공유

บทที่ 9 ใจที่แตกสลาย

last update 최신 업데이트: 2025-03-14 10:06:30

บทที่ 9 ใจที่แตกสลาย

สองวันถัดมา

"คุณหนูวันนี้ท่านงดงามเหลือเกิน หากว่างานมงคลวันนี้เป็นงานมงคลของคุณหนูกับท่านแม่ทัพคงจะดีกว่านี้ " จื่อหลินจ้องมองลั่วเออร์ผ่านกระจกหลังจากที่ปักเครื่องประดับบนศีรษะเสร็จสิ้น

"ข้าเองก็คิดเช่นเจ้า หากวันนี้ผู้ที่จับมือข้าเดินเข้างานพิธีเป็นท่านแม่ทัพคงจะดี ไม่รู้ว่ายามนี้ท่านแม่ทัพจะเป็นเช่นไรบ้างหากกลับมาพบว่าข้าเข้าพิธีมงคลกับผู้อื่นหัวใจของเขาจะแตกสลายมากเพียงใดนะ เป็นข้าเองที่รักษาสัญญาไม่ได้จื่อหลินข้าฝากจดหมายพร้อมกับผ้าผืนนี้ให้แก่ท่านแม่ทัพด้วยในวันที่เขากลับมา " จื่อหลินมิอาจห้ามน้ำตาของตนได้เพราะเห็นว่ายามนี้คุณหนูของนางพยายามซ้อนความเจ็บปวดเอาไว้ หัวใจของลั่วเออร์เองก็แตกสลายไปหมดสองวันที่ผ่านมานางเอาแต่เก็บตัวเงียบในห้องและออกไปพบฮูหยินที่ห้องพักของนางเมื่อนางเห็นมารดาน้ำตาแห่งความเจ็บช้ำได้ไหลรินออกมาราวกับสายฝน มารดาของนางสงสารนางมากเช่นกัน แต่ทว่าตนเองกลับทำอันใดให้บุตรสาวไม่ได้แม้แต่น้อย จึงเอ่ยบอกให้นางใช้ชีวิตในวังหลวงอย่างระมัดระวังเพราะวังหลังนั้นมีแต่ภัยอันตรายล้อมตัว

"อึก อึก ....ฮื้อ ๆ คุณหนูข้าสงสารท่านเหลือเกินเราหนีกันดีมั้ยเจ้าคะ หนีไปหาท่านแม่ทัพหากท่านแม่ทัพรู้เรื่องนี้คงไม่มีทางยอมและพาคุณหนูหนีไปอยู่ที่อื่น เช่นนี้คุณหนูกับท่านแม่ทัพจะได้ครองรักกัน " จื่อหลินร้องไห้สะอึกสะอื้นแต่ทว่ายามนี้ลั่วเออร์มิอาจจะร้องออกมาได้จึงหันหลังไปหาจื่อหลินยื่นจดหมายพร้อมกับผ้าเช็ดหน้าของแทนกายของท่านแม่ทัพให้แก่จื่อหลินไว้

"จื่อหลินเจ้าไม่ต้องสงสารข้าหรอกนะ ข้าจะทำเช่นอย่างที่เจ้ากล่าวมาได้เช่นไรกัน ข้าไม่อยากให้ท่านแม่ทัพต้องเดือดร้อน ไหนจะท่านพ่อท่านแม่อีกแม้ว่าข้าจะเจ็บเจียนตายแต่หากข้าสามารถช่วยให้ทุกคนได้อยู่สุขสบายเช่นนี้ข้าทำได้เสมอ ต่อจากนี้ข้าต้องพึงอาศัยเจ้าดูแลท่านพ่อท่านแม่แทนข้าด้วยเข้าใจหรือไม่? " ยิ่งลั่วเออร์พูดออกมาจื่อหลินยิ่งร้องไห้ออกมามากมายกว่าเดิม ไหนจะไม่ได้ตามไปดูแลอีก ทั้งชีวิตของนางตั้งแต่เข้ามาเป็นสาวใช้ในเรือนนี้นางก็มีหน้าที่คอยดูแลเป็นเพื่อนเล่นกับคุณหนูมาตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่คิดเลยว่าการเข้าวังครั้งนี้จะทำให้นางได้แยกกับคุณหนู

"อึก ..อึก.. ฮื้อ.. ฮือ ข้าไม่อยากให้คุณหนูออกเรือนไปเลยทำไมกันนะทำไมองค์ชายนิสัยไม่ดีผู้นั้นต้องทำเช่นนี้ด้วย "

"เจ้าอย่าดังนักสิ เดี๋ยวคนจากวังหลวงได้ยินเข้าเจ้าจะถูกลงโทษเอาได้ " ลั่วเออร์รีบผิดปากของจื่อหลินไว้เพราะเกรงกลัวว่าสาวใช้ของตนจะเอ่ยล่วงเกินเบื้องบน แต่แล้วจู่ ๆ เสียงก็ได้ดังมาจากด้านนอก

"คุณหนูท่านใต้เท้าให้มาตามแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้เกี้ยวจากวังหลวงมารอคุณหนูอยู่หน้าเรือนแล้ว" เสียงของสาวใช้ด้านนนอกดังขึ้นจื่อหลินรีบเช็ดน้ำตาถอยหลังห่างจากคุณหนูพร้อมเก็บของที่คุณหนูฝากไว้ใส่ถุงเสื้อของตนเองไว้ก่อนจะใช้มือจับผ้าคุมมาปกปิดใบหน้าของคุณหนูตนเองพร้อมพาเดินออกจากห้องไปที่หน้าเรือนเพื่อเดินทางไปที่วังหลวง

ลั่วเออร์ลุกขึ้นยืนพร้อมย่างเท้าออกจากประตูห้องด้วยความรู้สึกใจหาย เพราะต่อจากนี้นางจะไม่ได้ใช้ชีวิตเป็นลั่วเออร์คนเดิมและนางจะไม่ได้พบกับท่านแม่ทัพอีกแม้จะได้พบกันก็คงไม่มีโอกาสได้พบเจอกันเพียงลำพัง ความรักที่นางมีต่อเขาไม่จางหายและนางก็ยังตั้งมั่นในใจต่อจากนี้หัวใจของนางจะไม่มีผู้ใดนอกจากแม่ทัพเจาหยาง

ใต้เท้าหวังเห็นบุตรสาวตนเองเดินออกมาอย่างสง่าผ่าเผย แต่เขามิอาจจะฝืนยิ้มออกมาได้เพราะรู้ดีว่านางนั้นต้องแบกรับความเจ็บปวดมากถึงเพียงใด

"ลั่วเออร์ต่อจากนี้เจ้าก้าวเท้าออกจากเรือนตระกูลหวังไปแล้วชีวิตของเจ้าก็ต้องเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะต่อจากนี้เจ้าจะเป็นพระชายาขององค์ชายสาม อนาคตของเจ้าคงได้เป็นฮองเฮา เจ้าจงหนักแน่นเอาไว้เข้าใจที่พ่อผู้นี้กล่าวหรือไม่? อย่าไว้ใจผู้ใดในวังหลวงทุกคนล้วนอันตรายแม้กระทั่งสาวใช้ที่คอยดูแลเจ้า "

"เจ้าค่ะท่านพ่อข้าจะจำทุกคำสอนของท่านเอาไว้ ท่านพ่อดูแลตนเองดี ๆ นะเจ้าคะ ข้าฝากดูแลท่านแม่ด้วยอีกอย่างท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วงข้า ข้าไม่มีทางให้ผู้ใดมารังแกข้าได้ " ลั่วเออร์เอ่ยออกมาเช่นนั้นเพราะต้องการให้ท่านพ่อของตนเองสบายใจแม้ในใจของนางตอนนี้ทั้งหวาดกลัวทั้งรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่รู้เลยว่าวังหลังที่นางกำลังไปเยือนนั้นจะพบเจอเรื่องลำบากใจอันใดบ้าง

เมื่อนางร่ำลาท่านพ่อเสร็จสิ้นได้ขึ้นเกี้ยวที่ตั้งขบวนมารับนางอย่างสมเกียรติ เกี้ยวเคลื่อนขบวนออกเดินทางไปวังหลวงหัวใจของลั่วเออร์เริ่มสั่นระรัวมือกุมกันแน่น ส่วนจื่อหลินกับท่านใต้เท้าที่เห็นขบวนเกี้ยวออกเดินทางทั้งสองต่างพากันน้ำตาไหลสงสารไม่อยากให้ลั่วเออร์ไปที่วังหลวงเลยแต่เมื่อฝ่าฝืนไม่ได้ต้องทำตามพระราชโองการสิ่งที่ทำได้ยามนี้คือทำใจเท่านั้น

วังหลวง

ตำหนักหนานฉี

"วันนี้แล้วสินะที่ข้าจะได้เชยชมพระชายาของข้า เฮอะข้าได้ยินมาว่านางทั้งงดงามทั้งใบหน้าและกิริยา ข้าชักอยากเห็นเร็ว ๆ แล้วสิ อยากรู้เช่นกันว่านางจะงดงามเพียงใดถึงได้ครองใจคนอย่างแม่ทัพเจาหยาง ฮ่า..ฮ่า หากกลับมาจากสนามรบเมื่อได้รู้ว่าสตรีที่ตนเองรักตกมาเป็นพระชายาของข้า ยามนั้นเขาจะเป็นเช่นไรกันนะ! สะใจข้ายิ่งนัก" เซียวอี้เดินออกมาด้านนอกห้องพร้อมกวาดสายตามองรอบ ๆ ตำหนักที่ถูกจัดแต่งอย่างงดงามเพื่อทำพิธี เขาแสยะยิ้มพร้อมเอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบาเขาอยากเห็นใบหน้าของสหายเมื่อรู้ว่าสตรีที่เขารักตกเป็นของผู้อื่นตอนนี้จะเป็นเช่นไรกันนะ ในเมื่อเขาแย่งทุกอย่างแม้กระทั่งความรักของท่านพ่อไปจากเขา แถมยังแอบวางแผนที่จะยึดบัลลังก์ที่ไม่ใช่ของตนเองเช่นนี้เซียวอี้มิอาจจะทนได้ หากเขาหวังสูงถึงเพียงนี้เซียวอี้จึงคิดรับมือและแย่งชิงทุกสิ่งที่เขามีเสียก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป เจาหยางจะได้รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดที่เขาเคยโดนมาบ้าง

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 44 ข้ารักท่าน(ตอนจบ)

    บทที่ 44 ข้ารักท่านใต้เท้าเซ่อรู้สึกอับอายที่บุตรชายได้รับความพ่ายแพ้ต่อองค์รัชทายาท ตระกูลเซ่อทุกคนต่างได้รับโทษและใต้เท้าที่รวมตัวกันวางแผนก็ถูกลงโทษด้วยเช่นกัน โทษของเจาหยางคือการถูกโบยตีก่อนจะนำไปแคว้นคอประจานให้แก่ราษฎรได้เห็นถึงการก่อกบฏและประสงค์ร้ายต่อราชวงศ์จะถูกลงโทษเช่นไร แม้จะมีคุณงามความดีต่อแผ่นดินแต่ถ้าหากคิดร้ายก็ไม่ละเว้นก่อนจะนำร่างไปโยนให้แร้งกิน สนมตระกูลเซ่อถูกปลดให้เป็นเพียงสาวใช้และองค์ชายห้าถูกตัดขาดกับราชวงศ์มิอาจจะเข้ามาในวังหลวงได้อีกต่อไปใต้เท้าเซ่อถูกรุมประชาทัณฑ์ชาวบ้านหรือผู้ที่เคยถูกเขาข่มเหงรังแกขว้างหินขว้างดินใส่จนเขาถึงแก่ความตายภายในวังหลวงกลับมาสุขสงบอีกครั้ง แม้ลั่วเออร์จะเห็นชอบการลงโทษแต่ทว่าในใจของนางลึก ๆ ยังคงคิดถึงใบหน้ารอยยิ้มของเจาหยางแต่มิใช่เพราะนางคิดถึงเพราะความรักแต่ทว่านางกลับเสียดาย หากเขาเลือกเดินทางถูกต้องและคอยช่วยเหลือองค์รัชทายาทอาจจะเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ที่ทุกคนนับหน้าถือตา"พระชายาเพคะ วันนี้หม่อมฉันจะออกไปอยู่ที่ตำหนักของนางในแล้วจะได้พบพระชายาอีกไม่เพคะ" หนิงเอ๋อเดินเข้ามาหาลั่วเออร์ที่ศาลารับลม นางได้เข้ามาเป็นนางในฝึกหัด

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 43 ลงโทษอย่างสาสม

    บทที่ 43 ลงโทษอย่างสาสม"ใครบอกเป็นเพราะเจ้าที่เป็นองค์ชายไม่เอาไหนต่างหาก ข้าจงรักภักดีต่อแผ่นดิน หวังว่าวันหนึ่งจะเป็นแม่ทัพที่ดีและเป็นกองกำลังให้ฮ่องเต้เช่นเจ้าในภายภาคหน้าแต่เจ้าทำลายทุกอย่าง เจ้าทำร้ายหัวใจของข้า ทำให้ข้าต้องแย่งชิงคืนมาเช่นนี้อย่างไรเล่า " เจาหยางตั้งท่าได้สู้กับเซียวอี้อีกครั้ง จนทั้งสองทะลุกำแพงห้องพังทลายล้มลง เสียงดังจึงถึงห้องของลั่วเออร์ตึง!"นั่นเสียงอะไรกัน ทำไมถึงดังอยู่ใกล้ ๆ เช่นนี้หรือว่าแม่ทัพเจาหยางบุกมาที่ตำหนักนี้แล้ว " ลั่วเออร์ไม่รีรอนางร้อนใจจึงเปิดประตูออกไปด้านนอกเพื่อดู แต่ก็ต้องถูกองครักษ์เข้ามาห้ามไม่ให้ออกไปเสียก่อน"พระชายาจะออกไปที่ใดพ่ะย่ะค่ะ ""ข้าได้ยินเสียงดังที่ตำหนักนี้ข้าเป็นห่วงองค์รัชทายาทกลัวว่าเขาจะรับมือแม่ทัพเจาหยางไม่ได้ ""พระชายาอย่าร้อนใจไปพ่ะย่ะค่ะ ยามนี้องครักษ์ไป๋เหลียนก็อยู่กับองค์รัชทายาท พระชายาเข้าไปอยู่ในห้องดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ " ลั่วเออร์มองลอดใต้แขนขององครักษ์ที่ยืนบังนางเห็นแม่ทัพเจาหยางกำลังจะใช้ดาบจัดการกับเซียวอี้ที่ล้มลงกับแผ่นไม้ฝาผนังที่เสียงดังเมื่อครู่ นางคือต้นเหตุทุกอย่างที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นและเ

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 42 ก่อกบฏ

    บทที่ 42 ก่อกบฏรุ่งเช้าวันต่อมาไป๋เหลียนที่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของแม่ทัพเจาหยางได้เข้ามารายงานต่อเซียวอี้ที่กำลังนั่งหน้าเคร่งเครียดเพื่อรับมือจากแม่ทัพ"ทูลองค์รัชทายาท ยามนี้กองทัพของแม่ทัพเจาหยางจะเคลื่อนขบวนในยามวิกาลพ่ะย่ะค่ะ ข้าได้ยินมาว่าเขาบอกกล่าวกองกำลังเพื่ออ้อมล้อมวังหลวงในคืนนี้ในเวลายามที่ทุกคนต่างหลับใหล จำนวนทหารของแม่ทัพมีประมาณสี่ร้อยนายจะรับมือเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ""ทหารของเจาหยางมีสี่ร้อยนายหรือ? เช่นนั้นกองกำลังของเราก็มีไม่น้อยไปกว่าเขาเพราะความช่วยเหลือของท่านแม่ ข้าจะวางแผนตลบหลัง ขันทีลี่เว่ยไปแจ้งกองกำลังมาหาข้าที่นี่""พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย ""ส่วนเจ้าค่ำคืนนี้ทำตามแผนของข้า ส่วนพระชายาข้าจะให้องครักษ์เงาอีกกลุ่มไปเฝ้านางเอง มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะสามารถรับมือแม่ทัพเจาหยางได้ จงทำตามนี้" เซียวอี้บอกแผนการให้ไป๋เหลียนได้รับรู้ จากนั้นเมื่อกองกำลังมาถึงเขาได้บอกแผนการในการรับมือครั้งนี้ให้แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและทุกคนต่างพากันหลบซ่อนจนกว่ากองกำลังของแม่ทัพเจาหยางจะล้อมวังหลวงจากนั้นค่อยให้ทหารออกมาล้อมกองทัพของแม่ทัพเจาหยาง เซียวอี้ครุ่นคิดมาทั้งคืนเขาจะไม่ให้เกิดการ

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 41 วางแผนรับมือ

    บทที่ 41 วางแผนรับมือฝั่งด้านแม่ทัพเซ่อเจาหยางเขากลับมาจากตำหนักหนานฉี มาปรึกษาหารือท่านพ่อคิดจะก่อกบฏท่านใต้เท้าเซ่อไม่ห้ามแถมยังให้ความสนับสนุนเซ่อเจาหยางอีกด้วย เขาจึงตระเวนออกไปหาใต้เท้าที่อยู่ภายใต้ความควบคุมท่านพ่อเพื่อขอความร่วมมือในการชิงบัลลังก์ในครั้งนี้ ข้ากลับจากเรือนใต้เท้าท่านหนึ่งเห็นองค์รัชทายาทกำลังพาลั่วเออร์ออกจากวังหลวงเพียงลำพังจึงได้แอบตามไป ได้เห็นหมู่บ้านในหุบเขาที่เซียวอี้แอบซ่อนไว้ รอยยิ้มของลั่วเออร์ที่เคยเป็นของเขายามนี้ถูกเซียวอี้ครอบครองจนหมดสิ้นไม่ว่าจะเป็นใจหรือกายของนาง ดวงตาร้อนระอุในอกเต็มไปด้วยความเคลียดแค้น ยิ่งเห็นชาวบ้านที่นี่รักและเทิดทูลเขายิ่งไม่พึงพอใจ เมื่อเห็นว่าเซียวอี้พาลั่วเออร์กลับวังหลวงความคิดชั่วร้ายของเจาหยางที่ก่อเกิดจึงสั่งการให้ทหารของตนไปจัดการสอบถามชาวบ้านแต่เมื่อชาวบ้านตอบคำถามไม่ตรงความคิดของเขาจึงสั่งให้ทหารจัดการฆ่าทิ้งให้หมดทุกคนไม่ละเว้น เขาอยากเห็นความเจ็บปวดของเซียวอี้ที่พรากคนรักของเขาไป หากเขารู้ว่าหมู่บ้านและชาวบ้านที่เขาให้การช่วยเหลือตายกันหมดคงจะเจ็บปวดเจียนตายเมื่อตรวจสอบแล้วไม่เหลือผู้เหลือรอดเขาจึงจุดไฟเผาให้

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 40 เป็นฝีมือเขา

    บทที่ 40 เป็นฝีมือเขาในห้องของลั่วเออร์มีจื่อหลินที่แต่งกายให้อยู่นางเกิดความสงสัยจึงเอ่ยถามผู้เป็นนาย"พระชายาเพคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันเพคะพระชายาถึงได้พากันกลับวังหลวงจนท้องฟ้ามืดมิดเช่นนี้แล้วเด็กนั้นคือใครกันเพคะ" ลั่วเออร์หันไปมองหน้าของนางกำนัลเสมือนพวกนางรู้พากันเดินออกจากห้องเหลือเพียงจื่อหลิน"เด็กนั่นเป็นเด็กที่องค์รัชทายาทช่วยเหลือเอาไว้ ข้างนอกวังเกิดเรื่องขึ้นทำให้ข้ากับองค์รัชทายาทกลับมาล่วงเวลาเช่นนี้ วันนี้ข้าเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินจนไม่มีเรี่ยวแรงจะเอ่ยแล้วเจ้าไปพักเถิดนะ รุ่งสางข้าจะเล่าให้เจ้าฟังเอง ""เพคะพระชายา " จื่อหลินวางแปรงผมลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง เดินออกไปด้านนอกไม่นานเซียวอี้ได้เสด็จมาหาลั่วเออร์เพื่อมฟังคำพูดของนางเหตุใดนางถึงรู้ว่าเป็นแม่ทัพเจาหยางและเขามาพบนางเพราะการใด"มาแล้วหรือเพคะ ""ข้ารู้ว่าเจ้าตกใจและเสียใจเพียงใดแต่เรื่องที่ข้าต้องการจะรู้จากปากเจ้าในวันนี้ข้าต้องรู้ให้ได้ "ลั่วเออร์ลุกขึ้นมานั่งที่เก้าอี้พรางสูดลมหายใจให้ทั่วท้องและเล่าเรื่่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แก่เซียวอี้ฟัง"อะไรกันเจาหยางคิดทำลายข้าจนถึงขั้นจะให้เจ้าปลงพระชนม์ข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 39 ช่างโหดร้าย

    บทที่ 39 ช่างโหดร้ายลั่วเออร์ปาดน้ำตาลุกขึ้นยืนเดินไปเดินมาด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มกำมือแน่นภาวนาให้ยังพอมีคนเหลือรอด นางได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้รีบหันไปมองเห็นเซียวอี้อุ้มหนิงเอ๋อกลับมา ลั่วเออร์ดีใจราวกับคำอ้อนวอนของนางเป็นจริง นางวิ่งเข้าหาหาทั้งสองทันที“สวรรค์หนิงเอ๋อเจ้าปลอดภัย เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้าเพียงใด” เซียวอี้วางหนิงเอ๋อหลงจากอ้อมแขน นางวิ่งเข้าไปโอบกอดลั่วเออร์แน่น“พี่ลั่วเออร์ข้ากลัว กลัวเหลือเกินเจ้าค่ะพวกเขาช่างโหดร้ายเพื่อน ๆ ของข้าท่านแม่ของข้าต่างพากันอ้อนวอนพวกเขาไม่มีความเมตตาสักนิด ท่านแม่ก้มลงเพื่อวอนขอชีวิตแต่เขากลับใช้ดาบบั่นคอท่านแม่ชั่วพริบตา อึก อึก ข้ากลัวเจ้าค่ะ เพื่อน ๆ ของข้าหนีไม่ทันถูกคนใจร้ายจัดการจนไม่เหลือ พี่ลั่วเออร์ท่านอย่าทิ้งข้าไปอีกคนนะเจ้าคะ ข้าไม่เหลือใครแล้ว” เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของหลินเอ๋อต่างพากันสงสาร ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ฝืนใจข่มความกลัวเพื่อบอกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่ ลั่วเออร์กอดนางแน่นพรางร้องไห้เด็กตัวเล็กเพียงนี้ต้องมาพบเจอเรื่องโหดร้ายแถมยังต้องเสียทุกคนไปคงสะเทือนใจไม่น้อย“ข้าอยู่นี่แล้ว ข้าไม่มีท

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status