมือง กลับดึกๆโน่นแหละค่ะ”
“ว้า! หนูอุตส่าห์จะเอาใบประกาศให้นายดูเสียหน่อย จะบอกนายว่าหนูเรียนจบแล้ว” เด็กสาวถอนหายใจเซ็งๆ ถึงแม้ว่าจะเกรงและกลัวนายมาก แต่เขาคือผู้มีพระคุณส่งเสียให้เธอเรียนจนจบมอหก บางทีเธออาจจะขอร้องให้เขาส่งเธอเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยด้วย
“พรุ่งนี้ค่อยบอกนายนะคะ”
“คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ” มาลีญายิ้มเศร้า แล้วเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องตัวเอง เธออยากแช่ตัวในน้ำอุ่นให้ผ่อนคลายซะหน่อย เพราะวันนี้เธอเมื่อยมาก
ร่างงามอวบอิ่มห่อตัวด้วยผ้าขนหนูสีขาวไว้อย่างหมิ่นเหม่ ก่อนก้าวออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ มาลีญานั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เด็กสาวหยิบไดร์มาเป่าผมยาวจนกระทั่งมันแห้ง ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างมากเลยทีเดียว
ดวงตาคู่งามปรายตามองนาฬิกาที่ผนังห้อง มันบอกเวลาสี่ทุ่มกับอีกสิบนาที เด็กสาวลุกขึ้นยืนบิดตัวด้วยความเมื่อยขบจากการนั่งเป่าผมนานๆ ปกติแล้วเธอจะวานป้าเฟื่องให้ทำให้ แต่วันนี้เธอแช่ตัวในอ่างอาบน้ำค่อนข้างนาน และเป็นเวลาดึกมากแล้ว จึงไม่อยากรบกวนผู้สูงวัย
มาลีสวมชุดนอนกระโปรงบางเบา เด็กสาวปิดไฟทุกดวงแล้วคลานขึ้นเตียง หากแต่พอกำลังจะเอนกายลงนอนกลับได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้น เธอจึงเลิกคิ้วเรียวด้วยความสงสัยระคนแปลกใจ เด็กสาวเหลียวซ้ายขวาหาที่มาของเสียง
“ซี้ด! อ๊า! นายขา...แรงอีกค่ะ อ๊ะๆๆ โอ้ววว”
เสียงกระเส่ารัญจวนใจนั่น ทำให้มาลีญาชาวาบไปทั้งตัว เด็กสาวหันไปมองทางประตูบานใหญ่ที่ไม่เคยถูกเปิดเลยสักครั้ง แต่บัดนี้เธอเห็นแสงสว่างเล็ดลอดเข้ามาในห้องเธอผ่านรอยแง้มของประตู
“นายขา โอ้ววว กรี๊ด!!!” เสียงหวีดร้องด้วยความสุขสมของผู้หญิงที่พร่ำเรียกนายขาอยู่ทำให้มาลีญาตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง เท้าบางเดินไปหยุดอยู่ตรงประตู เด็กสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อรวบรวมกำลังใจให้มากพอที่จะมองผ่านรอยแง้มของประตู
“อ๊าย! นายขา ปราณีเตือนเถอะค่ะ เตือนเสียวจะตายอยู่แล้วนายขา อ๊ายยย...ฮือๆ กรี๊ดๆๆ”
เสียงอ้อนวอนของผู้หญิงที่อยู่ในห้องนายทำให้มาลีญาตัดสินใจแนบใบหน้าตรงรอยแง้ม ดวงตากลมโตเบิกกว้างทันทีเมื่อเห็นภาพที่อยู่บนเตียงหลังใหญ่ของนายเต็มตา
ร่างสูงใหญ่และกำยำบึกบึนของนายคร่อมอยู่บนร่างหญิงสาวคนหนึ่ง และนายกำลังโยกขย่มอยู่บนร่างอวบอิ่มเย้ายวนอย่างรุนแรง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง ผิวกายสีแทนของนายอาบด้วยเหงื่อเป็นมันวาววับ หญิงสาวผิวขาดจัดตัดกับสีผิวของนายโดยสิ้นเชิงนอนแผ่อ้าอยู่ใต้ร่างใหญ่ เธอกำลังดีดดิ้นกระเสือกกระสนหนีพร้อมทั้งกรีดร้องเสียงหลง มาลีญาเดาไม่ออกว่าเสียงที่ร้องออกมานั้น เพราะเธอเจ็บปวดหรือสุขสมกันแน่
“หุบปาก!” มาลีญาสะดุ้งโหยงเมื่อนายตวาดเสียงดังทรงอำนาจ ถึงแม้เสียงนั้นจะสั่งคนใต้ร่างของนายไม่เกี่ยวข้องกับเธอ แต่มาลีญากลับรู้สึกว่านายตวาดเธอด้วย
ผู้หญิงคนนั้นไม่อ้อนวอนอะไรนายอีกแล้ว เธอเอาแต่ร้องครวญคราง สลับกับกรีดร้องพร้อมกับเกร็งร่างแอ่นโค้งเป็นระยะ แต่นายก็ยังคงโยกขย่มอย่างรุนแรงราวกับไม่เหน็ดเหนื่อย มาลีญามองนิ่งด้วยความอยากรู้อยากเห็นในวัยสาว กระทั่งสายตาเลื่อนมาจับจ้องอยู่ตรงความยาวใหญ่สีคล้ำเข้มของนายที่เลื่อนเข้าออกในร่างกายของหญิงสาว เด็กสาวกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่ หัวใจดวงน้อยเต้นระรัว ความรู้สึกบางอย่างตีตื้นขึ้นมา มันทำให้เธอวูบวาบไปทั้งร่าง กลางกายสาวบีบรัดตอดตุบๆปวดหน่วงไปทั่วใต้ท้องน้อย เม็ดทับทิมสีหวานบนยอดทรวงหดเป็นตุ่มไตและเธอรู้สึกปวดร้าว
ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ก่อตัวขึ้นในร่างกายไม่ได้ทำให้สาวน้อยละสายตาหนีจากภาพตรงหน้า มาลีญายังคงยืนนิ่ง จ้องมองนายของเธอเสือกไสลำกายสีเข้มคล้ำเข้าออกในร่างหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ กุหลาบสาวกลางกายชุ่มฉ่ำด้วยน้ำหวานที่เอ่อซึมออกมาเพราะถูกกระตุ้นเร้าจากภาพตรงหน้า เด็กสาวบิดขาไปมาด้วยความทรมาน ความชุ่มฉ่ำเหนอะหนะทำให้เธอเม้มปากแน่น ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
ภาคภูมิจับลำเนื้อแข็งกร้าวยัดเข้าสู่โพรงสาวนุ่มแน่น เมื่อส่วนหัวแหวกกลีบสาวเข้าไปจนหมด ชายหนุ่มจึงโน้มตัวลงแนบชิด กอดรัดร่างภรรยาในท่าที่เธอนอนตะแคงงอเข่าอยู่ เขาขยับเท้ายืนมั่นคงบนพื้นเกร็งสะโพกกระทุ้งสุดแรงจนหน้าขาปะทะลอนสะโพกหนั่นแน่นดังตั้บ! ความคับแน่นที่ถูกเพิ่มแรงบีบรัดเพราะการนอนตะแคงหนีบไว้ ทำให้ชายหนุ่มเสียวจนขนหัวลุก“โอ้ววว หยกจ๋า ไปเร็วเลยนะทูนหัว พี่ไม่ไหวแล้ว”“อ๊าย! พี่ภูมิ!” บุษบันครางเสียงหลง เมื่อสามีสอดเสียบระรัว เข้าลึกสุดแรง ครูดออกสุดเสียว ร่างสาวในอ้อมกอดสั่นไหวไปตามแรงโจนจ้วงทะลวงลึกของเขา สองหนุ่มสาวครวญครางเสียงหลง ในตอนที่ต่างฝ่ายต่างพุ่งทะยานจนสุดกู่ ความเสียดเสียวทิ่มแทงจนหลุดลอยไปเยือนวิมานฉิมพลีพร้อมกัน“พี่ภูมิ!/หยกจ๋า!” หยาดน้ำคาวสวาททะลักทะลาย พุ่งฉีดเป็นสายจนเปียกเปรอะทั้งสองร่าง ความสุขสมแสนหวานห่อหุ้มสองร่างไว้แนบแน่น บุษบันเบี่ยงหน้าขึ้นมารับจูบดูดดื่มจากสามี ริมฝีปากนุ่มถูกบดจูบดูดดึงราวกับต้องการจะกลืนกินเธอไว้ทั้งตัว กระทั่งพายุแห่งความสุขสมสงบลง ภาคภูมิจึงยอมถอนจูบ ปล่อยให้ภรรยาได้หอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด โดยที่เขาเองยัง
“ตาแก่มักมาก” บุษบันทำปากขมุบขมิบว่าสามี แล้วเลื่อนสองมือลงไปปลดเข็มขัดถอดกางเกงให้สามีอย่างรู้งาน ภาคภูมิยิ้มเอ็นดูคนช่างเอาใจ บุษบันอาจมีอิดออดเขินอายบ้างบางครั้ง แต่หญิงสาวไม่เคยขัดใจเขาเลยสักครั้ง มีเมียเด็กช่างเอาใจมันชุ่มชื่นหัวใจ ร่างกายก็กระชุ่มกระชวยแบบนี้นี่เอง ถ้าจะไม่ให้เขารักไม่ให้เขาหลงเมีย แล้วจะให้เขาไปรักไปหลงใครกันเล่า“เมียพี่น่ารักที่สุด” ภาคภูมิหอมขมับสาวหนึ่งที เขาวางมือคร่อมร่างภรรยาที่นั่งเอนกายเล็กน้อย โดยเธอค้ำยันมือไว้ด้านหลังเพื่อทรงตัวรอรับแรงกระแทกจากเขาบุษบันยกเท้าขึ้นเหยียบขอบโต๊ะ หญิงสาวก้มมองความใหญ่โตของสามีแล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากด้วยท่าทางแสนเซ็กซี่“คืนนี้ค่อยกินมันนะจ๊ะทูนหัว ตอนนี้พี่ขอก่อน” บุษบันเงยหน้าขึ้นมองค้อนคนรู้ใจ เขารู้ดีเกินไปแล้ว เธอคิดถึงรสชาติของมันจริงๆแหละ รสชาติที่เขาสอนให้เธอได้ลองลิ้ม แล้วเธอก็ติดใจเสียด้วย“จะกัดให้ขาดสองท่อนเลย” บุษบันกระซิบขู่ยิ้มๆ แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง ห่อปากครางหวิวเพราะถูกสามีจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว“จะกัดจะขบพี่ก็ยอมหนูหมดแหละทูนหัว อูย...แน่นหนึบแบบนี้จะรัดพี่ให้หักค
“รักสิคะ แต่ตรงนี้ไม่ได้ค่ะ”“พี่ล็อกประตูแล้ว” ภาคภูมิเงยหน้าขึ้นบอกเบาๆด้วยเสียงกระเส่าสั่นพร่า“อื๊อ! พี่ภูมิอย่าดื้อสิคะ” แรงอันน้อยนิดของเธอหรือจะฉุดรั้งมือซุกซนของสามีได้ บุษบันสะดุ้งเฮือกเมื่อกลีบกุหลาบสาวถูกปลายนิ้วสอดแซะเข้าไปบดบี้ปุ่มเนื้อนุ่ม“พะ...พี่ภูมิ อืม...” ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ บุษบันทุบบ่าสามีอย่างอ่อนใจ“หยกจ๋า พี่ขอกินนะ นะๆ” คนถูกทุบอ้อนเสียงหวาน บุษบันสบสายตาเว้าวอนของสามี หญิงสาวระบายลมหายใจเบาบาง ก่อนจะยอมพยักหน้าน้อยๆ ภาคภูมิยิ้มกว้างอย่างน่าหยิก เขารีบตลบชายกระโปรงของภรรยาขึ้น ดันต้นขาสองข้างให้แยกกว้างแล้วยกขึ้นไปวางพาดบนพนักเท้าแขนของเก้าอี้ บุษบันขยับสะโพกเปิดอ้าให้เขาอย่างรู้ใจมือของภาคภูมิสั่นน้อยๆตอนแหวกเป้ากางเกงในลายลูกไม้สีดำไปไว้ด้านข้างกลีบสาวอวบอูม ความฉ่ำวาวและสีสดของเนินนางทำให้ภาคภูมิตาพร่าน้ำลายสอ จะกี่ครั้งที่ได้เชยชม ชายหนุ่มก็รู้สึกตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจทุกครั้ง“พี่ภูมิเร็วๆสิ” เมื่อสามีเอาแต่จ้องอย่างกับมองภาพสามมิติเพื่อจะค้นหาความจริงว่ามันคือภาพอะไร บุษบันผู้รอคอยจึงเร่งเร้าเสียงดุ“เด
“หยกรักพี่ภูมิค่ะ” ภาคภูมิยิ้มละมุน เขาก้มลงมอบจูบแสนหวานนุ่มนวลให้แก่เธอ จูบของเขาถ่ายทอดคำรัก ส่งผ่านทุกความรู้สึกที่เต็มตื้นและเอ่อท่วมท้นในหัวใจมอบให้แก่เธอ ความรักที่รอคอยจนแน่ใจและชัดเจนขึ้นทุกวัน ทำให้เขาตัดสินใจผูกมัดเธอไว้ โดยไม่รอเวลาที่เหมาะสม ก็ช่างปะไร...ใครจะว่าอย่างไรเขาไม่สน รักของคนอื่นจะนิยามว่าอย่างไรก็ช่าง แต่รักของเขาคือการได้ครอบครอง รักของเขาคือการได้เธอมาอยู่เคียงกาย และรักของเขาคือการได้เห็นเธอมีความสุขภายใต้การดูแลของเขา5 นกน้อย หรือพญานกร่างอรชรสมส่วนในชุดเดรสน่ารักสมวัยหิ้วปิ่นโตเดินผ่านประตูกระจกเลื่อนอัตโนมัติของตึกด้วยความมั่นใจ รอยยิ้มสดใสมอบให้พนักงานทุกคนที่เดินผ่านเธอแล้วโค้งคำนับด้วยความนอบน้อม ผู้คนในตึกห้าชั้นสไตล์โมเดิร์นแห่งนี้รู้จักเธอดีในฐานะภรรยาเจ้าของบริษัท“พี่ภูมิยังไม่ออกมาจากห้องประชุมอีกเหรอคะ” เมื่อขึ้นลิฟท์มาจนถึงชั้นห้า ซึ่งทั้งชั้นมีเพียงห้องทำงานของสามี ห้องประชุม และห้องรับรองแขกวีไอพี บุษบันเอ่ยถามผู้ช่วยเลขาส่วนตัวของเขาซึ่งนั่งอยู่หน้าห้อง“ยังเลยครับคุณหยก”
“นี่ไม่เชื่อพี่เหรอ”“ไม่เชื่อ”“แล้วทำยังไงถึงจะเชื่อ ต้องให้พี่คุกเข่าสาบานต่อหน้าเตียงไหม”“บ้า! ใครเขาสาบานต่อหน้าเตียง” บุษบันก้มหน้าซุกกับอกอุ่น แล้วอุบอิบว่าเสียงเบา สายตาจริงจังของเขาทำให้เธอประหม่า ไม่กล้าสบตาด้วย“ก็พี่นี่แหละ จะสาบานต่อหน้าเตียง เมื่อกี้ก็เอากันบนเตียง มีเตียงเป็นพยาน ทีนี้ก็จะสาบานว่ารักจริงต่อหน้าเตียง ให้เตียงเป็นพยานความรักของพี่ที่มีต่อหยก”บุษบันถอนหายใจเบาๆ คนบ้าจะทำอะไรให้มันสวีตหวานแหววหน่อยไม่ได้หรือไร ทำไมเขาถึงชอบวกเข้าแต่เรื่องบนเตียงนักนะ“หยก” ภาคภูมิเชยคางคนที่เอาแต่หลบตาเขาให้เธอเงยหน้าขึ้นมาคุยกันดีๆ“สามปีที่พี่หายไปจากชีวิตหยก เพราะพี่อยากพิสูจน์ว่าความรู้สึกที่มีต่อหยกนั้นไม่ได้ฉาบฉวย พี่อยากรู้ว่าหากไม่มีหยกอยู่ข้างกายแล้วพี่จะอยู่ได้ไหม”“ก็เห็นอยู่ได้ มีความสุขดีนี่คะ มีผู้หญิงสวยๆล้อมหน้าล้อมหลังอย่างกับแมลงวันตอมอึ๊” บุษบันทำหน้างอนๆเหน็บเบาๆ“ผู้หญิงพวกนั้นเป็นเพียงส่วนประกอบในการลองใจเท่านั้น ไม่มีใครแทนที่หยกของพี่ได้ วันนี้พี่ตัดสินใจแล้วว่าพี่จะเอาหยกมาเป็นเมีย เ
“ซี้ด! หยกจ๋า เด็ดดวงจริงๆ อู้ววว...” ภาคภูมิจับตาดูกลีบเนื้อสาวแดงก่ำที่หุบเข้าในตอนที่เขาสอดใส่กระทุ้งลึก และรูดรั้งครูดดึงเขาไว้ในตอนถอดถอนลำเนื้อออก เนินเนื้อสาวฉ่ำวาวเต็มไปด้วยน้ำสวาทของเธอและเขาผสมปนเปกันไปหมด สีแดงจางๆที่ปะปนออกมาด้วยทำให้หัวใจหนุ่มพองโต ...เพราะมันตอกย้ำให้เขาได้รู้ว่าเธอเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว“หยกจ๋า โอย...พี่รักหนูเหลือเกิน อยู่กับพี่ เป็นของพี่ตลอดไปนะทูนหัว” ภาคภูมิพร่ำเพ้อขณะเสือกไสลำกายเข้าสู่โพรงรักอุ่นอ้าวอย่างรุนแรง การที่ต้องอดทนมานานไม่เป็นผลดีกับเขา เขาต้องการเธอ ต้องการมากเหลือเกิน“พี่ภูมิ หยกเจ็บ อ๊าย!” บุษบันเอ่ยบอกเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วพร่า เธอทั้งเสียว ทั้งเจ็บจุกไปหมดแล้ว เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกไหนมันมากมายกว่ากัน แต่ที่แน่ๆเธอไม่อยากให้เขาหยุด“ไม่ไหวแล้วหยก เสียวไปทั้งลำเลย ซี้ด... ไปพร้อมพี่นะ” ภาคภูมิขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน กระชับเอวบางในมือไว้มั่น ก่อนจะสะบัดสะโพกโยกลำกายเข้าสู่โพรงรักฉ่ำน้ำจังหวะถี่กระชั้น เสียงครางหวีดหวิดของบุษบันเร่งเร้าอารมณ์ให้ลุกโชน ยิ่งเธอกระดกสะโพกโยกดันกลับมา ภาคภูมิก็ยิ่งฮึกเหิม ชายหนุ่ม