หลังจากที่อยู่พูดคุยกันจนหายคิดถึง ปลาทูก็ขอตัวพร้อมได้ขนมตาลติดมือกลับมาด้วย เด็กน้อยชอบกินขนมไทย ปราณีจึงไม่ลืมที่จะซื้อกลับบ้านมาทุกครั้ง
นั่งทำการบ้านอยู่ตรงโต๊ะทานข้าว จนช่วงเย็นก็ได้ยินเสียงบิ๊กไบก์ขับเข้าบ้านข้างๆ ร่างเล็กจึงลุกไปหยิบเอาถุงกระดาษที่สาวสวยฝากไว้ตรงเคาน์เตอร์ครัวแล้วกลับมานั่งทำการบ้านตามเดิม ไม่ถึงห้านาที...
“พอรู้ว่าแม่ฉันกลับมาก็ไปเสนอหน้าเลยนะ” ประโยคทักทายที่ได้ยินแล้วเป็นต้องถอดหายใจแรงๆ
ไม่เคยจะทักกันเหมือนพี่น้องคู่อื่นเลยจริงๆ
“อ่ะ” มือเล็กดันถุงที่ว่าไปตรงหน้าให้คนที่กำลังหย่อนก้นนั่ง อคิณนึกแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็เปิดดู เห็นเป็นคุกกี้ก็เปิดฝากเอาเข้าปากในทันที ถือเป็นครั้งแรกที่ยัยตัวแสบซื้อขนมให้
“นึกไงให้ขนมฉัน?”
“พี่เค้กส้ม นิเทศปีสี่ฝากมาให้ค่ะ”
“ห๊ะ!” คนตกใจวางทุกอย่างแล้วตรงเข้าห้องครัว คายสิ่งที่อยู่ในปากลงถังขยะ
“ถึงกับต้องคายทิ้งเลยเหรอพี่คิณ” ปลาทูเดินตามไปเกาะประตูดู เป็นต้องตาโตเมื่อคนพี่หันไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำมาเปิด นึกว่าจะกินแต่ไม่ เขาล้างปาก! แล้วบ้วนทิ้งลงซิงค์ล้างจาน “ตะ ต้องขนาดนั้นเลยเหรอพี่คิณ”
“คิดว่าตัวเองเป็นแม่สื่อหรือไง” จัดการตัวเองเรียบร้อยก็หันมาจัดการคนจุ้นจ้าน คิ้วเข้มขยับชนกัน บ่งบอกว่าเขากำลังไม่พอใจและกำลังจะโกรธในเวลาต่อมา “หรือว่าเป็นขี้ข้าผู้หญิงพวกนั้น ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไปเป็นควายซะ จะไปเรียนให้เสียเงินเสียทองทำไมวะ”
“...” ปลาทูได้แต่ยืนอ้าปากค้าง อยู่ๆดวงใจก็ตกวูบ มองดูคนโมโหเดินออกไปพร้อมกับถุงคุกกี้ ไม่ใช่ว่าจะเก็บไว้กินที่หลัง แต่เอาไปทิ้งลงถังขยะใหญ่หน้าบ้าน
ตั้งแต่เกิดมานี้คือครั้งแรกที่ถูกเขาด่าตรงๆและแรงขนาดนี้ เล่นเอางงอยู่เหมือนกันว่าตัวเองทำอะไรผิดพลาดตรงไหน ไม่เข้าใจเลยสักครั้ง
ปกติในช่วงค่ำอคิณมักจะมานั่งกินข้าวด้วยหรือไม่ ก็มานั่งเล่นเกมส์ที่บ้าน ทว่าวันนี้ปราณีกลับเป็นคนที่เดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยแกงที่มักจะทำอาหารเผื่อเด็กน้อยเป็นประจำ นั้นยิ่งทำให้ปลาทูรู้สึกไม่สบายใจ
แม้แต่เปิดดูซีรี่ย์เรื่องโปรดยังไม่สามารถช่วยให้สงบได้
มีบ้างที่ใจคิดจะเดินไปขอโทษกับเรื่องที่ทำลงไป แต่อีกใจกลับร้องบอกว่านี้ไม่ใช่ครั้งแรก เดี๋ยวเขาก็คงกลับมาคุยด้วยเอง มั้ง
ความหล่อเหลาหน้าตาดีของอคิณเป็นที่สนใจของสาวๆหลายคนมาตั้งแต่เด็กๆ หลายครั้งที่มีผู้หญิงฝากพวกขนม ดอกไม้และตุ๊กตามาให้ ซึ่งพี่อคิณก็ไม่เคยรับสักครั้ง แล้วก็ไม่เคยโมโหใส่กันหนักเท่าครั้งนี้ด้วย ทำเอาเครียดไปกันใหญ่
“พี่เป็นอะไรกันแน่ พี่คิณ?” ปากบางพร่ำถามอากาศ
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายดันมีอิทธิพลกับตัวเธอ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่กระวนกระวายใจไม่หยุด
พรึ่บ!
แสงไฟจากหน้าต่างห้องนอนของบ้านข้างๆดับลง แต่ดวงตาคมกริบยังคงจ้องมองไม่วางตา ใบหน้าที่เรียบนิ่งใครจะรู้ว่าข้างในร้อนรน เป็นกังวนมากแค่ไหน เขาไม่ได้ตั้งใจจะใช้คำพูดแรงๆพวกนั้นกับเธอ...ในตอนนั้นเขาแค่โคตรจะโมโห
โมโหที่ยัยเด็กนั้นเอาขนมของคนอื่นมาให้เขา
โมโหที่ยัยเด็กนั้นจุ้นจ้าน ทำในสิ่งที่เขาไม่ต้องการ
โมโหที่ยัยเด็กนั้นทำเหมือนต้องการอยากจะผลักเขาไปให้คนอื่น...
แต่ที่หน้าโมโหมากกว่านั้นคือตัวเขาเอง...ที่กำลังรู้สึกแย่ แต่ยัยเด็กปลาทูนั้นกลับนอนหลับได้อย่างสบายใจ
“ให้ตาย! กลายเป็นกูได้ไงวะที่เป็นคนนอนไม่หลับ”
เช้านี้ที่ตื่นมาโคตรจะไม่อยากตื่น แต่เพราะมีเรียนเช้าอคิณจึงหอบสังขารไปอาบน้ำ จัดการตัวเองจนเสร็จก็ลงมาด้านล่าง เห็นจานข้าวที่แม่ชอบตักแยกไว้ให้เด็กข้างบ้าน มือหนาจึงคว้ามา ตรงไปยังประตูเชื่อมระหว่างสองบ้าน
ทว่า...
สายตาพลันเห็นท้ายรถของคนตัวเล็กที่ได้ขับออกไปแล้ว
“แม่ง! โกรธก็โกรธสิวะ เรื่องนี้กูผิดที่ไหน ยัยนั้นต่างหากที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” บ่นเสร็จก็เดินกลับเข้าบ้าน วางจานข้าวเสียงดังจนผู้เป็นแม่ตกใจ
“เป็นอะไรลูก แล้วข้าวนั้นไหนว่าเอาไปให้น้อง”
“...” ไม่มีคำตอบนอกจากใบหน้าที่ตึงจัดราวกับคนที่พึ่งไปฉีดโบท็อกมา ปราณีรู้โดยธรรมชาติว่าลูกชายกำลังมีปัญหากับคนตัวเล็ก จึงส่ายหัวเบาๆขณะถอดหายใจ แต่ไม่เป็นกังวนเพราะรู้ว่าอีกเดี๋ยวทั้งคู่ก็ดีกันเอง
@ST UNIVERCITY
ใช้เวลาไม่นานอคิณก็ขับมอเตอร์ไซค์มาถึงมหาลัย ทั้งที่ไม่ตั้งใจแต่สายตาไม่รักดีก็เอาแต่คอยสอดส่องหาร่างบางที่คุ้นเคย จนเห็นว่าเด็กนั้นนั่งอยู่ใต้ตึก โต๊ะประจำที่เธอกับเพื่อนชอบนั่ง ขายาวจึงเดินไปหาเพื่อนที่ยกมือเรียก
“ไงมึง? หน้าอย่างกับไปกินรังแตนมา” คนหน้าหวานที่สุดในกลุ่มทักทายด้วยการเหน็บแนม
“หรือว่าน้องข้างบ้านไม่หาข้าวให้แดกวะ” ตามด้วยพ่อหนุ่มลูกครึ่ง
“หุบปากเหี้ยๆของพวกมึงไปเลย” สายตามองเพื่อนๆอย่างอาฆาตแค้น คนยิ่งอารมณ์ไม่ดี ยังจะแกว่งเท้าหาเสี้ยน
“โมโหเด็กแล้วมาลงที่พวกกูได้ไงวะ” คนหน้าดุที่สุดอย่างการินพูดขึ้นบ้าง อาการนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากใคร หากไม่ใช่เด็กน้อยใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังนั่งโต๊ะที่ห่างจากพวกเขาไปอีกห้าโต๊ะ
เด็กน้อยนั่งก้มหน้าก้มตาเขียนหนังสือกับเพื่อน เมื่อคืนเธอไม่มีกระจิตกระใจที่จะทำการบ้านเลยต้องออกบ้านแต่เช้าเพื่อมาขอลอกยิ้ม เออ...ไม่ได้ลอก แค่ดูไว้เป็นแนวทาง
“ดูของฉันด้วยไหม เผื่อข้อถัดไปจะได้ไม่เหมือนของยิ้ม” โบนัสถามเล่นๆ แต่ปลาทูเอาจริง
“แต้งกิ้วน้า~” นาทีนี้เธอรับหมดเพราะกลัวส่งไม่ทัน
ชายหนุ่มยิ้มหน่อยๆขณะกลอกตาไปมา ก่อนจะเอาสมุดตัวเองให้คนตัวเล็กดู ใบหน้าหวานละมุนจึงช้อนขึ้นระบายยิ้มอ่อนๆ โดยไม่รู้ว่าการที่เธอส่งยิ้มให้ชายอื่นมันโคตรจะส่งผลให้ดวงใจของใครอีกคนปวดหน่วงๆ
“คิดว่ายิ้มแล้วน่ารักหรือไงวะ”
“กูว่าก็น่ารักดีนะ” รู้ว่าเพื่อนกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน แต่อยากเห็นคนหัวร้อน เลยขอสักหน่อย
“กูก็ว่างั้น น่ารักจนผู้ชายคณะเรานี่มองกันเป็นแถบ”
“พวกมึงหุบปากดิ กูรำคาญ” ยิ่งเพื่อนตอกย้ำก็ยิ่งอยากจะปารองเท้าใส่ไอ้กลุ่มผู้ชายที่มองเด็กนั้นแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ให้ตายเถอะ! นี่เขากำลังจะเป็นบ้าเพราะยัยเด็กขี้โกงจริงๆเหรอวะ
ขี้โกงที่ทำเขาปั่นป่วน
ขี้โกงที่ทำเขาหงุดหงิด
ขี้โกงที่ไม่มาง้อเขาเหมือนเช่นทุกครั้งที่ความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นแบบนี้
“รู้ไหมว่าพวกพ่อๆกับแม่ๆเป็นห่วงมากแค่ไหน?”“ทำไมไปไหนไม่บอกไม่กล่าว?”“โทรไปก็ไม่ติด แม่เป็นห่วงจนจะบ้าแล้วลูกเอ้ย”ทั้งอคิณและปลาทูต่างก็ก้มหน้ารับฟังคำด่า เหตุเพราะหายไปกันทั้งคืนแล้วไม่ติดต่อใคร เวลานี้เอกภพกับปราณีก็บินมาด้วย ทำให้ทั้งคู่โดนสองต่อ จนหูแทบชา และด้วยความที่เป็นเด็กขี้อ้อน ร่างเล็กจึงเดินเข้าไปสวมกอดแม่ของสามี กอดแม่ตัวเองไม่ได้เดี๋ยวโดนเพิ่มข้อหา“แม่ณีขา อย่าโกรธเลยนะคะ คือพี่คิณขาเขาแค่อยากชวนหนูไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเองค่ะ” ไหนๆก็ไหนๆ รู้วิธีเอาตัวรอดเป็นยอดดี โยนขี้ให้พี่แม่งเลย!“หึ?” ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วมองภรรยาตัวน้อยด้วยความกล้ำกลืน แล้วใครมันบอกว่ามีอารมณ์วะ แม่ง!“ตาคิณ นี่แกพาน้องไปเกเรมาเหรอ?” เอกภพหันไปเท้าสะเอวใส่ลูกชาย โมโหจริงๆ เขากับภรรยาบินมาถึงตั้งแต่เช้ามืด ไม่ได้พงไม่ได้พักอะไรเลย ก็ต้องมากังวนใจเพราะไอ้ลูกตัวดี“แต่จริงๆ อคิณตามใจยัยตัวแสบตลอดนะ ไม่มีทางที่อคิณจะพาน้องไปเอง” ดารีรู้จักลูกสาวดีจึงค้าน “ดาว่ามันต้องมีอะ...”“มันจะมีอะไรล่ะน้องดา เจ้าคิณน่ะฟังใครที่ไหน” ปราณีขัดจังหวะ พลางลูบหัวลูกสะใภ้อย่างรักใคร่ ประหนึ่งว่าเด็กน้อยไม่ผิด “นี่ก็คง
อึก!อคิณถึงกับลอบกลืนน้ำลาย คำพูดคำจาของเด็กน้อยมันชวนให้หัวใจซาบซ่านเหลือเกิน“สนองมันหน่อยสิครับคนดี ซี๊ด” เป็นต้องซูดปากแรงๆ กำเบาะแน่นระบายความเสียดเสียว เด็กน้อยอ้าปากครอบเข้าไปเกือบครึ่งลำ ไม่รีรอใดๆผงกหัวขึ้นลง แรกๆก็เนิบนาบแต่สักพักก็เร่งจังหวะ โดยใช้มือสาวตรงโคนไปด้วยจ๊วบ!ปากเล็กดูดดุนจนแก้มตอบ ราวกับแท่งเอ็นร้อนคือไอศกรีมรสช็อคโกแลตชิปกับชาเขียว ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อไม่อิ่ม รัญจวนหัวใจดวงโตจนต้องขบกรามแน่น ครางเสียงเร้าร้อนดังระงมทั้งคันรถใบหน้าหวานก็ช้อนขึ้นมามองสบตาคม มันยิ่งเป็นเชื้อเพลิงปลุกกำหนัดให้เตลิด เผลอกลั้นหายใจตอนที่น้องดูดหัวเห็ดแล้วส่งยิ้มให้กันทางสายตา เล่นเอาเกร็งหน้าขาจนปวด“อ่า อย่าดูดหัว พี่เสียวค่ะ”“แล้วไม่ชอบเหรอคะ?”โห เสียงหวานขนาดนี้ กะจะไม่ยอมให้ได้เกิดกันเลยดิ“ชะ ชอบครับ อ่า” คนเสียวจัดแทบทนไม่ไหว รู้สึกทรมานเหมือนคนใจจะขาด รวบผมสลวยเอาไว้ในมือแล้วกำแน่น ขณะเดียวกันก็จ้องมองแก่นกายที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดผลุบเข้าออกไวๆคับปากอุ่นชื้น น้ำลายไหลเลอะไปทั้งท่อนเอ็น กระสันจนต้องร้องขอชีวิต “เธอครับ เบาๆ เดี๋ยวพี่แตก อือ ปลาทู หนู ที่รักพี่จะตายค่
หน้าร้านยุ่งวุ่นวายเมื่อลูกค้ามาราวกับงานลดแลกแจกแถม ปลาทูเห็นว่าพี่ๆคนอื่นรับออเดอร์ไม่ทัน จากที่กำลังช่วยเช็ดแก้ว มือเล็กจึงหยิบเอาไอแพดที่ว่างอยู่ไปรับลูกค้าแทนหลังจากรับออร์เดอร์เรียบร้อยแล้วก็วิ่งไปดูที่หลังร้าน ถึงจะเคยทำมาก่อนแต่ก็ใช่ว่าจะจำได้หมดทุกอย่าง ที่เข้ามาก็เพื่อจะอธิบายกับพ่ออีกทีว่าลูกค้าไม่เอาอันนั้น ไม่เอาอันนี้ ก่อนจะถืออาหารลูกค้าออกไปด้วย ทว่ายังไม่ทันจะผ่านพ้นประตู“ที่รักครับ” เสียงอ้อนแบบนี้รู้เลย คนรู้งานเดินกลับไปหาสามีหนุ่มแล้วยื่นแก้มให้ ขณะที่เขาก็ก้มลงมาหอมแก้มเธอโดยไม่นึกจะสนใจสายตาของคนอื่นๆ ขอให้ได้ชื่นใจ ไม่กี่วินาทีก็เอา จนถูกพ่อแซว“วิทย์ ผัดไทยไม่ต้องเติมน้ำตาลนะ” ทั้งสองต่างหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะ ก่อนจะแยกกันไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มัน เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มกว่า ใบสั่งอาหารก็เริ่มน้อยลง อคิณจึงออกมาดูหน้าร้าน ดันตาไฟเห็นเมียเด็กกำลังถูกลูกค้าชายส่งสายตาลวนลาม ไม่พอยังยื่นโทรศัพท์มาให้เธออีก จึงก้าวขายาวๆเดินผ่านโต๊ะที่พ่อตาแม่ยายนั่งอยู่ใกล้ๆหมับ!ฝ่ามือหนารวบเอวบางเข้ามาประชิดตัว ประคองดวงหน้าหวานละมุนแล้วก้มลงทาบริมฝีปากกับเรียวปากอมชมพู
วันต่อมาหลังจากที่กึ่งหลับกึ่งตื่นมาค่อนคืน เพราะร่างกายยังปรับเวลาไม่ทัน ทำให้ช่วงเช้าปลาทูเกิดอาการสะลึมสะลือ เผลอนอนลากยาว ตื่นอีกทีก็บ่าย ไม่ทันได้เจอพ่อกับแม่ที่ออกไปทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้า“ตื่นแล้วเหรอคะ?” เห็นร่างบางเดินออกจากห้องนอนมา อคิณจึงละจากงานขึ้นมองน้อง สีหน้าอ่อนล้า มันช่างต่างกับเมื่อวานลิบลับ “นอนต่อไหม หน้าเมียพี่ดูง่วงจัด”“ง่วงค่ะ” ว่าแล้วก็เดินมาหา คนเป็นพี่จึงวางโน๊ตไว้บนโต๊ะแล้วตบหน้าขา คนตัวเล็กเข้าใจก็ขึ้นไปนั่งบนตักแล้วยกมือขึ้นโอบรอบลำคอหนา “หิวหรือเปล่า อยากกินไรไหม?” ก้มลงจุมพิตขมับน้อย ซึ่งน้องก็พยักหน้า “งั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ ไปหาพ่อทินกับแม่ดากัน”“ค่ะ” น้ำเสียงงัวเงีย เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอก่อนจะสอดแขนเข้าใต้ข้อพับแล้วอุ้มคนตัวเล็กไปส่งที่ห้องน้ำ จัดเตรียมข้าวของเสื้อผ้าให้เสร็จก็ออกมาทำงานต่อรอไม่นานน้องก็ออกมาด้วยชุดเดรสกระโปร่งแขนตุ๊กตาน่ารัก ข้างนอกอากาศเย็นจึงมีเสื้อแขนยาวใส่ทับไปอีกตัว ในขณะที่เขาแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงสแล็กและตามด้วยเสื้อโค๊ทอีกที“รถสวยจังค่ะ” ปลาทูตาโตกับรถยนต์คันใหม่ของพี่ที่ผู้เป็นพ่อซื้อให้ ใบหน้าหล่อเหลาฉีก
ความเย็นสบาย ทำให้ดูการ์ตูนยังไม่ทันจะถึงครึ่งเรื่อง คนตัวเล็กก็นอนหลับซบอยู่กับอกแกร่ง ตื่นมาก็ตอนที่ใกล้จบเรื่องแล้ว ดวงตาคู่น้อยเปิดสนิท ท้องไส้ทำงานเมื่อเห็นอาหารและของหวานมารอพร้อม“พี่คิณขากลับที่ได้แล้วค่ะ” “ตื่นมาก็ไล่ผัวนี่คือไร?” “ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” เห็นพี่ชักสีหน้าใส่ก็รีบอธิบาย “หนูหิว พื้นที่วางมันนิดเดียวเอง แค่ส่วนของหนูก็เต็มโต๊ะแล้วค่ะ”“ออ...นี่เห็นแก่กินจนไม่สนใจผัวคนนี้แล้ว?” กอดอกสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอน “ไม่ใช่นะคะ หนูแค่กลัวว่าพี่คิณจะนั่งกินไม่สะดวก ที่มันแคบเนี่ยเห็นหรือเปล่า?” มีการทำไม้ทำมือวัดพื้นที่ให้พี่ดู แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี เพราะเขาอยากนั่งอยู่ตรงนี้ อยากนั่งกับเธอ อยากนั่งติดกับเธอ สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายยอม “โอเคค่ะ ถ้าพี่คิณขาไม่ลำบาก เรานั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ”คนพึงใจผุดรอยยิ้มหวาน สอดมือเข้าใต้รักแร้ของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงระหว่างขา ยกขึ้นให้มานั่งกับขาข้างหนึ่งของตัวเอง ให้ใบหน้าเราเสมอกัน แล้วนั่งทานข้าวด้วยกันทั้งแบบนั้นมีบ้างที่คนตัวเล็กเขินอายกับสายตาของผู้โดยสารบางท่านที่เดินไปเดินมากับพนักงานของสายการบิน แต่หัวใจก็เต็มเป
1เดือนต่อมาบนเครื่องบินชั้น First Class เครื่องขึ้นได้ไม่นาน อคิณก็ปลดเข็มนิรภัยแล้วเดินไปยังที่นั่งของภรรยาตัวน้อยข้างๆ เธอกำลังตาตื่นกับการหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปท้องฟ้าและตึกอาคารข้างล่างพื้นดินไม่ว่าจะขึ้นเครื่องมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ยังคงเป็นเด็กน้อยเหมือนเช่นวันวานเด็กน้อยปลาทูของพี่อคิณ มันอดไม่ได้ที่จะไม่ล้วงเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง พลางเรียกเสียงหวาน “ที่รักครับ” “คะ?” ดวงหน้าละมุนหันมา ปลายนิ้วโป้งก็กดถ่ายทันที ความน่ารักของน้องมันเย้ายวนจนไม่อาจยั้งมือถ่ายแค่หนึ่งรูป ก่อนจะเข้าไปอยู่ใกล้ๆแล้วถ่ายรูปร่วมกัน ก่อเกิดความสุขเล็กๆน้อยๆให้หัวใจได้ชุ่มช่ำ ก่อนจะถูกขัดจังหวะแอร์โฮสเตสสาวสวยมาเสริฟ Welcome Drink “ของผมเอามาไว้ตรงนั้น” ใช้สายตาชี้ไปตรงแท่นวางของ “ที่เดียวกับเมียผมเลยนะครับ” หญิงสาวเหวอไปเล็กน้อย แต่เพียงอึดใจก็ระบายยิ้มบางๆแล้ววางแก้วในส่วนของชายหนุ่มไว้คู่กันกับของเด็กสาวที่เน้นย้ำเพราะเขาเห็นนานแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นแอบหันมาส่งสายให้บ่อยๆ ถึงเขาจะไม่เล่นด้วยแต่อย่างน้อยก็ควรออกตัว ไม่อยากให้เรื่องราวมันซ้ำรอยเดิม ก่อนจะขอให้เธอปรั