แชร์

บทที่ 27 ส่งน้ำแกงไปให้นาง

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-21 09:50:53

บทที่ 27

ส่งน้ำแกงไปให้นาง

            “นั่นคุณชายน้อยหรือเจ้าคะ จะเหมือนกับคุณชายใหญ่ของเราหรือไม่นะ ขอบ่าวดูหน้าคุณชายน้อยให้ชัดๆ ได้หรือไม่เจ้าคะ”

            ในอดีต ฉินหรูไม่มีกำลังมากพอจะปกป้องตัวเองและลูก แต่ตอนนี้านะของนางไม่เดิม แล้วยังจะกลัวอะไรเล่า

            พอตระหนักเช่นนั้น ฉินหรูเชิดหน้าด้วยความมั่นใจ ก่อนหมุนตัวหันกลับมาเผชิญกับไฉ่ไฉ่

            กระนั้น ซินเหมียวตอบสนองไวกว่า ฝ่ายนั้นก้าวขึ้นมาขวางหน้าเหมือนต้องการปกป้องฉินหรูกับอาเหยา ทั้งยังถามไฉ่ไฉ่ว่า “เจ้าเป็นใคร!”

            ไฉ่ไฉ่กวาดตามองซินเหมียวรอบหนึ่ง “การแต่งตัวของแม่นาง เห็นทีคงไม่ใช่บ่าว หากเผลอล่วงเกินพวกท่านทั้งสองต้องขออภัยด้วย”

            แม้กล่าวเช่นนั้น แต่สายตาของไฉ่ไฉ่ไม่ได้แสดงออกถึงความเคารพสักนิด

            “บ่าวมีนามว่าไฉ่ไฉ่ ทำงานข้างฮูหยินใหญ่ตระกูลเสิ่นเจ้าค่ะ”

            “บ้านเสิ่น?” ซินเหมียวทวนคำด้วยสีหน้ายียวน “ไม่ทราบว่า บ่าวจากบ้านเสิ่นมาที่นี่ทำไม”

            “ฮูหยินของบ่าวเห็นว่าคุณชายใหญ่กลับมาที่เมืองฉางแล้ว แต่ไม่ยอมไปเยี่ยมบ้าน เลยอยากพบหน้าคุณชายใหญ่สักหน่อยจึงให้บ่าวมาบอกเจ้าค่ะ”

            “อ๋อหรือ” ฉินหรูทำหน้าประหลาดใจ “ถ้าจำไม่ผิด คุณชายใหญ่ของเจ้าตอนนี้คือเสิ่นเซียวอวี้ไม่ใช่หรือ เสิ่นหยางถูกตัดชื่อออกจากวงศ์ตระกูล ตอนนี้ปลี่ยนมาใช้แซ่เฟิง ไม่นับว่าเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่น พวกเจ้าเข้าใจอะไรผิดไปหรือไม่?”

            คิดแล้วเชียวว่าต้องมาไม้นี้ ไฉ่ไฉ่คิดอย่างย่ามใจ จากนั้นก็กล่าวตามคำพูดที่ฮูหยินหนิงลี่เสี้ยมสอนมา 

            “ถึงคุณชายใหญ่เสิ่นหยางจะเปลี่ยนแซ่แล้ว แต่ก็ยังเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนายท่าน สายเลือดย่อมตัดไม่ขาดเจ้าค่ะ”

            “เจ้าเรียกชื่อสามีข้าผิดแล้ว เขาไม่ใช่ ‘เสิ่นหยาง’ แต่เป็น ‘เฟิงหยาง’ ไหนลองเรียกใหม่สิ”

            “เจ้าคะ?” ไฉ่ไฉ่ขมวดคิ้วถาม สีหน้าบอกบุญไม่รับ

            ฉินหรูฉีกยิ้มแล้วย้ำว่า “ข้าบอกให้เรียกชื่อเขาใหม่ ไม่อย่างนั้น ข้าจจะคิดว่าเจ้าหมายถึงคนอื่น”

            ฉินหรูไม่เพียงกล้าต่อปากต่อคำ ยังวางท่าอวดดี พอเห็นแบบนี้ มือของไฉ่ไฉ่ที่ประสานตรงเอวกำเป็นหมัดแน่น ก่อนจะเรียกชื่อชายหนุ่มใหม่ด้วยสีหน้าจำยอม “คุณชายใหญ่ ‘เฟิงหยาง’ เจ้าค่ะ”

            คิกๆ

            เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของซินเหมียวดังขึ้นทันที

            ไฉ่ไฉ่รู้สึกเสียหน้าจนเก็บอาการไม่อยู่ ถึงตรงนี้ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวแล้ว

            กระนั้น ซินเหมียวก็ยังยียวนต่อ ด้วยการพูดจาขับไล่อีกฝ่าย “เอาละ ฮูหยินของเราเข้าใจเรื่องที่เจ้ามาบอกแล้ว กลับไปเถอะ”

            “แล้ว...คุณชายใหญ่กับฮูหยินน้อยจะกลับไปเยี่ยมบ้านเสิ่นเมื่อไรหรือ” ไฉ่ไฉ่ถาม

            ฉินหรูทำทีเป็นครุ่นคิด สักครู่ก็พูดอย่างลังเลว่า “วันนี้ข้ากับท่านพี่ไม่ว่าง พรุ่งนี้ก็น่าจะไม่ว่างเหมือนกัน ส่วนวันมะรืนยังไม่แน่ใจ วันต่อๆ ไปก็ยังไม่รู้ เอาเป็นว่า เจ้ากลับไปบอกฮูหยินของเจ้า ท่านพี่ว่างเมื่อไร จะกลับไปทักทายแล้วกัน”

            “สรุปแล้วพวกท่านจะว่างเมื่อไรหรือเจ้าคะ” ไฉ่ไฉ่หลุดสีหน้าไม่พอใจ

            การที่บ่าวคนหนึ่งเซ้าซี้ถามเจ้านายเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะเสียมารยาท ยังถือเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติ

            ฉินหรูทำหน้าไร้อารมณ์ ส่ายหัวแล้วตอบ “ไม่รู้”

            “ไม่รู้? นี่...”

            ไฉ่ไฉ่เดือดดาลแล้ว

            ฉินหรูไม่เปิดฝ่ายนั้นพูดจบ นางกล่าวแทรกทันที

            “ถ้าเจ้าคับข้องใจเรื่องวันหยุดของสามีข้านัก เช่นนั้นก็ไปที่ค่ายทหาร ถามกับเขาเองเองเสียเลยสิ” 

            ตอนนี้ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เสิ่นหยางอ่อนแอคนเดิม แต่เป็นถึงแม่ทัพเฟิงหยาง ต่อให้ไฉ่ไฉ่เป็นบ่าวของฮูหยินของนายท่าน แต่ใครจะกล้าไปถามกับเจ้าตัวตรงๆ กันเล่า

            ทั้งรู้สึกเสียหน้าอย่างรุนแรง ทั้งเหมือนกำลังถูกข่มขู่ ไฉ่ไฉ่กัดฟันจำใจตอบกลับว่า “เจ้าค่ะ เช่นนั้นบ่าวขอตัวก่อน” พูดจบ นางหมุนตัวเดินกลับไปทันที

            ฉินหรูกรอกตาส่ายหน้า ก่อนจะบอกซินเหมียวว่าเข้าบ้านกันดีกว่า

            ทั้งที่ไฉ่ไฉ่เป็นบ่าว แต่สายตาที่มองฉินหรูทั้งดูแคลนและเหยียดหยาม ราวกับว่าฉินหรูไม่ใช่ฮูหยินน้อยของบ้านหลังนั้น

            พอสามีของนางถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร นางก็ยิ่งถูกบ่าวตัวแสบกับแม่เลี้ยงใจยักษ์กดขี่ข่มเหง

            ในตอนนั้น ฉินหรูไม่มีกำลังพอจะสู้กลับ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน นางมีเฟิงหยางหนุนหลัง ทั้งยังรู้ความลับในบ้านเสิ่น เพราะไป๋เหิงกับเสี่ยวจินช่วยกันสืบข่าวมาให้

            ถึงคราวที่จะคิดบัญชีแล้ว

            หลังจากนั้น

            บ้านเสิ่น

            พอหนิงลี่ได้ฟังเรื่องราวจากไฉ่ไฉ่ สีหน้าของนางเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำด้วยความโกรธ

            “นางโง่นั่น พูดแบบนี้จริงหรือ”

            “จริงเจ้าค่ะ”

            ไฉ่ไฉ่โกรธ ไม่คิดว่านางบ้านนอกอ่อนแอคนนั้นจะกล้าเล่นลิ้น ต่อปากต่อคำ ทั้งที่เมื่อก่อนมักจะกลัวจนหงอ และคอยประจบสอพลอฮูหยินใหญ่แท้ๆ 

            “คิดอยู่แล้ว เพราะสามีเป็นถึงแม่ทัพ นางนั่นต้องได้ใจจนเหลิง เหมือนตอนที่นางตั้งท้องลูกของเสิ่นหยาง คงคิดว่าพอมีหลานคนแรกให้ตระกูลเสิ่น แล้วข้ากับนายท่านจะเอ็นดู ก็เลยทำตัวหลงระเริง แต่นางน่ะโง่ เป็นแม่ทัพแล้วอย่างไร เปลี่ยนแล้วอย่างไร เพราะสายเลือดตัดไม่ขาด!” หนิงลี่พูดฉอดๆ

            “จริงเจ้าค่ะ ฮูหยิน นางกำยังหลงระเริงเลยไม่รู้ตัวว่าทำเรื่องโง่ๆ เสียแล้ว”

            “ในเมื่อนางกล้าอวดดีกับข้า ข้าก็ต้องเตือนนางสักหน่อย”

            “อย่างไรหรือเจ้าคะ”

            “ลูกเลี้ยงข้ากลับมาจากสนามรบทั้งที สามีภรรยารักใคร่กันดีขนาดนี้ ช่วงนี้นางคงไม่ค่อยได้พักผ่อน เช่นนั้นก็ส่งน้ำแกงไปบำรุงนางสักหน่อย”

            “เจ้าค่ะ”

            สองนายบ่าวกระดกยิ้มชั่วร้าย

            พูดถึงน้ำแกง สี่ปีก่อน สองนายบ่าวจับฉินหรูกรอกน้ำแกงทำแท้ง

            ใครจะคิดว่า เด็กในท้องนางจะหัวแข็ง คลอดออกเป็นเด็กแข็งแรงเสียอย่างนั้น

            แม้ว่าเด็กจะรอดชีวิต แต่ก็ถือว่าได้สั่งสอนให้เฟิงหยางกับฉินหรูรู้ว่าชีวิตของพวกเขาอยู่ในกำมือใคร

            หากนางบ้านนอกนั่นเห็นน้ำแกง จะได้สำเนียงถึงฐานะตัวเอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทพิเศษ มิตรภาพ

    บทพิเศษมิตรภาพ หลังจากเฟิงหยางออกบ้านไปได้สักพัก เสี่ยวจินกับไป๋เหิงก็มาเยือน หญิงสาวทั้งสามยังคงสนิทสนมกันดี แม้ภายหลังต่างแยกย้ายไปมีเส้นทางของตนเอง แต่พวกนางมักมารวมตัวกันบ้านเฟิงบ่อยๆ ไป๋เหิงกับคุณชายใหญ่เซวียเยี่ยนจื่อ คุยกำหนดการและวันแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เห็นว่าพธีแต่งงานจะจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า เสี่ยวจินลงเอยกับเฉินต้านเมื่อไม่นานมานี้ แม้ไม่ได้จัดงานแต่งงานใหญ่โตเหมือนกับไป๋เหิง แต่อย่างน้อย นางได้กราบไหว้ฟ้าดินและทำพิธีคารวะญาติผู้ใหญ่ “เสี่ยวหรู สามีเจ้าเพิ่งออกไปค่ายทหารหรือ ระหว่างทางพวกข้าเห็นเขาควบม้าออกไปพอดี นี่ๆ เจ้ากับสามีหักโหมเกินไปหรือไม่ ทำเขาไปสายแล้ว” เสี่ยวจินเปิดประเด็น ท้ายประโยคยังแซวสหายพลางหัวเราะคิก “ใช่ๆ ไปค่ายเวลานี้ ไม่นับว่าสายไปหรือ” ไป๋เหิงยิ้มแย้ม เอ่อออกับเสี่ยวจิน ฉินหรูแกล้งทำหน้ามุ่ย โบกมือแล้วกล่าวตัดบทพวกนางทั้งสอง “ช่างเรื่องของสามีเถอะ ข้าสนใจเรื่องของพวกพี่สาวมากกว่า พี่เสี่ยวจิน วันนี้ปักปิ่นมาสวยเชียว ไม่คิดเลยว่าเฉินต้านจะเป็นสามีที่เอาอกเอ

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทพิเศษ เป็นวันที่ดี

    บทพิเศษเป็นวันที่ดี รุ่งอรุณมาเยือน แสงอาทิตย์สีทองทอประกายเข้ามาทางหน้าต่าง ทันทีที่เฟิงหยางลืมตาตื่นขึ้น พลันพลิกตัวนอนตะแคง มุมปากยกยิ้มขณะมองภรรยาที่ยังหลับใหลบนที่นอน เมื่อคืนเขาคงรังแกนางมากไปหน่อย ทำให้นางอ่อนเพลียต้องตื่นสายแล้ว คิดจบ เฟิงหยางก็ยื่นมือออกไปลูบไล้แก้มเนียนของภรรยาแผ่วเบา ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด เขารู้สึกถึงความสุขและอุ่นหัวใจเมื่อเห็นว่านางยังอยู่เคียงข้าง ครู่ต่อมา ขนตาหนาเป็นแพรของหญิงสาวขยับไหวราวกับปีกผีเสื้อ ก่อนดวงตาคู่สวยจะเปิดปรือขึ้น ฉินหรูค่อยๆ ลืมตาตื่น ทันใดนั้นก็เห็นว่าสามีกำลังยิ้มมองนางอยู่ ริมฝีปากของนางพลันคลี่ยิ้มให้เขาด้วยความอ่อนเพลีย ขณะเดียวกัน ดวงตาคู่สวยก็เต็มไปด้วยความรักที่ไม่มีวันหมด “ท่านพี่...” ริมฝีปากของฉินหรูขยับเรียกสามีแผ่วเบา “ข้าทำเจ้าตื่นหรือ” แม้เฟิงหยางจะถามเช่นนั้น หากนิ้วมือกลับเลื่อนลงมาลูบไล้กลีบปากอิ่มสวย ราวกับไม่อาจหักห้ามใจให้ปล่อยมือจากนาง “ปกติข้าตื่นเช้ากว่

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทพิเศษ อุ่นรัก(อีกครั้ง)

    บทพิเศษอุ่นรัก(อีกครั้ง) กลิ่นอาหารที่กำลังปรุงใหม่ๆ ลอยมาจากโต๊ะกลางห้อง กลิ่นนั้นหอมมาก ทั้งยังทำให้กระเพาะของเฟิงหยางถึงกับร้องระงม ตั้งแต่รับนางกับลูกกลับมาอยู่ด้วยกัน ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม้นานๆ ครั้งนางจะเข้าครัวสักที แต่เฟิงหยางย่อมรู้ถึงความอร่อยในรสมือของฉินหรู นอกจากนี้ยังทำให้เขาคลั่งไคล้อย่างที่สุด เช้านี้เฟิงหยางครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษ เพราะไม่มีเรื่องใดให้เขาต้องปวดหัวหรือเป็นกังวลอีกแล้ว เหนืออื่นใด คนงามของเขาเป็นยอดภรรยาหาผู้ใดเทียบไม่ได้ หัวใจเขามอบให้นางไปจนหมดสิ้น สิ่งที่ทั้งคู่ยังขาดคือการเติมความหวานละมุนละไมให้แก่กัน อีกอย่างหนึ่ง ช่วงนี้อาเหยาอ้อนไปอยู่บ้านท่านตาเพราะกำลังเห่อน้องสาว นับว่าทางสะดวก! หลังจากจบคดีความของเสิ่นเทา ผ่านมาแล้วสองเดือน เขากับนางไม่ได้ร่วมเตียงกันอีกเลย เขาเองก็เป็นบุรุษ ย่อมมีความใคร่ อยากกอดภรรยาใจจะขาดอยู่รอมร่อ ตั้งแต่กลับมาอยู่ด้วยกัน เขาเพิ่งจะกอดนางไปแค่คืนเดียวก็ตอนที่อาเหยาไปอยู่กับท่านตาท่านยาย! เวลานี้ เฟิงหยางกำลังแช่ตัวอยู่ใน

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทที่ 45 บทสรุป

    บทที่ 45บทสรุป ย้อนกลับมา ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองฉาง หลังจากหัวหน้ามือปราบยกหีบเก็บเงิน เอกสารรายรับรายจ่ายและสมุดรายชื่อเข้ามาในที่ว่าการ เสิ่นเทาก็ทรุดลงกับพื้นทันที คร่ำครวญว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ หีบเงินและสมุดรายชื่อเหล่านี้เป็นของผู้อื่น ตนถูกคนใส่ความ แน่นอนว่า คำพูดของเสิ่นเทาโกหกอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่หัวหน้ามือปราบไปยังห้องลับนั้น หนิงลี่กำลังสั่งให้พวกบ่าวขนย้ายข้าวของออกไปพอดี เรียกได้ว่าจับได้แบบคาหนังคาเขา ในเมื่อหลักฐานแน่นหนาถึงเพียงนี้ เหล่าขุนนางกังฉินยังประทับลายนิ้วมือ สารภาพผิดกันหมดแล้ว เสิ่นเทาก็ไร้หนทางรอดเช่นกัน วันต่อมา เสิ่นเทายอมรับสารภาพ ทั้งยังขอร้องให้ละเว้นชีวิตของเสิ่นเซียวอวี้และหลานที่กำลังจะคลอด นายอำเภอเซวียไม่ได้ตอบทันที แต่ใช้เวลาพิจารณคดีสองวันสองคืน ในที่สุด การตัดสินคดีก็ถูกติดบนป้ายประกาศ ขุนนางกังฉินและเสิ่นเทาเกี่ยวข้องกับคดีมากมาย ทั้งคดีฆาตกรรมทั้งหาเงินมาอย่างมิชอบ ได้รับโทษประหารในอีกเจ็ดวันให้หลัง เสิ่นเซียวอวี้ผู้เป็น

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทที่ 44 ชะตากรรมของบ้านเสิ่น

    บทที่ 44ชะตากรรมของบ้านเสิ่น ตั้งแต่เสิ่นเทาถูกทางการเรียกตัว หนิงลี่ร้อนรนเหมือนไฟลนก้น เรียกทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถง หารือว่าจะช่วยเสิ่นเทาอย่างไร เพียงไม่นาน เสิ่นเซียวอวี้กับจางเหมยเหมยก็มาถึง พ่อบ้านเสิ่นกับไฉ่ไฉ่มารอก่อนแล้ว จึงไม่ต้องเสียเวลานาน หนิงลี่นั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินกลับไปกลับมาพลางว่า “สามีข้าถูกทางการเรียกตัว ไต่สวนคดีปล่อยกู้และติดสินบน พวกเจ้าช่วยคิดหาวิธีช่วยเขาออกมาหน่อย” พ่อบ้านเสิ่นครุ่นคิด ก่อนจะเสนอให้ยัดเงินนายอำเภอเซวีย ไฉ่ไฉ่นั้นจนปัญญา ไม่มีความคิดดีๆ เนื่องจากยังตรอมใจที่คนรักทอดทิ้งนางไป ด้านจางเหมยเหมยกลุ้มใจยิ่งกว่า เป็นแค่สะใภ้ที่แต่งเข้า ไม่คิดว่าจะต้องมาติดร่างแหไปด้วย ทั้งยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ในขณะที่ทุกคนร้อนใจจะเป็นจะตายเรื่องที่เสิ่นเทาถูกจับ กลับมีเพียงคนคนเดียวที่ไม่ทุกข์ร้อน นั่งหัวเราะคิกคักราวกับเห็นเป็นเรื่องตลก คนคนนั้นก็คือเสิ่นเซียวอวี้! เสิ่นเซียวอวี้กวาดสายตามองสีหน้าเป็นทุกข์ของทุกคนในห้องโถง ชี้หน้าเรียงตัวพร้อ

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทที่ 43 ไต่สวน

    บทที่ 43ไต่สวน คดีขุนนางทุจริตเกี่ยวโยงกับคดีปล่อยกู้ของเสิ่นเทา นอกจากนี้ พบว่าวิธีการทวงหนี้ของเสิ่นเทานั้นยังโหดร้ายทารุณ ถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตไม่น้อย ในเมื่อมีผู้เสียชีวิตย่อมเป็นคดีฆาตกรรม แต่เสิ่นเทารอดพ้นความผิดมาได้เพราะความช่วยเหลือจากขุนนางกังฉิน อย่างไรก็ตาม การฆาตกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ย่อมมีหลักฐาน บัดนี้ หลักฐานและพยานบุคคลครบเรียบร้อย นายอำเภอเซวียจึงเรียกขุนนางกังฉินเหล่านั้นสอบสวนทีละคน สุดท้ายถึงค่อยเป็นเสิ่นเทา หลายวันต่อมา เสิ่นเทาถูกเรียกตัวมายังที่ว่าการอำเภอ จากนั้นผู้ช่วยนายอำเภออ่านสรุปสำนวนคดี เสิ่นเทาเบื้องหน้าทำธุรกิจค้าขาย แต่เบื้องหลังปล่อยกู้ มอบเงินสินบนแก่ขุนนาง และยังชุบเลี้ยงโจรกลุ่มหนึ่ง หากลูกหนี้ใช้หนี้คืนไม่ตรงตามกำหนด เสิ่นเทาจะใช้วิธีทวงเงินอย่างโหดเหี้ยมทารุณ กังขังหน่วงเหนี่ยว ทรมานจนถึงแก่ชีวิตก็มี ญาติของลูกหนี้ที่เป็นผู้หญิง จะถูกจับไปขายให้กับหอคณิกา อ้างว่าเพื่อขัดดอก... ทั้งที่เสิ่นเทาทำการอุกอาจ แต่ยังลอยนวลม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status