Share

บทที่ 4

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
หากไม่หนีจะอยู่ทำหอกอันใดในวังหลวงล่ะ?

หากอยู่ในวังหลวงต่อ ก็ต้องถูกฆ่าตายเป็นแน่!

หนี!

ต้องหนี!

สายตาของจักรพรรดิเหวินดุดันขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา จ้องมองหยุนเจิงพลางกล่าว “เจ้าลูกทรพี เหตุใดเจ้าถึงไม่พูด เราจะให้เจ้าพูด ให้โอกาสเจ้าอธิบาย!”

หยุนเจิงรับกับความโกรธโค้งคำนับพลางกล่าว “ลูกไม่อยากอธิบายพ่ะย่ะค่ะ และไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายด้วย! ไม่ว่าอย่างไร ลูกก็บังอาจทำร้ายพี่สามเช่นนั้น ไปแล้ว! ลูกยอมรับโทษพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อได้ยอนคำพูดนี้ของหยุนเจิง สวีสือฝู่ก็อดที่จะทำเสียงเหอะๆ อยู่ในใจไม่ได้

สวะไร้ประโยชน์ก็ยังเป็นสวะไร้ประโยชน์อยู่วันยังค่ำ!

ให้โอกาสไปแล้วก็ไม่ใช้

ทว่า ต่อให้ให้โอกาสคนไร้ประโยชน์อธิบายมันก็ไร้ค่าอยู่ดี!

เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่ให้จักรพรรดิเหวินถอดยศฐาบรรดาศักดิ์องค์ชายไร้ประโยชน์นี้ให้เป็นสามัญชนคนธรรมดา

สวีสือฝู่ครุ่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโค้งคำนับและกล่าวว่า “ฝ่าบาท ในเมื่อองค์ชายหกยอมรับโทษแล้ว โปรดฝ่าบาทลดยศฐาบรรดาศักดิ์องค์ชายหกเป็นสามัญชนคนธรรมดา เพื่อไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง!”

“โปรดฝ่าบาทลดยศฐาบรรดาศักดิ์องค์ชายหกเป็นสามัญชนเพื่อไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่างด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

พวกพ้องขององค์ชายสามต่างยื่นคำร้อง

หยุนเจิงจดจำคนสารเลวเหล่านี้ไว้ในใจแล้ว อีกทั้งยังโค้งคำนับจักรพรรดิเหวิน และกล่าวด้วยเสียงถ้อยคำชัดว่า “ลูกรู้ว่าโทษของลูกร้ายแรงนัก ได้โปรดอภัยโทษให้ลูกด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

“อภัยโทษ?”

แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของจักรพรรดิเหวิน “เช่นนั้นเจ้ามาเรามาซิ ว่าเจ้าควรได้รับโทษเช่นไร?”

“โทษตายพ่ะย่ะค่ะ!”

หยุนเจิงกล่าวอย่างไม่คิดเลย เขาโค้งคำนับพลางกล่าว “เสด็จพ่อได้โปรดให้ลูกตายเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”

ปัง!

ทันทีที่สิ้นเสียงของหยุนเจิง ในตำหนักก็เงียบสงัดเป็นป่าสาก…

ให้โทษตายอย่างนั้นหรือ?

นึกไม่ถึงเลยว่าหยุนเจิงจะขอให้จักรพรรดิเหวินลงโทษประหารเขา

สมองเขาเลอะเลือนไปแล้วหรือไม่?

ทุกคนมองหยุนเจิงด้วยความสับสนมึนงง

ใครก็คิดไม่ถึงว่าหยุนเจิงจะเอ่ยปากขอความตายเช่นนี้

แม้แต่สองพี่น้องอย่างซูเฟยและสวีสือฝู่เองก็งุนงงสับสนไปโดยสิ้นเชิง

แม้ว่าหยุนเจิงจะไม่ได้มีตำแหน่งอันใด แต่อย่างไรเขาก็เป็นองค์ชาย

องค์ชายแห่งราชวงศ์ต้าเฉียน ขอเพียงแค่ไม่ก่อกบฏ และไม่กระทำเรื่องร้ายแรง ก็ไม่จำเป็นต้องโทษประหาร

หยุนเจิงถีบเป้ากางเกงหยุนลี่ไปครั้งเดียว ยังไม่เพียงพอที่จะให้จักรพรรดิเหวินลงโทษประหาร

แม้แต่พวกเขาเองก็ไม่อยากขอ นึกไม่ถึงเลยว่าหยุนเจิงจะเอ่ยปากขอด้วยตัวเองเช่นนี้

จักรพรรดิเหวินเองก็ตกตะลึงมากเช่นกัน

หลังจากที่เงียบไปครู่ใหญ่ จักรพรรดิเหวินก็กล่าวถามด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าจะให้ข้าลงโทษประหารเจ้า?”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

หยุนเจิงพยักหน้า “ลูกมีเพียงโทษความตายเท่านั้น!”

หัวใจของจักรพรรดิเหวินเต้นแรง

เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดหยุนเจิงถึงดื้อรั้นอยากตายมากปานนี้

แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยปลื้มบุตรชายผู้นี้ แต่อย่างไรเสียก็เป็นบุตรชายของเขา

และต่อให้หยุนเจิงจะกลัว แต่คงไม่ถึงกับกลัวจนเป็นเช่นนี้ได้

เหล่าบรรดาขุนนาง มีผู้ใดกล้าเอ่ยปากบอกให้เขาต้องโทษประหารบ้างเล่า?

หลังจากคิดไตร่ตรองดูแล้ว จักรพรรดิเหวินก็กล่าวถามด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “มีคนบังคับขมขู่เจ้าอย่างนั้นรึ?”

ในขณะที่กล่าวนั้น สายตาของจักรพรรดิเหวินก็กวาดมองไปที่ซูเฟย

ซูเฟยเห็นเช่นนี้จึงตกใจขึ้นและทวงความยุติธรรม

นางยังไม่ทันได้เอ่ยปากกล่าวอันใดกับหยุนเจิงเลย จะบังคับข่มขู่เขาได้อย่างไรกัน?

“หม่อมฉันเปล่านะเพคะ!”

หยวนเจิงส่ายศีรษะ

“แล้วเหตุอันใดเจ้าถึงรั้นอยากตายมากเช่นนี้?”

จักรพรรดิเหวินขึ้นเสียงทันใด

ทันใดนั้นเองขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นในตำหนักต่างเงียบไป

“ความผิดของลูกนั้นร้ายแรงยิ่ง สมควรตายเพื่อไถ่โทษพ่ะย่ะค่ะ!”

หยุนเจิงหล่าวด้วยใบหน้าโศกเศร้าว่า “ลูกไม่ร้องขออันใด ขอเพียงเสด็จพ่อรับปากลูกเรื่องหนึ่งได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ!”

“ว่ามา!”

จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยสีหน้าดำคร่ำเครียด

“ลูกขี้ขลาดไร้ความสามารถมาหลายปี ลูกไม่อยากตายไปอย่างขี้ขลาด!”

หยุนเจิงกัดฟันกรอดพลางกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าและโกรธว่า “เสด็จพ่อโปรดอนุญาตให้ลูกไปชายแดน ลูกยอมถือกระบี่สู้รบจนตัวตาย!”

สู้รบจนตัวตายอย่างนั้นหรือ?

แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของสวีสือฝู่

เขาเข้าใจแล้ว!

หยุนเจิงต้องการหนีไปจากวังหลวง!

“องค์ชายหกกล้าหาญยิ่งนัก แต่กระหม่อมคิดว่าไม่เหมาะสมพ่ะย่ะค่ะ”

สวีสือฝู่รีบออกมาคัดค้านทันใด “อย่างไรเสียองค์ชายหกก็เป็นถึงองค์ชาย หากแม้แต่องค์ชายต้องออกสู้รบจนตัวตายในสนามรบ พวกป่าเถื่อนเหล่านั้นคงต้องหัวเราะเยาะราชวงศ์ต้าเฉียนเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ’”

เขาไม่มีทางปล่อยให้หยุนเจิงหนีรอดไปจากวังหลวงได้หรอก!

เรื่องจดหมายเลือด หยุนลี่เคยบอกเรื่องนี้กับเขาแล้ว

พวกเขาจะต้องเอาจดหมายเลือดออกมาให้ได้!

หยุนเจิงส่ายหน้าพลางกล่าว “คำพูดนี้ของจิ้งกั๋วกง ข้าไม่เห็นด้วย!”

“อย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

สวีสือฝู่เงยหน้ามองหยุนเจิง “แล้วองค์ชายหกมีความเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ?”

หยุนเจิงยืดอกตรงพลางกล่าวเสียงดังว่า “แม้นแต่ลูกชายของชาวบ้านตาดำๆ ยังต้องออกศึกสู้รบตายเพื่อต้าเฉียนได้เลย ข้าในฐานะที่เป็นโอรสของฮ่องเต้ ก็ควรเป็นแบบอย่างให้กับใต้หล้าไม่ใช่หรือ!”

“แต่ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ก็ไม่มีเคยองค์ชายใดต้องออกศึกสู้รบตายในสนามรบ กฎบ้านเมืองไม่อาจฝืนได้พ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้น ให้เริ่มที่หยุนเจิงเป็นคนแรกเลยก็แล้วกัน!!”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 5

    เช่นนั้น ให้เริ่มที่หยุนเจิงเป็นคนแรกเลยก็แล้วกัน!คำพูดของหยุนเจิงทรงพลัง ดังก้องไปทั้งตำหนักเมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง ความเป็นวีรบุรุษก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในใจของคนหลายคนแม่ทัพหลายคนไม่ได้สนิทมักคุ้นกับหยุนเจิง ยากมากที่จะได้รับความชื่นชมจากพวกเขาไม่นานนักหลายคนต่างเอ่ยปากกล่าวออกมาว่า“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่า มีความเป็นไปได้สูงว่าเรากับเป่ยหวนจะเปิดศึกรบกัน! หากองค์ชายหกลงสนามออกรบด้วยตัวเอง จะเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจให้กองทัพได้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท! องค์ชายหกมีฐานะสูงศักดิ์ แต่ยังใจกล้าออกรบไม่กลัวตาย กระหม่อมเป็นชาวต้าเฉียน จะเสียดายชีวิตได้อย่างไรกันพ่ะย่ะค่ะ?”“ได้โปรดฝ่าบาทอนุญาตองค์ชายหกด้วยพ่ะย่ะค่ะ เพื่อเป็นการเพิ่มขวัญกำลังให้ให้เหล่าทหาร!”ในขณะที่แม่ทัพกล่าวนั้น ก็มีเสียงสนับสนุนปรากฏขึ้นไม่น้อยโดยเฉพาะฝ่ายบู๊พวกเขาไม่ได้หวังว่าหยุนเจิงจะฆ่าศัตรูในสนาม แต่หยุนเจิงสามารถทำให้ขวัญกำลังของกองทัพแข็งแกร่งขึ้นได้จริงๆสำหรับทางเหนือที่อาจเปิดศึกสงครามได้ตลอดเวลานั้น เรื่องนี้เป็นข่าวดีอย่างไม่ต้องสงสัยเลยเมื่อได้ยินคำพูดนี้ขอ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 6

    ซูเฟยสีหน้าเปลี่ยนทันที รีบร้อนพูดขึ้นว่า “ฝ่าบาทเพคะ แม้ว่าลี่เออร์จะไม่เป็นไรมาก แต่…”“หุบปาก!”จักรพรรดิเหวินเบิกพระเนตรจ้องไปที่ซูเฟย “เจ้าหกนิสัยเช่นไร ขุนนางบู๊บุ๋นทั่วทั้งราชสำนักต่างรู้ดี! หากวันนี้ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่อง เจ้าหกจะกล้าทำเช่นนี้กับเจ้าสามหรือ ข้าก็ไม่อยากไล่ถามถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้แล้ว เรื่องนี้จบเพียงเท่านี้!”ซูเฟยชะงักงัน ตอนนี้นางยิ้มไม่ออกแล้วจักรพรรดิเหวินปรามซูเฟยแล้วก็โบกพระหัตถ์ไปยังหยุนเจิงอย่างเหนื่อยล้า “แล้วเจ้าก็กลับไปขอโทษที่สามของเจ้าด้วย เรื่องนี้ก็ให้มันผ่านไปเช่นนี้เถอะ!”ซวยแล้ว!แสดงเกินบทบาท!หยุนเจิงค่อยๆ มองไปทางสวีสือฝู่กับซูเฟย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสองพี่น้องนี้จะกระโดดขึ้นมาคัดค้านแม้ว่าสวีสือฝู่กับซูเฟยไม่กล้าดื้อดึงสุดขีดอีก แต่คำพูดของจักรพรรดิเหวินเมื่อครู่นี้ได้ตัดความคิดที่จะเรียกร้องให้จักรพรรดิเหวินลดหยุนเจิงเป็นเพียงสามัญชนแล้วจากนี้ย่อมมีโอกาสจัดการหยุนเจิง!พอหยุนเจิงเห็นว่าคาดหวังอะไรจากคนตัวดีสองคนนี้ไม่ได้เลย เขาจึงคุกเข่าลง “ตุ้บ“ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่มีพระทัยกว้างขวาง!”หยุนเจิงพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “แต

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 7

    ไม่ว่าหยุนเจิงจะยินยอมหรือไม่ จักรพรรดิเหวินก็ได้ออกราชโองการแล้ว เขาก็ทำได้แต่ยอมรับเอาเถอะ!แต่งงานพระราชทานก็พระราชทานมาเถอะ!เอาอำนาจทหารมาให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน!จะยังไง จะดีจะร้ายยังไงตนก็ยังคงเป็นองค์ชายอยู่นะ!พิธีมงคลสมรสขององค์ชาย ต่อให้พวกขุนนางจะดูถูกตนมากเพียงใด อย่างไรก็ต้องเออออตามกันอืม ฉวยโอกาสทำเงิน!ยิ่งมากยิ่งดีมีทัพทหารม้าแล้วก็ต้องมีเงินมีเสบียงกรังด้วย!เพียงแต่ หากเป็นเช่นนี้ ก็ต้องอยู่ที่เมืองหลวงอีกสักช่วงหนึ่งสินะ!พวกหยุนลี่กับซูเฟยก็ต้องฉวยโอกาสนี้แก้แค้นตนแน่ๆ!ช่วงเวลาที่อยู่เมืองหลวงนี้ เป็นช่วงเวลาที่เสี่ยงอันตรายมากแน่ๆต้องรีบหาวิธีรับมือ!“องค์ชายหก ช้าก่อน!”ขณะที่หยุนเจิงเดินไปคิดไปนั้น หัวหน้าขันทีมู่ซุ่นผู้รับใช้ข้างกายจักรพรรดิเหวินก็ไล่ตามเขามาหยุนเจิงหยุดฝีเท้า หันหลังกลับดูมู่ซุ่น “หัวหน้ามู่เรียกข้าด้วยเรื่องอันใดหรือ”หยุนเจิงมองมู่ซุ่น จิตใจของเขาตื่นตระหนกขึ้นมามู่ซุ่นเป็นคนสนิทใกล้ตัวพ่อจำเป็นนั่นเชียวนะแม้แต่องค์รัชทายาทองค์ก่อนยังต้องให้เกียรติมู่ซุ่นถ้าหากว่าสามารถชักชวนมู่ซุ่นมาเป็นพวก…ไม่ช้า หยุนเจิงก็ยกเลิ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 8

    มู่ซุ่นหัวเราะเหอะๆ แล้วเหงยหน้ามองหยุนเจิง“ไม่ต้องมากพิธี!”หยุนเจิงยกมือขึ้นเล็กน้อย ในใจคิดว่ามู่ซุ่นช่างเป็นผู้รู้ความจริงๆ“ขอบพระทัยเพคะ”ทั้งกลุ่มคนจึงยืดตัวยืนตรง“ฮูหยินเสิ่น ยินดีด้วย ยินดีด้วยจริงๆ!”เมื่อมู่ซุ่นเห็นฮูหยินเสิ่นเขาจึงรีบกล่าวยินดีฮูหยินเสิ่นยินดียิ่ง รีบถามขึ้นว่า “หัวหน้ามู่เจ้าคะ มีเรื่องอันใดให้ยินดีหรือ”มู่ซุ่นลีลาเล็กน้อย ก่อนจะถามขึ้นอีกว่า “คุณหนูเสิ่นลั่วเยี่ยนอยู่ไหนหรือ”เสิ่นลั่วเยี่ยนพอได้ยิน ก็รีบก้าวเท้าไปด้านหน้าหนึ่งก้าว “ข้าน้อยคาราวะท่านหัวหน้ามู่เจ้าค่ะ”หยุนเจิงมองเสิ่นลั่วเยี่ยนอย่างละเอียดดวงตาสดใสฟันขาวสะอาด รูปร่างสูงเพรียวมีร่องรอยของความกล้าหาญระหว่างคิ้วนับว่าเป็นสาวงามที่ห้าวหาญ!มู่ซุ่นมองที่เสิ่นลั่วเยี่ยนแวบหนึ่ง แล้วส่งเสียงดังขึ้นอย่างกะทันหัน “เสิ่นลั่วเยี่ยนรับราชโอการ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนตกใจค้าง รีบคุกเข่าลงรับราชโองการ“ฝ่าบาทมีราชโองการ: ตระกูลเสิ่น จงรักภักดีมิเสื่อมคลาย มีศีลธรรมอันดี สมเป็นมาตรฐานของราชวงศ์เรา! วันนี้เป็นฤกษ์ดี มีราชโองการให้พระราชทานเสิ่นลั่วเยี่ยนเป็นพระชายาเอกขงอองค์ชายหก เลือกวั

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 9

    เสิ่นเนี่ยนฉือ!เสิ่นลั่วเยี่ยนมองไปที่หลานสาวของตนนี่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเพียงหนึ่งเดียวของพี่ชายคนโตนาง!เสิ่นลั่วเยี่ยนเห็นเสิ่นเนี่ยนฉือร้องไห้โฮเพราะความตกใจ ใจนางจึงอ่อนลงเว่ยซวงรีบวิ่งไปอุ้มลูกสาวของตนมา ขอร้องน้ำตานองหน้า “ลั่วเยี่ยน พวกเราตายไม่เป็นไร แต่เนี่ยนฉือยังมีอายุไม่ถึงเจ็ดปีเลย!”เสิ่นลั่วเยี่ยนเห็นหลานสาวมีน้ำตาอาบสองแก้ม มือที่กำหมัดแน่นของนางก็คลายออกตุ้บ!เสิ่นลั่วเยี่ยนคุกเข่าลง น้ำตาแห่งความเสียใจและความโกรธไหลผ่าน“หม่อมฉัน…รับราชโองการ ขอบพระทัยฝ่าบาท!”ขณะที่พูดสองประโยคนี้ เสิ่นลั่วเยี่ยนราวกับว่าตนได้ดึงพลังงานทั้งหมดออกจากร่างไปแล้วกระทั่งตอนที่เสิ่นลั่วเยี่ยนรับราชโองการ สีหน้าของมู่ซุ่นจึงได้แปรเปลี่ยนเป็นดี“เช่นนั้นข้าก็ขอตัวกลับไปรายงานก่อน สำหรับเรื่องกำหนดวันสมรสนั้น จะแจ้งให้ทราบภายหลัง!”พูดไปมู่ซุ่นก็มองไปที่หยุนเจิง “องค์ชายหก พวกเรากลับวังกันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”“หัวหน้ามู่เชิญกลับก่อนเถอะ ข้าอยากจะพูดคุยกับพวกนางสักหน่อย”หยุนเจิงยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “หัวหน้ามู่ คุณหนูเสิ่นตกใจจนเสียการควบคุม เรื่องในวันนี้ ขอหัวหน้ามู่รายงานเสด็

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 10

    “…”เสิ่นลั่วเยี่ยนใบหน้ากระตุกอย่างคุมไม่ได้ ตะโกนขึ้นมาอย่างเหลืออดว่า “ใครจะไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้า ต่อให้ข้าต้องตาย ก็จะไม่ตายพร้อมกับเจ้า!” ต้องขนาดนี้เลยหรือ?ยัยเด็กโง่นี่!แค่หยอกล้อเล่นนิดหน่อย นางยังคิดถือเป็นจริงจัง?สติปัญญานาง ดูท่าแล้วคงไม่ได้สูงมากนัก?นางฝึกสมองแต่ไปขึ้นที่กล้ามเนื้อแล้วหรือไง?เสียงกบร้องระงม แมลงวันบินดังหวี่ๆ ทั้งวี่ทั้งวันไม่มีใครฟังไก่ขันเพียงยามเช้า แต่กลับปลุกสรรพสิ่งให้ตื่นจากภวังค์ได้คำพูดหากไม่มีใครฟัง ก็อย่าได้พูดพล่ามเลยหยุนเจิงลอบหัวเราะในใจ แล้วพูดหยอกล้อขึ้นอีกว่า “เสด็จพ่อได้พระราชทานงานสมรสแล้ว หากพวกเราล้วนตกตายกันไปหมด คาดว่าเสด็จพ่อคงสั่งให้คนฝังเราไว้ด้วยกัน!”เสิ่นลั่วเยี่ยนฟังคำพูดของหยุนเจิงใบหน้าก็กระตุกขึ้นมาอีกแม้กระทั่งความตายก็มิอาจพรากนางไปจากไอ้สวะนี่ได้งั้นหรือ?“เอาล่ะ”หยุนเจิงค่อยๆ ยืดตัวยืนขึ้น แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เสด็จพ่อได้ตัดสินพระทัยแล้ว ราชวงศ์เราในเวลานี้ก็มีเรื่องมากมาย พวกเจ้าก็อย่าได้ไปหาเรื่องใส่ตัวอีกเลย” กล่าวจบ หยุนเจิงก็ปลีกตัวจากไปอย่างไรเขาก็ได้เตือนพวกนางแล้วหากพวกนางยังไม่ฟั

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 11

    ในวังหลวงยามวิกาล“ตรวจสอบได้ความหรือยัง”จักรพรรดิเหวินเงยประพักตร์ขึ้นจ้องถามองค์รักษ์เงา“กราบทูลฝ่าบาท ตรวจสอบได้ความแล้วพ่ะย่ะค่ะ”องค์รักษ์เงาค้อมกาย ค่อยๆ รายงานความจริงตามที่ได้สืบได้จากองครักษ์ที่จับตัวมาจากเรือนปี้ปัว“จับเข้าคุกสวรรค์?”จักรพรรดิเหวินตบไปที่กองฎีกา พูดขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “กำเริบเสิบสานยิ่งนัก ไม่มีคำอนุญาตจากข้า แต่เจ้าสามกลับกล้าจับเจ้าหกเข้าคุกสวรรค์? มิน่าเล่า เจ้าหกจึงได้ตกใจกลัวจนมาขอความตายกับข้า!”จักรพรรดิเหวินกริ้วเป็นอย่างมาก หายใจหอบแรง“ฝ่าบาทได้โปรดคลายโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”มู่ซุ่นที่รับใช้อยู่ข้างกายรีรบกล่าวเตือนอย่างเป็นห่วง “องค์ชายสามอาจจะแค่อยากหยอกล้อองค์ชายหกก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ อย่างไรเสีย คนสนิทขององครัชทายาทได้ไปหาองค์ชายหกก่อนตาย…”จักรพรรดิเหวินยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย หันสายตาไปมองมู่ซุ่น “เจ้าคิดว่าเจ้าหกมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีขององค์รัชทยาท?”“เรื่องนี้…”มู่ซุ่นตัวกระตุกอย่างแรงแล้วรีบตอบว่า “บ่าวไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่รู้? เช่นนั้นก็แปลว่าเป็นไปไม่ได้ล่ะสิ?”จักรพรรดิเหวินส่งเสียงเหอะเบาๆ “หากเจ้าเป็นองค์รัชทายาท เจ้าจะคนไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 12

    ที่พำนักของหยุนเจิงในตอนนี้ ยังเป็นที่พักที่เขาพักตั้งแต่สมัยยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำพอจักรพรรดิเหวินนึกถึงหยุนเจิง ในใจก็ลอบด่าว่าเขาเป็นคนไร้ประโยชน์ขึ้นอีกตนลืมเรื่องนี้ เขาเองก็ไม่กล้ามาทูลขอเลยหรือไง?ไร้ประโยชน์จริงๆ!หลังจากจักรพรรดิเหวินไตร่ตรองไปครู่หนึ่ง ก็มีรับสั่งไปยังมู่ซุ่น “สั่งคนให้ไปทำความสะอาดจวนของอวี๋หมิ่น ขุนนางที่มีความผิดติดตัว ทำทั้งคืนจัดการให้สะอาด รุ่งเช้าวันพรุ่งให้ไปที่เรือนปี้ปัว พระราชทานแก่หยุนเจิง! บ่าวรับใช้ในจวน ให้จัดใหม่ตามกฎมณเฑียรบาล!”…จวนองค์ชายสามมีเสียงโอดครวญดังมาจากหยุนลี่เป็นครั้งคราวสวีสือฝู่กับซูเฟยมาเยี่ยมหยุนลี่ที่จวนพอเห็นสภาพของหยุนลี่ สองพี่น้องทั้งสงสารทั้งโกรธหยุนลี่ถูกสวะอย่างหยุนเจิงทำร้าย?ที่มันเรื่องตลกระดับฟ้าสวรรค์ยังต้องหัวเราะ!นอกจากจะโกรธเคืองแล้ว สวีสือฝู่ก็อดสั่งสอนหยุนลี่ไม่ได้ว่า “เจ้าเองก็เลอะเลือน เจ้าจะใส่ความอะไรสวะอย่างหยุนเจิงก็ได้ แต่กลับไปใส่ความว่าเขาเป็นพรรคพวกขององค์รัชทายาท! คำพูดนี้พอพูดออกไป อย่าว่าแต่พวกขุนนางบู๊บุ๋นในราชสำนักเลย ตัวเจ้าเองได้ยินแล้วเจ้าเชื่องั้นรึ?”หยุนเจิงติดตา

Pinakabagong kabanata

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1638

    “ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1637

    “อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1636

    เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1635

    ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1634

    “ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1633

    ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1632

    ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1631

    “ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1630

    หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status