Share

องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน
องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน
ผู้แต่ง: เหลียงซานเหลากุ่ย

บทที่ 1

“รายงาน! รายงานด่วน! มีตั๊กแตนระบาดหนักในเป่ยหวน เป่ยหวนได้รวบรวมกำลังทหารม้าเหล็กจำนวนสองแสนนายที่ชายแดน ราชครูแห่งเป่ยหวนได้นำทัพด้วยตนเองมุ่งมาทางเมืองหลวงเพื่อขอเสบียง อีกไม่กี่วันก็จะมาถึงเมืองหลวงแล้วขอรับ!”

“มาขอเสบียงต้องใช้กำลังพลทหารม้าเหล็กสองแสนนายเลยรึ เป่ยหวนสมควรตาย นี่มันกำลังข่มขู่ข้าชัดๆ!”

“ฝ่าบาท ราชวงศ์ของเราเพิ่งประสบกับคดีที่องค์รัชทายาทกบฏ ภายในไม่มั่นคงเป็นอย่างยิ่ง เวลานี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเปิดศึกกับเป่ยหวนได้นะพ่ะย่ะค่ะ”

“มีราชโองการ: ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ขุนนางในราชสำนักเร่งมาที่พระราชวังเพื่อประชุมด่วน หากผู้ใดล่าช้า มีโทษประหาร!”

...

ณ ที่พำนักขององค์ชายหก เรือนปี้ปัว ราชวงศ์ต้าเฉียน

หยุนเจิ้งนั่งอยู่คนเดียวที่ศาลาในสวน

แม้ว่าเขาจะยอมรับความจริงเรื่องทะลุมิติเวลามาได้แล้ว แต่ในใจยังคงรู้สึกหดหู่อยู่เล็กน้อย

เหตุใดจึงทะลุมิติเวลามาอยู่ในร่างขององค์ชายที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้เล่า!

ที่สำคัญคือ คนผู้นี้ยังบังเอิญได้รับจดหมายเลือดที่องค์รัชทายาททิ้งไว้เพื่อเปิดโปงเรื่ององค์ชายสามกล่าวหาว่าองค์รัชทายาทก่อกบฏ หลังจากนั้นก็ทำให้เขาถูกองค์ชายสามจับตามองอยู่ตลอด!

เพื่อให้ได้มาซึ่งจดหมายเลือด องค์ชายสามคอยหาเรื่องเขาทุกวัน ทุกเวลานาทีคอยคิดแต่จะเอาชีวิตเขา!

ในขณะที่หยุนเจิงหดหู่รำคาญใจ สาวใช้ในเรือนของเขาเกาะกลุ่มพูดคุยกันอย่างลับๆ

“เจ้าสวะไร้ประโยชน์คนนี้ เมื่อวานโดนองค์ชายสามตบไปฉาดหนึ่ง จนตอนนี้ยังเรียกสติกลับคืนมาไม่ได้”

“อายุก็ปาเข้าไปยี่สิบเอ็ดปีแล้ว ไม่มีแม้กระทั่งจวนของตนเอง ในราชวงศ์ของเรานี้ ก็มีเพียงเขาคนเดียวนี่แหละ”

“องค์ชายสามไม่ได้บอกหรอกหรือว่าเขาเป็นพวกเดียวกับองค์รัชทายาท ข้าว่านะ เวลาตายของเขาใกล้เข้ามาแล้วล่ะ!”

“เงียบเสียงหน่อยสิ แม้ว่าเขาจะไร้ประโยชน์ แต่อย่างไรเสียก็ยังเป็นองค์ชายอยู่นะ หากถูกผู้อื่นได้ยินเข้า พวกเราได้ตายกันแน่...”

แม้ว่าพวกนางจะเป็นสาวใช้ แต่กลับดูแคลนหยุนเจิงผู้เป็นเจ้านายอย่างเป็นที่สุด

ก็องค์ชายหกเป็นเพียงโอรสที่เกิดจากนางกำนัลตอนจักรพรรดิเหวินเมาสุรา

มารดาของเขาไม่ได้รับตำแหน่งอะไรเลยยามมีชีวิตอยู่ เพิ่งจะได้รับตำแหน่งเหม่ยเหรินตอนเสียชีวิต

หยุนเจิงไม่มีรากฐานอะไรก็ช่าง เขายังขี้ขลาดเป็นอย่างมาก สรุปก็คือหากโดนตีก็ไม่กล้าตอบโต้ หากโดนด่าก็ไม่กล้าด่าตอบ

สมควรแล้วที่จะโดนกลั่นแกล้ง!

ในขณะที่พวกนางกำลังพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ หยุนเจิงลุกขึ้นกะทันหัน

ในเมื่อไม่มีรากฐานในราชวงศ์ก็ไม่ขอใช้ชีวิตในราชวงศ์แล้ว!

ไปกุมกำลังทหารที่เขตชายแดนเสียดีกว่า!

ไม่ว่าจะอย่างไร อย่างน้อยตนก็เป็นนักเรียนดีเด่นในฝ่ายบังคับบัญชา เรื่องสู้รบเป็นเรื่องที่ถนัดที่สุด!

ขอเพียงอำนาจทหารอยู่ในมือ ใครขึ้นครองบัลลังก์เป็นฮ่องเต้ก็ต้องดูสีหน้าของเขาทั้งนั้น!

หากเขาไม่ชอบหน้าใครก็จะจัดการคนนั้น!

ใช่แล้ว เอาตามนี้แหล่ะ!

เมื่อหยุนเจิงตัดสินใจได้แล้วก็ลุกขึ้นทันที จะไปหาตาแก่นั่น

ขณะที่เขากำลังเดินออกไปด้านนอก องค์ชายสามหยุนลี่ก็เดินเข้ามาพอดี

“คาราวะองค์ชายสามเพคะ!”

เมื่อเห็นหยุนลี่ พวกนางกำนัลก็รีบคุกเข่าคาราวะ

หยุนลี่ไม่เหมือนกับหยุนเจิง เขามีฐานกำลังที่หนาแน่นมากในราชสำนัก

มารดาของเขาคือซูเฟยผู้ได้รับความโปรดปรานมากที่สุดในตอนนี้ ซูเฟยมีภูมิหลังตระกูลที่โดดเด่น และเครือญาติในตระกูลก็รับตำแหน่งใหญ่มากมายในราชสำนัก

เวลานี้ ตำแหน่งขององค์ราชทายาทยังไม่ได้ถูกแต่งตั้ง ความเป็นไปได้ที่หยุนลี่จะถูกแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาทนั้นสูงมาก

“ลุกขึ้นเถอะ!”

หยุนลี่แค่นเสียงเย็น เดินตรงไปอยู่ต่อหน้าหยุนเจิง ยิ้มหน้าเนื้อใจเสือแล้วถามขึ้นว่า “เจ้าหก เห็นข้าผู้เป็นพี่แล้วเหตุใดไม่คาราวะ”

คาราวะ?

คาราวะหามารดาเจ้าสิ!

ไอ้คนโง่เง่าเต่าตุ่น!

รอให้บิดาได้กุมอำนาจทหารก่อนเถอะ จะจัดการเจ้าเป็นคนแรกเลย!

หยุนเจิงลอบด่าในใจ เขาเกาศีรษะแล้วพูดว่า “ร่างกายข้าอ่อนแอยิ่งนัก เมื่อวานโดนพี่สามตบไปฉาดหนึ่ง ตอนนี้สติยังไม่กลับมาเลย ขอพี่สามโปรดอภัยที่ข้าไม่อาจแสดงการคาราวะท่านได้ตอนนี้”

พอหยุนลี่ได้ยินคำพูดนี้ของหยุนเจิงก็อดตกใจเล็กน้อยไม่ได้

ตบเขาไปฉาดเดียวเมื่อวาน นี่ตบจนเจ้าสวะนี่โกรธเป็นกับเขาด้วยรึ?

“น้องหก นี่เจ้ากำลังโทษที่พี่ตบเจ้าหรือ”

หยุนลี่จ้องหน้าหยุนเจิงด้วยรอยยิ้มหน้าเนื้อใจเสือ

“มิเช่นนั้นจะให้ข้าขอบคุณท่านรึ” หยุนเจิงถามกลับ

“เจ้าสมควรขอบคุณพี่สามจริงๆ!”

หยุนลี่เสแสร้งกล่าว “พี่สามสั่งสอนเจ้า เพราะดีต่อเจ้า เข้าใจหรือไม่”

หยุนเจิงส่ายศีรษะ “ข้าไม่เข้าใจ”

“ข้าว่าแล้วว่าสมองหัวขี้เลื่อยอย่างเจ้าไม่อาจเข้าใจได้!”

หยุนลี่มองเขาอย่างดูถูก หัวเราะเหอะๆ กล่าวว่า “องค์รัชทายาทก่อกบฏ คนสนิทของเขาหนีสุดชีวิตมาหาเจ้า หากคนสนิทขององค์รัชทายาทได้ให้อะไรกับเจ้า แต่ให้ตายย่างไรเจ้าก็ไม่ยอมเอาออกมา เจ้าก็จะกลายเป็นพรรคพวกขององค์รัชทายาทแล้ว!”

มาไม้อีกนี้อีกแล้ว!

เจ้าของเดิมของร่างนี้คิดว่า หากยอมมอบจดหมายเลือดแล้ว องค์ชายสามต้องฆ่าเขาปิดปากแน่นอน แต่หากไม่ยอมมอบจดหมายเลือด ก็คงถูกใส่ร้ายว่าเป็นพรรคพวกขององค์รัชทายาท อย่างไรก็คงหนีไม่พ้นโทษประหารชีวิต

คิดไปคิดมา ไอ้หนุ่มคนนี้ก็ตกใจตายเพราะความคิดของตนเองเสียนี่!

ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
พนมพร ทาใจกาศ
เยี่ยมมากๆๆๆ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status