Share

บทที่ 9

เสิ่นเนี่ยนฉือ!

เสิ่นลั่วเยี่ยนมองไปที่หลานสาวของตน

นี่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเพียงหนึ่งเดียวของพี่ชายคนโตนาง!

เสิ่นลั่วเยี่ยนเห็นเสิ่นเนี่ยนฉือร้องไห้โฮเพราะความตกใจ ใจนางจึงอ่อนลง

เว่ยซวงรีบวิ่งไปอุ้มลูกสาวของตนมา ขอร้องน้ำตานองหน้า “ลั่วเยี่ยน พวกเราตายไม่เป็นไร แต่เนี่ยนฉือยังมีอายุไม่ถึงเจ็ดปีเลย!”

เสิ่นลั่วเยี่ยนเห็นหลานสาวมีน้ำตาอาบสองแก้ม มือที่กำหมัดแน่นของนางก็คลายออก

ตุ้บ!

เสิ่นลั่วเยี่ยนคุกเข่าลง น้ำตาแห่งความเสียใจและความโกรธไหลผ่าน

“หม่อมฉัน…รับราชโองการ ขอบพระทัยฝ่าบาท!”

ขณะที่พูดสองประโยคนี้ เสิ่นลั่วเยี่ยนราวกับว่าตนได้ดึงพลังงานทั้งหมดออกจากร่างไปแล้ว

กระทั่งตอนที่เสิ่นลั่วเยี่ยนรับราชโองการ สีหน้าของมู่ซุ่นจึงได้แปรเปลี่ยนเป็นดี

“เช่นนั้นข้าก็ขอตัวกลับไปรายงานก่อน สำหรับเรื่องกำหนดวันสมรสนั้น จะแจ้งให้ทราบภายหลัง!”

พูดไปมู่ซุ่นก็มองไปที่หยุนเจิง “องค์ชายหก พวกเรากลับวังกันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

“หัวหน้ามู่เชิญกลับก่อนเถอะ ข้าอยากจะพูดคุยกับพวกนางสักหน่อย”

หยุนเจิงยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “หัวหน้ามู่ คุณหนูเสิ่นตกใจจนเสียการควบคุม เรื่องในวันนี้ ขอหัวหน้ามู่รายงานเสด็จพออย่างพองามด้วย”

“บ่าวจะระวังพ่ะย่ะค่ะ”

มู่ซุ่นหัวเราะเหอๆ ก่อนจะลาทุกคนไป

พอมู่ซุ่นไปแล้ว สายตาทุกคู่ก็จดจ้องไปที่ร่างของหยุนเจิง

“อย่าคิดว่าแค่เจ้าพูดจาสวยหรูสองสามประโยค แล้วข้าจะรู้สึกขอบคุณเจ้า!”

เสิ่นลั่วเยี่ยนมองหยุนเจิงอย่างรังเกียจ ไม่เห็นแก่หน้าเขาที่เป็นถึงองค์ชายเลยสักนิด

“ข้าก็ไม่ได้หวังให้เจ้าขอบคุณข้าเช่นกัน”

หยุนเจิงส่ายหน้าหัวเราะ “หากไม่เห็นว่าหลานสาวของเจ้าคนนี้ยังเด็กเกินไป ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าจะขัดราชโองการ เช่นนั้นแล้ว ข้าจะไปกราบทูลเสด็จพ่อ ให้เจ้ากับข้าไปเสียสละชีวิตอยู่ที่ซั่วเป่ย”

“ใครจะไปเสียสละชีวิตกับเจ้าห้ะ?”

เสิ่นลั่วเยี่ยนแค่นเสียงเหอะ รีบเช็ดหน้าน้ำตาของตนลวกๆ วินาทีถัดไป มือของนางก็หยุดลง “เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้เจ้าบอกว่า เจ้าจะไปเสียสละชีวิตที่ซั่วเป่ย?”

ฮูหยินเสิ่นกับสะใภ้อีกสองคนตกตะลึงงัน จนกระทั่งลืมดูถูกหยุนเจิงเสีย

“ใช่แล้ว!”

หยุนเจิงพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดขึ้นว่า “เสด็จพ่อได้แต่งตั้งให้ข้าเป็นแม่ทัพพยัคฆ์ รอพวกเราแต่งงานกันแล้ว เข้าก็จะไปยังซั่วเป่ย! ข้าไม่ได้หวังว่าจะทำคุณูประการยิ่งใหญ่ใดๆ แต่หวังจะปลุกใจสู้ให้กับเหล่ากองทัพของต้าเฉียนเรา …”

อะไรนะ?

หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ของหยุนเจิงบรรดาสตรีก็เปลี่ยนสีหน้า

ฮูหยินเสิ่นถึงขั้นอ่อนไปทั้งตัว นั่งเหม่ออยู่บนเก้าอี้

หยุนเจิงจะไปเสี่ยงตายอยู่ที่ซั่วเป่ย?

เช่นนั้นก็เท่ากับว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนยังไม่ได้แต่งงานแต่กลับถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องเป็นหม้าย?

จักรพรรดิเหวินจะส่งองค์ชายไร้ความสามารถผู้นี้ไปตายเพื่อปลุกขวัญกำลังให้กับเหล่าทหารอยู่แล้วแท้ๆ แล้วยังคิดจะพระราชทานพิธีสมรสให้เขากับเสิ่นลั่วเยี่ยน?

จักรพรรดิเหวินคิดจะทำให้ตระกูลเสิ่นมีแต่หญิงหม้ายอย่างสมบูรณ์?

ตระกูลเสิ่นต้องเป็นหม้ายกันทั้งตระกูลเลยหรือไง?

ทันใดนั้น ฮูหยินเสิ่นตบโต๊ะทันที

ปั้ง!

โต๊ะไม้ดีๆ ตัวหนึ่งถูกตบจนแตกเป็นสี่ห้าแฉก

หยุนเจิงพอได้เห็นฉากนี้ก็ตกใจขึ้นมา

ฉิบหาย!

นี่แม่เมียจำเป็นของเขายังเป็นยอดฝีมือด้วย?

ยังไม่รอให้หยุนเจิงได้สติกลับมา ฮูหยินเสิ่นก็ลุกขึ้นพรวดทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น หันหน้าไปทางบุตรสาวแล้วร้องตะโกนว่า “นำป้ายวิญญาณของบิดาและพี่ชายของเจ้ามา ติดตามแม่ไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้!”

“ใช่แล้ว ต้องไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท!”

เยี่ยจื่อพี่สะใภ้รองก็ส่งเสียงขึ้นตามอย่างโกรธเคือง

ตอนนั้นนางเพิ่งจะแต่งงานกับพี่ชายคนรองของเสิ่นลั่วเยี่ยน ยังไม่ทันได้ร่วมหอกันเลย พี่รองของนางก็รีบรุดไปยังสนามรบที่ซั่วเป่ยแล้ว

ยามไปยังมีชีวิต ยามกลับเหลือเพียงร่างไร้วิญญาณ!

นางรู้ซึ้งเป็นอย่างดีว่าต้องเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาวนั้นขมขื่นเพียงไร

นางไม่มีทางยอมให้เสิ่นลั่วเยี่ยนต้องมารับชะตากรรมเช่นเดียวกับนาง

ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้ฮ่องเต้เรียกคือพระราชโองการ!

“ไม่มีประโยชน์หรอก”

เว่ยซวงส่ายหน้าเบาๆ พูดขึ้นอย่างขมขื่นว่า “พวกเจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ ฮ่องเต้ต้องการให้ลั่วเยี่ยนสืบเชื้อสายให้ลูกชายของเขาเท่านั้น …”

“ข้ายอมหัวโขกเสาตายก็ไม่ยอมสืบเชื้อสายให้เขา!”

เสิ่นลั่วเยี่ยนมองไปทางหยุนเจิงอย่างแค้นเคือง

“หัวโขกเสาตายไปเสียเถอะ!”

หยุนเจิงส่ายหน้าเบาๆ มองไปทางเสิ่นลั่วเยี่ยนอย่างจริงจัง “ใจเมื่อเจ้าก็อยากตายอยู่แล้ว ไม่สู้ไปเสียสละชีวิตกับข้าที่ซั่วเป่ยเถอะ! อย่างน้อยเมื่อไปถึงปรโลกเราก็เป็นเพื่อนกันได้!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status