เหตุใดเขาจึงตีกลองร้องทุกข์ และเหตุใดจึงพาประชาชนมากมายขนาดนี้เข้ามา หรือว่า... ในสมองของหลายคน ปรากฏภาพที่คุ้นเคย ภาพและบรรยากาศตรงหน้า เหมือนกับตอนที่องค์ชายหกหลี่เซวียนนำทหารก่อกบฏ บุกเข้าวังหลวง ต่างกันตรงที่... ตอนที่หลี่เซวียนก่อกบฏ ยังมีหลี่หลงหลิน ซูเฟิ่งหลิง นำทหารพ่ายศึกของตระกูลซูมาพลิกสถานการณ์! แต่ตอนนี้... หลี่หลงหลินกลับพาชาวบ้านบุกเข้าวังหลวง หมายจะก่อกบฏ! ผู้พิชิตมังกร ในที่สุดก็กลายเป็นมังกรเสียเอง! หลี่เทียนฉี่เป็นคนแรกที่ตอบสนอง จึงตะโกนด่า: “องค์รัชทายาท นี่จะก่อกบฏ! เสด็จพ่อ นี่เป็นการกบฏ ถือเป็นความผิดร้ายแรง ไม่อาจให้อภัยได้! ขอเสด็จพ่อทรงมีราชโองการ ปลดหลี่หลงหลินจากตำแหน่งองค์รัชทายาท!” ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ต่างเห็นพ้อง: “ฝ่าบาท การกระทำขององค์รัชทายาท เกินไปแล้ว!” “ที่องค์รัชทายาทเหิมเกริมเช่นนี้ เป็นเพราะฝ่าบาททรงโปรดปรานและตามใจ จนเกิดเรื่องในวันนี้!” “ใช่แล้ว ฝ่าบาท! ครั้งนี้ ต้องลงโทษองค์รัชทายาทอย่างหนัก!” ฮ่องเต้หวู่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร สีหน้าเคร่งขรึม เอ่ยด้วยเสียงดังกึกก้อง: “พวกเจ้าทุกคนจงเงียบ! พวกเจ้านี่ช่างด่วนส
“เสด็จพ่อ!” หลี่หลงหลินถอนหายใจ: “ลูก ตีกลองร้องทุกข์ เป็นเรื่องที่จำใจต้องทำ! เพราะผู้ที่ลูกจะร้องฎีกานั้น แม้แต่เสด็จพ่อก็ไม่อาจทำอะไรได้ ยากจะรับมือ” คำพูดนี้ ทำให้ทั่วทั้งลานหยกขาวเกิดความโกลาหล สีหน้าของฮ่องเต้หวู่มืดครึ้ม อัปลักษณ์ถึงขีดสุด เป็นผู้ใด? ที่ทำให้ข้าไม่อาจทำอะไรได้? เจ้าเก้า เจ้ากำลังทำให้ข้าเสียหน้าต่อหน้าประชาชน และเหล่าขุนนาง!ฮ่องเต้หวู่สูดลมหายใจลึก: “องค์รัชทายาท! เจ้าพูดให้ชัดเจน ว่าจะร้องฎีกาผู้ใด และข้าจะรับมือไม่ได้อย่างไร!” หลี่หลงหลินพูดอย่างหนักแน่น: “ผู้ที่ลูกจะร้องฎีกา คือสำนักปราชญ์!” สำนักปราชญ์? ทุกคนมองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองหลี่หลงหลินพูดชัดเจน เขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่คนหนึ่งหรือสองคน ไม่ใช่เสิ่นชิงโจว ไม่ใช่บัณฑิตทรงคุณวุฒิที่นำโดยฉินฮั่นหยาง แต่เป็นทั้งสำนักปราชญ์ กล่าวคือ... หลี่หลงหลินต้องการสั่นคลอนรากฐานของสำนักปราชญ์! นี่คือการเป็นศัตรูกับบัณฑิตทั้งใต้ทั่วหล้า เป็นศัตรูกับวิถีแห่งปราชญ์! เขาเสียสติไปแล้วหรือ? ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว: “องค์รัชทายาท เจ้า...เจ้าพูดให้ชัดเจน! เจ้าจะร้องฎีกาบั
“แต่ไม่ใช่ตอนนี้...” หลี่หลงหลินส่ายหน้า ยิ้มอย่างขมขื่น: “เสด็จพ่อ ลูกยังเยาว์วัย รอได้! แต่ต้าเซี่ยรอได้หรือ? ชาวบ้านที่ตกอยู่ในความทุกข์ยาก รอได้หรือ?” ฮือ! ประชาชนแตกตื่น! ดังที่ฮ่องเต้หวู่เอ่ย หลี่หลงหลินเป็นองค์รัชทายาท ถูกกำหนดให้สืบทอดราชบัลลังก์ ขึ้นครองราชย์ เขาจะรีบร้อนไปไย? เหตุใดเขาจึงต้องกำจัดสำนักปราชญ์? เหตุใดต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งใต้หล้า? หลี่หลงหลินไม่ได้ทำเพื่อตนเอง แต่เพื่อพวกเรา ประชาชนทุกคน! ใบหน้าแต่ละคนต่างตกตะลึง ดวงตาแต่ละคู่ เต็มไปด้วยความซาบซึ้งและตื้นตัน ผู้มีอำนาจมักเห็นแก่ตัว ผู้สูงศักดิ์ ล้วนมีนิสัยเหมือนกัน มักจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเองก่อน ใครจะมาเห็นอกเห็นใจชาวบ้าน แม้แต่ขุนนางที่เรียกตัวเองว่าขุนนางตงฉิน อ้างตนว่าเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์สุจริต มักจะออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ประชาชน แท้จริงแล้ว พวกเขาก็ทำเพื่อตนเอง คนเราเกิดมา ก็หนีไม่พ้นชื่อเสียงและลาภยศ ขุนนางตงฉินเหล่านี้ ไม่ได้ต้องการลาภยศ แต่ต้องการชื่อเสียง กล่าวโดยสรุป... ประชาชนสำหรับพวกเขา เป็นเพียงเครื่องมือในการแสวงหาชื่อเสียงและลาภยศ เมื่อผลประ
บนลานหยกขาว เกิดความโกลาหล ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ฮ่องเต้หวู่ตกตะลึง มองหลี่หลงหลินอย่างประหลาดใจ เจ้าเก้าจะไต่สวนบัณฑิตสิบคนที่นำโดยฉินฮั่นหยางนั้น ยังอยู่ในการคาดการณ์ของฮ่องเต้หวู่ แต่คาดไม่ถึงว่า... บัณฑิตสิบคนยังไม่พอ หลี่หลงหลินยังจะเพิ่มเสิ่นชิงโจว อาจารย์ของฮ่องเต้เข้ามาอีกคน? เขาละโมบเกินไปแล้ว! ต้องรู้ว่า... อาจารย์ของฮ่องเต้ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ แม้ว่าเสิ่นชิงโจวจะถูกจับเข้าคุกหลวงเพราะข้อหากบฏ แต่เพราะไม่มีหลักฐาน จะไต่สวนก็ไม่ได้ จะปล่อยก็ไม่ได้ ทำได้เพียงขังไว้! ฮ่องเต้หวู่สีหน้าลังเล มองหลี่หลงหลิน: “เจ้าเก้า เจ้าต้องการไต่สวนเสิ่นชิงโจวจริงๆ หรือ?” บัณฑิตทรงคุณวุฒิสิบคน ก็ยุ่งยากพอแล้ว ยังเพิ่มเสิ่นชิงโจว อาจารย์ของฮ่องเต้เข้ามา เขาคืออดีตราชครูผู้มีอำนาจล้นฟ้า ฮ่องเต้หวู่กลัวว่าหลี่หลงหลินจะรับมือไม่ไหว จึงให้ทางลงแก่เขา หลี่หลงหลินไม่สนใจความหวังดีของฮ่องเต้หวู่ เพียงพยักหน้าอย่างหนักแน่น: “เสด็จพ่อ ครั้งนี้หากไม่กำจัดเสิ่นชิงโจว เกรงว่าจะมีภัยตามมา...” เขาไม่หลีกเลี่ยง สายตาจับจ้องไปที่หลี่เทียนฉี่ หลี่เ
เสิ่นชิงโจวสองมือไพล่หลัง ท่าทางหยิ่งผยอง พยักหน้าเล็กน้อย ถือว่าเป็นการตอบรับ สมกับเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้! สง่าผ่าเผย! ประชาชนนับไม่ถ้วนต่างก็รู้สึกทึ่งในใจ หลี่เทียนฉี่และกลุ่มข้าราชการ ก็มีสีหน้าฮึกเหิม ข้าราชการหลายคนยังคงกังวล เสิ่นชิงโจวถูกขังอยู่ในคุกหลวงเป็นเวลานาน ไม่มีข่าวคราว ถึงจะไม่ตาย ก็อาจจะถูกทรมานจนปางตาย ไร้ซึ่งความเฉียบคม ไม่อาจใช้งานได้ วันนี้ได้เห็น เสิ่นชิงโจวที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่เพียงแต่มีอารมณ์แจ่มใส แต่ยังคงไว้ซึ่งความหยิ่งทระนง องค์รัชทายาท คราวนี้ ท่านเดินหมากพลาดแล้ว! ท่านจัดการฉินฮั่นหยางและคนอื่นๆ ก็ยังพอมีหวังอยู่บ้าง แต่ท่านกลับให้อาจารย์ของฮ่องเต้ออกจากคุกมาด้วย? ศึกนี้ ท่านแพ้แน่นอน! “หึหึ...” หลี่หลงหลินเผชิญหน้ากับข้อสงสัย ก็หัวเราะเยาะในใจ เสิ่นชิงโจว เจ้าแสร้งทำตัวเป็นผู้สูงส่งเพื่อปลุกขวัญกำลังใจ สร้างภาพลักษณ์ที่ดูดีน่าเกรงขาม ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจได้จริงๆ! ทุกสิ่งมีราคา เจ้าโอหัง ไม่เห็นใครในสายตา ราคาของมันคืออะไร? หลี่หลงหลินเงยหน้า มองฮ่องเต้หวู่ เป็นไปตามคาด สีหน้าของฮ่องเต้หวู่ มืดครึ้มราวกับฝน ในดวงต
คนคำนวณ มิอาจสู้ฟ้าลิขิต องค์รัชทายาทก่อกบฏ เป็นเรื่องร้ายแรง ด้วยเหตุบังเอิญหลายประการ แผนการกบฏของหลี่เทียนฉี่ล้มเหลว เสิ่นชิงโจวในฐานะราชครู เป็นอาจารย์ของหลี่เทียนฉี่ ย่อมได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม เสิ่นชิงโจวเตรียมการไว้ ใช้ทรัพยากรมหาศาล ไม่เพียงแต่รักษาชีวิตตนเอง ยังรักษาชีวิตหลี่เทียนฉี่ และฮองเฮาหลู่พระมารดาเอาไว้ได้ และจากเหตุการณ์นี้เอง... ความผิดหวังของเสิ่นชิงโจวที่มีต่อฮ่องเต้หวู่ ก็ถึงขีดสุด มีข่าวลือว่า ฮ่องเต้หวู่ทรงเย็นชา ไร้หัวใจ เหลวไหล! ผู้เป็นจักรพรรดิ ต้องเด็ดขาด ฮ่องเต้หวู่ทรงมีพระทัยอ่อนโยน เป็นคนดี แต่ไม่ใช่ฮ่องเต้ที่ดี! ทว่า... เสิ่นชิงโจวไม่คาดคิดว่า ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในคุกหลวง นิสัยของฮ่องเต้หวู่ ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป เป็นแข็งกร้าวขึ้นกว่าเดิม? ต้องรู้ว่า... ก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้หวู่มีความเคารพตนอย่างมาก ไม่มีทางตะโกนใส่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการตำหนิต่อหน้าธารกำนัล ให้ตนเองหุบปากด้วย สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก ฮ่องเต้หวู่อายุมากแล้ว นิสัยไม่อาจเปลี่ยนได้ในทันที นี่มันตะวันขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ? “กระหม่อม ขอถวายบังคมฝ่าบาท!”
เขารับมือไม่ได้ง่าย ๆ จะต้องมีแผนชั่วร้ายอะไรรอหลี่หลงหลินอยู่แน่เจ้าเก้า เจ้าจะต้องระวังเอาไว้ด้วย อย่าได้ตกหลุมพรางของจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนี้เป็นอันขาดฮ่องเต้หวู่กังวลใจ สบมองหลี่หลงหลินอย่างลึกซึ้งเจ้าเก้าดีไปหมดทุกอย่างเว้นแต่เพียงจุดเดียว เขาเด็กเกินไป ยังขาดประสบการณ์โดยเฉพาะประสบการณ์การต่อสู้ในราชสำนัก หลี่หลงหลินยังขาดอีกมากนักเสิ่นชิงโจวกลับเป็นผู้เชี่ยวชาญทางสายนี้!หลี่หลงหลินขมวดคิ้ว “เสิ่นชิงโจว คำนี้ของท่านหมายความว่าอะไร? ท่านยอมรับผิดแล้วหรือ?”เสิ่นชิงโจวยิ้มเย็น “ยอมรับผิด? คนทุจริตการสอบขุนนางคือซ่งชิงหลวน เกี่ยวอันใดกับข้า? ซ่งชิงหลวนตายไปแล้ว หรือว่าองค์ชายยังใจคอโหดเหี้ยม คิดจะลากกระดูกของเขาออกจากโลงศพและเผาจนเป็นขี้เถ้าอีกกระนั้นหรือ?”เหล่าบัณฑิตทรงคุณวุฒิเข้าใจในทันใด ที่แท้ เสิ่นชิงโจวต้องการโยนความผิดทั้งหมดให้กับซ่งชิงหลวนคนตายไปแล้วผู้นี้!อย่างไรเสีย คนตายไม่อาจพูดได้!นำมาใช้แบกรับความผิดได้!“ฮือฮือฮือ...”“บัณฑิตซ่ง เจ้าตายได้...ได้น่าอนาถเหลือเกิน!”“เจ้าอยู่ยมโลก ยังต้องแบกรับความผิด...ถูกรัชทายาทปรักปรำ”“คนตายยิ่งใหญ่ที่สุ
ฮ่องเต้หวู่อ่านเนื้อหาในจดหมายนิรนาม สีหน้าแข็งทื่อดุจเหล็ก ร่างกายสั่นเทาสะเทือนใจเหลือเกิน!เรารู้ว่าสำนักปราชญ์ทำเลยเถิดเกินไปแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำเลยเถิดถึงเพียงนี้!จดหมายนิรนามเหล่านี้ ทุกตัวอักษรคือหยาดโลหิตและน้ำตาไม่รู้อนาคตของคนมากน้อยเพียงใดต้องถูกทำลายในเงื้อมมือของพวกสารเลวเสิ่นชิงโจว!ที่ดีสักหน่อย ก็แค่สอบตกกลับไปบ้านเกิด กลัดกลุ้มเศร้าหมอง ถูกลืมเลือนกลมกลืนไปกับคนธรรมดาแย่ที่สุดคือบัณฑิตที่ไม่ยอมแพ้ ไปโต้แย้งที่สำนักศึกษา สรุปคือต้องตายไปโดยเสียเปล่าเนื้อหาภายในจดหมายเขียนเอาไว้ พูดว่าศพและกระดูกของบัณฑิตเหล่านี้ถูกฝังอยู่ที่ใต้รูปปั้นนักปราชญ์หลังเขาของสำนักศึกษาสำนักปราชญ์อันยิ่งใหญ่ บัดนี้ถึงขั้นกลายเป็นสถานที่เก็บงำความชั่วและสิ่งสกปรกโสมมยิ่งไปกว่านั้น นักปราชญ์ยังเก็บทุกสิ่งไว้ภายในก้นบึ้งของสายตา!นี่เป็นเรื่องน่ากลัวมากเพียงใด!“เสิ่นชิงโจว!”“ฉินฮั่นหยาง!”“....”ฮ่องเต้หวู่โกรธจัด โยนจดหมายเหล่านั้นใส่พวกบัณฑิตทรงคุณวุฒิอย่างแรง ตะเบ็งเสียงดัง “พวกเจ้าลืมตาดูให้ดีๆ! หลักฐานชัดเจน พวกเจ้ายังคิดแก้ตัวอีกหรือ?”ฉินฮั่นหยางและบัณฑิตทรงคุณว
วันต่อมา ห้องหนังสือจวนอ๋องหลี่หลงหลินยกมือนวดหว่างคิ้ว มือวาดบางอย่างบนกระดาษกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “องค์ชาย หม่อมฉันอิงตามวิธีของท่านแล้ว วันนี้ตั้งใจไปตั้งร้านแผงลอยในบริเวณคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ เผยแพร่วิธีทำน้ำแข็งออกไป เหล่าราษฎร์สามารถใช้งานได้ ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพียงแต่บัดนี้เกลือหมางเซียวในร้านขายยาทุกแห่งของตงไห่ไม่เพียงพอ”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เผยแพร่ออกไปก็ดีแล้ว เช่นนี้เนื้อปลาของเหล่าราษฎร์ก็สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลือง”“พี่สะใภ้รองเหนื่อยแล้ว หากนี่คือเมืองหลวง เพียงตีพิมพ์เรียงความในหนังสือพิมพ์ก็เพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ตงไห่ยังต้องให้พี่สะใภ้ออกแรงเหน็ดเหนื่อยด้วยตนเอง”ภายในคำพูดหลี่หลงหลินเปี่ยมความห่วงใย อย่างไรเสียกงซูหว่านก็เป็นสตรีมีพรสวรรค์ไม่ออกนอกบ้าน อยู่แต่ในห้องหอ จู่ๆ ขอให้นางไปสอนวิธีทำน้ำแข็งแก่ราษฎร์ ช่างทำให้อึดอัดคับข้องใจโดยแท้แต่หลี่หลงหลินคิดไปคิดมา ในบรรดาพี่สะใภ้มีเพียงพี่สะใภ้รองเข้าใจวิธีใช้เกลือหมางเซียวทำน้ำแข็ง ทำได้เพียงมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กงซูหว่านหัวเราะเบาๆ “ไม่ลำบากเพคะ จะ
ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่งโจรสลัดแคว้นโวกั๋วและชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเป็นปัญหาแถบชายแดนต้าเซี่ยมานานนับร้อยปี ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายมองออกว่าครั้งนี้เจตจำนงของหลี่หลงหลินยิ่งใหญ่อย่างมาก!หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “หากต้องการกำจัดปัญหาภายนอกจะต้องกำจัดปัญหาภายในก่อน หากต้องการเดินทางบนมหาสมุทร จะต้องจัดการปัญหาตรงหน้าให้เรียบร้อย หาไม่แล้วแผนการเดินเรือจะต้องได้รับผลกระทบแน่”“เป้าหมายสำคัญในการมาตงไห่ครั้งนี้คือพัฒนาศาสตร์ต่อเรือของต้าเซี่ย บัดนี้เรือเหล่านี้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการการเดินทางไกลได้ ความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของเรือต้าเซี่ยก็เป็นเหตุผลที่โจรสลัดแคว้นโวกั๋วตงไห่สร้างความวุ่นวาย ได้รับผลประโยชน์มากมายในสงครามทางทะเล ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถกวาดล้างโจรสลัดแคว้นโวกั๋วที่บุกมาในคราวเดียวได้”“หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป โจรสลัดแคว้นโวกั๋วก็จะยิ่งกำเริบเสิบสาน อาละวาดอย่างไร้ขอบเขตในทะเลตงไห่ ราษฎร์ตงไห่ก็จะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก!”“ดังนั้นตราบใดที่สามารถเพิ่มระดับการต่อเรือของต้าเซี่ยได้ โจรสลัดแคว้นโวกั๋วย่อมหายไป ชนิดที่ว่าปราบตงอิ๋
ปากแดงของเหล่าสะใภ้ขยับเบาๆ ดวงตาสะท้อนความแปลกใจ “เป้าหมายคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่?”แม้เหล่าสะใภ้ไม่รู้ว่ามหาสมุทรอันกว้างใหญ่คือที่ใด แต่ได้ยินหลี่หลงหลินอธิบาย จะต้องเป็นสถานที่อันงดงามแน่!ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยถาม “องค์ชาย มหาสมุทรกว้างใหญ่มากถึงเพียงนี้ เป้าหมายของพวกเราคือที่ใด?”กงซูหว่านพยักหน้า “ใช่แล้วองค์ชาย ยิ่งไปกว่านั้นระดับการเดินเรือในตอนนี้มากที่สุดก็ไปได้ถึงตงอิ๋ง หากยังไปทางทิศตะวันออก กลับยังไม่มีตัวอย่างมาก่อน”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เป้าหมายของพวกเราก็คือทวีปใหม่! ต้าเซี่ยและทวีปใหม่ห่างกันเพียงมหาสมุทรกั้น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ได้เปรียบโดยธรรมชาติ สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือคิดหาทางพัฒนาเรือของต้าเซี่ย ขนวัวม้าสัตว์ใช้แรงงานจำนวนมากเพียงพอไปยังทวีปใหม่”“ขอเพียงมีวัวม้าสัตว์ใช้แรงงาน ต้องการผืนดินมากน้อยเพียงใดก็ย่อมได้ มีผืนดินนับพันลี้ให้ราษฎร์ได้ใช้!”เหล่าสะใภ้ได้ยินภาพที่หลี่หลงหลินอธิบาย ใบหน้าเผยรอยยิ้มเปี่ยมความหวังออกมาสถานที่ที่ไม่มีสงครามและไม่มีความหิวโหยอยู่ห่างเพียงมหาสมุทรกั้น กำลังโบกมือต้อนรับตนเองหลี่หลงหลินเปล่งเสียงเคร่งขรึม “ขอเพียง
“เป็นไปไม่ได้! ดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ ไฉนเลยจะไม่มีคน?”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เหตุที่มีคนน้อยมีเพียงข้อเดียว ตอนนี้พวกเขายังกินไม่อิ่ม”ถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลินดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆเหล่าพี่สะใภ้ได้ฟังแล้ว คิดว่านี่คล้ายเรื่องเพ้อฝันยามราตรี ดินแดนอุดมสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ถึงขั้นยังมีคนกินข้าวไม่อิ่มท้องอีกหรือ?กงซูหว่านมองหลี่หลงหลินด้วยความตกตะลึง เอ่ยถามว่า “องค์ชาย ท่านไม่ได้กำลังล้อพวกเราเล่นหรอกกระมัง? อิงตามคำพูดของท่าน ทวีปใหม่จะต้องอุดมสมบูรณ์อย่างมากแน่ เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์คนกินข้าวไม่อิ่มท้องได้เล่า?”“ใช่แล้วองค์ชาย หม่อมฉันไม่เชื่อ”“หรือว่าดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ พวกเขาไม่สามารถเพาะปลูกได้กันเล่า?”เหล่าพี่สะใภ้ฟังจนอารมณ์ดำดิ่งลงไป ต่างขอให้หลี่หลงหลินพูดออกมาให้ชัดเจน หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “ไม่ใช่พวกเขาไม่เพาะปลูก ทวีปใหม่ดีมากเยี่ยงไร มีเพียงข้อเดียวที่ไม่ดี ก็คือไม่มีวัวไม่มีม้า ไม่มีสัตว์ใช้แรงงาน”ดวงตาของเหล่าสะใภ้ทอประกายระยับ ประคองใบหน้างดงามรับฟังเงียบๆ“ดังนั้นตอนนี้พวกเขายังหยุดอยู่ที่ใช้มีดถางป่าเผาไร่เพาะปลูก ใช้วิธีการพื้นฐานที่สุดในการ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็