LOGINกุลนิดาพาน้ำอิงมาจนใกล้ถึงตึกเรียนแล้ว ระหว่างทางเดิน เธอยอมรับว่าสงสารลูกสาวไม่น้อยที่ต้องไหว้เก้าอี้แทนพ่อ บางครั้งก็อยากให้ทางโรงเรียนเลิกจัดกิจกรรมที่ต้องให้นักเรียนพาบิดามาร่วมงานเพราะเป็นการทำร้ายจิตใจเด็กที่ไม่มีพ่อ ครั้นจะหาทางแก้ปัญหาด้วยการแปลงร่างแต่งกายเป็นคุณพ่อแบบที่เคยเห็นตามข่าว กุลนิดาก็บอกตัวเองว่าใจกล้าไม่พอ
“มอร์นิ่งครับคุณกุล” เสียงทุ้มมาพร้อมกับดวงตาสีฟ้าพราวระยับ ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็กสีสุภาพมองมาที่คุณแม่คนสวยในชุดสีสันสดใสด้วยแววตาดีใจ กุลนิดาเป็นซิงเกิลมัมที่มีลูกสาวน่ารัก และน้ำอิงก็เป็นลูกศิษย์ตัวน้อยที่ฉลาดเกินวัย
อลันยิ้มกว้าง เขาเคยมีครอบครัวมาก่อนแต่หย่ากับอดีตภรรยาไปแล้ว พวกเขาไม่ได้มีลูกด้วยกัน อลันเป็นคนรักเด็ก เขาเดินทางมาประเทศไทย ประเทศที่ผู้คนน่ารักใจดี เพื่อนของเขาเป็นครูสอนอยู่ที่สถาบันแห่งนี้จึงชักชวนมา อลันเห็นว่าเป็นช่องทางที่ดี เขาจึงยอมทิ้งตำแหน่งผู้จัดการของบริษัทมหาชนยักษ์ใหญ่ เงินเดือนหลายแสนบาทหากเทียบเป็นเงินไทยที่อเมริกาเพื่อมายึดอาชีพครูในสถาบันแห่งนี้ที่เงินเดือนน้อยกว่าอาชีพเก่าเป็นสิบเท่า แต่เขามีความสุขมากกว่า
ต้องยอมรับว่า อลัน ฮัตสัน มีดวงตาและรอยยิ้มอบอุ่นชวนมอง จนคุณแม่ทั้งหลายอดใจขอถ่ายรูปด้วยไม่ได้ ยิ่งเป็นผู้ปกครองนักเรียนใหม่อาจคิดว่ามีพระเอกฮอลลีวูดมาเดินเล่นในสถาบันการศึกษาแห่งนี้ เวลามีงานโรงเรียน ทีเชอร์อลันจึงกลายเป็นหนุ่มฮ็อตที่ผู้ปกครองสาวๆ มาขอถ่ายรูปด้วยเสมอ
วันนี้ก็เช่นกัน ทีเชอร์อลันยิ่งยิ้มกว้างก็ยิ่งขับผิวขาวอมชมพูให้ดูน่ามอง
“มอร์นิ่งค่ะทีเชอร์อลัน” กุลนิดาส่งยิ้มให้อย่างรักษาท่าที เธอเป็นแม่คนแล้วจะแสดงออกอะไรต้องคิดถึงหน้าลูกเสมอ
อลันยิ้มให้กุลนิดาแล้วเผื่อแผ่ไปถึงลูกศิษย์ตัวน้อย
“น้ำอิงครับ เชื่อทีเชอร์นะครับ ทุกคนมีแด๊ดดี้ ถึงแด๊ดดี้ของน้ำอิงจะไม่ได้มาร่วมงาน ไม่ได้หมายความว่าน้ำอิงไม่มีแด๊ดดี้เหมือคนอื่น แด๊ดดี้ของน้ำอิงอยู่ในนี้ไงครับ” อลันทาบฝ่ามือลงบนตำแหน่งของหัวใจ
“ใช่แล้วค่ะ ทีเชอร์พูดถูก” กุลนิดาหันไปหาลูก พลางตอบด้วยน้ำเสียงชื่นชมที่ปิดไม่มิด
“ผมคิดแบบนั้นจริงๆ ครับ บางทีการจัดงานก็ไม่สำคัญเท่ากับการเลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่จากคนในครอบครัว”
ยิ่งได้ฟังอลันพูดแบบนี้ ความอบอุ่นที่ขาดแคลนในหัวใจของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ยิ่งสั่นคลอน มันเหมือนมีแรงกระเพื่อมบางอย่างมากระทบใจเธอ
ขณะที่กุลนิดากำลังขอบตาร้อนผะผ่าว อลันก็ยื่นตุ๊กตาหมีตัวน้อยสีเหลืองให้กับน้ำอิง
“ทีเชอร์ให้ครับ แล้วปีหน้า ทีเชอร์จะซื้อตัวใหญ่ๆ เอามาให้น้ำอิง”
“จริงๆ นะคะ แต่น้ำอิงไม่อยากได้ตุ๊กตาอยากให้ทีเชอร์มาเป็น...”
กุลนิดาหายจากอาการตื้นตันเปลี่ยนมาเป็นเบิกตากว้างด้วยความตกใจ มือบางรีบปิดปากกระจับเล็กๆ นั้นไว้
กุลนิดายิ้มแหยๆ ให้อลัน พลางแอบส่งสายตาดุใส่ลูกสาว เธอรู้ว่าน้ำอิงแอบปลื้มทีเชอร์อลันมากแค่ไหน เมื่องานฉลองครบรอบยี่สิบปีของโรงเรียน ทีเชอร์อลันต้องแต่งกายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ร่วมเดินขบวนพาเหรด น้ำอิงปลื้มหนักถึงกับวาดภาพทีเชอร์อลันในชุดซูเปอร์ฮีโร่เต็มฝาผนังบ้านจนกุลนิดาต้องซื้อวอลล์เปเปอร์มาติดทับ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะทีเชอร์ ทีเชอร์ต้องรีบไปเตรียมการสอนไม่ใช่เหรอคะ เชิญค่ะ”
อาการตกใจเหมือนถูกไฟช็อตของกุลนิดาทำให้อลัน ฮัตสัน ยิ้มเบาๆ แค่นั้นแต่ก็ทำให้กุลนิดาพูดไม่ออก ตั้งแต่เริ่มเป็นสาว กุลนิดาก็ตั้งใจว่ารอให้เรียนจบก่อนค่อยมีแฟน พ่อแม่จะได้ไม่เครียดเพราะห่วงว่าเธอจะเรียนไม่จบ แต่พอเรียนจบ ยังไม่ทันมีแฟนก็มีสามีทันทีเลย แล้วยังเป็นคนที่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย...จะเรียกว่าสามีผีผลักมาให้ก็ไม่ผิดนัก
“อืม คือ...” ฝ่ายอลันเองก็มีท่าทีอึกอัก ยังแสดงออกอะไรได้ไม่มากนักเพราะสถานะคุณครูกับผู้ปกครองย่อมถูกมองไม่ดี อยู่ในสถานะนี้ เขาต้องคอยระวังคำพูดและการกระทำ แต่อีกไม่นาน...
“พอดีผมได้บัตรละครเวทีเรื่องทัมเบลิน่ามาหลายใบ” เขายื่นให้เธอ “ถ้าว่าง คุณพาน้ำอิงไปดูนะครับ ต้นเดือนหน้าเด็กๆ คงชอบ”
กุลนิดาพยายามสะกดกลั้นความดีใจเอาไว้ ทั้งที่หัวใจดวงน้อยเผลอเต้นระรัวด้วยความดีใจ ตรงข้ามกับสายตาคู่หนึ่งที่กำลังลอบมองดูแล้วเก็บความขุ่นข้องใจนั้นเอาไว้
เสียงเค้นต่ำลอดไรฟันเรียกลูกน้องคนสนิท “ครูซ แกมานี่สิวะ ฉันมีงานให้แกทำ”
เสียงประกาศเรียกให้ผู้ปกครองระดับอนุบาลไปรวมกันที่หอประชุมของโรงเรียนพร้อมกับลงชื่อเพื่อรับหมายกำหนดการ ซึ่งจะมีรายละเอียดบอกว่าเด็กแต่ละห้องจะทำการแสดงโชว์ในช่วงเวลาใด กุลนิดาลงชื่อรับเอกสารและเดินเข้าไปในหอประชุม
ส่วนใหญ่ผู้ปกครองที่มาส่งลูกเองมักจะคุ้นหน้าค่าตากันเป็นอย่างดี ห้องของน้ำอิงแสดงเป็นห้องสุดท้าย จากนั้น พิธีกรประกาศเรียกผู้ปกครองให้ขึ้นไปบนเวทีซึ่งจัดเก้าอี้ไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย คุณป้าสุรีเป็นคุณย่าของน้ำผึ้ง เด็กหญิงนักเรียนร่วมชั้นเดียวกับน้ำอิง หันมายิ้มกับกุลนิดา
“ป้าเพิ่งรู้ว่าหนูน้ำอิงแกหน้าเหมือนพ่อ ยังกับเคาะออกมาจากเบ้าเดียวกัน”
“หา คุณป้ารู้ได้ยังไงคะ!” กุลนิดาตกใจรีบถามออกไป ไรอันเที่ยวไปโพนทะนาบอกใครต่อใครอย่างนั้นหรือ
“แหม อย่าปิดบังป้าเลยจ้ะ” ป้าสุรีหัวเราะเบาๆ คิดว่ากุลนิดาคงอายจนไม่ยอมพูด
ส่วนคุณแม่ยังสาวหลายคนมองมาด้วยสายตาแปลกๆ มีคนหนึ่งใจกล้าหน่อย จึงถามขึ้นมาเลย
“ไหนว่าคุณน้องเป็นซิงเกิลมัม แล้วนั่นอะไร เปิดตัวอลังการมาก”
กุลนิดาไม่คิดว่าคำวิงวอนต่อพระแม่มารีย์ของน้ำอิงจะเห็นผลทันตา แต่ว่าพระแม่ไม่ได้จูงมือแด๊ดดี้ของน้ำอิงมาจากสวรรค์ แต่พระแม่พาอะไรกลับมา ซูเปอร์ฮีโร่ ซูเปอร์แมน หรือว่าซูเปอร์แด๊ดดี้ นั่นมันซูเปอร์ฮีโร่พันธุ์ไหนกัน...
“บ้าจริง ทำอะไรของเขานั่น” กุลนิดามองเห็นทุกอย่างบนเวทีแล้วจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ ใครจะไปคิดว่ามหาเศรษฐีระดับหมื่นล้านจะใจกล้าบ้าบิ่นแต่งคอสเพลย์มาโรงเรียนลูกในธีมกู้โลกแบบนี้
ขณะที่ผู้ปกครองทั้งหลายต่างมองไปบนเวที พร้อมกับมีเสียงพึมพำสนั่นห้องว่าหล่อๆ แต่กุลนิดาไม่ได้สนใจที่ความหล่อ แต่สนใจชุดซูเปอร์ฮีโร่ที่เขาใส่มา
“อีตาบ้า ทำไปได้ อย่าบอกใครนะว่าเป็นพ่อของลูกสาวฉัน” กุลนิดาหน้าแดงก่ำด้วยความอาย ผู้ปกครองหลายคนกำลังกระซิบกระซาบกันแล้วหันมามองที่หญิงสาว
ฝ่ายไรอันที่ยืนอยู่บนเวทีก็กำลังรู้สึกเขินจนขาสั่น วันนี้เขาไม่ได้มากู้โลกเสียหน่อย แต่มากู้เมียกับลูกคืนต่างหาก ชุดนี้ ไอ้พนาบอกว่าใส่แล้วเกิด น้ำอิงต้องใจอ่อนยอมรับเขาเป็นพ่อแน่ๆ ตั้งแต่เขาเห็นภาพวาดของน้ำอิงวันนั้น เขาก็อยากทำให้ความฝันของลูกสาวเป็นจริง
น้ำอิงอยากมีพ่อเป็นซูเปอร์ฮีโร่
แต่เมื่อมองไปเห็นสายตาว่างเปล่าของกุลนิดาแล้ว เธอมองเขาเหมือนมนุษย์สายพันธุ์ประหลาดมากกว่าเป็นฮีโร่ของลูก
“ผีอยากมาแอบดูคนพลอดรักกันก็เอาสิ เกรซีกลัวผีเหรอ ผมเคยสอนวิชาไล่ผีให้แล้วไง ผีจะกลัวคนแก้ผ้า ถ้าเกรซีที่รักไม่อยากถูกผีหลอก เดี๋ยวผมช่วยถอดเสื้อผ้าให้คุณเอง”กุลนิดาอับอายจนวางหน้าไม่ถูก “ถอดอีกแล้วเหรอคะ ฉันเพิ่งใส่กลับเข้าไปเมื่อกี้นี้เอง”กุลนิดาถูกเขาผลักให้นอนราบลงบนเตียง จากนั้นความขาวโพลนพร้อมกลิ่นหอมอ่อนของน้ำยาปรับผ้านุ่มก็ลอยลงมาปกคลุมสองร่างเอาไว้ อ้อมกอดของคนที่นอนทับอยู่บนตัวทั้งหอมและมีกลิ่นกายเฉพาะตัวชวนให้พาใบหน้าเข้าไปเคลียคลอกับแผงอกนั้น“กลัวผีใช่ไหม เดี๋ยวผมลงคาถากันผีให้ รับรองว่าเกรซีจะไม่ถูกผีหลอกไปตลอดชีวิต”“บ้า ฉันไม่เชื่อ คุณหลอกฉัน”“ไม่เชื่อ ก็ต้องให้ผมลงคาถาอยู่ดี”ดวงตาสีฟ้าภายใต้ผ้าห่มนวมผืนใหญ่เจิดจรัสเต็มไปด้วยไฟพิศวาสลุกโชน มันพร้อมจะแผดเผาเธอด้วยความรักที่เร่าร้อนเพียงพริบตาเดียว เสื้อผ้าทุกชิ้นที่ห่อหุ้มร่างบางงดงามไร้ที่ติกลับปลิดปลิวออกจากร่าง แต่ละชิ้นถูกไรอันโยนออกมาอย่างไม่ไยดีเสื้อและกระโปรงร่วงหล่นลงไปตามแรงเหวี่ยง ส่วนแพนตี้ตัวน้อยถูกเขาถอดและหล่นไปกองอยู่ข้างเตียง จนกระทั่งเหลือบราเซียร์สีชมพูหวานเป็นปราการด่านสุดท้ายที่ถูกเขาลอกคราบออก
กุลนิดาบอกเขาหมดเปลือก บอกจากก้นบึ้งหัวใจ เธอทั้งคิดถึง โหยหา แต่ก็หมั่นไส้พ่อตัวร้ายจอมเจ้าเล่ห์ในเวลาเดียวกันไรอันทนความน่ารักของเมียไม่ไหว มือแกร่งรวบร่างบอบบางของเมียไปนั่งทับบนตัก แล้วกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูขาวผ่อง“เรามาทำลูกกันอีกสักคนดีไหม ผมอยากให้น้ำอิงมีน้องไว้เป็นเพื่อนเล่น”กุลนิดาหน้าแดง ยกมือทุบอกเขาดังปั้กไรอันจับมือเล็กไว้ แล้วขบเม้มใบหูขาวอย่างรักใคร่ “อยากทุบก็ทุบให้เต็มที่ ผมไม่ทุบคืนด้วยหมัดแน่ๆ เพราะผมกลัวเมียเจ็บ แต่ผมจะชกคุณคืนถึงเช้าด้วยอวัยวะที่นุ่มนวลที่สุด”“ไรอัน คนหื่น ฉันรู้นะคุณหมายถึงอะไร”แต่ช้าไปเสียแล้วเมื่อร่างเล็กถูกเขาผลักลงไปบนเตียงเหมือนในคืนนั้น ร่างสูงกระชากผ้าเช็ดตัวสีขาวที่พันไว้รอบเอวอย่างรวดเร็ว เมื่อครู่นี้ เขานอนแช่น้ำอุ่นอย่างสบายใจ แล้วคิดเล่นๆ ว่าถ้ามีลูกอีกคนจะให้ชื่ออะไรดี เขาคิดออกแล้ว และเวลานี้ ควรต่อแขนให้ ‘น้ำอุ่น’ ออกมาเป็นตัวเป็นตนสักทีไรอันอวดหุ่นกำยำต่อหน้าเมีย กุลนิดารีบหลับตาปี๋ เพราะยังอายอยู่ จังหวะนั้นเองที่ไรอันรีบปอกเปลือกเมียให้เหลือแต่ร่างขาวโพลนทันที“ลูกคนนี้ผมจะตั้งใจทำให้หน้าเหมือนคุณนะ จะได้ไม่น้อยใจผมอ
“รู้อะไรไหม แต่ผมไม่เคยหลอกคุณนะ ว่าผมรักคุณกับลูกที่สุด รักจนหยุดหัวใจไว้ที่คุณ”“ฉันรู้ค่ะ ฉันยอมรับที่ผ่านมา ฉันขี้ขลาดเอง กลัวคุณไปเจอผู้หญิงสวยๆ ก็อยากจะเลี้ยงดูไปเรื่อยๆ แบบที่คุณเคยเลี้ยงดูพี่อินทิราเอาไว้ ตอนนี้ยังแอบส่งเสียกันอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าคุณมีเมียไว้ประเทศละคน ฉันคงทนไม่ได้ เลยเลือกที่จะไม่เปิดโอกาสให้คุณ” กุลนิดาบอกแล้วเบือนหน้าหนี เธอยอมรับผิดส่วนหนึ่งที่ไม่เชื่อใจเขา ไม่เปิดโอกาสให้เขาไรอันเชยคางเมียกลับมา จ้องดวงตาสีนิลคู่วาววับ “ผมกับอินทิราเลิกยุ่งเกี่ยวกันตั้งแต่คืนนั้นที่ผมมีอะไรกับคุณ แล้วผมก็ไม่ได้ไปมีเมียทิ้งไว้ทุกประเทศแบบที่คุณเข้าใจ ข่าวคุณมั่ว ไม่กรองแล้วละ”“หมายความว่ายังไงคะไรอัน” กุลนิดาเบิกตาโตมองเขาอย่างสนใจ“ผมกับอินทิราเจอกันบนสายการบินพาณิชย์ ตอนเครื่องบินลำนั้นที่ระเบิดไปมันงอแง ผมเห็นอินทิราสวยดี เธอส่งสายตาให้ผมก็เลยให้ครูซยื่นข้อเสนอ และไม่ได้ตั้งใจให้มาอยู่ที่นี่หรอก แต่อินทิราบอกผมว่าคอนโดฯ ของเธอยังตกแต่งไม่เสร็จ แต่ที่ผมมาที่นี่หลายครั้งไม่ได้ติดใจอินทิรา แต่ติดใจสาวน้อยที่ดูแลกุหลาบของแม่ผมอย่างดี ผมคิดว่ามาอยู่ที่เมืองไทยมันจะตา
เฮี้ยนกว่าผีก็สามีของเธอนี่เองดวงหน้าขาวซีดแทบจะเป็นสีเดียวกับกระดาษเวลานี้พลันเปลี่ยนเป็นจ้องมองเขาอย่างขุ่นเคือง เลือดลมกลับมาสูบฉีดแรง ตอนนี้สติเธอกลับมาครบถ้วนพอจะแยกออกว่าร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาหาแล้วคว้าเธอเข้าไปกอดคือสามีไม่ใช่ผี“ไรอัน! คนบ้า คุณเล่นบ้าอะไร หนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงข่าวว่าเครื่องบินระเบิด คุณตายแล้ว” กุลนิดารู้สึกว่าเธอกำลังเป็นคนเสียสติแล้วกระมังถึงได้หัวเราะไปร้องไห้ไปราวกับเป็นผู้ป่วยไบโพลาร์ไรอันส่ายหน้า รอยยิ้มหล่อร้ายบนใบหน้าของเขาประดับค้างอยู่นานไม่ยอมจางหาย ในขณะที่ดวงตาสองข้างยังจ้องหน้าเมียรักอยู่ตลอดเวลา“คุณยังหลอกผมได้เลย คิดว่าผัวเคี้ยวหญ้าหรือไงจ๊ะที่รัก ถึงได้คิดว่าผมจะเชื่อว่าเมียมีฝาแฝด เป็นไงพอผมหลอกคืนบ้าง คุณถึงกับอึ้งไปเลย”กุลนิดาผลักอกเขาออกแต่มันไม่ขยับออก ใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยอารมณ์หลากหลายทั้งดีใจ ทั้งโมโห “หลอกแรงเกินไปแล้ว”ไรอันขยับเข้าไปใกล้ร่างเมียรัก ประคองใบหน้างามที่เลอะไปด้วยคราบน้ำตาให้มองตอบเขา “ฟังผมอธิบายก่อนเกรซี อย่าเพิ่งโกรธผมเลย”กุลนิดาส่ายหน้าด้วยความน้อยใจ “คุณหลอกคนทั้งโลกว่าตายแล้ว คุณเป็นคนแบบไหนกัน ทำไมต้องหลอก
กุลนิดาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มอย่างไม่อาย ตอนนี้เธออยู่คนเดียวภายในห้อง เธอไม่ต้องกลัวว่าลูกจะเห็นแล้วตั้งคำถามอีก ดังนั้นเมื่อน้ำตาอยากไหลออกมา เธอก็จะปล่อยให้มันไหลไปจนกว่าจะพอ อย่างน้อย เธอจะได้ใช้มันเป็นหนทางระบายออกได้บ้างใบหน้าสวยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตาเลอะกรัง กวาดมองรอบห้องอย่างอาวรณ์ ตอนนี้ เธอยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เธออยากจะคิดว่าข่าวที่ลงเป็นเพียงข่าวโคมลอย เชื่อถือไม่ได้ เขายังปลอดภัยดี เพียงแต่ยังเคลียร์งานไม่เสร็จจึงยังกลับมาไม่ได้...แต่กุลนิดาก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ เพราะภาพข่าวที่ทุกสื่อนำมาลงเป็นเรื่องจริงจู่ๆ ก็มีลมพัดวูบหนึ่งเข้ามาในห้อง กุลนิดาจึงเดินไปที่ระเบียง ประตูถูกเปิดออกไว้ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ชายผ้าม่านสีขาวปลิวคว้าง ภาพนี้เหมือนเมื่อสี่ปีก่อนไม่มีผิด จู่ๆ กุลนิดาก็รู้สึกขนลุกเกรียวขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว“เหมือนวันนั้นไม่มีผิด” ปกติกุลนิดาเป็นคนกลัวผีมาก และตอนนี้ความหลอนก็ผุดขึ้นมาอีกหนห้องนี้เคยมีประวัติอะไรหรือเปล่านะ เธอยังจำได้ดีถึงผีจูออนชุดขาวที่เห็นวันนั้น เธอยังไม่เคยคุยกับไรอันถึงเรื่องนั้นเลย เคยตั้งใจว่า
แอชลีย์มองสองแม่ลูกแล้ววางหน้าลำบากพลางลอบถอนหายใจ “เอาละ หลานป้าแอชลีย์มีสายเลือดนักสู้ สุดยอดมาก ป้าแอชลีย์ตะลึงไปเลย แบบนี้ควรมีรางวัลให้หนูใช่ไหม”พอได้ยินคำว่ารางวัล ร่างอวบที่นอนหงายดีดตัวลุกขึ้นมาอย่างง่ายดาย “รางวัล! เด็กดีควรมีรางวัลค่ะ มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องใช่ไหมคะมามี้”เด็กหญิงยิ้มเผล่รู้สึกหายเหนื่อย “คุณป้าแอชลีย์คนสวย น้ำอิงอยากกินไอศกรีมเป็นรางวัลได้ไหมคะ” แม่คนช่างประจบ และหัวไวกับของฟรีกล่าวแอชลีย์ดึงหลานสาวตัวอวบไปกอด รู้แล้วทำไมน้องชายถึงได้หลงลูกสาวนัก “แน่นอนหลานสาวของป้าได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้”กุลนิดามองหน้าแอชลีย์ เสี้ยวหน้าด้านหนึ่งมีเค้าเหมือนไรอันอยู่มาก ความสนิทอย่างรวดเร็วของสองป้าหลานคงเป็นความผูกพันทางสายเลือด“อย่ารบกวนคุณป้าเลย เดี๋ยวมามี้พาไปเอง”เพียงแต่แอชลีย์หันมายิ้มแล้วพยุงหลานสาวให้ลุกขึ้น “เกรซี ฉันมีเรื่องจะบอก แม่บ้านของลักซูรีคอนโดฯ โทร.มาบอกฉันว่าอยากให้เจ้าของห้องชุดเข้าไปดูแลกุหลาบพวกนั้นที่ริมระเบียงด้วย เพราะพวกมันใกล้จะตายหมดแล้ว ไรอันจ้างให้แม่บ้านมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์ แต่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ย้ายต้นกุหลาบเหล่านั้นออกไปไหน ตอนนี้ห้อง







