"เมื่อคืนเรื่องมันเป็นงี้..."
เกือบสิบคนภายในห้อง ต่างพากันเงียบลงโดยไม่ได้นัดหมาย สายตาทุกคู่ จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่บนเตียง เขานั่งนิ่ง สบตากับทุกคนทีละคน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวัง เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแทรกกลางความเงียบ ทุกคนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันขวับไปตามต้นเสียง เป็นของใครคนหนึ่งในกลุ่มที่กำลังรีบล้วงกระเป๋ากางเกง รายชื่อที่ไม่รู้จัก แสงหน้าจอสว่างวาบ เขากดปัดสายทิ้งทันที "โทษๆๆ เบอร์คอลเซ็นเตอร์โทรมา" สายตาหลายคู่ที่หันกลับไปจับจ้องที่คนอยู่บนเตียงอีกครั้ง "ระหว่างที่กูกำลั..." เสียงเคาะประตูดังขึ้นกะทันหัน ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก... ทุกคนสะดุ้งเฮือก เบนสายตาไปที่ประตูพร้อมกัน ก่อนจะเหลือบมองหน้ากันด้วยท่าทีลังเล แววตาหลายคู่ฉายแววระแวงเล็กน้อย "มึงไปเปิดดิ ไอ้ปอ" "มึงเป็นใครมาสั่งกู ไอ้เบียร์" "เป็นพี่มึง" "Xวย" หลังจากสิ้นเสียง ปอตัดสินใจลุกขึ้น เดินช้าๆไปยังประตูโดยมีสายตาทุกคู่ติดตามเขาไปอย่างเงียบงัน เขาหยุดอยู่ตรงหน้า มือจับลูกบิดแล้วสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเปิดออกอย่างระมัดระวัง สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือชายหนุ่มในชุดแจ็คเก็ตสีเขียว ถือถุงอาหารพลาสติกไว้ในมือพร้อมรอยยิ้มเก้อๆ "ขอโทษครับ...ใช่ห้องของคุณตัวข้านั้นมีชื่อว่าโก้ไหมครับ?" มีเสียงกระแอมเบาๆ พร้อมทั้งเสียงถอนหายใจดังขึ้นประปรายในห้อง "ใช่ครับ ขอบคุณครับ" หลังจากรับถุงอาหารมาเรียบร้อย ประตูก็ถูกปิดลงอีกครั้ง พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆ กลับเข้ามาในห้อง "กูหิวนี่หว่า ยังไม่แดกอะไรตั้งแต่เช้า" ทุกคนกลับไปนั่งยังที่เดิมอย่างเงียบเชียบ สายตาหลายคู่หันกลับไปยังคนที่นั่งอยู่บนเตียงอีกครั้ง ต่างคนต่างรอฟัง "มึงเล่าให้จบแล้วค่อยแดก ให้กูได้ฟังเถอะไอ้x่า ไม่มีอะไรขัดแล้วใช่ไหมรอบนี้ มึงเริ่มเลยไอ้โก้" เสียงของหนึ่งในกลุ่มดังขึ้น น้ำเสียงปนหงุดหงิดแต่ก็แฝงด้วยความอยากรู้สุดขีดเช่นกัน "หลังจากที่กูแยกจากพวกมึง..." เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากที่โก้บอกลาเพื่อนๆในร้านเหล้าเสร็จ เขารีบสวมหมวกกันน็อกแล้วสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ ภายใต้หมวกกันน็อกกลับมีความรู้สึกกลัวเต็มไปหมด ก่อนรถจะแล่นพุ่งออกจากหน้าร้าน มุ่งหน้ากลับเส้นทางเดิมที่เขาขี่มา หลังจากขับผ่านสามแยกมา เขาเริ่มรู้สึกบางอย่าง ไฟถนนที่เคยเรียงเป็นระยะห่างเท่าๆกัน เริ่มสว่างบ้างดับบ้าง สองข้างทางที่ควรจะเป็นบ้านคน กลับกลายเป็นป่าไม้เต็มไปหมด เขาไม่เคยเห็นมาก่อน "กูเลี้ยวผิดแยกเหรอวะ? มันก็ทางนี้นิ" โก้พึมพำกับตัวเอง ทั้งที่ตาเขามองถนนข้างหน้าอย่างไม่มั่นใจ โก้ชะลอรถโดยไม่ทันคิด รู้สึกได้ถึงแรงกดที่อก ความอึดอัดบางอย่างตีกลับมาในลมหายใจ เขารู้ตัวเองดีว่าไม่ได้เมา แค่มึนๆหัวคล้ายโลกหมุนช้ากว่าปกติ แต่ยังมีสติควบคุมรถได้มั่น จู่ๆ ไฟระหว่างทางก็เริ่มติดๆดับๆ แสงไฟข้างถนนที่เคยส่องสว่างกลับกะพริบ เสียงแมลงกลางคืนเงียบลงไปชั่วขณะ มีเพียงความเงียบงันโดยรอบ โก้ยิ่งเร่งมือเร่งเท้า รีบบิดมอเตอร์ไซค์ให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปไวๆ แต่ยิ่งขับ...เครื่องกลับเหมือนสะดุด กึกๆ...กึ่กกก... เครื่องยนต์ดับลงกะทันหันกลางทาง ไม่มีแม้แต่ป้ายบอกทางหรือเสียงรถสวนสักคัน โก้ใจหายวูบ เขารีบเอียงตัวก้มดูน้ำมันในถังอย่างลนลาน น้ำมันยังเหลือครึ่งถัง "ปะ..ปะ..แปลกๆ...มึงอย่ามาดับตอนนี้นะโว้ย!" เขาพึมพำเสียงสั่น กดสตาร์ทอีกครั้ง เครื่องกลับมาติดได้อีกครั้ง โก้ถอนหายใจเฮือก แต่ความรู้สึกไม่ดีเริ่มคืบคลานเข้ามา ราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญ รอบข้างเงียบกริบจนแม้แต่เสียงใบไม้ไหวก็ไม่มี ความวังเวงอัดแน่นอยู่รอบตัว และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้น...เขาเพิ่งสังเกตว่า ขับมาได้สักพักใหญ่ แต่ไม่มีบ้านคนเลยสักหลัง ทันใดนั้น...ร่างกายของโก้ก็สั่นวูบ ขนที่ต้นคอลุกชันโดยไม่มีสาเหตุ เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่าง กำลังจ้องมาจากด้านหลัง เขาค่อยๆ ลอบมองผ่านกระจกมองหลัง ตอนแรกไม่มีอะไร แต่พอเพ่งมองดีๆ ก็เห็นเงาบางอย่าง...กำลังวิ่งมาทางเขา เงานั้นดูคล้ายคน แต่ก็ดูเหมือนไม่ใช่คน มันวิ่งด้วยท่าทางสี่ขา แขนขาบิดเบี้ยวแต่กลับเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วผิดธรรมชาติ ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ มันเหมือนกำลังถือผ้าสีส้มผืนยาวไว้ด้วย แต่ผ้ากลับไม่ปลิวตามลม มันแนบไปกับตัวอย่างแปลกประหลาด โก้หายใจไม่ทั่วท้อง เขาเบิกตากว้าง พยายามเพ่งอีกครั้งเพื่อดูให้แน่ชัด แต่มันเริ่มอยู่ห่างไกลไปเรื่อยๆ เห็นแค่เพียงเงาดำวิ่งปัดๆอยู่ในความมืดที่ค่อยๆขยับเข้าใกล้ เขารีบหันหน้ากลับทางเดิม กำมือแน่น บิดคันเร่งสุดแรง เครื่องยนต์ร้องเสียงดังด้วยความกลัวสุดขีด แต่ไม่ว่าจะเร่งแค่ไหน...เขารู้สึกเหมือน เงานั้นกำลังเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อขับมาได้ไกลพอสมควร โก้ตัดสินใจหันกลับไปมองอีกครั้ง... เงาดำประหลาดนั่นหายไปแล้ว เขาพยายามกลืนความกลัวลงคอ หายใจเฮือกใหญ่เพื่อบังคับตัวเองให้ใจเย็น ขับต่อไปเรื่อยๆ แม้ในอกจะเต้นระรัวแทบทะลุออกมา ...แต่จู่ๆ สายตาของเขาก็เหลือบไปสะดุดกับ กระจกข้างอีกครั้ง หัวใจของโก้หยุดเต้นไปชั่วขณะเงาสะท้อนในกระจก...ไม่ใช่แค่เขานั่งอยู่คนเดียว ที่เบาะซ้อนท้าย ชุดผ้าเหลืองห่มพาดไหล่ศีรษะโกนเกลี้ยง ผิวหนังซีดเซียว ดวงตาปิดสนิท แต่ท่าทางสงบนิ่งผิดธรรมชาติ พระ โก้ตาเบิกโพลง มือสั่นระริกจนแทบควบคุมแฮนด์ไม่อยู่ เขารีบหันกลับไปมองข้างหลังจริงๆ ที่นั่นว่างเปล่า ไม่มีใครนั่งอยู่เลย แต่พอกลับมามองกระจกอีกครั้ง...พระรูปเดิมยังคงอยู่ แต่คราวนี้...แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง พระค่อยๆ เอื้อมมือขึ้นมาจับลำคอของตัวเอง นิ้วเรียวยาวเหมือนกระดูกแห้งขาว กดแน่นลงที่ต้นคอตัวเอง…ก่อนจะ ดึง…! ฉึ่กกก!! เสียงเนื้อฉีกขาดดังสะท้อน โก้แทบช็อก เลือดสีดำคล้ำทะลักพุ่งออกมาจากรอยแยกที่ลำคอ เลือดกระเด็นไปทั่วแม้จะเป็นแค่เงาในกระจก แต่มันกลับสาดโดนแก้ม โดนเสื้อของเขา สบงของพระ...ซึ่งเมื่อครู่ยังเป็นผ้าเหลืองสะอาด…ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นสีเลือดฉาน ไหลย้อยลงมาถึงชายผ้า "...ไปไม่รอดหรอกโยม...ทุกคนรอโยมอยู่" เสียงหัวเราะแหบพร่าลอยมาแผ่วเบา โก้กรีดร้องสุดเสียง ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองบิดคันเร่งไปเอง แต่เสียงหัวเราะแหบต่ำก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระซิบเหมือนลมหายใจของคนตาย "อะ..อะ..อาจารย์..ช่วยผมด้วย!!" พรืดดด!! รถมอเตอร์ไซค์ดับวูบกลางทาง พร้อมกับล้อหมุนฟรีอย่างควบคุมไม่ได้ โก้เสียหลัก ล้มกลิ้งไปกับถนน เสียงเนื้อกระแทกผิวถนนดัง แต่โชคดีที่เขาไม่บาดเจ็บรุนแรง โก้รีบยันตัวลุกขึ้น กลั้นหายใจหันมองไปที่กระจกอีกครั้ง พระในกระจกหายไปแล้ว...แต่ก่อนที่เขาจะทันได้โล่งใจ เสียงฝีเท้าหนักๆ ก็ดังขึ้นตรงหน้า โก้เงยหน้าช้าๆ และสิ่งที่เขาเห็นคือ...ชายวัยกลางคนแปลกหน้า กลับทำให้รู้สึกคุ้นเคยแปลกๆ "อาจารย์?" เขาใส่โสร่งลายจาง ถอดเสื้อเปลือยอกให้เห็นร่างเต็มไปด้วย อักขระโบราณสีดำสนิท สลักวนเต็มแผ่นหลังและหน้าอกเหมือนตราผนึก บนคอห้อยลูกประคำเม็ดใหญ่ เท้าเปล่าของเขาเหยียบอยู่บนถนน "ទៅទៅ! ខ្ញុំចាត់ចែងវាឯង! เติ๊ว เติ๊ว! ขฺญม จัต จง เวีย แอง!" (ไปซะ! เดี๋ยวกูจัดการมันเอง) "ไอ ด้อนท์ อันเดอร์สแตน" (ผมไม่เข้าใจ) "Get away!" (มึงไปให้พ้น!) จู่ๆ เสียงสวดบางอย่างก็ดังขึ้นจากปากชายผู้นั้น เสียงนั้นไม่เหมือนบทสวดพระทั่วไป แต่เป็นภาษาที่โก้ฟังไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย "តេតមេត! ខ្មោចអាក្រក់ កុំជាប់កម្លាំងនេះ! (เตตเมต! ขฺเมาจ อากฺรกฺ กุม จวับ กมลัง นี้!) ឲ្យភ្លើងចាស់តាំងភ្លាត់! បំផ្លាញសារីរាង្គខ្មោចនេះ! (อ่อย พลเอิง จั่ส ตัง พลัต! บ็อมพลาย สารีราง ขฺเมาจ นี้!) ត្រឡប់ទៅគុកអារ្យ! បិទច្រក ចាក់ខ្នល់ជាប់ចោល! (ตรอลอบ เติว กุก อารฺยะ! บิด จรอก จัก ขฺนล จวับโจล!) កុំចេញវិញ! កុំយ៉ាងឲ្យឃើញពន្លឺ! (กุม เจิน วินญฺ! กุม ยัง อ่อย เขิน พนฺละ!) អោយឈាមក្អួតចុះ! អោយខ្យល់ជាន់បេះបិទ!(อ่อย เชียม กออวด จุฮฺ! อ่อย ขฺยอล จวน เบะ บิด!)" ไม่รอให้เสียงอะไรตามมาอีก เขารีบบิดคันเร่งสุดแรง แม้แขนข้างหนึ่งจะเจ็บแปลบเหมือนถูกไฟช็อต แรงสะเทือนตอนบิดรถกระแทกเข้ากระดูกจนแทบขาดใจ แต่ภาพที่เห็นเมื่อครู่ พระหัวขาดกับอาจารย์ที่เต็มไปด้วยอักขระ มันฝังในหัวจนไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไป ลมกลางคืนตีกระแทกหน้า ถนนว่างเปล่า… โก้กัดฟันขับฝ่าออกมาไม่หยุด แม้รถจะโยกซ้ายขวา จนกระทั่งแสงไฟจากอาคารขนาดกลางปรากฏขึ้นตรงหน้า โรงพยาบาล! ก่อนจะทันได้จอด ล้อหน้าก็สะดุดกับขอบถนนข้างลานจอด! เลือดจากแขนที่เจ็บอยู่แล้วไหลอาบเสื้อ เขาพยายามยันตัวขึ้น แต่โลกกลับหมุนโคลงเคลงจนต้องล้มลงอีกครั้ง "คนเจ็บ! มีคนเจ็บตรงนี้!" กลับมายังปัจจุบัน "เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ กูบอกพวกมึงเลยนะ ยันต์ที่อาจารย์สักให้ โคตรพ่อโคตรแม่ขลัง!!" "ไหนวะพี่ ขอดูหน่อย" ต้นกล้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น มือข้างหนึ่งยกขึ้นช้าๆ เขาจับชายเสื้อกล้าม แล้วค่อยๆ ถอดมันออกจากตัว ทุกคนในห้องนิ่งไปทันที… "โหหพี่!!! ยันต์จิ้งจกเอากันโคตรขลังเลยว่ะ ขนาดผียังกลัว" "ยันต์จิ้งจกเอากันx่องมึงสิครับ กูให้ดูยันต์ข้างๆ!" . . . ทุกคนเริ่มทยอยเดินออกจากห้อง เสียงโทรศัพท์มือถือดังแทรกขึ้นมา พี่ส้ม "ฮัลโหลน้องเทียนน นี่พี่แตงไทยเองน๊าา" "ครับ" "น้องพอจะติดต่อน้องขุนได้บ้างไหมคะ?" "ทำไมหรอครับ?" "พอดีน้องขุนไม่ได้เข้ามาถ่ายงานเลยน่ะ ส่งข้อความไปแล้วก็ยังไม่อ่านแชทพี่เลย ตั้งแต่ 3 วันที่แล้ว โทรไปก็ไม่รับ เห็นเพื่อนๆบอกว่าน้องขุนไม่ได้มาเลยวันนี้ คือ...งานด่วนมากๆเลยน่ะ เจ้าของโทรตามเมื่อเช้านี้ อยากได้รูปแล้วด้วย...น้องเทียนช่วยไปดูน้องขุนให้พี่หน่อยได้ไหมคะ? น๊าาาาา" "เท่าไหร่ครับ?" "หมายถึงอะไรเหรอจ๊ะ?" "ที่บอกให้ผมไปดูมันให้" "...เอาจริงเหรออ" "ครับผม ช่วงนี้เก็บตังค์ด้วย เลยหาอาชีพเสริม อย่างเช่น...งานนี้งานแรก" "พี่มี 200 บาท" "..." "อ่าๆๆ 350 บาท" "เทียนนะเทียน เกิดเป็นเทียนก็ลำบาก มีแต่คนใช้ น่าสงสารจริงๆ" "โธ่!!!! พี่ให้เต็มที่ 500 บาท!!" "ตกลงครับ" . . . "ค่านอนเป็นเพื่อน คืนละ 2000 บาท ถ้าไม่จ่ายก็บรั้ยยย" มาเเว้วววววววววววว! นิยายเรื่องนี้แต่งเพื่อความบันเทิงเทแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าทะลุผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาอย่างเงียบงัน แสงนั้นส่องลอดผ่านผ้าม่านที่ถูกเลื่อนเปิดไว้ เทียนหันหน้าหนีแสงอย่างงัวเงีย เปลือกตายังคงปิดแน่น เส้นผมยุ่งเล็กน้อยกระจายบนหมอนเขาพลิกตัวไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ เทียนขยับพลิกตัวหนีแสงไปอีกด้านหนึ่ง แต่ความร้อนเบาๆ และแสงที่ค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มปลุกให้เขาตื่น สุดท้าย ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ดวงตายังปิดอยู่ ใบหน้าง่วงงุน นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาอย่างไม่เต็มใจ เทียนเกาหัวตัวเองเบาๆ อย่างงุนงง เขานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหาวออกมาเบาๆ"ตื่นแล้วเหรอ?" เสียงของคนมาใหม่ดังขึ้นจากทางประตูน้ำเสียงนั้นไม่ดังมากนัก แต่ชัดเจนพอจะดึงสติของเทียนให้กลับมา เทียนชะงักมือที่กำลังเกาหัว หันไปมองช้าๆ ดวงตายังลืมได้ไม่สุดคนมาใหม่ยืนอยู่ตรงกรอบประตู บรรยากาศในห้องนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่ความเงียบจะถูกแทนที่ด้วยเสียงหาวของเทียนอีกครั้ง พร้อมกับคำตอบ "อืม" เสียงครางรับอย่างขี้เกียจ"มีเรียนกี่โมง?" เสียงของขุนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงยังคงเรียบนิ่ง เขายังพิงกรอบประตูอยู่ที่เดิม ยืนไขว้แขนไว้กับตัว เหมือนรู้ดีว่าเทียนยังไม่ได
"เxี้ย!! แม่งเอ๊ยย!!! ใครจะรู้วะ เกมจะพลิก...เล่นมาตั้ง 30 นาที แถมไม่ได้เชี้ยไรเลย!!!!!" ปอบ่นออกมาจากปลายสาย เสียงเต็มไปด้วยความหัวเสีย"กูว่าเราไหวว่ะ มาอีกสักตามา""เทียน กูว่าพอเหอะวันนี้""ทำไมวะ""มึงน่ะตัวดีเลย! ออกของเชี้ยไรเนี่ย?! มึงเล่นแครี่แต่เxือกออกของเมจ!""เอ้า!! มึงว่าแบบนี้ได้ไงวะ...กูไม่เล่นกับมึงแล้วแม่งเอ๊ย!!!!!" เทียนโวยวายเสียงดัง"เล่นมา 4 ตา แพ้ 4 ตารวด กูถามจริงเถอะ...มึงคิดไงมาเล่นเกมนี้""คิดผิดที่มาเล่นกับมึง! เล่นเกมยังไงให้เกมมันเล่นมึง xวย!!" เทียนสบถลั่นก่อนจะโยนโทรศัพท์บนโซฟาอย่างหัวเสีย"เทียน" เสียงเรียกดังขึ้นแผ่วเบา"ห๊ะ?!" เทียนนั่งนิ่งอยู่ตรงโซฟา สายตาจ้องมองไปยังต้นเสียง ขุนเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาอยู่ในเสื้อกล้ามโคร่งที่ปล่อยชายเสื้อหลวม เผยให้เห็นร่องรอยแผลและร่างกายที่เต็มไปด้วยผ้าก๊อซสีขาวพันรอบตัว บางส่วนแนบลู่ไปกับผิว บางจุดเริ่มซึมสีแดงจางๆ จากรอยแผลที่มองไม่ชัดท่อนล่างเป็นเพียงกางเกงนอนสีดำเรียบง่าย เขาค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาหาเทียนโดยไม่เอ่ยอะไรเพิ่มเติม มือข้างหนึ่งกำลังเช็ดผมเปียกชื้นอย่างใจเย็น แววตาเรียบเฉยจ้องมาทางเทียน "เลือด
ชายส่งอาหารในเสื้อแจ็กเก็ต ยื่นถุงพลาสติกที่มีคราบไอน้ำเกาะอยู่ให้เขา"ขอบคุณครับ" ขุนรับถุงอาหารมาด้วยสองมือ ชายคนนั้นยิ้มสุภาพ ก่อนหมุนตัวกลับ ขุนปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา..."มึงสั่งอะไรเยอะแยะวะ?! กินกันแค่สองคน" เทียนมองของกินตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ทั้งข้าวต้มกุ้ง ผัดผงกะหรี่ทะเล ปีกไก่ทอด หมูทอดกระเทียม และผัดผักบุ้ง วางเรียงกันบนโต๊ะอาหารขุนนั่งเงียบพลางกินข้าวต้มกุ้งอย่างไม่พูดไม่จา ส่วนเทียนเมื่อเห็นว่าขุนไม่ตอบอะไร ก็ไม่ได้เซ้าซี้ซักไซ้อีก แล้วหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าเวลาผ่านไปหลายนาที ขุนเงยหน้าขึ้น เหลือบมองเทียนที่ยังนั่งกินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย "ใส่กำไลด้วยเหรอ?" ขุนเอ่ยขึ้น ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังข้อมือซ้ายของเทียน เทียนเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว เหมือนลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ"เพิ่งใส่วันนี้...ช่วงนี้เจออะไรแปลกๆบ่อย เลยคิดว่าเผื่อช่วยได้""มีใครทำอะไร?!"หน้าขุนนิ่งกว่าเดิม สายตาไม่ไหวติง จ้องตรงมาที่เทียนอย่างจริงจังเทียนเงียบไปชั่วอึดใจ ช้อนในมือหยุดเคลื่อนไหว กลายเป็นคนที่ไม่กล้าสบตากลับ สายตาเขาหลุบลงมองจานข้าวที่กินไปได้ครึ่งเดียว"มันไม่มีใครกล้าทำอะไรกูหรอก" เ
เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "มึงตอบพี่แตงไทยหน่อย"อ่านแล้ว "ตอบยัง"Khun_2k"ไม่" เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "เพื่อ?""ทำไมมึงไม่ไปมอวันนี้"Khun_2k"ทำไมรู้?"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"กูเก่ง สรุปเป็นไร""แดกยายัง"Khun_2k"มีแผลนิดหน่อย""กินแล้ว เหลือแต่ทำแผล"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว "แล้วทำไมไม่ไปหาหมอล่ะ มึงรอไรอยู่"อ่านแล้ว "อ่านแล้วไม่ตอบ คือ..?""ทำไมไม่ทำแผลล่ะ"Khun_2k"เป็นห่วง?""อยู่หลัง แต่กินยาฆ่าเชื้อแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"มึงก็โทรเรียกแฟนมาทำให้ดิ"Khun_2k"ไม่มี อยู่คนเดียว""เหมือนมันเริ่มจะอักเสบ"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว"มึงไม่ไปให้หมอล้างให้"Khun_2k"เลือดออกอีกแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"ตายขึ้นมาก็ลำบากคนในคอนโดอีก""มึงต้องเป็นผีที่เฮี้ยนแน่นอน""บอกพิกัดมา เรื่องมากฉิบหาย"Khun_2k"คอนโดX ห้อง463"เทียนกดปิดหน้าจอ ก่อนเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง "พวกมึง คืนนี้เล่นเกมกันปะ?" ปอพูดขึ้น"กูไม่ว่างว่ะคืนนี้" "โธ่! อะไรวะต้นกล้า?! มึงล่ะไอ้เทียน?""ไม่ ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ววว แค่บอกเหงาเทียนก็พร้อมเสมอ""ให้มันได้อย่างงี้ดิวะ!!!!" ปอตะโกนลั่นพลางตบไหล่เทียนเบาๆ
"เมื่อคืนเรื่องมันเป็นงี้..."เกือบสิบคนภายในห้อง ต่างพากันเงียบลงโดยไม่ได้นัดหมาย สายตาทุกคู่ จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่บนเตียง เขานั่งนิ่ง สบตากับทุกคนทีละคน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแทรกกลางความเงียบทุกคนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันขวับไปตามต้นเสียง เป็นของใครคนหนึ่งในกลุ่มที่กำลังรีบล้วงกระเป๋ากางเกงรายชื่อที่ไม่รู้จักแสงหน้าจอสว่างวาบ เขากดปัดสายทิ้งทันที"โทษๆๆ เบอร์คอลเซ็นเตอร์โทรมา"สายตาหลายคู่ที่หันกลับไปจับจ้องที่คนอยู่บนเตียงอีกครั้ง"ระหว่างที่กูกำลั..."เสียงเคาะประตูดังขึ้นกะทันหันก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...ทุกคนสะดุ้งเฮือก เบนสายตาไปที่ประตูพร้อมกัน ก่อนจะเหลือบมองหน้ากันด้วยท่าทีลังเล แววตาหลายคู่ฉายแววระแวงเล็กน้อย"มึงไปเปิดดิ ไอ้ปอ""มึงเป็นใครมาสั่งกู ไอ้เบียร์""เป็นพี่มึง""Xวย"หลังจากสิ้นเสียง ปอตัดสินใจลุกขึ้น เดินช้าๆไปยังประตูโดยมีสายตาทุกคู่ติดตามเขาไปอย่างเงียบงัน เขาหยุดอยู่ตรงหน้า มือจับลูกบิดแล้วสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเปิดออกอย่างระมัดระวังสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือชายหนุ่มในชุดแจ็คเก็ตสีเขียว ถือถุงอาหารพลาสติกไว้ในมือพร้อมรอยยิ้มเก้อ
เทียนค่อยๆลืมตาขึ้นกลางดึก ความเงียบงันอบอวลทั่วห้อง เขาค่อยๆหันไปยังปลายเตียงภายในห้องนอน มุมกลางห้อง ปรากฏเด็กชายคนหนึ่งยืนอยู่เงียบๆ ไม่ไกลจากเตียงนอนมากนัก ร่างเล็กในเสื้อยืดสีดำ ยืนนิ่งจ้องมาทางเขา ด้วยแววตาว่างเปล่าแต่กลับทำให้รู้สึกสบายใจแปลกๆเทียนขยับตัวขึ้นเล็กน้อย เหมือนเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อนเทียนจ้องเด็กคนนั้นกลับโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกบางอย่างแล่นวาบผ่านหัวใจ 'ธร'ชื่อผุดขึ้นมาในหัวโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย เพื่อนสมัยเด็กของเขา คนที่เคยสัญญาจะมาส่งเขาในวันนั้น แต่ก็หายไปตลอดกาล แม้แต่ในงานศพตาของเทียนก็ไม่เห็นแม้เงาเด็กคนนั้นยังคงนิ่งเฉย ก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้น ชี้ไปยังลิ้นชักโต๊ะทำงาน โดยไม่เปล่งเสียงใดๆไม่พูดสักคำเขามองตามปลายนิ้วนั้นอย่างไม่เข้าใจ ก่อนภาพทั้งหมดจะค่อยๆเลือนหายไป"ฮึกก..กก..เทียน...เทียนอย่าตายเดะ...จุกสิอยู่นำไผ..ฮือออ..อออ" (ฮึกก..กก..เทียน...เทียนอย่าตายนะ..จุกจะอยู่กับใคร..ฮือออ..อออ) เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วทั้งห้องเทียนนอนนิ่งอยู่บนเตียง ข้างเตียงมีจุกนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่บนพื้น น้ำตาไหลอาบแก้มกลมๆอย่างไม่อาจกลั้น มือเล็กๆเอื้อมไปแตะปลายแขนของเทียนแ