บทที่ 2
และถึงแม้คำพูดก่อนหน้านั้นจะทำให้บรรยากาศแรกเริ่มไม่ดีสักเท่าไร แต่ก็คงเป็นอย่างที่รั่วหยางจิ้นว่าเขาทำตัวเป็นสามีที่ดี ชายหนุ่มประคองหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าภรรยาไปยังโต๊ะน้ำชากลางห้องก่อนจะค่อย ๆ รินสุราลงในจอก
“ให้ข้าเป็นคนทำเถอะเจ้าค่ะ” หญิงสาวจะแย่งมาทำแต่ชายหนุ่มกลับห้ามเอาไว้
“ตัวสั่นเป็นลูกนกตกจากรังขนาดนั้นแล้วแค่อยู่เฉย ๆ ให้เสร็จพิธีไปเถอะ”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูปนขบขันถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากหนาจนหัวคิ้วเรียวขมวดสงสัย นางเคยได้ยินเขาเอ่ยน้ำเสียงเช่นนี้กับนางเมื่อใดกัน อ้อ ก่อนที่เขาจะหมั้นหมายกับพี่สาวของนาง
ฝูหรงเฝ้ามองทุกการกระทำของชายหนุ่มตรงหน้า ยิ่งมาเห็นใกล้ ๆ เช่นนี้ยิ่งทำให้รู้ว่านางหลงรักเขามากกว่าที่ตัวนางจะคาดคิด
ไม่นานนักจอกสุราก็ถูกส่งมาตรงหน้า หญิงสาวรับเอาไว้และเตรียมจะยกมันขึ้นดื่ม แต่แขนเรียวกลับถูกดึงไปคล้องเอาไว้ ฝูหรงมองชายหนุ่มที่คล้องแขนนางเอาไว้แล้วดื่มสุราด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม นางคิดว่าเขาจะดื่มเพียงแค่ให้สาวใช้ที่มาเก็บเห็นว่าสุราหมดไปก็เท่านั้น ไม่นึกว่าเขาจะทำทุกอย่างอย่างที่ควรจะทำจริง ๆ
“จะจ้องข้าอีกนานหรือไม่ ไม่ดื่มสุรามงคลหรือ”
หญิงสาวรีบดื่มสุรามงคลก่อนที่จะยืนทำตัวไม่ถูกอยู่กลางห้องหอแต่ก็ถูกรั่วหยางจิ้นดึงนางให้มานั่งอยู่หน้าคันฉ่อง ฝูหรงมัวแต่ตกใจจึงไม่ทันได้สังเกตว่ามือของชายหนุ่มเริ่มดึงปิ่นที่ปักอยู่บนผมของนางออกทีละอันทีละอันแล้ว
“พี่จิ้นข้าทำเองได้เจ้าค่ะ”
หลังจากคำนั้นชายหนุ่มก็ผละออกไป ฝูหรงเห็นอีกฝ่ายเดินเข้าไปหลังฉากกั้นก่อนจะปลดเสื้อผ้าอาภรณ์ออก เหลือเพียงชุดด้านในเท่านั้น
“หากเสร็จแล้วเจ้าก็มานอนเถอะ”
ดวงใจของหญิงสาวสั่นสะท้าน และตีความไปว่านางและเขาคงจะต้องเข้าหอจริง ๆ เป็นแน่
นางไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย คิดเพียงแค่ต้องเข้าพิธีแทนพี่สาว ฝูหรงอดไม่ได้ที่จะต่อว่าตนเองที่โง่เขลานัก หลังจากประวิงเวลาอยู่นานหญิงสาวก็ขึ้นมานอนอยู่บนเตียง ร่างบางนอนอยู่ริมเตียงจนเกือบตก ทำให้ชายหนุ่มที่เข้านอนอยู่ก่อนต้องดึงนางเข้ามากอดเอาไว้หลวม ๆ
"มิใช่ว่าข้าบอกจะทำหน้าที่สามีที่ดีหรือ” เสียงทุ้มแหบพร่าในความมืด ฝูหรงตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก “เจ้าก็เพียงแค่ทำหน้าที่ของเจ้าเช่นเดียวกันก็เท่านั้น” ริมฝีปากร้อนประทับที่หน้าผากก่อนจะผละออกไป
ฝูหรงนอนเกร็งรออยู่นานแต่คนข้าง ๆ นางผ่อนลมหายใจยาวราวกับหลับสนิทไปแล้ว ทั้งยังกอดร่างของนางเอาไว้ แม้จะโล่งใจที่ไม่ต้องเข้าหอกับอีกฝ่ายทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตระเตรียมอะไร แต่ก็รู้สึกปวดใจที่คิดว่าอีกคนนั้นไม่ทำอะไรนางไปมากกว่ากอดเอาไว้เพราะนางไม่ใช่พี่สาว ไม่ใช่ท่านพี่อิงอิงงั้นหรือ
ความเงียบหลังจากนั้นทำให้ฝูหรงรู้สึกอึดอัด นางพยายามทำใจให้นิ่งอยู่กับที่ ยามค่ำคืนผ่านไปอย่างช้า ๆ ฝูหรงนอนไม่หลับตลอดคืน ความคิดวนเวียนอยู่ในหัว นางคิดถึงพี่สาว คิดถึงอนาคตที่ไม่แน่นอน และคิดถึงความรู้สึกที่มีต่อรั่วหยางจิ้น ทั้งที่นางรู้ว่าไม่ควรรู้สึกเช่นนั้น
ในตอนเช้าฝูหรงตื่นขึ้นมาก่อนคนที่นอนกอดนางเอาไว้แน่นทั้งคืน นางไปเปิดประตูรับน้ำร้อนที่สาวใช้นำมาให้เพื่อปรนนิบัติดูแลสามีในนามของนาง และแม้ว่าปกติแล้วคุณหนูทั่ว ๆ ไปยามเมื่อแต่งเข้าเรือนไหนก็มักจะมีสาวใช้คนสนิทติดตามไปด้วย แต่เพราะหญิงสาวไม่ได้เป็นคุณหนูแบบนั้นนางจึงขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวเข้ามาที่นี่เพียงลำพัง
“ข้าจัดการเองเจ้าไปทำอย่างอื่นเถอะ” ฝูหรงรับอ่างน้ำร้อนนั้นเข้าไปวางที่จุดแบ่งเอาไว้ใช้จัดการตนเอง และใช้ผ้าชุบน้ำจนชุ่มก่อนจะนำไปให้กับสามีของตน
“พี่จิ้น เช้าแล้วเจ้าค่ะ” รั่วหยางจิ้นลืมตาขึ้นก่อนจะรับผ้านั่นมาเช็ดหน้าเช็ดตา
ชายหนุ่มที่เช็ดหน้าเช็ดตาแล้วเดินไปยังหลังฉากกั้นเพื่อจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อของของเขาถูกตระเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว หรงหรงถือได้ว่าเป็นภรรยาที่ดีจริง ๆ
“ให้ข้าช่วยหรือไม่เจ้าคะ”
ชายหนุ่มกำลังจะผูกผ้าคาดเอวแต่เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวจึงครางรับในลำคอและปล่อยให้นางได้เป็นคนจัดการ
“เจ้าก็แต่งตัวด้วยเดี๋ยวจะต้องไปยกน้ำชาให้ท่านพ่อท่านแม่”
ฝูหรงพยักหน้ารับคำและแต่งตัวเสร็จภายในเวลาไม่นาน วันรุ่งขึ้น ฝูหรงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความหวังเล็กน้อย นางหวังว่าบางทีรั่วหยางจิ้นอาจจะยอมรับนางในที่สุด แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักนิด
คนทั้งสองเดินไปยังเรือนหลัก ใบหน้าของคุณหนูตระกูลฝูที่ทุกคนเห็นครั้งแรกนั้นทำให้เกิดคำถามเพราะบางคนจำได้ว่าคุณหนูตระกูลฝูไม่ใช่คนคนนี้ แต่เพราะรั่วเจิ้นหวินบิดาของรั่วหยางจิ้นเป็นคนเข้มงวดจึงไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรออกไป
ฝูหรงมีกิริยาเรียบร้อยจึงทำให้ครั้งแรกที่ฮูหยินของตระกูลฝูเห็นก็รู้สึกเอ็นดูนางไม่ใช่น้อย
“ถึงแม้เรื่องราวจะยุ่งยากไปหน่อย แต่ก็ต้อนรับเข้าตระกูลของเรานะลูก”
คำพูดที่อบอุ่นแทบจะทำให้ฝูหรงน้ำตาไหล เพราะหญิงสาวนึกกังวลกลัวว่าคนที่นี่จะรังเกียจที่นางไม่ใช่บุตรสาวที่เกิดจากฮูหยินเอก เป็นเพียงหญิงสาวที่เกิดจากอนุฟๆผภรรยา แต่การกระทำที่เหมือนจะไม่สนใจนี่กลับทำให้เกิดรอยยิ้ม แม้กระทั่งหัวหน้าตระกูลอย่างรั่วเจิ้นหวินที่ดูดุก็ยังยิ้มให้นางน้อย ๆ พอให้ฝูหรงมีกำลังใจ
หลังจากจบพิธียกชา ทั้งหมดก็นั่งพูดคุยกัน แล้วก็คงไม่พ้นเรื่องทั่ว ๆ ไปที่สะใภ้ทุกคนจะต้องรู้ในวันแรกที่แต่งเข้าตระกูลสามี หัวหน้าตระกูลอย่างรั่วเจิ้นหวินและสามีของนางแยกตัวไปทำงาน จึงเหลือเพียงแค่ฝูหรงและรั่วฮูหยินเท่านั้น
“ทั้งสองก็ดูเย็นชาเช่นนี้ รั่วหยางจิ้นเขานิสัยเหมือนบิดาเจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ”
ฝูหรงพยักหน้าอย่างเข้าใจ ทุกครั้งที่รั่วหยางจิ้นมาพบพี่สาวของนางที่จวน เขาก็ทำสีหน้านิ่งเรียบ สีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยสงบนิ่งราวกับใบหลิว มีเพียงแววตาของเขาที่ฉายแววมีความสุขมากขึ้นกว่าครั้งที่เขามาที่จวนสกูลฝู คงมีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นกับรั่วหยางจิ้นในช่วงยามนี้กระมัง อาจจะเป็นข่าวดีในอันดับสอบ นางแอบเห็นริมฝีปากที่เคยเยียดตรงยกยิ้มราวกับสมใจบางสิ่งชั่วครู่ก่อนจะหมุนตัวเดินตามบิดาของเขาออกจากเรือนไป
บทที่ 35วันเวลาผ่านไปคุณชายและคุณหนูตระกูลรั่วกลายเป็นคนที่บรรดาขุนนางทั้งหลายต่างหมายปอง เพราะผิดหวังจากการเข้าหาคนพ่อที่รักเดียวใจเดียวต่อฮูหยินของตนจึงคิดจะเข้าทางบุตรชายและบุตรีแทนแต่เพราะการเลี้ยงดูของฝูหรงและรั่วหยางจิ้นจึงทำให้ไม่ง่ายนักที่เหล่าบุตรและบุตรีจากตระกูลขุนนางจะตีสนิทบุตรทั้งสองของรั่วหยางจิ้นได้“ใต้เท้ารั่วปีนี้บุตรของท่านก็ถึงวัยที่จะมีคู่แล้วได้มองใครเอาไว้ให้บุตรชายบ้างหรือเปล่า” รั่วหยางจิ้นแอบหัวเราะในใจ ขุนนางคนนี้แค่มองและแค่เอ่ยออกมาเพียงแค่คำก็รับรู้ถึงความคิดในใจ “ไม่มีหรอก ข้าให้บุตรชายและบุตรสาวได้เลือกคนที่รักเอง ท่านไม่รู้หรอกว่าความรักนั้นสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คิด” ขุนนางชราคนนั้นยิ้มจาง ๆ ให้ ก่อนจะขอตัวจากไปเมื่อการเจรจาไม่สำเร็จอย่างที่ตั้งใจเรื่องที่เกิดขึ้นในฝั่งของชายหนุ่มก็ไม่ได้ต่างกันเลยกับทางด้านฝูหรงเมื่อไปเจอกับเหล่าฮูหยินด้วยกันก็มักมีคนมาเสนอทั้งบุตรสาวและบุตรชายให้เลือกเป็นเขยหรือสะใภ้ เพราะนางดูหัวอ่อนน่าจะกล่อมง่ายกว่าคนเป็นสามี แต่ไม่ว่าจะชักจูงเช่นไรก็ได้รับแค่รอยยิ้มจาง ๆ กลับมา บทสนทนาก็จะจบลงด้วยความเงียบแทบจะทุกครั้ง
บทที่ 34รั่วหยางจิ้นเป็นทั้งสามีที่ดี และพ่อที่ดีหากฝูหรงไม่ตั้งครรภ์นางคงไม่มีทางรู้เรื่องนี้เด็ดขาด ท้องที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้หญิงสาวรับรู้ว่าสามีของนางรักและเป็นห่วงนางมากขนาดไหนเขาแทบจะมาอยู่เป็นเพื่อนเลยหากฝูหรงรู้สึกไม่ดี ชายหนุ่มออกไปหาทุกอย่างที่หญิงสาวต้องการ ซึ่งอาการแพ้ท้องของฮูหยินเจ้าเมืองก็คล้ายจะเป็นการกลั่นแกล้งผู้เป็นสามีจริง ๆ“ขนมจากร้านที่สองจากมุมถนนอี้หรือ” รั่วหยางจิ้นถามย้ำภรรยา แต่พอไปถึงร้านขนมนั้นกลับไม่เปิด เดือดร้อนชายหนุ่มต้องไปหาของอื่นมาทดแทนแต่ก็เหมือนฮูหยินที่ตั้งครรภ์ของเขาจะจับได้ทุกครั้งที่ของที่นางสั่งไม่ตรงตามต้องการ กว่าจะพ้นช่วงแพ้ท้องก็ทำเอาชายหนุ่มซึ่งเป็นเจ้าเมืองต้องถูกให้สรรหาอะไรแปลก ๆ มาให้ แต่สุดท้ายก็ผ่านมาจนได้ และยิ่งทำให้ฝูหรงรักสามีหนักขึ้นอีก“รู้สึกดีขึ้นหรือยัง” รั่วหยางจิ้นเอ่ยถามคนที่กอดเขาเอาไว้แน่นราวกับเป็นลูกลิง และแม้ว่าหญิงสาวจะพยักหน้าบอกว่าตนเองดีขึ้นแล้ว แต่กลับไม่ยอมปล่อยมือทั้งยังอิงหัวอยู่ที่บ่ากว้างของเขาท่าทางน่าเอ็นดูนั่นทำให้รั่วหยางจิ้นอดไม่ได้ที่จะประทับริมฝีปากไปที่หน้าผากเนียนของภรรยาตลอดการตั้ง
บทที่ 33หลังจากผ่านไปเกือบห้าปีรั่วหยางจิ้นที่สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ก็ได้ย้ายกลับไปประจำอยู่ที่เมืองหลวงในตำแหน่งรองเจ้ากรมการคลัง การเดินทางกลับมาครั้งนี้ฝูหรงกลับมาด้วยท่าทางที่ต่างออกไปจากตอนที่จากไป จนแม่สามีที่ตอนมาเยี่ยมช่วงที่ตั้งครรภ์ก็ไม่ทันสังเกตเพิ่งมาเจอเอาตอนที่กลับมาก็รู้สึกแปลกใจที่ลูกสะใภ้ของนางไม่ได้หัวอ่อนและก็ถูกเอารัดเอาเปรียบได้ง่ายอย่างที่คิด ทั้ง ๆ ที่คิดว่าหญิงสาวเพิ่งมาเปลี่ยนเอาตอนที่ต้องย้ายเมืองแต่ความเป็นจริงแล้วฝูหรงก็เป็นเช่นนี้มานานแล้ว และก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้แสดงออกเพราะนั่นก็เป็นนิสัยของนางเหมือนกัน หญิงสาวไม่ได้ตั้งใจให้แม่สามีเข้าใจตัวนางผิดแต่เพราะตลอดมาฝูหรงต้องเอาตัวรอดจึงได้เป็นเช่นนี้แต่เพราะมารดาของนางเลี้ยงและอบรบมาดีก็จึงเป็นการเอาตัวรอดแต่ไม่ได้ทำร้ายใคร การกลับมาของขุนนางหนุ่มที่ถูกเลื่อนขั้นขึ้นมาก็ทำให้บรรดา แม่นางน้อยใหญ่อยากเข้าหาสามีของฝูหรงอีกครั้ง แม้จะมีฮูหยินอยู่และยังมีบุตรถึงสองคนแต่เพราะฐานะและหน้าตา หล าย ๆ คนจึงคิดว่าควรที่จะเสี่ยงแต่กลับถูกดับฝันโดยภรรยาของขุนนางหนุ่ม ฝูหรงยังคงช่วยสามีแต่งตัวเหมือนเมื่อก่อน มือเรียวท
บทที่ 32หลังจากวันที่ได้เปิดใจกันทั้งคู่ก็พยายามที่จะไม่สงสัยในเรื่องใดอีก หรืออาจจะเป็นเพราะหน้าที่ของเจ้าเมืองนั้นมีเยอะมากเกินกว่าจะมามีเวลาสงสัยเรื่องที่ได้บทสรุปแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้รั่วหยางจิ้นเพิ่งเข้าใจว่าทำไมฮ่องเต้จึงส่งเขามาที่นี่ ตอนแรกคิดว่าจะเป็นการเสียความรู้ของตนเปล่า ๆ เสียแล้ว ที่มาอยู่เมืองที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนัก แต่สุดท้ายเขาก็เข้าใจทุกฤดูของเมืองนี้ล้วนไม่มีอะไรรุนแรงแต่เมื่อยามหน้าฝน ฝนกลับตกหนักนัก ทำให้ชาวบ้านต้องต่อสู้กับเรื่องน้ำท่วมทั้งบ้านเรือนและที่ทำกินอยู่เป็นประจำหน้าที่ของเจ้าเมืองคนใหม่จึงต้องหาวิธีจัดการกับสิ่งเหล่านั้น ซึ่งปีแรกเขาไม่ทันตั้งตัวจึงเกิดอุทกภัยเหมือนที่เคยเกิดแม้จะไม่รุนแรงแต่ก็ทำให้พืชพันธ์เสียหายแต่ในปีถัดมาปัญหานี้ก็ได้รับการแก้ไข ชายหนุ่มทำฝายกั้นน้ำเอาไว้เป็นช่วง ๆ และยังขุดทางเป็นร่องให้น้ำไหลไปเก็บไว้ในพื้นที่ที่ไม่มีคนอยู่อีกด้วยเพราะเป็นน้ำหลากจึงแก้ปัญหาได้โดยง่าย แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็เหนื่อยทั้งกายและใจ แต่เพียงแค่กลับมาจวนได้รับการต้อนรับที่ดีจากภรรยาที่รัก ความเหนื่อยที่มีก็บรรเทา“เป็นอย่างไรบ้างเจ้
บทที่ 31ฝูหรงกำลังตุ๋นไก่กับโสมให้กับสามีของตนโดยมีชิงอี้เป็นลูกมืออยู่ไม่ห่าง“ที่จริงข้าคิดมาตลอดว่าฮูหยินเล็กกับท่านเจ้าเมืองเป็นคู่รัก ที่ดูรักและใส่ใจกันมาก ๆ” ชิงอี้ที่ลอบสังเกตท่าทางของทั้งสองเอ่ยตามที่ตนคิด“แล้วที่ผ่านมาไม่ใช่หรือ” หญิงสาวที่กำลังตรวจดูไก่ตุ๋นโสมเอ่ยถามสาวใช้คนสนิทของตนเองซึ่งก็ได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้าและยังเอ่ยย้ำอีกรอบ “ไม่ใช่เจ้าค่ะ” คำตอบของชิงอี้ทำให้ฮูหยินเจ้าเมืองอย่างฝูหรงแปลกใจ “ไม่ใช่หรือเพราะเหตุใดกัน ข้าดูไม่รักท่านพี่ หรือว่าเขาดูไม่รักข้าหรือ”คำถามของฝูหรงนั้นทำให้ชิงอี้คิดมากจนหญิงสาวที่เป็นนายหญิงของจวนเจ้าเมืองแห่งนี้อดหัวเราะกับท่าทางจริงจังของนางไม่ได้“แค่รักเฉย ๆ มันน้อยไป ข้าคิดว่าพวกท่านรักลึกซึ้งกันมากกว่านั้นจากที่ดู แค่คนที่เพิ่งรู้จักเพิ่งแต่งงานจะรักกันได้ขนาดนี้เลยหรือ” ฝูหรงยิ่งฟังคำของชิงอี้ก็ยิ่งแปลกใจ “ใครให้เจ้ามาพูดอะไรหรือ” หญิงสาวเอ่ยอย่างรู้ทัน ซึ่งชิงอี้ก็รีบปฏิเสธแต่มีหรือจะทัน“เปล่าเจ้าค่ะ ข้าสงสัยเองจริง ๆ” คำตอบนั้นไม่ได้ช่วยให้ความสงสัยของนายหญิงแห่งจวนเจ้าเมืองแห่งนี้หายไปเลยแม้แต่นิด “ที่จริงจะสงสัยไปทำไม
บทที่ 30หลังจากรับรู้เรื่องราวการหมั้นของพี่สาวและคนที่นางแอบรัก ฝูหรงก็ไม่สนใจอะไรอีก หญิงสาวไม่อยากเป็นคนไม่ดีที่อิจฉาพี่สาวตนเอง แต่ความรู้สึกไม่พอใจที่ไม่ค่อยได้เกิดบ่อย ตอนนี้กลับพุ่งสูงอย่างบอกไม่ถูกฝูหรงจึงคิดว่าควรจะปล่อยวางเรื่องทุกอย่างไป ทิ้งความรู้สึกที่มีทั้งหมด อย่างไรนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ็บสักหน่อย แต่ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนจะเคยถูกเอาเปรียบอยู่เสมอแต่ครั้งนี้กลับเจ็บจนต้องร้องไห้ออกมา แต่ก็เศร้าอยู่ได้เพียงไม่นานเมื่อสิ่งที่คาดคิดนั้นไม่เหมือนกับความเป็นจริง เพราะหลังจากเจอกันไม่กี่ครั้งพี่สาวของนางอย่างฝูอิงก็แสดงท่าทางรำคาญรั่วหยางจิ้นอย่างเห็นได้ชัดตอนแรกฝูหรงรู้สึกดีใจที่พี่สาวไม่ได้สนใจรั่วหยางจิ้นมากนักมันทำให้ดวงใจที่แห้งเหี่ยวของนางฟูขึ้นมาได้บ้าง เพราะเอาเข้าจริง นางก็ยังแอบหวังว่าจะได้เคียงข้างอีกฝ่าย แต่ก็ดีใจได้แค่ชั่วครู่เท่านั้นเพราะความไม่สนใจของพี่สาวมีอยู่แค่ตอนที่ได้ยินเพียงชื่อ พอได้เจอกับรั่วหยางจิ้น ฝูอิงก็เริ่มสนใจคู่หมายของตนเพราะคุณชายรั่วผุ้นั้นไม่ใช่คนขี้ริ้วการหมั้นหมายจึงเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ทำให้ฝูหรงคิดตัดใจอีกรอบแต่ระหว่างที่หญิงสา