เข้าสู่ระบบหลังจากที่สะสางทุกเรื่องราวในเมืองหลวงจนเสร็จสิ้น เยี่ยจิงหลินก็ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านไท่ผิงชุน ที่นั่น… คือสถานที่ที่มีความหมายกับนางมากที่สุดเมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ บรรยากาศรอบตัวแตกต่างจากเมืองหลวงโดยสิ้นเชิง
ไม่มีเสียงของขุนนางที่คอยแย่งชิงอำนาจ ไม่มีแววตาแห่งความโลภ ไม่มีเสียงกระซิบของคนที่พยายามคิดคดหักหลัง
ที่นี่มีเพียงสายลมอ่อนๆ อากาศที่สดชื่น และผู้คนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะ แห้งแล้งและทุรกันดารแต่สำหรับเยี่ยจิงหลินที่นี่คือบ้าน เมื่อเดินเข้าสู่เรือนของตนเอง นางกลับต้องแปลกใจเมื่อพบว่า หลิวฉางหยาง กำลังพักอาศัยอยู่ที่นี่! เยี่ยจิงหลินหันไปมองมารดาของตนซูหลินด้วยความสงสัย
ก่อนที่แม่ของนางจะ เผยรอยยิ้มออกมาอย่างเขินอาย
"ลูก… แม่ตัดสินใจแล้วว่าแม่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง" หลิวฉางหยางไม่ใช่แค่คนรู้จัก แต่เขาเป็นคนที่ ยืนเคียงข้างและคอยดูแลแม่ของนางเสมอมาในวันที่ชีวิตของซูหลินลำบากเขาอยู่เคียงข้างนางโดยไม่ทอดทิ้งและตอนนี้แม่ของเยี่ยจิงหลินก็ได้ตัดสินใจเปิดใจให้กับความรักอีกครั้ง
เยี่ยจิงหลินเมื่อเห็นแม่ของตนมีความสุข นางย่อมดีใจอย่างที่สุด
"แม่… ในที่สุดท่านก็พบคนที่รักจริงๆ เสียที" นางกล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน ดวงตาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม
มื้ออาหารแห่งความอบอุ่นค่ำคืนแห่งการกลับบ้านบรรยากาศภายในบ้านอบอุ่นกว่าที่เคยเป็นมาเยี่ยจิงหลินนั่งรับประทานอาหารร่วมกับแม่และหลิวฉางหยาง "ไม่ว่าโลกภายนอกจะโหดร้ายเพียงใด… ข้าก็ยังมีสถานที่ที่เรียกว่าบ้าน"
ในค่ำคืนนี้… ไม่มีการต่อสู้ ไม่มีแผนการมีเพียง ความรักและความอบอุ่น ที่ทำให้นางรู้ว่านี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
หลังจากทุกสิ่งทุกอย่างที่นางผ่านพ้นมา เยี่ยจิงหลินก็ปล่อยให้ตัวเองได้พักผ่อนในหมู่บ้านไท่ผิงชุนมันคือช่วงเวลาแห่งความสงบสุข นางใช้เวลาหลายวันเพลิดเพลินไปกับชีวิตเรียบง่ายช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ภายในหมู่บ้านดูแลแม่ของนาง และพูดคุยกับหลิวฉางหยาง ลิ้มรสอาหารที่ไม่ได้หรูหราแต่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น
หลังจากที่ต้องรับมือกับโลกอันโหดร้ายของราชสำนักมานานนี่คือช่วงเวลาที่นางสามารถปล่อยวางได้อย่างแท้จริง
แต่… ความสงบสุขของนางไม่ได้ยาวนานนัก
วันหนึ่ง…
เสียงม้าและเสียงเกราะของทหารดังขึ้นมาจากหน้าหมู่บ้าน!
"นายหญิง!"
กองกำลังรักษาความปลอดภัยของจวนมาถึง!ผู้นำของพวกเขาคือหนึ่งในลูกน้องคนสนิทของนางเขาลงจากหลังม้า และรีบเดินตรงมาหานางด้วยสีหน้าร้อนรน
"พวกเรารอไม่ไหวอีกแล้ว! ท่านต้องกลับไปที่จวนโดยเร็ว!" ปัญหาที่รอคอยการตัดสินใจของเยี่ยจิงหลิน
"มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น?" นางถามออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่สายตาของนางกลับเต็มไปด้วยความเฉียบคม
"ที่จวนของท่าน มีเรื่องมากมายที่ต้องการให้ท่านตัดสิน!"
เหล่าขุนนางบางส่วนเริ่มมีความเคลื่อนไหวที่น่าสงสัย
มีความขัดแย้งระหว่างพ่อค้าผู้ทรงอิทธิพล ที่ต้องการคำตัดสินจากนาง
ศัตรูเก่าบางคนเริ่มกลับมารวบรวมกำลังพลอีกครั้ง
"ตอนนี้… มีเพียงท่านเท่านั้นที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้"เยี่ยจิงหลินเงียบไปครู่หนึ่ง นางทอดสายตาไปมองหมู่บ้านอันเงียบสงบรอบตัวชีวิตที่นี่แตกต่างจากเมืองหลวงโดยสิ้นเชิงแต่สุดท้ายแล้ว… ชะตาของนางไม่อาจอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป
"ข้าคิดว่าจะได้อยู่อย่างสงบสักระยะ… แต่ก็ดูเหมือนว่า พวกเจ้ายังขาดข้าไม่ได้จริงๆ"
นางถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะยกยิ้มบางๆ
"เตรียมม้า ข้าจะกลับ"ลูกน้องของนางโค้งคำนับด้วยความเคารพ ก่อนจะรีบจัดเตรียมขบวนทันทีแม่ของนาง ซูหลิน เดินเข้ามาใกล้ และจับมือของนางเบาๆ
"ลูกเอ๋ย… เจ้าเกิดมาเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แม้เจ้าจะอยากใช้ชีวิตธรรมดา แต่โชคชะตาไม่เคยอนุญาต"
เยี่ยจิงหลินพยักหน้า นางเข้าใจดีว่าทางที่นางเลือกเดิน… ไม่มีคำว่า "สงบสุข"
"แม่ไม่ต้องห่วง ข้าจะกลับมาเยี่ยมอีกแน่นอน"
หลังจากกล่าวอำลา…เยี่ยจิงหลินขึ้นหลังม้า และมุ่งหน้ากลับสู่เมืองหลวง หมู่บ้านไท่ผิงชุนอาจเป็น สถานที่พักใจของเยี่ยจิงหลินแต่… นางรู้ดีว่าโลกนี้ไม่ได้มีแต่ความสงบสุข
"ตราบใดที่ยังมีคนที่ฉ้อฉลและหิวกระหายอำนาจ บ้านเมืองก็ไม่มีวันสงบสุขได้" ด้วยความคิดเช่นนี้…เยี่ยจิงหลินได้ก่อตั้งองค์กรลับขึ้นมามันคือ องค์กรนักฆ่าไร้เงา
"ในเมื่อแสงสว่างไม่อาจกำจัดความมืดได้หมด…ข้าก็จะใช้ความมืดนี้ กวาดล้างพวกมันเสียเอง!"
องค์กรนี้จะไม่เคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยมันจะลงมือก็ต่อเมื่อรู้ว่ามีบุคคลที่สมควรถูกกำจัดพวกมันจะซึมซับเข้าไปในเงามืด ดำเนินภารกิจอย่างไร้ร่องรอย "คนที่คิดว่าตัวเองอยู่เหนือกฎหมาย… จะต้องรู้สึกหวาดกลัวแม้แต่เงาของตัวเอง!"
เป้าหมายของพวกเขามีเพียงหนึ่งเดียว กำจัดเนื้อร้ายของแผ่นดิน!
ขุนนางกังฉินที่ใช้อำนาจกดขี่ประชาชน พ่อค้าที่ฉ้อโกง กอบโกยผลประโยชน์จากผู้บริสุทธิ์ผู้ทรยศที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด
เมื่อใดที่พวกมันเปิดเผยตัวออกมาองค์กรนักฆ่าไร้เงา… จะเคลื่อนไหว!
"บางคนเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตอย่างสงบแต่ข้าเกิดมาเพื่อแบกรับความมืด… เพื่อให้ผู้อื่นมีชีวิตที่สงบสุข"
หลังจากที่สะสางทุกเรื่องราวในเมืองหลวงจนเสร็จสิ้น เยี่ยจิงหลินก็ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านไท่ผิงชุน ที่นั่น… คือสถานที่ที่มีความหมายกับนางมากที่สุดเมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ บรรยากาศรอบตัวแตกต่างจากเมืองหลวงโดยสิ้นเชิงไม่มีเสียงของขุนนางที่คอยแย่งชิงอำนาจ ไม่มีแววตาแห่งความโลภ ไม่มีเสียงกระซิบของคนที่พยายามคิดคดหักหลังที่นี่มีเพียงสายลมอ่อนๆ อากาศที่สดชื่น และผู้คนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะ แห้งแล้งและทุรกันดารแต่สำหรับเยี่ยจิงหลินที่นี่คือบ้าน เมื่อเดินเข้าสู่เรือนของตนเอง นางกลับต้องแปลกใจเมื่อพบว่า หลิวฉางหยาง กำลังพักอาศัยอยู่ที่นี่! เยี่ยจิงหลินหันไปมองมารดาของตนซูหลินด้วยความสงสัยก่อนที่แม่ของนางจะ เผยรอยยิ้มออกมาอย่างเขินอาย"ลูก… แม่ตัดสินใจแล้วว่าแม่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง" หลิวฉางหยางไม่ใช่แค่คนรู้จัก แต่เขาเป็นคนที่ ยืนเคียงข้างและคอยดูแลแม่ของนางเสมอมาในวันที่ชีวิตของซูหลินลำบากเขาอยู่เคียงข้างนางโดยไม่ทอดทิ้งและตอนนี้แม่ของเยี่ยจิงหลินก็ได้ตัดสินใจเปิดใจให้กับความรักอีกครั้งเยี่ยจิงหลินเมื่อเห็นแม่ของตนมีความสุข นางย่อมดีใจอย่างที่สุด"แ
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม...ด้วย ฝีมือการรักษาของหมอเทวดาหลานซือหมิง ในที่สุด ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนก็ฟื้นคืนสติอีกครั้ง!แม้ว่าพระองค์ยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะกลับมาแข็งแรงเต็มที่ แต่สิ่งที่พระองค์ได้รับรู้หลังจากฟื้นคืนสติมันทำให้หัวใจของพระองค์สั่นสะท้านยิ่งกว่าพิษร้ายที่เคยกัดกินร่างกายเสียอีก!"คนที่วางยาข้า... คือน้องชายของข้าเอง!?" ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนตื่นตระหนกเมื่อรับรู้ถึงความจริง อ๋องฟู่หยางเซิน ผู้ที่เขาเคยมอบความไว้วางใจ... กลับเป็นผู้ที่คิดจะฆ่าเขาเอง!สิ่งที่ทำให้พระองค์สะท้านใจไปมากกว่านั้นคือ..."ผู้ที่ช่วยข้ากลับเป็นบุตรสาวของแม่ทัพซุนเทา... บิดาของนางคือผู้ที่ข้าเคยหวาดระแวงเพราะคำยุยงของราชครูกู่เทียนหลง!" พระองค์หวาดระแวงแม่ทัพซุนเทาเพราะคำพูดของราชครูที่คอยปั่นหัวสุดท้าย... พระองค์ก็ต้องสูญเสียทั้งคู่ไปหลังจากนั้นไม่นานความเดือดดาลก็ปะทุขึ้น!"ข้าจะไม่มีวันให้อภัยมัน!" ดวงตาของฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียน ฉายแววของความโกรธแค้นแม้ว่าอ๋องฟู่หยางเซินจะไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ แล้ว แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพของคนที่ไร้สติ เหม่อลอย ไม่รู้เรื่องราวใดๆแต่ความผิดที่เขาก่อขึ้นมันเกินกว่าที
การตายขององค์ชายฟู่ซิวเหิง… เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เยี่ยจิงหลินไม่ได้คิดจะหยุดเพียงแค่ปลิดชีพองค์ชาย แต่นางกำลังจะทำให้ตระกูลของอ๋องฟู่หยางเซินล่มสลายไปทั้งสายเลือด! ก่อนที่นางจะลงมือ เยี่ยจิงหลินส่งคนของนางออกไปสืบข่าวเกี่ยวกับบุตรชายของอ๋องฟู่หยางเซินทุกคนพวกมันทุกคนล้วนชั่วช้า ไม่ได้ต่างไปจากฟู่ซิวเหิงเลยแม้แต่น้อยพวกมันฉ้อโกง ฉุดคร่าหญิงสาว กดขี่ชาวบ้าน ใช้อำนาจอย่างอำมหิต...ทุกสิ่งที่ได้รับรายงานมามีแต่สิ่งที่ทำให้นางยิ่งแน่ใจว่าพวกมันสมควรจะถูกกำจัดจนหมด!เมื่อแผนการถูกวางไว้อย่างรัดกุม ค่ำคืนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจาก คืนแห่งนรกที่แท้จริงสำหรับท่านอ๋องแม้ว่าตัวของเขานั้นไม่มีสติเป็นของตัวเองแล้วก็ตาม"ลอบสังหารพร้อมกันในคืนเดียว อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว"นางออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด! เหล่ามือสังหารในเงามืด เคลื่อนไหวอย่างไร้เสียง แต่ละคนได้รับเป้าหมายของตนเอง ไม่มีความผิดพลาด ไม่มีความลังเล มีเพียงจุดจบของเครือญาติแห่งอ๋องฟู่หยางเซินเท่านั้นที่รออยู่!เสียงกรีดร้องแห่งความตื่นตระหนก ดังขึ้นจากคฤหาสน์หลายแห่งของบุตรชายท่านอ๋อง"ไม่นะ! ปล่อยข้าไป! ข้าให้เงินเจ้าได้!""อย่า! ข้ายอมแ
เยี่ยจิงหลินยืนอยู่กลางโถงสุราที่ถูกย้อมไปด้วยเลือด นางจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างพึงพอใจ ฟู่ซิวเหิง องค์ชายผู้เคยหยิ่งทะนงบัดนี้กำลังสั่นสะท้านไม่ต่างจากลูกนกที่ถูกขังไว้ในกรงแห่งความตาย!นางกวาดสายตามองเหล่าขุนนางและองครักษ์ที่เหลือรอด บางคนยังยืนตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว บางคนคุกเข่าลงร้องขอชีวิต น้ำตานองหน้า แต่มันไร้ประโยชน์!ใบหน้าของเยี่ยจิงหลินยังคงเรียบนิ่ง… ก่อนที่ริมฝีปากของนางจะคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา"จงดับลมหายใจของพวกมันให้หมดซะ... อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว"คำสั่งของนางเยือกเย็นราวกับเป็นเสียงแห่งมัจจุราช เงามรณะเคลื่อนไหวทันที!เสียงดาบกระทบกับเนื้อ เสียงเลือดสาดกระเซ็น เสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นระลอก ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ เงียบลงไปทีละน้อย ฟู่ซิวเหิงจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่สั่นไหว เขาเห็นขุนนางที่เคยประจบสอพลอตนเองถูกเชือดไปทีละคน…เขาเห็นองครักษ์ของตนเองล้มลงโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะชักดาบขึ้นมาต่อสู้!"ไม่… ไม่…"ร่างของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว สิ่งที่เขาเคยภาคภูมิใจ อำนาจ ความเย่อหยิ่ง ความทะเยอทะยานล้วนมลายหายไปจนหมดสิ้นและเมื่อความหวาดกลัวพุ่งถึงขีดสุด…"ท่านพ่อ! ช่วยข
ภายใน หอสุรา ที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง พลันเกิดความเปลี่ยนแปลงในพริบตาเดียว!ฟู่ซิวเหิง และเหล่าขุนนางยังคงกำลังดื่มด่ำกับความสุขจากอำนาจใหม่ของตนเอง เสียงจอกสุรากระทบกัน เสียงหัวเราะยังคงดังไปทั่วทั้งห้องโถง ทุกคนกำลังหลงระเริงอยู่ใน ภาพมายาของชัยชนะแต่แล้ว…"พรึ่บ!"เปลวไฟทุกดวงภายในห้องโถงพลันดับมอดลงอย่างกะทันหัน!ทั้งห้องตกอยู่ใน ความมืดมิดอันสมบูรณ์แบบ ไม่มีแสงไฟแม้แต่ดวงเดียว มีเพียงเงามืดอันน่าหวาดกลัว ที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบเชียบเสียงของแขกภายในงานเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบกระซาบ ความตื่นตระหนกเริ่มแพร่กระจายออกไปในหมู่ผู้ร่วมงาน"มันเกิดอะไรขึ้น?!""มีใครไปจุดไฟเร็วเข้า!"เสียงตะโกนดังขึ้นจากมุมห้อง น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก!แต่ไม่มีคำตอบไม่มีใครขยับท่ามกลางความเงียบงันและความมืดมิด…"อ๊ากกกกก!!!"เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดังก้องไปทั่วห้องโถง!หนึ่งในแขกของงานถูกปลิดชีพอย่างไร้ความปรานี!เงามัจจุราชที่คืบคลานฟู่ซิวเหิงเบิกตากว้าง เขาหันมองไปรอบๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงความมืดสนิท!"ใครอยู่ตรงนั้น?! ออกมาเดี๋
ความจริงที่โหดร้ายกำลังกลืนกินหัวใจของท่านอ๋องฟู่หยางเซินอย่างช้าๆบุตรชายที่เขารักและไว้วางใจที่สุดกลับกลายเป็นผู้ที่กำลังผลักไสเขาไปสู่ความตาย!ร่างกายของท่านอ๋องที่อ่อนแรงอยู่แล้ว กลับยิ่งทรุดหนักลงกว่าเดิม ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากยอมรับความจริง ความรู้สึกเจ็บปวดและความสิ้นหวังได้กัดกินจิตใจของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ความเศร้าโศกที่ค่อยๆ กัดกินหัวใจของเขา ทำให้พิษร้ายที่แฝงอยู่ในร่างแทรกซึมลึกลงไปในทุกอณูของร่างกาย!หัวใจที่แตกสลาย…ร่างกายที่อ่อนแอ…ความเจ็บปวดจากพิษร้ายที่คืบคลานเข้าสู่กระแสโลหิต…ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังบั่นทอน ชีวิตของอ๋องฟู่หยางเซิน ไปทีละนิดจากชายผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยปกครองอำนาจเหนือผู้อื่น บัดนี้กลับต้อง นอนอยู่บนเตียงอย่างคนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ดวงตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยพลังและความเย่อหยิ่ง กลับกลายเป็นสายตาที่เหม่อลอย…เขารู้ดีว่า ตนเองกำลังจะตายแต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่ใช่ความตาย...แต่เป็นการตายด้วยน้ำมือของบุตรชายที่เขารักที่สุด!ความคิดสุดท้ายที่วนเวียนอยู่ในหัวของเขาคือ..."นี่หรือคือผลตอบแทนของข้า...?""นี่หรือคือจุดจบของอ๋องฟู่หยางเซิน?""ข้าเลี้ยงดูอสูรกายขึ้นมาเองแท้ๆ…"







