LOGIN
แม่ทัพหยางเจี้ยน เป็นบุคคลที่เปรียบเสมือนดั่งเสาหลักแห่งราชสำนัก ผู้เป็นขุนพลคู่ใจขององค์ฮ่องเต้ ด้วยความสามารถในการนำทัพที่หาใครเทียบได้ยาก ผลลัพธ์เดียวที่ติดตามมาหลังจากการออกศึกของเขาก็คือชัยชนะ ท่านแม่ทัพ
หยางเจี้ยนได้กลายเป็นที่รู้จักทั่วแผ่นดินด้วยอายุเพียง 32 ปี ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับแม่ทัพใหญ่นายอื่น
ด้วยความอ่อนวัยและผลงานที่เปล่งประกาย หยางเจี้ยนจึงก้าวสู่ตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ความเก่งกาจของเขาไม่เพียงแต่สร้างความอิจฉาและริษยาให้กับขุนนางและชายหนุ่มคนอื่น แต่ยังดึงดูดสายตาและหัวใจของบรรดาสาวงามในวัง ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและความสามารถที่หาใครเปรียบ
ท่ามกลางแสงของหมู่ดาวที่ส่องสว่างบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ภายในจวนของท่านแม่ทัพหยางเจี้ยน บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเร่าร้อน แม่ทัพหนุ่มผู้เก่งกาจกำลังโอบกอดฮูหยินผู้เป็นที่รักของตน นางผู้มีชื่อว่าเหม่ยฟาง หญิงสาวที่เป็นที่เลื่องลือในเรื่องของความงดงาม
เหม่ยฟางนั้นงามจับตา นางมีผิวพรรณขาวเนียนละเอียดดุจดั่งหิมะ ดวงตากลมโตเปล่งประกายเหมือนดวงจันทร์ยามค่ำคืน ริมฝีปากสีแดงระเรื่ออันอ่อนหวาน ท่าทางสง่างามและนุ่มนวลของนางทำให้ทุกคนที่ได้พบต่างต้องตะลึงในความงามของนาง
ท่านแม่ทัพหยางเจี้ยนและเหม่ยฟางถูกชะตาฟ้าลิขิตให้เป็นคู่ครองกัน แม้ท่ามกลางหน้าที่การงานที่หนักหน่วง แต่เมื่อได้กลับสู่ตำหนัก หยางเจี้ยนก็ปลดเปลื้องความเคร่งเครียดลงเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับนางผู้เป็นที่รัก
"เหม่ยฟาง... เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าคิดถึงเจ้ามากมายเพียงไหน" เสียงของหยางเจี้ยนสั่นคลอนเล็กน้อย เขามองสบตานางด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความรักที่อัดแน่นอยู่ในหัวใจ นับตั้งแต่การออกรบที่ยาวนาน ความเหนื่อยล้าจากสนามรบถูกแทนที่ด้วยความอบอุ่นจากอ้อมกอดของนางเพียงผู้เดียว
แม่ทัพหนุ่มหยางเจี้ยนไม่สามารถต้านทานความรู้สึกภายในใจของตนได้อีกต่อไป เขาจูบเหม่ยฟางอย่างเร่าร้อน ริมฝีปากของเขาประทับลงบนเรียวปากอันนุ่มนวลของนางราวกับชายผู้ที่ต้องทนอดอยากมานานแสนนาน ความปรารถนาและความคิดถึงที่กักเก็บเอาไว้ถูกถ่ายทอดผ่านสัมผัสนั้น ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความหลงใหลและความรักที่ลึกซึ้ง
"เจ้าคนเถื่อน! เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าตัวเจ้าแอบไปร่วมรักกับสาวงามมามากมายนับครั้งไม่ถ้วน!" เหม่ยฟางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดุดันและแฝงความเจ็บปวด ความโกรธในน้ำเสียงของนางแผ่ซ่านไปทั่วห้อง ดวงตาของนางวาวโรจน์ สะท้อนถึงความขุ่นเคืองที่เก็บสะสมไว้
แต่หยางเจี้ยนหาได้หยุดไม่ เขาตอบรับความโกรธนั้นด้วยความร้อนแรงยิ่งกว่าเดิม แม่ทัพหนุ่มไม่สนใจคำกล่าวหาของนาง ริมฝีปากของเขาบดขยี้ริมฝีปากของนางอย่างหิวกระหาย ความกระหายนี้ไม่ใช่เพียงแค่ความต้องการทางกาย แต่เป็นความปรารถนาที่ลึกซึ้งกว่านั้น ราวกับว่าเขาต้องการยืนยันถึงความผูกพันที่ไม่อาจหักล้างได้ระหว่างพวกเขา
"ไม่มีสตรีนางใดจะคู่ควรเป็นฮูหยินของข้าเท่ากับเจ้าอีกแล้ว ความเร่าร้อนและความร่านของพวกนางนั้นมันเทียบเจ้าไม่ติด" แม่ทัพหยางเจี้ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หื่นกระหาย สายตาของเขามีเพียงเหม่ยฟางเท่านั้น สำหรับเขา นางเป็นสตรีที่คู่ควรที่สุดที่จะอยู่เคียงข้างเขาไปตลอดชีวิต
แม้เขาจะเคยพัวพันกับหญิงสาวมากมาย แต่ไม่มีผู้ใดทำให้เขาหลงใหลและผูกพันได้เท่าเหม่ยฟาง ความเร่าร้อนและเสน่ห์ของนางทำให้เขาหลงรักนางอย่างถอนตัวไม่ขึ้น หยางเจี้ยนรู้ดีว่านางไม่เพียงแต่เป็นหญิงงามที่จับตาจับใจ แต่ยังเป็นหญิงที่เหมาะสมที่สุดที่จะเคียงข้างเขาทั้งในยามสงบและยามศึก
ในขณะที่หญิงอื่นอาจเป็นเพียงของเล่นชั่วคราว ความสัมพันธ์เหล่านั้นไม่อาจสั่นคลอนความรักที่เขามีให้กับเหม่ยฟาง นางเป็นภรรยาที่เขาแต่งงานด้วยตามประเพณีได้
แม่ทัพหยางเจี้ยนไม่รอช้า เขาจับเหม่ยฟางปลดเปลื้องอาภรณ์ของนางออกในทันที ราวกับว่าความอดทนของเขาถูกทำลายลงจนหมดสิ้น เมื่ออาภรณ์หลุดจากกายของนาง
เหม่ยฟางมีเรือนร่างที่งดงามสมบูรณ์แบบ หน้าอกของนางมีขนาดใหญ่พอดีและได้รูปอย่างงดงาม ราวกับถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อดึงดูดทุกสายตาที่ได้พบเจอ ผิวของนางเนียนละเอียด ร่างกายทุกส่วนเต็มไปด้วยความนุ่มนวลและเสน่ห์ที่เย้ายวน หยางเจี้ยนไม่อาจละสายตาจากนางได้ ความงามของนางทำให้เขาหลงใหลอย่างสิ้นเชิง
ทุกเส้นโค้งและทุกสัดส่วนของนางช่างสมบูรณ์แบบ ร่างกายของเหม่ยฟางดูราวกับประติมากรรมที่สลักเสลาอย่างประณีต อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดใจ หยางเจี้ยนไม่อาจห้ามตนเองได้อีกต่อไป เขาโอบกอดนางด้วยความเร่าร้อน สัมผัสผิวของนางด้วยความกระหายที่ท่วมท้น
"อู๊ยยย... อ๊า... หยุดนะ เจ้าคนเถื่อน!" นางพยายามต่อต้าน แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับเต็มไปด้วยความสับสนระหว่างการห้ามปรามและความรู้สึกอื่นที่ผสมปนเปกัน
“ข้าไม่หยุด... ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังรู้สึกดี ข้ารู้จักความหิวกระหายของเจ้าเป็นอย่างดี ฮูหยินที่รักยิ่งของข้า” แม่ทัพหยางเจี้ยนพูดออกมาด้วยเสียงแหบพร่าและเร่าร้อน ดวงตาของเขาจ้องมองนางอย่างเต็มไปด้วยความหลงใหล
ขณะเดียวกัน มือของเขาก็ค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเหม่ยฟาง ช่วยปลุกเร่าอารมณ์ที่ร้อนแรงในตัวนาง อ้อมกอดของเขาแสดงให้เห็นถึงความรักและความปรารถนาที่มีต่อกัน ทุกสัมผัสเป็นดั่งเปลวไฟที่ทำให้ใจของนางพุ่งพล่าน ไม่สามารถต้านทานได้
เหม่ยฟางรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่ทำให้ร่างกายของนางตอบสนองต่อสัมผัสของเขา หัวใจของนางเต้นแรงมากขึ้น สัมผัสของเขาเป็นดั่งแรงดันที่กระตุ้นความรู้สึกและอารมณ์ให้พุ่งทะยานไปอีกขั้น
หน้าอกของนางพลิ้วไหวไปมาตามสัมผัสของมือท่านแม่ทัพ หยางเจี้ยน ร่างกายนางตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของเขาอย่างอ่อนหวานและเร่าร้อน สีหน้าของนางแดงก่ำระลอกไปถึงหู สะท้อนถึงความรู้สึกที่ปะทุขึ้นในใจ
“ฮูหยิน...” เสียงของหยางเจี้ยนแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนา ดวงตาของเขาจับจ้องนางอย่างลึกซึ้ง นางหายใจกระเส่า ราวกับว่าธาตุแท้ของนางกำลังถูกเผยออกมา ความรู้สึกที่ปะทุเป็นไฟแสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นของอารมณ์ที่มีต่อนางเหม่ยฟางรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังจางหายไป ทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนจะเงียบลง เหลือเพียงเสียงหายใจของตน
“หยางเจี้ยน! หยุดนะ ข้าจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว!” เหม่ยฟางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความยากลำบาก หัวใจของนางเต้นรัวราวกับจะหลุดออกจากอก ร่างกายของนางกระสันไปทั้งตัว เนื้อตัวร้อนเป็นไฟ ราวกับว่าความรู้สึกทั้งหมดที่อัดแน่นอยู่ภายในกำลังจะระเบิดออกมา
แต่ท่านแม่ทัพหนุ่มกลับไม่ฟังเสียงนาง เขายังคงโอบกอดเรือนร่างของนางและกระตุ้นความร้อนแรงยิ่งกว่าเดิม “เจ้าจะมัวทนอยู่ทำไม? ปลดปล่อยมันออกมาเลย ข้าจะเป็นผู้ดับความเร่าร้อนของเจ้าเอง” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความความปรารถนา
ยิ่งตัวของแม่ทัพ หยางเจี้ยน เล่นสนุกกับเรือนร่างของฮองเฮาซ่งหลิงหรู มากขึ้นเท่าไหร่มันยังทำให้ความหื่นกระหายในกายสูบฉีดรุนแรงมากยิ่งขึ้นเท่านั้นท่านเนื้อของท่านแม่ทัพการเกิดแข็งตัวอย่างหน้าเหลือเชื่อจนมันแข็งผงาดชี้อยู่ที่เบื้องหน้าของนาง ฮองเฮาซ่งหลิงหรู จ้องมองท่อนเนื้อของท่านแม่ทัพที่แข็งผงาดอยู่ที่เบื้องหน้าของนางด้วยความหลงใหลความใหญ่ยาวของมันนั้นล้วนเหนือกว่าฮ่องเต้ หลงเซวียน เป็นเท่าตัวนางถึงกับลอบกลืนน้ำลายตัวเองลงคอไปอึกใหญ่ดูเหมือนว่าในช่วงเวลานี้นั้นตัวของนางนั้นจะเป็นนางร่านจริงๆ เพียงแค่เห็นท่อนเนื้อที่แข็งผงาดอยู่ที่เบื้องหน้าของนางก็ทำให้ตัวของนางนั้นขุนลุกขนชันไปทั้งร่างฉวบ...นางดูดเลียท่อนเนื้อชิ้นนี้อย่างเร่าร้อนลิ้นของนางพลิ้วไหวไปมาอย่างนิ่มนวล แม่ทัพ หยางเจี้ยน ถึงกับเสียวสะท้านจนตัวเกร็งนางไม่ได้มีดีแต่เพียงความงดงามเท่านั้นแต่นางยังมีความเร่าร้อนอย่างสุดโต่งเพียงแค่โดนลิ้นสัมผัสของนางมันก็แทบที่จะทำให้ตัวของเขานั้นน้ำแตกทะลักออกมา นางทั้งชักทั้งดูดทั้งเลียราวกับว่านี่คือของเล่นชิ้นใหม่ที่นางพึ่งได้ลิ้มลองในขณะที่มือของนางลูบไล้ไปที่ผิวกายของท่านแม่ทัพอย่างเร่าร
แม้ว่าฮองเฮาซ่งหลิงหรูจะมีอายุถึง 48 ปีในช่วงเวลานี้ แต่ความงดงามและความเย้ายวนของนางนั้นยากที่จะหาคำอธิบายได้ นางมีเสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลายตามกาลเวลา เรือนร่างของนางที่อวดโฉมผ่านเสื้อผ้าบางเบาที่เผยให้เห็นทุกรายละเอียดนั้นยิ่งทำให้เธอดูเย้ายวนและดึงดูดทุกสายตา เสน่ห์ของนางนั้นยากจะต้านทาน แม้แต่สาวแรกรุ่นก็ยังต้องยอมแพ้ให้กับความงามของนางแม่ทัพหยางเจี้ยนไม่สามารถจะหักห้ามตัวเองได้เมื่อสายตาของเขายังคงจดจ้องไปที่ฮองเฮาซ่งหลิงหรู ทุกการเคลื่อนไหวของนางทำให้เขารู้สึกถึงความปรารถนาที่ไม่สามารถควบคุมได้ นางดึงดูดทุกความรู้สึกของเขา แม้แต่ความคิดก็ล้วนแต่หมุนวนไปที่ร่างกายและท่าทางอันเย้ายวนของนางยิ่งตอนนี้ที่นางใกล้เข้ามานั่งข้างเขาและเคลื่อนไหวรอบ ๆ ด้วยท่าทางสง่างามนั้น ร่างกายของเขาก็เริ่มตอบสนองด้วยการร้อนรุ่มขึ้นมาทุกส่วน มันเป็นเหมือนกับเวทมนตร์ที่เขาไม่อาจหลีกหนีได้ ไม่ว่าจะพยายามคิดอย่างไร สายตาของเขาก็ยังคงจับจ้องไปที่นางไม่ยอมละสายตาฮองเฮาซ่งหลิงหรู นั่งอยู่ด้านข้างแม่ทัพหยางเจี้ยนอย่างสง่างาม มือของนางถือขันสุราหรูหราที่บรรจุเหล้าจากแดนไกล ซึ่งนางกำลังจะรินให้ท่านแม่ทัพ หยางเจ
เมื่อเช้าวันใหม่มาถึง แม่ทัพหยางเจี้ยน ผู้ซึ่งเพิ่งได้รับชัยชนะในสงครามที่แดนเหนือ ก็ได้เตรียมตัวอย่างเรียบร้อยและออกเดินทางสู่ท้องพระโรงเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้หลงเซวียน ท่ามกลางบรรยากาศเช้าที่เงียบสงบและงดงาม เขาก้าวเดินอย่างมั่นคง ภูมิใจในชัยชนะที่สามารถนำมาสู่แผ่นดินและประชาชนเมื่อเข้ามาถึงท้องพระโรง แม่ทัพหยางเจี้ยนก็โค้งคำนับอย่างนอบน้อมต่อหน้าฮ่องเต้ ฮ่องเต้หลงเซวียนทรงทอดพระเนตรมองแม่ทัพผู้กล้าแกร่งด้วยความพึงพอใจ สายพระเนตรเต็มไปด้วยความภูมิใจในขุนนางผู้ภักดีที่สามารถนำชัยชนะกลับมาอย่างเด็ดขาดแม่ทัพหยางเจี้ยนเริ่มรายงานถึงการรบที่แดนเหนืออย่างละเอียด ทั้งการวางแผน การต่อสู้ที่กล้าหาญของเหล่าทหาร และวิธีการที่พวกเขาเอาชนะศัตรูได้อย่างสง่างาม นอกจากนี้ เขายังได้เสนอแนวทางในการฟื้นฟูบ้านเมืองในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ทั้งการบูรณะหมู่บ้าน ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน และจัดหาทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อให้ชาวบ้านสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคง"สมแล้วที่ตัวเจ้าเป็นคนที่ข้าไว้วางใจมากที่สุด" ฮ่องเต้หลงเซวียนตรัสด้วยความพึงพอใจ ผู้ซึ่งไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ในสนามรบได้อย่างไร้ที่ติ
ฮูหยินเหม่ยฟางนั่งอยู่ในศาลาริมน้ำ ห่างออกไปเล็กน้อยจากที่ที่แม่ทัพหยางเจี้ยนและสาวใช้เสี่ยวเอ๋อร์อยู่ สายตาของนางจับจ้องภาพตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นในใจโดยไม่ทันรู้ตัว นางรู้สึกถึงแรงปรารถนาที่พลุ่งพล่านและเข้มข้นที่ซ่อนอยู่ภายใน แผ่ซ่านไปทั่วร่างอย่างช้า ๆ ความรู้สึกที่เธอไม่อาจหักห้ามใจได้แสงแดดที่สะท้อนลงบนผืนน้ำ ส่องผ่านศาลามายังตัวนาง ขับเน้นให้ใบหน้าของเหม่ยฟางดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์อย่างเงียบ ๆ ขณะที่นางจิบชา ความรู้สึกอันแรงกล้าก็ยิ่งชัดเจนขึ้นทุกขณะ เสียงหัวใจของนางเต้นรัวจนแทบจะได้ยินชัดเจน นางรู้สึกถึงความปรารถนาที่ลุกโชนอยู่ภายใน เป็นความรู้สึกที่ท่วมท้นจนทำให้นางเผลอยิ้มบาง ๆ ออกมาหัวใจของเหม่ยฟางเริ่มสั่นไหว ขณะที่นางนั่งมองจากมุมไกล ดื่มด่ำกับภาพที่ปรากฏตรงหน้า แม้จะมีความสงบแผ่รอบตัว แต่ในใจของนางกลับเต็มไปด้วยความปรารถนาอันเงียบงัน ราวกับเป็นไฟลุกโชนที่ยากจะดับ“ท่านพี่...” ฮูหยินเหม่ยฟางขับขานเรียกด้วยเสียงอันแผ่วเบา ทว่าเต็มไปด้วยความลึกซึ้งและกระเส่า น้ำเสียงของนางแฝงไปด้วยแรงปรารถนาที่ไม่อาจซ่อนไว้ได้อีกต่อไป แม่ทัพหยางเจี้ยนหยุดชะงักเมื่อไ
ฮูหยินเหม่ยฟางนั่งเอนกายอยู่ในศาลาริมน้ำ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและเสียงน้ำกระทบฝั่งเบา ๆ นางจิบชาอย่างละเมียดละไม รสชาติเข้มข้นของชาอุ่น ๆ เติมเต็มความรู้สึกสบายใจให้แก่เธอ ในขณะที่มองฉากเร่าร้อนระหว่างแม่ทัพหยางเจี้ยนและหญิงสาวรับใช้ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ที่เผยถึงความพึงพอใจมือของนางหยิบอาหารว่างที่จัดไว้อย่างประณีตบนจาน งามเรียบง่ายและประณีตเหมือนตัวนางเอง นางมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและผ่อนคลาย ราวกับเป็นผู้เฝ้ามองทุกอย่างจากระยะไกล พลางใช้ช่วงเวลาสงบนี้ดื่มด่ำกับความสุขที่ได้เห็นคนรักของตนมีความสุขในแบบที่ตัวเองต้องการฮูหยินเหม่ยฟางยิ้มอย่างอ่อนโยน ดวงตาที่มองไปยังฉากตรงหน้ามีแววเอ็นดูปนขบขันในความเป็นชายของท่านพี่ หยางเจี้ยน สำหรับนางแล้ว เขาคือชายผู้เต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าและไฟรักที่ไม่มีวันมอดดับ แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดเขาก็ยังคงมีเสน่ห์และความดิบเถื่อนในแบบที่นางรักและชื่นชม"ท่านพี่ช่างเป็นชายที่หื่นกระหายยิ่งนัก" นางพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แฝงไปด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้ง ขณะยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้ง นางไม่รู้สึกหึงหวงแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กล
เมื่อขบวนกองทัพของแม่ทัพหยางเจี้ยนเข้ามาถึงเมืองหลวง ความตื่นเต้นและความยินดีของประชาชนก็เกิดขึ้นอย่างล้นหลาม เสียงตะโกนร้องแสดงความยินดีดังก้องไปทั่วท้องถนน ผู้คนมากมายออกมารอรับเขา ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งในความสำเร็จที่เขาได้ยุติสงครามในแดนเหนือแม่ทัพหยางเจี้ยนรู้สึกถึงความรักและการสนับสนุนจากประชาชนที่เขาได้ต่อสู้และปกป้อง เขาเดินหน้าไปพร้อมกับรอยยิ้มและการทักทายผู้คนรอบข้าง รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นนี้ พร้อมทั้งมีเชลยศึกตามกลับมามากมาย ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จของเขาในการนำกองทัพผ่านสงครามเมื่อถึงพระราชวัง แม่ทัพได้รับการต้อนรับจากฮ่องเต้หลงเซวียน พระองค์มีพระเมตตาและความเข้าใจในความเหน็ดเหนื่อยของแม่ทัพ จากการเดินทางที่ยาวนานและเต็มไปด้วยอันตราย พระองค์จึงให้แม่ทัพได้กลับไปพักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องรายงานตัวในทันทีแม่ทัพหยางเจี้ยนรู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของฮ่องเต้ และได้ขอบพระคุณพระองค์อย่างจริงใจ ก่อนที่จะออกจากพระราชวังและเดินทางกลับไปยังที่พักของตนเมื่อเสี่ยวเอ๋อร์เดินทางกลับมาถึงจวนของแม่ทัพหยางเจี้ยน ความตื่นตะลึงในดวงตาของนางไม่สามา







