LOGINว่านจิ่วซิ่นหลับตาส่ายศีรษะสลัดความมัวในสายตา หวังว่าลืมตามาอีกที จะพบกับใบหน้าหล่อเหลา ของยอดบุรุษอันดับหนึ่งแห่งหอชายงาม ทว่ากลับยังพร่ามัวเหมือนเดิม “ช่างเถอะ” นางพึมพำแล้วเริ่มถอดสายคาดเอวตนออก
นางจะทำให้หวู่ไฉตงรู้ว่าบุรุษไม่ได้มีเขาคนเดียวในโลก เขาไม่รักใช่ว่าคนอื่นจะไม่รักนางเหมือนเขา ไม่คิดจะรักก็ไม่ได้ว่าอะไร ที่เจ็บใจคือเขาส่งนางไปให้ศัตรู นางเคยแทงหยวนกังปางตายเขาไม่ปล่อยนางไว้แน่ ลูกไม้เก่าที่เคยใช้ได้ในครั้งนั้นคงใช้ไม่ได้ผลอีกแล้ว
ตอนนี้ยังคิดหาวิธีเอาตัวรอดไม่ได้ พรุ่งนี้ก็จะถูกส่งตัวไปให้หยวนกัง ถูกบังคับให้แต่งงานกับศัตรู หญิงสาวจึงประชดชีวิตตนเองด้วยการ หาบุรุษมาร่วมหลับนอน
หนังสือหย่าก็ร่างแล้วลายนิ้วมือก็ประทับแล้ว จากนี้นางกับหวู่ไฉตงคือคนแปลกหน้า
วันนี้นางจะทำตามใจตนไม่สนสิ่งใดอีก ร่วมหลับนอนกับชายงาม แล้วประกาศให้หยวนกังรู้ว่านางเป็นหญิงแพศยาชอบสวมหมวกเขียวให้สามี ดูซิว่าหยวนกังยังจะอยากแต่งกับนางหรือไม่
ว่านจิ่วซิ่นปลดสายคาดเอวตน แล้วมัดมือทั้งสองของชายงามอย่างรวดเร็ว เขาตั้งตัวไม่ทันถูกนางลากดึงไปที่เตียง นางถอดเสื้อผ้าชายงามอย่างสนุก เขาขัดขืนนางยิ่งหัวเราะร่า สุดท้ายชายงามก็ไม่เหลือเสื้อผ้าบนตัว
นางมัดเขาติดเสาเตียง อยู่ค่ายทหารมานานสิ่งที่ไม่ควรเห็นนางก็เห็นมาหมดแล้ว ทหารหนุ่มพวกนั้นชอบดูภาพอภิรมย์นางก็ได้ดูด้วยเช่นกัน
หญิงสาวเริ่มลูบคลำน้องชายตัวนิ่มของชายงาม จนมันเจริญวัยเป็นมังกรตัวเขื่อง จากนั้นก็ครอบครองเจ้าสิ่งนั้นด้วยปากและลิ้น นางจำได้สตรีในภาพทำเช่นนี้ อีกทั้งนางจินตนาการว่าคนที่นางปรนนิบัติอยู่คือหวู่ไฉตง นางจึงลงโทษเขาอย่างรัวถี่ ให้เขาร้องขอชีวิตนางถึงจะสะใจ
“ว่านจิ่วซิ่น ยะ...หยุดได้แล้ว...ข้าคือไฉตง...ข้าคือไฉตง อืม อ่าส์” ปากบอกให้หยุดแต่ก็เสียวจนหลุดครางออกมา
ตอนนี้ว่านจิ่วซิ่นฟังอะไรไม่รู้ความทั้งสิ้น เพราะนางเมามาก ลงมือทำทุกอย่างตามที่ใจเรียกร้อง หญิงสาวจับขาชายงามแยกออก แล้วมัดขาเขาติดท่อนไผ่ซึ่งเป็นโครงสร้างของเตียง ทำให้ชายงามดิ้นหนีไม่ได้ จากนั้นก็ถอดอาภรณ์ตนเองเหวี่ยงทิ้ง
“เจ้ามัน...เจ้ามันไร้ยางอาย” หวู่ไฉตงเหลืออดตวาดในลำคอ ไม่เคยถูกผู้ใดทำให้อับอายเท่านี้มาก่อน ใจต่อต้านอยากสังหารคน แต่ร่างกายดันตอบสนอง เจ้าลูกชายตัวดียิ่งไม่ฟังเสียงในใจของเขา สู้มือนางทั้งยังกระตุกเรียกร้องสัมผัสจากนางอีก
ว่านจิ่วซิ่นไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้าง ในสมองมีแต่ภาพบทลงโทษในตำราที่เคยเห็น
“เจ้านี่นะ ผลักภาระเก่งที่สุด” กวางหมิงชี้หน้าหวู่ไฉตงด้วยรอยยิ้มรุ่งเช้าของวันใหม่กวางหมิงและชิงหลันตกอยู่ในสภาพตาเป็นหมีแพนด้า เขาอยากจะบ้าตาย เหมียนเหมียนเด็กดีของเขา เหมือนทหารออกรบที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและง่วงนอนนางให้เขาเป็นม้าพานางเดินทางไกลทั้งคืน ส่วนชิงหลันก็เป็นท่านแม่ที่ต้องทำอาหารให้นางกิน“ท่านพี่ข้าว่าพวกเรามีลูกคนเดียวก็พอว่าหรือไม่” ชิงหลันรู้สึกเหนื่อยเกินไป ถ้าจะมีเด็กหลาย ๆ คนมาเล่นกับนางแบบนี้ทุกวัน“ข้าเองก็ว่าเช่นนั้น” กวางหมิงถอนหายใจ แต่พอคิดอีกที มีลูกคนเดียวแล้วถ้าภรรยาไม่ให้ร่วมห่อเขาก็ซวยนะสิ “ไม่ได้ข้าจะเลี้ยงพวกเขาเอง เจ้าไม่ต้องเหนื่อยข้าสัญญา” จู่ ๆ กวางหมิงก็รู้สึกว่ากำลังขุดหลุมฝังตนเอง เมื่อพูดคำเหล่านี้กับภรรยาหลายคืนมานี้หวู่ไฉตงราวม้าศึกไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เคี่ยวกรำว่านจิ่วซิ่นเกือบรุ่งสางทุกวัน เช้ามาว่านจิ่วซิ่นกระดิกตัวแทบไม่ได้ แต่หวู่ไฉตงกลับกระปรี้กระเปร่าไม่มีท่าทีอ่อนแรงเลยสักนิดเวลาหนึ่งเดือนเต็มที่หวู่ไฉตงตั้งใจเสกน้องชายให้หวู่เหมียนเหมียน“ไฉตงข้ารู้สึกเหม็นเจ้าไปไกล ๆ ข้าหน่อย” ว่านจิ่วซิ่นโกงคออาเจียน เพราะกลิ่นสามมีเหม็นจนน
ชิงหลันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ “รองแม่ทัพว่านแม้ ท่านจะจะลืมอดีตไปสิ้น แต่ความผูกพันของพวกเราท่านกลับไม่ลืม ข้าคิดถึงท่านมากคิดถึงท่านเหลือเกิน” ชิงหลันกอดตอบว่านจิ่วซิ่น ก่อนที่สามีของนางจะเข้ามาประคอง“ไม่ร้องนะน้องหญิงเดี๋ยวบุตรของเราจะขี้แยเหมือนเจ้าไม่รู้ด้วยนะ” กวางหมิงเอ่ยปลอบ แต่เขาก็ห้ามน้ำตาไว้ไม่ไหวเช่นกัน เขาดีใจกับหวู่ไฉตงและว่านจิ่วซิ่นที่ฝ่าฟันอุปสรรคมานานัปการ ทั้งสุข ทั้งทุกข์ สุดท้ายก็ยังให้โอกาสกันและกัน แก้ไขสิ่งผิดพลาดจนมีความสุขได้อย่างวันนี้“เจ้าเป็นถึงแม่ทัพ ถ้าลูกเจ้าขี้แยก็เพราะพ่ออย่างเจ้าทำเป็นตัวอย่าง เหมียนเหมียนลูก นี่คือท่านลุงกวางหมิงและท่านป้าชิงหลันเจ้ามาทักทายท่านลุงท่านป้าหน่อย”เหมียนเหมียนน้อยเดินเข้าไปใกล้แล้วยอบกายคำนับ “เหมียนเหมียนคารวะท่างลุง ท่างป้า”กวางหมิงลูบศีรษะหลานสาว ที่ใบหน้าคล้ายหวู่ไฉตงราวกับแกะ “เหมียนเหมียนเด็กดีรับอั่งเปาจากลุงไปแล้วจะเอาไปทำอะไร” เขาถามเหมียนเหมียนน้อยเมื่อยื่นซองแดงไปให้“ข้าจะเอาไปซื้อย้องชายมาขี่ม้าเป็นเพื่อนเจ้าค่ะ”ทุกคนในที่นั้นต่างพากันหัวเราะ ที่เหมียนเหมียนน้อยจะใช้เงินซื้อน้องชาย กวางหมิงหัวเราะลั่นเมื
ว่านจิ่วซิ่นและหวู่ไฉตงยิ้มแล้วมองหน้ากัน “เหมียนเหมียนเด็กดีให้ท่านลุงเป่าอุ้มเจ้าไปไหม ท่านแม่เจ้าเจ็บขาเพราะปลาชน พ่อจะอุ้มท่านแม่เจ้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”“เจ้าค่ะท่างพ่อ” เหมียนเหมียนน้อยตอบตกลงอย่างว่าง่าย เมื่อจินเป่ามาอุ้มคุณหนูน้อย เด็กหญิงก็พูดเสียงดัง “ท่างยุงเป่า ปลาใหญ่ไม่มีจริง ท่างพ่อท่างแม่หลอกข้า ดูผมท่างแม่สิเจ้าคะมีใบไม้ติดด้วย ท่างแม่ไม่ได้จับปลาสักหน่อย คงมานอนพักเอาแรงต่างหาก”จินเป่าเคาะจมูกคุณหนูยิ้มๆ แล้วมองไปทางนายท่านที่มีท่าทีนิ่งเฉย แต่พอมองไปทางฮูหยินที่หน้าแดงก่ำพลางปัดใบไม้ที่ศีรษะทิ้ง ก็รู้ทันทีว่าเขานั้นคาดเดาได้แม่นยำ “ไปขอรับคุณหนู ท่านลุงโม่ย่างปลาสุกแล้ว”ว่านจิ่วซิ่นชกอกหวู่ไฉตงแผ่วเบา เมื่อเขาอุ้มนางขึ้นมา “เพราะเจ้า” เพราะเขาคนเดียวทำให้นางตกอยู่ในสภาพก้าวขาไม่ออกหวู่ไฉตงหัวเราะในลำคอ ก่อนจะพาฮูหยินของเขาขึ้นจากน้ำไปเปลี่ยนอาภรณ์ “ร้องออกมาก็พอแล้ว ต่อไปอย่ากัดตัวเองอีก”“ท่านไม่อายแต่ข้าอาย” ว่านจิ่วซิ่นใบหน้าแดงก่ำเมื่อหวู่ไฉตงทายาตรงรอยฟัน ที่นางกัดตนเองกลั้นเสียงครางไว้“ต่อไปข้าจะไล่จินโม่จินเป่าไปให้ไกล รวมถึงเหมียนเหมียนด้วย” หวู่ไฉตงเอ่ยห
ว่านจิ่วซิ่นรู้สึกเสียวเกินบรรยาย นางถูกเขาจับเอวยกขึ้นโขดหิน“เจ็บไหม” หวู่ไฉตงเอ่ยถามก่อนจะมุดหน้าลงไปกลางบุปผา ที่แย้มรอรับเหล่าภมรมาดูดเกสร หลังจากได้คำตอบจากภรรยารักว่าไม่เจ็บว่านจิ่วซิ่นครางถี่ เมื่อลิ้นร้อนของสามีรัวอยู่ในร่องชื้นแฉะของนาง “ไฉตงข้าไม่ไหวแล้ว” นางเอ่ยเสียงค่อยก่อนจะหลั่งน้ำพิสุทธิ์ออกมาอย่างน่าอาย เขากลับไม่รังเกียจกลืนกินน้ำของนางพลางดูดเลีย ทำให้ว่านจิ่วซิ่นเสียวแทบสิ้นใจเขาจับเอวนางยกลงน้ำ แล้วให้นางหันหลังท้าวโขดหิน ก่อนจะสอดใส่ทางด้านหลัง แล้วเริ่มบดสะโพกใส่นางอย่างเชื่องช้า แต่หนักหน่วง ว่านจิ่วซิ่นเสียวจนแทบกรีดร้องแต่นางต้องกัดฟันไว้ เพราะไม่ไกลจากนางและหวู่ไฉตง มีเสียงบุตรสาวหัวเราะสนุกสนานกับการจับปลาอยู่หวู่ไฉตงกระแทกจากเชื่องช้าเป็นเร็วถี่ น้ำบริเวณนั้นกระเพื่อมไหว แตกกระเซ็น เขายิ่งกระแทกแรงขึ้น แรงขึ้นพร้อมหลุดเสียงครางสุขสมออกมา“ท่างพ่อเจ้าค่ะ กงนั้นมีปลาใหญ่ดิ้นแรงหรือ” หวู่เหมียนเหมียนหันไปสนใจ บริเวณหลังโขดหิน ที่บิดามารดาจับปลาอยู่ น้ำแตกกระจายขนาดนั้น ปลาต้องตัวใหญ่แน่เลย นางหันมาหาจินเป่า “ท่านยุงข้าอยากไปจับปลากะท่างพ่อ”หวู่ไฉตงได้ยินเ
“เหมียนเหมียนเด็กดีเปลี่ยนชุดก่อนแล้วแม่จะพาเจ้าเล่นน้ำ” ว่านจิ่วซิ่นบอกกล่าวหวู่ไฉตงและจินโม่จินเป่า ก่อไฟนำเสบียงมาทำอาหาร หวู่ไฉตงทำไข่ตุ๋นให้บุตรสาว แต่บุตรสาวร้องอยากกินปลา เขาและจินเป่าจึงต้องเปลี่ยนชุดลงไปจับปลา“ยุงเป่า เหมียนเหมียนอยากจับด้วย” เหมียนเหมียนน้อย ชอบความตื่นเต้นโลดโผน เล่นน้ำกับท่างแม่ไม่สนุก นางต้องให้ท่างยุงเป่าพาเล่น“คุณหนูอยากจับปลากับข้าน้อยใช่รึไม่ขอรับ” จินเป่าเอ่ยถาม“ยูกต้อง”บางคำเหมียนเหมียนน้อยก็ยังพูดไม่ชัด ซึ่งนั่นทำให้นางยิ่งน่ารักน่าเอ็นดู “คุณหนูรอตรงนั้นนะขอรับ เดี๋ยวลุงไปรับ”“เหมียนเหมียนไม่เล่นกับแม่ แล้วแม่จะเล่นน้ำกับใครล่ะลูก” ว่านจิ่วซิ่นแสดงท่าทีน้อยใจ แก้มป่องพองคล้ายเหมียนเหมียนน้อยมาก“โอ๋ ๆ ท่างแม่ไม่ต้องน้อยใจ เหมียนเหมียนจะบอกให้ท่างพ่อมาเล่นด้วย” เสียงใสราวนกแก้วพูดเจี๊ยวจ๊าวปลอบใจมารดา หากแต่ใจนั้นไปอยู่กับท่างยุงเป่าแล้วหวู่ไฉตงเดินลงน้ำมาหาว่านจิ่วซิ่น ก่อนจะเอ่ยกระซิบข้างหู “อยากตรงนี้ได้หรือไม่” พลางยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อสบตากับภรรยา“อยากอะไรของท่าน” ว่านจิ่วซิ่นมองค้อน เขาไม่เห็นหรือว่าที่ตรงนี้โล่งแจ้ง มีทั้งจินโม่ จินเป่
ว่านจิ่วซิ่นรัวลิ้นบนยอดอกของหวู่ไฉตง แล้วชักมือขึ้นลงเร็วถี่ ไม่นานของเหลวอุ่นร้อนก็พ่นออกมาเต็มฝ่ามือของนาง พร้อมกับเสียงครางที่ฟังแล้วทำให้ว่านจิ่วซิ่นรู้สึกขนลุกขนพอง “ชอบไหม” นางเอ่ยถามหวู่ไฉตงใบหน้าแดงระเรื่อ ไม่คิดไม่ฝันว่าเวลาตนเองมีอารมณ์ราคะ จะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนได้ช่ำชองเพียงนี้“ชอบมาก อาซิ่นข้ารักเจ้านะ” หวู่ไฉตงบอกรัก ก่อนจะอุ้มร่างบอบบางของว่านจิ่วซิ่นไปวางที่เตียง เมื่อครู่นางจัดการเขาจนอ่อนระทวยบนพื้น ครั้งนี้เขาขอเป็นฝ่ายให้ความสุขกับนางบ้าง แต่จะทำบนพื้นไม่ได้หวู่ไฉตงปลดสายคาดเอวว่านจิ่วซิ่นออก แล้วเริ่มจุมพิตบดขยี้ริมฝีปากนางอย่างเร่าร้อน เขาอดทนอดกลั้นมานานเกินไปจึงกินนางราวกับเสือที่หิวโหยว่านจิ่วซิ่นมิได้ขัดขืน นางจูบตอบอย่างร้อนแรงไม่แพ้กัน ในห้องเต็มไปด้วยเสียงหอบเหนื่อย เสียงกระแทก และเสียงครางจินโม่และจินเป่า เลี้ยงคุณหนูน้อยผ่านมาทางห้องนายท่าน เมื่อได้ยินเสียงที่เรียกความสนใจของคุณหนู ก็รีบพาคุณหนูไปเล่นกับเสด็จยายและเสด็จลุง พวกเขาทั้งสองดีใจยิ่ง ที่นายท่านเอาชนะใจฮูหยินสักทีโจวกังเต๋อยังเสียวสันหลังไม่หาย ตอนเห็นว่านจิ่วซิ่นมองนางคณิกาด้วยสายตาเย็นเยีย







