LOGINตอนที่ 3
กว่าจะได้พบกัน
อ้ายซินเหลียนรออยู่จนตะวันเกือบตกดินจึงตัดใจกลับจวนก่อน แต่พอกำลังขึ้นรถม้ากลับได้ยินเสียงร่ำไห้อ้อนวอนของสตรีผู้หนึ่งดังมาจากฝั่งร้านยา
“หลงจู้ท่านได้โปรดช่วยให้ยาพวกนี้แก่ข้าก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าเอาเงินมาจ่ายให้ท่านแน่นอน” เสียงของสตรีที่กอดขาชายชราเอ่ยอ้อนวอนทั้งน้ำตา แต่คนที่เป็นหลงจู้ร้านยาหาได้คิดเห็นใจไม่
“ปล่อยข้า!! ไม่มีเงินแล้วยังกล้าเข้ามาในร้านอีก ข้าไม่มียาให้เจ้าหรอก กลับไปเสียนังขอทาน!!!” หลงจู้ผู้นั้นเอ่ยพลางสะบัดขาออกจากการเกาะกุม
“น้องสาวข้าจะตายแล้ว นางจะทนไม่ไหวแล้วท่านได้โปรดเมตตาข้าสักครั้งเถอะนะ เห็นใจข้าเถิดน้องข้าต้องการยานั่นจริง ๆ ให้ข้าเป็นบ่าวรับใช้ในร้านท่านก็ได้ ท่านช่วยเห็นใจข้าสักครั้งเถอะนะ”
หญิงสาวเอ่ยขอร้อง แต่ถูกหลงจู้ผู้นั้นกระทืบซ้ำจนสลบไปตรงถนนหน้าร้าน ก่อนคนจะเดินกลับเข้าร้านไปอย่างไม่ใยดี
“นายหญิงเรากลับกันก่อนเถอะเจ้าค่ะ อย่าไปสนใจนางเลย”
อิ่งอิงสะกิดแขนนายสาวให้เดินต่อ แต่นางยังเอาแต่ยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้านิ่ง
“นางคืนคนที่เราตามหา เจ้ามาช่วยข้าพานางไปส่งโรงหมอที” นางเอ่ยพลางเดินข้ามถนนไปดูหญิงสาวที่นอนหมดสติอยู่
พอลองเรียกอย่างไรก็ไร้ซึ่งการตอบสนอง นางจึงให้คนบังคับรถม้ากับอิ่งอิงช่วยพยุงหญิงสาวไปขึ้นรถม้า
“แม่นางมีเรื่องอะไรงั้นหรือ ต้องการให้ข้าช่วยเหลือสิ่งใดหรือไม่” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหลัง เมื่อหันไปจึงพบเข้ากับชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาคนหนึ่งกำลังยิ้มอย่างสดใสให้นาง
“ข้าเห็นนางถูกทำร้ายจึงจะพาไปส่งโรงหมอเจ้าค่ะ หากท่านจะกรุณาช่วยพยุงนางไปที่รถม้าข้าตรงโน้นจะดีมาก” นางเอ่ยพลางชี้ไปที่รถม้าของตัวเอง
“เช่นนั้นเอานางขึ้นรถม้าข้าเถอะ ข้านั่งข้างคนบังคับม้าได้” เขาเอ่ยพร้อมกับที่มีรถม้ามาจอดข้างพวกเขาพอดี
อ้ายซินเหลียนจึงกลับไปที่รถม้าตัวเองพร้อมสาวใช้ และไปเจอกับคุณชายผู้นั้นที่โรงหมอแทน
เมื่อหมอได้ตวจอาการแล้วจึงออกมารายงาน ว่าหญิงสาวสลบไปเท่านั้น บาดแผลภายนอกก็มีเพียงรอยช้ำให้ดื่มยากับทายาไม่กี่วันก็จะหายเอง
“ขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือเจ้าค่ะ” นางหันมาเอ่ยกับชายหนุ่มข้างกายพลางยิ้มให้ตามมารยาท
“ไม่เป็นไรเลย เป็นข้าก็ทนเห็นไม่ได้เช่นกันที่มีผู้บาดเจ็บนอนอยู่กลางถนนเช่นนั้น เออ....ข้าขอทราบชื่อแม่นางได้หรือไม่” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าขัดเขินราวกับเด็กน้อยเพิ่งแตกหนุ่ม
“ข้าอ้ายซินเหลียนเจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบ แต่ในใจรู้อยู่แล้วว่าคนตรงหน้าคือผู้ใด เพียงแต่ไม่อยากเปิดโปงเขาเท่านั้น
“ท่านอ๋องฝ่าบาทเรียกตัวให้เข้าพบด่วนพะย่ะค่ะ” องครักษ์เดินเข้ามารายงานด้วยท่าทีรีบร้อน
“ทะ ท่าน ขออภัยที่หม่อมันเสียมารยาทกับท่านอ๋องเพคะ” นางแสร้งตกใจก่อนจะรีบทำความเคารพคนตรงหน้า
“ไม่เลย ๆ ลุกขึ้นเถอะ ข้าเองก็ผิดที่ไม่ได้แนะนำตัวกับคุณหนูอ้ายก่อน ข้าหวงไท่หั่วซางยินดีที่ได้รู้จักกับคุณหนูอ้ายนะ แต่วันนี้ข้าคงต้องไปแล้ว ไว้พบกันใหม่”
เขาเอ่ยพลางส่งยิ้มให้นางอย่างสดใส ก่อนจะรีบตามองครักษ์ไปอย่างเร่งรีบ อ้ายซินเหลียนมองตามคนผู้นั้นไปด้วยสายตาว่างเปล่า
เขามีเจตนาเช่นไรกันแน่ จะบอกว่าไม่รู้เรื่องที่นางแต่งงานแล้วก็คงไม่ใช่ เพราะยามนั้นขบวนแต่งงานของนางใหญ่โตจนเป็นที่พูดถึงไปทั่วเมืองหลวง
ชื่อเสียงของอ๋องผู้นี้ก็ใช่ว่าจะดี หากไม่ใช่เพราะฝ่าบาทเอ็นดูเขาคงไม่ได้อยู่เมืองหลวงเช่นนี้หรอก วัน ๆ เอาแต่ดื่มสุราเข้าออกหอนางโลมเป็นว่าเล่น ขนาดไทเฮายังเอือมระอา
“นายหญิงเรากลับจวนกันก่อนดีหรือไม่ ฟ้าเริ่มมืดแล้วนะเจ้าคะ” อิ่งอิงเอ่ยเตือนนายสาวด้วยความกังวล เกรงว่าจะถูกฮูหยินใหญ่ดุเอา
“ยังหรอก เจ้าให้คนพาไปที่บ้านของนาง ข้าได้ยินว่านางมีน้องสาวกำลังป่วยอยู่คนหนึ่ง ให้พาตัวเด็กคนนั้นมารักษาที่นี่” นางเอ่ยพลางหยิบถุงเงินให้อิ่งอิง
สาวใช้คนสนิทมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก แต่ก็ทำตามที่นายสาวสั่งอย่างไม่อิดออด กว่าจะหาตัวเด็กคนนั้นเจอก็ผ่านไปเกือบสองเค่อ[1]
ยามไปพบครั้งแรกก็เห็นว่าเด็กคนนั้นนอนไข้ขึ้นสูงอยู่คนเดียวในบ้านเก่า ๆ โทรม ๆ หลังหนึ่ง
อิ่งอิงรีบให้คนพาตัวมาส่งที่โรงหมอทันที แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ทันทีที่มาถึงเด็กน้อยก็สิ้นใจในมือหมอพอดี
“นายหญิงเด็กคนนั้นตายแล้วเจ้าค่ะ” อิ่งอิงเดินออกมารายงานผู้เป็นนายด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
“ข้าก็คิดเช่นนั้นแหละ ไปจ่ายค่าหมอเถอะแล้วเราค่อยกลับกัน อย่าลืมให้ค่าทำศพเผื่อไว้ด้วยเล่า” นางเอ่ยพลางเดินออกไปรอที่รถม้า
สาวใช้คนสนิทจึงไปจัดตามทุกอย่างจนเรียบร้อย ก่อนจะฝากเงินไว้กับโรงหมอเพื่อส่งต่อให้สตรีผู้ที่ถูกทุบตี
“นี่เป็นเงินที่ฮูหยินน้อยเชวียนฝากเป็นค่าทำศพน้องสาวนาง ท่านช่วยส่งต่อให้นางทีนะเจ้าคะ”
“ฮูหยินน้อยยังคนใจดีเหมือนเดิมเลยนะขอรับ ไม่แปลกที่เป็นถึงบุตรีท่านเสนาบดีอ้าย” หมอที่รักษาสตรีผู้นั้นเอ่ยพลางรับปากว่าจะมอบเงินนี่ให้หญิงสาวที่นอนอยู่แน่นอน
อ้ายซินเหลียนกลับถึงจวนก็ยามซวี[2]แล้ว คนของฮูหยินใหญ่มารอรับที่หน้าจวนด้วยใบหน้ากระวนกระวาย
“ฮูหยินน้อยกลับมาแล้ว! ตอนนี้ฮูหยินใหญ่รอท่านอยู่ที่ห้องโถงเรือนหลักเจ้าค่ะ นางเป็นห่วงท่านมากคิดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับท่านจึงได้กลับช้าเพียงนี้” ชูหรูเอ่ยพลางเข้ามาช่วยประคองนางเข้าจวน
“ลำบากท่านแม่แล้ว เราเข้าไปหาท่านแม่กันเถอะ” นางเอ่ยตอบพลางส่งยิ้มให้สาวใช้ผู้นั้นเล็กน้อย
“กลับมาแล้วหรือ เหตุใดจึงกลับมาค่ำมืดเพียงนี้เจ้ากำลังตั้งท้องอยู่แท้ ๆ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร!” เมื่อก้าวพ้นประตูฮูหยินใหญ่ก็รีบเข้ามาดูลูกสะใภ้ตัวเองทันที
“ขออภัยที่สะใภ้ทำให้ท่านแม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ระหว่างทางที่กลับมาสะใภ้เห็นคนถูกทุบตีจึงช่วยพาไปส่งโรงหมอ กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลานานพอสมควรจึงได้กลับมาช้าเช่นนี้ สะใภ้อกตัญญูนักที่ทำให้ท่านแม่ต้องเป็นห่วง”
นางเอ่ยพลางทำท่าขออภัยแต่ถูกแม่สามีห้ามไว้ก่อน เพราะห่วงว่าลูกในท้องของหญิงสาวจะได้รับอันตราย
“กลับมาก็ดีแล้วเจ้าไปพักผ่อนเถอะ ต่อไปนี้จะออกไปที่ใดต้องให้คนติดตามไปสักหลาย ๆ คนหน่อย เข้าใจหรือไม่” ฮูหยินใหญ่กำชับ
“สะใภ้เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” นางเอ่ยรับคำ ก่อนจะมองส่งแม่สามีเดินกลับเรือนตัวเองไป
ทำทีเป็นห่วงนาง หากรู้ว่าเด็กในท้องเป็นผู้หญิงจะยังเป็นห่วงเช่นนี้อยู่หรือไม่ คงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยล่ะ
เช้าวันต่อมาจัวย่วนตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัว นางจำได้ว่าเมื่อวานไปขอร้องร้านยา ก่อนจะถูกทุบตีจนสลบไป
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที แต่ถูกหมอที่ดูแลเข้ามาเห็นเสียก่อน
“เจ้าบาดเจ็บอยู่อย่าเพิ่งลุกเร็วเช่นนี้สิ” หมอที่ดูแลนางมาทั้งคืนเอ่ยขึ้น พลางผลักให้หญิงสาวนอนลงที่เดิม
“ท่านหมอข้าต้องไปหาน้องสาวข้า นางไม่สบายอยู่ตอนนี้ไม่รู้เป็นอย่างไรบ้าง อีกอย่างข้าไม่มีเงินให้ท่านหรอกนะ” หญิงสาวพูดรัวเร็วก่อนจะพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ฮูหยินเชวียนจ่ายค่ารักษาของเจ้าหมดแล้ว” หมอเอ่ยพลางถอนหายใจออกมา ก่อนจะมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาสงสารปนเวทนา
“เช่นนั้นข้าขอตัวกลับไปดูน้องสาวก่อน ขอบคุณท่านหมอที่รักษาข้าเจ้าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยแต่ก็ต้องชะงักกับคำพูดท่านหมอที่เอ่ยประโยคต่อมา
“น้องสาวเจ้าตายแล้ว เมื่อวานนี้ฮูหยินเชวียนให้ขอทานพาคนไปตามหาตัวน้องเจ้า พอเอาตัวนางมาถึงโรงหมอนางก็สิ้นใจตายทันทีด้วยพิษไข้ ฮูหยินเชวียนจึงฝากเงินนี้ไว้ให้เจ้าจัดงานศพให้น้องสาว”
หมอเอ่ยพร้อมกับล้วงถุงเงินออกมาส่งให้สตรีที่ยืนอยู่ น้ำตาของนางไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว คล้ายว่าทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง
“นะ น้องสาวข้ายามนี้อยู่ที่ใด” กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอเวลาก็ผ่านไปหลายอึดใจ
“ข้าเอาศพนางไว้ที่ด้านหลังโรงหมอ หากเจ้าต้องการจัดพิธีศพให้นางข้าสามารถให้คนช่วยเจ้าได้”
หมอเอ่ยเพราะความเวทนา ดูจากกิริยามารยาทแล้วสตรีผู้นี้คงไม่ใช่ขอทานทั่วไปแน่ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงมาอยู่ในสภาพนี้ได้กัน
“ข้าคงต้องขอรบกวนท่านหมอแล้ว” จัวย่วนเอ่ยพลางเดินไปที่ด้านหลังโรงหมอ
ศพน้องสาวนางนอนหมดลมหายใจอยู่บนแคร่ไม้ โดยมีผ้าขาวปิดคลุมร่างกายอยู่ หญิงสาวเข้าไปคุกเข่าข้างร่างนั้นก่อนจะร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจ
เสียงของนางกรีดร้องราวกับพยายามปลุกให้คนที่นอนอยู่ตื่นขึ้นมา แต่มันก็ไร้ความหมาย ผู้ที่จากไปย่อมไม่หวนกลับมา
นางมันไร้ความสามารถนัก เป็นถึงอดีตหมอยาประจำตัวอดีตหวงกุ้ยเฟย แต่ไม่อาจช่วยชีวิตน้องสาวตัวเองได้ แล้วนางจะเรียนวิชาแพทย์เหล่านั้นไปเพื่อสิ่งใด
เสียงร่ำไห่ของนางดังอยู่เกือบสองเค่อก่อนจะเงียบลง คนของท่านหมอจึงเข้ามายกร่างเด็กสาววัยสิบหนาวไปฝังในสุสานฝั่งตะวักตกของเมือง
จัวย่วนยืนมองหลุมศพน้องสาวจนพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า จึงตัดสินใจกลับเข้าเมือง
เมื่อไม่มีน้องสาวแล้วชีวิตนางก็ไร้ความหมาย เพียงก่อนตายนางอยากตอบแทนผู้มีพระคุณผู้นั้นก่อน จึงคิดว่าจะไปหาฮูหยินน้อยผู้นั้นที่จวนตระกูลเชวียนในวันพรุ่งนี้แทน
[1] 1 เค่อ = 15 นาที
[2] ยามซวี = 19.00 – 20.59 น.
ตอนที่ 25สตรีหนึ่งเดียวในใจ (จบ)ภาคชาติแรกเสียงเครื่องดนตรีในงานมงคลดังจนชาวบ้านที่ออกมามุงดูตามสองข้างทางต้องยกมือปิดหู บางคนร่วมปรบมือยินดีด้วย บางคนโปรยดอกไม้จนถนนที่ขบวนเจ้าสาวผ่านเต็มไปด้วยสีสันงดงาม“งานสมรสของท่านแม่ทัพบูรพากับคุณหนูใหญ่เสนาบดีอ้ายช่างยิ่งใหญ่นัก เจ้าดูสิขบวนสินสอดยาวจนจะเลยออกนอกประตูเมืองอยู่แล้ว”“จริงด้วย ๆ ข้าอิจฉาคุณหนูใหญ่อ้ายจริง ๆ ที่ได้สามีเช่นท่านแม่ทัพ ทั้งหล่อเหลาและเก่งกาจ”เสียงชาวบ้านเอ่ยถึงงานแต่งที่เป็นยิ่งใหญ่ของสองจวนใหญ่ ทุกคนต่างอิจฉาที่ท่านแม่ทัพให้เกียรติว่าที่ฮูหยินเพียงนี้ยามแต่งเข้าทุกคนยิ้มแย้มชื่นมื่น ไม่ต้องพูดถึงตัวชายหนุ่มที่เป็นสามี เขายินดียิ่งกว่าสิ่งใดยามรู้ว่านางตั้งครรภ์เขาอยากประกาศให้ทั้งแผ่นดินรู้ด้วยซ้ำ ดีใจจนนอนไม่หลับไปหลายคืน แถมยินดีแพ้ท้องแทนนางอย่างเต็มใจแต่
ตอนที่ 24แตกสลายเย็นนั้นสวี่ลี่เซียนมีความสุขอย่างมาก เพราะสาวใช้มารายงานว่านังซินเหลียนกินข้าวสำรับนั้นเข้าไปแล้ว แถมยังมากกว่าปกติอีกด้วย ทำเอานางมีความสุขจนเติมข้าวอีกชามเลยทีเดียว“ลิ่งอินของหวานวันนี้คืออะไรงั้นหรือ” หญิงสาวเอ่ยถามสาวใช้อย่างอารมณ์ดี“เป็นบัวลอยน้ำขิงเจ้าค่ะ นายหญิงจะรับเลยหรือไม่” ลิ่งอินเห็นนายสาวอารมณ์ดี ตนก็มีความสุขไปด้วยแต่นั่นมันก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เมื่ออยู่ ๆ หญิงสาวก็ปวดท้องขึ้นมาอย่างรุนแรงจนไม่อาจนั่งตัวตรงได้“โอ๊ย!!! นังบ่าวโง่เจ้าเอาอะไรมาให้ข้ากินเนี่ย!!” สวี่ลี่เซียนเอามือกุมท้องอย่างเจ็บปวดจนซุกหน้าลงกับโต๊ะทานข้าวเพล้ง!!!!เสียงถ้วยชามตกแตก เพราะสวีลี่เซียนตกจากเก้าอี้แล้วดึงผ้าปูโต๊ะลงมาด้วย ทำเอาสาวใช้ด้านนอกรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว“ตามหมอมาเร็วนายหญิงปวดท้อง!!”ลิ่งอินได้สติจึงสั่ง
ตอนที่ 23คืนสนองฮูหยินใหญ่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเจ็บปวดจากการคลอดลูก เมื่อได้สติก็จดจำได้ว่าลูกที่ตนเฝ้ารอไม่อยู่กับตัวเองแล้ว“ใครอยู่ด้านนอกบ้าง ลูกของข้าอยู่ไหน ลูก!!!!”เสียงกรีดร้องดังลั่นเรือนแต่ไร้ซึ่งสาวใช้เข้ามาดูแล หม่าฮุ่ยซือพยายามคลานลงจากเตียงไปที่เปลเด็กในห้องทันทีที่เห็นด้านในก็ถึงกับผงะ เพราะในนั้นมีเด็กทารกตัวขาวซีด แขนขาถูกแยกจากร่างว่างอยู่ในเปล“ละ ลูกข้า ฮื่อ!!!!!” เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจทำให้สตรีที่ยืนอยู่หน้าเรือนมองด้วยสายตาสมเพชครั้งนั้นเป็นท่านไม่ใช่หรือที่สั่งให้ควักหัวใจบุตรสาวข้า พอได้ลองสูญเสียลูกตัวเองบ้างกลับกรีดร้องราวกับสัตว์ป่าบาดเจ็บ หึ!! ช่างน่าสมเพชนัก!!“นายหญิงจะเข้าไปด้านในหรือไม่เจ้าคะ” จัวย่วนเอ่ยนายสาว“เข้าไปแล้วข้าช่วยอะไรได้ ให้นางอยู่กับความเจ็บปวดนั้นไปเถอะ”นางเอ่ยพลางหมุนตัวเดินกล
ตอนที่ 22สะใภ้แสนดี...จริงหรือพูดจบฮูหยินใหญ่ก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง ทำให้ทุกคนไม่กล้าถามต่อ ก่อนจะถูกไล่ให้ออกไปข้างนอกเพราะฮูหยินใหญ่ต้องการอยู่คนเดียว“ไม่อยากเชื่อว่าฮูหยินใหญ่แอบคบชู้!” สวี่ลี่เซียนอุทานออกมา แต่ก็ถูกสายตาคมดุของสามีด่าทางอ้อม“เรื่องนี้ไม่อาจแพร่งพรายออกไปได้ พวกเจ้าคงรู้ว่าควรทำอย่างไร” ชายหนุ่มเอ่ยพลางเดินออกจากเรือนไปแต่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว ข่าวที่ฮูหยินใหญ่เชวียนตั้งท้องกับอดีตรองเจ้ากรมปู้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวง จนผู้คนมายืนด่าทอสาปแช่งกันที่หน้าจวนทำให้เชวียนจิ่นสือที่จะออกไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทต้องฝ่าออกไปเลยทีเดียว“นังผู้หญิงแพศยา ต่ำช้าจริง ๆ อดีตแม่ทัพไม่น่าแต่งเจ้าเป็น ฮูหยินเอกเลยจริง ๆ!!!”“สามีตายไปแล้วแทนที่จะเข้าวัดถือศีล แต่กลับมัวเมากับบุรุษที่เป็นสามีผู้อื่น ไร้ยางอาย!!!”“แถมยังต้องท้องเพียงนี้ ข
ตอนที่ 21ท้อง...งั้นหรือสวี่ลี่เซียนถูกปลดจากตำแหน่งฮูหยินรองเป็นเพียงอนุ ทำให้หญิงสาวถึงขั้นตรอมใจจนล้มป่วย เพราะทำอย่างไรก็ไม่อาจได้ตำแหน่งนั้นคืนได้แล้วส่วนเรื่องโต้วไป๋หลานนั้นเป็นเพราะอ๋องหกเขียนจดหมายมาหานาง บอกว่าเจอครอบครัวเดิมของไป๋หลานมาตามหาตัวบุตรสาว แม้นางจะรู้ว่านั่นเป็นเรื่องโกหก แต่นางก็ยอมปล่อยให้โต้วไป๋หลานได้เลือกเองเพราะนางก็ไม่ได้มีความแค้นกับหญิงสาวมาก่อน แม้จะถูกรับเข้ามาเป็นอนุของชายผู้นั้น แต่ก็พอรับรู้ได้ว่าหญิงสาวไม่ได้เต็มใจ“นายหญิงมีคนพบศพครอบครัวโต้วที่ชายป่าก่อนเข้าเมืองมู่ชิงเจ้าค่ะ” ซูปี้เข้ามารายงาน ทำให้นางวางพู่กันในมือลง“เวรกรรมของนางแท้ ๆ แต่อย่างน้อยก็ได้อยู่กับครอบครัวก่อนตายล่ะนะ ว่าแต่อ๋องหกจะช่วยให้พวกเขาพบกันไปเพื่อสิ่งใด ในเมื่อสุดท้ายก็สังหารพวกเขาทั้งหมดอยู่ดี”“อาจเป็นเพราะโต้วไป๋หลานรู้ความลับของอ๋องสามเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้อ๋องสามจั
ตอนที่ 20กลับบ้านบ่ายวันนั้นจดหมายของสวี่ลี่เซียนก็ถูกส่งออกไป แต่ถูกคนของอ้ายซินเหลียนที่รออยู่ก่อนแล้วดักเอาไว้“เป็นเช่นที่นายหญิงพูดเจ้าค่ะ สวี่ลี่เซียนส่งจดหมายขอความช่วยเหลือจากท่านแม่ทัพจริง ๆ ” จัวย่วนเอ่ยพลางวางจดหมายลงบนโต๊ะนายสาวเรื่องของตระกูลสวี่นางรู้มาสักพักแล้ว เพราะคนของนางบังเอิญไปเจอเรื่องดี ๆ เข้าตอนที่ให้ไปจับตาดูอ๋องหก แต่ก็นั่นแหละสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมนางที่รู้ข่าวดี ๆ เพียงนำไปขายให้หอขายข่าวเท่านั้น ทำให้ผู้ที่ต้องการโค้นล้มตระกูลสวี่กับตระกูลปู้ที่กำลังเรืองอำนาจเลือกลงมือทันที“ให้รางวัลคนของเราด้วย แล้วตอนนี้แม่สามีของข้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าให้คนผสมยานั่นให้นางทานมาพักหนึ่งแล้วไม่ใช่หรือ”“เมื่อวันก่อนที่บ่าวแอบไปตรวจดู ตอนนี้ฮูหยินใหญ่ตั้งท้องแล้วเพียงแต่นางยังไม่รู้ตัวเจ้าค่ะ ไม่แน่ว่าท่านแม่ทัพกลับมาอาจเป็นช่วงที่อาการเริ่มออก







