1 สัปดาห์ผ่านไป
หลังจากวันนั้นที่ลูกพีชพยายามร้องตามหลังของเจอาร์ออกมา ทว่าเขากลับไม่หยุดฟัง ก้าวขาเดินหนีออกจากห้องของเธอไปดื้อ ๆ
กระทั่งถึงตอนนี้เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์เต็ม ๆ ที่เราไม่เจอหน้ากันอีกเลย แม้ลูกพีชจะพยายามรวบรวมความกล้า ทำหน้าหนา ๆ เข้าไว้ ด้วยการทักไปหา เพื่อขอบคุณเรื่องช่วยดูแลกันในวันที่ไม่สบาย แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ…
“อ่านแล้วไม่ตอบด้วยนะ ไอ้ตี๋บ้าเอ๊ย ฉันไม่ง้อนายแล้วก็ได้”
ในใจเกิดความสับสนหลาย ๆ อย่าง ยิ่งเห็นเขาไม่ตอบยิ่งทำให้ลูกพีชคิดไปต่าง ๆ นานา พาให้เธอไม่กล้าทักหาหนุ่มเนิร์ด อีก
“หรืออาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเราใกล้ชิดกันมากเกินไปวะ?”
คนตัวเล็กบ่นพึมพำ นั่งหน้ามุ้ยเข้าหากันเพราะกำลังสับสนกับความรู้สึกในใจ ไม่รู้ว่าแท้จริงเธอคิดแบบไหนกับเจอาร์กันแน่ ระหว่าง เพื่อน? หรือ คนรัก?
แต่ถ้าคิดแบบเพื่อนกัน แล้วเพื่อนแบบไหน? พูดแล้วรู้สึกกระด้างปากตัวเองยังไงไม่รู้ เฮ้อ!
“อีแคระ ทำไมวันนี้มึงหน้ามะระจังวะ”
“อะไรคือหน้ามะระ?”
“หน้าเละ หน้ายับไงอีดอก”
“อีเดย์มึงอย่าไปแซวมัน ลูกสาวพึ่งหายจากไข้หวัดใหญ่มา”
ไบร์กี้เห็นสีหน้าของน้องดูไม่ค่อยดีจึงอาจจะคิดว่าเป็นเพราะลูกพีชเมายาต้านเชื้อไวรัส รีบห้ามเพื่อนสาวไม่ให้กัดน้องแรง กลัวสมองเบลอ ๆ งงๆ คิดตามไม่ทัน
“แล้วเรื่องเที่ยวญี่ปุ่นว่าไงอีด้า?”
“ไปดิ กูจะพาอีชะนีน้อยหอยแคระไปช็อปปิ้งของเล่น เสียว ๆ”
“มึงเลิกพามันเล่นของเล่นพวกนั้นทีเถอะ เพราะงี้ไงถึงไม่มีผัวกับเขาสักที”
ไบร์กี้รีบสวน เป็นอย่างที่ทุกคนเข้าใจกันดีเหตุผลที่เธอไม่ยอมคบผู้ชายคนไหนหรือยอมให้ใครเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว เพราะมัวแต่ติดของเล่นงอมแงม เอาแต่คิดว่าไม่มีใครทดแทนแท่งหรรษาได้สักคน
“ไม่ใช่หรอก มันยังไม่เคยเจอผู้ชายตอกมาอะดิ”
แม้พี่ ๆ ทั้งสามจะเอ่ยปากแซว ทว่าคนน้องกลับไม่ได้สนใจอะไรสักอย่าง ไม่รู้ทำไมเธอถึงเอาแต่คิดถึงเรื่องของไอ้ตี๋หน้าเนิร์ดนั่นวนไปวนมา และปล่อยให้เจอาร์เดินเข้ามามีอิทธิพลกับใจตัวเองถึงขนาดนี้
ตั้งสติให้ดี นั่นเพื่อนค่ะสาว เพื่อนกัน เพื่อนจริง ๆ แหวะ! นึกแล้วรู้สึกรังเกียจปากตัวเองเวลาพูดว่ะ
แต่เมื่อลองถามใจตัวเองเงียบ ๆ ว่าชอบหนุ่มเนิร์ดหน้าใสนั่นจริง ๆ เหรอ ทว่าสุดท้ายก็หาคำตอบไม่ได้สักที จนหมดคาบเรียนเช้าลูกพีชจึงขอตัวกลับห้อง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งหน้าบึ้งที่โซฟา
“กูว่าไอ้เนิร์ดมันต้องชอบอีแคระแน่ ๆ”
“ไม่ชอบได้ไงนี่ลูกสาวกูดาวมหาลัยเลยนะเว้ย ไม่ชอบไม่ได้แล้วอีดอก”
นึกถึงคำพูดของพี่ ๆ ทั้งสามคน สมองก็เอาแต่คิดย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เขาช่วยดูแลเธอวันนั้น มันทำให้ลูกพีชรู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ก็จริง ฉันเป็นถึงดาวมหาลัยนะเว้ย”
คิดไปคิดมาแต่มันใช่เหรอวะ กับผู้ชายคนอื่นอาจจะชัวร์ว่าชอบเธอที่รูปร่างหน้าตาสะสวยโดดเด่น
แต่กับไอ้เนิร์ดที่เป็นเพื่อนกัน ลูกพีชเองก็เริ่มไม่แน่ใจ จะตัดสินจากสายตาที่เขามองเธอก็ไม่ใช่ เพราะเจอาร์ก็มองกันแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว
ทุก ๆ แววตามันเต็มไปด้วยความเอ็นดู เหมือนพี่ชายมองน้องสาว เวลามีอะไรเจอาร์ก็ยอมให้ลูกพีชมาตลอด
แพ้หยดน้ำตา แพ้ทุกอย่างที่คนตัวเล็กออดอ้อน แม้แต่เรื่องขอจับหนอนของเขานั้นก็ด้วย ทำมาแล้ว และก็หาทำมากด้วย
“แต่โดนจับมันก็ต้องตั้งอยู่แล้วปะ?”
แม้คืนนั้นจะชัดเจนแล้วว่าเขามีอารมณ์กับเธอจริง ๆ แต่พอมานึกย้อนดูดี ๆ ผู้ชายโดนจับเอ็นก็ต้องแข็งเป็นเรื่องธรรมดาปะ บางทีเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรก็ได้นี่หว่า
“ถ้าเจอาร์ไม่ได้คิดอะไรกันจริง ๆ แล้วมันจะจุ๊บฉันทำไมถูกไหม?”
คิดไปคิดมาก็ถูกอีก ไม่ใช่แค่จุ๊บเธอแค่ครั้งเดียวนะ นี่ล่อไปตั้งสามรอบแล้ว เพื่อนกันเล่นกันแบบนั้นเหรอ?
แต่ไหนใครเพื่อน? นึกแล้วก็สงสัย และสับสนอยู่ในใจยังไงพิลึก
“แล้วถ้ามันไม่ได้คิดอะไรจริง ๆ มันจะยอมให้จับกล้วยทำไมอีกวะ?”
เมื่อนึกถึงผิวสัมผัสที่เธอได้จับ ความรู้สึกร้อนวูบวาบเสียวท้องน้อยก็กระหน่ำเข้ามา ก่อนจะเหลือบตาไปเจอดอกกุหลาบสีน้ำเงินในกระเป๋า
ในใจเริ่มร้อนรน นึกถึงจังหวะที่สบตา และกลิ่นกายอ่อน ๆ รวมถึงเรียวปากนุ่มหยุ่น ที่เคยได้รับจากเขา มันทำให้ลูกพีชเริ่มมีอารมณ์
ใจกลางระหว่างขาเริ่มชื้นแฉะ รับรู้ได้ถึงความหนึบหนับกลางกลีบเนื้อกะทันหัน ก่อนที่มันจะปวดหนึบหนับ สั่นตุบ ๆ อย่างรุนแรงตามจังหวะการเต้นของหัวใจ
นิ้วบางจึงคว้าได้ดอกกุหลาบจากกระเป๋า ก่อนจะคลี่กลีบเพื่อดึงเอาของเล่นชิ้นเล็กพอดีมือออกมา
“คิดได้ยังไงเนี่ย?”
เรียวหน้าสวยระบายยิ้มอ่อน ๆ ใจอยากขอบคุณเจ้าของ แบรนด์ JP สุด ๆ ที่คิดค้นของเล่นอัจฉริยะออกมาขาย ครั้นภายนอกดูเหมือนโมเดลดอกไม้ทั่ว ๆ ไป
ทว่าภายในเก็บซ่อนของเล่นเพิ่มความเสียวซ่าน คล้ายนิ้วมือคน เมื่อจ่อเข้าใกล้กลีบเนื้อ มันกลับสั่นได้ และพลิ้วไหวอย่างรุนแรง จนเธอติดมันงอมแงม
แถมยังเป็นของเล่นที่ดีต่อสุขภาพน้องสาว ไม่มีการปนเปื้อนของสาร และเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ใด ๆ ทั้งสิ้น
ครั้นวัสดุที่ทำเป็นเกรดพรีเมียมที่ใช้ในทางการแพทย์อย่างดี และสำคัญสุดๆ คือ เป็นเพียงแบรนด์เดียวเท่านั้น ที่มีไอเท็มเยอะมากกว่าแบรนด์อื่น ๆ บนท้องตลาด
“ไม่ไหวแล้ว”
หัวใจทั้งดวงเต้นสั่นรัวแรง ครั้นความต้องการและกลิ่นอายของอารมณ์เสน่หา ไหลพรั่งพรูเข้ามา
ร่างเล็กเรียวระหงจึงเดินเข้าสู่ห้องน้ำ พลางดึงลิ้นชักออก เผยให้เห็นถึงของเล่นมากมาย หลายไซซ์ หลากสไตล์ที่เธอเคยใช้สนองความใคร่ ของแบรนด์ JP แค่แบรนด์เดียว ที่ครองใจมานานเกือบสี่ปีแล้ว
“จะมีสักครั้งไหม? ที่ฉันจะไม่คิดถึงนาย”
แม้ใจจะสับสนกับความรู้สึกบางอย่างในความสัมพันธ์ ทว่ามีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่เธอชัดเจนมาตลอด
นั่นคือคนในใจที่ลูกพีชกล้าใช้เรือนร่างและใบหน้าของเขาจินตนาการ เพื่อช่วยตัวเองกับของเล่นสุดหรรษาเหล่านี้
“อืม!!”
ลิ้นร้อนจรดลงที่ปลายแท่งหรรษา ก่อนจะลากเลียวนไปวนมา และละเลงความร้อนลงส่วนล่างบนพวงไข่แฝดทั้งสอง นิ้วมือบางอีกข้างเร่งปลดเปลื้องกระดุมชุดนักศึกษาออกทีละชิ้น ก่อนความอวบสองเต้าจะเด้งพ้นออกมาจากบราตัวเก่ง
มือน้อยเลื่อยลงต่ำตรงกลางกางเกงใน สัมผัสลงยังพื้นที่สามเหลี่ยม ที่ถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อผ้าบาง ๆ สุดชื้นแฉะ ก่อนมันจะถูกปลดเปลื้องออกห่างจากกลีบเนื้อไป
“อืม~”
แท่งมหัศจรรย์เคลื่อนออกจากเรียวปาก ไล่เลี่ยลงตามซอกคอขาว เนินอกอวบ ก่อนจะไต่ลงต่ำ ไปสัมผัสจ่อเอาไว้ยังกลีบเนื้อสุดซับซ้อน
ครั้นในสมองจินตนาการถึงใบหน้าของเขาเหมือนทุกครั้งที่เคยผ่านมา แต่ที่แปลกไปคือช่วงนี้เรามีโอกาสได้ใกล้ชิดกันมากกว่าปกติ
“เจอาร์~”
คงเป็นใครไม่ได้ นอกจากเขาคนที่เธอไว้ใจและใช้ใบหน้ามาจินตนาการทุกครั้ง ซึ่งตอนนี้ความต้องการยิ่งทะยานไปใหญ่ เมื่อลูกพีชนึกถึงจังหวะที่ได้จับแท่นร้อนของคนหน้าเนิร์ดจัง ๆ
ความรู้สึก ความต้องการ และความใคร่จินตนาการว่าสิ่งที่อยู่ในมือน้อย คือสิ่งที่พึ่งจับมา และตอนนี้มันกำลังมุดกลีบเนื้อเข้าไปในร่องแคบของเธอช้าๆ
“ช่วยแรง ๆ กว่านี้ได้ไหมเจย์ อือ”
กลไกของเครื่องทำงานตามคำสั่ง หมุนควงอยู่ในช่องทางรัก พร้อมจังหวะที่เธอขยับมือดันมันเข้า ๆ ออก ๆ รุนแรงขึ้น เคล้ากับเสียงครางสั่นลั่นห้องน้ำ
ครืดดด~
จังหวะนรกมาก ในขณะที่ลูกพีชกำลังจะไต่ถึงขอบสวรรค์ชั้นเจ็ด มือถือสั่นเครือพร้อมกับโชว์ เบอร์ของ พลอยพิชา ผู้เป็นมารดาโทรมาขัดจังหวะเสียก่อน
ในคราแรกกะจะไม่รับสาย แต่แม่ยังโทรตามยิก ๆ จนเธอหมดอารมณ์ไปโดยสิ้นเชิง มือน้อยจึงเร่งคว้ามากดรับให้มันจบ ๆ
ถึงได้รู้ว่าแม่โทรมาเพื่อนัดเธอทานข้าวกับ เจนจิรา ผู้เป็นมารดาของไอ้เนิร์ดหน้าตี๋นั้น ในต้นเดือนหน้า
ปัดโธ่เอ๊ย! นัดเดือนหน้าแต่โทรมานัดเธอตั้งแต่ตอนนี้ทำไมก่อนไม่ทราบ อารมณ์และความหงุดหงิดจึงทำให้ลูกพีชตอบปัด ๆ ผู้เป็นมารดาไป นิ้วบางเร่งรีบกดวางสายในทันที
“โธ่เอ๊ย สภาพ”
และนั่นก็ทำให้เธอหมดอารมณ์ไป กระทั่งต้องอาศัยภาพเคลื่อนไหวของเขาช่วยเยียวยา ยังดีว่าลูกพีชสามารถดึงอารมณ์กลับมาได้อีกครั้ง
เสียงครางจึงดังระงมอยู่ในห้องน้ำ เคล้ากับจังหวะแรงมือที่สาดส่งเครื่องเล่นสุดมหัศจรรย์เข้าไป ในร่องแคบรัว เร็วขึ้นเป็นสองเท่า
ปัก!!
ทว่าช่วงกำลังจะเสร็จสมอารมณ์หมาย เสียงคล้ายกับอะไรสักอย่างแตกหัก เร่งดึงความสนใจของลูกพีชกลับมา
ความตื่นตกใจทำให้ข้อมือบางหยุดการกระทำนั้นเอาไว้ ก่อนน้องสาวด้านในจะรับรู้ถึงความร้อนระอุ เธอจึงรีบถอดถอนมันออกมาจากจุดสงวนในทันที
ปัง!!
กรี๊ดดดด!!
เสียงกรีดร้องดังสนั่น ครั้นเกิดประกายไฟกระจายไปทั่วห้อง เมื่อของเล่นชิ้นโปรดระเบิดคามือ ทว่ายังโชคดีที่ลูกพีชโยนมันออกได้ทัน ไม่งั้นไหม้คากีกี้แน่ ๆ เวรกรรม!
เวรตะไลมาก 555555555555555
เจ้ากรรมนายเวรยัยลูกพีชมาในรูปแบบของเล่นบวกๆ 5555
ปล… บีตัดคำพูดหลายคำออก เลี่ยง RAW ถีบหัวส่ง ถ้าอยากรู้ ตำอีบุ๊คเถอะค่ะ กราบ
เพราะว่าอีพีต่อไป เนื้อเรื่องกำลังจะเข้มข้น โปรดแม่ๆ จิ้ม E-book โลด ลวดเดียวจบ
อย่าลืมกดใจ คอมเมนต์ให้กันด้วยนะคะ
สปอย
1 สัปดาห์ผ่านไปหลังจากวันนั้นที่ลูกพีชพยายามร้องตามหลังของเจอาร์ออกมา ทว่าเขากลับไม่หยุดฟัง ก้าวขาเดินหนีออกจากห้องของเธอไปดื้อ ๆกระทั่งถึงตอนนี้เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์เต็ม ๆ ที่เราไม่เจอหน้ากันอีกเลย แม้ลูกพีชจะพยายามรวบรวมความกล้า ทำหน้าหนา ๆ เข้าไว้ ด้วยการทักไปหา เพื่อขอบคุณเรื่องช่วยดูแลกันในวันที่ไม่สบาย แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ…“อ่านแล้วไม่ตอบด้วยนะ ไอ้ตี๋บ้าเอ๊ย ฉันไม่ง้อนายแล้วก็ได้”ในใจเกิดความสับสนหลาย ๆ อย่าง ยิ่งเห็นเขาไม่ตอบยิ่งทำให้ลูกพีชคิดไปต่าง ๆ นานา พาให้เธอไม่กล้าทักหาหนุ่มเนิร์ด อีก“หรืออาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเราใกล้ชิดกันมากเกินไปวะ?”คนตัวเล็กบ่นพึมพำ นั่งหน้ามุ้ยเข้าหากันเพราะกำลังสับสนกับความรู้สึกในใจ ไม่รู้ว่าแท้จริงเธอคิดแบบไหนกับเจอาร์กันแน่ ระหว่าง เพื่อน? หรือ คนรัก?แต่ถ้าคิดแบบเพื่อนกัน แล้วเพื่อนแบบไหน? พูดแล้วรู้สึกกระด้างปากตัวเองยังไงไม่รู้ เฮ้อ!“อีแคระ ทำไมวันนี้มึงหน้ามะระจังวะ”“อะไรคือหน้ามะระ?”“หน้าเละ หน้ายับไงอีดอก”“อีเดย์มึงอย่าไปแซวมัน ลูกสาวพึ่งหายจากไข้หวัดใหญ่มา”ไบร์กี้เห็นสีหน้าของน้องดูไม่ค่อยดีจึงอาจจะคิดว่าเป็นเพราะลูกพีชเมายาต
หลังจากพาลูกพีชไปโรงพยาบาล แพทย์ก็วินิจฉัยว่าเธอเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B และจัดยาให้มาเป็นกระสอบ ปล่อยคนไข้กลับบ้านมาพักผ่อนตามสเต็ปส่วนคนป่วยทั้งโดนจิ้มจมูก ทั้งโดนเจาะที่ข้อพับแขนสองข้าง อีกทั้งฉีดยากระทั่งกลับคอนโดมานั่งซึมเป็นลูกหมาหน้าหงอยตัวน้อยตัวนิดน่าสงสาร ทำสองแก้มเคลือบไปด้วยหยดน้ำตาไหลพราก พากายบางสั่นเครือเพราะพิษไข้อยู่บนเตียงนอน“หนาวอะ พะ พอแล้วเจย์ ไม่ต้องเช็ดตัวแล้ว”ผ้าชุบน้ำอุ่น ถูกวางลงที่กะละมังหลังจากเขาเห็นว่าร่างเล็กกำลังตัวสั่นด้วยความหนาวจากพิษไข้ จึงรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมลูกพีชเอาไว้ ด้วยความเป็นห่วง สุดจะทะนุถนอม“ขอกอดหน่อยสิ”แม้จะรู้ว่าลูกพีช ลูกนี้ไม่ดีต่อใจ แถมยังอันตรายกับเขาอีก ครั้นก่อนนั้นเธอวอนจะจับไข่กู แต่ตอนนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอนทว่าเพราะความสงสาร ความเป็นห่วง และความรู้สึกในใจที่มีมากกว่า เจอาร์จึงต้องยอมทำตามคำขอกอดของเธอในคราแรกเพียงแค่นอนกอดเขาเฉย ๆ จนกระทั่งทุกอย่างมันเงียบสงบลง เจอาร์จึงคิดว่าคนตัวเล็กหลับไปแล้วจริง ๆ ร่างใหญ่ค่อย ๆ ขยับตัวออกห่าง หวังให้ลูกพีชสบายขึ้นหมับ!!“อ๊ะ!! พีช!!”แต่ที่ไหนได้ มือน้อยคว้ากอดเขาในคราแร
2 ชั่วโมงผ่านไปตลอดทั้งคืนลูกพีชไข้สูงมาก เรือนร่างหนาวสั่นยิ่งกว่าลูกนกตกน้ำ มาพร้อมกับอาการคัดแน่นจมูก และปวดศีรษะอย่างรุนแรงทำให้เจอาร์ต้องคอยอยู่ใกล้ ๆ ช่วยเช็ดตัวลดไข้ให้ทั้งเหงื่อไหลไคลย้อย เนื่องจากแอร์ไม่ได้เปิดกลัวคนตัวเล็กจะหนาวแต่ทุก ๆ อย่างที่ยอมทำให้เธอ มันออกมาจากความรู้สึกในใจของเขาล้วน ๆ และแน่นอนว่าเจอาร์ไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อนเลยสักครั้ง“เจอาร์”“ว่าไงครับ?”“มานอนเป็นเพื่อนหน่อย”ในคราแรกใจไม่ค่อยกล้า ทว่าพอเห็นคนตัวเล็กนอนซมเพราะพิษไข้ก็สงสาร จึงล้มตัวลงยังพื้นเตียงข้าง ๆ ร่างของเธอ“อือ เพลียร่างจัง”กระนั้นลูกพีชกลับรีบซุกเรียวหน้าสวยลงหัวไหล่ของเขา พร้อมกับอ้อมแขนเรียวยาวยื่นมากอดร่างใหญ่เอาไว้แน่นปล่อยให้ไออุ่นจากเจอาร์ และความร้อนจากกายของเธอได้โอบกอดเรือนร่างของเราเอาไว้ด้วยกัน“หนาวเข้าไปในกระดูกยังไงไม่รู้อะ”“ห่มผ้าแล้วนะ เอาอีกผืนไหม?”“ไม่เอา มันไม่อุ่นเลยสักนิด มันทรมานอะเจย์ ฮึก”น้ำเสียงไหวหวั่น ไปพร้อมกับร่างบางสั่นเครือ หยาดน้ำตาไหลพรากลงกระทบกับลานหัวไหล่ของเขา ทำให้เจอาร์สงสารลูกพีชจับใจนิ้วยาวจึงรีบซับน้ำตาให้ วันนี้เขาก็พึ่งเข้าใจความรู
“ฮ่า ๆ”เสียงขำขันดังลั่นที่ได้แกล้งน้องเล็ก ก่อนออเดย์จะชักมือออกจากการปิดกลีบปากนุ่มของลูกพีชด้วยความโคตรจะสะใจ สุด ๆ“พี่ ๆ เขาล้อเล่นกันเฉย ๆ นะเนิร์ด น้องอย่าไปฟังพวกบ้านี่เลย”ไบร์กี้รีบแก้ต่างให้น้องรัก เพราะเห็นทีว่าลูกพีชคงเอาชนะกะเทยสองคนนี้ไม่ได้ ตัวเองเป็นพี่ใหญ่จึงมีน้ำหนักมากกว่า“ครับ”คำตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ เข้าใจตรงกัน ตรงกันกับผีอะไรก่อน? แทนที่จะปฏิเสธช่วยกัน หนุ่มเนิร์ดหน้าใสได้เพียงแค่พยักหน้าให้คนพี่ ก่อนจะก้มลงจ้องมองหน้าจอมือถืออีกครั้งถามจริงจะนิ่งอีกนานไหม ลูกพีชก็อยากรู้ มันปฏิเสธคนเป็นหรือเปล่า หรือทำเป็นแค่กับเพื่อนตัวเองก่อนพ่อเอ๊ย“เห็นไหม? ไอ้ตี๋นั่นมันไม่เห็นปฏิเสธเหมือนมึงเลยอีแคระ เพราะมันไม่คิดกับมึงแค่เพื่อนไง”“โอ๊ยอยากจะบ้าตาย จะให้หนูพูดยังไงเนี่ยว่าเราเป็นเพื่อนกันจริง ๆ แม่”ทั้งสี่คนกระซิบกระซาบกันอยู่ปลายเตียง ก่อนจะค่อย ๆ เบือนหันไปมองไอ้เนิร์ดหน้าใสหัวใจสี่ดวงที่ยังคงนั่งดูการ์ตูนโดราเอมอนในมือถือ เหมือนเด็ก ๆทรงนี้ไม่ได้เป็นหรอกผัวอีแคระ ทรงนี้ได้เป็นลูกชายมากกว่า กูฟันธงเลย“หนูจะกลับแล้วนะ ถ้ายังแซวกันแบบนี้อะ”“เออกลับไปเลย อีช้างมึงพาอี
หลังจากอาสาจ่ายเงินค่าลิปสติกให้สาว หนุ่มเนิร์ดก็เดินตามลูกพีชออกมาจากร้าน ความเผลอไผลไปจูบเธอเมื่อครู่ พาให้เจอาร์ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันแต่ก็ยังคงห่วงและเดินตามแผ่นหลังของคนตัวเล็กเงียบๆ ไม่ยอมห่าง แม้ว่าต่างคนต่างไม่พูดอะไรกันก็ตามไม่ต่างจากเธอ ใจดวงน้อยเอาแต่เต้นรัว ท้องไส้ปั่นป่วนเหมือนมีผีเสื้อร้อยตัวบินวนไปวนมา รู้สึกหวั่นไหวจนกายสาวสั่นเครือไปด้วยทั้งที่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น เพราะเจอาร์เป็นแค่เพื่อน เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เพื่อนที่เธอไว้ใจ และไม่กล้าแม้แต่จะคิดอะไรเกินเลยกับเขาด้วยซ้ำครืดดด~แต่ความคิดทั้งหมดที่กำลังโถมเข้ามา ถูกตีแตะกระจายไปครั้นมือถือเครื่องหรูในกระเป๋าสั่นเครืออย่างรุนแรง"ออกมาจากห้องผ่าตัดแล้วเหรอแม่ โอเคหนูจะไปแล้วตอนนี้เลย"สิ้นสายนั้นใบหน้าสวยค่อยๆ เบือนกลับมามองหน้าคนตัวสูงกว่า ด้วยท่าทางขัดเขิน ไม่กล้าแม้จะสบตาเขาด้วยซ้ำ"ฉันจะไปโรงพยาบาลแล้ว นายจะกลับเลยก็ได้นะแยกกันตรงนี้""เดี๋ยวเจย์ไปเป็นเพื่อน พีชจะได้ไม่เหงาไง"คนตัวเล็กยืนนิ่ง เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ในใจว่าจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไงดี เพราะตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมกับเขาแล้ว"ไม่เป
“เฮ่ยลูกพีช พก ของเล่น มาด้วยเหรอ?”วายุเอ่ยปากแซว ทำลูกพีชตกใจ ส่งนิ้วเรียวยาวกวาดมือรวบของทุกอย่างที่อยู่บนพื้นใส่กระเป๋าด้วยความเร่งรีบจนตัวสั่น“ยังไม่ถึงวาเลนไทน์เลย พกกุหลาบสีน้ำเงินมาทำไมเนี่ย?”ทว่าดีหน่อยที่วายุ และเพทายเข้าใจว่ามันคือโมเดลของดอกไม้ จึงไม่มีใครสงสัยว่าเธอพกของเล่นผู้หญิงสุดโปรดปรานเหมือนอวัยวะชิ้นที่ 33 ของร่างกายติดกระเป๋ามาด้วย“มองอะไรอีอ้วน?”เว้นเสียแต่คนหน้าเนิร์ดเท่านั้นที่ยังคงกดตาคมคู่นั้นแน่นิ่ง พลางจ้องมองกันด้วยความสงสัยกับสิ่งที่เจอ จึงทำให้สถานการณ์ตรงหน้ามันเริ่มตึงเครียดขึ้นมาดื้อ ๆราวกับว่าเขารู้อะไรเกี่ยวกับของเล่นชิ้นนั้น ทั้งที่ไม่มีใครรู้ความลับของเธอ นอกเสียจากพี่กะเทยทั้งสามที่เป็นคนชวนลูกพีชเข้าวงการของเล่นชิ้นโปรดนี้ด้วยตัวเอง“ลูกพีชชนะไอ้เจย์แล้ว ขอรางวัลเลย”แต่กระนั้นความสงสัยและความกระวนกระวายใจต้องชะงัก ครั้นเสียงของเพทายแทรกขึ้นกลางวงสนทนา เพื่อคะยั้นคะยอให้ลูกพีชรับรางวัลจากหนุ่มหน้าใส ด้วยการขอเข้าห้องเกียร์สีแดงดั่งที่ได้ตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม“ฉันอยากดูหนัง พาไปดูหน่อย”“อะ อ้าว?”ทว่าคำขอของเธอดันผิดคาด ทำให้เพทายแล