หนึ่งชะนีน้อยผู้ติด ของเล่น X งอมแงม กับ หนึ่งเพื่อนสนิทหน้าเนิร์ดสุดซับซ้อน ผู้มีห้องเกียร์สีแดงเพื่อเก็บซ่อน ความลับ บางอย่างเอาไว้ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น?... เมื่ออยู่ๆ ของเล่นชิ้นโปรดดัน ระเบิดตู้ม!! เกือบ ไหม้กีกี้ แต่เจ้าของแบรนด์ที่มารับของไปเคลมให้ ดันเป็นหนุ่มเนิร์ดหน้าใส คนที่ใจรู้จักมักจี่เป็นอย่างดีสุดๆในชีวิต
View Moreภูเก็ต
งานเลี้ยงรุ่น
กะ กรี๊ดดด!!
แสดเสียงแหลมของสาวสวยในชุดเดรสกระโปรงยาวสีขาวสง่า กรีดร้องดังลั่นทั่วทั้งงานเลี้ยงรุ่น
ครั้นสุนัขพันธุ์เกรทเดนวัยแปดเดือน หน้าตาสุดโหดตัวใหญ่เท่าช้างตกมันวิ่งหลุดออกมาจากโรงแรม เร่งกระโจนเข้าใส่ร่างสวยระหงของ ลูกพีช เชอลีน ญานิสาอัครกุล จนล้มหน้าคะมำลงกับพื้น
“ไอ้หมาบ้า!! เอามันออกไปนะ!!”
จังหวะนั้นไม่ว่าใครเห็นก็คิด มันต้องขย้ำดีกรีดาวมหาลัย เนื้อเละเป็นศพไม่สวยแน่ ๆ แต่คดีดันพลิกเฉยว่ะ
เมื่อมันกำลังคร่อมร่างเธอ พลางส่งเสยเอวหมา เด้าแดดเด้าลมใส่ จนฮอตดอกอันใหญ่จะยัดปากอยู่แล้ว ไอ้หมาบ้าหื่นกามฉิบหาย!
“เอ๋ง ๆ”
กระนั้นฟ้าทนเห็นคนสวยอับอายไม่ไหว ลูกรักที่ทวยเทพปลุกปั้นเบ้าหน้าลงมากับมือ จะเป็นสเปคหมาได้ยังไงถามก่อน?
จึงส่งพระเอกขี่ม้าขาวอย่าง เจอาร์ กวินทรี คิรากร เข้ามาดึงกระชากร่างใหญ่ของหมายักษ์สุดหื่นกามออกห่างจากเธอ
“เป็นอะไรหรือเปล่าพีช?”
หนุ่มเนิร์ดหน้าใสหัวใจสี่ดวงรีบช้อนร่างเพื่อนสาวคนสนิทขึ้นจากพื้นด้วยความเป็นห่วงสุดชีวิต
เห็นแบบนั้น ดวงตากลมโตบ้องแบ๊วจึงเปิดกว้างกว่าเก่า ทั้งตกใจและรู้สึกแปลกไปกับลุคหนุ่มเนิร์ด หน้าใสๆ ในสูทสีดำทั้งตัว
เมื่อด้านในสวมเสื้อเชิ้ตปลดกระดุมลงต่ำโชว์เนินอกวาบหวิว ดูเท่ และดูแตกต่างออกไปจากทุกครั้งที่เคยเจอกัน
“มะ ไม่ๆ ฉันไม่เป็นไร แค่ตกใจนิดหน่อย”
เส้นเสียงติดขัด ตอบกลับไปด้วยสติสตังไม่เต็มร้อย จะว่าลูกพีชกำลังอึ้งอยู่ก็ได้นะ
ทำไมวันนี้ไอ้ตี๋นี่ถึงดูดีกว่าทุกครั้งที่รู้จักกันมา นึกแปลกใจไม่ใช่น้อย
ไม่ให้เธอคิดแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อแต่ก่อนเขายัง อ้วนๆ ดำๆ เป็นหมีควาย แถมฟันก็ยื่นออกมาเล่มใหญ่ราวกับเล็บเท้าไดโนเสาร์ แทบจะทิ่มหน้าคนอื่นอยู่แล้ว
ทว่าแค่ไม่ค่อยได้เจอกันเกือบหนึ่งปี จากการเรียนต่างคณะ ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นหนุ่มตี๋แว่นหนา สูงยาวเข่าดี หน้าตาสะอาดสะอ้านราวกับพระเอกหลุดออกมาจากเทพนิยายอย่างไงอย่างงั้น
ไม่ต่างจากเจ้าตัวเช่นกันที่เอาแต่จ้องหน้าของลูกพีชนิ่ง หัวใจทั้งดวงสั่นพลิ้วไหว เพราะมันเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายจนแทบล้นปริ่ม
“อีพีช ชนแก้ว!!”
เห็นสถานการณ์สงบลง ตีตี้ และ โบตั๋น จึงลากตัวของลูกพีชไปตามโต๊ะ เร่งมือยกแก้วเหล้าส่งให้สาวสวยที่สุดในงาน ตามด้วยร่างสูงสง่าราวกับนายแบบเดินตามกลุ่มเพื่อนสาวไป
1 ชั่วโมงผ่านไป
“ไม่ไหวแล้วตี้ กูเริ่มภาพเบลอแล้วว่ะ”
เวลาผ่านไปพร้อมกับแก้วแล้วแก้วเล่ากระดกเข้าปาก จนคนตัวเล็กเริ่มเมา จึงรีบเบรกเพื่อนสาวเอาไว้ก่อนจะเซเป็นหมา
“พีชไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวที่เหลือกูดื่มแทนเองตี้”
“เฮ่ย ๆ ไอ้เนิร์ดเอาจริงดิ?”
ทุกคนต่างยืนอึ้ง เพราะรู้ดีว่าเจอาร์ไม่ค่อยดื่มแอลกอฮอล์ มีหวังคอพับไปตั้งแต่สองแก้วแน่ ๆ ทรงนี้ชัวร์
แต่ไอ้ตี๋หน้าเนิร์ดนี่ยอมแพ้ง่าย ๆ ซะที่ไหน เบือนหน้าหันไปมองลูกพีชเพื่อขอกำลังใจ พลางระบายยิ้มอ่อน ๆ ส่งให้สาว ก่อนจะกระดกน้ำเมาเข้าปากแทน
จนกระทั่งสุดท้ายเจอาร์ก็เมาตัวเซเหมือนหมา อย่างที่ทุกคนคิดเอาไว้เป๊ะ
แล้วมันต่างกันตรงไหนกับปล่อยให้เธอดื่มเองวะ? โธ่เอ๊ยพ่อพระเอกขี่ม้าขาวเมายิ่งกว่าหมา
เพราะท้ายสุดก็เป็นภาระของลูกพีชที่ต้องช่วยพยุงร่างเมาสะเปะสะปะของไอ้ตี๋นี่กลับมาห้องนอนอยู่ดี โว้ย! สภาพ
กระนั้นด้วยความเป็นห่วงว่าเขาจะเจ็บตอนนอน นิ้วบางจึงดึงแว่นตาออกจากรอบหน้าเนิร์ด กระชากผ้าห่มผืนใหญ่ขึ้นมาคลุมร่างเอาไว้
แค่กลัวว่าดึก ๆ ไอ้ตี๋น้อยมันจะเมาแล้วนอนหนาวตายอยู่ในห้องก่อนเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรในกอไผ่สักนิด
ดังนั้นเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจของจักรวาล ลูกพีชจึงตั้งท่าก้าวขาออกห่าง
“พีช!!”
นิ้วหนาเร่งดึงข้อมือบางของเธอเอาไว้ แม้จะเมามากหน่อยทว่าเขายังพอมีสติอยู่บ้าง ทำคนตัวเล็กหันกลับมาสนใจกันได้ในที่สุด
“นอนเป็นเพื่อนหน่อยสิ”
ความเมาพอสมควร สมองน้อยๆ ประมวลผลอยู่นานกว่าจะรู้ว่าเขาพูดอะไร ทว่าด้วยความที่ไม่ได้เจอกันเกือบปี
เรียวหน้าสวยจึงพยักหน้าหงึกหงักอย่างกับตุ๊กตาไขลาน แล้วดันใจง่ายด้วยสิ ค่อย ๆ ล้มตัวลงนอนเคียงข้างเขา เฉกเช่นที่เคยผ่านมา
“ขอบคุณนะเจอาร์”
“เรื่องอะไร?”
“เรื่องดึงไอ้หมาหื่นกามตัวนั้นออกให้ กับเรื่องที่ดื่มช่วยอะ”
“ครับ”
คำตอบประโยคสั้น ๆ ดังเบาหวิว ทว่าคนตัวหนากลับ ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ พลางยื่นคางอิงก่ายเอาไว้ที่หัวไหล่เรียวนิ่ง ๆ
“เจอาร์ ฉันขนลุก”
น้ำเสียงหวานเอ่ยเบาหวิว ลำพังแค่ซบหน้าลงที่หัวไหล่เรียวเฉย ๆ จะไม่ว่าอะไรสักคำ แต่ไอ้ลูกหมาหน้าเนิร์ดนี่ดันขยับเข้ามาใกล้กว่าเก่า
เฝ้าปล่อยลมร้อนผสมกลิ่นของแอลกอฮอล์พ่นใส่ซอกคอขาวจนคนนอนข้าง ๆ ขนลุกชูชันไปทั้งตัว
ยอมรับตรงๆ ว่ามันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดชอบกล เธอไม่ชินกับการกระทำของเขาตอนนี้เลยสักนิด
เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เจอาร์ไม่เคยเข้าใกล้กันถึงขั้นเนื้อแนบเนื้อเลยสักครั้ง
หรือจริงๆ แล้วเป็นเพราะมันเมาวะ?
“หึ!”
แต่แทนที่รู้แล้วจะถอยห่าง ยังมีหน้ามาส่งเสียงเข้มขบขันในลำคอ ก่อนจะปล่อยอ้อมแขนแกร่งสวมกอดเธอแน่นขึ้น ในขณะที่ใบหน้ายังซบลงที่ซอกคอสาวราวกับคนเป็นแฟนกัน
“นายจะกอดฉันทำไมเนี่ย?”
“อยากกอด คิดถึง”
ใจดวงน้อยที่กำลังสับสนสตันไปชั่ววินาที แม้จะไม่ตอบ แต่ร่างเล็กในอ้อมกอดรู้ใจตัวเองดีว่าเธอก็คิดถึงเขาไม่ต่างกัน
ลูกพีชจึงปล่อยใจจอย ค่อยๆ ขยับตัว และสอดแขนเรียวเข้าใต้ซอกคอของคนเนิร์ด
ก่อนจะดึงเขาเข้ามากอดเหมือนลูกชายนอนซบอกคุณแม่ ทั้งที่เราเป็นแค่เพื่อนกัน
ฟิลไหนนะ? กูงงมาก!
แต่ต่อให้เมาแค่ไหน อยากหลับแทบตาย แต่ไม่หลับ เมื่อนิสัยส่วนตัวสุดแปลกประหลาด ทั้งที่โตจนหมาเด้าได้แล้วยังติดจับอะไรนิ่มๆ เหมือนเด็กติดดูดจุกหลอก
แบบว่าถ้าไม่ได้จับ ก็จะนอนไม่หลับจริงๆ
กายสาวจึงขยับตัวขลุกขลักไปมา พาให้เจอาร์รู้สึกตัวจนนอนไม่หลับไปด้วย
“ทำไมไม่นอนอะพีช?”
“นอนไม่หลับ”
“ติดตัวนุ่มนิ่มอีกแล้วดิ?”
“อืม”
ยอมรับตรง ๆ ใจ ๆ ไปเลยว่าเธอติดจับเจ้านุ่มนิ่ม ตุ๊กตาหมีเน่า ตัวนั้นในห้องนอน เป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กจนโต
ซึ่งเจอาร์ก็รู้ดี จึงได้เพียงแค่นอนอมยิ้มอ่อน ๆ ด้วยความเอ็นดูเพื่อนสาวคนสนิท
ทว่าความวุ่นวายในจิตใจที่กำลังก่อกวนพานให้ลูกพีช ขยับตัวและแขนออกห่าง ค่อย ๆ เคลื่อนลงต่ำนอนจ้องหน้าของคนเนิร์ดนิ่ง
“ขอ…”
ประโยคนั้นหยุดชะงักไป กระตุ้นเปลือกตาคมค่อย ๆ ยกขึ้นมา จ้องมองหน้าคนตัวเล็กใกล้ ๆ จนได้กลิ่นลมหายใจของกันและกัน
“ขอจับหน่อยได้ไหม?”
“จับอะไร?”
น้ำเสียงออดอ้อนเบาหวิว ดวงตากลมบ้องแบ๊วกะพริบปริบๆ ขอความเห็นใจจากเขา ในแบบที่เธอเคยทำตั้งแต่เด็ก ๆ
แต่ไม่ใช่ว่าเจอาร์ไม่รู้ มาทรงนี้อยากได้อะไรสักอย่างจากกูแน่ ๆ ดูออก!
“ขอจับ....ไข่หน่อยสิ”
“ฮะ?”
หมับ!!
ความเมามากทำให้สมองคิดประมวลผลตามไม่ทัน แต่ช้าไปกว่ามือน้อยนั้น เร่งสอดเข้าใต้ขอบกางเกงในไวกว่าความเร็วแสง
สัมผัสเฉียดฉิวผ่านความใหญ่โตทั้งลำลงไป จับยังเจ้าพวงไข่แฝดสุดนุ่มนิ่มจังๆ
ไอ้ฉิบหาย! นี่มันความสัมพันธ์แบบไหนกันวะ?
“พะ พีช!!”
เท่านั้นแหละคนหน้าเนิร์ดถึงกลับสะดุ้งตัวโหยง เปิดตากว้างหายจากอาการเมาเป็นปลิดทิ้ง เร่งคว้าจับมือน้อยบนเนื้อผ้าเอาไว้แน่น
กลัวลูกพีชจะซุกซนเคลื่อนไปมาจนทำให้ความใหญ่เบอร์หกสิบเติบโตขึ้นเต็มกำลัง อุตส่าห์พยายามข่มใจข่มความรู้สึกต่าง ๆ เอาไว้แล้วนะ
ที่ไหนได้ไข่กูหายไปในเนื้อมือของยัยหมากระเป๋านี่หมดแล้ว เวรตะไลมาก!
“ยะ หยุดก่อนพีช!!”
“ก็มันนิ่มอะ”
ยิ่งเขาพยายามดึงข้อมือเล็กออกห่าง แต่นิ้วบางยังเป็นอิสระพยายามซุกซนกรอบกุมเอาพวงไข่ทั้งสองซ่อนไว้ในอุ้มมือ
“ไม่ได้พีช!! มะ มันจุก”
“ทำไมอะ มันนิ่ม”
โว้ย! อยากจะบ้าตาย มันนิ่มแต่ไข่อย่างเดียวเท่านั้นแหละ อย่างอื่นมันไม่นิ่มนะบอกไว้ก่อน
“ไข่นิ่ม แต่เอ็น ไม่นิ่มนะพีช”
สิ้นประโยคนั้นทุกอย่างก็หยุดชะงักทันที คิดว่าคนตัวเล็กจะสำนึก และดึงมือออก แต่ที่ไหนได้ เปลือกตากลมดันปิดพรึ่บลงพร้อมกับประโยคมัดคอ คอใคร? คอกูเนี่ย
“กู๊ดไนท์นะอีอ้วน”
“เฮ่ย ๆ จะมาหลับหนีกันแบบนี้ไม่ได้นะพีช”
1 สัปดาห์ผ่านไปหลังจากวันนั้นที่ลูกพีชพยายามร้องตามหลังของเจอาร์ออกมา ทว่าเขากลับไม่หยุดฟัง ก้าวขาเดินหนีออกจากห้องของเธอไปดื้อ ๆกระทั่งถึงตอนนี้เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์เต็ม ๆ ที่เราไม่เจอหน้ากันอีกเลย แม้ลูกพีชจะพยายามรวบรวมความกล้า ทำหน้าหนา ๆ เข้าไว้ ด้วยการทักไปหา เพื่อขอบคุณเรื่องช่วยดูแลกันในวันที่ไม่สบาย แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ…“อ่านแล้วไม่ตอบด้วยนะ ไอ้ตี๋บ้าเอ๊ย ฉันไม่ง้อนายแล้วก็ได้”ในใจเกิดความสับสนหลาย ๆ อย่าง ยิ่งเห็นเขาไม่ตอบยิ่งทำให้ลูกพีชคิดไปต่าง ๆ นานา พาให้เธอไม่กล้าทักหาหนุ่มเนิร์ด อีก“หรืออาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเราใกล้ชิดกันมากเกินไปวะ?”คนตัวเล็กบ่นพึมพำ นั่งหน้ามุ้ยเข้าหากันเพราะกำลังสับสนกับความรู้สึกในใจ ไม่รู้ว่าแท้จริงเธอคิดแบบไหนกับเจอาร์กันแน่ ระหว่าง เพื่อน? หรือ คนรัก?แต่ถ้าคิดแบบเพื่อนกัน แล้วเพื่อนแบบไหน? พูดแล้วรู้สึกกระด้างปากตัวเองยังไงไม่รู้ เฮ้อ!“อีแคระ ทำไมวันนี้มึงหน้ามะระจังวะ”“อะไรคือหน้ามะระ?”“หน้าเละ หน้ายับไงอีดอก”“อีเดย์มึงอย่าไปแซวมัน ลูกสาวพึ่งหายจากไข้หวัดใหญ่มา”ไบร์กี้เห็นสีหน้าของน้องดูไม่ค่อยดีจึงอาจจะคิดว่าเป็นเพราะลูกพีชเมายาต
หลังจากพาลูกพีชไปโรงพยาบาล แพทย์ก็วินิจฉัยว่าเธอเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B และจัดยาให้มาเป็นกระสอบ ปล่อยคนไข้กลับบ้านมาพักผ่อนตามสเต็ปส่วนคนป่วยทั้งโดนจิ้มจมูก ทั้งโดนเจาะที่ข้อพับแขนสองข้าง อีกทั้งฉีดยากระทั่งกลับคอนโดมานั่งซึมเป็นลูกหมาหน้าหงอยตัวน้อยตัวนิดน่าสงสาร ทำสองแก้มเคลือบไปด้วยหยดน้ำตาไหลพราก พากายบางสั่นเครือเพราะพิษไข้อยู่บนเตียงนอน“หนาวอะ พะ พอแล้วเจย์ ไม่ต้องเช็ดตัวแล้ว”ผ้าชุบน้ำอุ่น ถูกวางลงที่กะละมังหลังจากเขาเห็นว่าร่างเล็กกำลังตัวสั่นด้วยความหนาวจากพิษไข้ จึงรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมลูกพีชเอาไว้ ด้วยความเป็นห่วง สุดจะทะนุถนอม“ขอกอดหน่อยสิ”แม้จะรู้ว่าลูกพีช ลูกนี้ไม่ดีต่อใจ แถมยังอันตรายกับเขาอีก ครั้นก่อนนั้นเธอวอนจะจับไข่กู แต่ตอนนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอนทว่าเพราะความสงสาร ความเป็นห่วง และความรู้สึกในใจที่มีมากกว่า เจอาร์จึงต้องยอมทำตามคำขอกอดของเธอในคราแรกเพียงแค่นอนกอดเขาเฉย ๆ จนกระทั่งทุกอย่างมันเงียบสงบลง เจอาร์จึงคิดว่าคนตัวเล็กหลับไปแล้วจริง ๆ ร่างใหญ่ค่อย ๆ ขยับตัวออกห่าง หวังให้ลูกพีชสบายขึ้นหมับ!!“อ๊ะ!! พีช!!”แต่ที่ไหนได้ มือน้อยคว้ากอดเขาในคราแร
2 ชั่วโมงผ่านไปตลอดทั้งคืนลูกพีชไข้สูงมาก เรือนร่างหนาวสั่นยิ่งกว่าลูกนกตกน้ำ มาพร้อมกับอาการคัดแน่นจมูก และปวดศีรษะอย่างรุนแรงทำให้เจอาร์ต้องคอยอยู่ใกล้ ๆ ช่วยเช็ดตัวลดไข้ให้ทั้งเหงื่อไหลไคลย้อย เนื่องจากแอร์ไม่ได้เปิดกลัวคนตัวเล็กจะหนาวแต่ทุก ๆ อย่างที่ยอมทำให้เธอ มันออกมาจากความรู้สึกในใจของเขาล้วน ๆ และแน่นอนว่าเจอาร์ไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อนเลยสักครั้ง“เจอาร์”“ว่าไงครับ?”“มานอนเป็นเพื่อนหน่อย”ในคราแรกใจไม่ค่อยกล้า ทว่าพอเห็นคนตัวเล็กนอนซมเพราะพิษไข้ก็สงสาร จึงล้มตัวลงยังพื้นเตียงข้าง ๆ ร่างของเธอ“อือ เพลียร่างจัง”กระนั้นลูกพีชกลับรีบซุกเรียวหน้าสวยลงหัวไหล่ของเขา พร้อมกับอ้อมแขนเรียวยาวยื่นมากอดร่างใหญ่เอาไว้แน่นปล่อยให้ไออุ่นจากเจอาร์ และความร้อนจากกายของเธอได้โอบกอดเรือนร่างของเราเอาไว้ด้วยกัน“หนาวเข้าไปในกระดูกยังไงไม่รู้อะ”“ห่มผ้าแล้วนะ เอาอีกผืนไหม?”“ไม่เอา มันไม่อุ่นเลยสักนิด มันทรมานอะเจย์ ฮึก”น้ำเสียงไหวหวั่น ไปพร้อมกับร่างบางสั่นเครือ หยาดน้ำตาไหลพรากลงกระทบกับลานหัวไหล่ของเขา ทำให้เจอาร์สงสารลูกพีชจับใจนิ้วยาวจึงรีบซับน้ำตาให้ วันนี้เขาก็พึ่งเข้าใจความรู
“ฮ่า ๆ”เสียงขำขันดังลั่นที่ได้แกล้งน้องเล็ก ก่อนออเดย์จะชักมือออกจากการปิดกลีบปากนุ่มของลูกพีชด้วยความโคตรจะสะใจ สุด ๆ“พี่ ๆ เขาล้อเล่นกันเฉย ๆ นะเนิร์ด น้องอย่าไปฟังพวกบ้านี่เลย”ไบร์กี้รีบแก้ต่างให้น้องรัก เพราะเห็นทีว่าลูกพีชคงเอาชนะกะเทยสองคนนี้ไม่ได้ ตัวเองเป็นพี่ใหญ่จึงมีน้ำหนักมากกว่า“ครับ”คำตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ เข้าใจตรงกัน ตรงกันกับผีอะไรก่อน? แทนที่จะปฏิเสธช่วยกัน หนุ่มเนิร์ดหน้าใสได้เพียงแค่พยักหน้าให้คนพี่ ก่อนจะก้มลงจ้องมองหน้าจอมือถืออีกครั้งถามจริงจะนิ่งอีกนานไหม ลูกพีชก็อยากรู้ มันปฏิเสธคนเป็นหรือเปล่า หรือทำเป็นแค่กับเพื่อนตัวเองก่อนพ่อเอ๊ย“เห็นไหม? ไอ้ตี๋นั่นมันไม่เห็นปฏิเสธเหมือนมึงเลยอีแคระ เพราะมันไม่คิดกับมึงแค่เพื่อนไง”“โอ๊ยอยากจะบ้าตาย จะให้หนูพูดยังไงเนี่ยว่าเราเป็นเพื่อนกันจริง ๆ แม่”ทั้งสี่คนกระซิบกระซาบกันอยู่ปลายเตียง ก่อนจะค่อย ๆ เบือนหันไปมองไอ้เนิร์ดหน้าใสหัวใจสี่ดวงที่ยังคงนั่งดูการ์ตูนโดราเอมอนในมือถือ เหมือนเด็ก ๆทรงนี้ไม่ได้เป็นหรอกผัวอีแคระ ทรงนี้ได้เป็นลูกชายมากกว่า กูฟันธงเลย“หนูจะกลับแล้วนะ ถ้ายังแซวกันแบบนี้อะ”“เออกลับไปเลย อีช้างมึงพาอี
หลังจากอาสาจ่ายเงินค่าลิปสติกให้สาว หนุ่มเนิร์ดก็เดินตามลูกพีชออกมาจากร้าน ความเผลอไผลไปจูบเธอเมื่อครู่ พาให้เจอาร์ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันแต่ก็ยังคงห่วงและเดินตามแผ่นหลังของคนตัวเล็กเงียบๆ ไม่ยอมห่าง แม้ว่าต่างคนต่างไม่พูดอะไรกันก็ตามไม่ต่างจากเธอ ใจดวงน้อยเอาแต่เต้นรัว ท้องไส้ปั่นป่วนเหมือนมีผีเสื้อร้อยตัวบินวนไปวนมา รู้สึกหวั่นไหวจนกายสาวสั่นเครือไปด้วยทั้งที่มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น เพราะเจอาร์เป็นแค่เพื่อน เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เพื่อนที่เธอไว้ใจ และไม่กล้าแม้แต่จะคิดอะไรเกินเลยกับเขาด้วยซ้ำครืดดด~แต่ความคิดทั้งหมดที่กำลังโถมเข้ามา ถูกตีแตะกระจายไปครั้นมือถือเครื่องหรูในกระเป๋าสั่นเครืออย่างรุนแรง"ออกมาจากห้องผ่าตัดแล้วเหรอแม่ โอเคหนูจะไปแล้วตอนนี้เลย"สิ้นสายนั้นใบหน้าสวยค่อยๆ เบือนกลับมามองหน้าคนตัวสูงกว่า ด้วยท่าทางขัดเขิน ไม่กล้าแม้จะสบตาเขาด้วยซ้ำ"ฉันจะไปโรงพยาบาลแล้ว นายจะกลับเลยก็ได้นะแยกกันตรงนี้""เดี๋ยวเจย์ไปเป็นเพื่อน พีชจะได้ไม่เหงาไง"คนตัวเล็กยืนนิ่ง เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ในใจว่าจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไงดี เพราะตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมกับเขาแล้ว"ไม่เป
“เฮ่ยลูกพีช พก ของเล่น มาด้วยเหรอ?”วายุเอ่ยปากแซว ทำลูกพีชตกใจ ส่งนิ้วเรียวยาวกวาดมือรวบของทุกอย่างที่อยู่บนพื้นใส่กระเป๋าด้วยความเร่งรีบจนตัวสั่น“ยังไม่ถึงวาเลนไทน์เลย พกกุหลาบสีน้ำเงินมาทำไมเนี่ย?”ทว่าดีหน่อยที่วายุ และเพทายเข้าใจว่ามันคือโมเดลของดอกไม้ จึงไม่มีใครสงสัยว่าเธอพกของเล่นผู้หญิงสุดโปรดปรานเหมือนอวัยวะชิ้นที่ 33 ของร่างกายติดกระเป๋ามาด้วย“มองอะไรอีอ้วน?”เว้นเสียแต่คนหน้าเนิร์ดเท่านั้นที่ยังคงกดตาคมคู่นั้นแน่นิ่ง พลางจ้องมองกันด้วยความสงสัยกับสิ่งที่เจอ จึงทำให้สถานการณ์ตรงหน้ามันเริ่มตึงเครียดขึ้นมาดื้อ ๆราวกับว่าเขารู้อะไรเกี่ยวกับของเล่นชิ้นนั้น ทั้งที่ไม่มีใครรู้ความลับของเธอ นอกเสียจากพี่กะเทยทั้งสามที่เป็นคนชวนลูกพีชเข้าวงการของเล่นชิ้นโปรดนี้ด้วยตัวเอง“ลูกพีชชนะไอ้เจย์แล้ว ขอรางวัลเลย”แต่กระนั้นความสงสัยและความกระวนกระวายใจต้องชะงัก ครั้นเสียงของเพทายแทรกขึ้นกลางวงสนทนา เพื่อคะยั้นคะยอให้ลูกพีชรับรางวัลจากหนุ่มหน้าใส ด้วยการขอเข้าห้องเกียร์สีแดงดั่งที่ได้ตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม“ฉันอยากดูหนัง พาไปดูหน่อย”“อะ อ้าว?”ทว่าคำขอของเธอดันผิดคาด ทำให้เพทายแล
Comments