Home / LGBTQ+ / อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน / บทที่4 ของจริงมันนับต่อจากนี้ต่างหาก (1/2)

Share

บทที่4 ของจริงมันนับต่อจากนี้ต่างหาก (1/2)

last update Last Updated: 2025-07-03 22:49:59

"แล้วหมอธรรมคืออะไรหรอจ๊ะตา"

"หมอธรรมกะคือ คนฮู้ล่ะกะคนเฮ็ดพิธีกรรมตามความเซือบ้านเฮา ที่เกี่ยวข่องการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ การปัดเป่าแนวบ่ดี แล้วกะดูแลจิตวิญญาณของคนในซุมซน" (หมอธรรมก็คือ ผู้รู้แล้วก็ผู้ประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อพื้นบ้าน ที่เกี่ยวข้องการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ การปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และดูแลด้านจิตวิญญาณของคนในชุมชน) ตาค่อยๆหันมาอย่างช้าๆก่อนจะอธิบายให้ผมฟัง

"แล้วถ้าเทียนไม่เป็นละจ๊ะตา"

"ตอนนี้หลานยังน้อย หลานยังบ่เข้าใจที่ตาเว้าดอก ถ้ามื้อได๋ที่หลานใหย่ขึ้นมา คนที่สิตัดสินใจได่ดีที่สุดกะคือโตหลานเอง จำคำเว้าของตาไว้"(ตอนนี้หลายยังเด็กมาก หลานยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ตาพูดหรอก ถ้าวันไหนที่หลานโตขึ้น คนที่ตัดสินใจได้ดีที่สุดก็คือตัวของหลานเอง)

"จ่ะตา ถ้างั้นเทียนขอไปนอนก่อนนะจ๊ะ" ตาพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปดังเช่นก่อนหน้านั้น

หลายสัปดาห์ต่อมา

ผมได้มาอยู่ที่นี่ได้หลายสัปดาห์แล้ว ยายของผมมักจะพาผมไปทำบุญที่วัดเป็นประจำทุกวัน ส่วนพ่อแม่ของผมก็ได้ออกเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดในภาคใต้ทันทีในช่วงเช้าตรูของอีกวันหลังจากที่ได้มาส่งผมอยู่กับตายาย

ในระหว่างที่ผมกับยายกำลังเดินทางกลับบ้านกันอยู่นั้น แสงแดดอุ่นยามสายเริ่มสาดผ่านยอดไม้ บ้านไม้เก่าๆ เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบริมถนนลูกรัง ฝุ่นเบาๆ เด็กน้อยกลุ่มหนึ่งวิ่งเล่นอยู่ข้างลานวัด เสียงหัวเราะของพวกเขาดังก้องไปทั่ว ซึ่งหน้าบ้านของใครบางคนมีผู้ใหญ่หลายคนยืนล้อมกันอยู่สามสี่คน มือบางคนถือหมาก บางคนก็ไขว้หลัง เสียงพึมพำเบาๆ สลับกับเสียงหัวเราะกลั้นๆที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่า เสียงซุบซิบคุยกันเป็นภาษาอีสาน แต่พอกำลังจะเดินผ่าน จู่ๆก็ได้มีเสียงเรียกของคนหนึ่งที่อยู่ในวงสนทนาเรียกชื่อใครบางคนอยู่อย่างเสียงดัง

"ยายจันทร์ มาพี่ๆยาย" (ยายจันทร์ มาตรงนี้ๆยาย) ยายผมเดินไปยังกลุ่มวงสนทนานี้

"ว่าจังได๋อิจ๋า" (ว่ายังไงอิจ๋า)

"ยาย เจ้าฮู้เรื่องบักหมอผีไพรบ่" (ยาย เจ้ารู้เรื่องไอ้หมอผีไพรไหม)

"เป็นหยังล่ะ" (เป็นยังไงบ้างล่ะ)

"ข่อยล่ะบ่อยากเว้าเลยเดะยาย ข่อยน่ะฮู้มาแด ข่อยได่ยินคนเขาซากันตั๋วว่าตอนนี้คึมันกำลังสิตายนิล่ะ" (ฉันล่ะไม่อยากจะพูดเลยนะยาย ฉันน่ะรู้มาบ้าง ฉันได้ยินคนเขาลือกันว่าตอนนี้เหมือนมันกำลังจะตาย) เธอพูดเสียงกระซิบกระซาบ ราวกับคำแต่ละคำเป็นความลับที่ไม่ควรหลุดออกมา

"มึงกะเว้าไปทั่วทีปทั่วแดน มันสิเป็นไปได่จังได๋มันกะคึยังเบิงดีๆยุ" (มึงก็พูดไปเรื่อย มันจะเป็นไปได้ยังไงมันก็ดูร่างกายแข็งแรงดี)

"เอ้อกูกะว่าจังซั่นล่ะ มันเก่งวะสั่นนิแต่ไคเดะมันบ่ยุ่งนำผุได๋ กูเคยไปหามันดนๆเทือกูกะเห็นแต่มันอยู่นำหลานน้อยสองคน กูแฮงย่านแต่ผีหลอกกูตั๋วยามไปแต่ละเทือ" (เอ้อกูก็ว่าอย่างงั้นแหละ มันเก่งจะตายแต่ดีนะที่มันไม่ยุ่งกับใคร กูเคยไปหามันนานๆครั้งกูเห็นแต่มันอยู่กับหลานเล็กกันสองคน กูรู้สึกกลัวว่าผีจะหลอกตอนไปหาเเต่ละครั้ง) เสียงยายแก่คนนึงที่กำลังเคี้ยวหมากพลูอยู่พูดแทรกขึ้นมา

ในขณะที่ผมยืนฟังอยู่นั้น สายตาของผมก็ไปสะดุดกับกลุ่มเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่ง มีเด็กผู้ชาย 3 คนยืนล้อมกันเป็นวงกลมกำลังรังแกเด็กผู้ชายที่ตัวเล็กกว่า เด็กผู้ชายตัวโตกำลังผลักเด็กที่ตัวเล็กกว่าจนล้ม ส่วนเพื่อนของเขา 2 คน ได้จับแขนเด็กที่ถูกผลักจนล้มให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ทันใดนั้นผมได้รีบวิ่งไปยังบริเวณนัันทันที ซึ่งอยู่ห่างจากผมไกลพอสมควร

พาร์ทของขุน

"บักธร กูเคยบอกมึงแล้วแมนบ่ ว่าให้เซายุ่งกับมะปราง" (ไอ้ธร กูเคยบอกมึงแล้วใช่มั้ย ว่าให้เลิกยุ่งกับมะปราง) ต้นตาลพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

"กูบ่ได้ยุ่ง มีแต่มะปรางเป็นคนมายุ่งกับกูเอง" (กูไม่ได้ยุ่ง มีแต่มะปรางเป็นคนมายุ่งกับกูเอง)

"บักตอแหล มึงคึดว่ามะปรางสิมักคนขี้ฮ้ายคึมึงติ" (ไอ้คนโกหก มึงคิดว่ามะปรางจะชอบคนหน้าตาน่าเกลียดแบบมึงเหรอ)

"กูบ่ได้ยุ่งนำมะปรางอิหลี" (กูไม่ได้ยุ่งกับมะปรางจริงๆ) ธรพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย

"มึงมันเด็กน้อยพ่อแม่บ่สั่งสอน มักแย่งแต่ของผุอื่น อ๋ออกูลืมไปเพราะมึงมันโตปัญหา ไผๆกะบ่ได้อยากเล่นนำมึง" (มึงมันเด็กน้อยพ่อแม่ไม่สั่งสอน ชอบแย่งแต่ของคนอื่น อ๋ออกูลืมไปเพราะมึงเป็นตัวปัญหา ใครๆก็ไม่ได้อยากเล่นด้วยกับมึง) ต้นตามพูดด้วยน้ำเสียงเสียดสีเน้นคำบางคำพลางผลักเด็กตัวเล็กให้ล้มลง

พลั่ก!!!!!!! ธรล้มกระแทกพื้นอย่างจัง ความเจ็บแปลบแล่นผ่านกลางหลังกับข้อศอกที่กระแทกพื้นเต็มๆ ใจเต้นโครมคราม ทั้งตกใจ ทั้งเจ็บ และทั้งโกรธ

"พวกมึงจับมันลุกขึ้นมา!!" (พวกมึงจับมันลุกขึ้นมา!!) เสียงตะโกนของต้นตาลสั่งให้เพื่อนทั้ง 2 คนจับให้ธรลุกขึ้นมาอีกครั้ง

ตุ้บบบ!!!!!!!

"เอ๊อะ!!!!!!!! ไผถีบกู!!!!!" ต้นตาลล้มลงไปนอนกองกับพื้นดินเสียงดังลั่น ฝุ่นปลิวกระจาย

สิ่งที่ปรากฏขึ้นคือเด็กชายตัวสูงผิวขาว ผมสีน้ำตาลกระโดดถีบเด็กตัวโตที่มีชื่อว่าต้นตาล จนล้มลงไปนอนกองที่พื้นดิน

"มึงเป็นไผ!!" (มึงเป็นใคร!!) ต้นตาลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นด้วยความโกรธ

"จะเป็นใครก็ช่าง ไม่ใช่พ่อใช่แม่ของนายก็แล้วกัน" คนที่มาใหม่ตอบด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความยียวนเหมือนตั้งใจยั่วให้คนฟังหงุดหงิด

พาร์ทของเทียน

เทียนเป็นฝ่ายพุ่งเข้าก่อน หมัดเล็กๆ ฟาดใส่ไหล่ของเพื่อนต้นตาลทั้งสองคน"ปั่ก!!" เสียงหมัดกระทบตัวดังขึ้น เพื่อนของต้นตาลเซล้มลงไปนอนกองบนพื้นทั้งคู่ "นี่หมัดสำหรับที่รังแกคนไม่มีทางสู้!!" เทียนตะโกนพร้อมฟาดหมัดกลับเข้าแก้มต้นตาลอย่างไม่ยั้ง

เสียง "อั่ก!" ดังขึ้นเบาๆ กัดฟันแน่น ความเจ็บซ่านขึ้นแก้ม แต่เขายังไม่ยอมแพ้ เด็กทั้งสองผลัดกันผลัก ดึง แขนขาพัลวันอย่างไม่มีใครยอมใคร ฝุ่นใต้เท้าฟุ้งกระจาย เสียงร้องตะโกนปะทะกันจนผู้ใหญ่ต้องรีบวิ่งเข้ามาห้าม

"เทียน!!!!เซา!!!!ยายบอกให้เซา!!!" (เทียน!!!!หยุด!!!!ยายบอกให้หยุด!!!) เสียงยายจันทร์ร้องตะโกนห้าม

ผมชะงักมือกำหมัดเล็กค้างอยู่กลางอากาศ ยายผมรีบเดินมาบิดหูผมให้กลับบ้านพลางบ่นผมตลอดทางจนถึงบ้าน ส่วนตาของผมตอนนี้กำลังนั่งฟังวิทยุเก่าๆอยู่บนแคร่หน้าบ้าน ผมรีบวิ่งไปหาตาทันที

"เทียน หน้าหลานไปถืกอิหยัง" (เทียน หน้าของหลานไปโดนอะไรมา)

"โอ้ยยย มันไปซกกับพวกบักต้นตาล ตีกันยุวะสั่นนิ ไคเดะข่อยไปห้ามไว้ทัน จังซั่นมันเละแล้ว"(โอ้ยยย มันไปชกกับกลุ่มต้นตาลมาตีกัน ดีนะฉันไปห้ามไว้ทัน ไม่อย่างงั้นมันเละแล้ว) ยายพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

"ไสเป็นหยังคึได้ตีกัน" (ทำไมถึงได้ตีกัน) ตาหันมามองด้วยสายตานิ่งๆ แต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเนิบช้า

"ก็กลุ่มนั้นรังแกคนอื่นก่อนไงจ๊ะตา เทียนเห็นเขาผลักเด็กผู้ชายคนนึงจนล้ม เทียนก็เลยวิ่งเข้าไปช่วยแค่นั้นเองงง" ผมพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพลางส่งสายตาปริบๆ มองขึ้นมาอย่างคนกำลังรู้สึกผิด

"ตาฮู้ว่าหลานฮู้สึกแนวได๋ แต่การที่ใซ่ความรุนแรงมันบ่แมนทางออกเสมอไป เข้าใจที่ตาเว้าบ่"(ตารู้ว่าหลายรู้สึกยังไง แต่การที่ใช้ความรุนแรงมันก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป เข้าใจที่ตาพูดไหม)

"เข้าใจแล้วจ่ะตา" ผมก้มหน้ารู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำไว้

"มาๆมากินข้าว" เสียงยายร้องเรียกให้ผมกับตาลุกขึ้นไปกินข้าว

บ้านไม้ยกใต้ถุนสูงตั้งอยู่เคียงข้างทุ่งนาเขียวขจีที่ทอดยาวไปสุดสายตา ลมอ่อนๆ พัดผ่านรวงข้าวที่เริ่มออกรวง ส่งเสียงเสียดสีเบาๆ คล้ายเสียงกระซิบของธรรมชาติตา ยาย กับหลานชายตัวน้อยนั่งล้อมวงกันอยู่กับสำรับอาหารง่ายๆที่วางอยู่บนเสื่อผืนน้อย ในขันโตกมีแกงหน่อไม้ใส่ใบย่านาง ต้มจืดมะระกับกระดูกหมู และปลาทูทอดวางอยู่คู่กับน้ำพริกปลาร้า ผักลวกพื้นบ้านอย่างบวบอ่อน และถั่วฝักยาว

เช้าของวันใหม่ผมกับยายได้ไปวัดด้วยกันอย่างเช่นเคย ในระหว่างทางกำลังจะกลับบ้าน มีเด็กผู้ชายยืนรออยู่ตรงมุมเดิมของถนนลูกรัง แววตานิ่งแต่เต็มไปด้วยความหวัง มือซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขาไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนอยู่เงียบๆ อย่างนั้น ราวกับกลัวว่าถ้าเผลอกระพริบตา จะพลาดการมาของใครบางคน เด็กคนนั้นวิ่งมาทางผมกับยาย

"สวัสดีครับ ยายจันทร์" เด็กเมื่อวานที่ผมได้ช่วยเหลือไว้กำลังยืนไหว้ยายของผม ผมมองไปที่เด็กคนนั้นด้วยความงุนงง

"อ้าวววธรบ่นิ แม่นหลานพ่อใหญ่ไพรบ่นิ"(อ้าวววธรใช่ไหม ใช่หลายของตาไพรไหมนิ)

"แมนครับ" (ใช่ครับ)

"พ่อใหญ่โตแนวได๋ล่ะช่วงนี้ ยายคึบ่ค่อยได่พ่อมันเลย" (ตาเป็นยังไงบ้างช่วงนี้ ยายไม่ค่อยได้เจอเลย)

"ตาสำบายดีครับ" (ตาสบายดีครับ)

"ไคยุถ้าเว้าแนวนี้ มาๆมาเฮือนยายก่อน เดี๋ยวยายสิเอาแนวกินให้เอาไปฝากพ่อใหญ่"(ดีอยู่ที่พูดแบบนี้ มาๆมาบ้านยายก่อน เดี๋ยวยายจะเอาของกินให้เอาไปฝากให้ตา)

หลังจากถึงบ้านเรียบร้อย ยายก็รีบเดินเข้าไปในกลัวเพื่อทำอาหารเช้า ตอนนี้เหลือเพียงผมกับเด็กคนเมื่อวาน พวกผมทั้งสองคนนั่งอยู่บนแคร่ไม้หน้าบ้าน

"นี่ นายชื่ออะไร" ผมเอ่ยถามเด็กผู้ชายที่นั่งข้างผม

"เอิ้นเฮาว่าธรกะได่" (เรียกเราว่าธรก็ได้)

"เราชื่อเทียนนะ มาจากต่างจังหวัด"

"อื้ม...ขอบคุณเทียนเด้อ..ที่ซอยเฮามื้อวานนี้"(อื้ม...ขอบคุณเทียนนะ..ที่ช่วยเราเมื่อวานนี้)

"บ่เป็นอะไรดอก" (ไม่เป็นอะไรหรอก) เทียนพูดภาษาอีสานปนภาษาไทย ทำให้คนฟังข้างๆหัวเราะจนน้ำตาไหล

"ฮ่าาาาาฮ่าาาาฮ่าาาาาฮ่าาาาาา" ธรกุมท้องหัวเราะไม่หยุด

"หัวเราะอะไร!!! เราไม่คุยด้วยแล้ว"เทียนเม้มปากแน่น หันหน้าหนีไปอีกทางอย่างประชด มือเล็กๆ กอดอกแน่น ไหล่สะบัดเบาๆแบบไม่แคร์ คิ้วขมวดหน่อยๆ ใบหน้าบึ้งแต่กลับดูน่าเอ็นดูมากกว่าโกรธจริงจัง

"โทษๆๆ ฮ่าฮ่าาาาาาาฮ่าาา" ธรพูดขอโทษทั้งที่มือยังกุมท้องหัวเราะเทียนไม่หยุด

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็สนิทกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน กลุ่มต้นตาลก็ไม่ได้มาหาเรื่องธรอีกเลย นับตั้งแต่ทะเลาะกัน จนในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เทียนได้บอกลาตากับยายก่อนที่จะกลับบ้าน ในขณะที่พ่อแม่เทียนกำลังคุยกับตายายอยู่นั้น เทียนก็ยืนรอใครบางคนที่หน้าบ้าน เทียนรอแล้วรออีกจนในที่สุดธรก็ยังไม่มา ดวงตาที่เคยสดใสกลับดูเศร้าหมอง เหมือนแสงในนั้นดับลงชั่วคราว แก้มยุ้ยๆหย่อนคล้อยนิดหน่อยเมื่อเขาเม้มปากแน่น สะกดกลั้นบางอย่างไว้ในใจ แม้จะยังเด็ก แต่ใบหน้าที่หม่นหมองนั้นเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ทั้งที่สัญญากันไว้แล้วว่าจะมาส่ง เทียนล้มเลิกความหวังแล้ววิ่งไปกอดตากับยายแล้วค่อยๆเดินขึ้นรถไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่35 ใจสั่นเพราะแก

    แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าทะลุผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาอย่างเงียบงัน แสงนั้นส่องลอดผ่านผ้าม่านที่ถูกเลื่อนเปิดไว้ เทียนหันหน้าหนีแสงอย่างงัวเงีย เปลือกตายังคงปิดแน่น เส้นผมยุ่งเล็กน้อยกระจายบนหมอนเขาพลิกตัวไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ เทียนขยับพลิกตัวหนีแสงไปอีกด้านหนึ่ง แต่ความร้อนเบาๆ และแสงที่ค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มปลุกให้เขาตื่น สุดท้าย ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ดวงตายังปิดอยู่ ใบหน้าง่วงงุน นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาอย่างไม่เต็มใจ เทียนเกาหัวตัวเองเบาๆ อย่างงุนงง เขานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหาวออกมาเบาๆ"ตื่นแล้วเหรอ?" เสียงของคนมาใหม่ดังขึ้นจากทางประตูน้ำเสียงนั้นไม่ดังมากนัก แต่ชัดเจนพอจะดึงสติของเทียนให้กลับมา เทียนชะงักมือที่กำลังเกาหัว หันไปมองช้าๆ ดวงตายังลืมได้ไม่สุดคนมาใหม่ยืนอยู่ตรงกรอบประตู บรรยากาศในห้องนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่ความเงียบจะถูกแทนที่ด้วยเสียงหาวของเทียนอีกครั้ง พร้อมกับคำตอบ "อืม" เสียงครางรับอย่างขี้เกียจ"มีเรียนกี่โมง?" เสียงของขุนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงยังคงเรียบนิ่ง เขายังพิงกรอบประตูอยู่ที่เดิม ยืนไขว้แขนไว้กับตัว เหมือนรู้ดีว่าเทียนยังไม่ได

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่34 วันพระใหญ่ ขึ้น 15 ค่ำ

    "เxี้ย!! แม่งเอ๊ยย!!! ใครจะรู้วะ เกมจะพลิก...เล่นมาตั้ง 30 นาที แถมไม่ได้เชี้ยไรเลย!!!!!" ปอบ่นออกมาจากปลายสาย เสียงเต็มไปด้วยความหัวเสีย"กูว่าเราไหวว่ะ มาอีกสักตามา""เทียน กูว่าพอเหอะวันนี้""ทำไมวะ""มึงน่ะตัวดีเลย! ออกของเชี้ยไรเนี่ย?! มึงเล่นแครี่แต่เxือกออกของเมจ!""เอ้า!! มึงว่าแบบนี้ได้ไงวะ...กูไม่เล่นกับมึงแล้วแม่งเอ๊ย!!!!!" เทียนโวยวายเสียงดัง"เล่นมา 4 ตา แพ้ 4 ตารวด กูถามจริงเถอะ...มึงคิดไงมาเล่นเกมนี้""คิดผิดที่มาเล่นกับมึง! เล่นเกมยังไงให้เกมมันเล่นมึง xวย!!" เทียนสบถลั่นก่อนจะโยนโทรศัพท์บนโซฟาอย่างหัวเสีย"เทียน" เสียงเรียกดังขึ้นแผ่วเบา"ห๊ะ?!" เทียนนั่งนิ่งอยู่ตรงโซฟา สายตาจ้องมองไปยังต้นเสียง ขุนเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาอยู่ในเสื้อกล้ามโคร่งที่ปล่อยชายเสื้อหลวม เผยให้เห็นร่องรอยแผลและร่างกายที่เต็มไปด้วยผ้าก๊อซสีขาวพันรอบตัว บางส่วนแนบลู่ไปกับผิว บางจุดเริ่มซึมสีแดงจางๆ จากรอยแผลที่มองไม่ชัดท่อนล่างเป็นเพียงกางเกงนอนสีดำเรียบง่าย เขาค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาหาเทียนโดยไม่เอ่ยอะไรเพิ่มเติม มือข้างหนึ่งกำลังเช็ดผมเปียกชื้นอย่างใจเย็น แววตาเรียบเฉยจ้องมาทางเทียน "เลือด

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่33 เฝ้าไข้ 1 คืน 2000 บาท

    ชายส่งอาหารในเสื้อแจ็กเก็ต ยื่นถุงพลาสติกที่มีคราบไอน้ำเกาะอยู่ให้เขา"ขอบคุณครับ" ขุนรับถุงอาหารมาด้วยสองมือ ชายคนนั้นยิ้มสุภาพ ก่อนหมุนตัวกลับ ขุนปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา..."มึงสั่งอะไรเยอะแยะวะ?! กินกันแค่สองคน" เทียนมองของกินตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ทั้งข้าวต้มกุ้ง ผัดผงกะหรี่ทะเล ปีกไก่ทอด หมูทอดกระเทียม และผัดผักบุ้ง วางเรียงกันบนโต๊ะอาหารขุนนั่งเงียบพลางกินข้าวต้มกุ้งอย่างไม่พูดไม่จา ส่วนเทียนเมื่อเห็นว่าขุนไม่ตอบอะไร ก็ไม่ได้เซ้าซี้ซักไซ้อีก แล้วหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าเวลาผ่านไปหลายนาที ขุนเงยหน้าขึ้น เหลือบมองเทียนที่ยังนั่งกินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย "ใส่กำไลด้วยเหรอ?" ขุนเอ่ยขึ้น ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังข้อมือซ้ายของเทียน เทียนเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว เหมือนลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ"เพิ่งใส่วันนี้...ช่วงนี้เจออะไรแปลกๆบ่อย เลยคิดว่าเผื่อช่วยได้""มีใครทำอะไร?!"หน้าขุนนิ่งกว่าเดิม สายตาไม่ไหวติง จ้องตรงมาที่เทียนอย่างจริงจังเทียนเงียบไปชั่วอึดใจ ช้อนในมือหยุดเคลื่อนไหว กลายเป็นคนที่ไม่กล้าสบตากลับ สายตาเขาหลุบลงมองจานข้าวที่กินไปได้ครึ่งเดียว"มันไม่มีใครกล้าทำอะไรกูหรอก" เ

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่32 แสร้ง

    เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "มึงตอบพี่แตงไทยหน่อย"อ่านแล้ว "ตอบยัง"Khun_2k"ไม่" เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "เพื่อ?""ทำไมมึงไม่ไปมอวันนี้"Khun_2k"ทำไมรู้?"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"กูเก่ง สรุปเป็นไร""แดกยายัง"Khun_2k"มีแผลนิดหน่อย""กินแล้ว เหลือแต่ทำแผล"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว "แล้วทำไมไม่ไปหาหมอล่ะ มึงรอไรอยู่"อ่านแล้ว "อ่านแล้วไม่ตอบ คือ..?""ทำไมไม่ทำแผลล่ะ"Khun_2k"เป็นห่วง?""อยู่หลัง แต่กินยาฆ่าเชื้อแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"มึงก็โทรเรียกแฟนมาทำให้ดิ"Khun_2k"ไม่มี อยู่คนเดียว""เหมือนมันเริ่มจะอักเสบ"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว"มึงไม่ไปให้หมอล้างให้"Khun_2k"เลือดออกอีกแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"ตายขึ้นมาก็ลำบากคนในคอนโดอีก""มึงต้องเป็นผีที่เฮี้ยนแน่นอน""บอกพิกัดมา เรื่องมากฉิบหาย"Khun_2k"คอนโดX ห้อง463"เทียนกดปิดหน้าจอ ก่อนเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง "พวกมึง คืนนี้เล่นเกมกันปะ?" ปอพูดขึ้น"กูไม่ว่างว่ะคืนนี้" "โธ่! อะไรวะต้นกล้า?! มึงล่ะไอ้เทียน?""ไม่ ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ววว แค่บอกเหงาเทียนก็พร้อมเสมอ""ให้มันได้อย่างงี้ดิวะ!!!!" ปอตะโกนลั่นพลางตบไหล่เทียนเบาๆ

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่31 ตัวข้านั้นมีชื่อว่า "โก้"

    "เมื่อคืนเรื่องมันเป็นงี้..."เกือบสิบคนภายในห้อง ต่างพากันเงียบลงโดยไม่ได้นัดหมาย สายตาทุกคู่ จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่บนเตียง เขานั่งนิ่ง สบตากับทุกคนทีละคน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแทรกกลางความเงียบทุกคนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันขวับไปตามต้นเสียง เป็นของใครคนหนึ่งในกลุ่มที่กำลังรีบล้วงกระเป๋ากางเกงรายชื่อที่ไม่รู้จักแสงหน้าจอสว่างวาบ เขากดปัดสายทิ้งทันที"โทษๆๆ เบอร์คอลเซ็นเตอร์โทรมา"สายตาหลายคู่ที่หันกลับไปจับจ้องที่คนอยู่บนเตียงอีกครั้ง"ระหว่างที่กูกำลั..."เสียงเคาะประตูดังขึ้นกะทันหันก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...ทุกคนสะดุ้งเฮือก เบนสายตาไปที่ประตูพร้อมกัน ก่อนจะเหลือบมองหน้ากันด้วยท่าทีลังเล แววตาหลายคู่ฉายแววระแวงเล็กน้อย"มึงไปเปิดดิ ไอ้ปอ""มึงเป็นใครมาสั่งกู ไอ้เบียร์""เป็นพี่มึง""Xวย"หลังจากสิ้นเสียง ปอตัดสินใจลุกขึ้น เดินช้าๆไปยังประตูโดยมีสายตาทุกคู่ติดตามเขาไปอย่างเงียบงัน เขาหยุดอยู่ตรงหน้า มือจับลูกบิดแล้วสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเปิดออกอย่างระมัดระวังสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือชายหนุ่มในชุดแจ็คเก็ตสีเขียว ถือถุงอาหารพลาสติกไว้ในมือพร้อมรอยยิ้มเก้อ

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่30 เพื่อนรักสมัยเด็ก...?

    เทียนค่อยๆลืมตาขึ้นกลางดึก ความเงียบงันอบอวลทั่วห้อง เขาค่อยๆหันไปยังปลายเตียงภายในห้องนอน มุมกลางห้อง ปรากฏเด็กชายคนหนึ่งยืนอยู่เงียบๆ ไม่ไกลจากเตียงนอนมากนัก ร่างเล็กในเสื้อยืดสีดำ ยืนนิ่งจ้องมาทางเขา ด้วยแววตาว่างเปล่าแต่กลับทำให้รู้สึกสบายใจแปลกๆเทียนขยับตัวขึ้นเล็กน้อย เหมือนเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อนเทียนจ้องเด็กคนนั้นกลับโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกบางอย่างแล่นวาบผ่านหัวใจ 'ธร'ชื่อผุดขึ้นมาในหัวโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย เพื่อนสมัยเด็กของเขา คนที่เคยสัญญาจะมาส่งเขาในวันนั้น แต่ก็หายไปตลอดกาล แม้แต่ในงานศพตาของเทียนก็ไม่เห็นแม้เงาเด็กคนนั้นยังคงนิ่งเฉย ก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้น ชี้ไปยังลิ้นชักโต๊ะทำงาน โดยไม่เปล่งเสียงใดๆไม่พูดสักคำเขามองตามปลายนิ้วนั้นอย่างไม่เข้าใจ ก่อนภาพทั้งหมดจะค่อยๆเลือนหายไป"ฮึกก..กก..เทียน...เทียนอย่าตายเดะ...จุกสิอยู่นำไผ..ฮือออ..อออ" (ฮึกก..กก..เทียน...เทียนอย่าตายนะ..จุกจะอยู่กับใคร..ฮือออ..อออ) เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วทั้งห้องเทียนนอนนิ่งอยู่บนเตียง ข้างเตียงมีจุกนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่บนพื้น น้ำตาไหลอาบแก้มกลมๆอย่างไม่อาจกลั้น มือเล็กๆเอื้อมไปแตะปลายแขนของเทียนแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status