แชร์

บทที่ 8 ถูกชะตา

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-14 10:06:07

บทที่ 8 ถูกชะตา

ฮองเฮาไม่ได้ถือโกรธนางแต่กลับหัวเราะออกมาอย่างขบขัน

"เจ้าช่างอาจหาญต่างจากใบหน้าของเจ้ายิ่งนัก เป็นเช่นนี้ข้ายิ่งชอบเจ้ามากกว่าเดิม ช่างเป็นสตรีที่ดีเสียจริงข้านับถือน้ำใจเจ้าที่มีใจซื่อตรง แม้ข้าจะรู้ว่าการที่พรากเจ้ามาจากคนที่เจ้ารักมันผิด แต่เจ้ารู้หรือไม่โทษของการฝ่าฝืนพระราชโองการเป็นเช่นไร ตระกูลของจะถูกลงโทษแถมยังจะถูกเนรเทศออกไปอยู่ที่แคว้นอื่นอำนาจบารมีที่ท่านพ่อเจ้ามีก็สูญหาย ข้าได้ยินมาว่าฮูหยินท่านแม่ของเจ้าไม่สบายอยู่มิใช่หรือ?" ลั่วเออร์กำมือแน่นแม้คำพูดของฮองเฮาจะบอกว่าไม่อยากพรากนางจากคนที่นางรักแต่เอ่ยออกมาเช่นนี้ราวกับบีบคั้นให้นางทำตามพระราชโองการโดยการใช้อำนาจข่มขู่ ลั่วเออร์หันไปมองใบหน้าของบิดาที่ยามนี้ซีดเซียวหากนางไม่รับราชโองการและทำตาม ท่านพ่อกับท่านแม่ของนางต้องได้รับความเดือดร้อนในคราวนี้ ลั่วเออร์หมดหนทางที่จะหลีกเลี่ยงเหตุใดต้องเกิดเรื่องเช่นนี้กับนางด้วย

"ฮองเฮาเพคะที่ทรงเอ่ยมาเพราะจะข่มขู่ให้หม่อมฉันรับพระราชโองการหรือเพคะ ฮองเฮาเป็นมารดาของแผ่นดินและเป็นมารดาขององค์ชายทำเช่นนี้ไม่ทำร้ายจิตใจของหม่อมฉันเกินไปหรอกหรือเพคะ " ลั่วเออร์เอ่ยวาจาหมิ่นเบื้องบนจนใต้เท้าหวังผู้เป็นบิดารีบดึงนางมาอยู่ด้านหลังของตนพร้อมคุกเข่าลงเพื่อขอประทานอภัย

"ทูลฮองเฮาต้องขอประทานอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ ลั่วเออร์ยังเด็กนักเป็นเพราะกระหม่อมสั่งสอนไม่ดีจึงบังอาจล่วงเกินฮองเฮา "

"ใต้เท้าหวังลุกขึ้นมาเถิดข้ามิได้เคืองใจกับนางเลย ลั่วเออร์ข้าเองก็มิได้มีใจให้แก่ฮ่องเต้เจ้ารู้หรือไม่? ด้วยหน้าที่และความกตัญญูที่ข้าต้องตอบแทนผู้เป็นบิดามารดาข้าจึงต้องมารับตำแหน่งฮองเฮาและถือกำเนิดบุตรชายให้แก่ฝ่าบาทเพื่อไม่ให้ตระกูลของข้าต้องมาพบเจอการขัดขืนประราชโองการ หากข้ายังดึงดันเช่นเจ้าปานนี้ชีวิตของข้าคงระเหเร่ร่อนอยู่ที่ใดในใต้หล้ากันนะ หรือข้าจะเป็นสาวใช้ในเรือนของใต้เท้าตระกูลใด ข้าจะให้เจ้าไตร่ตรองดูให้ดีว่าเจ้าจะเลือกทางเดินของเจ้าเช่นไร องค์ชายเซียวอี้ของข้าก็มิใช่องค์ชายที่ต่ำต้อยอันใด อีกไม่นานฝ่าบาทจะแต่งตั้งให้องค์ชายเซียวอี้รับตำแหน่งองค์รัชทายาทหากเจ้าคอยเคียงข้างเช่นนี้ไม่ดีต่อตระกูลหวังของเจ้าหรอกหรือ" น้ำเสียงของฮองเฮาเอ่ยออกมาความเย็นยะเยือกเอ่ยออกมาให้ลั่วเออร์คิดตาม ลั่วเออร์หมดทางขัดขืนใต้หล้าแห่งนี้ไม่มีผู้ใดกล้าฝ่าฝืนพระราชโองการนางหันไปมองใบหน้าของบิดาที่เศร้าหมองหากบุตรสาวเอ่ยปฏิเสธแม้แต่หัวคงต้องไม่ได้อยู่บนบ่าเป็นแน่

"หม่อมฉันจะเลือกอะไรได้เพคะ "

"ว่านอนสอนง่ายเช่นนี้สิดี อีกสองวันข้าจะส่งเกี้ยวมารับเจ้าเข้าวัง ใต้เท้าหวังนี่นับว่าเป็นโชคดีของตระกูลเจ้าต่อจากนี้ไปคงไม่มีผู้ใดกล้ามาข่มเหงท่านได้อีก เพราะอนาคตบุตรสาวของท่านจะได้ขึ้นเป็นฮองเฮาอำนาจบารมีทุกอย่างจะอยู่ตรงหน้าท่าน วันนี้ข้าหมดธุระแล้ว" ฮองเฮายิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อเดินทางกลับวังแจ้งข่าวดีนี้แก่บุตรชายตนเอง แตกต่างจากลั่วเออร์ที่พยายามควบคุมอารมณ์โมโหของตนเองไว้ เมื่อขบวนเกี้ยวของฮองเฮาเสด็จกลับ ร่างของลั่วเออร์ทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงใบหน้างดงามของนางยามนี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอย่างเจ็บปวด จื่อหลินที่ยืนอยู่ด้านนอกเมื่อเห็นว่าฮองเฮาเสด็จกลับจึงรีบเข้ามาในห้องโถงเห็นคุณหนูของตนนั่งร้องไห้นางรีบข้ามาประคองอย่างเป็นห่วง

"คุณหนูเกิดเรื่องอันใดขึ้นเจ้าคะ ท่านใต้เท้าเกิดอันใดขึ้นกับคุณหนูถึงได้นั่งตัวสั่นเทาเช่นนี้"

"เมื่อครู่ที่ฮองเฮามาเยือนเพราะต้องการให้ลั่วเออร์แต่งเข้าไปเป็นพระชายาขององค์ชายสามนะสิ ลั่วเออร์พ่อผู้นี้สงสารเจ้าจับใจไม่มีทางใดเลยที่ข้าจะทำให้เจ้าได้ แต่กลับเป็นเจ้าที่ต้องทำเพื่อตระกูลพ่อผู้โง่เขลาอ่อนปัญญาผู้นี้สมควรตาย" ใต้เท้าหวังใช้มือทุบอกตนด้วยความคับแค้นใจ เขารู้ดีว่าบุตรสาวนั้นมีใจให้แก่ท่านแม่ทัพและทั้งสองต่างรักกันมากเพียงใด ลั่วเออร์ที่เห็นท่านพ่อเฝ้าโทษตนเองนางจึงรีบลุกขึ้นเพื่อหยุดท่านพ่อ

"ท่านพ่อหยุดเถิดเจ้าค่ะ ข้าไม่เคยคิดว่าเป็นความผิดของท่านพ่อเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นเพราะองค์ชายสามอะไรนั้นต่างหากเจ้าค่ะ ข้าไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าด้วยซ้ำสตรีมากมายในใต้หล้าบุตรสาวตระกูลที่มีอำนาจที่สามารถช่วยเหลือพร้อมหนุนนำอำนาจเหตุใดต้องเป็นข้าด้วย หากจะผิดเรื่องนี้เป็นความผิดขององค์ชายสามนั้นต่างหาก" น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยออกมาอย่างโกรธเคืองดวงตาของนางแดงก่ำ

"คุณหนูเจ้าคะ องค์ชายสามนี่ใช่องค์ชายเซียวอี้ใช่หรือไม่เจ้าคะ ข้าเหมือนจะนึกอันใดออกเหมือนข้าจะเคยได้ยินมาว่าองค์ชายสามเซียวอี้กับท่านแม่ทัพเจาหยางเป็นสหายกัน หากเป็นสหายกันต้องรู้ว่าคุณหนูนั้นเป็นคนรักของท่านแม่ทัพใช่หรือไม่เจ้าคะ แล้วเหตุใดต้องเจาะจงเป็นคุณหนูด้วยหรือว่าสิ่งที่ข้ารู้มามิใช่ความจริงกัน " จื่อหลินคอยตามคุณหนูของนางออกไปเดินเล่นที่ตลาดพร้อมกับแม่ทัพเจาหยางบ่อยครั้งได้ยินบ่าวรับใช้ที่คอยดูแลท่านแม่ทัพเอ่ยคล้าย ๆ โม้ให้นางฟังว่าท่านแม่ทัพเป็นสหายกับองค์ชาย ในยามนั้นนางไม่เชื่อคิดว่าเขาแค่อยากคุยโวให้ตนฟังเท่านั้น

ลั่วเออร์ปาดน้ำตาพรางนึกย้อนไปเรื่องนี้นางพอได้ยินมาบ้าง พักหลังยามที่ท่านแม่ทัพเจาหยางมาพบนางมักจะได้ยินเสียงเขาถอนหายใจนางจึงเอ่ยถามเขาด้วยความเป็นห่วงและได้รู้มาว่าพักนี้ท่านแม่ทัพรู้สึกว่าสหายของเขาที่เป็นองค์ชายนั้นดูเหินห่างและไม่ยอมให้เขาเข้าพบเลยเหมือนหลบหน้าเขา เขาเองไม่รู้ด้วยซ้ำเหตุใดสหายที่สนิทกันมากถึงเป็นเช่นนี้

"จริงสิ! เรื่องนี้ข้าก็พอรู้มาบ้างว่าท่านแม่ทัพมีสหายเป็นองค์ชาย แล้วทำไมเขาถึงทำเช่นนี้กับสหายได้ "

"ลั่วเออร์หากเจ้าลำบากใจเจ้าไม่ต้องทำตามพระราชโองการหรอกนะข้าไม่อยากให้เจ้าต้องจมอยู่กับความทุกข์ จื่อหลินเจ้ารีบไปเก็บเสื้อผ้าและพาคุณหนูหนีไปทิศใต้ออกไปที่แคว้นอื่น ส่วนข้ากับฮูหยินมีชีวิตอยู่มานานไม่เคยเกรงกลัวความตาย" เมื่อได้ยินผู้เป็นบิดาเอ่ยอออกมาเช่นนั้นลั่วเออร์รีบเข้าไปจับมือทั้งสองข้างมากุมไว้ จ้องมองใบหน้าของท่านพ่อที่เศร้าตรมในอก

"ท่านพ่อแม้ข้าจะหนีออกไปตอนนี้แต่ท่านคิดหรือว่าข้าจะได้หนีออกไปที่แคว้นอื่นได้ อำนาจของฝ่าบาทไม่มีผู้ใดไม่เกรงกลัวหากสวรรค์บันดาลมาเช่นนี้ข้าคงไม่มีทางหลบหนีชะตากรรมได้ ชาตินี้ข้าคงไม่มีวาสนาที่จะได้ครองรักกับท่านแม่ทัพ " ใต้เท้าหวังเห็นบุตรสาวเจ็บปวดหัวใจแตกสลายดึงนางเข้ามาโอบกอดพร้อมลูบหลังเบา ๆ อย่างอ่อนโยน

"โธ่ ลั่วเออร์ของข้า เรื่องทั้งหมดไม่น่าเกิดขึ้นกับเจ้าด้วยซ้ำทำไมสวรรค์ถึงได้รังแกกันเช่นนี้ด้วย"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 44 ข้ารักท่าน(ตอนจบ)

    บทที่ 44 ข้ารักท่านใต้เท้าเซ่อรู้สึกอับอายที่บุตรชายได้รับความพ่ายแพ้ต่อองค์รัชทายาท ตระกูลเซ่อทุกคนต่างได้รับโทษและใต้เท้าที่รวมตัวกันวางแผนก็ถูกลงโทษด้วยเช่นกัน โทษของเจาหยางคือการถูกโบยตีก่อนจะนำไปแคว้นคอประจานให้แก่ราษฎรได้เห็นถึงการก่อกบฏและประสงค์ร้ายต่อราชวงศ์จะถูกลงโทษเช่นไร แม้จะมีคุณงามความดีต่อแผ่นดินแต่ถ้าหากคิดร้ายก็ไม่ละเว้นก่อนจะนำร่างไปโยนให้แร้งกิน สนมตระกูลเซ่อถูกปลดให้เป็นเพียงสาวใช้และองค์ชายห้าถูกตัดขาดกับราชวงศ์มิอาจจะเข้ามาในวังหลวงได้อีกต่อไปใต้เท้าเซ่อถูกรุมประชาทัณฑ์ชาวบ้านหรือผู้ที่เคยถูกเขาข่มเหงรังแกขว้างหินขว้างดินใส่จนเขาถึงแก่ความตายภายในวังหลวงกลับมาสุขสงบอีกครั้ง แม้ลั่วเออร์จะเห็นชอบการลงโทษแต่ทว่าในใจของนางลึก ๆ ยังคงคิดถึงใบหน้ารอยยิ้มของเจาหยางแต่มิใช่เพราะนางคิดถึงเพราะความรักแต่ทว่านางกลับเสียดาย หากเขาเลือกเดินทางถูกต้องและคอยช่วยเหลือองค์รัชทายาทอาจจะเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ที่ทุกคนนับหน้าถือตา"พระชายาเพคะ วันนี้หม่อมฉันจะออกไปอยู่ที่ตำหนักของนางในแล้วจะได้พบพระชายาอีกไม่เพคะ" หนิงเอ๋อเดินเข้ามาหาลั่วเออร์ที่ศาลารับลม นางได้เข้ามาเป็นนางในฝึกหัด

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 43 ลงโทษอย่างสาสม

    บทที่ 43 ลงโทษอย่างสาสม"ใครบอกเป็นเพราะเจ้าที่เป็นองค์ชายไม่เอาไหนต่างหาก ข้าจงรักภักดีต่อแผ่นดิน หวังว่าวันหนึ่งจะเป็นแม่ทัพที่ดีและเป็นกองกำลังให้ฮ่องเต้เช่นเจ้าในภายภาคหน้าแต่เจ้าทำลายทุกอย่าง เจ้าทำร้ายหัวใจของข้า ทำให้ข้าต้องแย่งชิงคืนมาเช่นนี้อย่างไรเล่า " เจาหยางตั้งท่าได้สู้กับเซียวอี้อีกครั้ง จนทั้งสองทะลุกำแพงห้องพังทลายล้มลง เสียงดังจึงถึงห้องของลั่วเออร์ตึง!"นั่นเสียงอะไรกัน ทำไมถึงดังอยู่ใกล้ ๆ เช่นนี้หรือว่าแม่ทัพเจาหยางบุกมาที่ตำหนักนี้แล้ว " ลั่วเออร์ไม่รีรอนางร้อนใจจึงเปิดประตูออกไปด้านนอกเพื่อดู แต่ก็ต้องถูกองครักษ์เข้ามาห้ามไม่ให้ออกไปเสียก่อน"พระชายาจะออกไปที่ใดพ่ะย่ะค่ะ ""ข้าได้ยินเสียงดังที่ตำหนักนี้ข้าเป็นห่วงองค์รัชทายาทกลัวว่าเขาจะรับมือแม่ทัพเจาหยางไม่ได้ ""พระชายาอย่าร้อนใจไปพ่ะย่ะค่ะ ยามนี้องครักษ์ไป๋เหลียนก็อยู่กับองค์รัชทายาท พระชายาเข้าไปอยู่ในห้องดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ " ลั่วเออร์มองลอดใต้แขนขององครักษ์ที่ยืนบังนางเห็นแม่ทัพเจาหยางกำลังจะใช้ดาบจัดการกับเซียวอี้ที่ล้มลงกับแผ่นไม้ฝาผนังที่เสียงดังเมื่อครู่ นางคือต้นเหตุทุกอย่างที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นและเ

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 42 ก่อกบฏ

    บทที่ 42 ก่อกบฏรุ่งเช้าวันต่อมาไป๋เหลียนที่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของแม่ทัพเจาหยางได้เข้ามารายงานต่อเซียวอี้ที่กำลังนั่งหน้าเคร่งเครียดเพื่อรับมือจากแม่ทัพ"ทูลองค์รัชทายาท ยามนี้กองทัพของแม่ทัพเจาหยางจะเคลื่อนขบวนในยามวิกาลพ่ะย่ะค่ะ ข้าได้ยินมาว่าเขาบอกกล่าวกองกำลังเพื่ออ้อมล้อมวังหลวงในคืนนี้ในเวลายามที่ทุกคนต่างหลับใหล จำนวนทหารของแม่ทัพมีประมาณสี่ร้อยนายจะรับมือเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ""ทหารของเจาหยางมีสี่ร้อยนายหรือ? เช่นนั้นกองกำลังของเราก็มีไม่น้อยไปกว่าเขาเพราะความช่วยเหลือของท่านแม่ ข้าจะวางแผนตลบหลัง ขันทีลี่เว่ยไปแจ้งกองกำลังมาหาข้าที่นี่""พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย ""ส่วนเจ้าค่ำคืนนี้ทำตามแผนของข้า ส่วนพระชายาข้าจะให้องครักษ์เงาอีกกลุ่มไปเฝ้านางเอง มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะสามารถรับมือแม่ทัพเจาหยางได้ จงทำตามนี้" เซียวอี้บอกแผนการให้ไป๋เหลียนได้รับรู้ จากนั้นเมื่อกองกำลังมาถึงเขาได้บอกแผนการในการรับมือครั้งนี้ให้แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและทุกคนต่างพากันหลบซ่อนจนกว่ากองกำลังของแม่ทัพเจาหยางจะล้อมวังหลวงจากนั้นค่อยให้ทหารออกมาล้อมกองทัพของแม่ทัพเจาหยาง เซียวอี้ครุ่นคิดมาทั้งคืนเขาจะไม่ให้เกิดการ

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 41 วางแผนรับมือ

    บทที่ 41 วางแผนรับมือฝั่งด้านแม่ทัพเซ่อเจาหยางเขากลับมาจากตำหนักหนานฉี มาปรึกษาหารือท่านพ่อคิดจะก่อกบฏท่านใต้เท้าเซ่อไม่ห้ามแถมยังให้ความสนับสนุนเซ่อเจาหยางอีกด้วย เขาจึงตระเวนออกไปหาใต้เท้าที่อยู่ภายใต้ความควบคุมท่านพ่อเพื่อขอความร่วมมือในการชิงบัลลังก์ในครั้งนี้ ข้ากลับจากเรือนใต้เท้าท่านหนึ่งเห็นองค์รัชทายาทกำลังพาลั่วเออร์ออกจากวังหลวงเพียงลำพังจึงได้แอบตามไป ได้เห็นหมู่บ้านในหุบเขาที่เซียวอี้แอบซ่อนไว้ รอยยิ้มของลั่วเออร์ที่เคยเป็นของเขายามนี้ถูกเซียวอี้ครอบครองจนหมดสิ้นไม่ว่าจะเป็นใจหรือกายของนาง ดวงตาร้อนระอุในอกเต็มไปด้วยความเคลียดแค้น ยิ่งเห็นชาวบ้านที่นี่รักและเทิดทูลเขายิ่งไม่พึงพอใจ เมื่อเห็นว่าเซียวอี้พาลั่วเออร์กลับวังหลวงความคิดชั่วร้ายของเจาหยางที่ก่อเกิดจึงสั่งการให้ทหารของตนไปจัดการสอบถามชาวบ้านแต่เมื่อชาวบ้านตอบคำถามไม่ตรงความคิดของเขาจึงสั่งให้ทหารจัดการฆ่าทิ้งให้หมดทุกคนไม่ละเว้น เขาอยากเห็นความเจ็บปวดของเซียวอี้ที่พรากคนรักของเขาไป หากเขารู้ว่าหมู่บ้านและชาวบ้านที่เขาให้การช่วยเหลือตายกันหมดคงจะเจ็บปวดเจียนตายเมื่อตรวจสอบแล้วไม่เหลือผู้เหลือรอดเขาจึงจุดไฟเผาให้

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 40 เป็นฝีมือเขา

    บทที่ 40 เป็นฝีมือเขาในห้องของลั่วเออร์มีจื่อหลินที่แต่งกายให้อยู่นางเกิดความสงสัยจึงเอ่ยถามผู้เป็นนาย"พระชายาเพคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันเพคะพระชายาถึงได้พากันกลับวังหลวงจนท้องฟ้ามืดมิดเช่นนี้แล้วเด็กนั้นคือใครกันเพคะ" ลั่วเออร์หันไปมองหน้าของนางกำนัลเสมือนพวกนางรู้พากันเดินออกจากห้องเหลือเพียงจื่อหลิน"เด็กนั่นเป็นเด็กที่องค์รัชทายาทช่วยเหลือเอาไว้ ข้างนอกวังเกิดเรื่องขึ้นทำให้ข้ากับองค์รัชทายาทกลับมาล่วงเวลาเช่นนี้ วันนี้ข้าเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินจนไม่มีเรี่ยวแรงจะเอ่ยแล้วเจ้าไปพักเถิดนะ รุ่งสางข้าจะเล่าให้เจ้าฟังเอง ""เพคะพระชายา " จื่อหลินวางแปรงผมลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง เดินออกไปด้านนอกไม่นานเซียวอี้ได้เสด็จมาหาลั่วเออร์เพื่อมฟังคำพูดของนางเหตุใดนางถึงรู้ว่าเป็นแม่ทัพเจาหยางและเขามาพบนางเพราะการใด"มาแล้วหรือเพคะ ""ข้ารู้ว่าเจ้าตกใจและเสียใจเพียงใดแต่เรื่องที่ข้าต้องการจะรู้จากปากเจ้าในวันนี้ข้าต้องรู้ให้ได้ "ลั่วเออร์ลุกขึ้นมานั่งที่เก้าอี้พรางสูดลมหายใจให้ทั่วท้องและเล่าเรื่่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แก่เซียวอี้ฟัง"อะไรกันเจาหยางคิดทำลายข้าจนถึงขั้นจะให้เจ้าปลงพระชนม์ข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 39 ช่างโหดร้าย

    บทที่ 39 ช่างโหดร้ายลั่วเออร์ปาดน้ำตาลุกขึ้นยืนเดินไปเดินมาด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มกำมือแน่นภาวนาให้ยังพอมีคนเหลือรอด นางได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้รีบหันไปมองเห็นเซียวอี้อุ้มหนิงเอ๋อกลับมา ลั่วเออร์ดีใจราวกับคำอ้อนวอนของนางเป็นจริง นางวิ่งเข้าหาหาทั้งสองทันที“สวรรค์หนิงเอ๋อเจ้าปลอดภัย เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้าเพียงใด” เซียวอี้วางหนิงเอ๋อหลงจากอ้อมแขน นางวิ่งเข้าไปโอบกอดลั่วเออร์แน่น“พี่ลั่วเออร์ข้ากลัว กลัวเหลือเกินเจ้าค่ะพวกเขาช่างโหดร้ายเพื่อน ๆ ของข้าท่านแม่ของข้าต่างพากันอ้อนวอนพวกเขาไม่มีความเมตตาสักนิด ท่านแม่ก้มลงเพื่อวอนขอชีวิตแต่เขากลับใช้ดาบบั่นคอท่านแม่ชั่วพริบตา อึก อึก ข้ากลัวเจ้าค่ะ เพื่อน ๆ ของข้าหนีไม่ทันถูกคนใจร้ายจัดการจนไม่เหลือ พี่ลั่วเออร์ท่านอย่าทิ้งข้าไปอีกคนนะเจ้าคะ ข้าไม่เหลือใครแล้ว” เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของหลินเอ๋อต่างพากันสงสาร ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ฝืนใจข่มความกลัวเพื่อบอกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่ ลั่วเออร์กอดนางแน่นพรางร้องไห้เด็กตัวเล็กเพียงนี้ต้องมาพบเจอเรื่องโหดร้ายแถมยังต้องเสียทุกคนไปคงสะเทือนใจไม่น้อย“ข้าอยู่นี่แล้ว ข้าไม่มีท

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status