แชร์

บทที่ 7 พระราชโองการของฝ่าบาท

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-14 10:05:26

บทที่ 7 พระราชโองการของฝ่าบาท

เรือนตระกูลหวัง

เช้าวันนี้อากาศดีเช่นทุกวันลั่วเออร์ไปหาท่านแม่ของนางที่ห้อง ท่านแม่ของนางนั้นมักเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่บ่อยครั้งจึงไม่ค่อยได้ออกไปที่ใด โชคดีที่ท่านใต้เท้าหวังเป็นบุรุษที่รักครอบครัว ไม่มีอนุเข้ามาเพิ่มจึงไม่มีเรื่องให้ฮูหยินได้ทุกข์ใจ

“ท่านแม่วันนี้ข้าทำขนมที่ท่านแม่ชอบมาให้ด้วยเจ้าค่ะ จื่อหลินยกสำรับมาให้ข้า ข้าจะป้อนท่านแม่เอง” ฮูหยินมองบุตรสาวของตนด้วยความเอ็นดู

“ลั่วเออร์เจ้าเป็นบุตรสาวที่ข้าภูมิใจยิ่งนัก ทั้ง ๆ ที่ข้าไม่ค่อยมีเวลาอบรมสั่งสอนเจ้าแต่ทว่าเจ้ากลับเป็นเด็กดีเรียนรู้ทุกอย่าง อย่างง่ายดาย”

“เป็นเพราะท่านพ่อกับท่านแม่มอบความรักให้ข้ามากเพียงพออย่างไรเจ้าคะ ท่านพ่อกับท่านแม่เองก็เป็นคนดีข้าจึงเป็นคนดีอย่างท่านทั้งสองเจ้าค่ะ ว่าแต่ช่วงนี้ร่างกายของท่านแม่เป็นเช่นไรบ้างเจ้าคะ”

“ร่างกายของหญิงชราเช่นข้าก็เป็นเช่นเดิมเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายไม่รู้จะอยู่บนโลกนี้อีกนานเพียงใดมีสิ่งเดียวที่ข้ายังคงเป็นห่วงก็คือเจ้า ยามนี้ลั่วเออร์ของข้าก็ถึงวัยออกเรือนแล้วเจ้ามีใจกับแม่ทัพเจาหยางมานานเมื่อไหร่ทางนั้นจะมาสู่ขอเจ้ากันนะ แค่ก ๆ ” มารดาของลั่วเออร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบพร้อมไอออกมาเนื่องจากอาการของนาง

“ท่านแม่ดื่มน้ำหน่อยนะเจ้าคะ” ลั่วเออร์หยิบแก้วน้ำเพื่อให้ท่านแม่ได้ดื่มก่อนจะตอบเรื่องที่ท่านแม่เป็นห่วง “เรื่องนั้นข้ากับท่านแม่ทัพได้หารือกันบ้างแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพมาหาข้าก่อนจะนำกองกำลังทหารไปช่วยออกรบที่ทิศเหนือ เขาได้ให้คำสัญญากับข้าว่าเมื่อไหร่ที่ท่านแม่ทัพกลับมาจะทูลขอให้ฝ่าบาทประทานงานมงคลให้เจ้าค่ะ เรื่องนี้ท่านแม่มิต้องเป็นกังวล”

“เช่นนั้นหรือ? หากเป็นเช่นเจ้าเอ่ยข้าเองก็เบาใจ” หญิงชรายิ้มบาง ๆ ให้แก่ลั่วเออร์ทันใดนั้นเองเสียงของสาวรับใช้ที่แตกตื่นรีบวิ่งเข้ามาแจ้งคุณหนูเพราะว่ายามนี้มีเกี้ยวมาจากวังหลวง

“ขออภัยฮูหยินกับคุณหนูด้วยเจ้าค่ะที่ข้าเร่งรีบเข้ามา...แฮ่ก แฮ่ก!!”

“เจ้ามีเรื่องอันใดเหตุใดถึงได้มีใบหน้าแตกตื่นเช่นนี้หรือว่าเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้น” ลั่วเออร์เอ่ยถามสาวใช้ด้วยความสงสัย

“เกิดเรื่องอันใดนั้นข้าเองก็หารู้ไม่เจ้าค่ะ แต่ทว่ายามนี้มีขบวนเกี้ยวมาจากวังหลวงอยู่ที่หน้าเรือนเจ้าค่ะ”

“เกิดเรื่องอันใดกันนะท่านแม่ ท่านอยู่ที่ห้องนี่นะเจ้าคะข้าจะออกไปดูเองว่าผู้ใดมาเยือนตระกูลของเรา”

“เจ้าไปเถิดไม่ต้องเป็นห่วงข้า “ฮูหยินตอบกลับลั่วเออร์ก่อนที่นางจะลุกขึ้นเดินตามสาวใช้ไปด้านนอก

“เจ้าไปตามท่านพ่อแล้วอย่างนั้นหรือ?”

“เจ้าค่ะ ท่านใต้เท้ากำลังออกมาต้อนรับเจ้าค่ะ” เมื่อลั่วเออร์ได้ยินเช่นนั้นก็รีบย่างกรายไปที่หน้าเรือนเมื่อเดินเข้าไปใกล้ ๆ นางเห็นเกี้ยวที่จัดแต่งมาอย่างงดงามนางคิดในใจคงเป็นเกี้ยวของผู้ที่สูงศักดิ์เป็นแน่

‘เกี้ยวผู้ใดกันนะ ปกติที่เรือนของข้าไม่เคยมีเชื้อพระวงศ์มาเยือนที่เรือนสักครา’ ลั่วเออร์คิดในใจแต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ถึงเห็นเหล่าทหาร ขันทีนางกำนัลมากพอจะทำให้นางได้รู้แล้วว่าผู้ใดมาเยือนและได้ยินเสียงของท่านพ่อกำลังกล่าวเชื้อเชิญต้อนรับเป็นอย่างดี

“เป็นพระมหากรุณาพ่ะย่ะค่ะฮองเฮาเสด็จมาที่เรือนของกระหม่อม ต้องขออภัยด้วยหากกระหม่อมต้อนรับไม่ดีเชิญที่ห้องโถงเถิดพ่ะย่ะค่ะกระหม่อมจะรีบจัดเตรียมน้ำชามาถวาย” ลั่วเออร์มองไปด้านหน้าเห็นสตรีที่สง่าแม้ไม่ได้ฉลองพระองค์ด้วยชุดที่ใส่ในวังหลวงก็ตาม

“ใต้เท้าหวัง ที่ข้ามาในวันนี้เพราะข้ามาเพราะพระราชโองการของฝ่าบาท” ใต้เท้าหวังคิ้วขมวดเข้าหากันฮองเฮายื่นพระราชโองการให้แก่เขา เขานั่งคุกเข่าลงเพื่อน้อมรับพระราชโองการ

“กระหม่อมหวังอี้เฉินน้อมรับพระราชโองการ” เมื่อใต้เท้าหวังได้เปิดอ่านก็ต้องชะงักใบหน้าถอดสีเล็กน้อย

“เหตุใดท่านถึงมีสีหน้าเช่นนั้นหรือ? ”

“มิได้มีอะไรพ่ะย่ะค่ะ เชิญฮองเฮาเสด็จมาที่ห้องโถงแล้วค่อยหารือเรื่องนี้เถิดพ่ะย่ะค่ะ โอ๊ะ!! ลั่วเออร์มาพอดีเลย ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะนี่คือบุตรสาวของกระหม่อมหวังลั่วเออร์พ่ะย่ะค่ะ “ลั่วเออร์นำมือมาประสานกันไว้กลางหน้าอกย่อตัวลงเพื่อถวายบังคมฮองเฮาอย่างนอบน้อม

“หม่อมฉันหวังลั่วเออร์ถวายบังคมฮองเฮา ขอให้ฮองเฮาแข็งแรงหมื่นปีหมื่นหมื่นปีเพคะ”

ฮองเฮาเพ่งมองโดยละเอียดกวาดตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อสำรวจร่างกายของลั่วเออร์ ผิวพรรณใบหน้ากิริยาไม่มีสิ่งใดที่ขาดตกบกพร่องสมแล้วที่บุตรชายของนางอยากได้ลั่วเออร์เป็นพระชายา

"นี่สินะหวังลั่วเออร์ ช่างมีใบหน้าที่งดงามกิริยามารยาทล้วนไม่ต่างจากสตรีชั้นสูงช่างเหมาะสมยิ่งนัก " ลั่วเออร์ไม่เข้าใจในสิ่งที่ฮองเฮาเอ่ยมาแม้แต่น้อยอะไรคือเหมาะสมนางจ้องมองไปทางบิดา ใต้เท้าหวังขยิบตาให่แก่บุตรสาวก่อนจะผายมือให้แก่ฮองเฮาได้เสด็จไปที่ห้องโถงของเรือน

"เชิญทางนี้พ่ะย่ะค่ะ " ฮองเฮาเดินตามหลังท่านใต้เท้าหวังโดยมีลั่วเออร์เดินตามไปอีกคนและนางกำนัลพร้อมกับขันทีก็พากันเดินเป็นขบวนเพื่อตามรับใช้ฮองเฮา เมื่อมาถึงห้องโถงฮองเฮาได้นั่งที่เก้าอี้ที่ถูกจัดเตรียมลั่วเออร์ได้ไปนำน้ำชาพร้อมขนมเมื่อถวาย โดยนางเป็นคนรินน้ำชาให้แก่ฮองเฮาก่อนที่จะเดินถอยหลังมายืนอยู่ข้าง ๆ ท่านพ่อของตน

"น้ำชาที่นี่รสสัมผัสดีเสียจริง "

"หากฮองเฮาโปรดปราณกระหม่อมจะนำไปถวายที่ตำหนักนะพ่ะย่ะค่ะ " ใต้เท้าหวังเอ่ยบอกฮองเฮา นางวางจอกน้ำชาลงและเอ่ยเข้าเรื่องที่มาในวันนี้

"ข้าขอเอ่ยตามตรงท่านใต้เท้าได้อ่านพระราชโองการของฝ่าบาทคงรู้จุดประสงค์ที่ข้ามาในวันนี้แล้วใช่หรือไม่? ส่วนลั่วเออร์เจ้าคงยังไม่รู้สินะ วันนี้ข้ามิได้มาใมนามของฮองเฮาแต่ข้ามาในนามของมารดาขององค์ชายสามเซียวอี้เพื่อมาสู่ขอเจ้าไปให้เป็นพระชายาเคียงคู่บุตรชายของข้า ไม่รู้ว่าเจ้าทั้งสองพบกันที่ใดบุตรชายของข้าปักใจให้เจ้า ถึงขั้นเอ่ยขอฝ่าบาทด้วยตนเองเรื่องนี้ทำให้ผู้เป็นมารดาเช่นข้าสงสัยจึงได้ออกมาดูด้วยตนเอง และเหมือนว่าบุตรชายรองของข้ามีสายตาที่แหลมคม เพียงแค่ข้ามองเจ้าเพียงครู่รับรู้ได้ถึงนิสัยมารยาทของเจ้า เป็นเพราะท่านใต้เท้าหวังสั่งสอนมาดี "

"ขอบพระทัยฮองเฮาที่เอ็นดูลั่วเออร์ของกระหม่อม แต่ทว่าเรื่องนี้กระหม่อมต้องถามเจ้าตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ" ทันทีที่ลั่วเออร์ได้ยินจุดประสงค์ของฮองเฮาที่เสด็จมาวันนี้หัวใจของนางสั่นระรัว นางมีใจให้แก่ท่านแม่ทัพอยู่แล้วจะแต่งกับชายอื่นได้อย่างไรอีกอย่างนี่คือพระราชโองการของฝ่าบาท หากนางขัดขืนคำสั่งคงมิต้องโทษหรอกหรือ ลั่วเอร์ครุ่นคิดอย่างกังวลไม่คิดเลยว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับตนเองได้ นางไม่เคยพบกับองค์ชายสามเซียวอี้เลยสักครั้งเพียงแค่เคยได้ยินชาวบ้านเล่าขานกันในตลาดว่าองค์ชายเซียวอี้คือองค์ชายที่ไม่เอาไหนเสเพลไปวัน ๆ มักดื่มสุราออกท่องราตรี มิใช่นางไม่คู่ควรแต่องค์ชายเซียวอี้ต่างหากที่ไม่คู่ควรหากสตรีใดได้เป็นพระชายาคงหน้าชื่นอกตรมเป็นแน่

"ทูลฮองเฮาหม่อมฉันหวังลั่วเออร์มิได้มีใจให้แก่องค์ชายเซียวอี้แม้แต่พระพักษต์หม่อมฉันเองก็ยังไม่เคยเห็น และสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือหม่อมฉันนั่นมีใจให้บุรุษอื่นแล้วเพคะมิอาจจะรับพระราชโองการได้" น้ำเสียงหนักแน่นไม่หวั่นกลัวเพราะหัวใจที่มั่นคงต่อแม่ทัพเจาหยางจึงเอ่ยพรางสบตาฮองเฮาอย่างทนงตน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 44 ข้ารักท่าน(ตอนจบ)

    บทที่ 44 ข้ารักท่านใต้เท้าเซ่อรู้สึกอับอายที่บุตรชายได้รับความพ่ายแพ้ต่อองค์รัชทายาท ตระกูลเซ่อทุกคนต่างได้รับโทษและใต้เท้าที่รวมตัวกันวางแผนก็ถูกลงโทษด้วยเช่นกัน โทษของเจาหยางคือการถูกโบยตีก่อนจะนำไปแคว้นคอประจานให้แก่ราษฎรได้เห็นถึงการก่อกบฏและประสงค์ร้ายต่อราชวงศ์จะถูกลงโทษเช่นไร แม้จะมีคุณงามความดีต่อแผ่นดินแต่ถ้าหากคิดร้ายก็ไม่ละเว้นก่อนจะนำร่างไปโยนให้แร้งกิน สนมตระกูลเซ่อถูกปลดให้เป็นเพียงสาวใช้และองค์ชายห้าถูกตัดขาดกับราชวงศ์มิอาจจะเข้ามาในวังหลวงได้อีกต่อไปใต้เท้าเซ่อถูกรุมประชาทัณฑ์ชาวบ้านหรือผู้ที่เคยถูกเขาข่มเหงรังแกขว้างหินขว้างดินใส่จนเขาถึงแก่ความตายภายในวังหลวงกลับมาสุขสงบอีกครั้ง แม้ลั่วเออร์จะเห็นชอบการลงโทษแต่ทว่าในใจของนางลึก ๆ ยังคงคิดถึงใบหน้ารอยยิ้มของเจาหยางแต่มิใช่เพราะนางคิดถึงเพราะความรักแต่ทว่านางกลับเสียดาย หากเขาเลือกเดินทางถูกต้องและคอยช่วยเหลือองค์รัชทายาทอาจจะเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ที่ทุกคนนับหน้าถือตา"พระชายาเพคะ วันนี้หม่อมฉันจะออกไปอยู่ที่ตำหนักของนางในแล้วจะได้พบพระชายาอีกไม่เพคะ" หนิงเอ๋อเดินเข้ามาหาลั่วเออร์ที่ศาลารับลม นางได้เข้ามาเป็นนางในฝึกหัด

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 43 ลงโทษอย่างสาสม

    บทที่ 43 ลงโทษอย่างสาสม"ใครบอกเป็นเพราะเจ้าที่เป็นองค์ชายไม่เอาไหนต่างหาก ข้าจงรักภักดีต่อแผ่นดิน หวังว่าวันหนึ่งจะเป็นแม่ทัพที่ดีและเป็นกองกำลังให้ฮ่องเต้เช่นเจ้าในภายภาคหน้าแต่เจ้าทำลายทุกอย่าง เจ้าทำร้ายหัวใจของข้า ทำให้ข้าต้องแย่งชิงคืนมาเช่นนี้อย่างไรเล่า " เจาหยางตั้งท่าได้สู้กับเซียวอี้อีกครั้ง จนทั้งสองทะลุกำแพงห้องพังทลายล้มลง เสียงดังจึงถึงห้องของลั่วเออร์ตึง!"นั่นเสียงอะไรกัน ทำไมถึงดังอยู่ใกล้ ๆ เช่นนี้หรือว่าแม่ทัพเจาหยางบุกมาที่ตำหนักนี้แล้ว " ลั่วเออร์ไม่รีรอนางร้อนใจจึงเปิดประตูออกไปด้านนอกเพื่อดู แต่ก็ต้องถูกองครักษ์เข้ามาห้ามไม่ให้ออกไปเสียก่อน"พระชายาจะออกไปที่ใดพ่ะย่ะค่ะ ""ข้าได้ยินเสียงดังที่ตำหนักนี้ข้าเป็นห่วงองค์รัชทายาทกลัวว่าเขาจะรับมือแม่ทัพเจาหยางไม่ได้ ""พระชายาอย่าร้อนใจไปพ่ะย่ะค่ะ ยามนี้องครักษ์ไป๋เหลียนก็อยู่กับองค์รัชทายาท พระชายาเข้าไปอยู่ในห้องดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ " ลั่วเออร์มองลอดใต้แขนขององครักษ์ที่ยืนบังนางเห็นแม่ทัพเจาหยางกำลังจะใช้ดาบจัดการกับเซียวอี้ที่ล้มลงกับแผ่นไม้ฝาผนังที่เสียงดังเมื่อครู่ นางคือต้นเหตุทุกอย่างที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นและเ

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 42 ก่อกบฏ

    บทที่ 42 ก่อกบฏรุ่งเช้าวันต่อมาไป๋เหลียนที่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของแม่ทัพเจาหยางได้เข้ามารายงานต่อเซียวอี้ที่กำลังนั่งหน้าเคร่งเครียดเพื่อรับมือจากแม่ทัพ"ทูลองค์รัชทายาท ยามนี้กองทัพของแม่ทัพเจาหยางจะเคลื่อนขบวนในยามวิกาลพ่ะย่ะค่ะ ข้าได้ยินมาว่าเขาบอกกล่าวกองกำลังเพื่ออ้อมล้อมวังหลวงในคืนนี้ในเวลายามที่ทุกคนต่างหลับใหล จำนวนทหารของแม่ทัพมีประมาณสี่ร้อยนายจะรับมือเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ""ทหารของเจาหยางมีสี่ร้อยนายหรือ? เช่นนั้นกองกำลังของเราก็มีไม่น้อยไปกว่าเขาเพราะความช่วยเหลือของท่านแม่ ข้าจะวางแผนตลบหลัง ขันทีลี่เว่ยไปแจ้งกองกำลังมาหาข้าที่นี่""พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย ""ส่วนเจ้าค่ำคืนนี้ทำตามแผนของข้า ส่วนพระชายาข้าจะให้องครักษ์เงาอีกกลุ่มไปเฝ้านางเอง มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะสามารถรับมือแม่ทัพเจาหยางได้ จงทำตามนี้" เซียวอี้บอกแผนการให้ไป๋เหลียนได้รับรู้ จากนั้นเมื่อกองกำลังมาถึงเขาได้บอกแผนการในการรับมือครั้งนี้ให้แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและทุกคนต่างพากันหลบซ่อนจนกว่ากองกำลังของแม่ทัพเจาหยางจะล้อมวังหลวงจากนั้นค่อยให้ทหารออกมาล้อมกองทัพของแม่ทัพเจาหยาง เซียวอี้ครุ่นคิดมาทั้งคืนเขาจะไม่ให้เกิดการ

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 41 วางแผนรับมือ

    บทที่ 41 วางแผนรับมือฝั่งด้านแม่ทัพเซ่อเจาหยางเขากลับมาจากตำหนักหนานฉี มาปรึกษาหารือท่านพ่อคิดจะก่อกบฏท่านใต้เท้าเซ่อไม่ห้ามแถมยังให้ความสนับสนุนเซ่อเจาหยางอีกด้วย เขาจึงตระเวนออกไปหาใต้เท้าที่อยู่ภายใต้ความควบคุมท่านพ่อเพื่อขอความร่วมมือในการชิงบัลลังก์ในครั้งนี้ ข้ากลับจากเรือนใต้เท้าท่านหนึ่งเห็นองค์รัชทายาทกำลังพาลั่วเออร์ออกจากวังหลวงเพียงลำพังจึงได้แอบตามไป ได้เห็นหมู่บ้านในหุบเขาที่เซียวอี้แอบซ่อนไว้ รอยยิ้มของลั่วเออร์ที่เคยเป็นของเขายามนี้ถูกเซียวอี้ครอบครองจนหมดสิ้นไม่ว่าจะเป็นใจหรือกายของนาง ดวงตาร้อนระอุในอกเต็มไปด้วยความเคลียดแค้น ยิ่งเห็นชาวบ้านที่นี่รักและเทิดทูลเขายิ่งไม่พึงพอใจ เมื่อเห็นว่าเซียวอี้พาลั่วเออร์กลับวังหลวงความคิดชั่วร้ายของเจาหยางที่ก่อเกิดจึงสั่งการให้ทหารของตนไปจัดการสอบถามชาวบ้านแต่เมื่อชาวบ้านตอบคำถามไม่ตรงความคิดของเขาจึงสั่งให้ทหารจัดการฆ่าทิ้งให้หมดทุกคนไม่ละเว้น เขาอยากเห็นความเจ็บปวดของเซียวอี้ที่พรากคนรักของเขาไป หากเขารู้ว่าหมู่บ้านและชาวบ้านที่เขาให้การช่วยเหลือตายกันหมดคงจะเจ็บปวดเจียนตายเมื่อตรวจสอบแล้วไม่เหลือผู้เหลือรอดเขาจึงจุดไฟเผาให้

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 40 เป็นฝีมือเขา

    บทที่ 40 เป็นฝีมือเขาในห้องของลั่วเออร์มีจื่อหลินที่แต่งกายให้อยู่นางเกิดความสงสัยจึงเอ่ยถามผู้เป็นนาย"พระชายาเพคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันเพคะพระชายาถึงได้พากันกลับวังหลวงจนท้องฟ้ามืดมิดเช่นนี้แล้วเด็กนั้นคือใครกันเพคะ" ลั่วเออร์หันไปมองหน้าของนางกำนัลเสมือนพวกนางรู้พากันเดินออกจากห้องเหลือเพียงจื่อหลิน"เด็กนั่นเป็นเด็กที่องค์รัชทายาทช่วยเหลือเอาไว้ ข้างนอกวังเกิดเรื่องขึ้นทำให้ข้ากับองค์รัชทายาทกลับมาล่วงเวลาเช่นนี้ วันนี้ข้าเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินจนไม่มีเรี่ยวแรงจะเอ่ยแล้วเจ้าไปพักเถิดนะ รุ่งสางข้าจะเล่าให้เจ้าฟังเอง ""เพคะพระชายา " จื่อหลินวางแปรงผมลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง เดินออกไปด้านนอกไม่นานเซียวอี้ได้เสด็จมาหาลั่วเออร์เพื่อมฟังคำพูดของนางเหตุใดนางถึงรู้ว่าเป็นแม่ทัพเจาหยางและเขามาพบนางเพราะการใด"มาแล้วหรือเพคะ ""ข้ารู้ว่าเจ้าตกใจและเสียใจเพียงใดแต่เรื่องที่ข้าต้องการจะรู้จากปากเจ้าในวันนี้ข้าต้องรู้ให้ได้ "ลั่วเออร์ลุกขึ้นมานั่งที่เก้าอี้พรางสูดลมหายใจให้ทั่วท้องและเล่าเรื่่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แก่เซียวอี้ฟัง"อะไรกันเจาหยางคิดทำลายข้าจนถึงขั้นจะให้เจ้าปลงพระชนม์ข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 39 ช่างโหดร้าย

    บทที่ 39 ช่างโหดร้ายลั่วเออร์ปาดน้ำตาลุกขึ้นยืนเดินไปเดินมาด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มกำมือแน่นภาวนาให้ยังพอมีคนเหลือรอด นางได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้รีบหันไปมองเห็นเซียวอี้อุ้มหนิงเอ๋อกลับมา ลั่วเออร์ดีใจราวกับคำอ้อนวอนของนางเป็นจริง นางวิ่งเข้าหาหาทั้งสองทันที“สวรรค์หนิงเอ๋อเจ้าปลอดภัย เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้าเพียงใด” เซียวอี้วางหนิงเอ๋อหลงจากอ้อมแขน นางวิ่งเข้าไปโอบกอดลั่วเออร์แน่น“พี่ลั่วเออร์ข้ากลัว กลัวเหลือเกินเจ้าค่ะพวกเขาช่างโหดร้ายเพื่อน ๆ ของข้าท่านแม่ของข้าต่างพากันอ้อนวอนพวกเขาไม่มีความเมตตาสักนิด ท่านแม่ก้มลงเพื่อวอนขอชีวิตแต่เขากลับใช้ดาบบั่นคอท่านแม่ชั่วพริบตา อึก อึก ข้ากลัวเจ้าค่ะ เพื่อน ๆ ของข้าหนีไม่ทันถูกคนใจร้ายจัดการจนไม่เหลือ พี่ลั่วเออร์ท่านอย่าทิ้งข้าไปอีกคนนะเจ้าคะ ข้าไม่เหลือใครแล้ว” เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของหลินเอ๋อต่างพากันสงสาร ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ฝืนใจข่มความกลัวเพื่อบอกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่ ลั่วเออร์กอดนางแน่นพรางร้องไห้เด็กตัวเล็กเพียงนี้ต้องมาพบเจอเรื่องโหดร้ายแถมยังต้องเสียทุกคนไปคงสะเทือนใจไม่น้อย“ข้าอยู่นี่แล้ว ข้าไม่มีท

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status