Share

องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ
องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ
Author: องค์หญิงโนเนม

บทนำ

last update Last Updated: 2025-06-14 11:58:49

แคว้นหนานฉี

เมืองหลวงหนานฉี

"องค์ชายใหญ่ อย่างไรฝ่าบาทก็มีราชโองการลงมาแล้ว หากพระองค์ยังทรงดึงดันทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเช่นนี้ ไม่เท่ากับหักหน้าฝ่าบาทหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ"

เสียงของจี้เฟินองค์รักษ์คนสนิทเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน เมื่อมองเห็นท่าทีไม่ทุกข์ไม่ร้อนของเจ้านายตน 

ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้หลี่เจี้ยน ได้มีพระราชโองการให้หลี่เหว่ยองค์ชายใหญ่แห่งแคว้นหนานฉี อภิเษกสมรสกับจางลู่หลิน บุตรสาวคนโตของท่านราชครูจางสหายรักของเขา แต่ทว่าหลี่เหว่ยกลับไม่สนใจซ้ำยังทำไม่รู้ไม่ชี้ เอาแต่ดื่มเหล้า เรียกนางรำมาร่ายรำให้ดูที่จวนอยู่ทุกวันทุกคืน แม้กระทั่งราชครูจางยังเอือมระอากับพฤติกรรมของว่าที่บุตรเขยคนนี้

หลี่เหว่ยปรายตามองจี้เฟินอย่างไม่พอใจ แล้วจึงโยนจอกสุราในมือทิ้งลงบนพื้นอย่างไม่ไยดี 

"หุบปากเสียที ข้าได้ยินแล้วไม่ได้หูหนวก ให้คนไปทูลเสด็จพ่อด้วย ว่าข้าจะเข้าวังหลวงไปขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณ"

เอ่ยจบเขาก็เดินสบัดชายเสื้อกลับเข้าไปในห้องนอนทันที อีกทั้งยังยกเท้าถีบพ่อบ้านหม่าเพื่อระบายโทสะอีกหนึ่งคำรบ จี้เฟินมองตามแผ่นหลังของหลี่เหว่ยไป ก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างคิดไม่ตก

เมื่ออยู่ในห้องนอนเพียงลำพัง หลี่เหว่ยก็พรูลมหายใจออกมาคราหนึ่ง ชายหนุ่มทิ้งกายลงนอนบนเตียงและกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายเกินจะทน

เขาคือองค์ชายใหญ่แห่งแคว้นหนานฉี พระนามคือหลี่เหว่ย เป็นองค์ชายคนโตของฮ่องเต้หลี่เจี้ยน ปีนี้มีอายุยี่สิบปีแล้ว ราชวงศ์หลี่มีองค์ชายที่เกิดจากฮองเฮาสองพระองค์ และองค์หญิงอีกหนึ่งพระองค์ คนโตคือเขาหลี่เหว่ย ส่วนองค์ชายรองน้องชายของเขามีนามว่าหลี่ผิง และองค์หญิงมีนามว่าหลี่ฮวา ซึ่งหลี่ผิงและหลี่ฮวาเป็นฝาแฝดกัน ปีนี้อายุครบสิบหกปีเต็มแล้ว

เพราะถูกเสด็จพ่อตามใจจนเสียนิสัย ทำให้เขาเป็นคนไม่เห็นหัวใคร แม้กระทั่งเหล่าขุนนางยังไม่กล้ามาตอแยเขา

ไม่นานมานี้เสด็จพ่อได้มอบสมรสพระราชทานให้เขาแต่งกับจางลู่หลิ่น บุตรสาวคนโตของท่านราชครูจาง ได้ยินว่านางเป็นบุตรสาวที่เกิดจากอดีตฮูหยินคนก่อน มารดาตายจากไปนานแล้ว ต่อมาราชครูจางก็แต่งภรรยาเอกคนใหม่เข้าจวนมา และได้ให้กำเนิดบุตรชายบุตรสาว นั่นยิ่งทำให้สถานะภายในจวนของจางลู่หลินยิ่งย่ำแย่ลง นางถูกมารดาเลี้ยงและน้องสาวน้องชายกลั่นแกล้ง เดิมทีได้ยินว่านางล้มป่วยจนถึงแก่ชีวิต แต่กลับดวงแข็งรอดชีวิตกลับมาได้

เขาไม่ได้สนใจว่าสตรีคนใดจะแต่งเข้ามา เพราะสำหรับเขาแล้ว นางก็แค่บุปผางามที่เอาไว้ประดับบารมีให้เขาก็เพียงเท่านั้น

หลี่เหวยสั่งให้สาวใช้ในจวนนำสุราเข้ามาเพิ่ม เขาดื่มสุราไปหลายจอกจนรู้สึกมึนเมา ก่อนจะผล็อยหลับไป

เช้าวันต่อมาหลี่เหว่ยเดินทางเข้าวังหลวงเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้หลี่เจี้ยนผู้เป็นเสด็จพ่อ เขามุ่งหน้าไปห้องทรงอักษรทันที เมื่อมาถึงแล้วเขาก็เดินเข้าไปด้านในโดยไม่ต้องรอคำอนุญาตใดใดทั้งสิ้น

ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาก็เงยหน้าขึ้นมามองทันที เมื่อเห็นว่าเป็นหลี่เหว่ย เขาก็ส่ายหน้าไปมาด้วยความเอือมระอา แต่ไหนแต่ไรเจ้าลูกบัดซบนี่ก็ไม่เคยเห็นกฎระเบียบใดอยู่ในสายตามานานแล้ว

"ดูท่าเสด็จพ่อคงจะอารมณ์ดีไม่น้อยจึงจัดแจงงานแต่งงานให้บุตรชายโดยไม่ถามความสมัครใจสักคำ จากนั้นก็มานั่งอ่านตำราอย่างสบายใจที่นี่ สำราญใจดีใช่หรือไม่"

เมื่อได้ยินวาจาเหน็บแหนมจากปากของหลี่เหว่ย ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนก็ปรายตามองบุตรชายตน แล้วจึงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ

"ไสหัวมาได้แล้วหรือ"

"ย่อมต้องรีบไสหัวมาอยู่แล้ว อย่างไรก็ต้องมาขอบพระทัยในความกรุณาที่เสด็จพ่อทรงเลือกหาพระชายามาให้ลูก"

เอ่ยจบเขาก็ทิ้งกายลงนั่งตรงข้ามฮ่องเต้หลี่เจี้ยนและยกจอกสุราบนโต๊ะขึ้นดื่มอย่างถือวิสาสะ ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนวางตำราในมือลง แล้วจึงเอ่ยกับหลี่เหว่ยด้วยความหนักใจ

"เหว่ยเอ๋อร์ เจ้าเองก็อายุยี่สิบปีแล้ว จะเอาแต่ดื่มสุราชมบุปผาอย่างไร้แก่นสารเช่นนี้อีกไม่ได้ เจ้าไม่แหกตาดูหรือ ว่าเหล่าขุนนางเอ่ยถึงเจ้าว่าเช่นไร พวกเขาบอกว่าวันหน้าบัลลังก์นี้หากมอบให้เจ้าปกครอง ย่อมต้องมีแต่ความหายนะไร้ซึ่งความเจริญรุ่งเรือง"

“แล้วอย่างไร”

“พ่อถึงได้หาสตรีอ่อนหวานแต่งเข้ามาเป็นภรรยาของเจ้า จางลู่หลินน่ะ นางสุภาพอ่อนโยน เป็นเด็กสาวที่น่ารักน่าชัง แม้จะไร้มารดามาตั้งแต่วัยเยาว์แต่บิดาของนางก็อบรมสั่งสอนนางมาเป็นอย่างดี หากเจ้าแต่งกับนางเจ้าจะต้องพบเจอแต่ความสุขแน่นอน”

“ความสุขกับผีน่ะสิ ที่ท่านพยายามยัดเยียดหาภรรยาให้ลูก เพราะตนเองไม่อาจรับสนมได้กระมัง ขืนรับเสด็จแม่คงได้บีบคอท่านตายเพราะผิดคำสัญญา!”

ฮ่องเต้หลีเจี้ยนแทบสำลักน้ำชาที่กำลังดื่ม เขาถลึงตามองบุตรชายตนอย่างโมโห

ฮองเฮาของเขามาจากตระกูลสวี เป็นตระกูลบัณฑิตเลื่องชื่อในเมืองหลวง เขาและนางมีใจตรงกัน  หลังจากที่สนมคนก่อนตายจากไปเขาก็สัญญาว่าชาตินี้จะมีนางเพียงคนเดียวเท่านั้น

เจ้าลูกเวรนี่มันช่างจะหาทางต่อว่าเขาได้ทุกเรื่อง

“ไม่รู้ล่ะ ข้าประกาศราชโองการลงไปแล้ว หากเจ้าไม่อยากถูกมารดาเจ้าทุบตีจนตายก็อย่าก่อเรื่อง”

หลี่เหว่ยถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก เสด็จพ่อมักจะอ้างชื่อเสด็จแม่มาข่มขู่เขาอยู่เสมอ ผู้ใดบ้างไม่รู้ว่าเสด็จแม่ของเขามีนิสัยดุดันมากเพียงใด ทั้งที่เกิดในตระกูลบัณฑิตแต่กลับมีนิสัยห้าวหาญต่างจากคนในตระกูล ทั้งยังเก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ซึ่งหาได้ยากในคนที่เกิดมาจากตระกูลบัณฑิต

เมื่อเห็นว่าหลี่เหว่ยยอมสงบปากสงบคำฮ่องเต้หลี่เจี้ยนก็ลอบสะใจเป็นอย่างมาก เจ้าลูกคนนี้ไม่เอาไหน ทั้งที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ แต่หลังจากที่รบชนะและได้ชัยชนะกลับมาเขาก็หลงระเริงในอำนาจ ทำตัวเสเพลไปวันๆ เขาจึงต้องให้หลี่เหว่ยแต่งภรรยาจะได้มีความคิดความอ่านขึ้นมาบ้าง ยามนี้ยังไม่มีการเลือกองค์รัชทายาท แต่หลี่เหว่ยก็คือคนที่เขาเลือก เพราะเจ้าหลี่ผิงนั้นวันๆเอาแต่กัดจิ้งหรีด ไม่สนใจงานราชการ บุ๋นไม่รู้บู๊ไม่สน หนักข้อเสียยิ่งกว่าหลี่เหว่ยเสียอีก

ส่วนหลี่ฮวานั้นก็เป็นเพียงสตรีอีกไม่นานก็ต้องแต่งงานออกไป

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเวรกรรมอันใดที่ทำให้เขามีบุตรชายบัดซบเช่นนี้ถึงสองคน!

เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดให้สนทนากันแล้ว หลี่เหว่ยจึงขอตัวกลับจวนของตน เขาแยกจวนออกมาตั้งแต่อายุสิบแปดแล้วจึงไม่อาจรั้งอยู่ในวังหลวงต่อได้ ชายหนุ่มแวะไปเยี่ยมเยือนมารดา ก่อนจะรีบจากไป เพราะคร้านจะทนฟังมารดาบ่น

หลี่เหว่ยนั่งรถม้ามาตามทางเรื่อยๆ ระหว่างทางเขาเปิดผ้าม่านออกเพื่อชมทิวทัศน์ในเมืองหลวง วันนี้น่าเบื่อจริงๆ มิสู้เขาสั่งให้คนของตนไปซื้อนางรำมาร่ายรำให้ชมที่จวนคงจะสำราญใจไม่น้อย

ในขณะที่เขากำลังมองสิ่งใดไปเรื่อยเปื่อย ดวงตาก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวนางหนึ่ง กำลังทะเลาะกับเหล่าบุรุษที่หน้าหอนางโลม อีกทั้งยังซัดหมัดใส่ใบหน้าบุรุษเหล่านั้นไม่ยั้ง

หลี่เหว่ยขมวดคิ้วมุ่น เขาแทบไม่เคยเห็นสตรีน้อยในเมืองหลวงคนใดที่ทุบตีบุรุษเช่นนี้ จะมีก็เพียงรองแม่ทัพหญิงคนหนึ่งที่เขาฝึกฝนนางมาเองกับมือที่สามารถต่อยตีกับบุรุษได้ แต่ยามที่ถอดชุดเกราะนางก็อ่อนหวานปฏิบัติตัวอยู่ในกฎระเบียบเยี่ยงสตรีทั่วไป ไม่ได้ออกมาทุบตีคนอย่างโจ้งแจ้งเช่นนี้

 ดูจากการแต่งกายของนางแล้วก็เหมือนหญิงสูงศักดิ์ในเมืองหลวง แต่การกระทำกลับหยาบกระด้างไม่น่าดูชม

จะว่างามก็งามอยู่หรอก แต่นิสัยเช่นนี้ไม่น่ารักน่าชังเอาเสียเลย เขาชอบสตรีที่ทำตัวเหมือนกระต่ายน้อยมากกว่า

หลี่เหว่ยคร้านจะสนใจสตรีตรงหน้าอีก เขาจึงกลับจวนของตนทันที พร้อมกับสั่งให้คนไปหานางรำมาร่ายรำให้เขาดูที่จวน

อีกด้านหนึ่ง สตรีน้อยที่ถูกหลี่เหว่ยต่อว่าว่าเป็นคนหยาบกระด้างนั้น หลังจากสั่งสอนพวกอันธพาลใจโฉดแล้ว นางก็ซื้อขนมพุทราหวานกลับมากินที่จวนอย่างสบายอารมณ์ เมื่อมาถึงก็มีสาวใช้มาแจ้งว่าบิดาให้นางไปพบที่เรือนใหญ่

ทันทีที่มาถึง ก็ได้ยินเสียงของบิดาที่ตวาดนางอย่างไม่พอใจ

“จางลู่หลิน เจ้าจะแต่งงานอยู่แล้วยังออกไปทุบตีบุรุษอยู่นอกจวนโน่น เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ เหตุใดตั้งแต่รอดชีวิตจากการตกน้ำในครั้งนั้น เจ้าจึงเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้!”

จางลู่หลินมองบิดาตนสลับกับมารดาเลี้ยงคราหนึ่ง เมื่อเห็นว่ามารดาเลี้ยงและน้องสาวน้องชายที่กำลังยิ้มเยาะในคราวเคราะห์ของนางอย่างสาแก่ใจ จางลู่หลินก็ส่งเสียงเหอะในลำคอ ก่อนจะเดินเข้าไปหาน้องสาวน้องชายและฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าของพวกมันอย่างเต็มแรง

“คนเขาสนทนาเรื่องเคร่งเครียดกันอยู่ พวกเจ้าสองคนกลับยิ้มหวานเช่นนี้ ไร้มรรยาทสิ้นดี เดี๋ยวก็ถีบให้หลาบจำอีกสักหน”

ราชครูจางเมื่อเห็นว่าจางลู่หลินลงไม้ลงมือกับน้องๆ ก็บันดาลโทสะ

“ลู่หลิน เจ้าจะทำเกินไปแล้วนะ วันนี้หากข้าไม่ตีเจ้าสั่งสอน อย่ามาเรียกข้าว่าท่านพ่อ!”

“ท่านพ่อช้าก่อนเจ้าค่ะ ข้าขอกินขนมพุทราหวานก่อน ท่านรออีกสักครึ่งชั่วยามแล้วค่อยตีเถิด ให้ตายเถอะ หิวจนแสบท้องไปหมดแล้ว ท่านพ่อท่านจะรับสักชิ้นหรือไม่เจ้าคะ จะได้มีแรงยกไม้ขึ้นมาตีข้า หากว่าตีข้าจนเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมา ข้าไม่รู้ด้วยนะ”

ราชครูจาง “.....”

นี่มันเรื่องบัดซบใดกันเนี่ย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   ตอนจบ

    หลังจากดื่มกินกันอย่างสำราญใจ เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงช่วงกลางดึก หลี่เหวยกลับมายังที่พักของตน ก่อนจะพบว่ายามนี้จางลู่หลินยังคงไม่เข้านอน หญิงสาวเอาแต่มองดวงจันทร์ที่ด้านนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่วูบไหว เขาที่เริ่มมึนเมาเล็กน้อย ตรงเข้าไปกอดนางจากทางด้านหลัง ก่อนจะซบใบหน้าลงไปที่ซอกคอขาวเนียนของนาง พลางเอ่ยถาม"พระจันทร์น่ามองตรงที่ใดกัน ข้ายังน่ามองกว่าตั้งเยอะ"จางลู่หลินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ลอบเบ้ปากคราหนึ่ง "หลงตนเองเกินไปแล้ว"หลี่เหว่ยหันตัวนางให้กลับมามองเขา จางลู่หลินมองสบตากับบุรุษตรงหน้าเล็กน้อย"จางลู่หลิน เจ้ามันน่ารังเกียจ น่ารังเกียจยิ่งกว่าผู้ใด"เพียงเขาเอ่ยปากพูดก็เอาแต่พ่นวาจาเหน็บแนมนางจนนางคร้านที่จะถกเถียงกับเขาแล้ว หญิงสาวยื่นสองมือไปประคองใบหน้าของเขาเอาไว้ และพินิจมองอย่างชื่นชม"หลี่เหว่ย ข้าว่า ข้าคงชอบท่านเข้าแล้วล่ะ ไม่สิ อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ชอบเท่านั้นแต่ข้าหลงรักท่านแล้วต่างหาก"หลี่เหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นแววตาก็ทอประกายวูบไหว เขาไม่ได้เมามายถึงขนาดขาดสติ ย่อมฟังวาจาที่นางกล่าวออกมาได้อยางชัดเจนแจ่มแจ้ง ใจของเขาเต้นถี่ระรัวอย่างบ้าคลั่ง แต่ว่าค

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   ตอนที่ 31 ชัยชนะ

    เมื่อสงครามจบลง หลี่เหว่ยได้สั่งให้ฝังศพเหล่าทหารกล้าเอาไว้ที่ริมแม่น้ำซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงามที่สุดในชายแดน อีกทั้งยังเทสุราลงบนพื้นเป็นการไว้อาลัยให้กับพวกเขาที่ร่วมต่อสู้ด้วยกันมาจนได้รับชัยชนะหลายบ้านที่บุตรชายกลับมาอย่างปลอดภัยล้วนดีใจเป็นอย่างมาก แต่บ้านที่ต้องสูญเสียบุตรชายในสนามรบต่างเศร้าโศกเสียใจอย่างสุดซึ้ง หลี่เหว่ยเองก็ปลอบประโลมพวกเขาเป็นอย่างดีเมื่อได้เห็นว่าเขาอ่อนโยนกับเหล่าชาวบ้านเช่นนี้ จางลู่หลินก็นับว่าได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย เขาเอาใจใส่ราษฎรเป็นอย่างดี เรื่องเล็กๆน้อยๆล้วนคิดอ่านอย่างละเอียดรอบคอบก่อนหน้านี้ที่หลี่หรงลอบนำกองกำลังทหารออกไปได้ และจัดการเผาทำลายหมู่บ้านหลานฮวา โชคดีที่หลีเหว่ยส่งคนเฝ้าจับตาดูมานานจึงช่วยเหล่าชาวบ้านออกมาได้ ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ที่เมืองหนานหลิงและปลอดภัยดี เฟิ่งเฉวียนก็ให้การดูแลพวกเขาอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องเมื่อได้รับชัยชนะ แน่นอนว่าย่อมต้องมีการเฉลิมฉลอง เหล่าชาวบ้านในชายแดนชำนาญการล่าสัตว์และใช้เหยี่ยว อาหารที่นำมาเลี้ยงฉลองจึงมีแต่อาหารที่ชาวบ้านกินกันเป็นประจำ แต่หลี่เหว่ยกลับไม่ได้รังเกียจ เขาร่วมดื่มกินกับเหล่าทหารอย่

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   บทที่ 30 สงคราม

    เมื่อแผนการถูกเปิดเผย แน่นอนว่าหรงหวาที่เป็นท่านหญิงผู้มาจากแคว้นฉานซี รวมถึงคนของแคว้นฉานซีทั้งหมดต้องถูกจับตัวมาขังเอาไว้เพื่อรอการไต่สวนเว้นแต่อาซาน ที่หลี่เหวยพาเขาเข้าเฝ้าเสด็จพ่อของตนและบอกความจริงทุกอย่างจนกระจ่างแจ้ง ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนยามนี้ล้มป่วยหนักจึงยกมอบเรื่องราวทุกอย่างให้หลี่เหว่ยเป็นคนจัดการ หลี่เหว่ยจึงเสนอความเห็นว่าจะให้อาซานร่วมรบกับแคว้นฉานซี เขาจะทำได้หรือไม่ที่ต้องสู้รบกับแคว้นบ้านเกิดของตน อาซานกลับรับปากโดยไม่ลังเล เขาบอกเพียงว่าขอเพียงหลี่เหว่ยไม่ทำร้ายราฎรผู้บริสุทธิ์ของแคว้นฉานซีเขาก็ยินดีร่วมรบ ส่วนท่านอ๋องและขุนนางชั่วทั้งหลายก็แล้วแต่เวรแต่กรรมเถิดหลี่เหว่ยนับถือในความเด็ดเดี่ยวของอาซาน นับว่าคนผู้นี้ยังมีสติปัญญารู้คิดว่าสิ่งใดควรทำไม่ควรทำเข้าสู่ช่วงต้นฤดูหนาว หลี่เหว่ยก็ได้ทราบข่าวที่ส่งมาจากมู่กุ้ยเหมยที่อยู่ชายแดนว่า หลี่หรงนำกองทัพของตนเข้าร่วมกับแคว้นฉานซี บุกโจมตีชายแดนแคว้นหนานฉีอย่างบ้าคลั่ง ยามนี้ทหารล้มตายไปไม่น้อย ยามนี้นางพยายามต้านอย่างสุดกำลัง ขอให้เขาส่งกำลังเสริมมาช่วยนางโดยด่วนฮ่องเต้หลี่เจี้ยนมีราชโองการให้หลี่เหว่ยยนำกองทัพไปปราบ

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   บทที่ 29 จุดจบคนชั่ว

    "ว่าอย่างไรนะ คนหายไปแล้วอย่างนั้นหรือ หายไปได้เช่นไรกัน!"หรงหวาที่ได้ยินองค์รักษ์ลับเข้ามารายงานว่าบิดามารดาของอาซานได้หายออกไปจากจวนของแม่ทัพใหญ่มู่แล้วนางก็กำมือแน่น อีกทั้งยังลอบก่นด่าคนตระกูลมู่ในใจเป็นร้อยเป็นพันครั้งก่อนหน้านี้ตอนที่เดินทางมาแคว้นหนานฉีชินอ๋องหลี่หรงลูกพี่ลูกน้องของนางที่เกิดจากน้องสาวของท่านพ่อ ได้ฝากฝังนางให้แม่ทัพใหญ่มู่คอยดูแล นางจึงส่งบิดามารดาของอาซานไปคุมขังเอาไว้ที่ห้องใต้ดินของจวนตระกูลมู่ อีกทั้งยังให้แม่ทัพใหญ่มู่ทรมานคนตามที่นางสั่ง แม่ทัพใหญ่มู่เป็นคนของชินอ๋องหลี่หรง และเขาเองก็ร่วมมือกับแคว้นฉานซีต้องการจะโค่นล่มแคว้นหนานฉีเช่นเดียวกัน ความแค้นหนหลังของแม่ทัพใหญ่มู่และฮ่องเต้หลี่เจี้ยนนั้นนางไม่ได้ทราบรายละเอียดมากเท่าใดนัก แต่ก็นับว่าดีไม่น้อยที่มีคนหนุนหลังคอยช่วยเหลือแคว้นฉานซีของนาง ซ้ำยังเป็นถึงแม่ทัพใหญ่มากฝีมือแห่งแคว้นเสียด้วยแต่ยามนี้คนกลับหายไป ไม่เพียงเท่านั้น เหล่านักโทษที่ถูกขังเอาไว้ในคุกใต้ดินของจวนตระกูลมู่ก็หายไปด้วยเช่นกัน หากเรื่องราวนี้รู้ถึงหูของฮ่องเต้หลี่เจี้ยนเกรงว่าแม้แต่นางก็อาจจะไม่รอดที่สำคัญ ยามนี้ไม่มีบิดามารดาขอ

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   บทที่ 28 เอาใจภรรยาอีกหน

    ด้านหลี่เหว่ยนั้นก็ได้บอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เสด็จพ่อของตนฟัง รวมถึงบอกว่าคนที่ถูกจับมาจะสามารถเป็นพยานอย่างดีให้พวกเราได้ และแม่ทัพใหญ่มู่ก็ไม่อาจหนีรอดจากการจับกุมในครั้งนี้ไปได้ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนกัดฟันกรอด เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าแม่ทัพใหญ่มู่จะทรยศและหักหลังเขาเช่นนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าก็เคยร่วมเป็นร่วมตายในสนามรบด้วยกันมา ต่อสู่ฝ่าฟันทุกอย่างมาด้วยกัน แต่วันนี้กลับคิดทรยศหักหลังเขาได้อย่างเลือดเย็น"รักษาคนที่ถูกจับให้หายดี แล้วทำการไต่สวนพวกเขา หาหลักฐานให้ได้มากที่สุด อีกไม่นานพวกมันคงจะรู้ตัวแล้ว เราต้องรีบจัดการก่อนที่คนร้ายจะไหวตัวทัน""พ่ะย่ะค่ะ""ที่สำคัญ พ่อเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่มู่คงไม่อาจจะวางแผนการนี้ได้คนเดียว ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเขาเป็นแน่ เจ้าจงระวังเอาไว้ให้ดี""ลูกทราบแล้ว เช่นนั้นลูกขอตัวก่อน"“อืม”เมื่อไม่มีสิ่งใดแล้วหลี่เหว่ยจึงกลับมาที่จวนของตน เขายังไม่ได้บอกเรื่องของอาซานให้เสด็จพ่อทรงทราบ เพราะเรื่องของแม่ทัพใหญ่มู่ก็เป็นปัญหาใหญ่แล้ว เรื่องอื่นเขายังจัดการด้วยตนเองได้ หากหรงหวายังไม่ยอมรามือจากน้องสาวของเขา เขาจะไม่เก็บนางเอาไว้ คงทำได้เพียงส่งศีรษะของนางกลับ

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   บทที่ 27 ช่วยเหลือ

    มู่กุ้ยเหมยขมวดคิ้วมุ่น นางสบตากับหลี่เหว่ยอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย นางไม่ได้ทำสิ่งใดผิดย่อมไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องเกรงกลัว แต่ที่นางแปลกใจก็คือ เหตุใดหลี่เหวยจึงมาอยู่ในจวนของนางได้ อีกทั้งยังมีองค์หญิงหลี่ฮวาที่ตามมาด้วยหลี่เหว่ยที่เห็นว่ามู่กุ้ยเหมยไม่เอ่ยตอบ ก็ตรงเข้ามาประชิดตัวนาง ก่อนจะยกมีดสั้นวางทาบลงบนลำคอขาวเนียนของมู่กุ้ยเหมยอย่างรวดเร็ว"ตอบมา ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เห็นแก่หน้าเจ้า ต่อให้เป็นคนที่ข้าฝึกฝนมาเองกับมือ ก็อย่าหวังว่าจะได้รับการละเว้น"มู่กุ้ยเหมยที่ถูกหลี่เหว่ยข่มขู่กลับไม่โกธร นางรู้ดีว่ายามอยู่ในสถาณการณ์คับขัน หลี่เหว่ยก็จะเย็นชาเช่นนี้อยู่เสมอ นางรู้จักเขามานานหลายปี นิสัยของเขานางเข้าใจดีมู่กุ้ยเหมยรีบคุกเข่าลง ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม"เดิมทีหม่อมฉันก็สงสัยในตัวบิดาตนเองเช่นกัน จึงเข้ามาตรวจดูในห้องตำรานี้ ไม่คาดคิดว่าจะพบห้องลับ และพบว่าเขาจับคนมาขังเอาไว้และทรมานคนเหล่านั้นอย่างทารุณเช่นนี้ องค์ชายใหญ่โปรดวางพระทัย ต่อให้ตัวต้องตาย กุ้ยเหมยก็ไม่มีทางทรยศบ้านเมืองเด็ดขาด หากพระองค์มาเพื่อช่วยคน เช่นนั้นก็รีบมือเถิดเพคะ หม่อมฉั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status