Share

บทที่ 9 เพ้อหา

last update Last Updated: 2025-04-18 01:55:30

ร่างสูงสง่ายืนคุยโทรศัพท์​อยู่​นาน​สอง​นานด้วยเรื่องสำคัญ หลังเวเดโน่ได้รับข่าวจากสายลับถึงแก็งค์คู่แข่งเรื่องการส่งออกสินค้าเข้าสู่ตลาดมืด แต่เป็นการเหยียบจมูกพวกเขา

"ใครบอกมึง"

(ไอ้เวย์) ​

"ฮึ ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้"

(ถือว่าสำเร็จไปขั้นนึง แล้วไอ้พวกทรยศนี้ล่ะวะ มึงจะเอาไง) ​

เวเดโน่ขอความเห็น​ในขณะเรกา​โด​กำลังครุ่นคิด พร้อมกับพ่นควันบุหรี่​ไปด้วย ก่อนจะขยี้และทิ้งลงถัง

"เดี๋ยวกูเข้าไปเองดีกว่า "

(ได้ งั้นกูจะนัดคนที่เหลือมารอมึง อีกนานไหมวะ ได้ข่าวว่าช่วงนี้กระเตงเด็ก)

"ฮึ ตลก..."

ชายหนุ่มแค่นหัวเราะ

"รอไม่นาน เดี๋ยว​กูเข้าไปเลย"

แล้วตัดสายทิ้ง ยืนผ่อนคลายความเครียดอยู่อึดใจนึง จึงจะเดินขึ้นรถไป

(ครับนาย) ​

"ลูแคน ช่วยมาตามโลเคชั่น​นี้ที"

ทิ้งน้องสาวกำมะลอไว้ในร้าน โดยให้ลูกน้องมาสานต่อ

ทางด้านของเอมิเลีย และ ไดอาน่า หลังวัดตัวเสร็จ ดีไซเนอร์​อย่างหล่อนก็ทำการร่างโครงคร่าวๆทันที หล่อนแพลนจะตัดให้เธอหลายๆชุด มีทั้งชุดลำลองและชุดออกงาน ก่อนจะพากันเดินออกมาเพื่อตกลงราคากับเรกาโด ทว่า ไม่มีเขายืนอยู่ตรงนั้นเสียแล้ว

"หืม ไปไหนแล้วล่ะ"

ในขณะเอมิเลียแอบชะเง้อคอมองหา สลับกับมองไดอาน่าที่กำลังใช้สมาร์ทโฟน​ติดต่อเขาไปด้วย แต่เหมือนจะติดต่อไม่ได้

"เหลวไหลจริงๆ ทำไมถึงทิ้งกันแบบนี้นะ"

หล่อนวุ่นวาย หัวเสียแทนเอมิเลีย กว่าทั้งคู่จะกระจ่างได้ ต้องรอให้ลูแคนเดินเข้ามา ไดอาน่าลดโทรศัพท์​ถอนหายใจพรืด ส่วนเอมิเลียนั่งตัวตรง สีหน้าบ่งบอกให้รู้ว่าเธอนั้นโล่งใจสุดๆ

"เขาคงมีงานด่วนน่ะ"

ไดอาน่าหันมายิ้มเจื่อน พลางเดินไปเขียนบิล เพื่อฝากลูแคนไปให้เขา

"นายท่านสั่งตัดชุดใหม่ให้คุณหนูเหรอครับ"

ลูแคนเลิกคิ้วถามผ่านกระจกไปยังคนที่นั่งเบาะหลัง หลังทั้งคู่ขึ้นมานั่งในรถเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวถอนหายใจพรืด ไม่ตอบเสียทีเดียว ลูแคนจึงร้อนตัว

"ผมไม่มีเจตนาอยากจะยุ่งเรื่องของเจ้านายหรอกครับ ผมก็แค่แปลกใจ เพราะขนาดนายหญิง เอ่อ.. คุณ​มิเชล นายท่านยังไม่ทำถึงขนาดนี้เลย แค่จะบอกว่าท่านคงเอ็นดูคุณมาก"

ทำเอมิเลียละสายตาจากกระจกข้างมายิ้มอ่อน

"ไม่ใช่หรอกค่ะ เขาแค่ต้องการจะรับผิดชอบแทนน้องสาวเขาเท่านั้น คุณลูแคนมาก็ดีแล้ว อย่าเพิ่งพาหนูกลับบ้านได้ไหมคะ "

"ครับ? "

"พาหนูไปหาที่หายใจหน่อย "

"......"

"เหมือนเดิมค่ะ สัญญาจะไม่ทำให้คุณเดือดร้อน"

และเหมือนเดิม สุดท้ายเขาก็ต้องยอมเธอ ลูแคนพาเธอมาไม่ไกลมาก แต่ก็ไม่ใกล้จนเกินไป เขาจอดรถชิดไหล่ทาง ปล่อยร่างบางไปยืนรับลมอยู่บริเวณดินยื่นที่สูงราวตึกสิบชั้น ข้างล่างคือทะเล น้ำสีครามนิ่งสงบไร้คลื่น ทว่ายามแสงแดดจากดวงอาทิตย์กระทบผิวน้ำเสมือนมีกากเพชรติดอยู่ระยับระยับ ธรรมชาติสามารถช่วยให้หญิงสาวผ่อนคลายได้จริงๆ เขาคิดแบบนั้น ส่วนเจ้าตัวไม่ได้ไปกับเธอ การดูแลไม่จำเป็นต้องไปยืนใกล้กันจนทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด เขายืนพิงประตูรถ หันหน้าไปฝั่งเธอ มองไกลอยู่ตรงนี้ ก็เกินพอแล้ว ..

วินาทีนี้ คือวินาทีชาร์ตพลังลมหายใจของเอมิเลีย ทำไมเขาจะไม่รู้ 

หญิงสาวกลางแขนออกกว้าง แหงนหน้าขึ้นเปิดรับลมปะทะอย่างเต็มที่ ทำลูแคนที่มองอยู่ขมวดคิ้วก่อนแค่นหัวเราะ เขาขำขันในท่าทีของหญิงสาว ช่างน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน ผ่านไปนานหลายนาที ลูแคนยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา เพราะมีงานต่อ สลับกับเอมิเลียที่ไม่มีทีท่าว่าจะพอใจ จึงตัดสินใจเดินไปยืนข้างๆ หวังให้เธอเห็น ยุติความผ่อนคลายที่มีตอนนี้ไปก่อน ทว่า ผิดคาด หญิงสาวชวนเขาคุยเฉยเลย

"ไม่ยักรู้ทะเลจะสวยแบบนี้นะคะ สวยกว่าในรูปเสียอีก"

"หืม.."

ลูแคนชะงัก กลืนคำเชิญชวนคำนั้นกลับลงคอ หันไปขมวดคิ้วกับเธอ

"คุณลูแคนคงไม่เชื่อ ว่าหนูเห็นทะเลเป็นครั้งแรกเพราะคุณลูแคน"

"...."

"ขอบคุณนะคะ รู้สึกดีกว่าเดิมเยอะเลย "

"ครับ.."

"วันหลังพามาอีกนะคะ"

กล้ามเนื้อหัวใจชายหนุ่มกระตุก หลังคำขอนั้นมาพร้อมกับฝ่ามือเล็ก อุ่น และเนียนนุ่ม สอดเข้ากับฝ่ามือใหญ่สากเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อบ่งบอกถึงการจับของหนักมาช่ำชอง

"นะคะคุณลูแคน..."

และรอยยิ้มจนละมุน ส่วนเขา แสร้งนิ่งขรึมเพราะทำตัวไม่ถูก

"ได้ครับ ถ้ามีโอกาส"

ดึกสงัด

เอมิเลียกึ่งหลับกึ่งตื่น กล้ามเนื้อบางส่วนกระตุกมากกว่าหนึ่งครั้ง จะบอกว่าความเครียดสะสมเธอก็เป็นไปได้ และครั้งที่สาม ซึ่งเธอปฏิญาณกับตัวเองเอาไว้ว่า จะไม่ให้ซ้ำรอยเดิมอีก เพราะเธอจะกินยานอนหลับ!  ทว่ากลับมีแสงไฟจากหน้ารถเล็ดลอดผ่านช่องลมหน้าต่างเข้ามา พร้อมเสียงเบรคกระชากล้อ แน่นอนหญิงสาวไม่เคยปล่อยให้เรื่องอยากรู้ค้างคาใจนาน จึงเดินไปแง้มบานหน้าต่างอย่างเบามือและเล็กน้อย พอให้ลูกกะตาโผล่

เอี๊ยด!

เรกาโดเปลี่ยนฝีเท้ามากดเบรค จนผ้าใบชะงักกึกแทบขาด หลังมีหญิงร่างบางมายืนขวางไว้ มิเชลใช้จังหวะรถชะลอช้ารอประตูเหล็กเปิดหวังถลาเอาตัวเองเข้าไปขวาง หล่อนอ้าแขนกว้าง หากมันจะพลาดจนชนร่างกระเด็นคงต้องยอม

ปี้ด ปี้นนนน ~

เรกาโดตบแตรอย่างหัวเสีย เขาสบถคำหยาบก่อนลงจากรถ เดินอาดๆขมวดคิ้วเข้าไปหาหวังจะจัดการมิเชลสักตั้ง กลับถูกหล่อนถลาเข้ามาหาแทน โดยใช้แรงทั้งหมดที่มีไปไว้ที่วงแขน รวบรัดร่างหนาถึกแน่น เสมือนชาตินี้จะไม่มีทางให้หลุดหนีไปไหน

"บอกฉันสิคะ ว่าคำนั้นมันไม่จริง"

ฟูมฟายอย่างคนขาดสติ ไร้ความละอาย ท่ามกลางการถูกมองของการ์ดที่ยืนอยู่ ต่างจากชายหนุ่มที่ตอนนี้เส้นความอดทนขาดสะบั้น หงุดหงิดจนกู่ไม่กลับเสียแล้ว

"คุณเป็นบ้าไปแล้วมิเชล!"

"ใช่ ฉันบ้า! บ้าเพราะถูกไอ้หน้าโหดอย่างคุณบอกเลิกไง!"

"...."

"ได้โปรด..ที่รัก อย่าทำกับฉันแบบนี้ ..."

ในขณะมิเชลพล่ามเพ้อ ขอความเป็นธรรม ส่วนเรกาโดพยายามงัดมือปลาหมึกออก พวกเขาเหล่านั้นไม่มีทางรู้เลย นอกเหนือจากลูกน้องที่มองอยู่นั้น มีเด็กสาวคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย นิ้วเรียวแตะที่ริมฝีปาก บ่งบอกให้รู้ถึงความระทึกใจต่อเหตุการณ์ตรงหน้า เอมิเลียอึ้งไม่คิดว่าจะมาเจออะไรแบบนี้ ในเวลานี้.. และนั่นก็ยิ่งทำเธออคติกับเรกาโดมากไปอีกทวีคูณ

"คนบ้า ไอ้ยักษ์...ชิ "

เธอเบ้ปาก ดึงบานหน้าต่างปิดเข้าหากรอบวงกบตามเดิม ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ในคราวแรก ก่อนเดินขึ้นเตียง ไม่คิดจะสนใจอีก

วันแรกของการไปมหาลัย เอมิเลียตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ครานั้นต้องซ้ำรอยอีก เธอแต่งตัวด้วยชุดที่มิดชิด พร้อมโค้ทสีน้ำตาลอ่อนหนึ่งตัว แน่นอนมันเป็นเสื้อตัวเดียวกับที่เรกาโดซื้อให้ และไม่ได้ถูกฉีกขาด 

ใช่ ต้องขอบคุณในความหนาของมัน

แอด..

นอกจากไม่สายให้ใครต้องเดือดร้อนแล้ว เหมือนโชคจะเข้าข้างเธอด้วย เมื่อเปิดประตูออกมาเจอลูแคนยืนคอยอยู่ เขาก้มหัวให้ก่อนจะยักคิ้วเป็นการทักทาย

"หือ.. "

"นายท่านให้ผมไปส่งคุณหนูครับ"

"อ้อ"

เธอเลิกคิ้ว เป็นอันว่าเข้าใจ ปนทึ่งสุดๆ ไม่คิดว่าวันนี้จะเป็นวันผ่อนคลายครั้งแรกนับตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ส่วนคำถามในเหตุผล ทำไมเขาถึงไม่ไปส่งเอง ทว่ากลับให้ลูกน้องไปส่งแทน ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันมอบตัวของเธอ ซึ่งสมควรอย่างยิ่งต่อผู้ปกครองที่จะต้องไปรับรู้ และทำความรู้จักกับอาจารย์ประจำคลาสเรียนของนักศึกษา

"ฮึ.."

คำตอบนั้นอยู่เบื้องหน้า หลังจากหญิงสาวหลุดพ้นประตูออกมา โดยไม่ต้องเดาให้เสียเวลาเลย เพราะในโรงรถที่เรียงรายไปด้วยรถหรูหลายคัน มันมีซุปเปอร์คาร์คันนึงซึ่งมีเจ้าของเป็นผู้หญิงจอดอยู่

ใช่ เมื่อคืนเขาคงดีกันแล้ว และหล่อนคงจะค้างที่นี่ เอมิเลียชะงักฝีเท้าแค่เพียงอึดใจเท่านั้น ก่อนเธอจะเดินต่อ ไม่สนจะรับรู้เรื่องส่วนตัวของใคร

ส่วนเขา เรกาโด ชายหนุ่มผู้เป็นที่หมายตาของสาวน้อย สาวใหญ่ และแม่หม้าย ในวงการไฮโซเหลือคณานับ บัดนี้นั่งดูดบุหรี่อยู่ที่ระเบียงแอบมองเด็กสาวเกือบจะรุ่นลูก ซึ่งเดินตรงไปขึ้นรถ โดยมีลูกน้องเป็นคนขับตามคำบัญชา

ภาพนั้นสะท้อนใจเขา เสมือนเดจาวู กับคำว่า .. ' กากี ' ที่พ่อของเขามักพ่นออกมาให้ฟัง

"ฟู่ว.."

เรกาโดพ่นควันบุหรี่เป็นครั้งสุดท้าย วางไว้บนที่เขี่ยทั้งที่ยังไม่หมด หลังซุปเปอร์คาร์คันดำนั้นแล่นลับหายไป หมุนตัวเดินโทงๆ เข้ามาทิ้งตัวลงบนเตียง โดยไม่สนใจว่าความสะเทือนของมันจะทำหญิงสาวซึ่งหลับใหลอยู่ข้างหลังจะตื่นรึเปล่า... มิเชลสะลึมสะลือ งัวเงียคลี่เปลือกตาขึ้นมา ถอนหายใจเฮือก หล่อนเกลียดที่สุดหากใครมากวนใจในขณะกำลังหลับสนิท ทว่า เช้านี้คงต้องยกเว้นเขาคนนี้ ที่ไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหนมา

"บุหรี่ไม่ถูกปากรึคะ"

ร่างบางสวยเทียบเท่านางแบบเปลือยเปล่ายันตัวขึ้นพิงหัวเตียง ปล่อยผ้านวมหลุดลงไปทั้งผืน เผยหน้าอกหน้าใจให้เรกาโดเห็น พร้อมรอยยิ้มเหยียดยียวนฉบับสาวเซ็กซี่ หวังยั่วให้เขานั้นสนใจ

"หุบปาก"

แต่กลับถูกชายหนุ่มหงุดหงิดใส่ กัดฟันกรอด ดันตัวหล่อนออกห่าง ทว่า เหมือนมิเชลจะไม่เกรงกลัว หล่อนมีความเชื่อ อารมณ์นี้ ในที่แบบนี้ ยังสามารถเอาเขาอยู่ได้

"อะไรอีกล่ะคะ ฉันว่าพักนี้อารมณ์คุณเปลี่ยนบ่อยไปนะคะครูซ"

"....."

"ตึงเครียดไปก็ไม่ดี ผ่อนคลายหน่อยดีกว่าไหม หื้ม .."

โดยใช้หน้าอกอวบหยุ่น กดแนบชิดแผ่นหลังริมฝีปากประทับจูบบนหัวไหล่แกร่ง และเหมือนจะได้ผล เมื่อเขาหันกลับมาเผชิญหน้า ใช้อุ้งมือใหญ่บีบคอระหงหล่อนในทีแรก ก่อนจะเลื่อนไปกุมท้ายทอยแล้วดึงเข้ามา

"อะ อืมมม"

ฉกฉวยริมฝีปากบางรวดเร็ว โดยที่หล่อนตั้งท่าคอยอยู่แล้ว ความรุนแรงของมันคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ยามถอดออก .. ซึ่งโทสะที่มักจะมาลงในเซ็กซ์ทุกครั้งของเรกาโด อาจจะดูเหมือนป่าเถื่อน ทว่า..สำหรับมิเชลแล้ว หล่อนกลับมองว่า..เขานั้น กำลังหลงใหลในตัวเอง

ตกเย็นหลังหมดคลาส ในช่วงรอลูแคนมารับ เอมิเลียใช้เวลาอยู่กับกองหนังสือตรงหน้า เมื่อถึงเวลาที่จะต้องลงไปรอข้างล่าง เธอจึงเก็บข้าวของทั้งหมดที่เลี่ยลาดอยู่บนโต๊ะเข้ากระเป๋า

"ขอยืมไปอ่านต่อที่บ้านได้ไหมคะ"

นึกเสียดายถ้าอ่านเรื่องนี้ไม่จบ เพราะมันเป็นแนวที่เธอโปรดปราน และค่อนข้างจะหายากพอสมควร หลังบรรณารักษ์พยักหน้า เด็กสาวจึงฉีกยิ้มจนตาหยีทันที

"ขอบคุณนะคะ จะเอามาคืนให้เร็วที่สุดค่ะ"

ความดีใจทำให้เธอวิ่งออกมาอย่างเริงร่า ผ่านห้องมาหลายห้อง และผู้คนอีกมากมาย จนกระทั่งขาเรียวต้องหยุดชะงัก เมื่อสายตาคู่หวานปะทะเข้ากับคนนี้

"โอะโอ.."

และแน่นอน จะให้หมุนตัวกลับคงไม่ทัน เขาเห็นเธอวิ่งมาแต่ไกล เห็นก่อนจะลงบันได และตั้งแต่ห้องสมุดเลยด้วยซ้ำ

"ไปไหนมา ทำไมต้องให้ฉันยืนรอนาน"

"ขอโทษค่ะ อ่านหนังสือเพลินไปหน่อย หนูนึกว่าคุณลูแคนจะมารับเสียอีก"

ประโยคทิ้งท้ายหญิงสาวก้มหน้างุด เปลี่ยนปรับสภาพความร่าเริงก่อนหน้าเป็นความอึดอัดแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว ครูซัสขมวดคิ้วยุ่งเหยิง ถึงคำนั้นจะเบาหวิว แต่เพราะระยะที่มันใกล้ เขาจึงได้ยิน 

"เกี่ยวอะไรกับลูกน้องฉัน?"

"เปล่าค่ะ ก็เมื่อเช้าเขามาส่ง"

"เธอตอบไม่ตรงคำถาม"

"ไม่ตรงคำถามตรงไหนคะ ก็เมื่อเช้าเขามาส่ง ตอนเย็นก็ต้องเป็นเขามารับ ไม่ถูกหรือ.."

เอมิเลียยานคางคำสุดท้าย ก่อนจะหุบปากทันควัน เพิ่งนึกขึ้นได้เธอพูดมากเกินไปแล้ว ในขณะเรกาโดลอบขำในคราแรกก่อนจะแสร้งกลบเกลื่อนในคราหลัง เมื่อสังเกตุเห็นว่าเธอเริ่มเป็นตัวของตัวเองเพิ่มขึ้นมาหน่อยนึง

"แฮ่ม! ..ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับฉัน ฉันคือคนสั่ง"

เขาทำเสียงให้ขรึมกว่าเดิม ส่วนเธอพยักหน้าหงึกหงักเป็นอันว่าเข้าใจ

"โอเค..."

ก่อนจะเดินก้มหน้างุนตามหลังเขาไปติดๆ เมื่อเขาพูดจบหมุนตัวเดินไปที่รถโดยไม่เชื้อเชิญเธอสักคำ

"เราจะไปไหนกันคะ?"

เอมิเลียถ่างตากว้าง ชำเลืองหันมาหาเรกาโด หลังจากขึ้นมานั่งเบาะหลัง และพบว่าคนขับนั้นไม่ใช่ลูแคน จึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

"ทำไม รีบหรือ?"

ใช่ รีบ และมากด้วย อยากกลับไปอ่านหนังสือต่อ เธออยากตอบแบบนั้นใจจะขาด ทว่า ได้แต่กลืนน้ำลาย

"เปล่าค่ะ"

พลางหันไปมองกระจก ก่อนจะหันขวับกลับมาใหม่ คิดไม่ถึงจะได้ยินคำนี้

"ฉันจะพาไปทานข้าว"

"......"

ร้านอาหารสุดหรู กับคนอีโก้หรูสุดคงเข้ากัน เอมิเลียไม่เคยเป็นตัวของตัวเองเลยสักครั้งที่อยู่กับเขา คงจะใช่อย่างที่เขาเคยรับปากไว้พร้อมคำหยาบที่พ่นออกมาด้วยกัน เขาจะไปหาความหมายของคำๆนึงที่เขาไม่เคยรู้จักและวิธีดูแลเธอให้ดีที่สุด วันนี้คงเอามาใช้แล้ว ทว่าพลาดไปนิด กับจุดประสงค์ที่เขาทำ นั้นเพื่ออะไร และเพราะอะไรถึงไม่ถามเธอก่อน

ใช่ คนที่ออกแต่คำสั่ง ใช้ชีวิตเยี่ยงราชาอย่างเขาน่ะหรือ แท้จริงแล้วผู้หญิงตรงหน้าเธอชอบอะไร นี่ไม่ได้เรียกว่าใส่ใจ แต่มันคือการมัดมือชก เพราะเขาเข้าไม่ถึง

"อิ่มแล้วหรือ"

ครูซัสเลิกคิ้วขึ้น หลังเอมิเลียรวบช้อนส้อมวางลง แล้วดื่มน้ำตาม เธอพยักหน้าแสร้งทำเป็นมองอย่างอื่น

"ค่ะ.."

ในขณะที่เขากินต่อ ท่าทางเสมือนหิว อาหารยิ่งถูกปากเมื่อได้ร่วมโต๊ะกับเธอ ต่างกับหญิงสาว ที่ตัวเกร็งหามีความสุขไม่ยามอยู่ใกล้เขา ในจังหวะที่เขาเคี้ยวตุ่ยๆ สเต็กชิ้นใหญ่คำโตๆ เอมิเลียฆ่าเวลาโดยการอ่านหนังสือแทน

"ความสุขเธอคือการได้อ่านไอ้เจ้านี่แค่นี้น่ะเรอะ"

เขาสังเกตจากแววตาตอนเธอเปิด มันช่างแตกต่างกับตอนที่มองหน้าเขาริบ

"ใช่ค่ะ มันคือเพื่อนของหนู"

เธอปิดกลับเหมือนเดิม กระชับวงแขนแน่น เม้มปากเป็นเส้นตรง เกิดความกังวลขึ้นมา หากตอนเปิดหนังสือเมื่อครู่ เป็นการเสียมารยาททำเขาหงุดหงิด ฉีกหนังสือเธอทิ้ง จะทำอย่างไร? มันคงคุ้มได้ไม่เท่าเสีย ทว่า ผิดคาด

"อ่านต่อสิ ฉันไม่ได้ว่าอะไร"

เขาผายมือที่ถือช้อนเชื้อเชิญ ตั้งใจกินข้าวตรงหน้า ไม่ได้ใส่ใจเธอสักนิด แถมไม่ได้บังคับให้เธอกินต่อ แม้จะเห็นทนโท่ว่าเธอกินมันเข้าไปแค่ไม่กี่คำ ต่างกับลูแคนลิบ ที่เอาแต่บังคับให้เธอกิน ทว่าตามใจทุกอย่าง ส่วนเขา หากจะขออะไรเหมือนขอลูแคน เขาคงไม่ให้ ...

ดึกสงัดกว่ามาถึงคฤหาสน์ เท่ากับเวลาที่จะเอามาใช้อ่านหนังสือเสียไปด้วยมื้ออาหาร ถึงในยามนั้น เขาจะอนุญาตแต่การอ่านที่ถูกจ้องมองโดยคนตรงหน้าไม่วางตา มันก็อ่านไม่เข้าใจอยู่ดี ทว่าแววตาที่ได้รับมา ยามเธอเผลอช้อนตามอง มันคือแววตาที่แปลกใหม่ ทำไมการกระทำเมื่อคืนก่อน ถึงได้แตกต่างจากคืนนี้

"เฮ้อ คุณเรกาโด คุณเป็นคนแบบไหนกันแน่น้า.."

หญิงสาวถามตัวเอง ในขณะถูสบู่เหลวเล่นจนฟองฟูฟ่องไปทั่วสรีระ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 )   บทที่ 50 อวสาน

    เขตนอกชานเมือง กึ่งป่าดงดิบกึ่งป่าทึบ หากแหงนหน้าขึ้นไปข้างบน ตรงจุดนี้จะเป็นเนินเขาคล้ายเหวลึก เสียงสัตว์ป่าสงวนผสานเสียงกันจ้าละหวั่น หากใครสักคนต้องติดอยู่บริเวณนี้จนมืดค่ำ คงจะอ้างว้างน่าดู เวเดโน่ยืนน่าซีดเผือดหลังมาถึง และฟังคำบอกเล่าของคนแปลกหน้าที่ติดต่อมาด้วยความนิ่งสงบ ต่างกับใจที่ละเหี่ยเต็มที แม้จะบั่นทอนจิตใจ แต่ด้วยความจำเป็นที่จะต้องรู้ เขาจึงต้องฟัง จากพลเมืองดีตรงหน้า ที่คิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจออีกแล้ว ดวงตาสีดำสนิททั้งสี่คู่มองไปยังจุดนั้นเป็นจุดเดียว ในขณะหูนั้นฟังพร้อมนึกภาพตาม กับสีหน้าที่สลดสูงสุด เรกาโดต้องทรมานแค่ไหนจึงจะผ่านมาเหวนี้มาได้ เพราะความห่างระหว่างตึกองค์กรกับหน้าผามันไม่ใช่หนทางที่ง่ายเลย" ตอนนี้เขาอยู่ไหน "“ ยังไม่ได้สติครับ ““ พาพวกเราไปหน่อย “เวเดโน่ละสายตาเป็นคนแรก ก่อนแจ้งเจตจำนง แม้ท่าทางที่แสดงออกมาต่อหน้าคนอื่นจะดูเรียบเฉย ราวกับเรื่องตรงหน้า ไม่สำคัญให้ต้องตื่นเต้น เพราะเหตุการณ์แบบนี้ช่ำชองกับเขามานักต่อนัก การสูญเสียใครสักคนไปจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับมาเฟียอย่างพวกเขา เว้นแต่กรณีของเรกาโด ต่อให้กลบเกลื่อนความรู้สึกด้วยความขรึมยังไ

  • หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 )   บทที่ 49 เพราะเขาเข้มแข็ง

    ร่างบางทิ้งเข่ายวบพื้นไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก หมดพลังและปัญญาจะอ้าปากพูด แม้แต่มือยังปล่อยปะละเลยไว้บนตัก เธอทำได้แค่สะอื้นในใจเท่านั้น นั่นไม่ใช่เพราะเสียใจน้อย แต่มันช็อคจนไม่รู้จะร้องไห้ยังไง มันทั้งเจ็บทั้งปวด ทรมานเกินจะบรรยาย" คะ คุณครูซ..."ต่อจากนั้นคงมีแต่ศีรษะที่เอาแต่ส่ายหน้า ซ้ำไปซ้ำมา ราวกับสลัดความมึนงง เธอต้องฝันไปแน่ๆ...ใช่ มันคือความฝัน ทว่า ทำไมน้ำตานับแสนเม็ด กับหัวใจของเธอที่แตกสลาย ไม่มีชิ้นดีนี้ แทนคำตอบของเธอได้ดีทีเดียว สัญชาตญาณกำลังบอกเธอ..มันคือเรื่องจริง!" ไม่จริ๊ง!!! "" เอมิเลีย! "ก่อนร่างทั้งร่างจะล้มตึงฟุบพื้นไม่เป็นท่า หากไม่ได้แขนพ่อของเธอเข้าช่วย มีหวังหน้าผากที่มนสวยคงแตกเกิดรอยตำหนิหนึ่งชั่วโมงผ่านไปโลกทั้งใบเป็นสีทึบ ทะเลทรายที่เคยขาวสะอาด มีแสงระยิบระยับราวกับกากเพชรยามถูกแดดส่องแปรเปลี่ยน ทุกอย่างดูอึมครึมไปทันที นับตั้งแต่เปลือกตาหวานละมุนปิดสนิท ออร์แกนพบข่าวด่วน ด่วนชนิดที่ทำเขารับมันไม่ทัน จะว่าเป็นข่าวดีก็มีส่วน หากแต่มาในช่วงเวลานี้ คงจะยินดีไม่ไหว" ท้องงั้นหรือ..."เสียงครางไม่อยากจะเชื่อเอ่ยขึ้น หลังหมอประจำตระกูลถูกเรียกตัวมาตรวจ

  • หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 )   บทที่ 48 เขาโกหกเธอ

    คนพิการทางร่างกายหากแต่ใช่สมองนิ่วหน้า คงเจ็บระบมน่าดู เพราะฝ่าเท้าที่เหยียบอยู่ของมาเฟียรุ่นลูกนั้น น้ำหนักไม่ใช่น้อยๆ ความเจ็บปวดทางใจบอกผ่านนัยย์ตา เรกาโดจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ จะร้องก็ไม่ร้องจะแสร้งเมินเฉยก็คงเกินความสามารถ วินาทีนี้หัวใจเขามันเหน็บชาไปหมด“บอกกูมา ว่าอยากจะตายอยู่ที่นี่หรือว่าจะรอดไปด้วยกัน”คนข้างล่างต่อลอง เขาแค่นหัวเราะก่อนจะยกยิ้มมองเปลือกตาไม่กระพริบ พลางทรุดตัวลงนั่ง“รู้อะไรไหมครับ ในชีวิตของผมเจอคนพิการแบบท่านมาก็เยอะ บางคนสงสารจับใจจนต้องยื่นมือเข้าช่วย จะทำเป็นไม่เห็นคงไม่ได้ แต่กับท่านเนี่ย....” โน้มหน้าไปกระซิบใกล้ๆ “ยิ่งตายอย่างทรมาน ผมโคตรยิ่งสะใจ”พลั่ก!จับหัวโขกพื้นไปทีนึง แล้วลุกขึ้นยืน ปล่อยให้โคโรธีนอนงอเข่า จุกเสียดอยู่ตรงนั้น ส่วนเขายืนเต็มความสูงอย่างหมดแรง แต่ก็ยังใช้เรี่ยวแรงที่เหลือนั้นค้นหาสมาร์ทโฟน หาเบอร์โทรเกือบจะล่าสุดกดโทรออก ไม่นานปลายสายก็รับ(ครับนาย นายเป็นอย่างไรบ้าง)“เอาโทรศัพท์ไปให้ เอมิเลีย”(อะไรนะครับ?)“ใช่หน้าที่ มึงต้องมาสงสัยหรือ เร็วๆ”(ครับๆ ได้ครับ)เขายืนรอสายอย่างใจเย็น ที่ช้าสำหรับเขาอยู่ตอนนี้ คาดว่าลูแค

  • หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 )   บทที่ 47 พ่อก็คือพ่อ

    ใช้เวลานานพอสมควร กับการสาดกระสุนใส่กันระหว่างสองพวก เรียกได้ว่านี้เป็นมหากาพย์ที่ดีที่สุดหากเปรียบเทียบเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ก็ว่าได้ทว่า..ไม่ใช่ สำหรับผู้ประสบพบเจออย่างทีมอัลฟ่า และคนชั่วอย่าง โคโรธี ทอน มันเป็นเรื่องที่บัดซบที่สุด นับตั้งแต่เกิดมาได้ครึ่งคน นี่คือผลงานชิ้นใหญ่ที่ทำเจ้าของถิ่นหัวเสียได้มากสุด อัลฟ่ามาเพื่อทำลายและล้างผลาญทรัพย์สมบัติเขาจริงๆ อย่างที่คิดไว้ ความเสียหายประดุจคำบอกเล่า ในเมื่อต้องการครอบครอง แบบไม่ผันก้มลงมองตัวเอง รังแต่ใช้อำนาจตัดสินอนาคตคนอื่น พรากออกจากโลกด้วยความตาย...ฉะนั้นคนกระทำก็สมควรตายตามไปด้วยเช่นกัน ถึงเวลาแล้ว และคนอย่างพวกเขาต้องทำให้สำเร็จ แม้นยามนี้จะกระทบใจใครอยู่ก็ตามที!“เลิกบ้าได้แล้ว ไอ้ครูซ”เสียงคำรามข่มต่ำทุ้มดังมาจากข้างหลัง เรกาโดชะงักสิ่งที่กำลังจะทำกลางคัน เขาจำเสียงนี้ได้แม่น แค่ไม่หันกลับไป นอกเสียจากแค่นหัวเราะในลำคอแทน“หึ...”“อย่าดันทุรัง”“พ่อต่างหาก ที่ดันทุรังอยู่ ปกป้องมันทำไม เพื่ออะไร...”ประโยคทิ้งท้ายแหบแห้ง มาเฟียแก่ผมขาว คงไม่รู้ หรือรู้แต่ไม่แสดงออกว่ายามนี้สิ่งที่ลูกชายเขามีมันคือความเจ็บปวดที่บีบหัวใจเข

  • หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 )   บทที่ 46 สงคราม

    รถกันกระสุนคันเดิมจอดห่างไกลตัวตึก เพื่อให้ชายหนุ่มนั่งข้างคนขับกระโดดลงไปอย่าทันให้ใครเห็น เวเดโน่ถอยรถกลับอย่างรวดเร็ว เกือบชนต้นไม้ในโพรงป่าทึบข้างกำแพงหลังพุ่งกันชนท้ายเข้าไป ก่อนจะตามเรกาโดไปติดๆ คราวนี้ทั้งคู่คงต้องรับบทเป็นนินจาเสียแล้ว' ประตูดีๆ ไม่มีให้พวกมึงเข้าไปหรือไงวะ 'เสียงซันดรูแทรกออกมา ท่ามกลางความเงียบรอบบริเวณที่พวกเขาอยู่" มึงคิดว่ามันยังต้อนรับพวกเราดีอยู่ว่างั้นเถ้อะ! "เวเดโน่ประชด ส่วนเรกาโดแค่นหัวเราะพร้อมหาช่องแคบทางลับจากจุดนี้ไปโผล่อีกทีหลังกำแพงอย่างช่ำชอง จุดนี้เป็นจุดสุดท้ายที่ไม่มีใครรู้ว่าเขานั้นรู้ เพราะตอนเป็นเด็กเขาเคยมาแล้วครั้งนึง เหตุผลทำไมไม่ไปในจุดที่รู้น่ะหรือ... เพราะคิดว่า โคโรธี ทอน เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ คงสั่งลูกน้องดักรอเชือดคอเขาเรียบร้อยแล้ว!" เฮ้ย ไอ้ครูซ เดี๋ยวรอกูด้วย... บ้าเอ๊ยยย ไม่ฟังกูเลย "เวเดโน่ชะงักกึกเปลี่ยนจากการกระซิบกับซันดรูเป็นกระซิบไล่หลังแทน พร้อมกิ่งไม้แห้งใกล้มือเขวี้ยงใส่ไปด้วย' อะไรกันวะ ' ส่วนฝั่งตรงข้ามถามกลับมา ทว่า..." หน้าที่ของมึงตอนนี้ หาเส้นทางรอดให้พวกกูก็พอ ไอ้ครูซมันเข้าไปแล้ว "กลับถูกเวเดโน่เอ

  • หัวใจผมยกให้คุณ ( DARK1 )   บทที่ 45 การจากลา

    ชายหนุ่มสะดุ้งตกใจ หลังได้ยินเสียงข้อความผ่านสามาร์ทโฟนปลุกให้ตื่นจากฝันร้าย ร่างหนาถึกพยุงตัวเองขึ้นนั่ง พลางหันไปมองด้านขวา กลับไร้คนข้างๆมีเพียงพื้นที่ว่างเปล่า คิ้วหนาขมวดเข้ากันเป็นปม...เช้าขนาดนี้หล่อนไปไหน ก่อนจะบึ่งลงจากเตียงเดินอาดๆ ไปยังห้องน้ำในครัว นานทีจะมีนายหญิงลงมาทำอาหารเช้าเอง ความครึ้กครื้นปนวุ่นวายย่อมบังเกิด สาวใช้นับสิบยืนเรียงหน้ากระดานพากันมองร่างบางเท้าสะเอวคนน้ำพาสต้าแล้วยกขึ้นมาชิม สลับกับการเติมเครื่องปรุงไปด้วย เธอขะมักขะเม้นในการทำเป็นอย่างมาก ยกอะไรใส่ก็ล้วนแต่มั่นใจไปเสียหมด ไม่รวมถึงการหั่นเนื้อ หั่นผักที่ดูคล่องแคล่วถนัดนัก เล่นเอาสาวใช้ที่ยืนมองตั้งแต่เริ่ม ละอายตามกันเลยทีเดียว วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรหนอ นายหญิงตัวน้อยของพวกหล่อนถึงเข้าครัวได้" โอเค เสร็จแล้ว ยกเสิร์ฟได้เลยจ้ะ"เอมิเลียบอกเสียงใส ตบมือเข้าหากันสองสามที ก่อนจะกอดอก ราวกับภาคภูมิในฝีมือตัวเองเต็มประดา แล้วหันมาพยักหน้าให้พวกหล่อน" เดี๋ยวยกไปให้หน่อยนะคะ ส่วนในหม้อที่เหลือนี้ พวกพี่ทานได้ ฉันทำเผื่อด้วย "และครั้งนี้ดูเหมือนว่าสาวใช้จะพากันเทใจให้กับหล่อนไปเต็มๆ หลังรับรู้ถึงความมี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status