เข้าสู่ระบบเวลาผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม...
ด้วย ฝีมือการรักษาของหมอเทวดาหลานซือหมิง ในที่สุด ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนก็ฟื้นคืนสติอีกครั้ง!
แม้ว่าพระองค์ยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะกลับมาแข็งแรงเต็มที่ แต่สิ่งที่พระองค์ได้รับรู้หลังจากฟื้นคืนสติมันทำให้หัวใจของพระองค์สั่นสะท้านยิ่งกว่าพิษร้ายที่เคยกัดกินร่างกายเสียอีก!
"คนที่วางยาข้า... คือน้องชายของข้าเอง!?" ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนตื่นตระหนกเมื่อรับรู้ถึงความจริง อ๋องฟู่หยางเซิน ผู้ที่เขาเคยมอบความไว้วางใจ... กลับเป็นผู้ที่คิดจะฆ่าเขาเอง!
สิ่งที่ทำให้พระองค์สะท้านใจไปมากกว่านั้นคือ...
"ผู้ที่ช่วยข้ากลับเป็นบุตรสาวของแม่ทัพซุนเทา... บิดาของนางคือผู้ที่ข้าเคยหวาดระแวงเพราะคำยุยงของราชครูกู่เทียนหลง!" พระองค์หวาดระแวงแม่ทัพซุนเทาเพราะคำพูดของราชครูที่คอยปั่นหัวสุดท้าย... พระองค์ก็ต้องสูญเสียทั้งคู่ไป
หลังจากนั้นไม่นานความเดือดดาลก็ปะทุขึ้น!
"ข้าจะไม่มีวันให้อภัยมัน!" ดวงตาของฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียน ฉายแววของความโกรธแค้น
แม้ว่าอ๋องฟู่หยางเซินจะไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ แล้ว แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพของคนที่ไร้สติ เหม่อลอย ไม่รู้เรื่องราวใดๆ
แต่ความผิดที่เขาก่อขึ้นมันเกินกว่าที่จะให้อภัยได้!
"นำตัวมันขึ้นรถม้าขนนักโทษ! ให้ชาวเมืองได้รับรู้ถึงโฉมหน้าที่แท้จริงของมัน!"
เสียงสั่งการของฮ่องเต้ดังก้องไปทั่ววังหลวง ทหารเข้ามาควบคุมตัวอ๋องฟู่หยางเซินที่ไร้สติเขาถูกจับใส่ในกรงเหล็ก บนรถม้าขนนักโทษ จากผู้ที่เคยยิ่งใหญ่บัดนี้กลายเป็นเพียงนักโทษที่ถูกประจานต่อหน้าประชาชน!
เสียงสาปแช่งของประชาชนและจุดจบที่น่าอัปยศรถม้าขนนักโทษเคลื่อนที่ไปทั่วเมืองเมื่อประชาชนรับรู้ว่า ชายที่อยู่ในกรงเหล็กคืออ๋องฟู่หยางเซินเสียงสาปแช่งก็ดังกระหึ่มไปทั่วท้องถนน!
"ไอ้ทรราช! กล้าคิดคดฮ่องเต้ สมควรแล้วที่ถูกประจานเช่นนี้!""สวรรค์ทรงยุติธรรมแล้ว! ในที่สุดคนชั่วก็ได้รับผลกรรม!""ให้มันชดใช้กับสิ่งที่มันทำมา!"
เหล่าชาวบ้านปาหินและเศษอาหารใส่กรงเหล็กอ๋องฟู่หยางเซินที่เคยยิ่งใหญ่กลับต้องนั่งนิ่ง ไม่อาจโต้ตอบใดๆ ได้แม้แต่คำเดียวสุดท้าย…
หลังจากที่เขาถูกประจานไปทั่วเมือง อ๋องฟู่หยางเซินถูกนำตัวไปคุมขังในคุกมืดของวังหลวง
"อย่าให้มันออกมาอีกตลอดชีวิต ปล่อยให้มันตายอย่างโดดเดี่ยวในที่แห่งนั้น" ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนออกคำสั่งโดยไม่ลังเล!เขาไม่แม้แต่จะรู้สึกเวทนาในโชคชะตาของน้องชายตนเองอีกต่อไป
และนี่คือจุดจบของอ๋องฟู่หยางเซินจากผู้ที่เคยครอบครองอำนาจ…สุดท้ายกลับตายอย่างอ้างว้าง ไร้เกียรติ ไร้ซึ่งศักดิ์ศรี!
ตำหนักอสรพิษ… สถานที่ที่เคยเป็นดินแดนนอกกฎหมายบัดนี้… กลับตกอยู่ในมือของเยี่ยจิงหลิน!
จากที่เคยเป็นศูนย์รวมของ อำนาจมืด การพนัน การลอบสังหาร และเครือข่ายอิทธิพลของอ๋องฟู่หยางเซินหลังจากที่อ๋องฟู่หยางเซินล่มสลาย ทรัพย์สินทั้งหมดของเขาถูกริบคืนและตำหนักอสรพิษ ที่เคยเป็นศูนย์บัญชาการของเขา บัดนี้กลายเป็นของเยี่ยจิงหลินนางต้องการเปลี่ยนจากขุมนรก สู่สถานที่แห่งความหวัง
พื้นที่ที่เคยเป็นบ่อนพนัน ถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่พักพิงสำหรับผู้ยากไร้หอคณิกาที่เคยกักขังหญิงสาว ถูกเปลี่ยนเป็นสถานศึกษากองกำลังของตำหนักอสรพิษ ที่เคยเป็นนักฆ่า กลายเป็นผู้คุ้มกันเมือง คอยรักษาความสงบ
ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียน… พระองค์อาจเป็นจักรพรรดิที่อ่อนแอ แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์ทั้งหมด พระองค์รู้ซึ้งแล้วว่า…
แผ่นดินแห่งนี้ต้องมีใครบางคนที่แข็งแกร่ง คอยค้ำจุน หลังจากที่บัลลังก์สั่นคลอนจากการทรยศของอ๋องฟู่หยางเซินหลังจากที่องค์ชายฟู่ซิวเหิงถูกกวาดล้างไปจนสิ้นและหลังจากที่เหล่าขุนนางผู้กังฉินถูกโค่นล้ม…
มีเพียงหนึ่งเดียวที่ยังคงยืนหยัดและแข็งแกร่งที่สุดในเมืองหลวง!"เยี่ยจิงหลิน"
"ข้าต้องการให้เจ้ารับตำแหน่งในราชสำนัก"ฮ่องเต้ตรัสออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
"เจ้ามีทั้งความสามารถ อำนาจ และปัญญา""ข้าไม่อาจไว้วางใจใครอื่นได้อีกแล้ว"
พระองค์พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเกลี้ยกล่อมนางแต่สิ่งที่พระองค์ได้รับกลับมา...คือ การปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย!
เยี่ยจิงหลินปรายตามองไปที่ฮ่องเต้ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
"น่าเสียดาย… แต่ข้าไม่สนใจ"คำพูดของนางนั้น เฉียบคมและไร้ซึ่งความลังเลองค์ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนก็ไม่มีอำนาจที่จะบังคับนางได้แต่พระองค์… กลับไม่ได้หมดหวังแผนการบางอย่างก่อตัวขึ้นในพระทัย!
"หากข้าไม่สามารถมอบตำแหน่งให้เจ้าได้""ข้าก็จะหาวิธีอื่น!"
องค์ฮ่องเต้ทอดพระเนตรออกไปยังเหล่าบุตรชายของพระองค์ตัวเขาเองนั้นมีบุตรชายอยู่ไม่น้อย และแต่ละคนล้วนแล้วแต่มีรูปโฉมและความสามารถไม่ธรรมดาองค์ฮ่องเต้จึงจัดประชุมลับกับ เหล่าบรรดาองค์ชายทั้งหลาย
และ ประกาศออกมาอย่างเด็ดขาด"ผู้ใดที่สามารถคว้าหัวใจของเยี่ยจิงหลินมาได้…ข้าจะตั้งผู้นั้นเป็นรัชทายาทโดยทันที!"
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา…จวนของเยี่ยจิงหลินก็ตกอยู่ในความวุ่นวายอย่างไม่หยุดหย่อน!เหล่าองค์ชายต่างแวะเวียนมาเยือนนางไม่ขาดสาย!
บางองค์ชายมาในมาดของนักปราชญ์ ใช้ปัญญาและวาทศิลป์หว่านล้อมนาง บางองค์ชายมาในมาดของนักรบ แสดงถึงพละกำลังและความแข็งแกร่งเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ บางองค์ชายใช้ความสง่างามและรูปโฉม พยายามดึงดูดนางด้วยเสน่ห์ของตนเอง ทุกคนมาเยือนภายในสถานที่แห่งนี้นั้นด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวคือการพิชิตหัวใจของนางให้จงได้
แต่… ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเยี่ยจิงหลินนางไม่ได้สนใจคนพวกนี้เลย
หลังจากที่สะสางทุกเรื่องราวในเมืองหลวงจนเสร็จสิ้น เยี่ยจิงหลินก็ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านไท่ผิงชุน ที่นั่น… คือสถานที่ที่มีความหมายกับนางมากที่สุดเมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ บรรยากาศรอบตัวแตกต่างจากเมืองหลวงโดยสิ้นเชิงไม่มีเสียงของขุนนางที่คอยแย่งชิงอำนาจ ไม่มีแววตาแห่งความโลภ ไม่มีเสียงกระซิบของคนที่พยายามคิดคดหักหลังที่นี่มีเพียงสายลมอ่อนๆ อากาศที่สดชื่น และผู้คนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะ แห้งแล้งและทุรกันดารแต่สำหรับเยี่ยจิงหลินที่นี่คือบ้าน เมื่อเดินเข้าสู่เรือนของตนเอง นางกลับต้องแปลกใจเมื่อพบว่า หลิวฉางหยาง กำลังพักอาศัยอยู่ที่นี่! เยี่ยจิงหลินหันไปมองมารดาของตนซูหลินด้วยความสงสัยก่อนที่แม่ของนางจะ เผยรอยยิ้มออกมาอย่างเขินอาย"ลูก… แม่ตัดสินใจแล้วว่าแม่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง" หลิวฉางหยางไม่ใช่แค่คนรู้จัก แต่เขาเป็นคนที่ ยืนเคียงข้างและคอยดูแลแม่ของนางเสมอมาในวันที่ชีวิตของซูหลินลำบากเขาอยู่เคียงข้างนางโดยไม่ทอดทิ้งและตอนนี้แม่ของเยี่ยจิงหลินก็ได้ตัดสินใจเปิดใจให้กับความรักอีกครั้งเยี่ยจิงหลินเมื่อเห็นแม่ของตนมีความสุข นางย่อมดีใจอย่างที่สุด"แ
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม...ด้วย ฝีมือการรักษาของหมอเทวดาหลานซือหมิง ในที่สุด ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนก็ฟื้นคืนสติอีกครั้ง!แม้ว่าพระองค์ยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะกลับมาแข็งแรงเต็มที่ แต่สิ่งที่พระองค์ได้รับรู้หลังจากฟื้นคืนสติมันทำให้หัวใจของพระองค์สั่นสะท้านยิ่งกว่าพิษร้ายที่เคยกัดกินร่างกายเสียอีก!"คนที่วางยาข้า... คือน้องชายของข้าเอง!?" ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนตื่นตระหนกเมื่อรับรู้ถึงความจริง อ๋องฟู่หยางเซิน ผู้ที่เขาเคยมอบความไว้วางใจ... กลับเป็นผู้ที่คิดจะฆ่าเขาเอง!สิ่งที่ทำให้พระองค์สะท้านใจไปมากกว่านั้นคือ..."ผู้ที่ช่วยข้ากลับเป็นบุตรสาวของแม่ทัพซุนเทา... บิดาของนางคือผู้ที่ข้าเคยหวาดระแวงเพราะคำยุยงของราชครูกู่เทียนหลง!" พระองค์หวาดระแวงแม่ทัพซุนเทาเพราะคำพูดของราชครูที่คอยปั่นหัวสุดท้าย... พระองค์ก็ต้องสูญเสียทั้งคู่ไปหลังจากนั้นไม่นานความเดือดดาลก็ปะทุขึ้น!"ข้าจะไม่มีวันให้อภัยมัน!" ดวงตาของฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียน ฉายแววของความโกรธแค้นแม้ว่าอ๋องฟู่หยางเซินจะไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ แล้ว แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพของคนที่ไร้สติ เหม่อลอย ไม่รู้เรื่องราวใดๆแต่ความผิดที่เขาก่อขึ้นมันเกินกว่าที
การตายขององค์ชายฟู่ซิวเหิง… เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เยี่ยจิงหลินไม่ได้คิดจะหยุดเพียงแค่ปลิดชีพองค์ชาย แต่นางกำลังจะทำให้ตระกูลของอ๋องฟู่หยางเซินล่มสลายไปทั้งสายเลือด! ก่อนที่นางจะลงมือ เยี่ยจิงหลินส่งคนของนางออกไปสืบข่าวเกี่ยวกับบุตรชายของอ๋องฟู่หยางเซินทุกคนพวกมันทุกคนล้วนชั่วช้า ไม่ได้ต่างไปจากฟู่ซิวเหิงเลยแม้แต่น้อยพวกมันฉ้อโกง ฉุดคร่าหญิงสาว กดขี่ชาวบ้าน ใช้อำนาจอย่างอำมหิต...ทุกสิ่งที่ได้รับรายงานมามีแต่สิ่งที่ทำให้นางยิ่งแน่ใจว่าพวกมันสมควรจะถูกกำจัดจนหมด!เมื่อแผนการถูกวางไว้อย่างรัดกุม ค่ำคืนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจาก คืนแห่งนรกที่แท้จริงสำหรับท่านอ๋องแม้ว่าตัวของเขานั้นไม่มีสติเป็นของตัวเองแล้วก็ตาม"ลอบสังหารพร้อมกันในคืนเดียว อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว"นางออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด! เหล่ามือสังหารในเงามืด เคลื่อนไหวอย่างไร้เสียง แต่ละคนได้รับเป้าหมายของตนเอง ไม่มีความผิดพลาด ไม่มีความลังเล มีเพียงจุดจบของเครือญาติแห่งอ๋องฟู่หยางเซินเท่านั้นที่รออยู่!เสียงกรีดร้องแห่งความตื่นตระหนก ดังขึ้นจากคฤหาสน์หลายแห่งของบุตรชายท่านอ๋อง"ไม่นะ! ปล่อยข้าไป! ข้าให้เงินเจ้าได้!""อย่า! ข้ายอมแ
เยี่ยจิงหลินยืนอยู่กลางโถงสุราที่ถูกย้อมไปด้วยเลือด นางจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างพึงพอใจ ฟู่ซิวเหิง องค์ชายผู้เคยหยิ่งทะนงบัดนี้กำลังสั่นสะท้านไม่ต่างจากลูกนกที่ถูกขังไว้ในกรงแห่งความตาย!นางกวาดสายตามองเหล่าขุนนางและองครักษ์ที่เหลือรอด บางคนยังยืนตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว บางคนคุกเข่าลงร้องขอชีวิต น้ำตานองหน้า แต่มันไร้ประโยชน์!ใบหน้าของเยี่ยจิงหลินยังคงเรียบนิ่ง… ก่อนที่ริมฝีปากของนางจะคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา"จงดับลมหายใจของพวกมันให้หมดซะ... อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว"คำสั่งของนางเยือกเย็นราวกับเป็นเสียงแห่งมัจจุราช เงามรณะเคลื่อนไหวทันที!เสียงดาบกระทบกับเนื้อ เสียงเลือดสาดกระเซ็น เสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นระลอก ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ เงียบลงไปทีละน้อย ฟู่ซิวเหิงจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่สั่นไหว เขาเห็นขุนนางที่เคยประจบสอพลอตนเองถูกเชือดไปทีละคน…เขาเห็นองครักษ์ของตนเองล้มลงโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะชักดาบขึ้นมาต่อสู้!"ไม่… ไม่…"ร่างของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว สิ่งที่เขาเคยภาคภูมิใจ อำนาจ ความเย่อหยิ่ง ความทะเยอทะยานล้วนมลายหายไปจนหมดสิ้นและเมื่อความหวาดกลัวพุ่งถึงขีดสุด…"ท่านพ่อ! ช่วยข
ภายใน หอสุรา ที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง พลันเกิดความเปลี่ยนแปลงในพริบตาเดียว!ฟู่ซิวเหิง และเหล่าขุนนางยังคงกำลังดื่มด่ำกับความสุขจากอำนาจใหม่ของตนเอง เสียงจอกสุรากระทบกัน เสียงหัวเราะยังคงดังไปทั่วทั้งห้องโถง ทุกคนกำลังหลงระเริงอยู่ใน ภาพมายาของชัยชนะแต่แล้ว…"พรึ่บ!"เปลวไฟทุกดวงภายในห้องโถงพลันดับมอดลงอย่างกะทันหัน!ทั้งห้องตกอยู่ใน ความมืดมิดอันสมบูรณ์แบบ ไม่มีแสงไฟแม้แต่ดวงเดียว มีเพียงเงามืดอันน่าหวาดกลัว ที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบเชียบเสียงของแขกภายในงานเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบกระซาบ ความตื่นตระหนกเริ่มแพร่กระจายออกไปในหมู่ผู้ร่วมงาน"มันเกิดอะไรขึ้น?!""มีใครไปจุดไฟเร็วเข้า!"เสียงตะโกนดังขึ้นจากมุมห้อง น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก!แต่ไม่มีคำตอบไม่มีใครขยับท่ามกลางความเงียบงันและความมืดมิด…"อ๊ากกกกก!!!"เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดังก้องไปทั่วห้องโถง!หนึ่งในแขกของงานถูกปลิดชีพอย่างไร้ความปรานี!เงามัจจุราชที่คืบคลานฟู่ซิวเหิงเบิกตากว้าง เขาหันมองไปรอบๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงความมืดสนิท!"ใครอยู่ตรงนั้น?! ออกมาเดี๋
ความจริงที่โหดร้ายกำลังกลืนกินหัวใจของท่านอ๋องฟู่หยางเซินอย่างช้าๆบุตรชายที่เขารักและไว้วางใจที่สุดกลับกลายเป็นผู้ที่กำลังผลักไสเขาไปสู่ความตาย!ร่างกายของท่านอ๋องที่อ่อนแรงอยู่แล้ว กลับยิ่งทรุดหนักลงกว่าเดิม ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากยอมรับความจริง ความรู้สึกเจ็บปวดและความสิ้นหวังได้กัดกินจิตใจของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ความเศร้าโศกที่ค่อยๆ กัดกินหัวใจของเขา ทำให้พิษร้ายที่แฝงอยู่ในร่างแทรกซึมลึกลงไปในทุกอณูของร่างกาย!หัวใจที่แตกสลาย…ร่างกายที่อ่อนแอ…ความเจ็บปวดจากพิษร้ายที่คืบคลานเข้าสู่กระแสโลหิต…ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังบั่นทอน ชีวิตของอ๋องฟู่หยางเซิน ไปทีละนิดจากชายผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยปกครองอำนาจเหนือผู้อื่น บัดนี้กลับต้อง นอนอยู่บนเตียงอย่างคนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ดวงตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยพลังและความเย่อหยิ่ง กลับกลายเป็นสายตาที่เหม่อลอย…เขารู้ดีว่า ตนเองกำลังจะตายแต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่ใช่ความตาย...แต่เป็นการตายด้วยน้ำมือของบุตรชายที่เขารักที่สุด!ความคิดสุดท้ายที่วนเวียนอยู่ในหัวของเขาคือ..."นี่หรือคือผลตอบแทนของข้า...?""นี่หรือคือจุดจบของอ๋องฟู่หยางเซิน?""ข้าเลี้ยงดูอสูรกายขึ้นมาเองแท้ๆ…"







