Mag-log inบทที่เก้า
สามหนุ่มสามมุม
สุดท้ายฉันก็เป็นคนตัดสินใจไปหาซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับตามข้อเสนอของซูเทียนเป่า ซึ่งน่าสนใจว่าการไปชมสวนหรือเดินตลาดมากมายนัก
พวกเราตัดสินใจไปด้วยรถม้าคันเดียวกัน โดยรถม้าที่ซูเทียนเป่านำมาถือว่าใหญ่โตพอสมควร ฉันจึงชี้เจาะจงจะไปด้วยรถม้าคันนี้ ส่วนรถม้าขององค์ชายสี่หรูหราเกินไปจึงไม่เหมาะที่จะนำไป รถม้าของฉันก็คันเล็กเกินไป สำหรับไป่ฮั่วถิงวันนี้เขาขี่ม้ามาเพราะต้องรีบนำแป้งทอดมาให้ฉันแต่เช้า
ขบวนชายสามหญิงหนึ่งยืนมาหยุดตรงหน้ารถม้าคันใหญ่ ชายหนุ่มทั้งสามต่างมองกันไปมาเกี่ยงว่าใครจะขึ้นก่อนกัน ฉันจึงก้าวขึ้นเป็นคนแรกก่อนที่จะทำทีเป็นซวนเซเอนซบซ้ายทีขวาทีอย่างไม่มั่นคง ซูเทียนเป่าคงทนไม่ไหวจึงตัดสินใจอุ้มฉันกระโดดทีเดียวไปบนรถม้าแล้วส่งฉันเข้าไปนั่งอย่างเรียบร้อย ในขณะที่ชายหนุ่มอีกสองคนยังยืนเหม่อกับการซวนซบเมื่อสักครู่ของฉัน
พวกเรานั่งรถม้ากันไปสี่คนแบบอบอุ่นแนบแน่น ฉันนั่งตรงกลาง องค์ชายสี่ขนาบซ้าย ไป่ฮั่วถิงขนาบขวา ส่วนซูเทียนเป่าอยู่ฝั่งตรงข้าม เนื่องจากมีร่างที่สูงใหญ่จึงปิดทางเข้าออกของรถม้าจนมิด
ท่ามกลางบรรยากาศน่าอึดอัด ฉันจึงแกล้งเอนซ้ายไปซบองค์ชายสี่ เอนขวาไปจับมือไป่ฮั่วถิง เพื่อให้พวกเขาสนใจแต่ฉันจนหน้าแดงหูแดง ยกเว้นซูเทียนเป่าที่มองมาด้วยอาการยิ้มเยาะตลอดทาง
จนรถม้าจอดนิ่งสนิท ซูเทียนเป่ากระโดดลงไปก่อนคนแรก ฉันรีบก้าวตามออกมาขณะที่ชายหนุ่มอีกสองคนยังนั่งเหม่อหน้าแดงอยู่ในรถ
ฉันยื่นมือเรียวสวยให้ชายหนุ่มใหญ่เพื่อให้เขาช่วยพยุง เขามองมือนั้นเพียงครู่แต่ไม่เอื้อมมือมารับกลับโอบมือมารอบเอวแล้วอุ้มฉันลงไปยืนที่พื้นอย่างรวดเร็ว ฉันได้ทีแกล้งซวนซบไปที่อกแน่นนั้นก่อนจะลอบมองหน้าหนุ่มเข้มว่าจะมีสีหน้าแดงดุจเดียวกับสองหนุ่มน้อยในรถม้าหรือไม่
“ข้าไม่อ่อนด้อยเหมือนหนุ่มน้อยพวกนั้นหรอก หากเจ้าจะยั่วยวนข้าคงต้องคิดให้มากกว่านี้ อย่าหาว่าข้าไม่เตือน” หนุ่มใหญ่เอ่ยเตือนเหมือนขู่ก่อนที่จะปล่อยให้ฉันยืนด้วยตัวเอง
ขบวนของเรานอกจากอันอันและผิงอันแล้วยังมีผู้ติดตามขององค์ชายสี่อีกหลายคน เป็นขบวนที่ดูยิ่งใหญ่ เมื่อลงจากรถม้าได้ฉันจึงขอร้องให้องค์ชายสี่จัดแบ่งบางส่วนไปติดตามห่างๆไม่ให้ดูผิดสังเกตจนเกินไปนัก
ซูเทียนเป่าเดินนำพวกเราไปที่ร้านขายเสื้อผ้าอาภรณ์สตรีก่อนเป็นร้านแรก ไป่ฮั่วถิงเข้ามาช่วยเลือกช่วยคุยเจรจาเหมือนดั่งเป็นเพื่อนหญิงจนฉันนึกถึงเจ๊เจนนี่ ช่างแต่งหน้าคนสนิทที่มักจะชวนกันไปช้อปปิ้งเป็นประจำ
พวกเราสี่คน ฉัน ถิงเกอเกอ อันอันและผิงอันเลือกเสื้อผ้ากันอย่างสนุกสนาน ในขณะที่องค์ชายสี่นั่งจิบน้ำชารอด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ส่วนซูเทียนเป่าเพียงยืนกอดอกมองและออกความเห็นบ้างเป็นครั้งคราว
ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วยาม ฉันเลือกชุดสวยได้ถึงสิบกว่าชุด เนื่องจากชุดเดิมของร่างนี้จะเป็นแนวหรูหราอ่อนหวานซึ่งไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตในยามนี้ ฉันจึงเลือกชุดที่สามารถใส่ได้ประจำวันกับชุดที่เปิดเผยเนื้อตัวนิดหน่อยเผื่อต้องใช้ประโยชน์บ้าง
ซูเทียนเป่าเดินเข้ามาส่งก้อนทองให้เถ้าแก่อย่างใจป้ำ ขณะที่สองหนุ่มน้อยยังไม่ทันขยับตัว ฉันมองเขาด้วยสายตาขอบคุณก่อนจะส่งยิ้มหวานหยดย้อยให้หนึ่งที
ช่างเป็นหนุ่มใหญ่สายเปย์ที่น่าคบหา
พวกเราเดินออกจากร้านท่ามกลางเสียงขอบคุณไม่หยุดปากของเถ้าแก่ที่โค้งแล้วโค้งอีก
องค์ชายสี่เดินมาคว้ามือฉันทันทีที่ก้าวพ้นร้าน
“ข้าจะพาเจ้าไปเลือกเครื่องประดับเอง”
พวกเราเคลื่อนย้ายขบวนมาที่ร้านเครื่องประดับใหญ่โตที่องค์ชายสี่เดินนำอย่างเย่อหยิ่ง
“นำเครื่องประดับที่หรูหราที่สุดและดีที่สุดมาให้แม่นางท่านนี้เลือกชม” เขาตะโกนสั่งเถ้าแก่ที่วิ่งหัวซุนเข้ามาทันทีที่เห็นขบวนยิ่งใหญ่เดินเข้ามา
เขาคงเบื่อหน่ายอย่างมากที่ร้านเสื้อผ้าจึงมาแสดงศักดาที่ร้านเครื่องประดับ
ได้เลยน้อง เดี๋ยวเจ๊จะจัดให้กระเป๋าฉีกเลยทีเดียว
ฉันคิดด้วยความหมั่นไส้ แล้วก็ไม่สนใจใครอีกก้มหน้าก้มตาลองเครื่องประดับละลานตาที่เถ้าแก่นำมาให้ชมอย่างสนุกสนาน ด้วยความที่ร้านนี้ใหญ่โตและมีห้องหับส่วนตัว เถ้าแก่จึงเชิญพวกเราขึ้นไปบนห้องส่วนตัวบนชั้นสองเพื่อเลือกกันอย่างเต็มที่ ฉันจึงเกิดความคิดกลั่นแกล้งและลอบสังเกตปฏิกิริยาของชายหนุ่มทั้งสามขึ้นมาโดยชวนอันอันและผิงอันเข้ามาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เพิ่งซื้อมา สวมใส่เครื่องประดับที่เลือกไว้ ก่อนจะออกมาเดินเฉิดฉายเหมือนอยู่บนพรมแดง ท่ามกลางสายตาสามคู่ที่มองมาด้วยสีหน้าที่แตกต่างกัน
ชุดที่ฉันเลือกเป็นชุดที่เปิดเผยเนื้อตัวพอประมาณ เนื้อผ้าบางเบาแนบสัดส่วน มองเห็นเนินอกรำไร หลังจากฉันเดินออกมาก็ยักย้ายส่ายสะโพกน้อยๆ มือลูบคลำเครื่องประดับไล่ลงมาจนหยุดที่ทรวงอกอิ่ม ก่อนจะหมุนตัวช้าๆ ทิ้งตามองยั่วยวนแล้วเดินเยื้องย่างก่อนจะทำทีเป็นสะดุดชายผ้าล้มลง
“ว้าย...”
บทที่ยี่สิบเจ็ด บอกความจริงมาหลังจากนอนครุ่นคิดรวบรวมข้อมูลต่างๆที่ได้มา ฉันก็ยังมีเรื่องน่าสงสัยอีกหลายเรื่อง อ๋องชิงหนานบอกว่ามีชายหนุ่มหลงใหลในตัวฟางหรูหนิงมากมาย ข้อนี้ฉันเชื่อเพราะร่างนี้งดงามจนบอกได้ว่าล่มเมืองของแท้ แต่ที่ฉันไม่แน่ใจก็คือเขาบอกว่าหนึ่งในนั้นก็คือเขา นอกเหนือจากยามที่เขาเข้ามาคลอเคลียฉวยโอกาสกับเรือนร่างอันงดงามยามค่ำคืนแล้ว เขาก็แทบจะไม่มาให้เห็นหน้าหรือพูดคุยคำหวานให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ ในขณะที่ชายหนุ่มคนอื่นๆ ยังมีคำมั่นสัญญาที่จริงใจชัดเจน ครั้งแรกที่ฉันตื่นขึ้นมาในร่างนี้ ฉันตั้งใจไว้ว่าจะไม่สนใจเรื่องในอดีตของร่างนี้แต่อย่างใด
บทที่ยี่สิบหกขอผ่อนคลายกับเจ้าวันนี้เขาเร่งร้อนมาก เพียงไม่นานฉันก็ถึงฝั่งฝันไปหนึ่งรอบ เขายังไม่ยอมหยุดมือ ขยับมือและลิ้นโดยฉันไม่สามารถหยุดเสียงครางกระเส่าได้ ฉันสัมผัสได้ถึงแก่นกายที่แข็งแกร่งถูไปมาที่เรียวขา ฉับพลันฉันก็ตัดสินใจโดยไม่หยุดคิด ฉันเอื้อมมือไปสัมผัสแก่นกายที่แข็งตึงของเขา ขยับมือขึ้นลงช้าๆก่อนที่จะเพิ่มความเร็วจนเขาหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วร้องครวญครางจนสุดกลั้น “ให้หม่อมฉันช่วยนะเพคะ” ฉันพูดขณะที่มือยังเร่งความเร็วไม่หยุด “เจ้าทำเช่นนี้ ข้า...ข้า....” เขาร้องออกมาจนฟังแทบไม่ออก ก่อนที่น้ำสีขาวขุ่นจะไหลล้นจนเลอะเต็มมือ&nbs
บทที่ยี่สิบหกขอผ่อนคลายกับเจ้า“แล้วท่านมาลอบทำร้ายเขาทำไม” ฉันถามขึ้นบ้าง “เพราะเจ้า” เขาตอบด้วยคำที่ทำให้ฉันถึงกับตะลึง “เพราะข้า หมายความว่าอย่างไร” “เจ้าเกลียดเขา ยามข้าลอบเข้ามาดู เจ้ามีสีหน้าเศร้าสร้อยเมื่ออยู่ที่นี่ เจ้าดูไม่มีความสุข ข้าจึงคิดว่าฆ่าเขาทิ้งเสีย เจ้าก็จะเป็นอิสระ ถึงตอนนั้นเจ้าจะสามารถตัดสินใจเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร” ฉันสบตามองหาความจริงหรือคำโกหกแต่ไม่มีสัญญาณว่าคำพูดนี้ของเขาโกหก 
บทที่ยี่สิบห้าลอบฆ่าทำไม ถัดจากวันนั้นฉันก็ไม่พบหน้าอ๋องหนุ่มอีกเลย เขาหลบลี้หนีหน้าโดยให้ไป่ฮั่วถิงมาดูแลฉันทั้งวัน ฉันไม่คิดจะสนใจเขา แต่ก็มีแอบคิดถึงค่ำคืนสุขสมของฉันคนเดียวไม่ได้ ไป่ฮั่วถิงสมกับเป็นเพื่อนรักวัยเด็กที่แสนดี เขาสรรหาเรื่องมาเล่า สรรหาขนมอร่อย และกิจกรรมยามว่างมาให้ฉันแก้เหงาได้ทุกวัน ฉันไม่มีความรู้สึกเตือนมาว่าเขาโกหกใดใด จึงวางใจและเชื่อใจในทุกสิ่งที่เขาเล่าจนได้รับรู้เรื่องราวต่างๆอีกมากมาย ทหารและองครักษ์ที่ส่งออกไปตามไล่ล่าคนร้ายกลับมาโดยไม่สามารถจับคนร้ายได้แม้แต่คนเดียว&
บทที่ยี่สิบสี่ฝันหรือจริง เช้านี้ฉันตื่นสายมาก เมื่อคืนรู้สึกว่าฝันอีกแล้ว เป็นฝันที่ยาวนานกว่าคืนก่อนๆ ชายหนุ่มคนเดิมมาเริงรักกับฉันอย่างอ้อยอิ่ง ฉันสัมผัสได้ถึงความเหมือนจริงมากจนไม่อยากจะเชื่อ เมื่อตื่นขึ้นก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนออกกำลังกายมาทั้งคืน อันอันเข้ามาช่วยฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันขอผ้ามาเช็ดเนื้อตัวด้วยตนเองเพราะเริ่มสงสัยบางอย่างจนสายตาสะดุดกับรอยมือบนทรวงอกทั้งสองข้าง เมื่อคืนฉันจำได้ว่าชายหนุ่มขยำขยี้นมของฉันอยู่เนิ่นนานจนฉันแทบขาดใจ คราวนี้ฉันไล่สายตาอย่างละเอียด ส่วนสงวนของฉันยังมีน้ำฉ่ำค้างอยู่ และอาการบวมที่น่าจะเกิดจากการลูบไล้หนักมือ ฉันแน่
บทที่ยี่สิบสาม ฝันอีกแล้ว“ข้ากินยาทีไรรู้สึกง่วงนอนมาก นอนหลับจนฝันแปลกประหลาดทุกคืน” ฉันบ่นเบาๆ “ยาบรรเทาปวดมีตัวยาที่ทำให้เจ้าหลับได้ดี น่าจะเป็นผลดีกับเจ้านะ แต่เจ้าฝันประหลาดอันใดหรือ เล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่” ไป่ฮั่วถิงถามขึ้นมา ฉันสะดุ้งในใจ ไม่น่าหลุดปากออกไปเลย “ฝันอันใดข้าก็จำไม่ใคร่ได้ สับสนปะปนไปหมด แต่ก็ถือเป็นฝันดี” ฉันตอบเฉไฉไป “หากเป็นฝันดี เจ้าก็ไม่ต้องคิดมากไป”&nbs







