Share

22

Penulis: Scince
last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-17 11:54:19

หลังจากที่หลี่เล่อเยียนวิ่งกลับมาถึงบ้านก็เจอเข้ากับฟ่านเหมยเหมยที่กำลังจะใช้ครัวพอดี จึงเดินกลับไปยังห้องนอน แล้วนำซี่โครงผัดเปรี้ยวหวานที่เหลือสำหรับตัวเองออกมา

" อ่ะเอาไป วันนี้ฉันขอใช้ครัวห้ามรบกวนเด็ดขาด " ฟ่านเหมยเหมยมองเนื้อในจานตาค้าง วันนี้ช่างเป็นลาภปากของเธอจริง ๆ เชียว

" อะไรกัน ครัวนี้ไม่ใช่ของเธอเพียงคนเดียวนะ " ฟ่านเหมยเหมยยังคงเล่นลิ้น ด้วยต้องการในปริมาณที่มากกว่านี้อีกสักหน่อย เพราะเธอต้องนำไปแบ่งฮุ่ยหลินด้วย

" จะกินไม่กิน ไม่กินก็เอาคืนมา " หลี่เล่อเยียนไม่ต่อปากต่อคำ เธอรอให้ฟ่านเหมยเหมยใช้ครัวเสร็จก่อนก็ได้ คงใช้เวลาทำไม่นานนักหรอก อย่างมากหล่อนก็คงจะทำแป้งจี่แล้วก็ผักต้มไม่ก็ผักย่างเพียงเท่านั้น

" ก็ได้ ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเธอตามสบายเลย ฉันไม่กวนเธอแล้วล่ะ"

เดิมทีฟ่านเหมยเหมยกะจะไม่ยอม แต่เนื้ออยู่ตรงหน้ามีหรือจะปฏิเสธได้ ตลอดทางหลี่เล่อเยียนขบคิดกับตัวเองว่า จะทำขนมอะไรไปสู้กับขนมขึ้นชื่อของเว่ยอี้หยาง แต่แล้วก็คิดออกของแปลกและหายาก

จะว่าไปสิ่งที่เธอทำไม่ได้แปลกใหม่หากแต่ว่าเวลานี้เกรงว่าทั้งเมืองในเวลานี้คงจะหายากสักหน่อยแล้วล่ะ

หลี่เล่อเยียนทำทีเป็นเข้าไปเอาของออกมาจากห้องพักของตัวเอง แต่ที่จริงแล้วเธอหยิบของออกมาจากมิติ เธอหยิบมาในปริมาณที่จำกัด เพราะครั้งนี้จะทำเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็แค่สินค้าตัวอย่าง

‘ ขนมโก๋ดอกกุ้ยฮวา’

ดอกกุ้ยฮวาจริง ๆ หาได้ทั่วไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เนื่องจากมีกลิ่นหอม แต่ช่วงที่จะออกดอกจริง ๆ นั้น เป็นช่วงของฤดูหนาว ซึ่งหน้านี้เป็นฤดูใบไม้ผลิจึงหาได้ยาก จะมีเพียงแต่บ้านของคนที่ชอบชาดอกกุ้ยฮวาเพียงเท่านั้น โชคดีที่ หลี่เล่อเยียนมีชานี้ติดห้องตลอด เธอจึงนำเอาใส่ในมิติเก็บไว้ด้วย

หลี่เล่อเยียนเริ่มจากการทำ น้ำกุ้ยฮวาก่อน เธอทำการต้มน้ำให้เดือดใส่ดอกกุ้ยฮวาแห้ง จากนั้นจึงกรองเอาเฉพาะน้ำส่วนดอกกุ้ยฮวานั้นเธอยังคงเก็บไว้อยู่

แป้งขนมโก๋ ส่วนผสมก็จะมีแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลไอซิ่ง และน้ำอุ่นของดอกกุ้ยฮวา หลี่เล่อเยียนทำการผสมแป้งทั้งสองเข้าด้วยกัน เธอค่อยๆ เทน้ำกุ้ยฮวาลงในแป้งสลับกับคลุกเคล้ากันจนน้ำในแป้งหมด จากนั้นลงมือขยี้แป้งจนเป็นผง ทำการกำแป้งเมื่อแป้งจับกันเป็นก้อนเธอจึงหยุด

เมื่อทำแป้งเสร็จจึงลงมือทำไส้งาขาวต่อ เล่อเยียนนำงาขาวมาคั่วสุกแล้วนำไปบดละเอียดเติมน้ำตาลทรายลงไป เพื่อเพิ่มรสชาตินำแป้งขนมโก๋ลงไปผสมเล็กน้อย ใส่น้ำเกลือแล้วขยี้จนเข้ากัน

เธอใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการเตรียมส่วนผสมต่าง ๆ  จากนั้นเล่อเยียนแบ่งแป้งเป็น 2 ชั้น เธอทำการเทแป้งลงในถาดที่เตรียมไว้ เกลี่ยแป้งให้เรียบเสมอกัน ชั้นที่ 2 จะเป็นส่วนผสมของงาขาวคั่วที่ทำไว้ก่อนหน้า จากนั้นลงแป้งขนมโก๋ชั้นบนสุด ตามด้วยดอกกุ้ยฮวาที่นำไปต้มในขั้นตอนแรกโรยหน้าลงไป

ขั้นตอนการนึ่งค่อนข้างสำคัญ เพราะต้องคอยควบคุมไฟไม่ให้เบาหรือไฟแรงจนเกินไป หลี่เล่อเยียนใช้ผ้าขาวบางคลุมหน้าขนม ป้องกันน้ำหยดใส่หน้าของขนม เธอนั่งคุมไฟในครัวเป็นเวลา 45 นาที

ทางด้านของคนในบ้านนั้นได้กลิ่นหอมของดอกกุ้ยฮวาตั้งแต่หลี่เล่อเยียนต้มน้ำของดอกกุ้ยฮวาแล้ว แต่กลิ่นมันหอมรุนแรงขึ้นก็เป็นตอนที่เธอนั้นนำขนมไปนึ่ง ดอกกุ้ยฮวาหรือชื่อเรียกของมันอีกอย่างหนึ่งคือหอมหมื่นลี้ซึ่งมันหอมจริง ๆ

" หลี่เล่อเยียน เธอทำอะไรทำไมถึงได้หอมขนาดนี้ ฉันไม่สามารถที่จะข่มตาหลับลงได้แล้ว " ฟ่านเหมยเหมยโผล่มาจากห้องพักของตัวเอง

" ใช่ๆ หอมมาก ๆ เลย เธอต้องรับผิดชอบ " ฟู่หลินฮุ่ยพูดขึ้นบ้าง เธออยากจะลิ้มรสชาติของขนมนั้นจะแย่แล้ว

คนเห็นแก่ตัวยังไงก็คือคนเห็นแก่ตัว เมื่อช่วงค่ำตนแบ่งซี่โครงให้เพื่อที่จะได้ใช้ครัว โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหากับใคร มาคราวนี้จะให้เธอรับผิดชอบเพราะกลิ่นหอมของขนมเนี่ยนะ

" ฉันคงต้องขอโทษด้วยที่กลิ่นหอมของขนมไปทำให้พวกเธอนอนไม่หลับ แต่ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาของฉันที่จะต้องรับผิดชอบ ถ้าอย่างนั้นกลิ่นปากที่ส่งกลิ่นเหม็นนี้ของพวกเธอจะรับผิดชอบอย่างไรดี ตอนนี้ฉันรู้สึกเวียนหัวกับกลิ่นของมันมาก " หลี่เล่อเยียนที่ร้อนกับการนั่งเฝ้าหน้าเตาเพื่อคุมอุณหภูมิของไฟ เกิดมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง เธอไม่ได้ใจดีตลอดหรอกนะ

" นี่ เธอ....ว่าแรงเกินไปหรือเปล่า พวกเราก็แค่อยากจะขอชิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น " ฟู่ฮุ่ยหลินที่รู้สึกอายและไม่มั่นใจในกลิ่นปากของตัวเองจึงได้แต่พูดเสียงอ่อยราวกระซิบ

" ไม่มีให้ใครทั้งนั้น ถ้าอยากกินก็จ่ายเงินมา ชิ้นละ 1 หยวน "หลี่เล่อเยียนพูดเสียงแข็งขึ้น เธอไม่ได้ตั้งใจจะขายอยู่แล้ว จึงโก่งราคาแสนแพงนี้ออกไป

" ไม่กินก็ได้ ขนมเธอวิเศษมาจากไหนถึงขายชิ้นละตั้ง 1 หยวน เฮอะ 1 หยวนซื้อบะหมี่ได้ตั้งกี่ชาม " ยังไม่ทันที่ฟ่านเหมยเหมยจะพูดจบ หลี่เล่อเยียนก็เดินกลับห้องไปแล้ว

" นี่หลี่เล่อเยียน ฉันยังพูดไม่จบ หล่อนกล้าเดินหนีหรือ กลับมาเดี๋ยวนี้นะยัย ยัย.... " ฟ่านเหมยเหมยคิดถึงแต่ขนมโก๋สีขาวนวลชิ้นนั้น หล่อนทำชิ้นใหญ่เบ้อเริ่ม ถ้าหั่นแบ่งให้เธอชิมสักหน่อยก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ ทำไมถึงได้แล้งน้ำใจเช่นนี้

" เล่อเยียนเธอไปส่งป้าเว่ยมาไม่ใช่หรือ แล้วนึกอย่างไรถึงลุกขึ้นมาทำขนมกลางดึกได้" กว่าจะทำขนมเสร็จก็เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว ปกติสองทุ่มทุกคนก็เข้านอนกันหมดแล้ว เวลานี้จึงถือว่าดึกพอสมควร

" วันนี้ฉันบังเอิญไปเจอเข้ากับลูกชายของป้าเว่ย ตัวเขาทำงานในโรงงานในเมือง ฉันเลยตั้งใจจะทำขนมไปฝากขายบ้าง เผื่อมีคนสนใจสั่งซื้อ" หลี่เล่อเยียนไม่ได้ปิดบังเหอหมี่เมี่ยนและหม่ายวี่ไท่ที่เดินตามเข้ามาในห้องนอนด้วย เพราะต่อไปหากมีคนสนใจจริง ๆ เธอคงจะทำคนเดียวไม่ไหวแน่ ๆ

" ก็ดีหนะสิ แต่เธอต้องระวังสองคนนั้นหน่อยนะ ถ้าเกิดรู้เรื่องเข้าแล้วเอาไปฟ้องคณะกรรมคงแย่แน่" หม่ายวี่ไท่เอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง

" เรื่องนั้นช่างมันก่อนเอาไว้ทีหลังเถอะ มีคนสั่งค่อยมาคิดหาวิธีกันอีกที ตอนนี้แยกย้ายกันไปนอนก่อนเถอะ เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว" หลี่เล่อเยียนหมดแรงจะคิดอะไรแล้วล่ะ วันนี้เธอเหนื่อยมากจริง ๆ นั่นแหละ ทั้งวิ่งขายของไหนจะทำขนมนี่อีกพักเอาแรงพรุ่งนี้ขอให้เธอตื่นให้ทันเว่ยอี้หยางก็พอ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   42

    ใกล้ถึงกำหนดส่งขนมตามที่นัดกันเอาไว้แล้ว ทั้งสามคนเริ่มตามแผนการคือ เล่อเยียนแกล้งป่วยขอลางาน หมี่เมี่ยนขอลาด้วยให้เหตุผลว่าไม่มีคนดูแลเล่อเยียน ส่วนหม่ายวี่ไท่ลากเหมยเหมยและฮุ่ยหลินออกจากบ้านพักตั้งแต่เช้า ก่อนที่เสียงระฆังจะเตือนให้ลงพื้นที่ด้วยซ้ำจากนั้นเล่อเยียนเริ่มขนอุปกรณ์ รวมถึงวัตถุดิบออกมาจากห้อง พร้อมทั้งบอกหมี่เมี่ยนว่าซื้อมาตั้งแต่ติดเกวียนของลุงในหมู่บ้านเข้าเมือง หมี่เมี่ยนถามเล่อเยียนว่าไม่กลัวเธอจะขโมยสูตรไปทำขายบ้างหรือ" ถ้าเธออยากทำขายฉันก็ไม่ขัดหรอก ขอแค่อย่าแย่งลูกค้ากันก็พอ " แต่ความจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ หมี่เมี่ยนจะทำขายได้ เพราะทุกอย่างต้องใช้เงินลงทุน อาศัยเพียงแค่สูตรอย่างเดียวไม่มีทางเป็นไปได้ทั้งสองช่วยกันอย่างขยันขันแข็ง กลิ่นของขนมโก๋ช่างหอมยั่วยวนเหลือเกิน กลิ่นมันหอมไปทั่วบริเวณบ้าน เพราะพวกเธอทำในปริมาณที่มาก วันแรกผ่านไปด้วยดีทั้งสองคนช่วยกันทำจัดขนมใส่กล่องเวลาในการทำขนมแต่ละครั้งใช้เวลานึ่งประมาณ 45 นาที นึ่งครั้งหนึ่งได้ประมาณครั้งละ 6 ชิ้น เมื่อนับแล้ววันนี้ทำขนมได้ทั้งหมด 50 กล่อง เป็นแบบนี้ทำไม่ทันแน่นอนเพราะเธอทำได้แค่เฉพาะกลางวันเพ

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   40

    เมื่อจัดการทุกอย่างที่บ้านหลี่เรียบร้อยแล้ว หยางหมิงเฉิงก็ต้องเข้ากรมแลกวันหยุดกับเพื่อน เพื่อที่จะเดินทางไปหาหลี่เล่อเยียนอีกครั้ง ครั้งนี้เขามั่นใจเต็มสิบส่วน ว่าคนที่เจอที่ร้านบะหมี่คือเธอแน่นอน แต่อาจจะต้องสืบอีกทีว่าเธออยู่ที่หมู่บ้านไหนเขาได้เรียนรู้แล้วว่าการที่เขาเงียบไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทุกอย่าง อย่างน้อยที่สุดตอนนี้พ่อของเล่อเยียนก็เข้าใจลูกสาวแล้ว และเสียใจกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดในครั้งนี้ หลี่ฮ่าวตูอาสาจะเป็นคนไปแทนเล่อเยียน แล้วให้น้องสาวของเขากลับมามีชีวิตที่ดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยว่าจะทำได้ส่วนสองแม่ลูกหนูนั้นก็ถูกคาดโทษ เพราะการกระทำของคนเป็นแม่ เธอสารภาพว่าแผนการทุกอย่าง เธอนั้นลงมือทำเองคนเดียว ลูกสาวอย่างหรูฟางเซียนนั้นไม่รู้เห็นเรื่องนี้กับเธอด้วยกล่าวตามที่แม่เลี้ยงหรูรับสารภาพ ว่าเธอทำเรื่องน่าอายในงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่ของ หยางหมิงเฉิงและซุยเถาหยวน ทั้งสองมาเลี้ยงฉลองที่บ้านของตระกูลหลี่ เพราะมีข่าวแว่วมาว่าทางการจะเกณฑ์พวกนักศึกษาจบใหม่ หรือที่กำลังเรียนอยู่นั้นไปเข้าค่ายชนบทห่างไกล เพื่อทำงานแลกแต้มค่าแรงว่ากันตามตรงคือคนที่เหมาะสมที่สุดคงหนีไม่พ้นหลี่

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   38

    " อืม ฉันจะไปคุยกับคุณลุงเอง " หยางหมิงเฉิงคิดตำหนิตัวเองที่ไม่ยอมทำอะไรให้ชัดเจน ปล่อยให้เรื่องราวเลวร้ายจนทำลายชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่งรอจนเวลาพลบค่ำ หลี่ฉินผู้เป็นพ่อของหลี่เล่อเยียนก็กลับมาถึงบ้าน ทันทีที่เขาเจอกับหยางหมิงเฉิงก็ตกใจไม่น้อยเพราะระหว่างเขาและหมิงเฉิงนั้นมีสัญญาใจกันอยู่ แต่จะให้เขาทำเช่นไรได้ล่ะ เพราะลูกสาวของตนเป็นคนไม่ดีเอง เขาผู้เป็นคนกลางจึงต้องให้ความยุติธรรมที่สุด" สวัสดีครับคุณลุง ไม่เจอกันนานสบายดีนะครับ " หยางหมิงเฉิงเป็นฝ่ายกล่าวทักทายผู้ใหญ่ก่อน พ่อของเล่อเยียนดูผอมลงเล็กน้อยเหมือนคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ" นั่งสิ กลับมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ " หลี่ฉินตั้งสติได้ก็เริ่มบทสนทนา ท่าทางสุขุมของเขาที่ต้องทำงานพบปะผู้คนมากมาย พอจะช่วยลดอาการประหม่า เวลาที่เจอกับผู้ชายตรงหน้าเขาได้ รังสีของชายชาติทหารมันแผ่ออกมาโดยที่หยางหมิงเฉิงนั้นไม่ต้องทำอะไรเพียงแค่นั่งเฉยๆ ก็ดูน่าเกรงขาม" ครับ พึ่งมาถึงเมื่อคืนผมเห็นว่าดึกแล้วน่ะครับเลยไม่ได้มาหาคุณลุงก่อน " หลี่ฉินพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะถอนหายใจแล้วเข้าเรื่อง" เธอไปแล้วล่ะ ฉันขอโทษที่ทำตามสัญญาไม่ได้ " หลี่ฉินเอามือประสานกั

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   37

    กล่าวถึงนายทหารหนุ่มที่ร้อนใจขออนุญาตผู้บังคับบัญชา มุ่งหน้ากลับสู่เมืองหลวงก่อนกำหนดเดิม โดยรายงานว่ามีเหตุจำเป็นสำคัญ นายทหารยศใหญ่เดิมทีชอบในฝีมือและผลงานของเขา อีกทั้งยังหมายตาให้เป็นว่าที่ลูกเขย จึงพยายามที่จะสนับสนุนเต็มที่ ครั้งนี้จึงไม่มีปัญหาในการขอลากิจด่วน อีกอย่างภารกิจก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ไม่มีอะไรน่ากังวลหยางหมิงเฉิงเดินทางโดยรถไฟ ถึงแม้ว่าการเดินทางจะยากลำบากไปบ้าง แต่เพื่อให้หายขับข้องใจถึงอย่างไรเขาต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในเมืองชนบทเขาพยายามตามหาเธอจนทั่วทุกที่ที่เขาคิดว่าเธอจะไป แม้กระทั่งในค่ายชนบทของเหล่าปัญญาชน เขาไม่แน่ใจว่าเธอจะอยู่ในค่ายนั้นหรือไม่ เพราะคิดว่าครอบครัวของเธออย่างไรก็คงไม่ปล่อยให้มาเป็นแน่เธอมีพี่ชายที่ทั้งรักและหวงแหนเธอดั่งแก้วตาดวงใจขนาดนั้น เขาจะทนให้เธอมาลำบากได้อย่างไรกัน แต่เขาคิดไม่ตกสำหรับผู้หญิงที่เจอที่ร้านบะหมี่ ทำไมเขาถึงไม่เดินไปหาเธอให้รู้เรื่องกันนะ ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงไม่ต้องมานั่งร้อนใจ เพราะเป็นห่วงเช่นนี้ระยะเวลา 3 วัน 3 คืน ที่เขานั้นเดินทางมา ในที่สุดก็ถึงปักกิ่ง แต่ขอบอกว่าเวลานี้นั้น ปักกิ่งไม่น่าอยู่เลยสักนิด ม

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   36

    อี้หยางที่นั่งนิ่งๆ ตักข้าวกินไปด้วยพร้อมกับสังเกตเล่อเยียนไปด้วย เขารู้สึกสงสารเธอจับใจ นี่มันแร้งลงโต๊ะกินข้าวหรืออย่างไรกัน ทำไมถึงเป็นกันได้เพียงนี้ ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัวของเขา นี่พวกเขาอดอยากกันมากถึงเพียงนี้เชียวหรือแม่เฒ่าเว่ยเก็บอาการโมโหไว้ในใจ ลำพังพวกบรรดาลูกสะใภ้หล่อนจัดการสั่งสอนทีหลังได้ แต่แม่หนูฟ่านเหมยเหมยนี่อะไรกัน หล่อนเป็นหมูมาเกิดหรืออย่างไร ทำไมถึงได้กินมูมมามเสียงดังเพียงนี้ ทั้งยังกินแต่จานเนื้อ ไม่สนใจใครเลยด้วยซ้ำ หนูเล่อเยียนรึหล่อนหยิบแต่จานผัก อาหารที่หล่อนนำมาเธอยังไม่เห็นว่าที่ลูกสะใภ้แตะมันเลยแม้แต่น้อย"นี่พวกเธอไปอดอยากจากที่ไหนมากัน ไม่อายแขกของฉันกับอี้หยางบ้างเลยหรืออย่างไร " สุดท้ายแม่เฒ่าเว่ยก็ทนไม่ไหว จำต้องแสดงด้านโหดออกมาให้เล่อเยียนเห็น" เหลือไว้ให้คนอื่นเขากินบ้าง อาหารในปากก็เคี้ยวให้หมดเสีย ก่อนที่มันจะติดคอเพราะยัดไม่เลือก" แม่เฒ่าเว่ยโมโหจนตัวสั่น อีกทั้งเธอยังว่ากระทบฟ่านเหมยเหมยอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่กล้าว่าต่อหน้าก็ตาม" ไม่เป็นไรค่ะ ทุกคนกินกันเลยค่ะ ฉันไม่ค่อยชอบเนื้อเท่าไหร่ " หลี่เล่อเยียนตอบออกมายิ้มแบบฝืนๆ ใจจริงเธออยากจะบอ

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   35

    เมื่อไปถึงบ้านเว่ย แม่เฒ่าเว่ยก็ออกมารอต้อนรับอยู่ที่หน้าบ้านแล้ว วันนี้เธอจะต้องได้กินข้าวร่วมโต๊ะกับว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้ให้ได้เธอให้ลูกสะใภ้ทั้งสองเตรียมอาหารเนื้อชุดใหญ่ เพราะลูกชายเธอเป็นคนซื้อเนื้อมาเอง ถึงแม้ว่าเว่ยอี้หยางจะยังไม่แยกบ้าน แต่เขาก็พอมีเงินเก็บส่วนตัวบ้าง ไม่ได้ส่งให้แม่ไปจนหมดเผื่อกรณีฉุกเฉินจะได้ไม่ลำบากเมื่อทั้งสามคนไปถึง อาหารก็ขึ้นโต๊ะพร้อมกินได้แล้วสมาชิกบ้านเว่ยมีทั้งหมด 10 คน ผู้ใหญ่ 7 คน เมื่อหลี่เล่อเยียนและฟ่านเหมยเหมยมาร่วมกินด้วย เด็ก ๆ จึงแยกโต๊ะ รวมถึงลูกสาวคนเล็กคนเดียวของบ้านเว่ยด้วย แม้ว่าเธอจะมีอายุเท่ากับเล่อเยียนก็ตาม" กับข้าววันนี้พี่เขาซื้อมาจากในเมือง หนูเล่อเยียนกินให้อร่อยนะจ๊ะ""จริงสิแล้วนี่ใครกันหรือ ป้าเหมือนจะเคยเห็นหน้า แต่ไม่รู้จักชื่อเพื่อนของหนูเล่อเยียนเองหรอกหรือจ๊ะ" แม่เฒ่าเว่ยว่าจะถามตั้งแต่เข้ามาในบ้าน แต่ก็มัวลืมรีบพาเล่อเยียนไปนั่งที่โต๊ะอาหาร กลัวว่าหล่อนจะลุกวิ่งหนีไปอีกเหมือนกับครั้งที่ผ่านมา"หนูชื่อฟ่านเหมยเหมย เป็นเพื่อนของเล่อเยียนค่ะคุณป้า เอ่อ..พอดีหนูมาเป็นเพื่อนเธอน่ะค่ะ ให้เล่อเยียนมาคนเดียวเห็นจะดูไม่เหมาะสัก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status