LOGINบทที่ 1
จุดเริ่มต้นที่เหมือนจะสายเกินไป
เสียงวุ่นวายปลุกหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงให้ตื่นขึ้น ภาพแรกที่ปรากฏสู่สายตาคือเพดานที่แสนคุ้นตา เมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ ก็พบว่านี่คือห้องของนางในเรือนมู่ตานนั่นเอง นี่มันเรื่องอะไรกัน
“ฮูหยินน้อยฟื้นแล้ว บ่าวตกใจแทบแย่ที่อยู่ ๆ ฮูหยินน้อยก็เป็นลมไป ดื่มน้ำก่อนนะเจ้าคะ” เลี่ยงจินสาวใช้คนสนิทของนางเดินถือถ้วยน้ำเปล่าเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เพล้ง!!!!
“ออกไป!! ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้า!! นังบ่าวสารเลว!!”
อ้ายซินเหลียนยังจำได้ดีว่าสาวใช้ผู้นี้ทำอะไรกับนางเอาไว้บ้าง ดวงตาแดงก่ำของนายสาวทำให้เลี่ยงจินรีบวิ่งหนีออกไปอย่างลนลาน พอดีกับที่อิ่งอิงเดินสวนเข้ามาพอดี
“พี่เลี่ยงจินท่านจะไปไหน แล้วนี่วิ่งหนีสิ่งใดมานายหญิงเล่า!”
อิ่งอิงสาวใช้รุ่นน้องเอ่ยถามด้วยท่าทีตื่นตระหนก ก่อนจะรีบเข้าไปดูผู้เป็นนายในห้องนอน
อ้านซินเหลียนนั่งงุนงงอยู่บนเตียง ในใจนั้นสับสนมึนงงว่าตนมาอยู่ที่เรือนเดิมได้อย่างไร เมื่อลองลุกไปส่องกระจกกลับพบว่าใบหน้าของนางยังคงอ่อนเยาว์ มือสองข้างอ่อนนุ่มไร้ร่องรอยความหยาบกร้านจากการทำงานหนักอย่างที่ควรเป็น
เมื่อลองค้นหนังสือที่นางชอบคัดลอก กลับพบว่านี่เป็นปีสี่ปีก่อนที่นางจะตาย
“ฮูหยินน้อยลุกขึ้นมาได้อย่างไรเจ้าคะ หากท่านเป็นลมไปอีกจะทำอย่างไร!!” อิ่งอิงวิ่งเข้ามาเห็นผู้เป็นนายยืนอยู่หน้าโต๊ะเขียนหนังสือ จึงรีบเข้ามาประคองไปนั่งที่เก้าอี้มุก ก่อนจะรินน้ำในกาให้ดื่ม
“ตอนนี้คือรัชศกใดแล้ว” อ้ายซินเหลียนเอ่ยถามสาวใช้ตรงหน้าเพื่อความแน่ใจ
“นายหญิงเป็นลมจนสติเลอะเลือนไปแล้วหรือเจ้าคะ นี่คือเดือนที่สามรัชศกหวงไท่ปีที่สิบเอ็ดเจ้าค่ะ อีกอย่างที่นายหญิงเป็นลมไปนั้น หมอบอกว่าท่านตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วเจ้าค่ะ” อิ่งอิงเอ่ยอย่างดีใจ
“เจ้ามีอะไรก็ไปทำก่อนเถอะ ข้าอยากอยู่คนเดียว” นางเอ่ยไล่สาวใช้ออกไป เพราะต้องการคิดไตร่ตรองเรื่องทุกอย่าง
เดิมนางเป็นบุตรสาวเสนาบดีฝ่ายซ้าย มีพี่ชายเป็นรองแม่ทัพประจิม มารดาเป็นฮูหยินตราตั้งยามออกงานเลี้ยงได้รับความเกรงใจทุกครั้ง
นางได้รับราชโองการจากฝ่าบาทให้แต่งเข้าจวนตระกูลเชวียน เชวียนจิ่นสือ แม่ทัพบูรพาที่อายุน้อยที่สุด ฝีมือเก่งกาจ เด็ดขาดไม่เคยใจอ่อนให้ศัตรู และนั่นทำให้เขาไม่เคยพ่ายแพ้ยามออกรบสักครั้ง
นางภาคภูมิใจในตัวสามีมาก เทิดทูนบูชาเขาไว้เหนือศีรษะ แต่นั่นมันก่อนที่นางจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งต่างหาก
หึ!! สามีที่เหมือนจะดี...แต่ก็แค่เหมือน ยามนางต้องการความช่วยเหลือกลับไม่เคยช่วยนางได้สักครั้ง จดหมายที่นางส่งไปไม่เคยได้รับการตอบสักฉบับ
เขาทำหน้าที่แม่ทัพได้ดีมาก แต่ไม่เคยทำหน้าที่สามีได้ดีเลยสักครั้ง
แต่หากเป็นอย่างที่อิ่งอิงพูด แปลว่านางย้อนเวลากลับมาตอนที่ตั้งท้องพอดี เช่นนั้นเรื่องทุกอย่างก็ยังไม่สายเกินไป จะดีกว่านี้มากหากนางย้อนไปตอนก่อนจะแต่งเข้าตระกูลเชวียน
หญิงสาวมองชามน้ำในมืออย่างเหม่อลอย เพราะเรื่องที่ตนประสบมานั้นเล่าให้ผู้ใดฟังก็คงไม่มีใครเชื่อ ขนาดตัวนางยังไม่อยากเชื่อเลยด้วยซ้ำ
ในเมื่อได้โอกาสแก้ไขนางก็จะทำมันให้ดี อย่าโทษว่านางโหดร้ายเลยนะ เพราะสิ่งที่นางจะทำจากนี้คือสิ่งที่พวกมันทุกคนสมควรได้รับ
หากวันนี้คือวันที่รู้ว่านางตั้งท้อง เช่นนั้นเดี๋ยวแม่สามีก็คงมาหานางที่เรือนเป็นแน่ นางจึงให้อิ่งอิงเข้ามาช่วยอาบน้ำเปลี่ยนชุดให้ โดยไม่เรียกหาเลี่ยงจินอย่างที่เคย
สร้างความประหลาดใจและไม่พอใจให้เลี่ยงจินอย่างมาก เพราะปกตินายสาวจะเรียกหานางคนแรก เพราะนางรู้ใจนายสาวมากกว่าอิ่งอิง
และบ่ายวันนั้นแม่สามีกับฮูหยินรองของสามีก็มาพบนางอย่างที่คาดไว้ ทั้งสองมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มยินดี แต่นางกลับมองว่ามันดูเสแสร้งมากกว่า
“เจ้าท้องแล้วต่อไปนี้ต้องดูแลตัวเองให้ดี อาหารก็ต้องเลือกให้ดีไม่เช่นนั้นลูกออกมาจะตัวเล็กได้ เข้าใจหรือไม่” หม่าฮุ่ยซือเอ่ยกับสะใภ้ด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“ข้าก็ยินดีกับฮูหยินน้อยด้วยนะเจ้าคะ นี่เป็นยาบำรุงที่ข้าได้มาจากหมอหลวง สูตรนี้เป็นยาที่เหล่าสนมในวังดื่มกัน จะช่วยให้เด็กแข็งแรงเจ้าค่ะ” สวี่ลี่เซียนเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
สวี่ลี่เซียนคือบุตรสาวราชครูที่แต่งเข้ามาเป็นฮูหยินรองก่อนอ้ายซินเหลียน แต่ด้วยธรรมเนียมที่ฮูหยินเอกยังไม่ตั้งครรภ์ ฮูหยินรองหรืออนุจะไม่สามารถตั้งครรภ์ก่อนได้
นั่นจึงทำให้หญิงสาวถูกแม่สามีบังคับให้ดื่มยาคุมเสมอมา แต่มีหรือที่สวี่ลี่เซียนจะยอมดื่มยาเหล่านั้นให้ตนเองลำบากภายหน้า
สาวใช้ของนางรับยานั่นเอาไว้ อ้ายซินเหลียนมองคนทั้งสองด้วยสายตาที่อ่านยาก ทำเอาพวกนางเกิดความระแวงในใจว่าเหตุใดสตรีตรงหน้าที่เคยอ่อนหวานจึงมองพวกตนเช่นนั้น
“ขอบคุณท่านแม่และฮูหยินรองมาก ยาบำรุงนี้ข้าจะดื่มมันแน่นอน ไม่รู้ว่าการตั้งท้องจะยากลำบากเพียงใด นี่แค่สองเดือนก็มีอาการแพ้ท้องเสียแล้ว เห้อ!!”
นางแสร้งเอ่ยพลางถอนหายใจ มือบางลูบท้องตัวเองเบา ๆ อย่างรักใคร่ ทำให้แววตาของสวี่ลี่เซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ตั้งท้องอาจลำบาก แต่เจ้ากำลังจะเป็นแม่คนแล้วอย่างไรก็ต้องอดทนให้มาก เพื่อหลานชายข้าเขาจะได้เกิดมาอย่างแข็งแรง” แม่สามีเอ่ยพลางหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
คำพูดของแม่สามียิ่งทำให้สวี่ลี่เซียนไม่พอใจมากกว่าเดิม นางไม่ยอมให้นังซินเหลียนได้ความรักจากท่านแม่ทัพไปหมดคนเดียวแน่
“เช่นนั้นข้าไม่รบกวนฮูหยินน้อยแล้วเจ้าค่ะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยอย่างไรฮูหยินน้อยก็รักษาสุขภาพด้วย ข้าเองก็รู้สึกเพลียอย่างไรไม่รู้ คงต้องขอตัวกลับเรือนก่อน”
สวี่ลี่เซียนเอ่ยพลางเดินกลับออกจากเรือนมู่ตานไป เหลือเพียงแม่สามีกับอ้ายซินเหลียนที่นั่งอยู่กันตามลำพัง
“เหลียนเอ๋อร์ อีกสามวันแม่จะไปร่วมงานเลี้ยงดื่มชาที่จวนเจิ้งโหว แต่ยังหาเครื่องประดับที่ถูกใจใส่ไปงานไม่ได้เลย ครั้งที่แล้วที่มายืมเครื่องประดับเจ้า แม่จำได้ว่าเจ้ามีชุดเครื่องประดับไข่มุกสีชมพูอยู่ชุดหนึ่งใช่หรือไม่”
หม่าฮุ่ยซือเอ่ยปากถามทันทีเมื่ออยู่กันตามลำพัง ซึ่งครั้งนี้นางตั้งใจจะใส่เครื่องประดับมุขล้ำค่านี้ไปอวดเหล่าฮูหยินเหล่านั้น
“ใช่เจ้าค่ะ” นางรู้ว่าเจตาของแม่สามีต้องการสื่ออะไร เพียงแต่ไม่ได้ตอบสนองเช่นทุกทีเท่านั้น
หม่าฮุ่ยซือเห็นหญิงสาวตรงหน้าไม่ยอมเอ่ยปากเองเช่นทุกครั้ง จึงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เพื่อหน้าตาแล้วตนจึงเอ่ยปากแทน
“เจ้าพอจะให้แม่ยืมเครื่องประดับไข่มุกสีชมพูของเจ้าได้หรือไม่”
อ้ายซินเหลียนยิ้มออกมาทันที เพราะมันตรงกับที่นางเคยรับรู้มาเมื่อชาติที่แล้ว แต่พอนางให้ยืนก็ไม่เคยได้คืนสักครั้ง
“ท่านแม่ข้าก็อยากให้ท่านแม่ยืม แต่คุณหนูอ้ายสายรองให้คนมาขอยืมไปเมื่อวันก่อนเองเจ้าค่ะ เห็นนางบอกว่าจะเอาไปใส่อวยสหายของนาง เลยยังไม่รู้ว่าจะเอามาคืนเมื่อไหร่”
คำตอบของนางทำให้แม่สามีใบหน้าบูดบึ้งอย่างไม่พอใจ แต่ดูท่าแล้วคนตรงหน้ายังไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไป
“เช่นนั้นเครื่องประดับทับทิมขาวของเจ้าเล่า แม่ขอยืมได้หรือไม่ ชุดนั้นก็งดงามไม่แพ้กันเลย”
“ขออภัยเจ้าค่ะ เครื่องประดับชุดนั้นข้าส่งไปทำความสะอาดที่ร้านฟางหรูเมื่อเช้านี้เอง รวมถึงเครื่องประดับอื่น ๆ ด้วย จริงสิที่ท่านแม่ยืมไปข้าก็ขอคืนด้วยนะเจ้าคะ เพราะถึงรอบที่จะต้องส่งทำความสะอาดแล้ว ไม่เช่นนั้นเครื่องประดับจะเก่าไม่เปล่งประกายเจ้าค่ะ”
นางถือโอกาสทวงคืนเครื่องประดับทั้งหมดเลย เพราะเท่าที่จำได้แม่สามียืมเครื่องประดับของนางไปกว่าห้าชุด แล้วยังไม่เอามาคืนสักชุด
ก่อนหน้านี้นางไม่กล้าทวงเพราะเห็นว่าเป็นแม่สามี แต่พอไม่ถามฝ่ายนั้นก็ไม่พูด ครั้นจะให้นางทวงถามเองตัวเองในอดีตก็ไม่กล้าอีก
“เออ...เดี๋ยวแม่ให้คนเอามาให้นะ”
หม่าฮุ่ยซือเห็นว่าตนจะเสียมากกว่าได้ จึงหาเรื่องบ่ายเบี่ยงเพื่อหนีกลับเรือน เรื่องจะคืนของนั้นฝันไปเถอะ
“ไม่รบกวนท่านแม่หรอกเจ้าค่ะ ข้าจะให้สาวใช้ตามท่านแม่กลับไปเลย เพราะต้องส่งไปทำความสะอาดวันนี้ ไม่เช่นนั้นราคาที่ต้องจ่ายจะมากขึ้น เพราะถูกปรับเรื่องไม่ตรงเวลาเจ้าค่ะ”
นางเอ่ยพลางยิ้มให้แม่สามีอย่างใส่ซื่อ ทำเอาแม่สามีนางใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ก่อนจะขอกลับเรือนทันที
“นายหญิงเพิ่งส่งเครื่องประดับไปทำความสะอาดเมื่อเดือนก่อนเองไม่ใช่หรือเจ้าคะ” อิ่งอิงเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ก็ใช่ แต่แล้วอย่างไรข้าบอกจะส่งไปทำความสะอาดมันก็ต้องเป็นเช่นนั้นสิ” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มือบางหมุนถ้วยชาไปมาก่อนจะวางมันไว้บนโต๊ะ
“บ่าวผิดไปแล้วที่ถามอะไรไม่เข้าเรื่องเจ้าค่ะ” อิ่งอิงรีบคุกเข่าทันทีเพราะคิดว่าตัวเองทำสิ่งใดให้นายหญิงไม่พอใจเข้า
“เจ้าเป็นเช่นนี้จึงถูกผู้อื่นรังแก สิ่งใดที่เจ้าไม่ผิดจงอย่าก้มหัวให้ผู้อื่นง่าย ๆ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกเหยียบจนจมดิน เข้าใจที่ข้ากำลังสอนหรือไม่”
อิ่งอิงพยักหน้ารับแรง ๆ ในใจนั้นคิดว่านายหญิงน่ากลัวกว่าปกตินัก หรืออาจหงุดหงิดเพราะตั้งท้องก็ไม่รู้
“พรุ่งนี้เราจะไปร้านยาหนิงเจี้ยนกัน เจ้าไปแจ้งพ่อบ้านให้เตรียมรถม้าไว้ให้ข้าด้วย” นางเอ่ยสั่งก่อนจะไล่อิ่งอิงออกไป
นางต้องไปตามหาคนผู้หนึ่ง ไม่สิ! หลายคนเลยล่ะ พวกเขาจะสามารถช่วยนางได้ในอนาคตแน่
ตอนที่ 25สตรีหนึ่งเดียวในใจ (จบ)ภาคชาติแรกเสียงเครื่องดนตรีในงานมงคลดังจนชาวบ้านที่ออกมามุงดูตามสองข้างทางต้องยกมือปิดหู บางคนร่วมปรบมือยินดีด้วย บางคนโปรยดอกไม้จนถนนที่ขบวนเจ้าสาวผ่านเต็มไปด้วยสีสันงดงาม“งานสมรสของท่านแม่ทัพบูรพากับคุณหนูใหญ่เสนาบดีอ้ายช่างยิ่งใหญ่นัก เจ้าดูสิขบวนสินสอดยาวจนจะเลยออกนอกประตูเมืองอยู่แล้ว”“จริงด้วย ๆ ข้าอิจฉาคุณหนูใหญ่อ้ายจริง ๆ ที่ได้สามีเช่นท่านแม่ทัพ ทั้งหล่อเหลาและเก่งกาจ”เสียงชาวบ้านเอ่ยถึงงานแต่งที่เป็นยิ่งใหญ่ของสองจวนใหญ่ ทุกคนต่างอิจฉาที่ท่านแม่ทัพให้เกียรติว่าที่ฮูหยินเพียงนี้ยามแต่งเข้าทุกคนยิ้มแย้มชื่นมื่น ไม่ต้องพูดถึงตัวชายหนุ่มที่เป็นสามี เขายินดียิ่งกว่าสิ่งใดยามรู้ว่านางตั้งครรภ์เขาอยากประกาศให้ทั้งแผ่นดินรู้ด้วยซ้ำ ดีใจจนนอนไม่หลับไปหลายคืน แถมยินดีแพ้ท้องแทนนางอย่างเต็มใจแต่
ตอนที่ 24แตกสลายเย็นนั้นสวี่ลี่เซียนมีความสุขอย่างมาก เพราะสาวใช้มารายงานว่านังซินเหลียนกินข้าวสำรับนั้นเข้าไปแล้ว แถมยังมากกว่าปกติอีกด้วย ทำเอานางมีความสุขจนเติมข้าวอีกชามเลยทีเดียว“ลิ่งอินของหวานวันนี้คืออะไรงั้นหรือ” หญิงสาวเอ่ยถามสาวใช้อย่างอารมณ์ดี“เป็นบัวลอยน้ำขิงเจ้าค่ะ นายหญิงจะรับเลยหรือไม่” ลิ่งอินเห็นนายสาวอารมณ์ดี ตนก็มีความสุขไปด้วยแต่นั่นมันก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เมื่ออยู่ ๆ หญิงสาวก็ปวดท้องขึ้นมาอย่างรุนแรงจนไม่อาจนั่งตัวตรงได้“โอ๊ย!!! นังบ่าวโง่เจ้าเอาอะไรมาให้ข้ากินเนี่ย!!” สวี่ลี่เซียนเอามือกุมท้องอย่างเจ็บปวดจนซุกหน้าลงกับโต๊ะทานข้าวเพล้ง!!!!เสียงถ้วยชามตกแตก เพราะสวีลี่เซียนตกจากเก้าอี้แล้วดึงผ้าปูโต๊ะลงมาด้วย ทำเอาสาวใช้ด้านนอกรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว“ตามหมอมาเร็วนายหญิงปวดท้อง!!”ลิ่งอินได้สติจึงสั่ง
ตอนที่ 23คืนสนองฮูหยินใหญ่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเจ็บปวดจากการคลอดลูก เมื่อได้สติก็จดจำได้ว่าลูกที่ตนเฝ้ารอไม่อยู่กับตัวเองแล้ว“ใครอยู่ด้านนอกบ้าง ลูกของข้าอยู่ไหน ลูก!!!!”เสียงกรีดร้องดังลั่นเรือนแต่ไร้ซึ่งสาวใช้เข้ามาดูแล หม่าฮุ่ยซือพยายามคลานลงจากเตียงไปที่เปลเด็กในห้องทันทีที่เห็นด้านในก็ถึงกับผงะ เพราะในนั้นมีเด็กทารกตัวขาวซีด แขนขาถูกแยกจากร่างว่างอยู่ในเปล“ละ ลูกข้า ฮื่อ!!!!!” เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจทำให้สตรีที่ยืนอยู่หน้าเรือนมองด้วยสายตาสมเพชครั้งนั้นเป็นท่านไม่ใช่หรือที่สั่งให้ควักหัวใจบุตรสาวข้า พอได้ลองสูญเสียลูกตัวเองบ้างกลับกรีดร้องราวกับสัตว์ป่าบาดเจ็บ หึ!! ช่างน่าสมเพชนัก!!“นายหญิงจะเข้าไปด้านในหรือไม่เจ้าคะ” จัวย่วนเอ่ยนายสาว“เข้าไปแล้วข้าช่วยอะไรได้ ให้นางอยู่กับความเจ็บปวดนั้นไปเถอะ”นางเอ่ยพลางหมุนตัวเดินกล
ตอนที่ 22สะใภ้แสนดี...จริงหรือพูดจบฮูหยินใหญ่ก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง ทำให้ทุกคนไม่กล้าถามต่อ ก่อนจะถูกไล่ให้ออกไปข้างนอกเพราะฮูหยินใหญ่ต้องการอยู่คนเดียว“ไม่อยากเชื่อว่าฮูหยินใหญ่แอบคบชู้!” สวี่ลี่เซียนอุทานออกมา แต่ก็ถูกสายตาคมดุของสามีด่าทางอ้อม“เรื่องนี้ไม่อาจแพร่งพรายออกไปได้ พวกเจ้าคงรู้ว่าควรทำอย่างไร” ชายหนุ่มเอ่ยพลางเดินออกจากเรือนไปแต่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว ข่าวที่ฮูหยินใหญ่เชวียนตั้งท้องกับอดีตรองเจ้ากรมปู้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวง จนผู้คนมายืนด่าทอสาปแช่งกันที่หน้าจวนทำให้เชวียนจิ่นสือที่จะออกไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทต้องฝ่าออกไปเลยทีเดียว“นังผู้หญิงแพศยา ต่ำช้าจริง ๆ อดีตแม่ทัพไม่น่าแต่งเจ้าเป็น ฮูหยินเอกเลยจริง ๆ!!!”“สามีตายไปแล้วแทนที่จะเข้าวัดถือศีล แต่กลับมัวเมากับบุรุษที่เป็นสามีผู้อื่น ไร้ยางอาย!!!”“แถมยังต้องท้องเพียงนี้ ข
ตอนที่ 21ท้อง...งั้นหรือสวี่ลี่เซียนถูกปลดจากตำแหน่งฮูหยินรองเป็นเพียงอนุ ทำให้หญิงสาวถึงขั้นตรอมใจจนล้มป่วย เพราะทำอย่างไรก็ไม่อาจได้ตำแหน่งนั้นคืนได้แล้วส่วนเรื่องโต้วไป๋หลานนั้นเป็นเพราะอ๋องหกเขียนจดหมายมาหานาง บอกว่าเจอครอบครัวเดิมของไป๋หลานมาตามหาตัวบุตรสาว แม้นางจะรู้ว่านั่นเป็นเรื่องโกหก แต่นางก็ยอมปล่อยให้โต้วไป๋หลานได้เลือกเองเพราะนางก็ไม่ได้มีความแค้นกับหญิงสาวมาก่อน แม้จะถูกรับเข้ามาเป็นอนุของชายผู้นั้น แต่ก็พอรับรู้ได้ว่าหญิงสาวไม่ได้เต็มใจ“นายหญิงมีคนพบศพครอบครัวโต้วที่ชายป่าก่อนเข้าเมืองมู่ชิงเจ้าค่ะ” ซูปี้เข้ามารายงาน ทำให้นางวางพู่กันในมือลง“เวรกรรมของนางแท้ ๆ แต่อย่างน้อยก็ได้อยู่กับครอบครัวก่อนตายล่ะนะ ว่าแต่อ๋องหกจะช่วยให้พวกเขาพบกันไปเพื่อสิ่งใด ในเมื่อสุดท้ายก็สังหารพวกเขาทั้งหมดอยู่ดี”“อาจเป็นเพราะโต้วไป๋หลานรู้ความลับของอ๋องสามเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้อ๋องสามจั
ตอนที่ 20กลับบ้านบ่ายวันนั้นจดหมายของสวี่ลี่เซียนก็ถูกส่งออกไป แต่ถูกคนของอ้ายซินเหลียนที่รออยู่ก่อนแล้วดักเอาไว้“เป็นเช่นที่นายหญิงพูดเจ้าค่ะ สวี่ลี่เซียนส่งจดหมายขอความช่วยเหลือจากท่านแม่ทัพจริง ๆ ” จัวย่วนเอ่ยพลางวางจดหมายลงบนโต๊ะนายสาวเรื่องของตระกูลสวี่นางรู้มาสักพักแล้ว เพราะคนของนางบังเอิญไปเจอเรื่องดี ๆ เข้าตอนที่ให้ไปจับตาดูอ๋องหก แต่ก็นั่นแหละสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมนางที่รู้ข่าวดี ๆ เพียงนำไปขายให้หอขายข่าวเท่านั้น ทำให้ผู้ที่ต้องการโค้นล้มตระกูลสวี่กับตระกูลปู้ที่กำลังเรืองอำนาจเลือกลงมือทันที“ให้รางวัลคนของเราด้วย แล้วตอนนี้แม่สามีของข้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าให้คนผสมยานั่นให้นางทานมาพักหนึ่งแล้วไม่ใช่หรือ”“เมื่อวันก่อนที่บ่าวแอบไปตรวจดู ตอนนี้ฮูหยินใหญ่ตั้งท้องแล้วเพียงแต่นางยังไม่รู้ตัวเจ้าค่ะ ไม่แน่ว่าท่านแม่ทัพกลับมาอาจเป็นช่วงที่อาการเริ่มออก







