บทที่3 เจรจาการค้า(ตอนปลาย)
  ยามแสงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าอากาศเย็นสดชื่นนัก โจวฟางหลินได้วางแผนไว้ว่าจะไปพบท่านเหล่าหลาน คนผู้นี้จำได้ว่า เคยเป็นคนที่ท่านพ่อเคยช่วยเหลือช่วงที่ยังเป็นพ่อค้าเล็กๆ ซึ่งในช่วงนั้นนางเองก็ยังเด็กอายุเพียงสิบหนาว ท่านเหล่าหลานจากพ่อค้าที่ไม่มีอำนาจและชื่อเสียงสามารถไต่เต้าขึ้นมาใช้ระยะเวลาแค่เพียงสิบปี จนสามารถได้รับสัมปทานการขายข้าวทุกชนิด บัดนี้มีใครบ้างไม่รู้จักชายวัยกลางคนผู้นี้
อีกไม่นานจะมีสงครามอีกครั้ง จึงต้องกักตุนสินค้าโดยเฉพาะข้าวและเกลือให้มากที่สุด ยามศึกสงครามชาวบ้านไม่สามารถมีเงินซื้อสิ่งเหล่านี้ได้ที่กักตุนเพื่อที่จะส่งขายในแคว้นที่ได้รับผลกระทบต่างหาก
   โจวฟางหลินออกจากจวนไปวันนี้ได้พาซุนหงไปด้วย เพราะบ่าวรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ผู้นี้จะขอตามไปด้วยพูดเหตุผลต่างๆนา จนต้องพามาด้วยเพื่อตัดปัญหาความเจ้าแง่แสนงอนของนาง
  “ฮูหยินน้อย วันนี้ท่านต้องพาชุนหงไปด้วยนะเจ้าคะ”
  “ข้าไปคนเดียวจะสะดวกกว่า เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่เถอะ”
  “ท่านพาข้าไปด้วยเถอะ เดี๋ยวจะดูไม่ดี ถ้านายหญิงออกไปผู้เดียวแบบนี้ทุกวัน อาจจะเกิดข้อครหาได้นะเจ้าคะ”
  ร่างบางถอนหายใจ พลางยกยิ้มอย่างเอ็นดู ช่างพูดช่างเจรจาเสียจริง
  “ก็ได้ เตรียมตัวเถอะประเดี๋ยวจะสาย” เอ่ยขึ้นด้วยความอ่อนใจกับบ่าวที่จงรักภักดีผู้นี้
  “เจ้าค่ะ” ชุนหงยิ้มกว้างที่ได้ติดตามฮูหยินน้อยไปด้วย อย่างน้อยนางจะได้ไม่เป็นห่วง
 เมื่อรถม้าได้หยุดลงหน้าคฤหาสน์ของท่านเหล่าหลาน ที่กินอาณาเขตกว้างใหญ่ ตัวคฤหาสน์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลางพื้นที่ที่มีการจัดอย่างเป็นระเบียบสวยงามสมกับความมั่งคั่งของคหบดีเสียจริง
  “ข้าโจวฟางหลินบุตรสาวของท่านแม่ทัพโจว มาขอพบท่านเหล่าหลาน ช่วยไปแจ้งท่านให้ด้วย”
  คนเฝ้าประตูไม่เคยเห็นสตรีผู้นี้มาก่อน แต่ด้วยท่าทางที่ดูสง่างามผิดกับสตรีที่เคยพบเจอ น้อยนักจะพบเจอสตรีที่ใส่ชุดสีแดงจนเกือบดำเช่นนี้ แต่ก็ยังดูเป็นสตรีที่ยังอ่อนเยาว์นัก เกล้าผมแบบสตรีที่ออกเรือนแล้ว แต่คงต้องสอบถามให้มากกว่านี้
   “ ไม่ทราบว่าได้นัดกับนายท่านไว้หรือไม่”
  “เพียงไปบอกว่า ข้าเป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพโจวก็พอ” โจวฟางหลิน ยกยิ้มมุมปาก สายตาที่มองดูเย็นชาขึ้นหนึ่งส่วน ด้วยคิดหงุดหงิดกับการซักไซ้มากความของชายตรงหน้า
   ชายเฝ้าประตูรู้สึกเย็นยะเยือกยามสบตากับสตรีตรงหน้า เหมือนได้พบเจอกันคนที่มีอำนาจมากกว่าจะเป็นแม่นางน้อย จึงได้รีบเข้าไปเรียนนายท่านด้วยความรวดเร็ว
   ซุนหงที่ยืนอยู่ใกล้ชิดกับนายหญิง รู้สึกถึงความเย็นชา ไหล่บางตั้งตรงใบหน้าเรียบสนิท ยามเอ่ยวาจาน้ำเสียงช่างดูมีอำนาจนัก ดูแตกต่างจากที่เคยเห็นตลอดเวลาที่เติบโตมาด้วยกัน นายหญิงของนางได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
  “นายท่าน มีสตรีมาขอพบแจ้งว่าเป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพโจวขอรับ” ชายเฝ้าประตูรีบร้อนแจ้งด้วยยังรู้สึกเหน็บหนาวกับสายตาของสตรีผู้นั้น
  นายท่านเหล่าหลาน เมื่อได้ยินว่า บุตรสาวของผู้มีพระคุณของเขาที่ช่วยตอนเขาลำบาก กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ก็มีส่วนช่วยเหลือไม่น้อย ก็ผุดลุกขึ้นมาเขาย่อมจดจำแม่ทัพโจวได้ เพียงแต่บุตรสาวของแม่ทัพโจวที่เคยเจอะเจอก็ผ่านเป็นสิบปีแล้ว ในช่วงนั้นนางยังเล็กนัก แต่ก็รีบสาวเท้าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
   เมื่อไปถึงหน้าประตู สตรีตรงหน้าเกล้าผมด้วยทรงผมที่สตรีออกเรือนแล้ว ใบหน้างดงามถึงแม้จะไม่ถึงขนาดล่มเมืองแต่ก็งดงามไม่แพ้ใคร ชุดที่ใส่สีแดงเกือบดำช่างไม่เหมือนผู้ใด สตรีที่ยังเยาว์วัยเช่นนี้จะไม่ใส่สีเข้มถึงเพียงนี้ ด้วยจะทำให้ไม่น่ารักสมวัย ใบหน้าที่อมยิ้มน้อยๆแต่สายตาดูเย็นชาเหมือนกับคนที่ผ่านโลกมานับไม่ถ้วน ท่าที่ไหล่ตั้งตรง จึงดูสง่าและมีอำนาจอย่างบอกไม่ถูก
  “เจ้าเป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพรึ” ร่างไม่สูงไม่ต่ำแต่ออกจะเจ้าเนื้อท่าทางภูมิฐานได้เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ ผิดกับที่เขาคิดไว้ เขาเพียงคิดว่าคงจะมาเจอกับสตรีที่ยังดูอ่อนเยาว์อ่อนหวานไม่ใช่ภาพที่เห็นตรงหน้า ราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ
  “คำนับท่านเหล่าหลาน ข้าเพียงมีเรื่องจะมาเจรจากับท่านสักเพียงเล็กน้อย” โจวฟางหลิน ยกยิ้มมุมปาก ก้มลงเล็กน้อย ด้วยท่วงท่าดูสง่างามทว่าดูไม่แข็งและไม่อ่อนจนเกินไป
  “เชิญด้านในก่อนค่อยพูดคุยกัน” อดจะสุภาพด้วยความเกรงใจไม่ได้โดยไม่รู้ตัว
  โจวฟางหลินเดินเข้าไปพร้อมกับชายวัยกลางคน ซุนหงที่ยืนนิ่งตลอดการสนทนา เมื่อนายหญิงก้าวเดินไปข้างหน้าจึงได้รู้สึกตัวรีบก้าวตามไปอย่างรวดเร็ว
  “มีอะไรให้ข้าช่วยเหลือก็สามารถเอ่ยออกมาได้ ท่านแม่ทัพมีบุญคุณต่อข้า ข้าจะช่วยเหลือเท่าที่ข้าจะช่วยได้” ชายวัยกลางคนเอ่ยออกมาอย่างใจกว้างเมื่อได้นั่งโต๊ะที่ตั้งอยู่กลางห้องโถงเรียบร้อยแล้ว
  “ข้ามีท่าทีที่เดือดร้อนรึ” ร่างบางที่นั่งหลังเหยียดตรง ท่วงท่ายามพูดคุยช่างดูผ่อนคลาย สบสายตาชายวัยกลางคนด้วยการอมยิ้มเล็กน้อย
  “เอ่อ.แล้วมีอะไรรึถึงมาหาข้า” ร่างท้วมเอ่ยถามด้วยความสงสัย แต่ต้องลดสายตาลงเพื่อหลบสายตาที่ดูเย็นชาเสียจริง
  “ข้าต้องการเจรจาการค้า ต้องการข้าวสารที่ท่านมีทุกชนิด ท่านสามารถหาให้ได้รึไม่?” ร่างบางเริ่มจะเข้าเรื่องที่ตั้งใจมาในวันนี้
  “ต้องการเยอะเพียงไหน?” ร่างท้วมขมวดคิ้ว ราคาที่ต้องจ่ายจะเยอะเพียงใดถ้าต้องการสินค้ามากมายเพียงนั้น
“ต้องการอย่างละยี่สิบเกวียน มีเพียงข้าวขาวที่มีเท่าไหร่ข้ายินดีรับหมด”
 “ข้าสามารถหาให้ได้ ข้าจะลดราคาให้ ถึงอย่างไรก็เป็นบุตรสาวของผู้มีพระคุณของข้า” ชายร่างท้วมเอ่ยขึ้นอย่างใจดี ถึงแม้จะสงสัยว่าทำไมถึงต้องการเยอะถึงเพียงนั้นแต่ก็ไม่ใช่วิสัยของพ่อค้า ที่จะต้องไปอยากรู้ว่าคนซื้อจะเอาไปทำอันใดบ้าง
  “ได้ยินว่าท่านได้การผูกขาดขายเกลือด้วยไม่ใช่รึ ถ้าข้ามีเกลือบริสุทธิ์มาเสนอท่านจะยินดีหรือไม่” โจวฟางหลิน สามารถได้ข้าวสารมาโดยไม่ต้องเสียเงินเยอะขนาดนั้น เพราะย่อมมีข้อแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะเกลือที่มีราคาแพง และรสชาติก็ติดขม ถ้านางสามารถเอาเกลือที่มีสีขาวสะอาดบริสุทธิ์มาเสนอ มีรึจะไม่สนใจ
  “มีจริงรึ เกลือที่มีคุณภาพอย่างที่ว่ามา ทุกวันนี้เกลือที่ส่งเข้าวังก็เป็นเกลือขาวที่มีคุณภาพสูง แต่ก็แพงแสนแพงและหายากมาก ถ้าเจ้ามีอย่างที่พูดมา ข้ายินดีทำการค้าที่ยุติธรรมกับเจ้าแน่นอน”ท่านเหล่าหลานตื่นเต้นเมื่อคิดว่า สินค้าที่หายากและมีราคาแพงเช่นนี้ ถ้าได้แบบมีคุณภาพขาวบริสุทธิ์ไม่ติดชมเป็นจำนวนมากคงทำรายได้มหาศาลกับเขาแน่นอน
   “ข้าไม่เคยพูดเล่นสิ่งใดที่ข้าพูดจะต้องทำได้จริงแน่นอน”ร่างบางเห็นท่าทางตื่นเต้นของชายวัยกลางคนตรงหน้า ก็รู้ทันทีว่าการค้าของนางสำเร็จแล้ว
  “ยังมีอีกเรื่อง ท่านมีคนที่ก่อสร้างด้วยรึไม่ ข้าต้องการสร้างที่เก็บสินค้าขนาดใหญ่ มีห้องสามห้องนอกนั้นก็เป็นลานกว้างมีหลังคาสร้างกำแพงปิดหมดทุกด้าน ค่าแรงไม่ใช่ปัญหา เมื่อสร้างเสร็จจะได้ส่งสินค้าไปที่นั่นเลย”
  “เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา จะหาคนไปสร้างให้เมื่อเสร็จจะแจ้งและนัดส่งสินค้าพร้อมกันไปเลย และเรื่องเกลือจะได้เมื่อไหร่” เหล่าหลานย่อมสนใจเกลือที่มีราคาแพงลิบลิ่วแน่นอน เพราะเป็นสิ่งที่ทำกำไรได้มหาศาลเลยทีเดียว
  “ขอเวลาหนึ่งเดือน ข้าจะมาท่านอีกครั้ง”
   ซุนหงที่ยืนดูการเจรจาการค้ามาตลอด อดรู้สึกทึ่งกับนายหญิงของนางไม่ได้ ท่าทีที่นิ่งสงบเรียบเฉยภายใต้ความกดดันภายในห้องที่มีบุรุษร่างสูงใหญ่หลายคนยืนประจำที่อยู่ และชายวัยกลางคนที่เค้าเรียกกันว่า นายท่านเหล่าหลาน ที่ดูมีอำนาจบารมี นางเคยได้ยินชื่อมานานว่าเขามีอำนาจและเส้นสายมากมายนักทั้งในราชสำนักและตามหัวเมืองทั้งแคว้น ด้วยเป็นพ่อค้าที่ผูกขาดการค้าข้าวและเกลือ
  “นายหญิงจะกลับจวนเลยรึไม่เจ้าคะ”ซุนหงเหมือนพึ่งจะหาเสียงตัวเองเจอ จึงได้เอ่ยถามเพราะเวลานี้ก็ใกล้จะเย็นแล้ว การเจราจากินเวลานานโขทีเดียว
  “กลับเลยก็แล้วกัน” ร่างบางก็รู้สึกเหนียวตัวมิใช่น้อย และรู้สึกหิวนิดหน่อยด้วยตอนพูดคุยจนเลยเวลาทานข้าว จึงคิดว่าจะไม่แวะที่ใดแล้ว
   รถม้าที่วิ่งมาถึงหน้าจวนเมื่อจอดสนิท ได้มีพ่อบ้านมาแจ้งว่า ท่านแม่ทัพจะกลับมาในวันพรุ่งนี้
  โจวฟางหลินพยักหน้ารับรู้ มาแล้วอย่างไร จะให้นางกระโดดโลดเต้นที่สามีผู้เย็นชาดังภูเขาน้ำแข็งจะกลับแล้วเช่นนั้นรึ ถ้าเป็นชาติก่อนคงจะดีใจมาก แต่นางเข็ดหลาบแล้วกับความพยายามที่สูญเปล่า เมื่อครั้งนางถูกเผ่าชยงหนูจับตัวไปทรมานทั้งเฆี่ยนตีถอดเล็บ เมื่อถูกช่วยกลับมาได้เพราะก่อนจะถูกจับไปได้วางแผนโจมตีชาวชยงหนูไว้ก่อนแล้ว ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส สามีผู้เย็นขาเพียงมาเยี่ยมเยียนเป็นครั้งคราวและได้ส่งนางกลับมารักษาที่จวน ส่วนเขาก็ยังอยู่ในค่ายทหารต่อ
 ร่างบางถอนหายใจนึกเสียดายทำไมไม่ฝึกฝีมือการต่อสู้ให้ชำนาญกว่านี้ มีแค่ความเฉลียวฉลาดเวลาวางแผน เมื่อถึงคราวโดนจับกลับช่วยเหลือตนเองไม่ได้
  “นายหญิงอาบน้ำได้แล้วเจ้าค่ะ” ซุนหงเตรียมน้ำอุ่นเรียบร้อยก็ได้บอกนายหญิงที่นั่งเหม่อ และรู้สึกแปลกใจปกตินายหญิงจะดีอกดีใจที่ท่านแม่ทัพจะกลับมาทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กับสงบนิ่งเหมือนไม่แยแสกับการกลับมาของท่านแม่ทัพเสียอย่างนั้น
   โจวฟางหลินหย่อนร่างงามลงในถังที่มีน้ำอุ่นถึงระดับอกอวบอิ่มด้วยความผ่อนคลาย นั่งคิดย้อนไปถึงช่วงเวลาที่นางแต่งงานกับเฉินโม่เหยียน
 นางไล่ตามความรักจากบุรุษผู้นี้ ตั้งแต่แต่งงานออกมาเข้าตระกูลเฉิน ถูกกดดันเรื่องการมีบุตรไม่ได้ นางเคยแม้กระทั่งยั่วยวนสามีทำทุกวิธี แต่สามีผู้เย็นชากลับหาสนใจ กลับมีท่าทางเบื่อหน่ายลำคาญ จากที่มีนิสัยอ่อนหวานร่าเริงก็เงียบขรึมลง ขอติดตามไปค่ายทหารเป็นกุนซือที่เคยทำตอนที่อยู่ท่านพ่อ นางขึ้นชื่อเรื่องความฉลาดเฉียวจึงทำให้เหล่าทหารยอมรับในตำแหน่งกุนซือ ถูกศัตรูตามฆ่าถูกจับไปทรมานเพราะตำแหน่งกุนซือมีความสำคัญกับกองทัพมาก อยู่กับสามีเคียงข้างมาสามสิบปี ก็ยังไม่อาจจะละลายน้ำแข็งในใจของเขาได้ เวลานี้สวรรค์ให้ได้ย้อนกลับมา นางจะทำเพื่อตัวเองเท่านั้น และคิดว่าสามีน่าตายผู้นั้นก็คงไม่มาสนใจนางเช่นเดิม และนั่นคือสิ่งที่ต้องการ ถ้าเฉินโม่เหยียนกับมาครานี้ จะเอ่ยเรื่องหย่าร้างให้มันเสร็จสิ้นไป นางเองก็ต้องการอิสระมากกว่าจะมาจมดิ่งในจวนตระกูลเฉินเช่นนี้
นางเอกของไรท์หาได้สนใจสามีนะคะ😌😌
ฝากติดตามเรื่องใหม่ด้วยนะคับ🤟🤟