ตอนที่ 2
คาดไม่ถึง
เย็นนั้นนางได้เครื่องประดับจากแม่สามีกลับมาครบ เพราะนางฝากเลี่ยงจินไปบอกว่าหากไม่ได้วันนี้นางจะขอเงินจากแม่สามีไปจ่ายค่าปรับห้าตำลึงทอง
นั่นจึงทำให้แม่สามีจอมงกรีบคืนของมาอย่างไว ทั้งที่ในใจคงไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนี้ด้วยซ้ำ
ตั้งแต่ตื่นขึ้นมานางไม่เรียกใช้เลี่ยงจิน เพราะหญิงสาวคืนคนที่วางยาในอาหารให้นางกิน ดีที่บุตรสาวนางเกิดมาสมบูรณ์ไม่พิการไปเสียก่อน
นางมารู้ตอนที่ถูกย้ายไปอยู่เรือนท้ายจวน แล้วเลี่ยงจินทนไม่ไหวที่ต้องลำบากไปกับนาง วันนั้นเลี่ยงจินเข้ามาพร้อมวางสำรับอาหารลงบนโต๊ะเต็มแรง ใบหน้าหญิงสาวกริ้วโกรธจนไม่น่ามอง
เมื่อนางถามก็ได้รับคำตอบว่า หญิงสาวไม่ต้องการรับใช้นางอีก เพราะชีวิตนางตกต่ำเพียงนั้น ได้กินข้าวเพียงวันละสองมื้อ สำรับก็มีเพียงเศษผักเศษเนื้อ
หากไปรับใช้ฮูหยินรองยังได้กินอิ่มนอนอุ่นกว่านี้ แถมยังได้รางวัลเป็นของมีค่ามากมาย
ก่อนที่เลี่ยงจินจะสารภาพอีกว่าตัวเองใส่ยาบางอย่างลงในสำรับของนางทุกมื้อ แต่เสียดายที่ลูกนางดวงแข็งไม่ยอมแท้งเสียที แถมเกิดมายังอ้วนท้วนสมบูรณ์อีก
ก่อนจะตัดขาดความเป็นนายบ่าวกันแล้ววิ่งไปเสนอตัวเป็นบ่าวของสวี่ลี่เซียน แต่ก็ถูกจัดการเพราะบ่าวเช่นนี้คงไม่มีผู้ใดคิดเก็บไว้ใกล้ตัว
“ใครต้มยาหม้อนี้” นางเอ่ยถามเมื่อต้องดื่มยาบำรุงหลังอาหาร
“บ่าวเป็นผู้ต้มเองกับมือเจ้าค่ะ นายหญิงวางใจได้” เลี่ยงจินรีบเสนอตัวเพราะเช้านี้นายสาวเพิ่งเรียกตัวเองข้ามารับใช้
“ต่อไปเจ้าไม่ต้องทำเรื่องเช่นนี้อีก ให้ไปดูแลพวกบ่าวทำความสะอาดเรือนก็พอ อิ่งอิงต่อไปเจ้ารับหน้าที่ดูแลเรื่องต้มยาให้ข้านะ”
นางเอ่ยพลางยกยาถ้วยนั้นขึ้นมาดื่มครึ่งหนึ่ง จนเห็นเลี่ยงจินออกไปแล้วจึงบ้วนยาใส่ในถ้วยตามเดิม
“นะ นายหญิงไม่ดื่มหรือเจ้าคะ” อิ่งอิงเอ่ยถามอย่างตกใจ เพราะคิดว่าในยามีสิ่งผิดปกติ
“ข้าตั้งท้องแล้ว ไม่รู้ว่าใครคิดดีคิดร้ายกับข้าบ้าง เลี่ยงจินจิตใจโลภมากเกินไปข้าจึงให้เจ้าเป็นผู้ต้มยาให้เอง เพราะงั้นอย่าทำให้ข้าผิดหวังในตัวเจ้า”
นางเอ่ยพลางเทยาถ้วยนั้นใส่กระถางต้นมู่ตานที่สามีเป็นผู้มอบให้ในวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว
อิ่งอิงมองการกระทำของนายสาวด้วยความตกใจ หากท่านแม่ทัพรู้ว่าดอกไม้ที่มอบให้ฮูหยินตายเพราะสิ่งใดคงโกรธมากเป็นแน่
เลี่ยงจินเดินหน้ามุ่ยออกมาจากเรือนนายสาว ยามพบหน้าสาวใช้คนไหนก็ตวาดใส่ไปหมด ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้สักคน ด้วยความหงุดหงิดจึงไปยืนระบายอารมณ์กับดอกไม้ในสวนใหญ่อย่างโมโห
นางนั้นไม่เข้าใจสักนิดว่าเพราะเหตุใดนายหญิงถึงไม่เรียกใช้นางเหมือนแต่ก่อน กลับเอาแต่เรียกใช้อิ่งอิงที่ทำงานเงอะงะนั่น
“นั่นเลี่ยงจินหรือ” เสียงหวานของสตรีดังขึ้นด้านหลัง เป็นฮูหยิน รองของท่านแม่ทัพนั่นเอง
“คารวะฮูหยินรองเจ้าค่ะ” เลี่ยงจินเห็นว่าเป็นผู้ใดจึงรีบทำความเคารพ ฝ่ายนั้นก็ดูตกใจกับสีหน้าสาวใช้ตรงหน้าไม่น้อย
“ใครทำให้เจ้าโมโหกัน ใบหน้าเจ้าถึงบิดเบี้ยวไม่น่ามองเช่นนี้!!” สวี่ลี่เซียนแสร้งเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“เปล่าเจ้าค่ะ” หญิงสาวตอบพลางก้มหน้าหลบสายตานั่น จะให้บอกได้อย่างไรว่าตนกำลังโกรธผู้เป็นนายตัวเองอยู่
“เปล่าได้อย่างไรก็เห็นอยู่ว่าเจ้ากำลังโกรธคนมา เจ้าเล่าให้ข้าฟังได้นะเผื่อข้าจะช่วยเจ้าได้บ้าง” สวี่ลี่เซียนเอ่ยอย่างสตรีที่มีใจเมตตา ทำให้เสี้ยวหนึ่งในใจของเลี่ยงจินคล้ายจะอบอุ่นขึ้นมา
“ข้าเล่าไปฮูหยินรองก็ไม่อาจช่วยข้าได้หรอกเจ้าค่ะ” เลี่ยงจินเอ่ยหน้าเศร้า
“ฮูหยินรองอุตส่าห์เป็นห่วงเจ้า ยังจะปฏิเสธความหวังดีของนายข้าอีก หากคิดว่านายหญิงข้าช่วยไม่ได้ก็อย่ามายืนขวางทางคนอื่นสิ!!!” เย่ถงสาวใช้ของสวี่ลี่เซียนตะคอกใส่หญิงสาว
“เย่ถงนางไม่สบายใจอยู่นะ เจ้าอย่าเสียงดังใส่นางสิ”
สวี่ลี่เซียนหันไปดุสาวใช้ตัวเอง ภาพตรงหน้าทำให้เลี่ยงจินเริ่มลังเลว่าจะเล่าเรื่องของตนให้ฮูหยินรองฟังดีหรือไม่
“นายหญิง! แต่นางเป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น นายหญิงจะใส่ใจบ่าวทุกคนในจวนไม่ได้นะเจ้าคะ” เย่ถงเอ่ยแย้งเสียงแข็ง
“เจ้าอย่าถือสาเย่ถงเลยนะ นางมักจะเสียงดังเช่นนี้แหละ เอาเช่นนี้ดีหรือไม่หากเจ้าไปสบายใจก็เพียงเล่าให้ข้าฟังก็ได้ ข้ารับปากจะไม่เอาเรื่องของเจ้าไปเล่าต่อแน่นอน อย่างไรก็ไปหาข้าที่เรือนได้เสมอนะ”
เอ่ยจบสวี่ลี่เซียนก็เดินกลับเรือนไปพร้อมขบวนสาวใช้ของนาง ทำให้เลี่ยงจินครุ่นคิดครู่หนึ่งว่าควรตามไปดีหรือไม่
ที่ผ่านมาฮูหยินรองก็ดีกับนายหญิงตลอด ไม่เคยคิดร้ายหรือแก่งแย่งความรักของท่านแม่ทัพสักครั้ง หากนางจะไปหาฮูหยินรองคงไม่เป็นไรหรอกกระมั้ง
สุดท้ายเลี่ยงจินก็ตามไปที่เรือนของฮูหยินรอง หญิงสาวเล่าความอัดอั้นตันใจที่ตัวเองประสบอยู่ในตอนนี้ให้สวี่ลี่เซียนฟังโดยไม่ปิดบัง พร้อมกับร่ำไห้ด้วยความน้อยใจที่ตนคล้ายจะถูกนายตัวเองทอดทิ้งเช่นนี้
“ข้ารู้ว่าเจ้าเสียใจ แต่เพื่อความสบายใจของเจ้าก็คิดเสียว่าข้าเป็นนายเจ้าผู้หนึ่งแล้วกัน ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำเช่นที่ฮูหยินน้อยทำกับเจ้าแน่นอน”
“.....”
“เอ๊ะ!! ข้าพูดเช่นนี้เจ้าจะคิดว่าข้ายุยงให้เจ้าแตกหักกับฮูหยินน้อยหรือไม่ ข้าเพียงอยากให้เจ้าเลิกร้องไห้เท่านั้น เช่นนั้นถือว่าข้าไม่เคยพูดก็แล้วกันนะ”
สวี่ลี่เซียนแสร้งเอ่ยอย่างตกใจ ทำให้เลี่ยงจินหยุดร้องไห้แล้วหัวเราะออกมาแทน
“ข้าจะถือว่าฮูหยินรองเป็นนายข้าคนหนึ่งเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านมากที่ทำให้ข้าน้อยรู้สึกสบายใจขึ้นเช่นนี้ แต่วันนี้ข้าน้อยคงต้องกลับไปที่เรือนมู่ตานแล้วเจ้าค่ะ” เลี่ยงจินเอ่ยพลางขอตัวลากลับ
“ได้ยินเช่นนี้ข้าก็ดีใจเจ้าเองก็ดูแลตัวเองด้วยเล่า อย่ามัวแต่ร้องไห้จนไม่กินข้าวเสียล่ะ” สวี่ลี่เซียนเอ่ยพลางยิ้มส่งสาวใช้ของศัตรู
“นายหญิงแสดงละครได้แนบเนียนมากเจ้าค่ะ บ่าวเห็นยังอดชื่นชมท่านไม่ได้ สมแล้วที่ท่านแม่ทัพแวะมาที่เรือนจวี๋ฮวาของเราบ่อย ๆ ” เย่ถงเอ่ยชมนายสาว
“หึ!! ในเรือนนั้นมีคนของเราอยู่ก็จริง แต่ไม่ได้ใกล้ชิดนังซินเหลียนเท่าเลี่ยงจิน หากเราสามารถดึงตัวเลี่ยงจินมาเป็นพวกได้ เท่านี้เราจะทำอะไรก็ง่ายแล้ว” สวี่ลี่เซียนยิ้มอย่างพึงพอใจ
“จริงเจ้าค่ะ นังเลี่ยงจินนั่นก็โง่เขลาเหมือนนายมันไม่มีผิด”
สองนายบ่าวหัวเราะพร้อมกันอย่างขบขัน อีกสองเดือนกว่าท่านแม่ทัพจะกลับมา นางคงต้องสร้างเรื่องให้นังซินเหลียนถูกท่านแม่ทัพหมางเมินให้ได้
อ้ายซินเหลียนออกมานอกจวนพร้อมอิ่งอิงสองคน โดยให้เหตุผลว่าจะไปเยี่ยมมารดาที่จวน แต่ความจริงกลับให้คนบังคับรถม้าไปจอดที่หน้าร้านยาแทน
“นายหญิงมารอพบผู้ใดงั้นหรือเจ้าคะ” อิ่งอิงเอ่ยถามนายสาวอย่างสงสัย เพราะนี่พวกนางก็รอมากว่าสองชั่วยามแล้ว
“รอไปก่อนเถอะ”
นางเอ่ยเพียงเท่านั้น เท่าที่นางจำได้เมื่อชาติก่อนสหายของนางบอกว่าได้ช่วยหมอยาคนหนึ่งไว้หน้าร้านยาแห่งนี้ และรับเข้ามาเป็นบ่าวรับใช้ใกล้ชิด ยามที่พี่สาวนางเข้าวังบ่าวผู้นี้ช่วยได้มากเลยทีเดียว
“เราไปรอที่โรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามดีหรือไม่เจ้าคะ นายหญิงนั่งอยู่ในรถม้าเช่นนี้อาจไม่สบายตัวได้” อิ่งอิงแม้จะไม่เข้าใจนายสาว แต่ก็เป็นห่วงไม่อยากให้นายสาวต้องปวดเมื่อยร่างกาย
“เอาเช่นที่เจ้าว่าก็ได้” นางเองก็เริ่มเมื่อยแล้วเช่นกันจึงได้ตอบตกลง อิ่งอิงลงไปจัดการเรื่องเปิดห้องบนชั้นสองก่อนจะมาตามนางลงไป
สองนายสาวเดินผ่านกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งไปโดยไม่ได้สนใจอะไร แต่หนึ่งในคนกลุ่มนั้นกลับมองอ้ายซินเหลียนไม่วางตา
“นางคือผู้ใดกัน” ชายหนุ่มในชุดผ้าไหมชั้นดี ดูก็รู้ว่าคงเป็นคุณชายร่ำรวยของจวนใดสักจวนเอ่ยถามคนขายซาลาเปา
“อ่อ...นั่นคือฮูหยินน้อยตระกูลเชวียนขอรับ เมื่อก่อนนางมักจะออกมาเดินเที่ยวกับสาวใช้บ่อย ๆ พอนางแต่งเข้าตระกูลแม่ทัพเชวียนแล้วก็ไม่ค่อยได้เห็นหน้าเห็นตาเลย”
พ่อค้าซาลาเปาเอ่ยตอบ พลางเล่าถึงความอ่อนหวานและใจดีของอ้ายซินเหลียนให้คนผู้นั้นฟังด้วย
“ขอบใจท่านมาก”
ชายหนุ่มเอ่ยจบก็เดินตามหญิงสาวเข้าไปในโรงเตี๊ยม แต่ก็ไม่เห็นตัวนางเสียแล้ว จึงให้คนเฝ้าไว้ส่วนตัวเองก็เปิดห้องส่วนตัวชั้นสองรอ
“ให้คนไปสืบเรื่องของนางมาอย่างละเอียด ข้าต้องการรู้ภายในเย็นนี้” เสียงทุ้มเอ่ยพลางยกสุราขึ้นดื่ม
“ท่านอ๋องแต่นางแต่งงานแล้วนะขอรับ แถมเป็นแม่ทัพเชวียนผู้นั้นอีกด้วย ท่านอ๋องอย่าไปยุ่งกับนางจะดีกว่านะขอรับ” องครักษ์เอ่ยเตือน
“สรุปแล้วข้าเป็นนาย หรือเจ้ากันแน่ที่เป็นนาย ข้าสั่งสิ่งใดก็แค่ไปทำเจ้าจะเอ่ยขัดข้าทำไม!!” อ๋องหกหวงไท่หั่วซางเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด องครักษ์คนนั้นจึงต้องไปทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
เขาอยากได้สิ่งใดก็ต้องได้ ต่อให้นางจะเป็นสตรีของชายอื่นก็ตาม ขอเพียงได้หยอกล้อเล่นกับนางจนเบื่อเดี๋ยวเขาจะเอามาคืนให้เอง นั่นคือคติของอ๋องหกผู้เอาแต่ใจและมากตัณหา
ตอนที่ 5จับผู้ร้ายจัวย่วนกำลังช่วยสาวใช้ทำขนมให้นายหญิงอยู่ กลับถูกตามตัวมาพบฮูหยินน้อยที่ห้องโถง ทำให้เพื่อนสาวใช้ด้วยกันมองตามด้วยสายตาสงสาร เพราะคิดว่าหญิงสาวไปทำบางอย่างผิดเอาไว้จนเจ้านายเรียกไปลงโทษ“จัวย่วนมาแล้วเจ้าค่ะ” อิ่งอิงเอ่ยพลางถอยไปยืนอยู่ด้านข้างนายสาวเงียบ ๆ“นายหญิงเรียกตัวจัวย่วนมา มีสิ่งใดให้จัวย่วนรับใช้หรือเจ้าคะ” หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อนายสาวไม่พูด“ข้าได้ยินว่าเจ้าพอจะมีความรู้เรื่องสมุนไพรมาบ้าง จึงอยากให้เจ้าดูว่าในยาถ้วยนี้มีสิ่งผิดปกติหรือไม่” นางเอ่ยพลางยื่นยาถ้วยนั้นให้จัวย่วนดูหญิงสาวรับไปก่อนจะดมกลิ่นและยกดื่ม ก่อนจะเผยสีหน้าตกใจออกมาให้เห็น“ยานั่นมีสิ่งผิดปกติใช่หรือไม่!!” อิ่งอิงที่ร้อนใจอยู่ก่อนแล้วเอ่ยถามเพื่อเอาคำตอบทันที“เจ้าค่ะ ในยามีส่วนผสมที่ผิดปกติจริง ๆ ข้าน้อยขอจับชีพจรนายหญิงได้หรือไม่เจ้าค่ะ”“ได้สิ อิ่งอิงเจ้าไปเอาห่อยาที่เหลือมาที” นางเอ่ยอย่างใจเย็น ก่อนจะยื่นแขนให้จัวย่วนจับชีพจรให้หญิงสาวจับชีพจรก่อนจะเผยสีหน้าโล่งใจออกมา นางไม่ได้ยุ่งในส่วนต้มยาจึงไม่รู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมปนอยู่ในยาด้วย“ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กในท้องเจ้าค่ะ แต่ก็ไม่อาจ
ตอนที่ 4ข่าวดีเช้าวันนี้เรือนจวี๋ฮวาต้องตามหมอแต่เช้า เพราะนายหญิงของเรือนอาเจียนอย่างหนัก ฮูหยินใหญ่เร่งรีบไปดูอาการสะใภ้คนรองอย่างเป็นห่วง เพราะในใจเกิดสังหรณ์ว่าจะเป็นข่าวดี“ฮูหยินรองเป็นอย่างไรบ้าง!!” เข้าไปถึงก็ถามสาวใช้ที่เฝ้าหน้าห้องทันที“หมอกำลังตรวจอาการอยู่ยังไม่ออกมาเลยเจ้าค่ะ” เมื่อได้คำตอบจึงรีบเข้าไปด้านในทันที“ยินดีกับฮูหยินรองด้วยชีพจรมงคลขอรับ อายุครรภ์น่าจะสองเดือนกว่าแล้ว” หมอผู้นั้นเอ่ยพลางยิ้มให้สตรีบนเตียงอย่างยินดี“ท่านหมอว่าอย่างไรนะ สะใภ้ของข้าตั้งท้องงั้นหรือ!!”หม่าฮุ่ยซืออุทานอย่างดีใจ ที่สะใภ้ของนางทั้งสองตั้งท้องพร้อมกันเช่นนี้“ท่านแม่ข้าท้องแล้วเจ้าค่ะ” สวี่ลี่เซียนเอ่ยทั้งน้ำตา“ใช่เจ้าท้องแล้ว! เจ้าก็ท้องเหลียนเอ๋อร์ก็ท้อง ข้าจะได้หลานชายพร้อมกันถึงสองคน เจ้าพักผ่อนให้มากดูแลตัวเองให้ดี เรื่องมงคลเช่นนี้ต้องรีบเขียนจดหมายไปบอกท่านแม่ทัพก่อน”ฮูหยินใหญ่จากไปด้วยอาการดีใจ นางกำลังจะมีหลานชายพร้อมกันถึงสองคน แถมยามคลอดตระกูลเชวียนก็จะได้รับของขวัญมากมาย นางจะไม่ดีใจได้อย่างไรข่าวเรื่องฮูหยินรองตั้งท้องถูกถ่ายทอดให้อ้ายซินเหลียนรับรู้ในเวลาต่อมา ยา
ตอนที่ 3กว่าจะได้พบกันอ้ายซินเหลียนรออยู่จนตะวันเกือบตกดินจึงตัดใจกลับจวนก่อน แต่พอกำลังขึ้นรถม้ากลับได้ยินเสียงร่ำไห้อ้อนวอนของสตรีผู้หนึ่งดังมาจากฝั่งร้านยา“หลงจู้ท่านได้โปรดช่วยให้ยาพวกนี้แก่ข้าก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าเอาเงินมาจ่ายให้ท่านแน่นอน” เสียงของสตรีที่กอดขาชายชราเอ่ยอ้อนวอนทั้งน้ำตา แต่คนที่เป็นหลงจู้ร้านยาหาได้คิดเห็นใจไม่“ปล่อยข้า!! ไม่มีเงินแล้วยังกล้าเข้ามาในร้านอีก ข้าไม่มียาให้เจ้าหรอก กลับไปเสียนังขอทาน!!!” หลงจู้ผู้นั้นเอ่ยพลางสะบัดขาออกจากการเกาะกุม“น้องสาวข้าจะตายแล้ว นางจะทนไม่ไหวแล้วท่านได้โปรดเมตตาข้าสักครั้งเถอะนะ เห็นใจข้าเถิดน้องข้าต้องการยานั่นจริง ๆ ให้ข้าเป็นบ่าวรับใช้ในร้านท่านก็ได้ ท่านช่วยเห็นใจข้าสักครั้งเถอะนะ”หญิงสาวเอ่ยขอร้อง แต่ถูกหลงจู้ผู้นั้นกระทืบซ้ำจนสลบไปตรงถนนหน้าร้าน ก่อนคนจะเดินกลับเข้าร้านไปอย่างไม่ใยดี“นายหญิงเรากลับกันก่อนเถอะเจ้าค่ะ อย่าไปสนใจนางเลย”อิ่งอิงสะกิดแขนนายสาวให้เดินต่อ แต่นางยังเอาแต่ยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้านิ่ง“นางคืนคนที่เราตามหา เจ้ามาช่วยข้าพานางไปส่งโรงหมอที” นางเอ่ยพลางเดินข้ามถนนไปดูหญิงสาวที่นอนหมดสติอยู่พอ
ตอนที่ 2คาดไม่ถึงเย็นนั้นนางได้เครื่องประดับจากแม่สามีกลับมาครบ เพราะนางฝากเลี่ยงจินไปบอกว่าหากไม่ได้วันนี้นางจะขอเงินจากแม่สามีไปจ่ายค่าปรับห้าตำลึงทองนั่นจึงทำให้แม่สามีจอมงกรีบคืนของมาอย่างไว ทั้งที่ในใจคงไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนี้ด้วยซ้ำตั้งแต่ตื่นขึ้นมานางไม่เรียกใช้เลี่ยงจิน เพราะหญิงสาวคืนคนที่วางยาในอาหารให้นางกิน ดีที่บุตรสาวนางเกิดมาสมบูรณ์ไม่พิการไปเสียก่อนนางมารู้ตอนที่ถูกย้ายไปอยู่เรือนท้ายจวน แล้วเลี่ยงจินทนไม่ไหวที่ต้องลำบากไปกับนาง วันนั้นเลี่ยงจินเข้ามาพร้อมวางสำรับอาหารลงบนโต๊ะเต็มแรง ใบหน้าหญิงสาวกริ้วโกรธจนไม่น่ามองเมื่อนางถามก็ได้รับคำตอบว่า หญิงสาวไม่ต้องการรับใช้นางอีก เพราะชีวิตนางตกต่ำเพียงนั้น ได้กินข้าวเพียงวันละสองมื้อ สำรับก็มีเพียงเศษผักเศษเนื้อหากไปรับใช้ฮูหยินรองยังได้กินอิ่มนอนอุ่นกว่านี้ แถมยังได้รางวัลเป็นของมีค่ามากมาย ก่อนที่เลี่ยงจินจะสารภาพอีกว่าตัวเองใส่ยาบางอย่างลงในสำรับของนางทุกมื้อ แต่เสียดายที่ลูกนางดวงแข็งไม่ยอมแท้งเสียที แถมเกิดมายังอ้วนท้วนสมบูรณ์อีกก่อนจะตัดขาดความเป็นนายบ่าวกันแล้ววิ่งไปเสนอตัวเป็นบ่าวของสวี่ลี่เซียน แต่ก็ถู
บทที่ 1จุดเริ่มต้นที่เหมือนจะสายเกินไป เสียงวุ่นวายปลุกหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงให้ตื่นขึ้น ภาพแรกที่ปรากฏสู่สายตาคือเพดานที่แสนคุ้นตา เมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ ก็พบว่านี่คือห้องของนางในเรือนมู่ตานนั่นเอง นี่มันเรื่องอะไรกัน “ฮูหยินน้อยฟื้นแล้ว บ่าวตกใจแทบแย่ที่อยู่ ๆ ฮูหยินน้อยก็เป็นลมไป ดื่มน้ำก่อนนะเจ้าคะ” เลี่ยงจินสาวใช้คนสนิทของนางเดินถือถ้วยน้ำเปล่าเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เพล้ง!!!! “ออกไป!! ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้า!! นังบ่าวสารเลว!!”อ้ายซินเหลียนยังจำได้ดีว่าสาวใช้ผู้นี้ทำอะไรกับนางเอาไว้บ้าง ดวงตาแดงก่ำของนายสาวทำให้เลี่ยงจินรีบวิ่งหนีออกไปอย่างลนลาน พอดีกับที่อิ่งอิงเดินสวนเข้ามาพอดี “พี่เลี่ยงจินท่านจะไปไหน แล้วนี่วิ่งหนีสิ่งใดมานายหญิงเล่า!”อิ่งอิงสาวใช้รุ่นน้องเอ่ยถามด้วยท่าทีตื่นตระหนก ก่อนจะรีบเข้าไปดูผู้เป็นนายในห้องนอน อ้านซินเหลียนนั่งงุนงงอยู่บนเตียง ในใจนั้นสับสนมึนงงว่าตนมาอยู่ที่เรือนเดิมได้อย่างไร เมื่อลองลุกไปส่องกระจกกลับพบว่าใบหน้าของนางยังคงอ่อนเยาว์ มือสองข้างอ่อนนุ่มไร้ร่องรอยความหยาบกร้านจากการทำงานหนักอย่า
คำโปรย อ้ายซินเหลียน บุตรสาวฮูหยินเอกแห่งจวนเสนาบดี ชีวิตเกิดมาพบเจอเพียงความสุขสบาย มารดาไม่ต้องแย่งชิงอำนาจกับเหล่าอนุในจวน นางจึงไม่เคยพบเจอการแก่งแย่งชิงดีของเหล่าสตรี นั่นจึงเป็นสาเหตุให้นางอ่อนแอ หม่าฮุ่ยซือ แม่สามีหน้าไหว้หลังหลอก กลับกรอก ปลิ้นปล้อนราวกับนางจิ้งจอก ใครให้สิ่งที่ตนต้องการได้ก็เข้าข้างฝ่ายนั้น ความปากหวานของแม่สามีทำให้นางหลงคิดว่าเป็นพวกเดียวกับนาง แต่ใครจะรู้ว่านี่คืออสรพิษดี ๆ นี่เอง สวี่ลี่เซียน ฮูหยิรองของสามีก็ไม่ต่างกัน ทำตัวน่าสงสารเป็นดอกบัวขาว ทั้งที่ข้างในเน่าเฟะยิ่งกว่าอาจม หญิงสาวผู้นี้คือคนที่สั่งควักหัวใจบุตรสาวนางเพื่อเอาไปทำยารักษาให้ลูกตัวเอง สามีนางนะหรือ หึ!! เชวียนจิ่นสือแม่ทัพใหญ่บูรพา เขาเหมือนจะใส่ใจแต่ยามเกิดเรื่องกลับไม่เคยเอ่ยปากช่วยนางสักคำ ทำได้ดีเพียงหน้าที่แม่ทัพปกป้องแคว้น แต่ไม่เคยปกป้องฮูหยินของตัวเองได้เลยสักครั้ง ชีวิตนางบัดซบนัก มีโอกาสแต่งเข้าจวนแม่ทัพแต่ไม่สามารถปกครองคนใต้บัญชาได้ ช่างโง่เขลาจริง ๆ สมแล้วที่นางสูญเสียทุกอย่างแม้กระทั่งเลือดเนื้อตัวเองเช่น ลูก แต่ครั้งนี