หลังจากพาลูกพีชไปโรงพยาบาล แพทย์ก็วินิจฉัยว่าเธอเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B และจัดยาให้มาเป็นกระสอบ ปล่อยคนไข้กลับบ้านมาพักผ่อนตามสเต็ป
ส่วนคนป่วยทั้งโดนจิ้มจมูก ทั้งโดนเจาะที่ข้อพับแขนสองข้าง อีกทั้งฉีดยา
กระทั่งกลับคอนโดมานั่งซึมเป็นลูกหมาหน้าหงอยตัวน้อยตัวนิดน่าสงสาร ทำสองแก้มเคลือบไปด้วยหยดน้ำตาไหลพราก พากายบางสั่นเครือเพราะพิษไข้อยู่บนเตียงนอน
“หนาวอะ พะ พอแล้วเจย์ ไม่ต้องเช็ดตัวแล้ว”
ผ้าชุบน้ำอุ่น ถูกวางลงที่กะละมังหลังจากเขาเห็นว่าร่างเล็กกำลังตัวสั่นด้วยความหนาวจากพิษไข้ จึงรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมลูกพีชเอาไว้ ด้วยความเป็นห่วง สุดจะทะนุถนอม
“ขอกอดหน่อยสิ”
แม้จะรู้ว่าลูกพีช ลูกนี้ไม่ดีต่อใจ แถมยังอันตรายกับเขาอีก ครั้นก่อนนั้นเธอวอนจะจับไข่กู แต่ตอนนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอน
ทว่าเพราะความสงสาร ความเป็นห่วง และความรู้สึกในใจที่มีมากกว่า เจอาร์จึงต้องยอมทำตามคำขอกอดของเธอ
ในคราแรกเพียงแค่นอนกอดเขาเฉย ๆ จนกระทั่งทุกอย่างมันเงียบสงบลง เจอาร์จึงคิดว่าคนตัวเล็กหลับไปแล้วจริง ๆ ร่างใหญ่ค่อย ๆ ขยับตัวออกห่าง หวังให้ลูกพีชสบายขึ้น
หมับ!!
“อ๊ะ!! พีช!!”
แต่ที่ไหนได้ มือน้อยคว้ากอดเขาในคราแรก เกาะลงกลางเป้าของเจอาร์จัง ๆ ไอ้ฉิบหาย พึ่งปลอบมันลงอู่ได้จะมาปลุกมันแบบนี้พ่อมีน้ำโหนะเว้ย
เล่นเอาคนตัวโตกว่าสะดุ้งตกใจรีบดึงมือเธอออกห่าง ทว่ายัยหมากระเป๋าจอมดันดื้อรั้นไม่ยอมง่าย ๆ เฉกเช่นเคยซะด้วย อยากจับตีปากแม่งสักที เอาให้เข็ด
“พีช!!”
“ขอจับหน่อยสิ”
“ไม่ได้ เอามือออก”
แม้จะฉุดยื้อกันอยู่นาน ทว่าลูกพีชยังเป็นเด็กดื้อที่สมควรโดนทำโทษด้วยการจับมันยัดใส่ปากจริง ๆ เลย ยัยหมากระเป๋าเอ๊ย
“ฉันเครียด”
“ไม่ได้พีช เอามือออก”
“รู้ไหม? มีงานวิจัยบอกว่าถ้าได้จับเจ้าหนอนนอนจะทำให้หายเครียด”
“ไม่ได้!!”
จะยกแม่น้ำทั้งห้ามาตอนนี้ เจอาร์ก็ไม่เชื่ออะไรทั้งนั้นเพราะความจริงแล้ว กูเองก็เคยยกมาเหมือนกัน ก่อนจะเผลอจูบเธอที่ร้านเครื่องสำอางเมื่อตอนกลางวันไง ฮั่นแน่อย่ามาทำเนียน!
“ขอจับเฉย ๆ นายงกกับฉันเหรอ?”
“โอ๊ยพีชครับ มันไม่ได้จริง ๆ”
“จับเบา ๆ ก็ได้ ฉันสัญญาจะไม่ทำให้มันตื่นเลย”
“มันไม่ได้พีช นี่เมายาพาราหรือเปล่าวะ?”
ไม่ว่าจะหว่านล้อมเจอาร์ยังไง เขายังคงไม่ยอมใจอ่อนให้เธอง่าย ๆ
เห็นแบบนั้นลูกพีชจึงเงียบสงัดลง เฝ้าจ้องมองหน้าเนิร์ด ๆ ภายใต้ไฟห้องสลัว ๆ แล้วน้ำตาคลอหน่วยช้า ๆ
เธอแค่รู้สึกน้อยใจในช่วงที่อารมณ์อ่อนไหว และมีไข้ แต่ทำไมคนตัวใหญ่ถึงใจร้ายจัง
“เจย์เป็นผู้ชายนะพีช”
ให้ตายทีเถอะ กูจะได้ไปเกิดใหม่ มาขอจับไข่ไม่พอ ตอนนี้เล่นใหญ่จับกล้วยกูแล้วด้วย
แม้ลูกชายจะตัวใหญ่ไซซ์หกสิบ แต่ใจน้อยนะบอกไว้ก่อน น้องยิ่งเป็นคนอ่อนโยนอยู่ด้วย แค่เธอทัชมันก็อยากเต้นสามช่าแล้ว จะรั่ว
“ฮึก นายแม่งโคตรใจร้ายวะ งกอะ ฮือ”
“เฮ่ยพีช! อย่าร้องสิ”
เห็นแบบนั้นใครจะอดกลั้นความรู้สึกเอาไว้ได้ หยดน้ำตาเม็ดใสไหลพรากออกมาทำให้เจอาร์เห็นกันชัด ๆ เลยว่าเธอเสียใจนะคนบ้า อย่ามาใจร้ายแถวนี้
ทำขนาดนั้นแล้ว เขาจะทนเห็นหยดน้ำตาของเธอไหลได้นานแค่ไหนกันเชียว ถ้าทนได้ไม่ใช่กู๊ดบอยของลูกพีชอีกต่อไปแล้วเถอะ
“ก็แค่อยากลองจับดู ไม่ได้จะจับไข่สักหน่อย ฮือ”
นี่หนักกว่าขอจับไข่กันอีก สวรรค์จ๋าโปรดเมตตาลูกชายหัวหยักในกางเกงด้วยเถอะ
“มันไม่ได้ เดี๋ยวมัน...”
“ก็ปล่อยมันแข็งไปสิ”
“อ้าว? พูดง่ายจังเลยพีช”
เสียงเข้มเบาลงอย่างชัดเจนครั้นเห็นหยาดน้ำตาของเธอไหลหลั่งออกมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาแพ้ทางมาตลอดและตอนนี้ กูก็กำลังแพ้อีกเหมือนเดิม เฮ้อสภาพ
“นะเจอาร์ อึก ฮือ”
“ถ้าแข็งแล้วรับผิดชอบไหมล่ะ?”
“อือ ฉันรับผิดชอบให้เลย”
เรียวหน้าสวยพยักหน้าหงึกหงักให้เขา สุดท้ายเจอาร์ก็ต่อต้านใจที่อ่อนไหว และโอนเอียงไปฝั่งลูกพีชไม่ได้เหมือนกัน
จำใจต้องปล่อยให้ยัยหมากระเป๋านี่จับทั้งลำจริง ๆ ในขณะที่มันกำลังเติบโตเต็มเบอร์หกสิบจัง ๆ คามือมือที่เกาะกุมเอาไว้แทบไม่มิด
ไอ้ห่า ขายหน้าสุด ๆ เฮ้อ หมาตัวไหนก่อนมันบอกจับไม่ได้วะ กูต้องมางงกับใจตัวเองไม่พอ ต้องมานอนงงกับความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่อีกด้วย โว้ยอะไรวะเนี่ย?
แต่ยังดีที่ยัยหมากระเป๋านี่ไม่ซุกซนไปมากกว่านั้น เธอยังคงนิ่งไม่ยอมขยับนิ้วไปไหน เพียงแค่วางเอาไว้ยังแท่งนั้นเฉย ๆ โล่งใจหน่อยแต่ปล่อยไก่เหมือนเดิม
ซึ่งลูกพีชรู้ดีว่าเขามีอารมณ์อย่างว่า ครั้นสิ่งที่กำลังเติบใหญ่ในอุ้มมือมันอุ่นจัง ทำให้เธอรู้สึกดีแทบบ้า
อารมณ์เหมือนแท่งหรรษาที่เธอเคยใช้บำบัดความใคร่เป็นประจำ แต่ต่างกันตรงเนื้อสัมผัสมันนุ่มมากกว่า
ความร้อนระอุ แถมยังเป็นจังหวะตุบ ๆ ตามอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งต่างจากของเล่นทุกชิ้นที่มีในคลังลิบลับ
ต่อให้รู้สึกดีแค่ไหน ทว่าต้องเก็บกลั้นความตื่นเต้นเอาไว้ เพราะนี่เป็นทางเดียวที่จะพิสูจน์ได้ว่าเขาคิดกับเธอ มากกว่าเพื่อนกันจริง ๆ
“หายเครียดจริง ๆ ด้วย กู๊ดไนท์นะเจอาร์”
“อ้าว ไหนบอกจะรับผิดชอบอะพีช”
“อือ!! คนจะนอนแล้ว”
กู๊ดไนท์ก็เหี้ยแล้ว แข็งโป๊กขนาดนี้ ใจอยากตะคอกใส่หน้าเธอจัง ๆ อยากจะพูดแบบนั้นออกไปให้มันจบ ๆ ไอ้ห่า
ทว่าเขากลับทำไม่ได้ เพราะคำว่าเพื่อนมันค้ำคออยู่นี่ไง โธ่เอ๊ยอยากจะบ้าตาย กูเงี่ยนครับ!
เช้าวันต่อมา
เช้าวันใหม่ที่สดใส เปลือกตากลมค่อย ๆ ยกขึ้นช้า ๆ ก่อนจะไม่เจอเจอาร์นอนอยู่เคียงข้างกัน แถมอาการไข้และปวดศีรษะยังทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด
ลูกพีชจึงค่อย ๆ เดินออกมานอกห้อง ก่อนจะเห็นว่าเขายืนอยู่ในเคาน์เตอร์ครัว มือกำลังคนหม้อพร้อมกับกลิ่นหอมของข้าวต้มหมูสับลอยมาเตะจมูก
“หิวจัง”
ความหิวที่ไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวาน คนตัวเล็กเร่งรีบสาวเท้าเดินมามุงยังหม้อข้าวต้มเล็ก ก่อนจะสูดดมกลิ่นหอมยั่วน้ำลายเข้าเต็มปอด
แต่พอเงยขึ้นมาสบตา กลับต้องสะดุ้งครั้นหนุ่มเนิร์ดยังคงยืนหน้ามุ้ย บึ้งหนัก แถมยับยิ่งกว่าส้นตีนหมา ราวกับคนโดนบังคับให้ทำอะไรที่ใจไม่ชอบอย่างไงอย่างงั้น
“กินได้เลยใช่ไหมอะ?”
คนตัวเล็กเอ่ยถามด้วยเสียงออดอ้อน ทว่าเขากลับไม่ตอบ เอาแต่ตักข้าวใส่ถ้วยและยื่นมาให้เธอ ด้วยใบหน้าบูดยิ่งกว่าตูดลิง
ไม่ให้บูดได้ยังไง เพราะเธอทำให้เขานอนเอ็นแข็งจนปวดหนึบมาทั้งคืน เพราะยัยบ้านี่ชิงหลับไปก่อนเฉยเลยไอ้ห่า
พอคิดว่าเธอหลับจะผละตัวออกห่าง มือน้อยยังไม่วางออกจากกลางเป้าของกูเลยด้วยซ้ำ โคตรหลุด
“อร่อยอะ ได้กินอะไรร้อน ๆ แบบนี้รู้สึกดีจังเลยเจอาร์”
พูดอะไรก็พูดเถอะ จะรู้สึกดีอยู่คนเดียวก็ทำไป แม้เห็นแล้วนึกเจ็บใจชะมัดที่ยัยโรคจิตยังตีเนียนไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีก กูโมโหเว้ย
แถมตื่นเช้ามายังมีหน้ามานั่งซดข้าวต้มร้อน ๆ หมดไปสองถ้วย โดยไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมามอง ไม่ถงมาถามสุขภาพเจอาร์สักคำเลย คนที่ยังคงกดตาคม หน้ายับยู่ยี่เป็นตูดหมาอยู่ตรงนี้
มิหนำซ้ำยังไม่ได้ไปเรียน ไม่ได้แก้โปรเจค เพราะมัวแต่มาดูแลยัยตัวแสบ มันน่าหงุดหงิดไหมล่ะ ถามก่อน?
“ทำไมพีชไม่กินยา?”
หลังจากซดข้าวต้มหมดไปตั้งสามถ้วย ลูกพีชกลับเอาแต่นั่งไถหน้าจอมือถืองอมแงม ทั้งที่แก้วยาก็วางอยู่ตรงหน้าพร้อมกับน้ำดื่ม แต่เธอก็ไม่เอาเข้าปากไปเสียที
“ไม่อยากกินอะ มันเยอะไป กินแล้วรู้สึกมึนหัวมาก”
“ต้องกินสิ เดี๋ยวไม่ดีขึ้นนะ”
“ไม่เอา”
เข้าใจว่าลูกพีชดื้อและเป็นคนกินยายากมาตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยความหงุดหงิดใจที่เขาไม่สามารถระบายความใคร่ตั้งแต่เมื่อคืนได้ จึงชักสีหน้าเป็นยักษ์ตัวใหญ่ใส่เธอ
“ดื้อว่ะพีช”
“ไม่ได้ดื้อ ฉันไม่อยากกินมันเยอะอะ ตั้งหลายเม็ด”
“ถ้าไม่กินแล้วมันจะดีขึ้นเหรอพีช ในนี้มียาฆ่าเชื้อไวรัสด้วยนะ”
“ไม่เอาอะ เดี๋ยวมันก็หายเองแหละ กินแค่พาราก็พอ”
ได้ยินแบบนั้นเจอาร์ยิ่งรู้สึกโมโหกับคำตอบของเธอเข้าไปใหญ่คนอะไรมันจะดื้อ จะซน พูดไม่ฟังกันถึงขนาดนี้วะ
“เด็กดื้อ โตเป็นสาวแล้วก็ยังดื้อ”
“ฉันไม่ได้ดื้อ แค่ไม่อยากกิน ถ้านายเสียดายก็เอาไปกินเองดิ”
“ได้!! เจย์กินเอง”
สิ้นประโยคนั้น มือหนาคว้าจับเอาถ้วยแก้วยา กระดกเข้าปากไปในทันทีก่อนจะโน้มตัวเข้าหาลูกพีชที่ยังคงเปิดตากว้าง นั่งอึ้งกับการกระทำของเขาตรงหน้า
จุ๊บ!!
“อ๊ะ อือ!!”
คนดื้อต้องโดนยัดใส่ปาก แต่เป็นการยัดจากปากเขาแทน ครั้นเรียวหยักกดลงบนกลีบนุ่มกะทันหัน ก่อนจะใช้ลิ้นดันเม็ดยาเข้าปากเธออย่างทุลักทุเล
“อือ!!”
คนตัวเล็กเร่งมือผลักร่างใหญ่ออกห่างได้สำเร็จ เมื่อทุกเม็ดเข้าโพรงปากเธอไปหมดแล้ว ก่อนลูกพีชจะรีบลนลาน คว้าแก้วน้ำขึ้นมากระดกเอายาในปากลงคอไป
“ไอ้บ้า!! นายจะทำให้ฉันสำลักตายนะเจอาร์”
“คนดื้อ ถ้ากินยายากแบบนี้ ทีหลังต้องโดนจับฉีดยาให้เข็ด จะ จับฉีดแม่งทั้งคืนเลยคอยดู”
เสียงเข้มเบาหวิวไปตามร่างใหญ่ที่ไม่รู้สึกสำนึกอะไรเลยสักนิด ก่อนจะพาขายาวก้าวเดินหนีเข้าห้องนอน คว้าได้มือถือ และตั้งท่าออกจากห้องของลูกพีชไปหน้าด้าน ๆ
“อีอ้วน นี่นายจะไปไหนอะ?”
ว้ายยยย ลูกสาววว 55555 เธอก็ดื้อ ก็หน้ามึนเกิน
โปรดน้องเนิร์ดฉีดมันเข็มใหญ่ๆ เลย เอาให้ยัยลูกพีช นอนติดเตียง กระดูกซี่โครงราวไปเลย565555
อย่าลืมกดใจ คอมเมนต์ให้กันด้วยนะคะ
สปอย
1 สัปดาห์ผ่านไปหลังจากวันนั้นที่ลูกพีชพยายามร้องตามหลังของเจอาร์ออกมา ทว่าเขากลับไม่หยุดฟัง ก้าวขาเดินหนีออกจากห้องของเธอไปดื้อ ๆกระทั่งถึงตอนนี้เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์เต็ม ๆ ที่เราไม่เจอหน้ากันอีกเลย แม้ลูกพีชจะพยายามรวบรวมความกล้า ทำหน้าหนา ๆ เข้าไว้ ด้วยการทักไปหา เพื่อขอบคุณเรื่องช่วยดูแลกันในวันที่ไม่สบาย แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ…“อ่านแล้วไม่ตอบด้วยนะ ไอ้ตี๋บ้าเอ๊ย ฉันไม่ง้อนายแล้วก็ได้”ในใจเกิดความสับสนหลาย ๆ อย่าง ยิ่งเห็นเขาไม่ตอบยิ่งทำให้ลูกพีชคิดไปต่าง ๆ นานา พาให้เธอไม่กล้าทักหาหนุ่มเนิร์ด อีก“หรืออาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเราใกล้ชิดกันมากเกินไปวะ?”คนตัวเล็กบ่นพึมพำ นั่งหน้ามุ้ยเข้าหากันเพราะกำลังสับสนกับความรู้สึกในใจ ไม่รู้ว่าแท้จริงเธอคิดแบบไหนกับเจอาร์กันแน่ ระหว่าง เพื่อน? หรือ คนรัก?แต่ถ้าคิดแบบเพื่อนกัน แล้วเพื่อนแบบไหน? พูดแล้วรู้สึกกระด้างปากตัวเองยังไงไม่รู้ เฮ้อ!“อีแคระ ทำไมวันนี้มึงหน้ามะระจังวะ”“อะไรคือหน้ามะระ?”“หน้าเละ หน้ายับไงอีดอก”“อีเดย์มึงอย่าไปแซวมัน ลูกสาวพึ่งหายจากไข้หวัดใหญ่มา”ไบร์กี้เห็นสีหน้าของน้องดูไม่ค่อยดีจึงอาจจะคิดว่าเป็นเพราะลูกพีชเมายาต
หลังจากพาลูกพีชไปโรงพยาบาล แพทย์ก็วินิจฉัยว่าเธอเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B และจัดยาให้มาเป็นกระสอบ ปล่อยคนไข้กลับบ้านมาพักผ่อนตามสเต็ปส่วนคนป่วยทั้งโดนจิ้มจมูก ทั้งโดนเจาะที่ข้อพับแขนสองข้าง อีกทั้งฉีดยากระทั่งกลับคอนโดมานั่งซึมเป็นลูกหมาหน้าหงอยตัวน้อยตัวนิดน่าสงสาร ทำสองแก้มเคลือบไปด้วยหยดน้ำตาไหลพราก พากายบางสั่นเครือเพราะพิษไข้อยู่บนเตียงนอน“หนาวอะ พะ พอแล้วเจย์ ไม่ต้องเช็ดตัวแล้ว”ผ้าชุบน้ำอุ่น ถูกวางลงที่กะละมังหลังจากเขาเห็นว่าร่างเล็กกำลังตัวสั่นด้วยความหนาวจากพิษไข้ จึงรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมลูกพีชเอาไว้ ด้วยความเป็นห่วง สุดจะทะนุถนอม“ขอกอดหน่อยสิ”แม้จะรู้ว่าลูกพีช ลูกนี้ไม่ดีต่อใจ แถมยังอันตรายกับเขาอีก ครั้นก่อนนั้นเธอวอนจะจับไข่กู แต่ตอนนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอนทว่าเพราะความสงสาร ความเป็นห่วง และความรู้สึกในใจที่มีมากกว่า เจอาร์จึงต้องยอมทำตามคำขอกอดของเธอในคราแรกเพียงแค่นอนกอดเขาเฉย ๆ จนกระทั่งทุกอย่างมันเงียบสงบลง เจอาร์จึงคิดว่าคนตัวเล็กหลับไปแล้วจริง ๆ ร่างใหญ่ค่อย ๆ ขยับตัวออกห่าง หวังให้ลูกพีชสบายขึ้นหมับ!!“อ๊ะ!! พีช!!”แต่ที่ไหนได้ มือน้อยคว้ากอดเขาในคราแร
2 ชั่วโมงผ่านไปตลอดทั้งคืนลูกพีชไข้สูงมาก เรือนร่างหนาวสั่นยิ่งกว่าลูกนกตกน้ำ มาพร้อมกับอาการคัดแน่นจมูก และปวดศีรษะอย่างรุนแรงทำให้เจอาร์ต้องคอยอยู่ใกล้ ๆ ช่วยเช็ดตัวลดไข้ให้ทั้งเหงื่อไหลไคลย้อย เนื่องจากแอร์ไม่ได้เปิดกลัวคนตัวเล็กจะหนาวแต่ทุก ๆ อย่างที่ยอมทำให้เธอ มันออกมาจากความรู้สึกในใจของเขาล้วน ๆ และแน่นอนว่าเจอาร์ไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อนเลยสักครั้ง“เจอาร์”“ว่าไงครับ?”“มานอนเป็นเพื่อนหน่อย”ในคราแรกใจไม่ค่อยกล้า ทว่าพอเห็นคนตัวเล็กนอนซมเพราะพิษไข้ก็สงสาร จึงล้มตัวลงยังพื้นเตียงข้าง ๆ ร่างของเธอ“อือ เพลียร่างจัง”กระนั้นลูกพีชกลับรีบซุกเรียวหน้าสวยลงหัวไหล่ของเขา พร้อมกับอ้อมแขนเรียวยาวยื่นมากอดร่างใหญ่เอาไว้แน่นปล่อยให้ไออุ่นจากเจอาร์ และความร้อนจากกายของเธอได้โอบกอดเรือนร่างของเราเอาไว้ด้วยกัน“หนาวเข้าไปในกระดูกยังไงไม่รู้อะ”“ห่มผ้าแล้วนะ เอาอีกผืนไหม?”“ไม่เอา มันไม่อุ่นเลยสักนิด มันทรมานอะเจย์ ฮึก”น้ำเสียงไหวหวั่น ไปพร้อมกับร่างบางสั่นเครือ หยาดน้ำตาไหลพรากลงกระทบกับลานหัวไหล่ของเขา ทำให้เจอาร์สงสารลูกพีชจับใจนิ้วยาวจึงรีบซับน้ำตาให้ วันนี้เขาก็พึ่งเข้าใจความรู
“ฮ่า ๆ”เสียงขำขันดังลั่นที่ได้แกล้งน้องเล็ก ก่อนออเดย์จะชักมือออกจากการปิดกลีบปากนุ่มของลูกพีชด้วยความโคตรจะสะใจ สุด ๆ“พี่ ๆ เขาล้อเล่นกันเฉย ๆ นะเนิร์ด น้องอย่าไปฟังพวกบ้านี่เลย”ไบร์กี้รีบแก้ต่างให้น้องรัก เพราะเห็นทีว่าลูกพีชคงเอาชนะกะเทยสองคนนี้ไม่ได้ ตัวเองเป็นพี่ใหญ่จึงมีน้ำหนักมากกว่า“ครับ”คำตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ เข้าใจตรงกัน ตรงกันกับผีอะไรก่อน? แทนที่จะปฏิเสธช่วยกัน หนุ่มเนิร์ดหน้าใสได้เพียงแค่พยักหน้าให้คนพี่ ก่อนจะก้มลงจ้องมองหน้าจอมือถืออีกครั้งถามจริงจะนิ่งอีกนานไหม ลูกพีชก็อยากรู้ มันปฏิเสธคนเป็นหรือเปล่า หรือทำเป็นแค่กับเพื่อนตัวเองก่อนพ่อเอ๊ย“เห็นไหม? ไอ้ตี๋นั่นมันไม่เห็นปฏิเสธเหมือนมึงเลยอีแคระ เพราะมันไม่คิดกับมึงแค่เพื่อนไง”“โอ๊ยอยากจะบ้าตาย จะให้หนูพูดยังไงเนี่ยว่าเราเป็นเพื่อนกันจริง ๆ แม่”ทั้งสี่คนกระซิบกระซาบกันอยู่ปลายเตียง ก่อนจะค่อย ๆ เบือนหันไปมองไอ้เนิร์ดหน้าใสหัวใจสี่ดวงที่ยังคงนั่งดูการ์ตูนโดราเอมอนในมือถือ เหมือนเด็ก ๆทรงนี้ไม่ได้เป็นหรอกผัวอีแคระ ทรงนี้ได้เป็นลูกชายมากกว่า กูฟันธงเลย“หนูจะกลับแล้วนะ ถ้ายังแซวกันแบบนี้อะ”“เออกลับไปเลย อีช้างมึงพาอี
หลังจากอาสาจ่ายเงินค่าลิปสติกให้สาว หนุ่มเนิร์ดก็เดินตามลูกพีชออกมาจากร้าน ความเผลอไผลไปจูบเธอเมื่อครู่ พาให้เจอาร์ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันแต่ก็ยังคงห่วงและเดินตามแผ่นหลังของคนตัวเล็กเงียบๆ ไม่ยอมห่าง แม้ว่าต่างคนต่างไม่พูดอะไรกันก็ตามไม่ต่างจากเธอ ใจดวงน้อยเอาแต่เต้นรัว ท้องไส้ปั่นป่วนเหมือนมีผีเสื้อร้อยตัวบินวนไปวนมา รู้สึกหวั่นไหวจนกายสาวสั่นเครือไปด้วยทั้งที่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น เพราะเจอาร์เป็นแค่เพื่อน เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เพื่อนที่เธอไว้ใจ และไม่กล้าแม้แต่จะคิดอะไรเกินเลยกับเขาด้วยซ้ำครืดดด~แต่ความคิดทั้งหมดที่กำลังโถมเข้ามา ถูกตีแตะกระจายไปครั้นมือถือเครื่องหรูในกระเป๋าสั่นเครืออย่างรุนแรง"ออกมาจากห้องผ่าตัดแล้วเหรอแม่ โอเคหนูจะไปแล้วตอนนี้เลย"สิ้นสายนั้นใบหน้าสวยค่อยๆ เบือนกลับมามองหน้าคนตัวสูงกว่า ด้วยท่าทางขัดเขิน ไม่กล้าแม้จะสบตาเขาด้วยซ้ำ"ฉันจะไปโรงพยาบาลแล้ว นายจะกลับเลยก็ได้นะแยกกันตรงนี้""เดี๋ยวเจย์ไปเป็นเพื่อน พีชจะได้ไม่เหงาไง"คนตัวเล็กยืนนิ่ง เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ในใจว่าจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไงดี เพราะตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมกับเขาแล้ว"ไม่เป
“เฮ่ยลูกพีช พก ของเล่น มาด้วยเหรอ?”วายุเอ่ยปากแซว ทำลูกพีชตกใจ ส่งนิ้วเรียวยาวกวาดมือรวบของทุกอย่างที่อยู่บนพื้นใส่กระเป๋าด้วยความเร่งรีบจนตัวสั่น“ยังไม่ถึงวาเลนไทน์เลย พกกุหลาบสีน้ำเงินมาทำไมเนี่ย?”ทว่าดีหน่อยที่วายุ และเพทายเข้าใจว่ามันคือโมเดลของดอกไม้ จึงไม่มีใครสงสัยว่าเธอพกของเล่นผู้หญิงสุดโปรดปรานเหมือนอวัยวะชิ้นที่ 33 ของร่างกายติดกระเป๋ามาด้วย“มองอะไรอีอ้วน?”เว้นเสียแต่คนหน้าเนิร์ดเท่านั้นที่ยังคงกดตาคมคู่นั้นแน่นิ่ง พลางจ้องมองกันด้วยความสงสัยกับสิ่งที่เจอ จึงทำให้สถานการณ์ตรงหน้ามันเริ่มตึงเครียดขึ้นมาดื้อ ๆราวกับว่าเขารู้อะไรเกี่ยวกับของเล่นชิ้นนั้น ทั้งที่ไม่มีใครรู้ความลับของเธอ นอกเสียจากพี่กะเทยทั้งสามที่เป็นคนชวนลูกพีชเข้าวงการของเล่นชิ้นโปรดนี้ด้วยตัวเอง“ลูกพีชชนะไอ้เจย์แล้ว ขอรางวัลเลย”แต่กระนั้นความสงสัยและความกระวนกระวายใจต้องชะงัก ครั้นเสียงของเพทายแทรกขึ้นกลางวงสนทนา เพื่อคะยั้นคะยอให้ลูกพีชรับรางวัลจากหนุ่มหน้าใส ด้วยการขอเข้าห้องเกียร์สีแดงดั่งที่ได้ตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม“ฉันอยากดูหนัง พาไปดูหน่อย”“อะ อ้าว?”ทว่าคำขอของเธอดันผิดคาด ทำให้เพทายแล