Share

อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 4

Author: Priyada
last update Huling Na-update: 2024-10-30 16:35:10

รองแม่ทัพจางซื่อหมิงด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงประตูหลังค่ายด้วยความกลัดกลุ้ม เขาได้รับจดหมายจากหลี่อวี้อ๋องเรียบร้อยแล้วและรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง แม้โดยเนื้อแท้เขาจะเป็นบุรุษที่ใจเย็น สุขุมรอบคอบ แต่เมื่อได้อ่านเนื้อความในจดหมายถึงสิ่งที่องค์หญิงหยางจูต้องการจะทำ ความสงบสุขุมของเขาก็ปลาสนาการไปสิ้น

มีอย่างที่ไหน ใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในวังอันหรูหราไม่ชอบ แต่อยากจะมานอนกลางดินกินกลางทรายที่ค่ายทหารเยี่ยงนี้ อานุภาพของความรักมันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเชียวหรือ เขาได้แต่สงสัยในใจ

แต่ในเมื่อได้รับมอบหมายมาแล้ว เขาก็ต้องรับใช้เชื้อพระวงศ์อย่างสุดความสามารถ อย่างน้อยก็ช่วยองค์หญิงปกปิดความลับให้ได้นานที่สุด ประการต่อมาคือหาโอกาสให้นางได้โปรยเสน่ห์มัดใจท่านแม่ทัพหน้านิ่ง ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าแม่ทัพมู่หรงเซียวหนานมีหัวจิตหัวใจอย่างใครเขาหรือไม่

เสียงรถม้าควบกุบกับมาตามถนน ก่อนจะจอดห่างออกไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตเห็น จางซื่อหมิงจึงรีบเดินออกไป เห็นบุรุษสองคนยืนเคียงข้างกัน คนหนึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ตามแบบฉบับคนใช้ตามแบบฉบับคนที่ใช้กำลัง ส่วนอีกคน แม้จะอยู่ในชุดแบบผู้ชายทั่วไป แต่สรีระกลับดู

บอบบางผิดกับเพศสภาพที่แสดงออก

นั่นต้องเป็นองค์หญิงหยางจูเป็นแน่!

“ท่านรองแม่ทัพ” หยางจูสังเกตเห็นเลยเรียกแล้วเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา เนื่องจากนางเคยเห็นจางซื่อหมิงอยู่กับมู่หรงเซียวหนานหลายครั้ง ก่อนจะมาประจำที่ชายแดน นางจึงจำเขาได้แม่น

จางซื่อหมิงจวนเจียนจะเรียกนางว่าองค์หญิง แต่ก็ต้องกลืนถ้อยคำลงคอไปเมื่อนางเอานิ้วชี้แตะที่ปากเป็นเชิงห้าม

จะว่าไปแล้ว นางเตรียมตัวดีกว่าเขาเสียอีก ผิดกับที่เขาคาดเอาไว้มาก ของก็เอามาเพียงไม่กี่อย่าง มองเผิน ๆ ก็เหมือนชายหนุ่มตัวเล็ก ท่าทางอ้อนแอ้น ทำงานทำการไม่เก่งทั่วไป หากไม่ได้จับจ้องมองทุกฝีก้าว ก็คงจะไม่มีใครจับได้..หรอกกระมัง…

“ท่านรองแม่ทัพ หาที่หลับที่นอนให้คุณชายไว้แล้วหรือยังเจ้าคะ” ลู่อิงเอ่ยถามด้วยความกระวนกระวาย แม้จะอยู่กันเพียงไม่กี่คน แต่ก็ระวังการพูดจามาก เพราะกลัวใครจะมาได้ยินเข้า เพราะนี่อยู่ในอาณาบริเวณค่ายทหารแล้ว

“หาไว้แล้ว เป็นกระโจมของทหารรับใช้ ถึงแม้จะเล็กและคับแคบไปหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นกระโจมเดี่ยว ไม่ต้องนอนรวมกับใคร มิดชิดและสะดวกต่อการปลอมตัว” จางซื่อหมิงตอบ เพราะหลังจากที่ได้รับจดหมายจากหลี่อวี้อ๋อง เขาก็รีบจัดการเรื่องที่พักเป็นการด่วน ขืนให้ผู้มีศักดิ์เป็นองค์หญิง พ่วงด้วยสถานะพระราชธิดาองค์โปรดของฮ่องเต้ ต้องนอนร่วมกับบุรุษอื่น ศีรษะเขาคงมิอาจตั้งอยู่บนบ่าได้

“แล้วความปลอดภัยของคุณชายล่ะเจ้าคะ” ลู่อิงยังไม่วายอดเป็นห่วงไม่ได้

“ข้าจะดูแลให้” รองแม่ทัพรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ เพราะเรื่องความปลอดภัยขององค์หญิงต้องมาเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว

“พี่ลู่อิง เจ้าอย่าเป็นกังวลไปนักเลย เจ้าก็อยู่ห่างข้าแค่กำแพงกั้น วันไหนได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอก ข้าก็จะไปเยี่ยมเจ้าเองนั่นแหละ” หยางจูปลอบ

“โธ่ จะไม่ให้ห่วงได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ องค์หญิง...เอ๊ย คุณชายเคยอยู่อย่างสุขสบายมาก่อน ต้องไปอยู่ในที่คับแคบ ใช้แรงงานหนัก แล้วยังไม่ได้กินของอร่อยอีก” ลู่อิงคร่ำครวญ

“ข้าเป็นคนต้องไปเผชิญความลำบากแท้ ๆ ยังไม่กลัวสิ่งใดเลย แล้วเจ้าจะกังวลไปไย”

นางหันไปยกหีบใส่ของมาถือไว้ด้วยตัวเอง รองแม่ทัพจึงรีบเข้าไปช่วย

“ข้ายกไปเองได้ ท่านเอาหีบอีกใบไปก็แล้วกัน”

จางซื่อหมิงรู้สึกไม่สบายใจที่จะต้องเห็นร่างเล็กที่มีลำแขนเรียวยาวยกของหนัก แต่องค์หญิงหยางจูมีสิ่งหนึ่งมาแต่กำเนิด นั่นคือท่าทางมีอำนาจและการชอบสั่งการ เขาจึงต้องยอมทำตามอย่างเสียมิได้

“ข้าต้องไปแล้ว พวกเจ้าดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะ ฝากบอกพี่ข้าด้วยว่าข้าอยู่ได้ สบายมาก”

“รักษาตัวนะขอรับคุณหนู” เซี่ยหานปิงกำชับแล้วมองดูนายของตนเดินออกไปด้วยความสงบนิ่งผิดกับอีกคนที่มาด้วยกัน

ลู่อิงยกมือขึ้นซับน้ำตา ขณะมองแผ่นหลังของนายหญิงหายลับเข้าไปในค่ายใหญ่โต กำแพงสูงที่ล้อมทุกคนเอาไว้ตระหง่านอยู่ตรงหน้าทำให้นางคิดว่าองค์หญิงหยางจูผู้แสนบอบบาง ช่างเล็กกระจ้อยเพียงใดเมื่ออยู่หลังกำแพงนั่น

เซี่ยหานปิงยืนดูคนที่กำลังอาลัยเจ้านาย แล้วเดินกลับไปที่รถม้าโดยไม่เอ่ยสิ่งใด

“ท่านรอข้าด้วยสิ” ลู่อิงรีบปาดน้ำตาแล้วร้องเรียกองค์รักหนุ่ม นางหันไปมองกำแพงค่ายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะรีบเดินกลับไปที่รถม้า นางค้อนคนที่นั่งประจำที่คนขับทีหนึ่งแล้วจึงขึ้นรถ

“ทีนี้ท่านก็พาไปยังที่พักของเราได้แล้ว” นางร้องบอก แล้วรู้สึกว่ารถมาเริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้งโดยที่ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา

รองแม่ทัพจางซื่อหมิงพาองค์หญิงหยางจูเดินลัดเลาะมาตามทางมืด ๆ มองเห็นเพียงแต่แสงสลัวเลือนราง ภายในค่ายทหารแห่งนี้มีทั้งสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวซึ่งเป็นกระโจมของเหล่าทหารและสิ่งปลูกสร้างถาวรที่นางกำลังเดินผ่าน มีโรงครัว คอกม้า โรงตีเหล็กซึ่งไร้ผู้คน และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ อีกที่นางไม่สามารถบอกได้แน่ชัด เพราะมองแทบไม่เห็น เพียงแต่ก้าวเท้าตามรองแม่ทัพจางที่เดินนำอยู่ข้างหน้าไปเรื่อย ๆ โดยไม่ปริปากพูดอะไรเลย

จางซื่อหมิงพานางเลี้ยวไปมาหลายครั้ง เขามักจะหันกลับมาดูว่านางเดินตามทันหรือไม่ แต่ด้วยความที่ยังอ่อนเยาว์และสุขภาพดี หยางจูจึงไม่ได้รู้สึกเหนื่อยกับการต้องเดินโดยไม่รู้จุดหมาย เมื่อเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง นางก็มาหยุดอยู่หน้ากระโจมเล็ก ๆ ที่จุดตะเกียงเอาไว้ข้างใน เผยให้เห็นความเก่าโทรมของมัน

เอาเถอะ นางเตรียมใจสำหรับเรื่องนี้มาแล้ว จึงไม่ได้ตกใจมากนัก

“เข้ามาเถอะ” จางซื่อหมิงเร่ง ไม่อยากให้ใครเห็นว่าเขาพาคนแปลกหน้าเข้ามาในค่าย

หยางจูรีบมุดประตูเข้าไปด้านใน นอกจากเตียงแข็ง ๆ และโต๊ะไม้เนื้อหยาบหนึ่งตัวซึ่งใช้เป็นที่วางตะเกียง กับเก้าอี้ไม้ที่นางไม่แน่ใจว่าพอนั่งไปแล้ว จะพังครืนลงมาหรือไม่ กระโจมนี้ก็ไม่มีสิ่งอื่นใดอีก แต่เท่านี้นับว่าดีกว่าพลทหารทั่วไปแล้วที่ต้องนอนกระโจมรวมโดยไม่มีเครื่องใช้ใด ๆ เลย

นางจัดการวางหีบไว้ตรงมุมหนึ่ง ซึ่งก็แทบจะชนกับเตียง แล้วทำท่าจะนั่งลงกับพื้น รองแม่ทัพจึงรีบเลื่อนเก้าอี้ให้

“ท่านนั่งเก้าอี้เถอะ ข้าจะนั่งบนเตียงเอง”

“ขอรับ”

“ตอนนี้ฐานะของท่านสูงกว่าข้าแล้ว ขืนไปขอรับ ๆ ข้างนอก มีหวังได้ความแตกแน่”

เขาเกาหัวแล้วยิ้มแหย “ข้าอยากจะเชิญท่านไปปรึกษาหารือในห้องของตัวเอง ซึ่งสะดวกสบายกว่านี้มาก แต่ข้ามักจะอยู่ในสายตาของทหารยามตลอด จึงคิดว่าที่นี่ปลอดภัยกว่า”

“ข้าเห็นด้วย”

“ท่านมีแผนอย่างไรหรือ”

“ข้าคิดไว้คร่าว ๆ แต่ข้าไม่เคยอยู่ในสถานที่เช่นนี้มาก่อน จึงอยากจะขอคำปรึกษาและขอความเห็นชอบจากท่านเสียก่อน” หยางจูใช้นิ้วเคาะปลายคาง ท่าทางครุ่นคิด

“ท่านแม่ทัพเป็นคนมีระเบียบ เงียบขรึม เก็บเนื้อเก็บตัวและยุ่งตลอดทั้งวัน การที่จะได้อยู่ใกล้ชิดเขา ถ้าไม่อยู่ในตำแหน่งสำคัญมาก ก็ต้องเป็นตำแหน่งที่ขาดไม่ได้”

“ข้าเป็นรองแม่ทัพและทหารระดับสูงไม่ได้ เพราะฉะนั้นตัดออกไปได้เลย แม้แต่ทหารยามที่ต้องเฝ้าหน้ากระโจมของเขาก็ยังไม่มีหวัง” นางขมวดคิ้ว ท่าทางยุ่งยากใจ แม้จะเข้ามาในนี้ได้แล้ว แต่หากอยู่ไม่ถูกที่ถูกทาง มู่หรงเซียวหนานก็ไม่มีทางที่จะได้พบเจอนางท่ามกลางคนนับร้อยนับพัน

“ขออภัยที่ต้องถามเช่นนี้ แต่ท่านทำสิ่งใดเป็นบ้าง ข้าจะได้ฝากฝังตำแหน่งนั้นให้ท่านได้”

“ข้าขี่ม้าเป็น”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ บทส่งท้าย 2

    ลู่อิงหน้าแดงเรื่อเมื่อถูกถามอย่างตรงไปตรงมา เซี่ยหานปิงไม่เพียงอนุญาตแต่ยังค่อย ๆ ดึงลู่อิงให้เอนตัวขึ้นมา ก่อนจะลูบผมสลวยเพื่อให้คลายกังวล ไม่อยากให้คิดว่าเป็นการกระทำที่ยากหรือน่ากลัว“ข้า...ข้ามิเคยทำมาก่อน”“ข้ารู้ เจ้าแค่อ้าปากแล้วกินมันเข้าไปเท่านั้น” เขาส่งยิ้มบางเบาแล้วค่อย ๆ ประคองใบหน้างดงามให้เคลื่อนเข้ามาใกล้ ๆพอริมฝีปากแทบจะจ่ออยู่ปลายหัวของแก่นกายลู่อิงจึงค่อยยื่นลิ้นออกมา นางใช้ปลายลิ้นแตะลงบนปลายหัวสีแดงระเรื่อ แต่พอสัมผัสก็ได้ยินเสียงเซี่ยหานปิงครางต่ำออกมา นางจึงช้อนสายตาขึ้นไปมองก็“อืม...ดี ดียิ่งนัก” เซี่ยหานปิงก้มมองคนเบื้องล่างที่เรียนรู้ว่องไว เขารู้อยู่แล้วนางจะทำได้เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ในสัญชาตญาณ แม้ว่าแรก ๆ ลู่อิงจะเคลื่อนไหวติด ๆ ขัด ๆ ไปบ้าง แต่ไม่ได้ทำให้อารมณ์หยุดชะงักลู่อิงตาลอยเล็กน้อย รู้สึกถึงความยาวดุนดันอยู่ในลำคอของนาง น้ำตาหยดเล็ก ๆ เปียกชื้น ทว่านางก็กลืนกินมันจนเกิดเสียงหยาบโลน เซี่ยหานปิงลูบผมนาง ก่อนจะสาวเอวสอบเข้าออกช้า ๆ และจากจังหวะเนิบช้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเร็ว

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ บทส่งท้าย 1

    ลู่อิงนั่งอยู่ในเกี้ยวหามที่โคลงเคลงไปมาตลอดทาง นางพยายามสงบจิตใจของตัวเอง แต่ก็ไม่อาจห้ามหัวใจที่เต้นแรงด้วยความตื่นเต้นได้ เสียงตีฆ้องร้องป่าวจากด้านนอกบ่งบอกว่าขบวนแห่นำเจ้าสาวกำลังเดินทางมาถึงจวนของเซี่ยหานปิง ผู้ที่วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่ราชองครักษ์ แต่เป็นเจ้าบ่าวของนางจวนหลังนี้ไม่ใช่จวนธรรมดา เพราะเป็นจวนที่ได้รับพระราชทานจากองค์หญิงหยางจู และองค์ชายชาง ว่าที่องค์รัชทายาท ผู้เป็นพระเชษฐาขององค์หญิงหยางจู และเป็นผู้ให้การช่วยเหลืออย่างลับ ๆ ตอนที่องค์หญิงหยางจูปลอมตัวไปอยู่ในค่ายทหาร เพื่อเป็นของขวัญสำหรับการที่เซี่ยหานปิงรับใช้และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์มาโดยตลอด จวนนี้แม้อยู่ในเมืองหลวง แต่ค่อนไปทางชานเมือง เนื่องจากเซี่ยหานปิงและลู่อิงชอบความเรียบง่าย มิอยากเผชิญความวุ่นวายในตัวเมือง แต่แม้จะห่างไกลออกมา จวนแห่งนี้ก็ยังโดดเด่น สง่างาม สมกับตำแหน่งขุนนางขั้นสี่ของเขาเมื่อขบวนเจ้าสาวไปถึงหน้าจวน เกี้ยวได้ถูกวางลงบนพื้นช้า ๆ ลู่อิงไม่คุ้นเคยกับพิธีการเหล่านี้มากนัก เพราะเป็นเพียงนางกำนัลที่เติบโตอยู่ในวังหลวงมาตลอด ไม่มีครอบครัวที่ไหนจะส่งตัวนางออกมาเช่นนี

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 36

    เมื่อเซี่ยหานปิงกลับถึงเมืองหลวง เขาถูกภารกิจมากมายถาโถมเข้ามาจนแทบไม่มีเวลาหยุดพัก แต่ละวันเต็มไปด้วยเรื่องที่ต้องจัดการอย่างไม่หยุดยั้ง จนเวลาผ่านไปหลายวันโดยที่เขาไม่ได้พบกับลู่อิงเลยสักครั้งแม้ตนจะเป็นองครักษ์ประจำตัวขององค์หญิงหยางจูก็ตามในหัวใจเขานั้นเต็มไปด้วยความคิดถึง ไม่เพียงแต่งานที่ทำให้เหนื่อยล้า แต่ความรู้สึกโหยหาสตรีนางหนึ่งที่เขาใส่ใจมากขึ้นทุกวันก็ทำให้จิตใจของเขายิ่งเหน็ดเหนื่อยยิ่งขึ้นไปอีก แต่ก็พยายามข่มใจ ไม่อยากเร่งรีบอะไรจนเกินไป เพราะเขาต้องการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนจะไปหานางฝ่ายลู่อิงเองก็เฝ้ารอคอยการกลับมาของเซี่ยหานปิงด้วยใจจดจ่อ แต่หลายวันผ่านไปแล้วนางก็ยังไม่เห็นหน้าเขา จิตใจที่เคยสงบสุขจึงเริ่มร้อนรุ่มขึ้นมา นางไม่อาจห้ามความคิดถึงเขาได้ ทุกคืนที่หลับตานอน ก็ได้แต่ครุ่นคิดถึงว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ จนหัวใจเต็มไปด้วยความกังวลและโหยหาสุดท้าย ความคิดถึงของทั้งสองก็ถึงจุดที่ไม่อาจต้านทานได้ เซี่ยหานปิงอดทนไม่ไหวอีกต่อไป จนในคืนนั้นเขาตัดสินใจว่าอย่างไรจะต้องเจอหน้านางให้จงได้ลู่อิงที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงกลับสะดุ้งตื่นขึ้

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 35

    เมื่อเซี่ยหานปิงกลับถึงบ้าน พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นลู่อิงนั่งกระวนกระวายใจอยู่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกังวล“ท่านหายไปไหนมาเสียตั้งนาน” ลู่อิงรีบถลาเข้ามาหาเขา ดึงตัวเขาเข้าไปในบ้านพร้อมกับปิดประตูแน่นหนา นางดูร้อนรนเกินปกติ หัวใจของนางเต้นระส่ำ ไม่คิดว่าเขาจะหายไปโดยไม่บอกกล่าวเช่นนี้“เกิดอะไรขึ้นหรือ” เซี่ยหานปิงถามด้วยเสียงนุ่ม พยายามไม่ให้ดูผิดปกติเกินไป แต่ก็เห็นชัดว่าลู่อิงไม่ได้สงบอย่างที่ควรจะเป็น“องค์หญิงทรงเป็นอย่างไรบ้าง ท่านเห็นนางกับตาหรือไม่ หรือเพียงไต่ถามสายข่าวของท่านเท่านั้น” ลู่อิงถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นางไม่อาจปิดบังความวิตกกังวลในใจได้ การที่เขาหายตัวไปเช่นนี้ทำให้นางคิดว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับองค์หญิงหยางจูโดยตรง“องค์หญิงถูกจับไป”เซี่ยหานปิงตอบด้วยเสียงสงบนิ่ง ใบหน้าไร้ความตระหนก และเตรียมพร้อมยอมรับปฏิกิริยาตอบสนองทุกรูปแบบของลู่อิงสิ้นคำพูดนั้น ลู่อิงราวกับถูกทุบเข้าที่ศีรษะ นางนิ่งไปชั่วขณะ พยายามเรียบเรียงคำพูด แต่สิ่งที่ได้มีเพียงความหวาดกลัวจับใจเสียจนพูดไม่ออก เซี่ยหานปิงจึงพูดต่อ“พวกกบฏกับห

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 34

    เซี่ยหานปิงนอนกอดลู่อิงไว้ภายใต้แสงจันทร์ ทว่าเขากลับต้องตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ แม้ผู้มาเยือนจะระมัดระวังเพียงใด แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสัญชาตญาณฉับไวขององครักษ์ผู้ชำนาญได้ เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบที่สุดเพราะเกรงว่าคนข้างกายจะรู้สึกตัวตื่น หยิบดาบของตนติดมือไปด้วย แล้วเปิดประตูออกไปเผชิญหน้ากับผู้มาเยือนชายในชุดดำคลุมหน้าปรากฏตัวอยู่ในลานบ้าน พอเห็นเซี่ยหานปิงเดินออกมาพร้อมดาบ ชายผู้นั้นรีบคุกเข่าลงในทันทีเพื่อแสดงความเคารพ“หัวหน้าเซี่ย!” ชายคนนั้นเอ่ยด้วยเสียงเบาแต่ชัดเจนเซี่ยหานปิงจำเสียงนี้ได้ทันทีว่าเป็นไป๋ซื่อเซิง ลูกน้องคนสนิทที่เขาส่งไปสังเกตการณ์ใกล้ค่ายทหาร“ไป๋ซื่อเซิง...เจ้าทำอะไรดึกดื่นเช่นนี้”“ขออภัยขอรับ ข้ามีองค์หญิงหยางจูมารายงาน พระองค์ถูกกบฏจับตัวไปขอรับ!”เซี่ยหานปิงนิ่งเงียบครู่หนึ่ง ใบหน้าของเขาตึงเครียดขึ้นในทันที เขาพยักหน้าให้ไป๋ซื่อเซิงลุกขึ้น ก่อนจะผายมือเชิญให้อีกฝ่ายเข้าไปด้านใน “ไปคุยกันข้างในเถอะ” เมื่อทั้งสองนั่งที่โต๊ะน้ำชาภา

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 33

    ยามเช้า พิษในตัวนางถูกถอนออกไปหมดดังคาด หมอจางเข้ามาดูอาการ เขียนเทียบยาบำรุงร่างกายอีกเล็กน้อยแล้วก็ขอตัวลากลับออกไปหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เซี่ยหานปิงก็ประคองนางเดินมายังลานหน้าบ้าน ตอนนี้ย่างเข้าฤดูร้อน ใบหลิวปลิวไสวงดงาม อำลาฤดูใบไม้ผลิ“มาเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปที่หนึ่ง” เซี่ยหานปิงยื่นมือไปให้นาง ก่อนทั้งสองจะเดินไปยังเนินเขา ที่ตรงนั้นเป็นทุ่งดอกไม้ รอบด้านจึงเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีลู่อิงรู้สึกผ่อนคลาย นางเดินจูงมือใหญ่ของเซี่ยหานปิงไปเรื่อย ๆ ยามนี้ดวงตะวันสาดแสงอ่อน ๆ ลงมาจากฟากฟ้า แม้จะย่างเข้าฤดูร้อน แต่อากาศยังไม่ร้อนนัก ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใสปนขาว เมฆลอยละล่องราวกับสำลีเบาบาง ยิ่งเมื่อได้ยินเสียงลำธารไหลเอื่อย ๆ อยู่ใกล้ ๆ ยิ่งทำให้นางรู้สึกสงบและสบายใจเป็นที่สุดความเงียบสงบรายล้อมอยู่โดยรอบ ทั้งสองก้าวเดินช้า ๆ ในทุ่งดอกไม้ ลู่อิงรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากมือของเซี่ยหานปิงที่ประสานกันอย่างแนบแน่น ใบหน้าของนางระบายด้วยรอยยิ้มบางเบา มองไปยังดอกไม้ที่เบ่งบานและสายลมที่พัดเอื่อย กลิ่นหอมของดอกไม้ป่าผสมกลิ่นต้นไม้ใบหญ้า ทำให้หัวใจนางเบาสบายแ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status