공유

บทที่ 2 ถูกเปรียบเทียบ

last update 최신 업데이트: 2025-03-12 09:58:34

บทที่ 2 ถูกเปรียบเทียบ

"ฝ่าบาททำเช่นนั้นไม่โหดร้ายกับองค์ชายเกินไปหรือพ่ะย่ะค่ะ ถวายบังคมฝ่าบาทถวายบังคมองค์ชายสาม" เสียงปริศนาเดินเข้ามาเอ่ยขึ้นพร้อมโค้งคำนับทั้งสอง

"หากองค์ชายสามเป็นบุรุษที่แข็งแกร่งมากความสามารถเสมือนบุตรชายของท่านข้าคงไม่โหดร้ายเช่นนี้ " ฝ่าบาทนั่งลงที่บันลังก์เมื่อเห็นว่าใต้เท้าเซ่อเจิ้งหวางเสนาบดีฝ่ายซ้ายเดินเข้ามา

"ฝ่าบาทเอ่ยเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ บุตรชายของกระหม่อมยังต้องเรียนรู้ฝึกฝนอีกมากขอบพระทัยที่ฝ่าบาทเมตตา"

"หากบุตรชายของเจ้าเป็นบุตรชายของข้าคงดี คงไม่มีเรื่องที่ข้าต้องทุกข์ใจ " ฝ่าบาทเอ่ยเปรียบเทียบเมื่อเห็นว่าบุตรชายของใต้เท้าเซ่อเจิ้งหวางนั้นเก่งทั้งบุ้นและบู้ต่างจากบุตรชายของตนอย่างมาก แต่วาจาที่ฝ่าบาทเอ่ยออกมาทำให้เซียวอี้หรือองค์ชายสามกำมือแน่นพร้อมไม่เอ่ยอันใดเดินออกไปจากท้องพระโรงทันที

เซ่อเจาหยางบุตรชายของใต้เท้าเซ่อเจิ้งหวางตั้งแต่ยังเยาว์เขาเข้ามาในวังหลวงพร้อมบิดา ครั้งแรกที่เซียวอี้เห็นก็ได้ถูกชะตาเชิญชวนเซ่อเจาหยางมาเล่นที่ตำหนักของตนเองบ่อยครั้งแต่ทว่าทุกครั้งกลับต้องเจอวาจาเอ่ยเปรียบเทียบเสมอมา จนกระทั่งเติบเติบอายุสิบห้าหนาว เซ่อเจอหยางสอบเข้าเป็นขุนนางโดยไม่ได้ใช้เส้นสายของตระกูล ด้วยความเก่งที่เขามีตั้งแต่กำเนิดจึงทำให้ฝ่าบาทเอ็นดูและมอบหน้าที่ให้เขาเป็นท่านแม่ทัพที่ดูแลทหารนับหมื่นนายและด้วยความเก่งกาจเฉลียวฉลาดทำให้เขาได้รับชัยชนะมาสู่แคว้น ยิ่งทำให้ฝ่าบาทชื่นชอบเขามากกว่าเดิมและทุกครั้งที่ฝ่าบาทพบเจอกับเซียวอี้ก็มิวายเอ่ยชมเซ่อเจาหยางเสมอ ทำให้เขาเริ่มไม่ชอบใจจากสหายกลับเป็นคนอื่น ความสนิทกลับกลายเป็นเหินห่างจนกลายเป็นความเกลียดชังในที่สุด

เซียวอี้เดินกลับมาที่ตำหนักหนานฉี่แต่ไม่ได้กลับไปนอนเช่นเดิมหลังจากที่เขาพบเจอเรื่องเช่นนี้เขามักจะมาระบายอารมณ์ด้วยการฟาดฟันดาบ

เซียวอี้หรือองค์ชายสามขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิตเอาแต่ใจตนเองไม่ว่าผู้ใดที่ขัดขวางเขาและไม่ได้ดังใจเขามักจะให้องครักษ์ประจำกายจัดการทันที ทำให้เหล่าเสนาบดีหรือแม้แต่ประชาชนต่างพากันหวาดกลัวและไม่ชอบองค์ชายเซียวอี้

เขาร่ายรำฟาดฟันหุ่นจนแทบไม่เหลือเค้าโครงจนอารมณ์ของเขายามนี้เย็นลงร่างกายเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เขานั่งลงที่เก้าอี้วางดาบเก็บไว้ที่เดิมพร้อมจ้องมองไปยังท้องฟ้าก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

"เจ้าถูกท่านพ่อตำหนิมาอีกแล้วเช่นนั้นหรือ คราวนี้ไปทำเรื่องอันใดให้ท่านพ่อต่อว่าเข้าล่ะ" น้ำเสียงแหบแห้งเต็มไปด้วยความอ่อนโยนเอ่ยถามมาจากด้านหลัง เซียวอี้ลุกขึ้นยืนขึ้นทันทีพร้อมเข้าไปประคอง

"ท่านพี่เหตุใดถึงมาที่นี่เพียงลำพังพ่ะย่ะค่ะ เหล่าข้ารับใช้ไปทางใดกันหมดถึงกล้าปล่อยให้ท่านพี่เดินเหินไปมาเพียงลำพังช่างไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ต้องจับไปโบยสักร้อยครั้ง " องค์ชายเฟยหลงหรือรัชทายาทอันดับหนึ่งผู้ที่จะเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์แต่ทว่าเกิดมามีร่างกายที่ไม่แข็งแรงมักจะถูกฮ่องเฮาสั่งให้อยู่แต่เพียงในตำหนักเพราะกลัวว่าถูกแดดถูกลมจะจับไข้ทำให้อาการกำเริบได้ แต่องค์ชายเฟยหลงมักจะแอบนางกำนัลออกมาเดินเล่นเพียงลำพังอยู่บ่อยครั้ง ทั้งสองเป็นพี่น้องที่เกิดจากมารดาผู้เดียวกันนั้นคือฮองเฮา องค์ชายเฟยหลงรักและเอ็นดูน้องชายของตนมาก และรู้มาเสมอว่าน้องชายต้องพบเจอเรื่องเช่นนี้เพราะตนเอง หากเขามีร่างกายที่แข็งแรงคงไม่ต้องแบกรับตำแหน่งที่เขาไม่รับเช่นนี้

"เจ้าไม่ต้องสั่งลงโทษพวกนางกำนัลหรอก ข้าเองต่างหากที่หนีออกจากตำหนักมา ว่าแต่เจ้าเถิดถูกท่านพ่อตำหนิมาอีกแล้วอย่างนั้นรึ"

"ท่านพี่มักจะมองข้าออกเสมอ ข้าไม่อยากรับตำแหน่งองค์รัชทายาท ตำแหน่งนี้เป็นของท่านพี่ ท่านพี่คู่ควรที่จะได้รับมันมิใช่ข้าที่เป็นองค์ชายที่โหดร้ายและทำตัวเที่ยวเตร่เช่นนี้"

"ที่เจ้าเที่ยวเตร่และเสเพลทุกอย่างเพราะข้ามิใช่หรือ? เซียวอี้เจ้าเป็นน้องชายของข้า ข้ารู้ว่าเจ้ามิใช่คนโหดร้ายเช่นนั้น เลิกทำตนเช่นนั้นเถอะนะต่อให้เจ้าทำตัวเลวร้ายเพียงใดตำแหน่งองค์รัชทายาทต้องเป็นของเจ้าอยู่ดี ไม่มีทางที่ข้าจะนั่งบนบันลังก์นั้นได้ "

"ไม่นะท่านพี่ อย่างไรบันลังก์นั้นก็เป็นของท่านข้าไม่อยากได้พ่ะย่ะค่ะ"

"ข้ารู้ตัวเองดีว่าข้าเกิดมาเพื่อเป็นพี่ชายของเจ้า แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นองค์รัชทายาท เจ้าเลิกทำตัวเหลวไหลแล้วทำให้ข้าภูมิใจเสียที หากเจ้านับถือว่าข้าเป็นพี่ชายของเจ้าถือว่าการรับตำแหน่งองค์รัชทายาทนี้ทำเพื่อข้าได้หรือไม่ " แววตาและน้ำเสียงสร้อยเศร้าขององค์ชายเฟยหลงทำให้เซียวอี้สลดเล็กน้อย เขาอยากมอบร่างกายที่แข็งแกร่งให้ท่านพี่ซะเหลือเกินเพราะเขารู้ดีว่าท่านพี่นั้นตั้งใจอ่านตำราขึ้นครองบังลังก์เพียงใด แต่ทว่าด้วยร่างกายที่ไม่แข็งแรงนั้นทำให้เขาไม่สามารถทำตามที่ใจต้องการได้

"ท่านพี่หากข้าเป็นฮ่องเต้ที่ไม่ดี หรือว่าข้าปกครองบ้านเมืองจนล่มจมเล่าเรื่องนี้ผู้ใดจะรับผิดชอบท่านพี่ยังคงภูมิใจเช่นนั้นหรือ" เฟยหลงยิ้มจาง ๆ ใช้มือตบที่บ่าของเซียวอี้พร้อมเอ่ยออกมาอย่างเชื่อมั่น

"ข้าเชื่อในตัวของเจ้าว่าเจ้าต้องเป็นฮ่องเต้ที่ดี แค่ก ๆ !!" เอ่ยจบองค์ชายเฟยหลงมีอาการไอขึ้นมาอย่างเฉียบพลันจนทำให้เซียวอี้ตกใจรีบตกปากรับคำ

"พ่ะย่ะค่ะหากท่านพี่เชื่อใจข้า ข้าจะทำให้ท่านพี่สุดความสามารถแต่ทว่ายามนี้ท่านพี่ต้องกลับตำหนักได้แล้วอากาศเริ่มร้อนแถมท่านพี่เริ่มมีอาการไม่ดีหากเรื่องนี้ถึงหูท่านแม่มีหวังท่านพี่มิได้แอบออกมาเที่ยวเล่นเช่นนี้ได้อีกนะพ่ะย่ะค่ะ " เซียวอี้เป็นห่วงใบหน้าเริ่มเป็นกังวลเริ่มประคององค์ชายเฟยหลงกลับตำหนักของเขา

"ต้องเป็นเช่นนี้สิ ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้และเจ้าจะเป็นฮ่องเต้ที่ดีข้าจะรอดูวันที่เจ้าขึ้นครองราช" เขายิ้มบาง ๆ พร้อมเดินกลับตำหนักพร้อมกับเซียวอี้ เมื่อเดินมาถึงตำหนักนางกำนัลแม้กระทั่งขันทีต่างพากันตกใจหวาดกลัวเพราะไม่รู้เลยว่าองค์ชายเฟยหลงนั้นออกจากตำหนักไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อเห็นเดินเคียงข้างมากับองค์ชายเซียวอี้ที่จ้องมองสาวใช้ในตำหนักอย่างตำหนิยิ่งทำให้ทุกคนไม่กล้าที่จะเงยหน้ามอง

"ในเมื่อตอนนี้เจ้ามาส่งข้าถึงตำหนักแล้ว เจ้าก็กลับตำหนักของเจ้าไปอ่านตำราเพื่อขึ้นรับตำแหน่งเถอะนะ ข้าจะให้ขันทีพาไปพักผ่อนเองเจ้ามิต้องกังวล"

"พ่ะย่ะค่ะ หากท่านพี่เอ่ยเช่นนั้นข้าก็วางใจ แต่ว่าต่อจากนี้ไปหากนางกำนัลหรือว่าขันทีที่ทำหน้าที่ขาดตกบกพร่องหรือให้องค์ชายเฟยหลงเดินออกจากตำหนักไปเพียงผู้เดียวโดยไร้คนดูแลข้าจะจัดการลงโทษทั้งตำหนักไม่ละเว้น และเรื่องนี้ถึงหูของฮองเฮาพวกเจ้าทั้งหลายต้องรับโทษหนักเป็นแน่" น้ำเสียงเข้มขรึมดวงตาแข็งกร้าวหันไปมองทุกคนในตำหนักก่อนจะหันมาหาเฟยหลงก่อนจะขอตัวออกไป

"ท่านพี่ข้าขอตัวนะพ่ะย่ะค่ะ"

"ไปเถิด " หลังจากที่องค์ชายเซียวอี้เดินออกไปนางกำนัลที่ยืนตัวสั่นเทาด้วยความกวาดกลัวก็รีบพากันมาปรนนิบัติพาองค์ชายเฟยหลงไปพักที่ห้องทันที

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 44 ข้ารักท่าน(ตอนจบ)

    บทที่ 44 ข้ารักท่านใต้เท้าเซ่อรู้สึกอับอายที่บุตรชายได้รับความพ่ายแพ้ต่อองค์รัชทายาท ตระกูลเซ่อทุกคนต่างได้รับโทษและใต้เท้าที่รวมตัวกันวางแผนก็ถูกลงโทษด้วยเช่นกัน โทษของเจาหยางคือการถูกโบยตีก่อนจะนำไปแคว้นคอประจานให้แก่ราษฎรได้เห็นถึงการก่อกบฏและประสงค์ร้ายต่อราชวงศ์จะถูกลงโทษเช่นไร แม้จะมีคุณงามความดีต่อแผ่นดินแต่ถ้าหากคิดร้ายก็ไม่ละเว้นก่อนจะนำร่างไปโยนให้แร้งกิน สนมตระกูลเซ่อถูกปลดให้เป็นเพียงสาวใช้และองค์ชายห้าถูกตัดขาดกับราชวงศ์มิอาจจะเข้ามาในวังหลวงได้อีกต่อไปใต้เท้าเซ่อถูกรุมประชาทัณฑ์ชาวบ้านหรือผู้ที่เคยถูกเขาข่มเหงรังแกขว้างหินขว้างดินใส่จนเขาถึงแก่ความตายภายในวังหลวงกลับมาสุขสงบอีกครั้ง แม้ลั่วเออร์จะเห็นชอบการลงโทษแต่ทว่าในใจของนางลึก ๆ ยังคงคิดถึงใบหน้ารอยยิ้มของเจาหยางแต่มิใช่เพราะนางคิดถึงเพราะความรักแต่ทว่านางกลับเสียดาย หากเขาเลือกเดินทางถูกต้องและคอยช่วยเหลือองค์รัชทายาทอาจจะเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ที่ทุกคนนับหน้าถือตา"พระชายาเพคะ วันนี้หม่อมฉันจะออกไปอยู่ที่ตำหนักของนางในแล้วจะได้พบพระชายาอีกไม่เพคะ" หนิงเอ๋อเดินเข้ามาหาลั่วเออร์ที่ศาลารับลม นางได้เข้ามาเป็นนางในฝึกหัด

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 43 ลงโทษอย่างสาสม

    บทที่ 43 ลงโทษอย่างสาสม"ใครบอกเป็นเพราะเจ้าที่เป็นองค์ชายไม่เอาไหนต่างหาก ข้าจงรักภักดีต่อแผ่นดิน หวังว่าวันหนึ่งจะเป็นแม่ทัพที่ดีและเป็นกองกำลังให้ฮ่องเต้เช่นเจ้าในภายภาคหน้าแต่เจ้าทำลายทุกอย่าง เจ้าทำร้ายหัวใจของข้า ทำให้ข้าต้องแย่งชิงคืนมาเช่นนี้อย่างไรเล่า " เจาหยางตั้งท่าได้สู้กับเซียวอี้อีกครั้ง จนทั้งสองทะลุกำแพงห้องพังทลายล้มลง เสียงดังจึงถึงห้องของลั่วเออร์ตึง!"นั่นเสียงอะไรกัน ทำไมถึงดังอยู่ใกล้ ๆ เช่นนี้หรือว่าแม่ทัพเจาหยางบุกมาที่ตำหนักนี้แล้ว " ลั่วเออร์ไม่รีรอนางร้อนใจจึงเปิดประตูออกไปด้านนอกเพื่อดู แต่ก็ต้องถูกองครักษ์เข้ามาห้ามไม่ให้ออกไปเสียก่อน"พระชายาจะออกไปที่ใดพ่ะย่ะค่ะ ""ข้าได้ยินเสียงดังที่ตำหนักนี้ข้าเป็นห่วงองค์รัชทายาทกลัวว่าเขาจะรับมือแม่ทัพเจาหยางไม่ได้ ""พระชายาอย่าร้อนใจไปพ่ะย่ะค่ะ ยามนี้องครักษ์ไป๋เหลียนก็อยู่กับองค์รัชทายาท พระชายาเข้าไปอยู่ในห้องดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ " ลั่วเออร์มองลอดใต้แขนขององครักษ์ที่ยืนบังนางเห็นแม่ทัพเจาหยางกำลังจะใช้ดาบจัดการกับเซียวอี้ที่ล้มลงกับแผ่นไม้ฝาผนังที่เสียงดังเมื่อครู่ นางคือต้นเหตุทุกอย่างที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นและเ

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 42 ก่อกบฏ

    บทที่ 42 ก่อกบฏรุ่งเช้าวันต่อมาไป๋เหลียนที่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของแม่ทัพเจาหยางได้เข้ามารายงานต่อเซียวอี้ที่กำลังนั่งหน้าเคร่งเครียดเพื่อรับมือจากแม่ทัพ"ทูลองค์รัชทายาท ยามนี้กองทัพของแม่ทัพเจาหยางจะเคลื่อนขบวนในยามวิกาลพ่ะย่ะค่ะ ข้าได้ยินมาว่าเขาบอกกล่าวกองกำลังเพื่ออ้อมล้อมวังหลวงในคืนนี้ในเวลายามที่ทุกคนต่างหลับใหล จำนวนทหารของแม่ทัพมีประมาณสี่ร้อยนายจะรับมือเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ""ทหารของเจาหยางมีสี่ร้อยนายหรือ? เช่นนั้นกองกำลังของเราก็มีไม่น้อยไปกว่าเขาเพราะความช่วยเหลือของท่านแม่ ข้าจะวางแผนตลบหลัง ขันทีลี่เว่ยไปแจ้งกองกำลังมาหาข้าที่นี่""พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย ""ส่วนเจ้าค่ำคืนนี้ทำตามแผนของข้า ส่วนพระชายาข้าจะให้องครักษ์เงาอีกกลุ่มไปเฝ้านางเอง มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะสามารถรับมือแม่ทัพเจาหยางได้ จงทำตามนี้" เซียวอี้บอกแผนการให้ไป๋เหลียนได้รับรู้ จากนั้นเมื่อกองกำลังมาถึงเขาได้บอกแผนการในการรับมือครั้งนี้ให้แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและทุกคนต่างพากันหลบซ่อนจนกว่ากองกำลังของแม่ทัพเจาหยางจะล้อมวังหลวงจากนั้นค่อยให้ทหารออกมาล้อมกองทัพของแม่ทัพเจาหยาง เซียวอี้ครุ่นคิดมาทั้งคืนเขาจะไม่ให้เกิดการ

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 41 วางแผนรับมือ

    บทที่ 41 วางแผนรับมือฝั่งด้านแม่ทัพเซ่อเจาหยางเขากลับมาจากตำหนักหนานฉี มาปรึกษาหารือท่านพ่อคิดจะก่อกบฏท่านใต้เท้าเซ่อไม่ห้ามแถมยังให้ความสนับสนุนเซ่อเจาหยางอีกด้วย เขาจึงตระเวนออกไปหาใต้เท้าที่อยู่ภายใต้ความควบคุมท่านพ่อเพื่อขอความร่วมมือในการชิงบัลลังก์ในครั้งนี้ ข้ากลับจากเรือนใต้เท้าท่านหนึ่งเห็นองค์รัชทายาทกำลังพาลั่วเออร์ออกจากวังหลวงเพียงลำพังจึงได้แอบตามไป ได้เห็นหมู่บ้านในหุบเขาที่เซียวอี้แอบซ่อนไว้ รอยยิ้มของลั่วเออร์ที่เคยเป็นของเขายามนี้ถูกเซียวอี้ครอบครองจนหมดสิ้นไม่ว่าจะเป็นใจหรือกายของนาง ดวงตาร้อนระอุในอกเต็มไปด้วยความเคลียดแค้น ยิ่งเห็นชาวบ้านที่นี่รักและเทิดทูลเขายิ่งไม่พึงพอใจ เมื่อเห็นว่าเซียวอี้พาลั่วเออร์กลับวังหลวงความคิดชั่วร้ายของเจาหยางที่ก่อเกิดจึงสั่งการให้ทหารของตนไปจัดการสอบถามชาวบ้านแต่เมื่อชาวบ้านตอบคำถามไม่ตรงความคิดของเขาจึงสั่งให้ทหารจัดการฆ่าทิ้งให้หมดทุกคนไม่ละเว้น เขาอยากเห็นความเจ็บปวดของเซียวอี้ที่พรากคนรักของเขาไป หากเขารู้ว่าหมู่บ้านและชาวบ้านที่เขาให้การช่วยเหลือตายกันหมดคงจะเจ็บปวดเจียนตายเมื่อตรวจสอบแล้วไม่เหลือผู้เหลือรอดเขาจึงจุดไฟเผาให้

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 40 เป็นฝีมือเขา

    บทที่ 40 เป็นฝีมือเขาในห้องของลั่วเออร์มีจื่อหลินที่แต่งกายให้อยู่นางเกิดความสงสัยจึงเอ่ยถามผู้เป็นนาย"พระชายาเพคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันเพคะพระชายาถึงได้พากันกลับวังหลวงจนท้องฟ้ามืดมิดเช่นนี้แล้วเด็กนั้นคือใครกันเพคะ" ลั่วเออร์หันไปมองหน้าของนางกำนัลเสมือนพวกนางรู้พากันเดินออกจากห้องเหลือเพียงจื่อหลิน"เด็กนั่นเป็นเด็กที่องค์รัชทายาทช่วยเหลือเอาไว้ ข้างนอกวังเกิดเรื่องขึ้นทำให้ข้ากับองค์รัชทายาทกลับมาล่วงเวลาเช่นนี้ วันนี้ข้าเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินจนไม่มีเรี่ยวแรงจะเอ่ยแล้วเจ้าไปพักเถิดนะ รุ่งสางข้าจะเล่าให้เจ้าฟังเอง ""เพคะพระชายา " จื่อหลินวางแปรงผมลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง เดินออกไปด้านนอกไม่นานเซียวอี้ได้เสด็จมาหาลั่วเออร์เพื่อมฟังคำพูดของนางเหตุใดนางถึงรู้ว่าเป็นแม่ทัพเจาหยางและเขามาพบนางเพราะการใด"มาแล้วหรือเพคะ ""ข้ารู้ว่าเจ้าตกใจและเสียใจเพียงใดแต่เรื่องที่ข้าต้องการจะรู้จากปากเจ้าในวันนี้ข้าต้องรู้ให้ได้ "ลั่วเออร์ลุกขึ้นมานั่งที่เก้าอี้พรางสูดลมหายใจให้ทั่วท้องและเล่าเรื่่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แก่เซียวอี้ฟัง"อะไรกันเจาหยางคิดทำลายข้าจนถึงขั้นจะให้เจ้าปลงพระชนม์ข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 39 ช่างโหดร้าย

    บทที่ 39 ช่างโหดร้ายลั่วเออร์ปาดน้ำตาลุกขึ้นยืนเดินไปเดินมาด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มกำมือแน่นภาวนาให้ยังพอมีคนเหลือรอด นางได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้รีบหันไปมองเห็นเซียวอี้อุ้มหนิงเอ๋อกลับมา ลั่วเออร์ดีใจราวกับคำอ้อนวอนของนางเป็นจริง นางวิ่งเข้าหาหาทั้งสองทันที“สวรรค์หนิงเอ๋อเจ้าปลอดภัย เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้าเพียงใด” เซียวอี้วางหนิงเอ๋อหลงจากอ้อมแขน นางวิ่งเข้าไปโอบกอดลั่วเออร์แน่น“พี่ลั่วเออร์ข้ากลัว กลัวเหลือเกินเจ้าค่ะพวกเขาช่างโหดร้ายเพื่อน ๆ ของข้าท่านแม่ของข้าต่างพากันอ้อนวอนพวกเขาไม่มีความเมตตาสักนิด ท่านแม่ก้มลงเพื่อวอนขอชีวิตแต่เขากลับใช้ดาบบั่นคอท่านแม่ชั่วพริบตา อึก อึก ข้ากลัวเจ้าค่ะ เพื่อน ๆ ของข้าหนีไม่ทันถูกคนใจร้ายจัดการจนไม่เหลือ พี่ลั่วเออร์ท่านอย่าทิ้งข้าไปอีกคนนะเจ้าคะ ข้าไม่เหลือใครแล้ว” เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของหลินเอ๋อต่างพากันสงสาร ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ฝืนใจข่มความกลัวเพื่อบอกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่ ลั่วเออร์กอดนางแน่นพรางร้องไห้เด็กตัวเล็กเพียงนี้ต้องมาพบเจอเรื่องโหดร้ายแถมยังต้องเสียทุกคนไปคงสะเทือนใจไม่น้อย“ข้าอยู่นี่แล้ว ข้าไม่มีท

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status