Share

ฮูหยินใหญ่
ฮูหยินใหญ่
Author: เหลียนฮวาสีชมพู/เสี่ยวอวี้

บทนำ

ย่างเข้าเดือนสิบ สายลมเหมันต์เริ่มพัดพา ปุยหิมะสีขาวร่วงหล่นจากผืนฟ้าสีคราม เกี้ยวสีแดงหลังใหญ่ตัดกับสีเขียวของทิวทัศน์รอบด้าน มีบุรุษร่างกำยำแปดคนหามพร้อมกับก้าวเดินเป็นจังหวะ ขบวนเจ้าสาวผู้เพียบพร้อมครบถ้วนสมฐานะกำลังมุ่งสู่ปลายทางด้วยใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้ม

ด้านในเกี้ยวมีร่างบอบบางของเจ้าสาวคนงามนั่งอย่างสงบ บรรยากาศรอบด้านอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของงานมงคล เสียงเครื่องเป่าดังสูงต่ำเป็นทำนองสลับกับเสียงตีฆ้องเป็นจังหวะ ทว่าสีหน้าคนข้างในกลับเต็มไปด้วยความกังวล

เกี้ยวแดงหลังใหญ่โคลงเคลงไปมาชวนให้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย หญิงสาวพยายามข่มอาการเหล่านั้นพลางตั้งสติ นี่คืองานแต่งของนางจะให้ความหวั่นวิตกมาทำลายไม่ได้ เพราะวันนี้คือวันสำคัญที่สุดในชีวิต มิอาจพลาดได้โดยเด็ดขาด

วันที่นางจะกลายเป็นฮูหยินใหญ่ ก้าวเข้าสู่เส้นทางสายภรรยาหลวงที่ต้องคอยดูแลทั้งสามีและอนุอีกหลายคน

นางคืออวิ๋นซือ บุตรสาวเพียงคนเดียวของใต้เท้าอวิ๋นเสนาบดีกรมคลังแห่งแคว้นกับฮูหยินใหญ่จางซื่อ ที่บอกว่าเป็นบุตรสาวคนเดียวนั้นหาใช่ว่าบิดามีบุตรแค่นางหรอกนะ แต่หมายถึงคนเดียวที่มีกับฮูหยินใหญ่ต่างหาก เพราะบิดาของอวิ๋นซือมีสามภรรยากับสี่อนุอย่างครบครัน และยังไม่รวมสาวใช้อุ่นเตียงที่มีมากมายเสียจนนางผู้เป็นลูกนับญาติไม่ถูก

นางจางซื่อมีอวิ๋นซือเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว อีกทั้งยังมิอาจตั้งครรภ์สายเลือดชายเพื่อสืบทอดวงศ์ตระกูลได้ ทำให้ฐานะฮูหยินใหญ่ในจวนไม่มีความหมายนัก ผู้ที่มีอำนาจในจวนแท้จริงกลับเป็นฮูหยินสามที่มีบุตรชายถึงสองคน ทว่าเมื่อไม่นานมานี้เจียงฮูหยินรองก็คลอดทายาทชายมาอีกคน ทำให้การแย่งชิงอำนาจภายในจวนดุเดือดขึ้นไปอีก

อวิ๋นซือไม่แยแสการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นของคนเหล่านั้น สิบห้าปีที่เติบโตในจวนเสนาบดี ภาพที่นางเห็นมีเพียงมารดาที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ของบิดา รับใช้บรรดาฮูหยินรอง รวมทั้งดูแลอนุและเหล่าสาวใช้ที่บิดาโปรดปราน นั่นคือฐานะฮูหยินใหญ่ ทว่าทำงานไม่ต่างจากคนใช้ที่ต้องคอยดูแลทุกเรื่อง ความสำคัญของมารดาที่มีในใจบิดามิสู้อนุคนหนึ่งเลยด้วยซ้ำ

ฮึ! นี่ละชะตาของคนเป็นฮูหยินใหญ่ ภรรยาหลวงที่บุรุษทั้งหลายตบแต่งพวกนางเข้ามาเป็นเมียเอกเพื่อเชิดหน้าชูตา

ท่ามกลางปุยหิมะและสายลมเหมันต์ ในที่สุดขบวนเจ้าสาวก็เดินทางมาถึงที่หมาย เกี้ยวเจ้าสาวถูกวางลงบนพื้น พร้อมเสียงแม่สื่อร้องขานบอกพิธีการให้เจ้าบ่าวเตะเกี้ยวข่มภรรยาตามธรรมเนียม

อวิ๋นซือคลี่ยิ้มบางใต้ผ้าคลุมลายนกยวนยางคู่ ธรรมเนียมประเพณีช่างน่าขบขันนัก บุรุษมีค่ากว่าสตรี สามีคือฟ้า ภรรยาคือดิน แต่งถูกต้องตามพิธีการหมายถึงภรรยาเอก แต่งด้อยลงมาคือภรรยารอง ถัดมาอีกนิดก็เป็นอนุ แต่ไม่ว่าคนไหนก็คือภรรยาที่ต้องเห็นสามีเป็นฟ้าอยู่ดีมิใช่หรือ

ขนาดนี้แล้วยังต้องข่มอีกหรืออย่างไร

ระหว่างที่นางกำลังอยู่ในภวังค์ความคิด ด้านนอกก็เสร็จสิ้นธรรมเนียม มือใหญ่ที่ได้รูปสวยงามของบุรุษถูกยื่นเข้ามา อวิ๋นซือสูดลมหายใจเข้าเบาๆ ก่อนจะยกมือขาวนุ่มของตัวเองวางทับลงไป

ร่างสูงประคองเจ้าสาวของตัวเองเข้าสู่ด้านใน ฝ่ามือที่เกาะกุมกันให้สัมผัสที่แตกต่างในความรู้สึกของทั้งคู่ คนหนึ่งสัมผัสถึงความนุ่มนวลของมือน้อยนั้น อีกคนรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของบุรุษเพศจากความสากกระด้าง อวิ๋นซือหลุบตาลงต่ำยามที่ก้าวเท้าตามแรงจูง

เขาเป็นบุรุษคนแรกนอกจากบิดาที่นางจับมือ และจะเป็นคนแรกในอีกหลายๆ เรื่องด้วย หวังเพียงว่าในอนาคตต่อไปข้างหน้า อีกฝ่ายจะให้เกียรติกันบ้าง เท่านี้ก็พอใจแล้วสำหรับนาง

ในที่สุดพิธีการแต่ละขั้นตอนก็ผ่านไปและเสร็จสิ้น ค่ำคืนที่มีค่าดั่งทองพันตำลึงเงียบสงัด สาวใช้และแม่สื่อออกไปกันหมดแล้ว ร่างบอบบางนั่งเกร็งเล็กน้อย สองมือที่กุมประสานกันของนางชื้นไปด้วยเหงื่อ ร่างสูงของคนที่เป็นสามีหมาดๆ ก้าวมายืนด้านข้าง มือเรียวสวยดุจหยกช่วยนางปลดเครื่องประดับบนศีรษะออกอย่างอ่อนโยน หญิงสาวขบริมฝีปากสะกดอาการอึดอัดในใจ รอจนเขานำทุกอย่างออกจากผมจนหมด

“เจ้าหิวหรือไม่”

เขาถามน้ำเสียงทุ้มนุ่มนวล เสียงนั้นกังวานทว่าอ่อนโยนอย่างยิ่ง จนอวิ๋นซืออดเงยหน้าขึ้นลอบมองอีกฝ่ายไม่ได้ ใบหน้าเขาให้ความรู้สึกไม่ต่างจากเสียง งดงาม คมสัน และสดใสราวกับสายน้ำที่เย็นฉ่ำ ดวงตาคมฉายแววอบอุ่น เพียงแค่สบมองก็ทำให้คนเคลิบเคลิ้ม ปากแดงฟันขาวและท่าทางอมยิ้มน้อยๆ นั่นก็ชวนให้รู้สึกหลงใหลได้

เมื่อเห็นเจ้าสาวเหม่อลอยราวกับถูกมนตร์สะกด หลันชิงอมยิ้มอารมณ์ดี เขาหัวเราะเสียงทุ้มละมุนหูพลางก้าวมาคว้าจอกสุราบนโต๊ะ แล้วยื่นส่งให้นางจอกหนึ่ง พออวิ๋นซือรับมาถือ อีกฝ่ายก็คล้องแขนไขว้ดื่มทันที

สุรารสแรงบาดคอ อวิ๋นซือดื่มรวดเดียวหมดจอก จากนั้นใบหน้างดงามก็แดงก่ำลงมาถึงลำคอ นางกะพริบตาถี่ๆ เมื่อความรู้สึกมึนงงเข้าจู่โจม หลันชิงหัวเราะเอ็นดูในความคออ่อนของภรรยา เขาจับจูงนางมานั่งที่โต๊ะอาหารก่อนจะชักชวนให้กิน

กินอาหารคาวแล้วก็ต้องมีของหวานตบท้าย สำหรับหลันชิง ของหวานก็คืออวิ๋นซือนั่นเอง สุราฤทธิ์แรงและบุรุษรูปงามราวกับภาพฝันทำให้รู้สึกมึนเมากว่าปกติ กว่านางจะทันรู้สึกตัว แผ่นหลังเปลือยเปล่าก็สัมผัสกับที่นอนเย็นเยียบแล้ว

ดรุณีน้อยวัยสิบห้าไร้ประสบการณ์ได้แต่ตอบสนองอย่างเงอะงะ บุรุษหนุ่มผู้ช่ำชองใช้ความชำนาญหลอกล่อให้นางเผลอไผล ก่อนที่จะกรีดร้องเมื่อรู้สึกถึงความปวดร้าว

ทว่าไม่นานความเชี่ยวชาญของหลันชิงก็ทำให้นางตอบสนองอีกครั้ง เมื่อความเจ็บปวดคลายลง ความรู้สึกแบบใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสก็เร่งเร้า อวิ๋นซือเผลอปลดปล่อยเสียงหวานที่วาบหวามจนตัวเองยังอดตกใจไม่ได้

ภายนอกสายลมเหมันต์พัดกระโชก หิมะที่โปรยปรายลงบนพื้นกลายเป็นพรมสีขาวสะอาดตา ตัดกับสีแดงสดของกลีบเหมยฮวาที่ร่วงหล่น ราวกับผืนผ้าบนเตียงนอนของคู่บ่าวสาว

ในห้องนอนที่ร้อนผ่าวจนสายลมและไอหิมะยังต้องล่าถอย สองร่างแนบแน่นเกี่ยวกระหวัดรัดรึง เตียงนอนหลังใหญ่โยกไหวส่งเสียงประท้วง ทว่าผู้เป็นนายกลับไม่คิดจะใส่ใจ

อวิ๋นซือเหลือบมองผ่านหน้าต่างที่เปิดรับสายลมเย็นฉ่ำ ภาพสุดท้ายที่นางเห็นนอกหน้าต่างคือ ผืนหิมะสีขาวที่ตัดด้วยกลีบเหมยฮวาสีแดงสด จากนั้นคนบนร่างก็ทาบริมฝีปากลงมา พร้อมกับความรัญจวนที่อีกฝ่ายสร้างขึ้น ดวงตาสุกใสเกิดละอองน้ำจนพร่ามัว เสียงหนึ่งพลันดังแว่วขึ้นมาในหัว

‘วอนขอรักแท้ที่มั่นคง เพียงหนึ่งยวนยางยืนยงจนแก่เฒ่า’

หยาดน้ำใสพลันไหลรินจากหางตา รักแท้มั่นคงหนึ่งคู่นกยวนยาง ในอดีตเป็นนางที่เฝ้าท่องบทกลอนนี้เสมอมา

แต่เด็กสาววัยฝันผู้ใดบ้างเล่าจะไม่จะใฝ่หา…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่ยี่สิบ

    ยามเหม่ามาเยือน รอบด้านเริ่มสว่างรำไร แว่วเสียงสกุณาขับขาน แสงสีส้มสาดส่องตรงขอบฟ้า ไล่สีสว่างขึ้นเรื่อยๆร่างสูงในอาภรณ์สีดำตัวยาวก้าวผ่านสวนดอกไม้ละลานตา ขาเรียวเหยียบย่างก้าวสู่ด้านในตัวเรือน สายตามองตรงไปยังประตูห้องนอนเขม็งที่หน้าห้องมีร่างสาวใช้คนสนิทของอวิ๋นหานอยู่สองคน พวกนางมองบุรุษผู้มาพร้อมกลิ่นอายเย็นชาด้วยสายตาตื่นตระหนก แต่ยังคงพยายามทำหน้าที่ขัดขวางอีกฝ่ายไว้“หลีกไป! ข้ามีธุระต้องคุยกับคนข้างใน ไม่มีเวลามาวุ่นวายกับพวกเจ้าหรอก” ฉิงเหวินฟู่เอ่ยขณะที่ดวงตาฉายความหงุดหงิด เขาไม่ใช่คนรักหยกถนอมบุปผาก็จริง แต่การจะให้ทำร้ายสตรีนั้นหาใช่นิสัยไม่ เพราะเหตุการณ์ที่เรือนรับรองของอวิ๋นซือเมื่อครู่พาให้อารมณ์ขุ่นมัวมิใช่น้อย การแสดงออกในยามนี้จึงดุดันและแฝงแววข่มขวัญยิ่งจงเหมยกับจงหมิงมองหน้ากัน ดวงตามีแววตกใจพาดผ่าน ไฉนคุณชายฉิงผู้นี้จึงพูดเหมือนรู้ว่านายท่านหลันอยู่ด้านในกันเล่า“คุณชายโปรดรั้งเท้า คุณหนูของพวกเรากำลังพักผ่อนอยู่ในห้อง ชายหญิงมิอาจใกล้ชิดจนเกินงาม ขอท่านโปรดให้เกียรติด้วย”เป็นจงเหมยที่เอ่ยปากขึ้น นางไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทราบอะไรมา แต่ถ้าใครรู้ว่าคุณหนูร่วมห้องกับ

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่สิบเก้า

    หมับ!มือแกร่งของใครบางคนยื่นมาคว้าคอเสื้อผู้ที่อยู่ข้างบน พลางออกแรงดึงรั้งคุณชายรองสกุลซูให้ออกห่างจากร่างด้านล่าง ดวงตาผู้มาใหม่ทอประกายวาวโรจน์ สีหน้าของเขาดำคล้ำทั้งยังแผ่กลิ่นอายเกรี้ยวกราดอวิ๋นซือไม่สนใจมองผู้มาใหม่ เมื่อเห็นซูเจี่ยนถูกหิ้วห่างออกไป ปิ่นที่ถืออยู่ในมือพลันพุ่งเข้าใส่เบ้าตาซ้ายของเขาทันทีที่มีโอกาสคนผู้นี้บีบคั้นนางจนเกือบต้องปลิดชีวิตตนเอง ไม่เอาคืนอีกฝ่ายในยามนี้จะไปทำยามไหน“อ๊าก!!!”เสียงร้องของคุณชายซูดังลั่นเรือนรับรอง เลือดแดงฉานทะลักไหลราวกับเป็นน้ำตาสีโลหิต แม้อวิ๋นซือจะเป็นคนลงมือเอง แต่ก็ยังมีใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ เพราะแต่เดิมนางหาได้เคยทำอะไรแบบนี้ไม่อย่าว่าแต่อวิ๋นซือจะตกใจเลย ร่างสูงในอาภรณ์สีดำที่อยู่ตรงนั้นก็ตะลึงเช่นกัน เมื่อเห็นการลงมือที่เฉียบขาดของสตรีตรงหน้าชายหนุ่มเหวี่ยงคนในมือลงบนพื้นทันควัน จากนั้นจึงก้มลงหยิบผ้าห่มผืนใหญ่ที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมาคลุมศีรษะอีกคนจนมิด ก่อนจะลากร่างที่กรีดร้องอยู่ข้างเตียงมาจัดการใกล้ๆ หน้าประตูเสียงหมัดเสียงเท้าดังกระทบเนื้อ อวิ๋นซือยังคงนั่งนิ่งตัวสั่นอยู่ใต้ผืนผ้า นางมองความมืดที่แสงสว่างเข้าไม่ถึ

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่สิบแปด

    หลังกลับจากงานเลี้ยง อวิ๋นซือที่รู้สึกล้าจนไม่อยากทำอะไรก็ปล่อยให้สาวใช้ทั้งสองปรนนิบัติตัวเองเพื่อเปลี่ยนชุดเข้านอนนางมองด้านนอกที่ยังมืดสนิทพลางกล่าวไล่คนสนิทไปพักผ่อน เสี่ยวอิงกับเสี่ยวหยวนยามแรกยังดื้อดึงที่จะเฝ้าหน้าห้อง แต่พอคิดถึงว่าอีกเดี๋ยวนายท่านคงจะกลับมา จึงยอมพากันจากไปพักผ่อนอวิ๋นซืออมยิ้มบางๆ นางฟังเสี่ยวอิงเอ่ยกำชับด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงแล้วให้ขบขัน เด็กสาวเมื่อวันวานกลายเป็นยายแก่ขี้บ่นในวันนี้เสียแล้ว กาลเวลาช่างเปลี่ยนผู้คนเสียจริง ร่างบางคว้าเสื้อคลุมมาสวมตามคำเตือน รอจนอีกฝ่ายปิดประตูเรียบร้อยจึงได้ก้าวมาหยุดยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง แววตาสีนิลเข้มขึ้นจนลึกล้ำเสียงไก่ขันแว่วมาตามสายลม บอกเวลาแทนคนเคาะโมงยามได้ดี อวิ๋นซือเลิกรอคอยใครบางคนแล้วหันกลับไปขึ้นเตียงบอกแล้วอย่างไรเล่าว่ากำแพงที่ฐานไม่ดี ไม่ช้าก็เร็วย่อมต้องพังทลาย...แสงไฟจากในห้องดับลงไปแล้วพร้อมกับอวิ๋นซือที่เริ่มง่วงงุน นางปรือตามองข้างกายที่ว่างเปล่า มือเล็กขยับลูบบนผืนผ้าที่เย็นเฉียบ ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยให้ความง่วงงุนเข้าครอบงำผ่านไปเนิ่นนานขอบฟ้าเริ่มสว่างไม่ดำสนิท ร่างสูงของบุรุษผู้หนึ่งพลันปรากฏกายขึ

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่สิบเจ็ด

    ฉิงเหวินฟู่มองใบหน้าเล็กที่ยามนี้แดงก่ำอย่างเฉยชา เห็นซูลี่หลินมีท่าทีอับอาย นางเกาะกุมแขนญาติผู้พี่ไว้แน่น ดวงตาคู่สวยคลอน้ำใสเต็มหน่วยตา ท่าทางกิริยาล้วนน่าถนอม ผู้คนในงานล้วนให้ความเห็นใจ พวกเขามาร่วมงานฉลองครั้งนี้ ก็เพราะสกุลตระกูลซูปล่อยข่าวออกไปเรื่องการหมั้นหมายของคุณหนูซูกับคุณชายตระกูลสกุลฉิงแทนที่จะได้เห็นภาพยินดีของงานมงคล กลับได้เห็นบุรุษอกสามศอกกลั่นแกล้งสาวน้อยผู้น่าสงสารแทนเสียนี่ฉิงเหวินฟู่ยังคงนั่งเฉย ไม่เอ่ยปากหรือไม่พูดคุยกับผู้ใด วางตนอยู่เหนือเรื่องราวทั้งมวล เขาเคยสัญญาหรือว่าจะตบแต่งอีกฝ่าย ที่ยินยอมมาก็เพื่อเผื่อว่าจะทำให้ตาแก่ที่คฤหาสน์พอใจได้บ้างทว่าปู่ของเขาหาใช่คนแก่แก่ธรรมดาเหมือนใครที่ไหน แค่เห็นท่าทีเสแสร้งแกล้งทำนั่นก็ ขี้คร้านจะไล่ฟาดหลังตนแทบไม่ทันน่ะสิแต่งภรรยาทั้งทีใครจะอยากได้สตรีที่ตีสองหน้าทั้งวี่ทั้งวันกัน เขาฉิงเหวินฟู่ไม่ใช่นายโรงละครงิ้ว จะได้ชื่นชอบดูการแสดงตลอดเวลา อีกทั้งต่อให้เป็นก็ไม่เอาคนที่ด้อยฝีมือด้อยจนเห็นได้ชัดอย่างนี้แน่นอนอวิ๋นซือมองซูลี่หลินที่มีท่าทีเสียใจจนหลันชิงต้องประคองออกไปพลางส่ายศีรษะหัว คุณชายฉิงผู้นี้ช่างไม่รักห

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่สิบหก

    ฮูหยินใหญ่ของพวกนางเปลี่ยนไป!เสี่ยวอิงกับเสี่ยวหยวนบอกตัวเองซ้ำๆ พวกนางพากันมองภาพคนงามออดอ้อนพลางเย้าหยอกบุรุษข้างกายด้วยกิริยาอ่อนหวาน ถึงขนาดดวงตาแข็งค้าง นั่นคือเจ้านายของพวกนางจริงหรือ ไม่ใช่ผู้อื่นปลอมตัวมาแน่นะอวิ๋นซือไม่รับรู้ถึงความในใจของคนสนิท นางทำเพียงยิ้มหวานจนถึงดวงตา ปล่อยให้สามีโอบประคองร่างตนเองไว้ในวงแขน พลางหลับตาพริ้มเมื่อริมฝีปากอุ่นร้อนประทับลงตรงหว่างคิ้ว“อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดของเจ้าแล้วนี่”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นข้างหูชวนให้วาบหวาม นางทำเพียงพยักหน้ารับพร้อมด้วยท่าทีเอียงอาย ผู้เป็นสามีมองกิริยาเก้อเขินด้วยความเอ็นดู พลางตัดใจไม่แกล้งภรรยาของตนต่อ“ใช่เจ้าค่ะ ต้นเดือนสิบก็จะถึงวันครบรอบสิบเจ็ดปีของน้อง” ร่างบางตอบเสียงหวาน ทุกการกระทำล้วนสื่อถึงความรักใคร่ผู้ชายของตนอาอิ้นที่ยืนรอรับใช้อยู่ด้านนอกเห็นแล้วยังอดยิ้มตามไม่ได้ มาลั่วหยางคราวนี้ถือว่าไม่เสียเที่ยวจริงๆ ในที่สุดนายท่านกับฮูหยินใหญ่ก็เข้าใจกันได้เสียที“อือ... ปีก่อนไม่ได้เตรียมตัว มอบให้เจ้าเพียงของขวัญทั่วไป ปีนี้ฮูหยินอยากได้สิ่งใด สามีจะไปหามามอบให้เจ้า แม้ดวงเดือนหรือดวงดาวพี่ก็คว้ามาให้เจ้า

  • ฮูหยินใหญ่   ตอนที่สิบห้า

    ดรุณีน้อยนางนั้นสวมอาภรณ์สีชมพู กิริยาน่ารักสดใส ใบหน้างดงาม มีเค้าคล้ายอวิ๋นซือไม่น้อย เจ้าตัวพูดคุยกับหลันชิงด้วยท่าทางสนิทสนมพอเสี่ยวอิงเห็นก็พลันตกใจจนต้องเอ่ยขึ้น “เอ๊ะ! นั่นคุณหนูรองนี่เจ้าคะ นางมาลั่วหยางได้อย่างไร”อวิ๋นซือมองอยู่ไม่นานก็รั้งสายตากลับ ผละมานั่งให้เสี่ยวหยวนจัดการผมที่เปียกชื้นของตัวเอง มุมปากยังคงอมยิ้มตามความเคยชินทำไมจะมาไม่ได้เล่า ฮูหยินสามหลิงจีแห่งจวนเสนาบดีกรมคลังกับซูฮูหยินเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน พวกนางสนิทสนมกันมาแต่ไหนแต่ไร ไม่แปลกหากอวิ๋นหานจะใช้โอกาสนี้มาร่วมงานเพื่อจะได้พบหน้าบุรุษที่นางใฝ่หาครั้นเห็นสามียังคงมีสีหน้าอ่อนโยนนุ่มนวลกับรอยยิ้มหวานของผู้เป็นน้องสาวร่วมบิดา อวิ๋นซือก็อดยิ้มบ้างไม่ได้ จริงอยู่ที่หลันชิงไม่ใช่ขุนนางมีอำนาจ แต่เขาคือพ่อค้าที่มีเงิน และบิดาของนางก็คือคนที่ต้องการมันมากที่สุดเกือบสองปีที่ผ่านมา หลันชิงเสียเงินส่วนนี้ให้ท่านพ่อของนางไปไม่น้อย จวนเสนาบดีกรมคลังไม่ต่างจากเปลือกหอยที่ข้างนอกคงอยู่ดี แต่ข้างในนั้นกลวงโบ๋ เพราะความมือใหญ่ใจเติบของบิดา เกรงว่าอีกฝ่ายคงเริ่มไม่ไว้ใจนาง และคงกังวลว่าขุมทรัพย์เยี่ยงหลันชิงจะหลุดมือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status